คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ★ Final Fantasy VII: On the Way to a Smile "Episode: Shinra" 2 ★
เรโนกับรู้ดยืนอยู่ในกองซากปรักหักพังที่ห้องทำงานของประธาน
“ไม่มีร่องรอยเลยเหรอ”
“ใช่”
“เราเช็กมาสามรอบแล้วใช่ไหม?”
“ละเอียดยิบ”
“บางทีเขาอาจจะยังไม่ตาย”
“อาจจะ”
คานเหล็กจำนวนหนึ่งหล่นลงมาจากเพดานและกระแทกลงบนพื้นห้องทำงาน พวกเขาต้องระมัดระวังในการค้นหาข้างใต้นั่น เพื่อให้แน่ใจว่ารูฟัสไม่ได้ติดอยู่
“แต่เราจะเริ่มหาจากไหนล่ะ?”
เมื่อเมเทโอเข้าใกล้กว่าเดิม มันได้ส่งผลกระทบกับชั้นบรรยากาศและทำให้เกิดลมกระโชกแรง เทิร์กส์เมินเฉยต่อพายุและการคุกคามที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าขณะเริ่มต้นค้นหารูฟัสต่อไป พวกเขาสั่งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเสาะหาจนทั่วอาคาร หากก็ยังไม่มีสัญญาณของประธาน
เรโนกับรู้ดตัดสินใจออกค้นหาบริเวณส่วนด้านหลังของทางเข้าหลักที่ชั้นแรกสุด บานประตูที่ไม่สะดุดตานำไปสู่ช่องทางเดินยังชั้นที่ต่ำกว่า ในเวลาปกติมันถูกสงวนไว้ให้เฉพาะพวกผู้บริหาร เพรสสิเดนท์ชินระ ผู้นำบริษัทคนก่อน ควบคุมการก่อสร้างในพื้นที่นี้ การตกแต่งภายในสะท้อนรสนิยมของเขา นอกจากทางเข้าที่โอ่อ่าแล้ว การตกแต่งกลับไม่ได้มากมาย เพดาน ผนัง พื้น — ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ปกคลุมด้วยแผ่นเหล็กแบบเรียบง่าย
“ไม่มีอะไรที่นี่” เรโนพูด “ไปเถอะรู้ด เราเสียเวลาเปล่า”
“เดี๋ยว” รู้ดยกมือขึ้นแล้วชี้ไปยังแผ่นผนัง “ฉันคิดไปเองหรือว่าผนังส่วนนั้นสีไม่เหมือนส่วนอื่น?”
รูฟัสยันตัวเองเข้ากับผนัง จ้องมองดูแผงและคีย์ที่มีตัวเลข 0 ถึง 9 มันแว่บเข้ามาว่าเขาน่าจะลองผสมตัวเลขทั้งหมดที่เป็นไปได้ ซึ่งจะช่วยให้เขาได้ออกจากที่นี่ เขาลองคำนวณดู ทั้งหมดต้องใช้เวลาราวๆ สี่สิบปี ขีดฆ่าตัวเลือกนั้นออกจากรายการ เขาคิด
ถ้าพ่อของเขาไม่ได้เลือกรหัสแบบสุ่ม — ซึ่งในกรณีนั้น เขาจะเหลือแค่ทางเลือกสี่สิบปี — เขาก็น่าจะคิดออก มันอาจเป็นชุดตัวเลขบางอย่าง แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร มันก็ไม่ได้ช่วยถ้าหากมันมีความหมายบางอย่างกับพ่อของเขา ไม่ใช่เขา ตัวเลขจำนวนมากที่เขาลองดูจนถึงตอนนี้ล้วนแล้วแต่มีความหมายกับพวกเขาทั้งคู่ — อย่างเช่นวันเกิดของแม่และวันที่แม่ตาย — การปลดล็อกประตูล้มเหลว
