คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #143 : MAFIA 3: In-A-Gadda-Da-Vida / A Man and a Woman
เพราะใบหน้าอันหล่อเหลาที่มอมเมาหล่อนยิ่งกว่าแมนฮัตตันแค่สองแก้วกับแจ๊ซทรีโอ้ จะทำให้ลู ไรล์ต้องมาเจอเหตุการณ์อัปยศอดสูเป็นครั้งแรกในชีวิตตลอดยี่สิบปีของหล่อน
มันเริ่มต้นจากการที่เพื่อนสนิทชวนไปบาร์เปิดใหม่ในเฟรนช์วอร์ด ครั้นกำลังทาลิปสติกเป็นขั้นตอนสุดท้ายอยู่หน้ากระจก โทรศัพท์ก็ดัง แซลลี่โล่งอกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ติดต่อมาหาทันก่อนหล่อนจะออกไป แจ้งข่าวว่าคืนนี้คงไม่สะดวกแล้วเพราะจู่ๆ มารดาก็แวะมาหาจากนิวยอร์กโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า แล้วเซ้าซี้ให้หล่อนพาชายคนรักไปดินเนอร์ด้วยกันที่ฟริสโก้ฟีลด์สแทน ลูได้แต่หัวเราะขบขันขณะรับฟังคำบ่นยาวเหยียดของแซลลี่ที่มีต่อมารดาซึ่งมักสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเทียวไปมาจากบ้านเกิดที่ลูกสาวยังพำนักอยู่และเมืองใหญ่ที่อยู่กับสามีใหม่ตามอารมณ์อีกเป็นครู่ หลังจากวางสาย ลูที่นึกเสียดายถ้าจะต้องลบเมคอัพที่อุตส่าห์แต้มแต่ง ไหนจะชิฟต์เดรสตัวสวยกับรองเท้าแมรี่เจนสีมัสตาร์ดที่เพิ่งไปช้อปปิ้งมาเมื่อสองวันก่อน จึงตัดสินใจจับแท็กซี่มายังปลายทางนับแต่แรกเริ่ม ถึงแม้ว่าจะขาดเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดิมในค่ำคืนนี้ก็ตามที
บรรยากาศของบาร์เปิดใหม่นี้จัดว่าไม่เลว เครื่องดื่มรสชาติดี ดนตรีก็ฟังเพลิน มีสุภาพบุรุษมากหน้าผลัดเปลี่ยนเข้ามาทำความรู้จักและชวนไปเต้นรำ แต่ลูก็เพียงปฏิเสธไมตรีของพวกเขาอย่างสุภาพ เมื่อไม่คิดว่าอยากจะปฏิสัมพันธ์กับใครในค่ำคืนนี้ นอกจากการพาชุดและเมคอัพสวยๆ มาอวดโฉมให้ทุกคนในเฟรนช์วอร์ดได้เห็นพอเป็นกระษัยเท่านั้น
กระทั่งการมาถึงของเขา...ชายที่รั้งเรียกใบหน้าของหล่อนให้ขยับจากเวทีมายังเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ตัวข้างกาย ลูไม่ใช่พวกเห็นใครหน้าตาดีเข้าหน่อยก็ใจง่ายไปหมด แต่ชายที่แนะนำตัวเองว่าชื่อเก็นตะ มัตสึดะผู้นี้มีบางอย่างที่ช่างน่าดึงดูด ยิ่งเมื่อเขาเริ่มต้นพูดถึงบทเพลงที่วงทรีโอ้กำลังบรรเลงราวกับผู้เชี่ยวชาญ ผสานไปกับดนตรีที่เคล้าคลอเป็นฉากหลังชวนให้เพลิดเพลิน รู้ตัวอีกที หล่อนก็พบตัวเองนั่งอยู่บนโพโตแมกแอสเซนต์ที่แล่นฉิวไปไกลเกินกว่าบ้านเช่าในดาวน์ทาวน์ ข้ามฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปีมายังเดลเรย์ฮอลโลว์ที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมเยือนมานานมากแล้ว
