คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #153 : NEON/NIGHT/CITY: CHO-EXTACY
ถึงจะรู้ว่าไม่ถูกไม่ควร ไม่สิ...ไม่ใช่คำนั้น แต่เป็น ‘ไม่มีสิทธิ์’ ในฐานะแฟนเก่าที่เลิกรากันไปด้วยไม่ดี ไม่สิ...ก็ไม่ใช่คำนั้นอีกนั่นแหละ เมื่อฝ่ายเดียวที่บอกเลิกด้วยไม่ดีก็คือเธอ แต่ไม่ใช่เพราะความไม่ใยดีของอีกฝ่ายด้วยหรอกหรือไงที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันต้องดำเนินมาถึงจุดนี้?
จุดที่ผู้หญิงซึ่งพร้อมพรักไปซะทุกอย่างไม่ว่าจะรูปลักษณ์ ฐานะ หรือตำแหน่งหน้าที่ในฐานะอาร์ตไดเรกเตอร์ของบริษัทโฆษณาบีเวฟ ต้องมาแอบทำตัวลับๆ ล่อๆ ในไนท์คลับบรรยากาศห่วยแตก เพลงอิเล็กทรอนิกส์จังหวะตื๊ดก็โหวกเหวก ถึงเครื่องดื่มราคาถูกจะเป็นสิ่งเดียวในที่นี้ที่พอกระเดือกได้ไหว แต่มันก็ช่างเป็นอะไรที่น่าสมเพชเวทนา หรือที่จริงแล้วมันอาจหมายถึงตั้งแต่แรกเริ่มเลยก็ได้ ที่หญิงสาวสมบูรณ์แบบอย่างเธอไปตกหลุมรักผู้ชายที่ด้อยกว่าทุกอย่างทั้งรูปลักษณ์ ฐานะ ถึงตำแหน่งหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครีเอทีฟไดเรกเตอร์จะเป็นหนึ่งในสองสิ่งที่สูงกว่าเธอ อย่างไรมันก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนให้เขาดีเลิศเลอขึ้นมาได้อยู่ดี
แต่ฟูจิอิ มิรุซึ่งเลิกรากับแฟนเก่าครึ่งปีที่มีชื่อว่าอิวาซากิ ไทโชมาเป็นเวลาสามสัปดาห์กับอีกสองวัน พร้อมกับปณิธานของความเกลียดชังแน่วแน่ขนาดสร้างสงครามเย็นในบริษัทให้บรรยากาศหนาวเยือกยิ่งกว่าช่องแช่แข็งทั้งที่เป็นฤดูร้อนอยู่ครามครัน ก่อนมิรุจะได้หัวร้อนเป็นไฟหลังจากที่เพื่อนสนิทนามสกุลเดียวกันอย่างฟูจิอิ เซย์รุจะกริ๊งกร๊างมาเล่าข่าว ขนาดที่ทำให้เธอต้องรีบบึ่งออกจากอพาร์ตเมนต์ทั้งที่ยังติดพันอยู่กับงานซึ่งหอบกลับมาทำในวันหยุดสุดสัปดาห์ว่า “ฉันเห็นไทโชควงอยู่กับยัยเด็กใหม่ในไนท์คลับในชินจูกุ รีบมาเลย! เดี๋ยวนี้!” เพื่อเปลี่ยนมาตาลุกตาร้อนเมื่อได้เห็นแฟนเก่าจี๋จ๋าอยู่กับสาวอื่น ทั้งหัวร่อต่อกระซิก พูดคุยใกล้ชิดสนิทสนม หรือที่มิรุควรต้องพูดว่าแทบสิงสถิตจากความพยายามของยัยเด็กใหม่ที่ต่างก็ไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่แล้วจนมิรุได้แต่เต้นเร่า
เพราะถึงเธอจะ ‘ไม่มีสิทธิ์’ อะไรทั้งนั้นในฐานะแฟนเก่าที่เลิกรากันด้วยไม่ดี แต่การที่เขาจะมูฟออนก่อนเธอ — ไปกับผู้หญิงที่เธอเกลียดส่วนเขาก็เคยบอกว่าไม่ใช่สเปค — เหมือนกับที่เธอก็เคยไม่ใช่สเปคของเขา — ก็เป็นเรื่องที่คนอย่างฟูจิอิ มิรุไม่มีวันทำใจยอมรับได้ลง!