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนับตั้งแต่การหล่นกระแทกเข้ามาในห้อง แต่ข้อความจริงที่เขายังมีชีวิตอยู่ก็แปลว่าเมเทโอยังไม่ได้พุ่งชน แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ซิสเตอร์เรย์ทำงานล้มเหลว เซฟิรอธยังอยู่ในปล่อง และไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออีกแล้วในการหยุดยั้งเมเทโอไม่ให้พุ่งชนโลก
รูฟัสคิดถึงความตายของตัวเอง เชื่อกันว่าจิตวิญญาณของมนุษย์จะหลอมรวมเข้าสู่ไลฟ์สตรีมซึ่งไหลผ่านโลก เขาจินตนาการถึงการพบหน้าและพูดคุยกับพ่อ ถึงมันยากที่จะจินตนาการก็ตาม วิญญาณที่ออกจากร่างจะอยู่ในรูปแบบไหนกันนะ? แต่แน่นอน เขารู้ว่ามันไม่ได้เป็นไปในแบบนั้น จิตสำนึกของแต่ละคนไม่น่าจะอยู่รอดได้นานนักในกระแสพลังงานของโลกที่ท่วมท้น
แล้วเขาก็ระลึกได้ว่าโลกเองก็ไม่น่าจะรอดพ้นหายนะที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าใครก็ไม่ควรเฝ้ารอคอยการล่องลอยหลังความตายในไลฟ์สตรีม ความสิ้นหวังทั้งปวงทำให้เขาหัวเราะอีกครั้ง
เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทสีขาวเพื่อหยิบขวดยาแก้ปวด โยนยาสามเม็ดเข้าไปในปาก มองดูแผงขณะที่เคี้ยว
ฉันรู้ว่ายังไงก็ต้องตายอยู่ดี เขาคิด แต่ฉันไม่อยากจะตายที่นี่
มีชุดตัวเลขหนึ่งที่เขายังไม่ได้ลอง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งแรกที่แว่บเข้ามาในหัวนับตั้งแต่เห็นแผง เหมือนกับว่าการฝากความหวังไว้กับตัวเลขนั้นจะเป็นการยินยอมให้ตาแก่หลอกเขาได้อีกหน แต่มันสำคัญอีกแล้วด้วยหรือ?
เรโนกับรู้ตรวจสอบแผงเหล็ก ตามที่รู้ดว่า สีของมันแตกต่างไปจากแผงที่อยู่รายรอบ แต่นั่นคือสิ่งเดียวที่แปลกแยก
“มันอาจเป็นแค่ผนังชั่วคราวก็ได้ เถอะน่า เราออกไปจาก—”
เรโนหยุดคำพูดไว้แค่นั้น แผงกว้างสามฟุตเลื่อนต่ำลง หายเข้าไปยังช่องแคบๆ ที่ฐานของผนัง
พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็มองผ่านรู ข้างในนั้น พวกเขามองเห็นห้องเล็กสีขาว
“เอ่อ หวัดดี” เรโนกำลังจะเข้าไปในตอนที่รูฟัสโผล่ออกมาจากด้านหลังผนัง
“อ้า คนที่ฉันอยากเจอพอดี” ผู้นำหนุ่มของชินระพูด ก่อนที่เขาจะล้มลงไปบนพื้น
“ประธาน!”
ขณะที่เรโนพยุงรูฟัสไว้ รู้ดก็มองเข้าไปในห้องสีขาว
เขากวาดตามองสถานที่คร่าวๆ เห็นได้ชัดว่ามันคือห้องนิรภัยไม่ก็หลุมหลบภัยฉุกเฉิน ที่ข้างประตูมีแผงควบคุม ตัวเลขสี่หลักกะพริบอยู่บนจอ ไม่มีทางที่รูฟัสจะรู้เรื่องนี้ แต่มันคือรหัสเดียวกับที่ประธานคนก่อนใช้กับอุปกรณ์ทุกชนิด มันคือชุดตัวเลขที่เขาไม่มีวันลืม — วันเกิดของลูกชาย
“เฮ้ รู้ด เรียกหมอเข้ามาได้แล้ว!” เรโนตะโกน “แล้วรายงานสถานการณ์ข้างนอกหน่อยเป็นไง?”
