คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #132 : Love is Ecstasy
ถึงแม้ว่าอาราอิ ฮาซึกิ จะย้ายจากทตโตริมาอยู่ที่โตเกียวเป็นเวลาเกือบๆ สองเทอมแล้ว เธอก็ยังรู้สึกว่าบรรยากาศภายในรั้วโรงเรียนแห่งนี้มันช่าง...แปลกประหลาด
จะให้นิยามอย่างไรก็บอกไม่ถูก แต่ถ้าให้หยิบยกมาหนึ่งคำเธอคงต้องใช้เวลาชั่งใจ ครวญคิด สรรหาอย่างพิถีพิถัน ก่อนที่จะให้คำตอบด้วยความลังเลเล็กน้อยอยู่ดีว่า ’คลื่นใต้น้ำ’ หรืออะไรที่ใกล้เคียงกับมัน จริงอยู่ที่ไม่ว่าจะบุคลากรหรือนักเรียน ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตและปฏิบัติตนให้สมกับหน้าที่ด้วยความธรรมดาสามัญ หากภายใต้ความเฉื่อยชาที่ปรากฏ คือการคอยสังเกตผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ เพราะอย่างนั้น ฮาซึกิจึงจับระลอกคลื่นที่ไหวสั่นแม้เพียงน้อยนิดที่มีเหตุการณ์ผิดแปลกไปจากที่เคยได้
นั่นคือตอนที่เจสซี่ ลูอิส เด็กหนุ่มป็อปปูลาร์ประจำชั้นขอคบกับเธอ มันไม่ได้โรแมนติกหรือว่าชวนฝันใดๆ เธอเพิ่งจะตื่นนอนหลังจากเข้าไปนอนพักในห้องพยาบาลตั้งแต่คาบที่สามเพราะอาการปวดหัวรุมๆ คงเพราะเมื่อคืนมัวแต่อ่านนิยายจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็เลยวันใหม่และได้หลับก่อนมาโรงเรียนเพียงแค่เกือบๆ สองชั่วโมงเท่านั้น ฮาซึกิจะไม่หอบสังขารอันโรยรามาโรงเรียนเลยถ้าไม่ได้มีสอบเก็บคะแนนวิชาภาษาอังกฤษในคาบเช้า ไม่รู้หรอกว่าเขามาอยู่ในห้องนี้ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทันทีที่เธอยันตัวเองลุกขึ้น เขาก็จะกระโจนเข้ามาทิ้งตัวลงเบื้องหน้าพร้อมกับส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกอย่างน่าหนวกหูสุดๆ ว่า “คบกับฉันนะฮาซึกิ!”
เธอที่เพิ่งจะตื่นนอนยังอยู่ในอาการมึนงงเล็กน้อย ครั้นพยายามอ้าปากพูดอะไรสักอย่างก็เหมือนมีก้อนจุกอยู่ในลำคอ ท้ายที่สุดจึงทำได้เพียงพยักหน้า วินาทีถัดจากนั้น ริมฝีปากที่แห้งผากของเธอก็ถูกประกบ เขาบดเบียดและสอดปลายลิ้นเข้ามาอย่างหนักหน่วงจนมันชุ่มชื่น อาจเช่นเดียวกับส่วนที่อยู่ใต้ชั้นในเบื้องล่างของเธอ ฮาซึกิไม่มีโอกาสได้เปิดปากพูดอะไรออกมาสักคำ กระทั่งคำทัดทานที่ว่าใครอาจจะเข้ามาเห็นก็ได้ เมื่อมือหนากับริมฝีปากจะเริ่มต้นป้วนเปี้ยนอยู่กับหน้าอกใต้บราที่ถูกดันขึ้น ขณะที่ปลายนิ้วก็ลงต่ำกว่านั้นให้ฮาซึกิรู้สึกถึงความแปลกปลอมภายในอวัยวะที่อ่อนไหวที่สุดของตัวเองเป็นครั้งแรก จึงมีแต่เสียงครางที่พยายามกดกลั้นไม่ให้ดังเกินไปนักหลุดออกมา ดูเหมือนว่าเจสซี่จะเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว หรือไม่เขาก็อาจจะเก็บมันไว้ใช้กับคนอื่นก็ได้ถ้าหากเธอปฏิเสธเขาไปในวันนี้ แต่สำหรับตอนนี้ ส่วนที่แข็งขืนของเขาซึ่งค่อยๆ สอดเข้าไปภายในจุดอ่อนไหวของเธอได้รับการป้องกันเป็นอย่างดีแล้ว เขายื่นตัวขึ้นมาจูบเธออีกครั้งในตอนที่เสียงแหบเครือบอกว่าเจ็บ จังหวะของเขาเชื่องช้าในทีแรก ก่อนเสียงที่เปลี่ยนเป็นหอบกระเส่าในจังหวะที่พอเหมาะพอดีจะเร่งเร้าให้เขาเริ่มต้นขยับตัวอีกครั้ง เจสซี่เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงอย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด และส่งเธอขึ้นสวรรค์ด้วยความสุขสมจนสติแทบจะโบกโบย ก่อนที่เขาจะตามไปและปลดปล่อยด้วยความสั่นไหวอย่างรุนแรงเมื่อโอบกอดเรียกชื่อเธอซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ครั้งแรกระหว่างพวกเขาเริ่มขึ้นในวินาทีแรกที่เป็นคนรักกัน อาจเพราะอย่างนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงผูกติดอยู่กับเซ็กซ์ ในบ้านที่เจสซี่แทบจะถือครองลำพังหลังความมึนตึงของครอบครัว จนบางทีฮาซึกิก็อดรู้สึกละอายกับความรักที่มีค่าน้อยกว่าความใคร่ขึ้นมาไม่ได้
เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนั้นอยู่นานนับเดือน กระทั่งตอนที่เธอบังเอิญวิ่งไล่ตามลูกแมวเข้าไปในอาคารเก่าซึ่งบัดนี้เป็นเขตหวงห้าม ที่ตัวอักษรแข็งขึงบนป้ายไม่เคยเป็นคำศักดิ์สิทธิ์สำหรับวัยรุ่นวัยขบถแต่ประการใด เสียงร้องเรียกเหมียวๆ ไม่ได้ทำให้ลูกแมวน้อยขนสีส้มปุกปุยออกมาจากที่ซ่อนอย่างที่คิด กลับเป็นเด็กหนุ่มผิวขาวซีดซึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่หลังโพเดียมในห้องเคมีเก่าแทน เด็กหนุ่มต่างห้องที่ฮาซึกิพอคุ้นหน้า ทว่าไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม มีร่องรอยของบาดแผลอยู่ทั่วใบหน้าและตามร่างกาย เธอเกือบจะวิ่งเข้าไปหาเขาอยู่แล้วถ้าไม่ได้เห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่าเสียก่อน จึงหยุดชะงักงัน บอกให้เขารออยู่ที่นี่ ก่อนรีบวิ่งไปหยิบชุดพละมาจากห้องสิ่งของสูญหายกลับมา เธอหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อยจากการไม่ใคร่ได้ออกกำลังกาย ขณะที่ปล่อยให้เสียงเสื้อผ้าเสียดสีแว่วผ่านช่องว่างของความเงียบงันขึ้นมา
“นาย...ที่อยู่ห้องเอใช่ไหม?”
“อือ”
“ฉันอาราอิ ฮาซึกิห้องบี”
“เคียวโมโตะ ไทกะ” น้ำเสียงของเขาไม่ยินดียินร้ายใดๆ ให้ฮาซึกิที่พยักหน้ารับ เฝ้ารอถ้อยประโยคต่อจากนั้นก็เป็นอันต้องคอยเก้อ เมื่อไม่มีสิ่งใดเลื่อนไหลออกมาอีก เด็กสาวที่ทนต่อความเงียบงันไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายโพล่งคำถามขึ้นเสียเองว่า “ใครเป็นคนทำกับนายแบบนี้เหรอ?”
“รู้ไปแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา?” เขาลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงที่ก็ไม่ได้มากได้มายเท่าใดนัก ก่อนเดินพ้นจากโพเดียมมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ คราวนี้ให้ฮาซึกิได้เห็นใบหน้าฟกช้ำกับรอยแตกที่ริมฝีปากชัดๆ ครั้นได้สติจึงรีบควานหาพลาสเตอร์ที่พกติดตัวไว้ในกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กแล้วยื่นส่งให้เขาทั้งแผง
“ขอโทษนะ นายคงจะเจ็บน่าดู”
“เธอไม่ได้ทำแล้วจะขอโทษทำไม?”
คำยอกย้อนอีกครั้งของเขาทำให้ฮาซึกิต้องนิ่วหน้า กระนั้นก็ไม่ได้เกิดอาการบื้อใบ้อย่างที่คิดว่าควรจะเป็น
นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ฮาซึกิเข้าใจผิดไป ไม่เลย...นี่ไม่ใช่คลื่นใต้น้ำ แต่เป็นเศษขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมอันสวยหรูของที่ตั้งเขตโรงเรียนใหม่ โยนความโสมมลงมาในพื้นที่ทิ้งร้างเก่าต่างหาก
ฮาซึกิเกลียดเรื่องการกลั่นแกล้งพรรค์นี้มาก ถึงแม้ว่าคนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม กระทั่งรังสีบางอย่างที่ทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรมากไปกว่าการนินทากันลับหลัง เธอจึงทั้งรู้สึกเจ็บใจและรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กหนุ่มต่างห้องคนนี้ได้เลย
“นายไม่จำเป็นต้องปกป้องคนที่ทำกับนายแบบนี้หรอกนะ”
“แค่ฉันไม่บอก ไม่ได้แปลว่าปกป้อง”
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกฉันมาสิว่าใครเป็นคนทำ”
“มีใครเคยบอกไหมว่าเธอเซ้าซี้เป็นบ้า”
แต่ฮาซึกิกลับทำหูทวนลมต่อคำกล่าวหานั้น “นี่...ฉันช่วยนายได้นะ”
“ขอบใจ แต่ไม่ล่ะ” เขาตัดบทแล้วทำท่าว่าจะเริ่มต้นเดินจากไป แต่คนอย่างอาราอิ ฮาซึกิไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ
“นายถูกแกล้งแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
_______________
ความคิดเห็น