ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #5 : #nowplaying ♪ Sweetest Tune (10% คนอย่างกูแต่งทิ้งแต่งขว้างเสมอ แต่ก็โกๆๆ)

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 67


    (#nowplaying) Sweetest Tune
    Playlist: Travis Japan – Sweetest Tune (Theme song for TV Asahi's Oshidora Saturday "Tokyo Tower")












    .

    I.

    มัตสึดะ เก็นตะยืนมองรถแท็กซี่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากหน้าโรงแรมหรูที่เขาเป็นฝ่ายนัดหล่อนมาพบไปจนลับตา หากแม้ว่าตัวของหล่อนจะจากไปแล้ว แต่ความคิดคำนึงของเขาก็ยังวนเวียนอยู่กับมารดาจอมจู้จี้ ขี้บ่น ขี้กังวล เอาแต่กำชับกำชาให้เขาพักผ่อนให้ตรงเวลา กินข้าวให้ครบหมู่ ไปตัดผมที่ยาวกระเซอะกระเซิงไม่สมกับหน้าที่การงานใหม่ แล้วยังพูดเรื่องการแต่งงานที่เขายังไม่ใส่ใจ แต่หล่อนก็ไม่สนใจเมื่อบอกว่าจะนัดดูตัวให้กับหญิงสาวที่มาจากชาติตระกูลเพียบพร้อม กิริยามารยาทงาม ไม่ใช่พวกสาวอเมริกันหัวทองที่ดูเปรี้ยวซ่า ก๋ากั่น หรือก็คือพวกสาวๆ ที่เขาคบควงตลอดสี่ปีที่ย้ายไปแอลเอเพื่อร่ำเรียนต่อปริญญาตรี รวมอีกสองปีที่ตะลอนเที่ยวต่อเพราะไม่อยากกลับบ้านเกิด กระทั่งจะถูกเรียกตัวกลับมาเรียนรู้กิจการเพื่อรอรับช่วงต่อจากพ่อถึงจะไม่ใช่ในเวลาอันใกล้ แต่ครอบครัวก็ลงความเห็นกันว่าลูกชายคนเล็กที่วัยย่างยี่สิบห้าควรเริ่มต้นใช้ชีวิตให้เข้ารูปเข้ารอยได้แล้วสักที

    เก็นตะรู้อยู่แล้วว่าสักวันช่วงเวลานี้จะต้องมาถึง เขาไม่ได้รังเกียจงานบริหารบริษัทอสังหาฯของครอบครัว เพียงแต่เขานึกเสียดายชีวิตอิสระที่ยังไม่ทันจะได้ดื่มด่ำกับมันมากมายเสียมากกว่า

    เพราะอย่างนั้นก็ย่อมไม่มีทางที่เขาจะติดกับดักแล้วแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน ต่อให้หล่อนจะเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาจากไหน ด้วยวัยเพียงแค่เท่านี้แน่ ยิ่งถ้าผู้หญิงคนนั้นมาจากการดูตัวที่เก็นตะคิดว่ามันเป็นเรื่องโง่เง่าบ้าบอที่สุด ความรักสำหรับเขาไม่ใช่ความเหมาะสมในสายตาของคนอื่น ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องยอมสละทุกอย่างแล้วปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมัน หากเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มต้นจาก...หัวใจ

    เหมือนอย่างที่มันกำลังรู้สึกอยู่นี้ในตอนที่เขาเดินกลับเข้ามาในล็อบบี้และได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของเธอคนนั้นที่กำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง

    เส้นผมสีทองสว่างแซมไฮไลท์สีฟ้าอ่อนของเธอเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัด คอนแทกเลนส์สีอ่อน สโมกกี้อายหนาเตอะ และลิปสติกสีสดเปลี่ยนเป็นเมคอัพแบบธรรมชาติ รองเท้าผ้าใบส้นเตี้ยเปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นสูง เสื้อยืดกางเกงขาสั้นก็เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงอย่างคนวัยทำงานที่ดูภูมิฐานแบบผู้ใหญ่ กระนั้นน้ำเสียงเวลาพูดคุยอย่างกระตือรือร้นของเธอ รอยยิ้มกว้างจนตาปิดของเธอ เสียงหัวเราะสดใสของเธอ ก็ยังคงเหมือนเดิมกับที่เก็นตะจำจดได้