“เขาเป็นไง?” รู้ดถาม
“เหนื่อย บาดเจ็บ ผล็อยหลับไวมาก แต่ยังไม่ตาย”
ลมหายใจของประธานต่ำเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
“เขาคงรู้ว่าวางใจได้แล้วตอนเห็นอัศวินปรากฏตัว” แต่ความพยายามปล่อยมุกตลกของเขาเป็นศูนย์
“ดี” รู้ดตอบรับ จากนั้นก็ออกไปข้างนอก เขาหมายความตามนั้นเช่นกัน
ท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืนที่ถูกพายุถล่ม รู้ดยืนอยู่หลังทางออกของอาคารชินระ พื้นกระจัดกระจายไปด้วยแผ่นกระดานด้านนอก โลหะที่ถูกบิดโค้ง และชิ้นส่วนคอนกรีตซึ่งร่วงหล่นลงมาจากอาคาร เศษของกระจกที่แตกส่องประกายวิบวับอยู่ในแสงไฟเจิดจ้า ซึ่งช่วยสำหรับการทำงานอย่างอุตสาหะของเจ้าหน้าที่กู้ภัย เหนือขึ้นไป เฮลิคอปเตอร์กวาดไปทั่วสถานที่ด้วยดวงไฟ
รู้ดพบตัวเองซึมซาบกับทุกอย่างเหล่านั้นด้วยความสงบ ข้อความจริงที่รูฟัสยังมีชีวิตอยู่ได้เรียกเอาความมั่นใจของเขาคืนมา รูฟัสคือบริษัทชินระ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชินระก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และตราบเท่าที่ชินระยังคงอยู่ เทิร์กส์ก็เช่นกัน
การคิดถึงชีวิตที่ไม่มีเทิร์กส์นั้นเป็นเรื่องเจ็บปวด
เศษไม้ขนาดเท่ากำปั้นซึ่งมาพร้อมกับกระแสลมกดทรงพลังของฮ.ที่บินต่ำ ปลิวเฉียดหัวเขาไปไม่กี่นิ้วด้วยความเร็วอันน่าหวาดเสียว รู้ดยิ้มออกมา เขารักอันตรายและอันตรายก็รักเขา เมื่อรูฟัสกลับมาจากความตาย รู้ดก็รู้ว่ามีงานอันตรายยิ่งกว่านี้กำลังรอคอยเขาอยู่
เขาเดินไปรอบๆ อาคาร ข้ามผ่านเศษซากกระจัดกระจายยามก้าวเดินไป ผู้คนที่หวาดกลัวคุดคู้อยู่ทั่ว ตัวสั่นเทิ้มทั้งจากแรงลมและอาจรวมถึงการได้เห็นแขนขายื่นออกมาจากใต้ซากปรักหักพัง
รู้ดตรวจดูคนที่ติดอยู่และมองหาผู้รอดชีวิต บางครั้งคนที่ยังรอดก็กระเถิบหนีด้วยความหวาดกลัวตอนที่ได้เห็นเขา เพราะศีรษะที่ล้านเลี่ยนกับแว่นที่แวววับ เขาดูเป็นภัย เขาคุ้นชินกับปฏิกิริยาเหล่านั้น มันทำให้เขาพอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นว่าตนเองยังคงได้รับมันแม้ในช่วงเวลาวิกฤติ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางคนที่รีบเร่งคือเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลร่วมทุน รู้ดคว้าคนหนึ่งไว้แล้วบอกว่ามีคนได้รับบาดเจ็บข้างในอาคารซึ่งต้องการการดูแล เขาหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อของรูฟัส ด้วยไม่อยากทำให้อึกทึก
“พนักงานชินระเหรอครับ?” หมอถาม
“ใช่”
“เราจะยกให้เป็นเคสเร่งด่วนที่สุด”
“ดี”
หมอพยักหน้าและเรียกเพื่อนร่วมงานคนที่มีเปลหาม ก่อนรีบไปด้านหลังอาคาร เมื่อมองดูพวกเขาจากไปแล้ว รู้ดก็คิดว่าน่าจะตามไปด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะพบรูฟัส ขณะที่ทำเช่นนั้น เขาเห็นเด็กสาวกำลังคุยโทรศัพท์
หนึ่งในเพื่อนของคลาวด์ เด็กสาวที่ชื่อยุฟฟี่ เธอถือเป็นศัตรูกับบริษัทชินระและบุคคลที่เทิร์กหมายหัว แต่ไม่จำเป็นต้องสู้กันในตอนนี้ การต่อสู้คือสิ่งที่เขาทำเฉพาะตอนที่ถูกสั่งหรือเมื่อบางคนพยายามเข้ามาก้าวก่ายกับภารกิจ
รู้ดมองดูเธอวิ่งออกไป ร่างอันเบาหวิวของเธอเคลื่อนผ่านเงามืดและเศษซากปรักหักพังไปอย่างรวดเร็ว
“หมอจะพาเขาไปไหน?” เรโนถาม ช่วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยหามรูฟัสขึ้นไปบนเปล
“ตอนนี้พาไปที่โรงพยาบาลก่อน แต่หลังจากนั้นเราไม่รู้”
“หมายความว่ายังไง?”
