ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #101 : FF7: on cloud nine / good night, until tomorrow

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 66


    on cloud nine
    Inspiration: Final Fantasy VII Remake (Video Game, 2020)
    Playlist: [.que] – Hope 











    .

    อามาโนะ อลิซคิดว่าเธออาจจะกำลังตาฝาดไปเอง ในตอนที่ผลักบานประตูออกจากร้านขายของเก่าซึ่งเทียวมาทำธุระให้แม่ แล้วสัมผัสกับสายลมที่กำลังพัดแรงจนเส้นผมสีดำยาวสยายของเธอปลิวหวือ เรียกเสียงหัวเราะขบขัน ขณะมือเรียวปัดป่ายมันออกมาเกาะเกี่ยวกับใบหู

    จวบกระทั่งวินาทีที่สิ่งเบียดบังพ้นไปจากวงหน้า อลิซจึงได้เห็นภาพที่อีกฝั่งถนนปรากฏอยู่ในแววตาสาดสะท้อนอย่างชัดเจน

    ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆหมอกตั้งเค้า อีกไม่นานฝนก็คงจะตกตามคำพยากรณ์อากาศ

    แต่ข้างในใจของอลิซกลับส่องสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าครั้งไหนๆ

    เมื่อได้หวนกลับมาพบหน้าเขา...อีกครั้ง

     

    “ทั้งที่ท้องฟ้าน่าหดหู่ตั้งขนาดนี้ แต่ทำไมเธอได้ถึงดูอารมณ์ดีจังนะอลิซ”

    “อย่างนั้นเหรอคะ?” อดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงหัวเราะน้อยๆ ออกมา กระนั้นก็อย่างสดใสเสียจนเพื่อนร่วมงานควบตำแหน่งผู้จัดการที่นั่งทอดหุ่ยอยู่หลังเคาน์เตอร์กับลูกค้าจำนวนน้อยนิดในร้านอาหารยามบ่ายเป็นต้องนิ่วหน้า

    จริงอยู่ที่ปกติเด็กสาวอายุน้อยกว่าผู้นี้มักจะมีรอยยิ้มแต้มแต่งบนใบหน้า อาจมากกว่าวาจาที่นอกเหนือจากคำทักทาย แนะนำมื้ออาหาร ตอบรับมุกตลกบ้างนานๆ ที และกล่าวขอบคุณหรือขอโทษให้แก่ลูกค้าในวันหนึ่งๆ หากตลอดสองปีที่ทำงานด้วยกันมา ฟุคาซาวะ ทัตสึยะก็ไม่เคยเห็นเพื่อนร่วมงานแสดงทีท่าเหมือนกำลังทำงานอยู่ในโกลด์ซอสเซอร์ แทนที่จะเป็นสตีเวนส์เรสเตอรองต์ ร้านอาหารเล็กๆ ตรงหัวมุมถนนของมิดการ์ที่น่าเบื่อหน่ายไปวันๆ เช่นนี้มาก่อนเลย

    เพราะอย่างนั้น ความเป็นไปได้เดียวที่เขาพอจะอนุมานได้ก็คือ

    “หรือว่าจะมีความรัก?”

    “ความรักอะไรไม่มีหรอกค่ะ!” เสียงหัวเราะและใบหน้าที่คล้ายว่าจะเปล่งประกายขึ้นกว่าเดิมของเธอตรงกันข้ามกับคำตอบเห็นๆ

    ทัตสึยะคิดว่าจะเซ้าซี้ แต่ก็รู้ว่ากับคนอย่างอลิซเห็นทีคงจะป่วยการเปล่า ปากของเจ้าหล่อนหนักพอๆ กับหินถ่วงน้ำ ต่อให้เอาคีมเหล็กมาง้าง หากตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่มีวันเอ่ยปาก ก็จะไม่มีทางเอ่ยปาก