มีคำกล่าวที่เคยทำให้มิรุหัวเราะเยาะหยันอย่างเช่นว่า “สิ่งที่แตกต่างย่อมดึงดูดกัน” และมันก็เป็นเช่นนั้นมาตลอดยี่สิบห้าปีดี แต่แม้กระทั่งบัดนี้ มิรุก็ยังไม่แน่ใจว่าจุดเริ่มต้นที่แท้จริงมาจากไหน จะเป็นตอนที่เขาช่วยกันคนจากบริษัทท่องเที่ยวชั้นล่างที่มาตามตื๊อให้เพราะบังเอิญขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกัน จะเป็นตอนที่เขาผ่านมาที่แผนกของเธอแล้วเอ่ยปากชื่นชมผลงานพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่น่ารักเป็นบ้า! หรือจะเป็นตอนที่เขาแค่วางมือตบลงบนไหล่เธอเป็นการช่วยปลอบใจที่โดนหัวหน้าแผนกบ่นว่าเสียใหญ่โตกับความผิดพลาดแค่เล็กน้อย ทั้งที่มิรุเคยเกลียดความเละเทะของเขาอย่างผมยาวระต้นคอที่ไม่เคยเซ็ต (และอาจจะไม่เคยหวีตามที่เพื่อนซี้ของเธอวิเคราะห์) การแต่งตัวในชุดเสื้อผ้าราคาถูกดูไร้รสนิยม หน้าตาอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ก็ไม่ได้ขนาดที่ใครต้องเหลียวหลังมอง อุตส่าห์ตัวสูงมากเป็นอันดับสองในบริษัทแต่ท่าทางเก้งก้างดูแล้วขัดหูขัดตา ไหนจะบุคลิกลักษณะอย่างกับตาลุงร้านเหล้าที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา พาลไม่ถูกชะตาจนเอาไปบ่นก่นด่าให้เพื่อนรักร่วมแผนกฟังอยู่บ่อยครั้ง แต่พอรู้ตัวอีกที มิรุก็ละสายตาจากผู้ชายที่แตกต่างกันคนละขั้วแบบนั้นไม่ได้อีกเลย
มากขนาดทำให้หญิงสาวที่ไม่เคยต้องสารภาพรักกับใครก่อนในชีวิตอดรนทนไม่ไหว เป็นฝ่ายบุกไปทำอย่างนั้นถึงหน้าอพาร์ตเมนต์สามชั้นสภาพกระจอก ทำเลย่ำแย่ บรรยากาศไม่น่าอภิรมย์ คะเนด้วยตาก็รู้ว่าคับแคบมากและคงจะถูกกว่าที่พักของเธอมากอย่างเทียบกันไม่ติด กระนั้นก็ไม่อาจหยุดความมุ่งมั่นระคนอับอายของเธอได้ เป็นครั้งแรกที่มิรุได้เห็นสีหน้าของไทโชอึ้งงันไป แต่ก็เป็นอย่างที่เธอมั่นใจว่าไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธ และไทโชก็เป็นคนรักที่ไม่เคยปฏิเสธความเอาแต่ใจของเธอในทุกเรื่องเลยได้อย่างน่าทึ่ง จนมิรุไม่คาดคิดว่าวันหนึ่ง เมื่อแผนกของเขารับเด็กฝึกงานสาวคนใหม่ท่าทางคุณหนูหน้าตาน่าหมั่นไส้ที่มีชื่อว่าโยชิเนะ รินเข้ามา ที่เอาไปเอามาดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะอยากเป็นแฟนใหม่ของหัวหน้าแผนกด้วยมากกว่า