ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #78 : Demon Dance

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 64


    Demon Dance
    Playlist: milet – Who I Am (Shichinin no Hisho Theme Song)












    .

    ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องบ้านลูอิสเคยเป็นไปด้วยดี

    ทสึคุชิและไมสะคือน้องสาวคนกลางและคนเล็กที่ก็ต่างไม่ใช่บุตรสาวที่แท้ของพ่อกับแม่ที่เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของประเทศด้วยกันทั้งคู่ หากแต่เป็นหลานสาวซึ่งต้องสูญเสียผู้ให้กำเนิดไปในเหตุการณ์เครื่องบินตกตอนอายุสิบสอง จากนั้นนายและนางลูอิสก็รับเลี้ยงพวกเธอแทนไม่ต่างอะไรจากเลือดเนื้อเชื้อไข มอบทั้งชีวิตที่แสนจะสุขสบายและพี่ชายอายุมากกว่าสองปีที่คอยดูแลพวกเธอเป็นอย่างดีอย่างเจสซี่มาให้ ทุกๆ วันไม่ต่างอะไรจากสรวงสวรรค์ ทสึคุชิและไมสะที่อายุห่างกันแค่สิบเอ็ดเดือนติดหนึบกันมากทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ถึงเพิ่งจะได้แยกห้องเรียนกันเป็นครั้งแรกเมื่อขึ้นชั้นไฮสคูล จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทมากกว่าพี่น้อง หรืออย่างน้อยๆ ก็ตลอดสิบหกปีก่อนที่มันจะพังทลายลงไปในชั่วพริบตา

    นับตั้งแต่วินาทีที่ไมสะได้เห็นพี่สาวที่รักจูบกับผู้ชายที่เธอรักในห้องศิลปะยามเย็นเหมือนกับที่กำลังเป็นอยู่นี้ ริมฝีปากของเด็กหนุ่มมูราคามิ ราอูลที่เคยพร่ำบอกว่ารักเธอนักรักเธอหนา บัดนี้กลับแนบชิดอยู่กับเด็กผู้หญิงที่เธอเคยคิดว่าจะปกป้องจนกว่าจะตายจาก หากความรู้สึกที่เหมือนว่าตัวเธอเองกำลังจะตาย ณ ชั่ววินาทีนี้เลยต่างหากที่กลับปะทุขึ้นมาข้างในอกจนเธอไม่อาจอดรนทนได้ไหว ทั้งกรีดเสียงร้องลั่น ดึงทึ้งเส้นผมของตัวเองและจิกปลายเล็บยาวเข้ากับหนังศีรษะหวังกระชากมันออกมา เพื่อที่ความเจ็บปวดภายนอกจะแทนที่ความเจ็บปวดภายในที่เธอไม่สามารถกระทำต่อคนที่รักทั้งสองได้ น้ำตาของเธอไหลหลั่งลงมาอย่างไม่ขาดสายจนเบียดบังวิสัยทัศน์เบื้องหน้า แม้ในยามที่เพื่อนผู้ชายต่างห้องจะวิ่งเข้ามาช่วยกันจับแขนเธอที่ยังคงดิ้นเร่าไม่หยุด ถึงพวกเขาจะช่วยกันล็อกตัวเอาไว้อย่างสุดกำลังแล้วก็ตาม

    เหมือนกับตอนที่เธอไม่อาจห้ามเสียงสะอื้นไห้ตลอดช่วงเวลาที่อาจารย์ฟุคาซาวะช่วยพาไปทำแผลในห้องพยาบาลและขับรถพาไปส่งที่บ้าน โดยไม่พยายามถามไถ่เธอที่ไม่อยู่ในสภาพจะปริปากเล่า เพียงเอ่ยว่า “ถ้ามีอะไรก็ปรึกษาครูได้นะ” และสิ่งที่ไมสะทำได้ก็คือโค้งตัวลงจนสุด พยายามเค้นคำขอบคุณออกมาผ่านน้ำเสียงที่ขาดๆ หายๆ ให้กับอาจารย์ประจำชั้นที่ดีที่สุด

