ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #143 : MAFIA 3: In-A-Gadda-Da-Vida / A Man and a Woman

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 67


    In-A-Gadda-Da-Vida
    Inspiration: Mafia III (Video Game, 2016)
    Playlist: Jr. Walker & The All Stars – Shotgun (Soundtrack from Mafia 3)












    .

    เพราะใบหน้าอันหล่อเหลาที่มอมเมาหล่อนยิ่งกว่าแมนฮัตตันแค่สองแก้วกับแจ๊ซทรีโอ้ จะทำให้ลู ไรล์ต้องมาเจอเหตุการณ์อัปยศอดสูเป็นครั้งแรกในชีวิตตลอดยี่สิบปีของหล่อน

    มันเริ่มต้นจากการที่เพื่อนสนิทชวนไปบาร์เปิดใหม่ในเฟรนช์วอร์ด ครั้นกำลังทาลิปสติกเป็นขั้นตอนสุดท้ายอยู่หน้ากระจก โทรศัพท์ก็ดัง แซลลี่โล่งอกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ติดต่อมาหาทันก่อนหล่อนจะออกไป แจ้งข่าวว่าคืนนี้คงไม่สะดวกแล้วเพราะจู่ๆ มารดาก็แวะมาหาจากนิวยอร์กโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า แล้วเซ้าซี้ให้หล่อนพาชายคนรักไปดินเนอร์ด้วยกันที่ฟริสโก้ฟีลด์สแทน ลูได้แต่หัวเราะขบขันขณะรับฟังคำบ่นยาวเหยียดของแซลลี่ที่มีต่อมารดาซึ่งมักสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเทียวไปมาจากบ้านเกิดที่ลูกสาวยังพำนักอยู่และเมืองใหญ่ที่อยู่กับสามีใหม่ตามอารมณ์อีกเป็นครู่ หลังจากวางสาย ลูที่นึกเสียดายถ้าจะต้องลบเมคอัพที่อุตส่าห์แต้มแต่ง ไหนจะชิฟต์เดรสตัวสวยกับรองเท้าแมรี่เจนสีมัสตาร์ดที่เพิ่งไปช้อปปิ้งมาเมื่อสองวันก่อน จึงตัดสินใจจับแท็กซี่มายังปลายทางนับแต่แรกเริ่ม ถึงแม้ว่าจะขาดเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดิมในค่ำคืนนี้ก็ตามที

    บรรยากาศของบาร์เปิดใหม่นี้จัดว่าไม่เลว เครื่องดื่มรสชาติดี ดนตรีก็ฟังเพลิน มีสุภาพบุรุษมากหน้าผลัดเปลี่ยนเข้ามาทำความรู้จักและชวนไปเต้นรำ แต่ลูก็เพียงปฏิเสธไมตรีของพวกเขาอย่างสุภาพ เมื่อไม่คิดว่าอยากจะปฏิสัมพันธ์กับใครในค่ำคืนนี้ นอกจากการพาชุดและเมคอัพสวยๆ มาอวดโฉมให้ทุกคนในเฟรนช์วอร์ดได้เห็นพอเป็นกระษัยเท่านั้น

    กระทั่งการมาถึงของเขา...ชายที่รั้งเรียกใบหน้าของหล่อนให้ขยับจากเวทีมายังเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ตัวข้างกาย ลูไม่ใช่พวกเห็นใครหน้าตาดีเข้าหน่อยก็ใจง่ายไปหมด แต่ชายที่แนะนำตัวเองว่าชื่อเก็นตะ มัตสึดะผู้นี้มีบางอย่างที่ช่างน่าดึงดูด ยิ่งเมื่อเขาเริ่มต้นพูดถึงบทเพลงที่วงทรีโอ้กำลังบรรเลงราวกับผู้เชี่ยวชาญ ผสานไปกับดนตรีที่เคล้าคลอเป็นฉากหลังชวนให้เพลิดเพลิน รู้ตัวอีกที หล่อนก็พบตัวเองนั่งอยู่บนโพโตแมกแอสเซนต์ที่แล่นฉิวไปไกลเกินกว่าบ้านเช่าในดาวน์ทาวน์ ข้ามฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปีมายังเดลเรย์ฮอลโลว์ที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมเยือนมานานมากแล้ว