และเมื่อความอดทนของมิรุมาถึงจุดสิ้นสุดในงานเลี้ยงกับลูกค้าที่ยัยเด็กใหม่สบช่องทางออดอ้อนออเซาะแฟนของเธอได้เพราะเธอปลีกตัวจากการพูดคุยกับหัวหน้าของทางฝั่งโน้นไม่ได้ เป็นเพราะพิษรักแรงหึงที่ทำให้มิรุฟาดงวงฟาดงาหาเรื่องทะเลาะใหญ่โตตั้งแต่บนรถมาจนถึงห้อง กระทั่งคนรักที่ไม่เคยขัดใจเธอมาก่อนจะสบถออกมาด้วยความเหลืออด บอกว่าเธอมันโง่งี่เง่าไม่มีเหตุผล กระตุ้นให้มิรุที่รู้ตัวดีอยู่แล้วว่าเป็นคนโง่งี่เง่าไม่มีเหตุผลจริงแผดตะโกนใส่หน้าเขากลับไปว่า “งั้นก็เลิกกันไปเลยไป้!” เพียงเพื่อให้เขาเดินหัวเสียจากไปง่ายๆ พร้อมกับประตูห้องที่ปิดดังปังอย่างนั้น
และความคับแค้นเคืองโกรธของการถูกผู้ชายพรรค์อย่างนั้นหักหน้า ทำลายหัวใจกับอีโก้ที่สูงเสียดฟ้าจนยับเยิน ก็ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นความเกลียดชังเหมือนอย่างที่เธอกำลังเป็นอยู่นี้
หรือไม่...มันก็อาจเป็นความรักมาจนถึงตอนนี้ที่มิรุไม่อยากยอมรับต่างหาก เธอถึงได้รู้สึกว่าขอบตากำลังร้อน และเมื่อเขาก้มหน้าลงไปใกล้ มิรุที่สมเพชเวทนาตัวเองเต็มทีก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เธอควรจะเดินหนีไปให้ไกล
♥
หลังจากที่มิรุลุกขึ้นตอกส้นสูงเดินออกไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้ว เซย์รุที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนสนิทก็จะลุกพรวดพราดตามไปบ้าง หากเป็นในทิศทางตรงกันข้ามพร้อมกับคำสบถอย่างเดือดดาล ก่อนเธอจะปรี่เข้าไปกระชากแขนของไทโชให้หันมา แล้วเริ่มต้นแผดตะโกนโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้เปิดปากด้วยซ้ำว่า
“ไอ้ไทโช! ไอ้เฮงซวย! ไอ้ทุเรศ! ไหนนายเคยบอกว่ารักเพื่อนฉันนักรักเพื่อนฉันหนา แต่พอทะเลาะกันก็ไม่เห็นจะเคยไปงอนง้อขอคืนดีเลยสักครั้ง เอาแต่พูดจากระแนะกระแหนใส่ แล้วยังมีหน้ามาพลอดรักกับผู้หญิงคนใหม่ทั้งที่เพิ่งเลิกกันยังไม่ถึงเดือนดีด้วยซ้ำ แถมยังเป็นผู้หญิงคนที่ทำให้นายกับมิรุต้องทะเลาะกันด้วยอีก นายแม่งทำกับเพื่อนฉันแบบนี้ได้ยังไงวะ! มิรุไม่สมควรต้องมาร้องไห้เพราะผู้ชายส้นตีนอย่างนายเลยสักนิด!”
และเมื่อได้ยินชื่อของอดีตคนรัก ไทโชที่ยังคงงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะก้มหน้ามองเธอก็จะเปลี่ยนไปเป็นชะเง้อชะแง้มองผ่านผู้คนที่ยัดเยียดเบียดเสียด แล้วเอ่ยถามว่า “อะไรเซย์รุ? มิรุมาด้วยเหรอ?”