    ที่ไมสะเองก็อาจคาดหวังถึงสิ่งนั้นจากพี่ชายที่ดีที่สุด คนที่จะคอยปลอบเธอไม่ว่าจะเรื่องเล็กใหญ่แค่ไหน ไม่ใช่การยกมือขึ้นฟาดใบหน้าของเธอตั้งแต่ยังเดินไม่ทันพ้นห้องรับแขกเข้ามา ไมสะไม่เคยคิดมาก่อนว่าพี่ชายจะกระหน่ำเรี่ยวแรงลงมาได้ถึงเพียงนี้เมื่อรู้สึกถึงรสเลือดที่ไหลซึมจากตรงมุมปาก

    “แกทำเรื่องน่าขายหน้าแบบนั้นลงไปได้ยังไง!”

    “พี่...”

    “รู้ไหมว่าพรุ่งนี้ทุกคนที่โรงเรียนจะพูดถึงแกแบบไหน! แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนที่มีน้องเป็นบ้าอย่างนี้!”

    มือที่ยกขึ้นกุมใบหน้าของตัวเองถึงก่อนหน้านั้นเปลี่ยนไปเป็นกดจิกลงไปจนแน่น ขณะมองสบวิสัยอันมัวพร่ากับเจสซี่ที่กำลังแสดงความเกลียดชัง หรือไม่ก็ขยะแขยง แต่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ไมสะก็ไม่แม้แต่จะคาดคิดว่าจะได้รับมันจากพี่ชายที่เธอก็รักยิ่งกว่าชีวิต

    เหมือนถูกกระชากลงไปสู่หุบเหวลึกโดยไม่มีใครเอื้อมมือมาฉุดรั้ง กลับกันเมื่อพวกเขาเป็นคนถีบส่งเธอลงไปยังนรกเบื้องล่างนั้นด้วยตัวเอง ในที่สุดความอดทนที่เธอกดกักมันไว้ต่อสองพี่น้องก็จะพลันระเบิดออกต่อเขาที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อไมสะจะยกกระเป๋านักเรียนขึ้นทุ่ม ก่อนกระโจนเข้าหาเจสซี่ที่ตั้งรับกลับมาได้อย่างรวดเร็วแล้วผลักร่างของเธอไปชนเข้ากับขอบโต๊ะ รู้สึกได้ถึงของเหลวเหนียวเหนอะที่ไหลหยดลงมาโดนนัยน์ตาข้างซ้าย ผสานไปกับน้ำตาที่เปื้อนเปรอะอยู่ทั่วใบหน้า หากเธอจะเพียงแค่ปล่อยศีรษะที่เจ็บร้าวจนทำให้ร่างกายหนักอึ้งไม่อาจขยับตัวได้ไหวไปตามแรงโน้มถ่วง โดยไม่สนใจแม้แต่เสียงกรีดร้องของอดีตพี่สาว หรือเสียงตะโกนที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของอดีตพี่ชายอีกต่อไป

    ไมสะได้เข้าใจถึงความเลวร้ายของโลกใบนี้อย่างถ่องแท้ โลกที่ความรักเป็นเพียงแค่สิ่งจอมปลอมและไม่มีใครจะอยู่เคียงข้างเธอ...นอกจากตัวเอง




    ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องบ้านเคียวโมโตะไม่เคยเป็นไปด้วยดี

    ซาราริไม่ชอบเด็กผู้หญิงที่ชื่อมิมิโกะมาตั้งแต่ยังเป็นมัตสึบาระ การต้องอาศัยอยู่ร่วมชายคาเพื่อแบ่งปันความรักและความห่วงใยที่ควรเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวจากแม่ที่เลี้ยงดูมาลำพังไป ก่อนที่จะตามมาด้วยการต้องถูกเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าตาที่ด้อยกว่า อุปนิสัยที่เงียบขรึมกว่า หรือผลการเรียนที่ต่ำกว่า หากซาราริก็ยังสามารถกักเก็บมันเอาไว้ได้ด้วยไม่อยากให้ใครมองเธอในแง่ร้าย แล้วใช้ชีวิตอย่างแสร้งเสผ่านหน้ากากที่สวมใส่ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้านจนแทบจะหลงลืมตัวตน