    อย่างน้อยๆ ก็เมื่อครอบครัวของหล่อนได้ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่ดาวน์ทาวน์เมื่ออายุได้สิบสาม ถึงจะเกิดและโตที่นั่น ลูก็ไม่ได้นึกผูกพันหรือว่าอาลัยอาวรณ์กับมันเลยแม้แต่น้อย เมื่อความทรงจำที่แจ่มชัดที่สุดคือการที่โจรขึ้นบ้านอยู่บ่อยครั้ง พอๆ กับการถูกจี้เอาทรัพย์สินริมถนน กระทั่งพ่อของหล่อนจับโจรได้คาหนังคาเขาหลังพาครอบครัวกลับมาจากการไปห้างสรรพสินค้า แล้วเกิดฮึดสู้แย่งปืนกันโครมครามจนมันลั่นเข้าที่ท้อง เป็นเหตุให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่นานนับเดือนจะทำให้ความอดทนของครอบครัวไรล์กับเดลเรย์ฮอลโลว์สิ้นสุดลง ณ วินาทีนั้น สิ่งเดียวที่ฝังหัวลูมาตลอดก็คือสภาพแวดล้อมอันย่ำแย่ชนิดว่าเกินเยียวยา ถ้าเพียงแต่หล่อนจะตระหนักสักนิด ก็คงไม่ติดรถมากับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงดีตั้งแต่แรกแบบนี้

    ลูได้ขึ้นสวรรค์เพียงแค่หนึ่งค่ำคืน ก่อนที่จะร่วงหล่นลงมายังขุมนรกโดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว

    เมื่อเก็นตะที่บอกว่ายินดีจะขับรถพาหล่อนกลับไปส่งที่บ้าน แต่ขอแวะบาร์ที่คุมอยู่ก่อน ลูจำได้ว่ายังกระเซ้าเขาอยู่เลยด้วยซ้ำที่อุตส่าห์ถ่อไปดื่มในบาร์คู่แข่งไกลถึงเฟรนช์วอร์ด หลังถ้อยคำหวานหูที่ว่า “แต่เพราะแบบนั้นฉันถึงได้เจอเธอไม่ใช่หรือไง?” กับริมฝีปากเจือรสชาติขมปร่าของบุหรี่ที่กดลงมาเร็วๆ สติของหล่อนก็ดูเหมือนจะปลิวหายไปพร้อมกับเหตุผลทั้งหมด

    ภายใน บาร์’ — อย่างที่เก็นตะว่าให้ความรู้สึกชวนหัวอย่างไรพิกล บทเพลงที่กำลังกระจายตัวตามลำโพงไม่ใช่ทั้งแจ๊ซหรือร็อกอย่างที่ควรเป็น ถ้าลูเข้าใจไม่ผิด มันคือเสียงกลองแบบชาวเฮติที่ทำให้หล่อนรู้สึกขนหัวลุกได้ไม่แพ้ความทึบทึมของบรรยากาศที่ชวนให้อึดอัด แขกส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มีผู้หญิงอยู่บ้างประปรายในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยที่ใกล้เคียงกับชุดชั้นใน ไม่มีคำถามใดทันได้ออกจากริมฝีปากสีแดง เมื่อเก็นตะจะถือวิสาสะโอบไหล่ พาขึ้นไปนั่งบนโซฟารับรองแขกวีไอพีที่ชั้นสอง เขาบอกให้หล่อนนั่งรอตามสบาย ขณะลงไปพูดคุยกับลูกน้อง ลูขอเครื่องดื่มเป็นเซเว่นอัพหนึ่งขวดแทนที่จะเป็นแอลกอฮอล์อย่างที่เขาเสนอ