“เหอะ! นายควงยัยเด็กใหม่แล้วจะมาสนใจเรื่องของเพื่อนฉันทำไมอีกวะไอ้ไทโช! แต่ก็ดีแล้วที่มิรุได้มาเห็นกับตาตัวเอง จะได้เลิกจมปลักทั้งรักทั้งเกลียดอยู่กับคนอย่างนายที่ฉันบอกจนปากเปียกปากแฉะว่าให้เลิกงมงายสักที! จำใส่กะโหลกหนาๆ ของนายไว้เลยว่าคนอย่างมิรุก็หาผู้ชายคนใหม่มาควงได้ง่ายๆ เหมือนกันนั่นแหละ! และฉันหมายถึงผู้ชายที่เพอร์เฟกต์กว่านายทุกด้านอย่างคานาซาชิคุงที่ฉันเชียร์หมดหน้าตักด้วย! จำ!” เซย์รุยกนิ้วขึ้นชี้ ตะโกนด่าแบบไม่ไว้หน้า ก่อนเลียนคำที่รู้ว่าเพื่อนสนิทของตัวเองจะต้องพูดแน่ๆ เป็นการทิ้งท้ายว่า “ส่วนนายกับยัยเด็กใหม่จะไปรักกันจนตายที่ไหนก็ไปเลยไป้! ไปรักกันในนรกเลยยิ่งดี!” ก่อนสะบัดหน้าพรืด ลากแขนริวกะออกไปด้วยกันโดยไม่สนใจอะไรอีก
♥
เมื่อพ้นจากอากาศอุดอู้ขึ้นมาสัมผัสกับสายลมยามค่ำคืน ที่แม้ว่าอาจไม่ได้เฉียบเย็นบาดลึกลงไปจนถึงผิวเนื้อและทำให้หัวสมองกับอารมณ์ที่คุกรุ่นของมิรุเย็นลง เพราะมันยังคงเป็นคืนกลางฤดูร้อนที่เห็นว่าคงมีแต่ความฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้นที่จะเป็นจริงได้ กระนั้นมันก็ช่วยหยุดน้ำตาที่ขังคลออยู่ตรงหน่วยตาไม่ให้ไหลบ่าลงมาเป็นน้ำตกได้ชะงัด
แต่มันก็ควรต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มิรุคิด เพราะทำไมเธอถึงต้องมาร้องไห้อาลัยอาวรณ์ให้กับผู้ชายที่ไม่ได้ดีเลิศเลอหรือว่าคู่ควรกับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างเธอมาตั้งแต่แรกแล้วขนาดนั้นด้วย แค่หนึ่งคืนในตอนที่พลั้งปากบอกเลิกก็ถือว่ามากเกินพอ เหมือนกับความสมเพชเวทนาต่อตัวเองที่มิรุจะยอมให้มันคงอยู่แค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น มิรุตัดสินใจแล้วว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เธอจะทำเหมือนกับพวกเขาเป็นอากาศธาตุที่ไม่มีค่าหรือความหมายอะไร ต่อให้พวกเขาจะคบควงกันอย่างเปิดเผยในบริษัทที่ยัยเด็กใหม่คงดี๊ด๊าน่าดูก็ช่างมันปะไร ใช่ว่าเธอจะหาคนระดับเดียวกันในบริษัทแล้วคบควงอย่างเปิดเผยเหมือนกันไม่ได้สักหน่อย!
ทว่าปณิธานแน่วแน่ของเธอก็มีอันต้องสั่นคลอนลงไป จากเสียงตะโกนร้องเรียกชื่อของคนที่วิ่งมาขวางหน้าไว้ ไม่ทันที่มิรุจะได้หันหนีกลับไปยังทิศทางเดิม ไทโชก็จะฉวยคว้าข้อมือข้างหนึ่งไว้ เป็นเพราะเรี่ยวแรงของเขาที่ตัวใหญ่กว่ามาก อารามของคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยซวดเซสะดุดส้นรองเท้าสามนิ้วของตัวเอง แต่มิรุก็ไม่ทันได้ล้มตึงลงไปเพราะเขากระชากเธอเข้าหาตัวก่อนด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วมาก เพราะอย่างนั้นสภาพในตอนนี้ก็คือมิรุที่พยายามดิ้นหนีอ้อมแขนทั้งสองข้างที่รวบกอดจากข้างหลังในระยะที่หมิ่นเหม่สุดๆ!
“มิรุยังรักฉันอยู่เหรอ?”
เหมือนกับใบหน้าที่ก้มลงมาเป่ารดลมหายใจอยู่ข้างใบหูของเธอที่ก็อันตรายสุดๆ!
“เลิกยุ่งกับฉันแล้วจะไปรักกับยัยเด็กใหม่ที่ไหนก็ไปไป้!”