    ตัวตนที่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากพี่ชายคนใหม่จากการถูกรับเป็นลูกบุญธรรมของครอบครัวเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของประเทศจากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่พรากแม่ของเธอและพ่อของมิมิโกะไป ซาราริตกหลุมรักเคียวโมโตะ ไทกะ พี่ชายอายุมากกว่าสองปีนับแต่แรกพบ เธอไม่เคยพอใจที่ไทกะมอบความรักและความใจดีให้ใครอีกคนอย่างเทียมเท่ากัน กระทั่งความรู้สึกไม่ชอบใจที่มีต่อมิมิโกะได้แปรเปลี่ยนไปเป็นความเกลียดชัง เธอรำคาญการเกาะแกะของน้องสาวทุกเช้าค่ำ จนซาราริรู้สึกดีใจเป็นนักหนาที่ได้พ้นจากหล่อนเมื่อขึ้นชั้นไฮสคูลกับการแยกห้องเรียนเป็นครั้งแรก ถึงต่อให้จะหาเพื่อนใหม่ได้ยากเพราะนิสัยแบบประหยัดคำพูดก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างไรเธอก็ยังได้มีช่วงเวลาที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ทั้งอย่างนั้น มิมิโกะก็ยังคอยเฝ้าเทียวหา ขนาดตอนที่คบหากับมิยาจิกะ ไคโตะที่อยู่ห้องเดียวกันหลังจากงานกีฬาก็ยังดึงเธอเข้าไปเป็นส่วนเกินอย่างโง่เง่า

    เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นในเย็นวันหนึ่งที่เธอต้องมาแกร่วรอมิมิโกะคุยงานกับอาจารย์ ขอให้ทั้งพี่สาวและคนรักรอกลับบ้านด้วยกันเหมือนอย่างทุกวัน ขณะที่เธอกำลังนั่งวาดรูปอยู่ในห้องศิลปะกับมิยาจิกะซึ่งก้มหน้าอยู่แต่กับเกมในมือถือโดยไม่มีบทสนทนาใดต่อกัน เพราะนั่นคือสิ่งที่เป็นมาตลอดเมื่อไม่มีมิมิโกะ อาจเพราะความเบื่อหน่าย อาจเพราะความรู้สึกที่คิดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการเอาคืนมิมิโกะให้สาแก่ใจ จู่ๆ ซาราริก็จะโพล่งทำลายความเงียบขึ้นว่า

    “นายยังไม่เคยนอนกับมิมิใช่ไหม?”

    มิยาจิกะเงยหน้าขึ้น ไม่มีสีหน้าตกใจกับคำพูดละลาบละล้วงนั้น ที่ซาราริก็จะเอ่ยต่อไปว่า “ฉันให้นายได้นะ สิ่งที่มิมิให้ไม่ได้น่ะ”

    มิยาจิกะจ้องตาเธอที่ก็ไม่เบือนหลบ ก่อนสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคือฝีก้าวซึ่งเคลื่อนใกล้พร้อมริมฝีปากที่ถูกทาบทับลงไปจากเขาซึ่งก้มหน้าลงมา ซาราริไม่เคยมีคนรักมาก่อน อย่าว่าแต่จูบแรก ถึงแม้ว่าเธอจะเคยคาดหวังสิ่งนั้นจากไทกะ หากเมื่อไม่มีหวังเธอก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไรถ้าจะมอบมันให้กับเพื่อนผู้ชายที่หน้าตาก็ไม่ได้แย่ ถึงแม้ว่าจูบแรกจะยังไม่มีอะไรเลยเถิดไปมากกว่านั้นเพราะมิมิโกะที่เลื่อนบานประตูเข้ามาอย่างเริงร่าโดยไม่รู้สา เรียกรอยยิ้มอบอุ่นจากคนรักเหมือนเช่นที่เป็นมา และรอยยิ้มเยาะหยันจากพี่สาวที่น้องสาวหน้าโง่อย่างนั้นคงไม่มีวันดูออก