    ถ้ามองในแง่การเก็บความลับ ต้องยอมรับว่าเธอคือตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ไว้วางใจได้ อาจบอกได้ว่าเธอเก็บความลับของพนักงานร้านหรือลูกค้าที่ผ่านมาแล้วผ่านไป มากเสียจนถ้าเธอเป็นบอลลูน คงจะระเบิดแตกไปแล้วกับการเก็บทุกเรื่องเอาไว้กับตัวโดยไม่เคยแพร่งพรายมันออกมา นี่อาจจะพอเรียกว่าเป็น ความสามารถพิเศษของพนักงานเสิร์ฟธรรมดาๆ ได้อยู่ล่ะมั้ง ไม่แน่ว่าถ้าเธอหันมาเอาดีทางด้านเป็นสายให้ตำรวจ หรือเป็นสปายล้วงความลับให้กับบริษัทคู่แข่งของชินระก็น่าจะรุ่งได้ไม่ยาก แต่เมื่อดูจากการใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่เคยบ่นว่าขัดสนเรื่องเงินทองจำนวนน้อยนิด หรือทิปที่ได้บ้างไม่ได้บ้างจากการเป็นพนักงานเสิร์ฟ ทั้งยังขาดไร้ความทะเยอทะยานที่จะพาตัวเองไปไกลเกินกว่าเขตสลัมของมิดการ์แล้ว ทัตสึยะกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าไม่มีทางที่อลิซจะเลือกทำงานที่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนั้นอย่างแน่นอน




    good night, until tomorrow
    Inspiration: Final Fantasy VII Remake (Video Game, 2020)
    Playlist: SixTONES – Tu-tu-lu 











    .

    แม้จะอยู่ที่คอสต้า เดล โซล มาเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว อามาโนะ อลิซก็ยังคงดื่มด่ำกับวิวท้องทะเลที่มองเห็นได้จากบ้านพักตากอากาศ จนทำให้สามารถมองข้ามปัญหามั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นจากชายที่น่ารำคาญที่สุดในโลกไปได้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ในตอนที่สูดเอาอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าผ่านบานหน้าต่างที่เลื่อนเปิดขณะนี้ หลังจากเสียบกาน้ำร้อน ทอดแฮม แล้วตามด้วยไข่ดาวในกระทะเดียวกันเพื่อจะได้ซับเอาน้ำมันที่ไหลออกจากแฮมมาช่วยเพิ่มรสชาติจนหอมฟุ้งชวนให้น้ำลายสอแล้ว ถึงค่อยออกจากส่วนห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์สำหรับรับประทานอาหาร ไปยังห้องนอนใหญ่ที่สุดทางเดิน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ห้องของตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องเคาะประตู เพราะหนึ่ง...มันไม่ใช่หน้าที่ และสอง...หน้าที่ของเธอก็คือการปลุกนายจ้างในเวลาเก้าโมงตรงของทุกวัน ไม่ว่าเขาจะนอนหลับหรือทำอะไรอยู่ก็ตาม

    เช่นเคยที่เมื่อเธอรูดม่านเปิดหน้าต่างออกไปเพื่อให้แสงแดดและอากาศปลอดโปร่งถ่ายเทเข้ามา เขาก็จะหันหน้าหนี ยกหมอนอีกใบขึ้นปิดหน้าแล้วส่งเสียงคำรามในคอด้วยความขุ่นเคืองใจแต่หัววัน หากอลิซเลิกสนใจความเห็นของเขาไปตั้งนานแล้ว กล่าวอรุณสวัสดิ์ด้วยน้ำเสียงสดใสไม่ต่างอะไรจากแสงแดดจัดจ้าในยามเช้า กางรถเข็นที่วางอยู่ตรงมุมห้องก่อนลากมันมาอยู่ข้างเตียงนอน อีกครั้งที่เธอไม่รั้งรอคอยคำขอของเขา เมื่อออกแรงดึงมือหนาให้ลุกขึ้นนั่งถึงจะอย่างทุลักทุเล นี่เป็นขั้นตอนของงานที่เหนื่อย แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าง่วงงุนแสดงความรำคาญใจนั้น อลิซก็คิดว่ามันสร้างสีสันได้ไม่เบา และไม่ว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่ สุดท้ายก็ต้องจำยอมขึ้นไปนั่งบนรถเข็นให้เธอพาเข้าไปในส่วนของห้องน้ำอยู่ดี