    เพราะตำแหน่งที่นั่งซึ่งมองลงมาเห็นเวทีที่มีดวงไฟกลมล้อมรอบฉากหลังเป็นรูปผู้หญิงโป๊เปลือย อย่างชัดเจนพอๆ กับหญิงสาวหน้าตาสะสวยซึ่งกำลังร่ายระบำไปตามบทเพลงเฮติราวกับการบูชาไสยศาสตร์ได้อย่างน่าพรั่นพรึง โดยมีเพียงกางเกงชั้นในและถุงน่องตาข่ายปกปิดส่วนล่าง เผยหน้าอกขนาดมหึมาที่สั่นกระเพื่อมโดยไม่มียางอาย จนลูขอยินยอมรับความเขินอายทั้งหมดในโลกแทนหล่อนไว้เองเมื่อเสเปลี่ยนจุดสายตาไปทางอื่น กระนั้นหล่อนก็ยังคงคิดในแง่ดีว่านี่อาจเป็นบาร์สำหรับผู้ชายหรืออะไรทำนองนั้น อย่าลืมว่าที่นี่คือเดลเรย์ฮอลโลว์ จะมีธุรกิจที่เป็นสีเทาๆ บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

    กระทั่งตอนที่นัยน์ตาสีเข้มขยับเปลี่ยนไปยังมุมโซฟาทางฝั่งซ้าย มองเห็นการกระทำที่เกินกว่าแค่การพลอดรักในที่สาธารณะธรรมดาๆ ซึ่งลูต้องขอบอกว่าไม่มีภาพไหนที่ธรรมดาเลย ตั้งแต่วัยของคนทั้งสองที่ดูอย่างไรก็ห่างไกลเกินกว่าพ่อลูกเสียด้วยซ้ำ และเมื่อชายแก่ก้มลงซุกไซ้ใบหน้ากับหน้าอกอวบอัดของหญิงสาวที่อายุน่าจะพอๆ กัน ก็ทำเอาลูสำลักเซเว่นอัพที่กำลังยกขวดขึ้นดื่มเป็นการใหญ่

    โอ้พระเจ้า!

    นี่หล่อนโง่ขนาดไม่นึกเอะใจว่าที่นี่ไม่ใช่คลับหรือบาร์ทั่วๆ ไป แล้วมานั่งหน้าสลอนดื่มน้ำอัดลมในซ่องโดยไม่เอะใจเลยได้อย่างไร!


    A Man and a Woman
    Inspiration: Mafia II (Video Game, 2010) & Mafia III (Video Game, 2016)
    Playlist: Cliff Edwards – Good Little Bad Little You (Soundtrack from Mafia 2)












    .

    เพราะความมั่นใจที่สูงเสียดฟ้าอันเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ชุนสุเกะ มิจิเอดะจึงเชื่อว่าไม่มีใครในโลกใบนี้ที่จะดีเด่ไปกว่าเขา อาจไม่แม้แต่บิดาของตนเอง กระทั่งคำล่ำลือหนาหูถึงชื่อเสียงขององค์กรอาชญากรรมที่อาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอมไพร์เบย์อย่างตระกูลวินชี เพราะมันสมองเบื้องหลังอันชาญฉลาดที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง ลีโอ กาลานเต้จึงเป็นหนึ่งในชายไม่กี่คนที่เขาเอ่ยยกย่องได้อย่างไม่กระดาก ตรงกันข้ามกับหลานสาวของบุตรคนกลางผู้คุมธุรกิจการเดินเรือตลอดอีสต์โคสต์ ที่เขาจะจัดหล่อนรวมอยู่ในกลุ่มคนนับไม่ถ้วนที่จงเกลียดจงชัง...อาจถึงขั้นหยามเหยียด