“เห็นหินก้อนใหญ่บนท้องฟ้ารึเปล่าล่ะครับ? ถ้ามันพุ่งชนเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็จบ เราจะพยายามช่วยเหลือผู้คนต่อไป แต่บอกตามตรงว่ามันเปล่าประโยชน์”
“ก็จริง เอาล่ะ ทางนี้” เรโนนำทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยผ่านประตูบานเล็กออกไปยังล็อบบี้หลัก
“หือ ไม่รู้เลยว่ามีประตูอยู่ตรงนั้น ผู้ชายหัวล้านน่าจะบอกเราว่ามีทางลับ”
“สำหรับผู้บริหารเท่านั้น อย่าบอกเพื่อนๆ ล่ะ”
“ได้ครับ ผมจะปิดปากให้สนิทเลย”
เมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ เรโนก็พยักหน้าและเดินนำไปยังทางออกต่อ เขาเกือบจะพ้นตัวอาคารอยู่แล้วตอนที่เห็นศีรษะด้านหลังของยุฟฟี่หายลับไปตรงหัวมุม
“จัดการกันเองได้ใช่ไหม? ฉันเพิ่งเห็นคนที่อาจจะสร้างปัญหา” เขาพูดกับเจ้าหน้าที่
“ได้ครับ เราจัดการเอง ว่าแต่คนไข้รายนี้คือใคร?”
“เขาจะบอกเองตอนที่ฟื้น ยังไงก็หาห้องที่ดีที่สุดให้เขา อุปกรณ์ครบครัน”
“หัวหน้า ผ...ผู้ชายคนนี้เหมือนรูฟัส ชินระเลยครับ” หนึ่งในคนที่หามเปลกระซิบ
“ชู่!”
หลังจากนั้น ผู้คนเรียกขานมันว่า “วันที่ถูกเลือก” หรืออย่างเรียบง่ายและเป็นลางมากกว่าว่า “วันนั้น” รูฟัสอยู่ในเมืองคาล์ม ไม่ห่างจากมิดการ์นัก เมื่อเหตุการณ์อันน่าทึ่งนั้นเกิดขึ้น
โรงพยาบาลอยู่ในความโกลาหล เต็มไปด้วยคนไข้ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับประกันความปลอดภัยของประธานที่นั่น เมื่อรูฟัสฟื้นคืนสติ เทิร์กส์ผู้รับผิดชอบความปลอดภัยของเขาโน้มน้าวให้เขาย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กของบริษัทในคาล์ม พวกเขาอาจใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อพาเขาออกห่างจากเมืองได้ แต่รูฟัสปฏิเสธ เขาเห็นด้วยแค่เรื่องที่จะย้ายออกจากมิดการ์ด้วยความไม่เต็มใจ และเขาจะไม่ยอมหนีไปไหนไกลกว่าคาล์ม เมื่อโลกจวนเจียนจะถูกทำลายล้าง การพยายามหลบหนีและซ่อนตัวเป็นเรื่องที่แย่
เทิร์กส์ทั้งสี่เดินผ่านเมืองมิดการ์ที่ถูกทำลายล้าง เมเทโออยู่ใกล้มากแล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะเอื้อมไปแตะมันได้เลย พวกเขาบรรลุภารกิจหลักและรับประกันความปลอดภัยให้รูฟัสได้แล้ว — ถึงแม้ว่าความปลอดภัยจะไม่ใช่คำพูดที่เหมาะนัก เมื่อหายนะแขวนลอยอยู่ แต่ไม่ว่าจะเป็นวาระสุดท้ายของโลกหรือไม่ พวกเขาก็ยังมีงานต้องทำ และพวกเขาจะไม่ยอมถอดใจขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
“ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมากว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเมเทโอพุ่งชน เราต้องทำหน้าที่ภายใต้สมมติฐานว่าเรื่องเลวร้ายอาจจะยุติ” ซังประกาศในตอนที่เขาออกคำสั่งให้พวกเทิร์กส์ทำการอพยพคนออกจากมิดการ์
เมืองรู้สึกถึงผลกระทบจากการอยู่ใกล้ชิดกับเมเทโอแล้ว พายุเริ่มกระโชกแรง และแผ่นดินไหวก็ถล่มสลัมรวมถึงเพลตเช่นเดียวกัน ทำให้อาคารและโครงสร้างร่วงหล่น เป็นเพราะความรุนแรงจากความเกรี้ยวกราดของธรรมชาติ เมืองเหล็กส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดและร้องคร่ำครวญ
“ถึงวาระสุดท้ายของโลกแล้ว เราควรจะช่วยเหลือคนอื่นนะ ถ้าว่ากันตามคนที่ออกคำสั่ง” รู้ดพูดเบาๆ
“ยังไง?” เรโนถาม
“หัวหน้าพยายามจะมีมโนธรรมยังไงล่ะ”
“อ๋อใช่ เข้าใจแล้ว”
เมื่อเรโนเห็นอดีตผู้บังคับบัญชาเวอร์ด็อตในมิดการ์กับเหล่าสหายเก่า เขาก็ชักสงสัยว่าเมเทโออาจทำให้เกิดภาพหลอน
ครั้งหนึ่งในอดีต เทิร์กส์เคยกระทำการขัดต่อผลประโยชน์ของบริษัท พวกเขาทำมันเพียงเพื่อช่วยโลก การช่วยเหลือเวอร์ด็อตและลูกสาวคือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ กระนั้นสิ่งที่พวกเขาทำก็ยังถือว่าผิดกฎอยู่ดี เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว เรโนก็คิดว่าช่วงเวลานั้นอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของมิตรภาพในเทิร์กส์ และเทิร์กส์ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นได้อีก แต่ในตอนที่พวกเขาร่วมมือกันช่วยเหลือชาวเมืองมิดการ์ที่ตื่นตระหนกกับเนื้อตัวที่เปื้อนเปรอะ มันก็เริ่มรู้สึกเหมือนวันเหล่านั้นหวนมาอีกครั้ง เขาเพลิดเพลินกับโอกาสนี้เป็นอย่างมาก
หลังจากเหตุการณ์นั้นเอง เพรสสิเดนท์ชินระและเหล่าผู้บริหารคนอื่นๆ ตัดสินใจยุบเทิร์กส์และสลายกลุ่ม — ด้วยอคติอย่างร้ายกาจ คนที่ช่วยทั้งชีวิตและงานของพวกเขาก็คือรองประธานในตอนนั้น รูฟัส ชินระ เทิร์กส์เป็นหนี้ของเขานับตั้งแต่นั้น
พวกเขาได้ชดใช้หนี้นั้นในช่วงไม่กี่วันสุดท้าย เมื่อช่วยรูฟัสและพาเขาไปยังที่ปลอดภัยในคาล์ม ตอนนี้เรโนกำลังทำงานอยู่เคียงข้างกับสหายและเพื่อนร่วมงานที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบอีกครั้ง ถึงจะเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน เขาคิด เขาก็จะตายไปโดยแทบไม่มีเรื่องให้ต้องเสียใจ