อย่างน้อยๆ ก็เมื่อครอบครัวของหล่อนได้ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่ดาวน์ทาวน์เมื่ออายุได้สิบสาม ถึงจะเกิดและโตที่นั่น ลูก็ไม่ได้นึกผูกพันหรือว่าอาลัยอาวรณ์กับมันเลยแม้แต่น้อย เมื่อความทรงจำที่แจ่มชัดที่สุดคือการที่โจรขึ้นบ้านอยู่บ่อยครั้ง พอๆ กับการถูกจี้เอาทรัพย์สินริมถนน กระทั่งพ่อของหล่อนจับโจรได้คาหนังคาเขาหลังพาครอบครัวกลับมาจากการไปห้างสรรพสินค้า แล้วเกิดฮึดสู้แย่งปืนกันโครมครามจนมันลั่นเข้าที่ท้อง เป็นเหตุให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่นานนับเดือนจะทำให้ความอดทนของครอบครัวไรล์กับเดลเรย์ฮอลโลว์สิ้นสุดลง ณ วินาทีนั้น สิ่งเดียวที่ฝังหัวลูมาตลอดก็คือสภาพแวดล้อมอันย่ำแย่ชนิดว่าเกินเยียวยา ถ้าเพียงแต่หล่อนจะตระหนักสักนิด ก็คงไม่ติดรถมากับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงดีตั้งแต่แรกแบบนี้
ลูได้ขึ้นสวรรค์เพียงแค่หนึ่งค่ำคืน ก่อนที่จะร่วงหล่นลงมายังขุมนรกโดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว
เมื่อเก็นตะที่บอกว่ายินดีจะขับรถพาหล่อนกลับไปส่งที่บ้าน แต่ขอแวะบาร์ที่คุมอยู่ก่อน ลูจำได้ว่ายังกระเซ้าเขาอยู่เลยด้วยซ้ำที่อุตส่าห์ถ่อไปดื่มในบาร์คู่แข่งไกลถึงเฟรนช์วอร์ด หลังถ้อยคำหวานหูที่ว่า “แต่เพราะแบบนั้นฉันถึงได้เจอเธอไม่ใช่หรือไง?” กับริมฝีปากเจือรสชาติขมปร่าของบุหรี่ที่กดลงมาเร็วๆ สติของหล่อนก็ดูเหมือนจะปลิวหายไปพร้อมกับเหตุผลทั้งหมด
ภายใน ‘บาร์’ — อย่างที่เก็นตะว่าให้ความรู้สึกชวนหัวอย่างไรพิกล บทเพลงที่กำลังกระจายตัวตามลำโพงไม่ใช่ทั้งแจ๊ซหรือร็อกอย่างที่ควรเป็น ถ้าลูเข้าใจไม่ผิด มันคือเสียงกลองแบบชาวเฮติที่ทำให้หล่อนรู้สึกขนหัวลุกได้ไม่แพ้ความทึบทึมของบรรยากาศที่ชวนให้อึดอัด แขกส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มีผู้หญิงอยู่บ้างประปรายในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยที่ใกล้เคียงกับชุดชั้นใน ไม่มีคำถามใดทันได้ออกจากริมฝีปากสีแดง เมื่อเก็นตะจะถือวิสาสะโอบไหล่ พาขึ้นไปนั่งบนโซฟารับรองแขกวีไอพีที่ชั้นสอง เขาบอกให้หล่อนนั่งรอตามสบาย ขณะลงไปพูดคุยกับลูกน้อง ลูขอเครื่องดื่มเป็นเซเว่นอัพหนึ่งขวดแทนที่จะเป็นแอลกอฮอล์อย่างที่เขาเสนอ