    ต่อให้แม่จะมองเห็นว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่เหมาะสมกับผู้ชาย ที่ก็ใช่ว่าดีเด่อะไรสักหน่อย อย่างเขาก็ช่างปะไร เพราะในวินาทีที่เธอหันหน้ามาเห็นเขาพร้อมกับดวงตาและริมฝีปากที่อ้ากว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจมากกว่าสิ่งอื่นใด ก็ราวกับเก็นตะได้พบชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปและทำให้ข้างในอกของเขาโหวงหวิวมาเนิ่นนาน

    อากานะ มินาริคือชื่อของเธอคนนั้น

     

    II.

    นากามูระ ไคโตะเชื่อว่าโลกนี้มีเรื่องบังเอิญอยู่มากมายนับแสนล้านแปดอย่าง และอาจมีแค่แปดอย่างเท่านั้นที่เป็นเรื่องสำคัญกับชีวิต แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าหนึ่งในแปดอย่างนั้นจะกำลังเกิดขึ้นกับตัวเองในวันที่ไม่ได้คาดคิดถึงแบบนี้

    ไคโตะหมายถึงการได้เจอหน้าฟุนากิ เนมุริ หญิงสาวฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทตกแต่งภายในเดคอร์ดินี่อันเป็นคู่ค้ากับบริษัทอสังหาฯเรโกลิธที่เขาทำงานอยู่ ผมสีน้ำตาลทองของเธอส่องล้อกับแสงแดดแล้วช่างดูดี เมคอัพโทนสีแดงก็ขับใบหน้าขาวผ่องให้ยิ่งดูน่ามอง ไหนจะน้ำเสียง ท่วงท่า หรือสีหน้า ทั้งหมดที่รวมกันเป็นเธอทำให้ไคโตะเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตรงกันข้ามกับเธอที่ไม่พยายามปิดบังสีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจทั้งที่ไม่เคยใช่เรื่องยากเย็นอะไร แล้วขอตัวกลับก่อนโดยปฏิเสธคำชวนไปกินมื้อเที่ยงต่อด้วยกันกับเขาและรุ่นพี่อย่างหนักแน่น สมกับเป็นเนมุริที่ไคโตะเคยรู้จัก...จนถึงกับรักใคร่...มาตลอดสี่ปีที่ไปร่ำเรียนอยู่แอลเอ

    โชคดีที่เขาแทรกตัวเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่มันจะปิดได้ทัน แม้เธออาจไม่คิดว่าเป็นความโชคดีจากการจงใจถอยห่างไปอยู่ที่สุดมุมหนึ่ง

    “ไม่เห็นรู้มาก่อนว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่”

    ถ้าฉันรู้ว่าจะได้มาคุยกับนายนะ จ้างให้ก็ไม่มาหรอก!”

    อะไร ผ่านมาตั้งสองปีแล้วนะ ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ?” ทั้งรอยยิ้มกลั้วไปกับเสียงหัวเราะเริงร่า “ขนาดฉันยังเลิกโกรธแล้วเลย”

    คนนอกใจมีสิทธิ์พูดแบบนั้นได้ด้วยหรือไง!” สุดท้ายคนที่อุตส่าห์ทำคอเชิดคอแข็งไม่ยอมหันมองเพื่อนร่วมทางไปด้วยก็อดรนทนไม่ไหวแล้วหันหน้ามากระแทกเสียงใส่เต็มแรง แต่ไคโตะรู้ว่าเธอคงอยากกระทืบเท้าเร่าๆ ไม่ก็จับหัวเขากระแทกกับผนังให้เลือดหัวไหลออกมาเป็นการระบายความคับข้องใจมากกว่า “ต่อให้ฉันจะจ้วงมีดแทงนายกับยัยบ้านั่นจนตาย นายก็ไม่มีสิทธิ์มาโกรธฉันด้วยซ้ำ!”

    ทั้งอย่างนั้นไคโตะก็ยังอดแหย่เธอไม่ได้

    แบบนั้นมันผิดกฎหมายแล้ว”

    “เออ! ฉันยอมติดคุกตลอดชีวิต! ขอให้ได้ฆ่านายด้วยน้ำมือตัวเองก็พอ!

    “โห ดีใจจังที่ได้รู้ว่าเธอรักฉันตั้งขนาดนั้น”

    “แค่เคยย่ะ!” เนมุริแก้คำพูดแทนเขาด้วยเสียงดังลั่น ”แต่ตอนนี้ฉันเกลียดนายมากที่สุดในโลกเลย อุมิ!” พร้อมกับไหล่ที่จงใจกระแทกเข้ากับท่อนแขนของเขาเมื่อจะรีบเดินผ่านออกไปในตอนที่ลิฟต์ลงมาถึงล็อบบี้ชั้นล่าง

    “แต่ฉันยังรักเนมุที่สุดเลยนะ!

    “ไปตายซะไป้!

    ไคโตะมองตามเธอที่ยกนิ้วกลางขึ้นชูแล้วหัวเราะออกมา หนนี้เขาจะหยวนๆ ให้เธอหลบไปตั้งหลักก่อนก็ได้ แต่หลังจากนี้เขาจะไม่มีวันยอมปล่อยเธอไปอีกแน่

     