*
เมเทโอแตกกระจายอยู่บนท้องฟ้าเหนือมิดการ์ และโลกก็ปลอดภัยจากการถูกทำลายล้าง ต้องขอบคุณไลฟ์สตรีมที่พุ่งขึ้นมาจากพื้น มันคือชัยชนะของเวทมนตร์ขาวระดับสูงสุด โฮลี่ ที่ยิ่งใหญ่กว่าเวทมนตร์ดำ เมเทโอ การต่อสู้ของคลาวด์และพรรคพวกคือส่วนสำคัญที่นำชัยชนะมาสู่ แต่ผู้คนได้รับรู้เฉพาะในสิ่งที่เห็น และพวกเขาเชื่อว่าโลกนั่นแหละที่ช่วยชีวิตพวกเขาจากการทำลายล้าง
เรโนกับรู้ดอยู่ในอาคารชินระเมื่อมันเกิดขึ้น ข้างใต้เมเทโอโดยตรง
“โอ้โห ตอนนี้อะไรอีก?” เรโนว่าเมื่อไลฟ์สตรีมตกลงมาด้วยความเร็วที่รุนแรงรอบอาคาร ทำให้มันแกว่งไกวและสั่นไหว ไหลหลั่งเข้ามาผ่านบานหน้าต่างและทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าเหมือนเขื่อนทะลักอย่างรุนแรงโดยไม่อาจควบคุม เรโนกับรู้ดรีบวิ่งไปยังที่ปลอดภัยที่สุดที่พวกเขาจะหาได้ ซึ่งกลายเป็นว่ามันคือห้องน้ำ
“ฉันผิดเอง” รู้ดพูดผ่านผนัง พวกเขาอยู่ในห้องแยกกัน
“อะไร?”
“ที่เราต้องมาอยู่นี่ ฉันอยากจะมาเอาข้าวของ และตอนนี้...” เขางึมงำ เรโนรู้ได้ว่าเขากำลังขอโทษ อะไรทำนองนั้น
“เย็นไว้ ไม่ต้องโทษตัวเอง”
การผ่อนปรนแบบนั้นไม่เหมือนกับเรโนเลย รู้ดไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“รู้ด” แน่อยู่แล้วว่าเป็นเรโนที่ทนความเงียบไม่ได้
“อะไร?”
“เราทำงานด้วยกันมาโคตรนานเลยนะ”
“เออ”
“แบบคู่หู เราเป็นคู่หูกันใช่ป่ะ?”
“แน่นอน”
“เฮ้! คู่หู”
นั่นฟังเหมือนกับเรโนคนเดิม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร รู้ดได้ยินเรโนออกจากห้องน้ำ หมอนั่นจะทำอะไร?
ไม่ช้าเขาก็พบคำตอบ เรโนเตะประตูเข้ามาในห้องน้ำของรู้ด
รู้ดกันประตูที่ปลิวมาใส่ได้ทันเวลาแล้วเตะกลับไป
“อะไรวะ?!”
“ก็แค่ของขวัญชิ้นสุดท้ายให้คู่หูของฉัน”
“ประตูห้องน้ำเนี่ยนะ?”
“ความตื่นเต้นเว้ย! ของชอบนายนี่”
“ตอนกินมื้อเช้ายังตื่นเต้นกว่านี้อีก” รู้ดสวนย้อน เดินออกจากห้องน้ำที่ถูกพัง
“เลิกเล่นได้แล้วน่า เราออกไปข้างนอกกันไหม? พนันเลยว่ามันต้องบ้ามากแน่ๆ”
“ฉันแน่ใจเลย”
เทิร์กส์ทั้งสองเดินออกจากทางเข้าหลักของอาคารชินระไปยังพายุที่กรีดเสียงครวญ แสงบิดเบี้ยวที่ลดเลี้ยวไหลจากพื้นพุ่งขึ้นสู่อากาศ เบื้องหน้านัยน์ตาของพวกเขา
“แม่เจ้าโว้ย! มีไลฟ์สตรีมอยู่ทุกที่เลยพวก!”
“เรโน...”
“ว่า?”
“นี่เจ๋งชะมัด”
ความคิดเห็น