เพราะตำแหน่งที่นั่งซึ่งมองลงมาเห็นเวทีที่มีดวงไฟกลมล้อมรอบฉากหลังเป็นรูปผู้หญิงโป๊เปลือย อย่างชัดเจนพอๆ กับหญิงสาวหน้าตาสะสวยซึ่งกำลังร่ายระบำไปตามบทเพลงเฮติราวกับการบูชาไสยศาสตร์ได้อย่างน่าพรั่นพรึง โดยมีเพียงกางเกงชั้นในและถุงน่องตาข่ายปกปิดส่วนล่าง เผยหน้าอกขนาดมหึมาที่สั่นกระเพื่อมโดยไม่มียางอาย จนลูขอยินยอมรับความเขินอายทั้งหมดในโลกแทนหล่อนไว้เองเมื่อเสเปลี่ยนจุดสายตาไปทางอื่น กระนั้นหล่อนก็ยังคงคิดในแง่ดีว่านี่อาจเป็นบาร์สำหรับผู้ชายหรืออะไรทำนองนั้น อย่าลืมว่าที่นี่คือเดลเรย์ฮอลโลว์ จะมีธุรกิจที่เป็นสีเทาๆ บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
กระทั่งตอนที่นัยน์ตาสีเข้มขยับเปลี่ยนไปยังมุมโซฟาทางฝั่งซ้าย มองเห็นการกระทำที่เกินกว่าแค่การพลอดรักในที่สาธารณะธรรมดาๆ ซึ่งลูต้องขอบอกว่าไม่มีภาพไหนที่ธรรมดาเลย ตั้งแต่วัยของคนทั้งสองที่ดูอย่างไรก็ห่างไกลเกินกว่าพ่อลูกเสียด้วยซ้ำ และเมื่อชายแก่ก้มลงซุกไซ้ใบหน้ากับหน้าอกอวบอัดของหญิงสาวที่อายุน่าจะพอๆ กัน ก็ทำเอาลูสำลักเซเว่นอัพที่กำลังยกขวดขึ้นดื่มเป็นการใหญ่
โอ้พระเจ้า!
นี่หล่อนโง่ขนาดไม่นึกเอะใจว่าที่นี่ไม่ใช่คลับหรือบาร์ทั่วๆ ไป แล้วมานั่งหน้าสลอนดื่มน้ำอัดลมในซ่องโดยไม่เอะใจเลยได้อย่างไร!
เพราะความมั่นใจที่สูงเสียดฟ้าอันเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ชุนสุเกะ มิจิเอดะจึงเชื่อว่าไม่มีใครในโลกใบนี้ที่จะดีเด่ไปกว่าเขา อาจไม่แม้แต่บิดาของตนเอง กระทั่งคำล่ำลือหนาหูถึงชื่อเสียงขององค์กรอาชญากรรมที่อาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอมไพร์เบย์อย่างตระกูลวินชี เพราะมันสมองเบื้องหลังอันชาญฉลาดที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง ลีโอ กาลานเต้จึงเป็นหนึ่งในชายไม่กี่คนที่เขาเอ่ยยกย่องได้อย่างไม่กระดาก ตรงกันข้ามกับหลานสาวของบุตรคนกลางผู้คุมธุรกิจการเดินเรือตลอดอีสต์โคสต์ ที่เขาจะจัดหล่อนรวมอยู่ในกลุ่มคนนับไม่ถ้วนที่จงเกลียดจงชัง...อาจถึงขั้นหยามเหยียด
แอนนี่ รูเวลคือชื่อของหล่อน
ชุนสุเกะได้พบกับหล่อนเป็นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของปี 1965 ตอนที่ลีโอเดินทางมาเยี่ยมเยือนอาของเขาในนิวบอร์โดซ์ หลังจากความสนิมสนมนับตั้งแต่เรือนจำกลางฮาร์ตแมนช่วงกลางปีสี่ศูนย์ อาคันตุกะจากเอมไพร์เบย์ยังคงนัดพบสมาชิกครอบครัวของเขาที่สโมสรเรือยอทช์พร้อมกับบุตรคนโตเหมือนอย่างทุกครั้งคราว หากสมาชิกรายใหม่ที่ติดสอยมาด้วยในคราวนั้นคือหญิงสาวผมสีบลอนด์ยาว ใบหน้าขาวยิ่งโดดเด่นจากดาร์กสโมกกี้อายและขนตาที่จับกันเป็นช่อ รับกับหมวกเบเรต์ ชุดคอเต่าแขนยาว มินิสเกิร์ต และรองเท้าบู๊ตยาวถึงเข่าสีดำสนิททั้งตัว