    หากง่ายดายในเย็นวันถัดมาที่เธอต้องไปทำงานกลุ่มต่อที่ร้านอาหารยี่สิบสี่ชั่วโมงกับเพื่อนในห้อง ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านตอนสองทุ่มและพบมิยาจิกะนั่งกดมือถือรออยู่ตรงไหล่ทาง เรื่องราวต่อจากเมื่อเย็นวานในห้องศิลปะดำเนินต่อจากนั้นที่เลิฟโฮเต็ลราคาถูก เขาไม่ได้มองเธอด้วยสายตาที่รักใคร่ หรือจะเป็นจูบที่อ่อนโยนเหมือนอย่างที่มิมิโกะเคยเล่าให้ฟัง มีแค่สิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ทางกายซึ่งเขาอาจต้องการระบายมันออกมา เหมือนกับที่ซาราริต้องการความรู้สึกที่เหนือกว่าน้องสาวของตัวเองในสักทางแม้จะด้วยวิธีที่สกปรกที่สุด ในตอนที่มิยาจิกะมอบความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้ซาราริรู้สึกพึงพอใจราวกับกำลังโลดแล่นอยู่บนสวรรค์ในทุกที่ที่ริมฝีปากและมือของเขาลากไล้ลงไป ก่อนความเจ็บปวดจะฉุดรั้งเธอกลับมาสู่โลกความเป็นจริง ที่มิยาจิกะก็ไม่แม้แต่จะถามไถ่เธอด้วยความห่วงใย เพราะพวกเขาต่างก็รู้ดีว่ามันไม่มีความหมายอื่นใด ถึงจะรู้ดีว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอเขาก็ไม่คิดที่จะทะนุถนอม เพราะเธอที่ฉุดดึงเขาลงมาสู่ความผิดบาปต่อผู้หญิงอีกคนที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยนั้นไม่สมควรจะได้รับมัน เช่นเดียวกับที่เธอก็ไม่ได้ขอให้เขาหยุดถึงจะรู้สึกแหลกสลายเจียนตายแค่ไหน แต่เธอก็ต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับเขา...กับผู้ชายที่เป็นของผู้หญิงที่เกลียด เล็บของเธอกดลงไปบนท่อนแขนและแผ่นหลังของเขา เหมือนกับที่ริมฝีปากของเขาจะกดประทับลงบนริมฝีปากด้วยความใคร่แม้แต่หลังเสร็จสมที่เขาอาจยังพาเธอไปด้วยไม่ได้ แต่ในครั้งที่สองที่พวกเขาแอบนัดพบกันอีก ซาราริก็ได้รู้จักความหฤหรรษ์ของสิ่งที่เรียกว่าเซ็กซ์เป็นครั้งแรก

    และนั่นคือตอนที่ซาราริได้มีความรักครั้งแรก — ครั้งที่สอง — กับเด็กหนุ่มต่างโรงเรียนที่ชื่อนากามูระ ไคโตะ

    เขามาขอจอยน์เกมเทคเค่นเซเว่นกับเธอที่เกมเซนเตอร์ ก่อนจะตามมาด้วยมื้อค่ำที่เขาเต็มใจเลี้ยง และห้องในโรงแรมที่เขาเต็มใจจ่าย ประสบการณ์ทุกอย่างกับนากามูระไม่มีอะไรเหมือนมิยาจิกะ เพราะสิ่งที่เธอมีให้เขาคือความหลงใหลถึงจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยความผูกพัน แม้เธอจะรู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว ซาราริก็ไม่อาจต้านทานความต้องการที่จะเป็นของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้เลย

    ความสนใจทั้งหมดของซาราริไม่หลงเหลือให้กับผู้ชายคนแรกที่ไม่ได้มีค่าอะไรกับเธออีกต่อไป ทั้งอย่างนั้นมิยาจิกะก็กลับไม่ยอมปล่อยเธอไปด้วยเหตุผลที่ซาราริไม่เข้าใจ แต่ในวินาทีที่มิมิโกะได้ยินเสียงตะโกนของเธอกับชายคนรักด้วยเรื่องที่แอบทำกันลับหลัง น้องสาวหน้าโง่ก็จะเข้ามาผลักเธอ ทำร้ายเธอ ตะโกนด่าทอเธอด้วยคำผรุสวาทอย่างที่ซาราริเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ยินมันจากปากของหล่อน แต่ก่อนที่มิยาจิกะจะได้ทันพุ่งตัวเข้าไปจับคนทั้งสองแยกออกจากกัน มีดพกในมือของหล่อนก็จะเฉี่ยวผ่านใบหูของเธอให้ได้รู้สึกแปลบ