มิรุยังคงไม่หยุดความพยายามในการขืนขัดให้หลุดพ้น แต่นอกจากจะไม่เป็นผลแล้วยังคล้ายว่าจะถูกรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมจนมิรุคิดว่าเธอควรหยุดความพยายามไปก่อน...อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้
“โห เธอพูดเหมือนเซย์รุเปี๊ยบเลย ถ้ารู้ทุกเรื่องของกันขนาดนี้ งี้ที่เซย์รุบอกว่ามิรุยังรักฉันอยู่ถึงขนาดร้องไห้เพราะเห็นฉันกับรินก็จริงน่ะสิ”
“ใครมันจะไปร้องเพราะเรื่องไร้สาระอย่างนั้นก่อน!” มิรุที่ร้อนตัวจะรีบแหวใส่
“ปฏิเสธแค่เรื่องเดียวเองเหรอ?”
“ไม่ได้รักนายแล้วด้วยเหอะ ไทโช! ไม่ได้โง่งี่เง่าก็น่าจะดูออกไม่ใช่หรือไง!”
เรียกเสียงหัวเราะจากคำยอกย้อนประชดประชันอย่างที่เธอเก่ง และอย่างที่คงจะเป็นตัวตนของเธอจริงๆ มากกว่าตอนที่ยังคบหากัน แต่อาจเป็นความโง่งี่เง่าของเขาจริงๆ นั่นแหละถึงได้อ่านความเกลียดของเธอในความหมายแค่โดยตรงมาตลอด ทั้งมิรุที่เอาแต่ค่อนแขวะเขาทุกครั้งที่เจอหน้า แล้วยังไปทำตัวสนิทสนมกับหนุ่มร่วมแผนกอย่างคานาซาชิ อิซเซย์ที่รูปหล่อ พ่อรวย มีดีกว่าเขาทุกประการอย่างที่ไม่ว่าใครก็คงจะพูดว่าเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ใช่ว่าไทโชเป็นคนโง่งี่เง่าในเรื่องความรัก แต่เพราะมิรุเป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาอ่านไม่ออก บางครั้งเธอก็เก็บอารมณ์เก่ง ไม่ยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริง แต่บางครั้งก็ระเบิดออกมาง่ายๆ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย บ่อยครั้งที่พูดจริง แต่บ่อยครั้งก็ปากไม่ตรงกับใจที่ดูเหมือนจะมีแค่เพื่อนสนิทของเธอที่อ่านออก ถ้าไม่ใช่เพราะเซย์รุมาตะโกนด่าปาวๆ ใส่หน้าเขาวันนี้ ไทโชก็คงไม่มีวันอ่านความนัยที่แท้จริงของมิรุออกอยู่วันยังค่ำ
“ฉันมันโง่จริงๆ นั่นแหละถึงได้ไม่รู้อะไรเลย”
“งั้นก็ดี!” มิรุกระแทกเสียง เปลี่ยนไปพยายามแกะมือของเขาออก...ที่ก็สูญเปล่าชะมัดยาด! “ฉันไม่ยุ่งกับผู้ชายที่มีแฟนอยู่แล้ว เพราะงั้นก็ปล่อยฉันสักที!”
“ฉันไม่มี”
“จะจูบจะเอากันขนาดนั้นยังมีหน้ามาพูดเนอะ”
“เห็นขนาดนั้นเลยเหรอ?” กลั้วไปกับเสียงหัวเราะขบขันของไทโชที่ยิ่งฟังดูน่าหงุดหงิดเป็นบ้า! “ยังไม่ได้ทำอะไรพวกนั้นหรอกน่า”
หนนี้ไทโชอ่านความหึงหวงของมิรุออกได้ชัดเจน จากการที่เธอรวบรวมเรี่ยวแรงดิ้นขลุกขลักอย่างกับเฮือกสุดท้ายในชีวิต พอเห็นว่าไม่มีทางแน่ก็ทำในสิ่งที่ไทโชไม่คาดคิดว่าคนอย่างเธอจะกล้าทำนั่นคือการกัดแขนเขาเข้าเต็มรักจนต้องยอมปล่อย ก่อนที่มิรุจะหันมายืนแหงนคอประจันหน้ากับเขาแทน
“นายจะทำอะไรกับยัยเด็กใหม่ก็ไปทำเลยไป้!”