    แอนนี่ รูเวลคือชื่อของหล่อน

    ชุนสุเกะได้พบกับหล่อนเป็นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของปี 1965 ตอนที่ลีโอเดินทางมาเยี่ยมเยือนอาของเขาในนิวบอร์โดซ์ หลังจากความสนิมสนมนับตั้งแต่เรือนจำกลางฮาร์ตแมนช่วงกลางปีสี่ศูนย์ อาคันตุกะจากเอมไพร์เบย์ยังคงนัดพบสมาชิกครอบครัวของเขาที่สโมสรเรือยอทช์พร้อมกับบุตรคนโตเหมือนอย่างทุกครั้งคราว หากสมาชิกรายใหม่ที่ติดสอยมาด้วยในคราวนั้นคือหญิงสาวผมสีบลอนด์ยาว ใบหน้าขาวยิ่งโดดเด่นจากดาร์กสโมกกี้อายและขนตาที่จับกันเป็นช่อ รับกับหมวกเบเรต์ ชุดคอเต่าแขนยาว มินิสเกิร์ต และรองเท้าบู๊ตยาวถึงเข่าสีดำสนิททั้งตัว ทำให้หล่อนดูเหมือนพวกบีตนิกที่เขาไม่มีวันจะเข้าไปเสวนาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอจากลีโอให้เขารับหน้าที่เป็นเจ้าบ้านพาหล่อนเที่ยวชมนิวบอร์โดซ์ที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก หลังย้ายจากบ้านเกิดของตนในเอมไพร์เบย์ไปพำนักอยู่ที่บ้านเกิดของมารดาแท้ๆ ณ ปารีสเป็นเวลานานถึงกว่าเจ็ดปี ทำให้ชุนสุเกะต้องจำยอมด้วยความไม่เต็มใจอย่างสุดซึ้ง

    บนรถสปอร์ตสองที่นั่งระหว่างทางไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะลุยเซียนาที่หล่อนบอกว่าต้องการจะไปโดยไม่อ้อมค้อม  มีเพียงเสียงของผู้ประกาศข่าวรายงานเรื่องเหตุยิงกันที่สวนสนุกร้างนอกเมืองแทรกผ่านลมที่พัดตีเข้ามา เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเปิดปาก หล่อนเองก็วุ่นวายกับการใช้ปากเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วเป่าลูกโป่งให้แตกดังโพล๊ะซ้ำไปมาอยู่อย่างนั้น

    อาจเรียกได้ว่าเป็นโชคดีสำหรับเขา เมื่อพิพิธภัณฑ์ปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากการเตรียมงานจัดแสดงของนักศึกษาสาขาศิลปะจากมหาวิทยาลัยแบรนด์ท ทว่าไม่ใช่สำหรับหล่อนที่แสดงความอาลัยอาวรณ์เมื่อชะเง้อชะแง้ผ่านบานกระจกเข้าไป ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาเคยมายังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือตอนทัศนศึกษาสมัยประถม อาจเพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยนึกให้ค่าต่อศิลปะทุกแขนง แม้น้องสาวคนเดียวจะอุทิศชีวิตให้กับวงการมายามากมายแค่ไหนก็ตาม ที่นี่ไม่มีอะไรควรค่ากับเวลา ชุนสุเกะจึงไม่เคยเหยียบย่างเข้ามาซ้ำสองเพื่อเสียมันไปอย่างเปลืองเปล่า

    กระนั้นเขาก็กำลังจะต้องเสียเวลาอันมีค่าไปอย่างเปลืองเปล่าอยู่ดี ในโรงภาพยนตร์โคเอนส์สเตตที่หล่อนมองเห็นระหว่างนั่งรถกลับที่พักเมื่อคืนวาน หล่อนไม่สนใจจะถามเขาเลยด้วยซ้ำว่าอยากดูเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหม ถึงคำตอบจะเป็น 'ไม่' เขาเต็มใจจะออกไปหาอย่างอื่นทำแล้ววนรถกลับมารับหล่อนเมื่อหนังจบแทนมากกว่า หากหล่อนก็ถือวิสาสะซื้อตั๋วหนังมาเผื่อเขา แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงเริงรื่นอย่างไม่รู้สาเสียอีกว่า “ปกติฉันชอบมีเพื่อนดูหนังค่ะ และฉันก็อยากดูเรื่องนี้มากๆ เลยด้วย อันที่จริงจะรอกลับไปดูกับเพื่อนที่เอมไพร์เบย์ก็ได้ แต่ไหนๆ เราสองคนก็ว่างทั้งที จริงไหมคะ?”

    หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า อัลฟ่าวิลล์

     











    2024年03月18日
    _______________
     ตั้งใจว่าจะแปลงนานมากกกกตั้งแต่สมัยสองสามปีก่อนแล้วมั้งวะ แต่มันติดอะไรไม่รู้เลยไม่แปลงสักที จะบอกว่าเพราะแต่งได้น้อยมากก็ไม่ใช่ เพราะที่น้อยกว่านี้กูก็ลงมาแล้วถ้าใจอยากจะลง ฟิคกูต้องแคร์ใคร TvT แต่ฟังกูเมาท์นะ น่าจะช่วงปลายปีไม่ก็ต้นปีกูก็คิดว่าจะเอามาแปลงสักทีเว้ย บทเก็นตะเดิมทีมันจะไม่ใช่ใครเลยเพราะตอนนั้นบทนี้คือตัวประกอบมีชื่อเฉยๆ (เป็นตัวร้ายเดี๋ยวก็ถูกยิงตายละนิ) แต่ในเมื่อกูไม่มีวันแต่งต่อแล้วงั้นก็มาเป็นพระเอกไปเหียเต๊อะ ภาพในหัวแรกสุดคือเก็นตะนี่แหละ เพราะลุคโฟร์คิงแม่งก็ต้องคนนี้ป่ะวะ แต่อะไรไม่รู้ กูคิดว่าจะฝืนทำไม กูเท มึงก็เท๊เทไปเลยตอนนั้น กูเลยลบๆ คิดว่าเอาพี่โยซิละกัน เสื้อยีนส์แสนล้านแปดตัวน่ะนะ แต่พอตอนทำรูปก็ค้างไว้แค่นั้น หมดอารมณ์แปลงเพราะอะไรก็ไม่รู้ กระทั่งวันนี้ที่มันได้กลับมาสู่เจ้าของที่แท้จริงอย่างเก็นตะ เหล้าเก่าในขวดใหม่ของมึงหลังจากโตเกียวทาวเวอร์นี่แหละที่เป๊ะที่สุดแล้วโว้ยยย! แคสต์ดั้งเดิมจ้าา / ส่วนพาร์ทล่างแรกสุดคือไทกะ พอส่งไม้ต่อก็ต้อง(ลูก)เทพๆๆ เหมือนกัน มันจะมีใครได้อีกนอกจากมิจิเอดะวะ ยิ่งหัวทองยิ่งคุณชายมากๆ กูตายนิ O<--<
     พาร์ทบนได้พล็อตมาจากตอนบุกซ่องในมาเฟีย 3 ตั้งแต่ที่เล่นไว้นานชาติเศษจนกูลืมชื่อซ่องไปแล้ว สวัสดี ชื่อเรื่องก็ได้มาจากชื่อเพลงในเกมของ Iron Butterfly ที่กูไปเสิร์ชมาแล้วเค้าว่า derived from "In the Garden of Eden" ว่ะมึง ส่วน Shotgun คือเพลงที่กูชอบที่สุดในเกมแล้ว เพราะฉากในหัวกูหลังจากนี้มันตะบู๊โว้ยยย! ยิงปืนโครมคราม ระเบิดภูเขาเผากระท่อม น้องๆ อาหลองเลยโว้ยมึง ไมเคิลเบย์ยังต้องเรียกพี่ พระเอกตัวจริงจะเป็นมาเฟียที่บุกซ่องนี้แล้วยึดเหมือนในเกม ที่คิดไว้จะมีฉากได้ไปหยุดชมวิวบนเนินด้วยนะ แต่เสียใจที่สุดคือแต่งไม่ถึงฉากบู๊ เสียใจด้วยที่พระเอกบู๊ตัวจริงของกูอย่างเคียวเฮก็ไป(จากใจกู)ละ ยังจำที่เคียวเฮอยากสู้กับจระเข้ด้วยมือเปล่าได้ไม่ลืม แต่โถถังอนิจจัง ไม่ทันได้ตะลุยบายูด้วยกัน U_U / ส่วนพาร์ทล่างมาจากไหนไม่รู้จำไม่ได้แล้วว่ะ แต่น่าจะเพราะกูดูคลิปขับรถแวดเมืองแล้วชอบมั้ง ช่วงนั้นน่าจะดูอัลฟ่าวิลล์พอดีแล้วเห็นเป็นฝรั่งเศส นิวออร์ลีนส์ก็ฝรั่งเศส ชื่อเรื่องเลยหาจากหนังฝรั่งเศส Un homme et une femme ที่ฉายในปี 1966 (กูก็ไม่เคยดูหรอกว่ะเพื่อน) แต่เพราะหาเพลงจากภาค 3 ที่ชอบไม่เปิงใจเลยขุดเอาจากภาค 2 แทน พอไปเสิร์ชดูถึงเพิ่งมึ๊งว่าเอมไพร์เบย์มันอยู่นิวหยอกนี่หว่า ฮ่าๆๆ แต่กูก็ยังชอบนิวบอร์โดซ์มากกว่าอยู่ดี >_< พล็อตเป็นไงต่อก็ไม่รู้ว่ะ จำไม่ได้ เหมือนว่าดูหนังเสร็จแล้วกลับโรงแรมไปคุยกันมั้ง คุยไปคุยมาแล้วได้กันมั้ง ไม่รู้ว่ะ แต่คงใช่แหละ / ว่าบาป ฟิคที่กูแต่งจากเกมสมัยนั้นภาษาดีจังวะ มีความฝรั่งจริงอยู่นะ ไม่ดอง ไม่ชุบบ๊วย ชอบเวลาเขียนถึงสถานที่ตัวละครโน่นนี่นั่น เดี๋ยวนี้ทำไมทำไม่ได้แล้ววะ งง
     ตรงนี้คือพื้นที่ด่าเพราะกูต้องการระบาย ก็มันสะใจหนิ
    - คุ้ยหาฟิคมาแปลงเพราะทราวิสเจแปนปล่อยซิงเกิลที่สี่แล้ว หลังจากที่ทำเพลงฝรั่งอะไรไม่รู้กูไม่ฟังมาเป็นปี แต่ในที่สุดก็เจอเพลงที่ใช่กับใจกูตั้งแต่ฟังครั้งแรกจากคลิปในคอนฯแล้วโว้ยยย! จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีเพลงรองที่ชอบอยู่ แต่ยังไม่สุด กระทั่งมาเจอ Okie Dokie! ที่กูหวีดอุมิหัวทองไปแสนล้านแปดชาติภพ (มึงแอบไปดูแล้วบอกว่าเก็นตะหล่อนิ) ไม่คิดไม่ฝันว่าทีจีไอจะใช่กับใจกูทุกอย่างทั้งเพลง...และลุคของอุมิที่...เหมือนสมัยกูเคยรักจะเป็นจะตายมาก อีเหี้ย น้ำตากูไหลพรากๆ อาจฟังเหมือนคำเปรียบเปรย แต่น้ำตากูไหลจริง ไม่เล่น เพราะมึงคิดดูนะ ผ่านมาสองปีกูยังไม่มุ้ปอรจากเรื่องที่เค้าถูกบังคับให้ไปเมกาทั้งที่ควรจะได้เดบิวต์ที่ญปจนกู(มึง)จำต้องเท และอุมิควรได้อยู่ช่องเกมมิ่งรูมนานแล้ว สัสเอ๊ย กูไม่มีวันอภัยให้เหี้ยแม่งที่ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้หรอก ใครมองไม่ออกก็โง่เต็มทีละว่ามันไม่ได้ทำเพื่อวงกูหรอก