    เช่นเดียวกับความโกรธที่แล่นริ้วเข้ามาจนซาราริหน้ามืดตามัว ยื้อยุดฉุดดึง และเมื่อกระชากมันออกจากมือของหล่อนได้ เธอก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายแทงสวนเข้าไปแทน

    ไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้อง อาจเป็นการแทงเข้าตำแหน่งของหัวใจที่แม่นยำมากพอจนหล่อนตาย เหมือนกับความปรารถนาตลอดมาที่ซาราริต้องการให้หล่อนหายไปซะ

    แต่ต้องไม่ใช่ด้วยน้ำมือของเธอ

    เมื่อเธอโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับมิยาจิกะ ด้วยใบหน้าแดงก่ำที่อาบไปด้วยน้ำตา ด้วยเสียงสะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจตายกับการต้องสูญเสียน้องสาวไป ไม่มีใครฟังคำแก้ตัวจากเขาถึงต่อให้จะไม่มีหลักฐานมัดตัวเป็นรอยนิ้วมือบนมีด เธอก็ดลบันดาลมันให้เกิดขึ้นได้ด้วยอำนาจเงินที่ครอบครัวเคียวโมโตะมี และซาราริก็สามารถกำจัดผู้ชายไร้ค่าคนนั้นทิ้งไปได้เมื่อเขาต้องไปรับโทษในสถานพินิจ

    และในวันที่เธอกับไทกะกอดปลอบกันร้องไห้ แม้จะด้วยเจตนาต่อมิมิโกะที่แตกต่างกัน แต่ในตอนที่ริมฝีปากอันสั่นเทาซึ่งเจือรสเค็มของน้ำตาประกบกันจากความตั้งใจของเธอที่ไม่คิดจะเก็บมันไว้อีกต่อไป ไทกะก็ตอบรับมันเหมือนความฝันอย่างรุกเร้ารุนแรงจนเธอแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ เซ็กซ์กับเขาไม่มีอะไรเหมือนกับมิยาจิกะหรือนากามูระเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสิ่งที่เธอมีให้ไทกะนั้นคือความรักและความผูกพันที่แนบแน่น เหมือนอุณหภูมิร่างกายของคนทั้งสองที่กอดรัดกันอยู่ในยามนี้ และแม้ว่าสิ่งที่ไทกะกระทำจะเต็มไปด้วยความรุนแรง แต่ซาราริก็รู้ว่ามันมาจากความรักที่เธอยินยอมให้เขาส่งต่อทุกความรู้สึกมาให้

     