ทำให้หล่อนดูเหมือนพวกบีตนิกที่เขาไม่มีวันจะเข้าไปเสวนาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอจากลีโอให้เขารับหน้าที่เป็นเจ้าบ้านพาหล่อนเที่ยวชมนิวบอร์โดซ์ที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก หลังย้ายจากบ้านเกิดของตนในเอมไพร์เบย์ไปพำนักอยู่ที่บ้านเกิดของมารดาแท้ๆ ณ ปารีสเป็นเวลานานถึงกว่าเจ็ดปี ทำให้ชุนสุเกะต้องจำยอมด้วยความไม่เต็มใจอย่างสุดซึ้ง
บนรถสปอร์ตสองที่นั่งระหว่างทางไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะลุยเซียนาที่หล่อนบอกว่าต้องการจะไปโดยไม่อ้อมค้อม มีเพียงเสียงของผู้ประกาศข่าวรายงานเรื่องเหตุยิงกันที่สวนสนุกร้างนอกเมืองแทรกผ่านลมที่พัดตีเข้ามา เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเปิดปาก หล่อนเองก็วุ่นวายกับการใช้ปากเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วเป่าลูกโป่งให้แตกดังโพล๊ะซ้ำไปมาอยู่อย่างนั้น
อาจเรียกได้ว่าเป็นโชคดีสำหรับเขา เมื่อพิพิธภัณฑ์ปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากการเตรียมงานจัดแสดงของนักศึกษาสาขาศิลปะจากมหาวิทยาลัยแบรนด์ท ทว่าไม่ใช่สำหรับหล่อนที่แสดงความอาลัยอาวรณ์เมื่อชะเง้อชะแง้ผ่านบานกระจกเข้าไป ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาเคยมายังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือตอนทัศนศึกษาสมัยประถม อาจเพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยนึกให้ค่าต่อศิลปะทุกแขนง แม้น้องสาวคนเดียวจะอุทิศชีวิตให้กับวงการมายามากมายแค่ไหนก็ตาม ที่นี่ไม่มีอะไรควรค่ากับเวลา ชุนสุเกะจึงไม่เคยเหยียบย่างเข้ามาซ้ำสองเพื่อเสียมันไปอย่างเปลืองเปล่า
กระนั้นเขาก็กำลังจะต้องเสียเวลาอันมีค่าไปอย่างเปลืองเปล่าอยู่ดี ในโรงภาพยนตร์โคเอนส์สเตตที่หล่อนมองเห็นระหว่างนั่งรถกลับที่พักเมื่อคืนวาน หล่อนไม่สนใจจะถามเขาเลยด้วยซ้ำว่าอยากดูเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหม ถึงคำตอบจะเป็น 'ไม่' เขาเต็มใจจะออกไปหาอย่างอื่นทำแล้ววนรถกลับมารับหล่อนเมื่อหนังจบแทนมากกว่า หากหล่อนก็ถือวิสาสะซื้อตั๋วหนังมาเผื่อเขา แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงเริงรื่นอย่างไม่รู้สาเสียอีกว่า “ปกติฉันชอบมีเพื่อนดูหนังค่ะ และฉันก็อยากดูเรื่องนี้มากๆ เลยด้วย อันที่จริงจะรอกลับไปดูกับเพื่อนที่เอมไพร์เบย์ก็ได้ แต่ไหนๆ เราสองคนก็ว่างทั้งที จริงไหมคะ?”
หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า ‘อัลฟ่าวิลล์’
_______________
ความคิดเห็น