โธ่ วงที่เป็นตัวท๊อปของจูเนียร์ตอนนั้นแต่ดันให้ไปเมกาไม่มีกำหนด ผลงานอะไรก็ไม่มีให้ติดตามนอกจากยูทูบ แล้วใครมันจะไปอยู่ต่อวะ ตลก! แต่เพราะกูเชื่อในเรื่องเวรกรรมมีจริง อยากดันลูกรักมึงจนทำลายวงอื่นได้ก็เชิญ แต่ชาตินี้ยังไงวงลูกรักมึงก็ไม่มีทางได้อยู่จุดเดียวกับวงกู ไม่มีปัญญาได้ออก AGT จนฝรั่งรู้จักและได้อยู่ค่ายแคปิตอลหรอก อย่างน้อยตอนนี้ค่ายกูก็กำลังจะเดวงที่ดังชิบหายโคตรพ่องโคตรแม่งแล้ว ค่ายมึงก็ขายแฟมิลี่ปลอมๆ ดังอยู่วงเดียว แต่เกาะกลุ่มกันไว้ต่อไปนะ คอแห้ง เดี๋ยวมาต่อ
    - มาต่อละ บอกให้เลยว่าชาตินี้ชาติไหนกูก็ไม่มีวันอภัยให้หรอก กูรักทราวิสรักอุมิของกูมาเป็นปี กูติดตามวงไหนก็เพราะมีผลงาน แต่นี่ไม่มีทั้งแมกฯ ทั้งละคร ทั้ง +81 วันศุกร์ที่กูเคยนั่งหวีดโชคุระแล้วมีฟิคใหม่ไปตามเรื่องก็ไม่มีแล้ว พอเดบิวต์ก็ไม่ใช่ทราวิสอย่างที่กูเคยตามป่ะ พูดแล้วเจ็บใจชิบหาย เกิดมาไม่เคยเจอเมนคนไหนที่ใช่กับกูเท่านี้มาก่อน ทั้งหน้า ทั้งนิสัย ทั้งตอนเต้น ทั้งเป็นเกมเมอร์ แต่กูเลยจุดนั้นมาไกลแล้ว อุมิคนนั้นของกูได้จากไปแล้ว เค้าไปโน่นก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่กูคิดไปเองแต่แฟนคลับคนอื่นก็ยังพูด เสียใจอยู่ที่กลับไปเหมือนมึงกับเก็นตะไม่ได้ นอกจากมาแบบว็อบๆ แว็บๆ เหมือนฟอลกายล่องหน แต่กูไม่โกรธเว้ย กูไม่ได้เกลียดวงไหนทั้งนั้นแหละ อีผี! วงที่เพิ่งเดก็ไม่ได้เกลียด แค่น้อยใจ นอยง่าย เดี๋ยวสักพักก็หาย เพราะมึงต้องเข้าใจว่ามันย้อนรอยสมัยที่กูไม่ชอบบิโชเน็นเพราะเป็นคู่แข่งทราวิสตอนนั้นอย่างนี้แหละ U_U ยังไงก็ฝากรักษา legacy ของ TJ กับ Ae! ที่เราเคยรักด้วยกันเอาไว้ด้วย ทิ้งให้กูอยู่กับ HiB จนกว่าเค้าจะถึงฝั่งฝันได้เดบิวต์ตรงนี้ต่อไป ว่างๆ ก็แวะมาเยี่ยมกูได้ที่เกาะกะโหลก ให้นอนมาแบบคองภาคเก่านะ
     เห้อออ ถ้าแต่งฟิคได้เหมือนด่าคน ป่านนี้มีให้อ่านไปแล้วล้านเรื่องละ เห้อออ พูดถึงอุมิกับกูต้องเคอหมิดพัดลม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×