    อีกหน้าที่หนึ่งคือการเปิดน้ำในอ่างเตรียมไว้ตั้งแต่เช้า อลิซทำหน้าที่นี้หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน ย่องเงียบผ่านประตูบานเดิมนั้นเข้ามาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ประสาทสัมผัสของเขาเคยแม่นยำฉับไว แต่หลังจากเวลาผ่านไปและพบว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจากผู้ดูแลหน้าโง่ที่ไม่เป็นพิษภัยกับใครทั้งนั้นนอกจากตัวเธอเอง เขาจึงเลิกทำให้เธอสะดุ้งโหยงทุกครั้งคราวที่กระบอกปืนสีเงินวาวจะถูกเล็งเข้าใส่

    “ให้ฉันอยู่ช่วยไหมคะ?”

    “ออกไป!”

    เมื่อนั้นอลิซจะหัวเราะคิก ขานรับคำเสียงยาว ก่อนหมุนตัวออกจากห้องแล้วปล่อยให้นายจ้างทำกิจวัตรยามเช้าไปอย่างทุลักทุเลเช่นทุกครั้ง ทั้งที่เธอไม่เกี่ยงในการช่วยอำนวยความสะดวกให้เขาเท่าที่พอจะทำได้ กระนั้นก็ดูเหมือนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายกระดากอายเสียเอง เขาไม่เคยให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายกับการช่วยอาบน้ำหรือว่าแต่งตัว มีหลายครั้งที่อลิซคิดว่าเขาน่าจะจ้างผู้ดูแลเพศเดียวกันที่สามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่เธอทำไม่ได้จะดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร บิดาของเขาถึงได้ดูชอบอกชอบใจเธอนักหนาหลังจากการสัมภาษณ์...ที่ใกล้เคียงกับการสนทนาและชวนดื่มคราฟต์โซดาจากเขตร้อนที่ตนกำลังนิยมอย่างออกรสชาติ ชนิดที่ว่าถ้ามันเป็นแอลกอฮอล์เธอคงจะเมาเละเทะไปแล้วเสียมากกว่า แต่แค่เท่านั้น เธอก็จะได้งานเป็นผู้ดูแลให้ลูกชายที่ถูกประทุษร้ายจากศัตรูที่ยังหาไม่เจอโดยการผลักตกจากบันไดในงานเลี้ยง โชคดีที่มันไม่ได้สูงขนาดนั้น เขาจึงลงเอยด้วยการที่ซี่โครงและขาข้างขวาหัก ต้องใช้สายรัดพยุงลำตัวและใส่เฝือกที่ขาเพื่อช่วยในการยึดติด

    แต่เนื่องจากประธานทากาฮาชิไม่ต้องการให้ลูกชายไปทำงานในสภาพนี้ เช่นเดียวกับอารมณ์ของเขาที่ดูเหมือนว่าจะเลวร้ายลงกว่าเดิมจากการที่ไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจ อันที่จริง อลิซเป็นผู้ดูแลรายที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้หลังจากที่ทุกคนถูกไล่ตะเพิดด้วยสิ่งของและคำพูดออกมาหมด แน่นอนว่าหญิงสาวเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เธอโดนเขาปาเหรียญใส่หน้าและเล็งปืนเป็นการต้อนรับทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ถ้าจะบอกว่าไม่ตกใจก็คงเป็นเรื่องโกหก เพราะมุมเหรียญนั้นกระแทกใส่หน้าผากเข้าอย่างจังจนเธอปวดจี๊ด รู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลซึมลงมานิดหน่อย กระนั้นเธอก็ไม่ได้ถือสาความเกรี้ยวกราดของคุณชายที่ต้องมาอยู่ในสภาพผู้ป่วย ไหนจะค่าจ้างสูงลิบลิ่วที่เธอตั้งใจว่าจะแบ่งไปให้พ่อกับแม่เป็นเงินทุนเปิดร้านอาหารเล็กๆ หลังถูกญาติโกง และช่วยจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนให้ตัวเองกับฟูกะ น้องชายที่เพิ่งจะขึ้นไฮสคูล เพราะอย่างนั้นอลิซจึงยังคงยิ้มร่าอย่างกับคนโง่อยู่ได้ในตอนที่แนะนำตัวว่า “ฉันอามาโนะ อลิซ จะมาดูแลคุณทากาฮาชิ เคียวเฮ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ”