“ทำไม? เธอจะได้ไปทำกับคานาซาชิบ้างหรือไง?”
“ฮะ? คานาซาชิมาเกี่ยวอะไรด้วย? ฉันกับเขาเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนหรือสิงกันเอากันอย่างที่นายกับยัยเด็กใหม่ทำเลยสักนิด!” มิรุยอกย้อนด้วยความดุเดือดเลือดพล่าน “อย่างน้อยๆ นะ ฉันก็ไม่เคยกลืนน้ำลายตัวเองแล้วไปคบกับคนที่บอกว่าไม่มีทางคบด้วยก็แล้วกัน!”
ให้ไทโชได้แค่นหัวเราะออกมาหลังจากคำพูดประโยคนั้น “เหมือนเธอจะลืมไปหรือเปล่าว่าก็เคยพูดแบบนั้นถึงฉัน”
แล้วเมื่อนั้น ใบหน้าของมิรุที่จนมุมจากความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยงอง้ำลงไปกว่าเดิม
“ฉันไม่ได้ชอบรินแบบนั้น ไม่มีวันคบกับรินด้วย เธอเลิกคิดมากได้แล้ว”
“อ๋อ ไม่มีวันคบจริงจัง แต่แค่เล่นๆ คงไม่เกี่ยงหรือเปล่าล่ะ?” มิรุยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นแสดงความเย้ยหยัน “ถ้าฉันทำกับคานาซาชิเหมือนที่นายทำกับยัยเด็กใหม่ตอนที่เรายังคบกันอยู่ นายคงไม่คิดมาก หาเรื่องทะเลาะว่าฉันโง่งี่เง่าไม่มีเหตุผล เพราะนายแยกแยะได้ว่ายังไงฉันกับเขาก็เป็นแค่เพื่อนร่วมแผนกกันงั้นสิใช่ไหม?”
“ฉันไม่เคยเล่นๆ กับใครทั้งนั้นแหละมิรุ”
และการได้เห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายที่ดันไปให้ความสนใจในเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรสักหน่อยก็จะทำให้มิรุปรี๊ดขึ้นมา หัวของเธอร้อนฉ่าไม่ต่างจากความมุ่งมั่นที่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะทำมันจริงอย่างแน่นอนในตอนที่เอ่ยด้วยความเยียบเย็น เฉกเช่นเดียวกับนัยน์ตากร้าวแข็งที่สบประสานว่า
“งั้นจากนี้ฉันก็จะไม่เล่นๆ กับคานาซาชิเหมือนกัน”
ทว่าไทโชก็จะสวนย้อนด้วยคำพูดที่หยุดฝีเท้าในส้นสูงเอาไว้ได้ชะงัดว่า
“ทั้งที่ยังรักฉันเนี่ยเหรอ?”
“ใช่!” มิรุกระแทกเสียงกลับไปโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย “เพราะฉันไม่ใช่คนน่าสมเพชที่ต้องรอคอยความรักจากนายแค่ฝ่ายเดียว ในเมื่อมีคนพร้อมให้ความรักฉันอยู่ทั้งคน เพราะงั้นถ้านายไม่รักฉันแล้วก็ไปให้พ้นๆ หน้าฉันเลยไทโช! จะไปลงนรกกับยัยเด็กใหม่ที่ไหนก็ไปไป้!”