    2024年06月10日
    _______________
     ตั้งแต่ทราวิสทำเพลงแบบญี่ปุ่นจังโว้ยยย since TGI (แต่จริงๆ อันนี้คนฝรั่งแต่งอยู่งับ TvT) กูก็กลับมาฟังเพลงเป็นบ้าเป็นบอ แต่ไม่มีลมพัดหวนแน่นอนจ้ากับคนนี้ (พูดเสียงเบานิดหน่อย) แค่แต่งฟิคเป็นพักๆ เพราะตอนปล่อยเวอร์เพิร์ฟมาแล้วไม่ได้จริงว่ะ ยังไงเพลงนี้เก๊าะต้องให้ทราวิสจริงๆ ตะบ้าตาย แน่นอนว่าพล็อตบอสัดสามล้านแปดเรื่องที่กูแต่งมันได้กลับมาแล้วเพราะไปเจอแมกฯทราวิสสองเล่มนี้แล้วไม่ได้จริงว่ะ ต้องมา แต่พอเห็นรูปปกซิงนี้กูก็คิดว่าอยากแต่งแบบใสๆ วัยรุ่นชอบด้วยจัง ทีนี้พอคิดถึงฟิคไทม์ทราเวลแล้วก็เฮ้ย! เดี๋ยวแต่งพล็อตย้อนความสมัยอยู่ที่แอลเอเอาก็ได้นี่ ชลาดจริงๆ ตัวเรา >_< / ปล. ว่าไปในเอ็มวีอุมิหายไปไหนวะ ฉากในบ้านได้ออกน้อยเดว
     ทีนี้ก็ให้บังเอิญรำลึกได้ว่ากูมีรูปคอมมิชจากคุณ beli ตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ไหม เดือน 9 ปี '21 ตะบ้าตาย U_U เคยตะเอาไปลงฟิคอินดี้แต่ก็ยังคิดไม่ออก พอกำลังจะคิดๆ ออกวงก็ไปก่อน ฮ่าๆๆ แม่มึง รูปคอมมิชอลังการดาวล้านดวงของกูจึงถูกเก็บไว้ในกรุมาอย่างยาวนาน จำได้เลยว่าหัวเขียวคือโกวอรเพราะมีคนเดวเท่านั้นแหละ แต่เบื่อฮั่นอย่างเลยเปลี่ยนดีกว่า คิดซะว่าตอนนากยองทำหัวสองสีฟากหนึ่งมันก็เขียวๆ อยู่ ถือว่าพอถูไถไปแล้วกัน เอาจริงก็จำไม่ได้แล้วว่ารูปคอมมิชเอาอะไรมาจากไหนบ้างเพราะลบที่บรีฟขว้างไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็คุณเบลีคิดให้หมดเลย ทั้งท่าโพส พร็อพเสริม ทุกอย่าง ปังมาก ชอบมาก สีสันการออกแบบการจัดวางอะไรใดๆ กูนะรักงานของคุรเบลีมาก ชอบเค้าวาดสาวๆ จัดวางคอมโพสใดๆ แต่เค้าไปทำเว็บตูนแล้ว เสียใจว่ะ แต่ชีวิตต้องมุ้ปอร U_U 
     ชื่อเรโกลิทมาจาก Tsuki no Koibito ให้เป็นบ.อสังหาฯเพราะถ้าบ.เครื่องสำอางมึงน่าจะด่ากูอีก ส่วนเดคอร์ดินี่เป็นบ.ตกแต่งภายในที่ลักเอาชื่อมาจากบ.ในเชียงใหม่ที่กูเกิ้ลเจอแล้วชอบ สมจริงไม่สมจริงก็เลื่องกูเนาะ for fun เลือกบรรยากาศในโรงแรมเพราะมันคือเพลงประกอบโตเกียวทาวเวอร์ ฟีลหรูๆ อย่างที่กูชอบก็ต้องมาเนาะ ไม่แน่ว่าอาจจะไม่มีตอนต่อก็ได้เพราะไฟมาแป๊ปๆ เดี๋ยวก็ดับพู่ววว เมนเก่าก็คือเมนเก่าอ่ะเนาะ แต่ฉากแอลเอที่กูคิดไว้นะ แน่นอนว่าสี่คนนี้ต้องเช่าบ้านอยู่ด้วยกันหมดเหมือนในเอ็มวีไงวะ สมัยวัยรุ่นทุกคนจัดจ้านกันหมดจ้า อีผีโว้ยยย อุมิหัวฟ้าหล่อมากแม่มึง กูอยากตาย เห้อออ กูนะจะสารภาพเลยว่าในค่ายสตาร์โตะทั้งหมด of all times กูชอบดูอุมิเต้นที่สุด ชอบฟังเสียงอุมิร้องที่สุด ชอบกว่าเมนกูคนปัจจุบันที่เป็นตัวท๊อปสายร้องในจูเนียร์อีก ฮ่าๆๆ แค่เล่าเฉยๆ ไปละ Orz 
     ปล. ขอพื้นที่ประกาศตรงนี้ว่าเดี๋ยวกูจะยกเครื่องเรื่องครูเอ้วฯทั้งพระนางใหม่หมด (ไม่หมดหรอกเพราะเมนกูไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น) ให้นางเอกทั้งเซ็ตกลับไปคฤหาสน์ดำเหมือนเดิมละ ไม่ได้เพราะเบื่อใครทั้งนั้น กูชอบทุกคนหมด all ดาหะยอนกับเสอึนจะเป็นนางเอกคู่บุญของเราไปอีกนาน แค่อยากเปลี่ยนบทผู้ชายหลายคน แล้วก็เปลี่ยนใจคิดว่าอยากให้นางเอกทั้งเซ็ตเล่นเรื่องยาวเรื่องเดียวไปเลยดีกว่าว่ะ (แต่หยิบมาเล่นเรื่องสั้นกี่เรื่องก็ได้ มันคนละส่วนกันจ้ะ) ให้มันเป็นตำนาน ให้มันเป็นภาพ(ชื่อ)จำ (ใครจำ) มันจะมาเมื่อไหร่ไม่รู้ กูก็ทยอยแปลง ทยอยแต่งฟิค เก่าบ้างใหม่บ้าง โน่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ กะปริดกะปรอย วันๆ ไม่ทำงานก็เล่นเกมและเมาท์กับมึง ชีวิตวุ่นวาย
    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×