    2023年06月21日
    _______________
     ฉลองที่กูได้ PS5 ก่อนวันที่ FFXIV ออกหนึ่งวัน (แต่ไม่ได้เล่นเดย์วันเพราะไม่มีตังค์ซื้อจ้าา) แต่เพราะเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้กูอยากได้เครื่องใหม่มากถึงขนาดครั่นเนื้อครั่นตัวจริงๆ คือตั้งแต่ตอนปล่อยเทรเลอร์ FFVII REBIRTH ที่จะออกในปีหน้า กูเลยนึกถึงฟิคที่แต่งไว้ตั้งแต่สมัยภาครีเมคปี '20 บาปบุนที่เผอิญเป็นช่วงย้ายมาสายเด็กจอห์นนีส์พอดีเลยไม่ได้สานต่อฟิคเกมที่ยังแต่งไม่จบ เสียดายมากเพราะกูจะบอกเลยว่ามีฟิคยิบย่อยที่แต่งค้างไว้เยอะพอประมาณ แต่แต่งสั้นมากจนเอามาลงแทบไม่ได้เลย ฮ่าๆๆ อีเหี้ย จริงๆ สองเรื่องนี้ก็สั้น แต่กูคนเหี้ย จะเปิดทอล์คมาอวดว่าซื้อคอนโซลใหม่ ใครจะทำไมวะ
     แรกสุดเลยนะ กูจะเปลี่ยนบทพี่คลาวด์เป็น...คนที่เล่นเกมสแมชแล้วเลือกคลาวด์ทุกตาจนกูสูนคนนั้นแหละ 55555 แต่พอคิดว่ากูยังมีฟิคทั่นประธานเหลืออยู่อีกเรื่องด้วย งั้นแก๊งสีม่วงกู๊ดไลฟ์ก็กลับมาให้หมดเลยดิเว้ยเฮ้ย! ก็ให้บังเอิญที่พี่ฟุกกะคอไฟนอลตัวจริงก็สีม่วง (ไลฟ์ FFXIV ลงช่องเกมมิ่งรูมเดย์วันเลยโว้ยชาวเรา) งั้นมา! ขาดสีม่วงคันไซอีกคนใช่ไหม งัันก็ยัดบทน้องชายมา! แต่อลิซมีสองคนเพราะไหนๆ อาร์เทมิสกับทริปเปิลเอสก็ได้เป็นวงพี่น้องกัน (เสียดายตรงวงน้องไม่มีสีม่วงเลยอดง่ะ เป็นโอเปร่าพิงค์ ว้าว)
    - เรื่องแรกตั้งใจแต่งให้คลาวด์แค่ไหนดูได้จากชื่อเรื่อง บอกเลยว่าซึ้งมาก อีโมชั่นแนล อีปิค ฮาร์ทเฟลต์ TT_TT จำได้เลยว่าแต่งเรื่องนี้เพราะอยากถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้กลับมาเจอรักแรกในรอบสิบปีอีกครั้ง เพราะมึงรู้ว่ากูรักคลาวด์มาก บ้าภาคเจ็ดเหมือนวัวเหมือนควาย เสียดายที่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน (อีกเหตุผลหนึ่งเพราะพอกูโตแล้วแม่งย้ายไปชอบทั่นประธานแทนว่ะ รักแท้แพ้ทุนนิยม) แต่ก็จำพล็อตได้หมดเลยจนถึงตอนนี้ / เคนกับอลิซเคยอยู่ละแวกบ้านเดียวกันสมัยเด็ก เล่นด้วยกันบ้างแต่ไม่สนิทกัน ทีนี้ก็ห่างหายกันไปนานมากเพราะเคนไปเป็นทหารรับจ้าง (ก็ตั้งใจให้เป็นสิบปีเลยนะ เหมือนที่กูรอภาครีเมคนั่นแหละง่ะ) อลิซแอบชอบเคนข้างเดียวมาตลอด สุดท้ายเดี๋ยวตอนจบอลิซจะไปโบสถ์ (ขอให้นึกภาพเป็นเมืองปกติทั่วไป ไม่สลัมและโบสถ์ก็ไม่ได้พังเหมือนในเกมนะ) แล้วก็เจอเคนที่มาทักเพราะจำได้ว่าเป็นเพื่อน (แต่ยังไม่ได้ชอบนะ) ส่วนเรื่องหลังจากนั้นจะเป็นยังไงก็ปล่อยให้ตัวละครดำเนินไป ถึงกูจะดำเนินเรื่องให้ไม่ได้ แต่สองคนนี้คงจะได้รักกันมีความสุขด้วยกันอยู่ที่โลกไหนสักแห่งแหระ มาซึ้งกับกูหน่อยเร้ว TT_TT / เพลงประกอบยังไงก็ต้องมาแนวเพลงบรรเลง เอพิค อีโมชันแนล ฮาร์ทเฟลต์แบบนี้เนาะ บังเอิญด้วยที่ชื่อเพลงยังเป็นชื่อสามีอันดับหนึ่งในโลกเกมของกูจากภาค XIII เป็นไงล่ะ ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันของจริงโว้ย!
    - เรื่องที่สองแต่งไว้ขำๆ เอาชื่อเรื่องมาจากเพลงของฟฟเจ็ดที่เป็นเพลงตอนเข้านอน กูรู้มึงจำได้ 55555 ตอนนั้นแต่งเพราะชอบทั่นประธานนั่งรถเข็น แรงบันดาลใจก็คงมาจากมีบีฟอร์ยูด้วยแหละ แต่ฉากคอสต้าฯขอร้องอย่านึกภาพแบบในเกม เพราะถ้ามึงจำได้มันไม่มีอะไรเลย สมัยโน้นฉากในเกมมันก็มีแค่นี้แหละเนาะ บุรบาป ภาครีเมคที่คอสต้าฯก็ยังไม่มา ดูทรงจะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้ งั้นก็เอาเป็นว่านึกภาพโรงแรมติดทะเลแบบโอกิฯที่บชนไปก็แล้วกัน / รู้ป่ะว่าพล็อตนี้จริงๆ จะมาแนวบู๊ คนร้าย (ใครไม่รู้จำไม่ได้แล้ว) จะตามมาเจอที่เนี่ย สุดท้ายรองประธานกูนี่แหละจะจับปืนบู๊เอง สุดปังจริงๆ แต่ยังไงต่อก็ไม่รู้ ได้คู่กันไหมก็ไม่แน่ใจ ดูดิ สมัยนั้นกูแต่งบทพระเอกปากไม่ดี แต่นางเอกไม่ด่ากลับ ทำได้ด้วยว่ะ 55555 ส่วนเพลงใส่ไปงั้นๆ ให้มันมี เพราะไม่มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ ขนาดฟิคกูยังไม่ชอบเล้ย แล้วก็คิดว่าเอ้า ตอนเพลงนี้มากูบอกว่าฟีลริมเลนี่ ว่าไปฟิคกูใช้เพลงสโตรเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ปากบ่นไปใจก็แอบฟัง
     ปล. บังเอิญมากเพราะวันที่ 23 ปล่อยเอ็มวีไลลาลาของนานิวะ ส่วนวันที่ 25 ก็เป็นวันเกิดของโคจิมะ เห้ออ เมนคันไซสองคนที่อายุรักรวมกันยังบ่าถึงหนึ่งปี ซ้ำร้ายกว่านั้น กูยังแต่งน้อยกว่าเมนรองอย่างมิจิไทเสอีก กูว่าแล้ว หล่อเกินไปเมนไม่ยืดสักคน เพราะกูเหมาะกับพวกมวยรองมากกว่า (ไม่ใช่คนต่อยมวย) พับผ่าสิวะ!
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×