    2021年10月30日
    _______________
     กรี๊ด คุ้ยฟิคมาลงก่อนหมดเดือนสิบได้อีกเรื่อง ไม่ได้มีแต่เศษฟิคที่แต่งไม่จบแล้วนะโว้ย! เป็นเรื่องที่แต่งไว้ตอนเดือนสี่ที่งานยุ่งมาก เดือนนั้นมีฟิคเยอะจริง ผีเข้า แต่ตอนนี้ผีออกแล้ว จะงานเยอะงานน้อยก็กลับมาสู่ปกติคือไม่มีฟิคเลยสักเรื่อง สวัสดี / แรงบันดาลใจของฟิคนี้คือ ๑. อยากแต่งฟิคจากเพลง checkmate ของ milet ๒. อยากแต่งเรื่องการแก้แค้นแบบ RISKY (ยังไม่ได้ดู และจะดูรวดเดียววันหยุดวันอาทิตย์นี้แล้ว เป็นกำลังใจให้กูด้วย >_<) และ ๓. อยากได้พระเอกเป็นดับเบิลไคโตะ โดยให้นางเอกสองคนเป็นพี่น้องกันไปเลยจะได้เริ่มปมตรงนี้ แต่ทีนี้พอแต่งพาร์ทแรกจบก็รู้สึกไม่พอใจ ทำไมมันจืดๆ จังวะ เลยลองแต่งใหม่อีกพาร์ทด้วยพล็อตเดิมหมดเลยทั้งปมที่บ้าน ทั้งครอบครัวพี่ชาย ไหนจะพี่สาวสันดานเสีย น้องสาวนิสัยดี ที่ก็ซ้ำร้าย ไม่ตรงใจกว่าเดิม (มึงด่าว่าทำไมคู่แรกไม่มีฉากเอโระเลยวะ แต่ก็มีฉากพี่เจสซี่ตบตีมึงให้แล้วกันนะ) ทั้งอย่างนั้นก็ดันแต่งจบได้ทั้งสองพาร์ท เวรกรรม แต่เพราะมันไม่ได้ออกมาอย่างที่คิดและกูไม่มีความสุขที่จะแต่งต่อเลยเทๆ ไปเถอะ แต่ก็จะเอามาลงให้ดูว่าอย่าหาทำ
      มึง สาบานว่ากูไม่ได้ก็อป แต่ทำไมมันออกมาเหมือนเรื่องเคเบตสึมึงเปี๊ยบเลยว่ะ แต่อินสไปร์หลักมาจากเชคเมทกับริสกี้จริงนะ orz กูจะแถไปว่านี่ไงล่ะพล็อตที่ดาษดื่น อยู่ที่เราจะทำยังไงให้มันแตกต่าง! แต่ยังไงก็จะแต่งแนวริสกี้ให้ได้สักวันหนึ่งอยู่ดี (อวดรอบสองว่าจะดูวันอาทิตย์ซับอิ๊งในแอปถูกลิขสิทธิ์จ้า พล็อตต้องมา ถึงไม่มาก็ต้องมา!) มันจะเป็นเรื่องของการแก้แค้นกันที่น้ำเน่ากว่านี้! และดับเบิลไคโตะก็จะต้องเด็ดจริง! ถึงไม่เด็ดก็ต้องเด็ด! ตอนแรกบทจากะจะเป็นอุมิ แต่ช่วงนี้กำลังบำบัดเธอราปี้เคโระปี้โดยแต่งอุมิให้น้อยลงเพราะมึงบอกว่ากูใกล้บ้าแล้ว และเพราะต้นแบบที่เข้าสถานพินิจก็มาจากจากะในเรื่องอินฟลูเอนซ์เลยเปลี่ยนมาเป็นไคโตะคนนี้แทน สักห้าปีก็ได้ออกมาแล้ว / ตอนแรกพี่ของซาราริจะเป็นอาเบะจังด้วย แต่เผอิญโชคุระเมื่อวานไทกะกับโฮคุโตะหล่อมากเลยจิ้มมาหนึ่งคน แค่นั้นแหละ / ส่วนที่เลือกราอูลเพราะไหนๆ ก็นามสกุลฝรั่งกันทั้งเรื่องแล้วงั้นเอาชื่อฝรั่งมาอีกคน แค่นี้แหละ / กูเคยคิดบทพระเอกจริงๆ ไว้อยู่นะ ของซาราริก็คือจากะที่จะแก้แค้นกันเองตอนโตนี่แหละ แต่ของไมสะนึกไม่ออกว่ะ น่าจะเป็นคนที่เจอกันตอนโต แต่เจสซี่ ราอูล ฟุกกะก็ยังมีบทบาทในชีวิตของไมสะอยู่ ส่วนอุมิไม่มีละ ซาราริได้ไทกะก็ไม่เอาคนอื่นแล้วจ้า ลาก่อน
      ปล. ฉากขอจอยน์เทคเค่นมาจากชีวิตจริงหลายปีแล้วที่เคยไปนั่งเล่นคนเดียวแล้วมีน้องผู้หญิงมาขอแจมด้วย ที่แม้ว่ากูจะยังบำบัดอยู่ แต่ให้อุมิมาแจมเล่นเกมกับซาราริเถอะ ไหว้ล่ะ และได้ใช้อีกเพลงที่ก็ชอบมากๆ ของ milet มาประกอบแล้ว เย่! เพราะอยากให้ฟิคนี้ออกมาเหมือนละครฉายช่อง WOWOW (แต่ออกมาเป็น MBS โฮมรูมแทน อีสัส มึงด่า)
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×