“งั้นถ้าฉันยังรักเธอก็ไม่ต้องไปไหนสินะ”
มิรุไม่ทันได้เดินหนีไปอย่างที่ตั้งใจไว้ในทีแรก เมื่อเขาจะกระชากแขนแล้วเธอพาที่ดิ้นหนีเต็มที่แต่ก็สู้เรี่ยวแรงของผู้ชายไม่ไหวไปเหวี่ยงเข้าใส่เบาะหลังรถที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแทน ริมฝีปากของเธอยังไม่ทันได้ขยับเป็นคำถาม นอกจากเสียงร้องที่หลุดรอดออกมากับคำด่าที่ก็จะถูกกลบกลืนจากอวัยวะเดียวกัน เป็นความรุนแรงเฉกเช่นเดียวกับมือที่กดไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้ให้แผ่นหลังแนบไปกับประตู ตลอดหกเดือนที่คบกันมา มิรุไม่เคยได้รับหรือแม้แต่คาดหวังความรุนแรงที่เกือบจะเรียกได้ว่าเร่าร้อนจนแบบนี้จากอดีตคนรักมาก่อน หากไทโชที่ราวกับเป็นคนใหม่และกำลังมอบประสบการณ์ใหม่ให้ในยามนี้ปลุกเร้าความรู้สึกที่มิรุไม่เคยได้สัมผัส หัวสมองของเธอขาวโพลนแค่จากลิ้นที่รุกไล่และปิดกั้นทางเดินหายใจอย่างที่อาจกำลังทำให้เธอตายได้จริงโดยไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรย แม้ว่าอาจเป็นเธอเพียงฝ่ายเดียวเพราะแค่แรงกดของปลายเล็บบนผิวเนื้อที่ท่อนแขนซึ่งพ้นจากเสื้อเชิ้ตคงไม่ทำให้เขาถึงตาย หรือไม่มันก็อาจเป็นตัวกระตุ้นความเจ็บปวดมากพอให้เขาถ่ายทอดมันให้กับเธอจนกระอัก กระทั่งปวดหน่วงที่ท้องน้อยและหว่างขาตรงนั้นซึ่งยังไม่ได้รับการแตะต้องหรือว่าชิดใกล้ใดๆ เลยด้วยซ้ำ
แต่ขณะที่มิรุกำลังคิดแบบนั้นเขาก็จะผละจาก ริมฝีปากคู่นั้นเลอะลิปสติกสีแดงที่คงจะติดทนอยู่หรอกจากการบดขยี้ขนาดนั้น ไหนจะน้ำลายที่เลอะเปรอะเหมือนกับที่เธอก็คงจะเป็นจากนิ้วหัวแม่โป้งที่เขาเอื้อมมาเช็ดให้
“คานาซาชิให้เธอไม่ได้อย่างฉันหรอก ใช่ไหม?”
“งั้นนายก็อย่าให้ใครนอกจากฉันแค่คนเดียวสิ ไทโช”
ก่อนที่มิรุจะขยับตัวเพื่อโผนเข้าหาร่างของเขาในท่านั่งคร่อมบนตัก เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกดไหล่ทั้งสองข้างของเขาลงไปแทน
“แล้วถ้านายยังใกล้ชิดกับยัยเด็กใหม่แบบนั้น ฉันก็จะทำยิ่งกว่านั้นกับคานาซาชิเป็นร้อยเท่าพันเท่า ร้อยครั้งพันครั้ง และแน่นอนว่าฉันจะไม่ได้ลงนรกกับเขาด้วย”
“เธอนี่มัน...” ด้วยเสียงหัวเราะและใบหน้าประดับรอยยิ้มในแบบของอิวาซากิ ไทโชที่มิรุเคยรู้จัก
หากมิรุที่ไม่ได้ต้องการสิ่งเดิมๆ ที่เคยรู้จักก็จะก้มลงไปปิดปากเขาเสียเอง มือทั้งสองเปลี่ยนไปโอบรอบลำคอ แนบร่างกายที่ยังอยู่ในสภาพสวมเสื้อผ้ามิดชิดเข้าไปประชิดจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน และมิรุก็ต้องการอย่างนั้น ขณะปล่อยให้มือใหญ่กว่าที่ร้อนจัดลากไล้สอดเข้าไปตามผิวเนื้อของเธอจนเหมือนกับว่าจะไหม้ และมันอาจทิ้งรอยแดงไว้จากแรงที่กดบีบลงไป ราวกับว่าเขาเองก็ต้องปลดปล่อยความทรมานจากจูบที่แลกเปลี่ยนกันจนแทบสำลักและการบดเบียดด้านล่างที่ไม่มากไปกว่านั้นในสักทาง แม้อาจจะยังไม่ใช่ที่นี่ ในเวลานี้ แต่ในค่ำคืนนี้ มิรุก็พร้อมที่จะทำความรู้จักกับไทโชคนใหม่...และตัวเธอคนใหม่...ที่จะจมดิ่งลงไปในความสุขสุดยอดนี้ไปด้วยกัน
_______________
_______________
ความคิดเห็น