ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #91 : ES or S - Seizensetsu (A) 50% ขอเสียงชาวโอตาขุหน่อยคนับ

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 66


    ES or S
    Playlist: TK from Ling Tosite Sigure – will-ill (Code Geass Lelouch of the Rebellion Ending) / Utada Hikaru  COLORS











    .

    ถ้าฉันต้องสูญเสียทุกอย่าง

    ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เธอไป

    —วิลล์-อิลล์, ทีเค

     

    ความรักสำหรับนาสุ ยูโตะ คือสิ่งจอมปลอม

     

    เขาเติบโตมาในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดและน่าอิจฉาที่สุดเท่าที่ใครในมิโตเกียวจะมีได้ พ่อเป็นนักการเมืองชื่อดังที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคส่งเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งใหม่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่แม่ก็เป็นเจ้าของมูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ มากมาย จึงย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกหากลูกชายคนเดียวจะถูกฟูมฟักเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องกิริยามารยาทหรือการศึกษาเล่าเรียนก็ล้วนแล้วแต่ดีเลิศไร้ที่ติ ใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบแบบแผนอยู่ในกรอบที่พ่อแม่วางไว้ให้ แม้ว่าพวกท่านจะไม่ค่อยมีเวลาให้ ช่วงเวลาที่ได้พร้อมหน้ากันบนโต๊ะอาหารในตอนกลางคืนคือการถามไถ่เรื่องผลการเรียนทั้งในและนอกห้อง ย้ำชัดให้เขามุ่งมั่นตั้งใจเพื่อที่จะได้สานต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นบิดา ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น กระนั้นเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาก็เชื่อสุดหัวใจว่ามันคือความรักจากผู้ให้กำเนิด

    กระทั่งเด็กน้อยเติบใหญ่กลายเป็นเด็กหนุ่ม เริ่มระแคะระคายและได้ล่วงรู้ความลับเรื่องพี่ชายนอกสมรสเป็นครั้งแรกเมื่ออายุได้สิบสี่ หากเท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อพ่อที่เขารักและเทิดทูนตลอดมาพังทลายลงไปในชั่วพริบตา นอกจากข้อความจริงที่ว่าพ่อของเขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับแม่แค่คนเดียวแล้ว ชู้รักที่พ่อยังคงส่งเสียเลี้ยงดูจากที่นาสุเคยแอบตามไปดูก็ทั้งงดงามและอ่อนเยาว์กว่าแม่ของเขาอย่างเทียบไม่ติด เพราะอย่างนั้นหล่อนถึงได้ให้กำเนิดเทพบุตรออกมายังโลกใบนี้นี่เองสินะ ฟุคุโมโตะ ไทเซย์ที่อายุมากกว่าเขาหกปีตัวสูง รูปร่างดี หน้าตาดี หัวก็คงจะดีด้วยจากการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าเหมือนกันกับพ่อ ทั้งหมดเหล่านั้นยังไม่ทำให้นาสุรู้สึกเจ็บปวดใจได้มากเท่ากับการมองดูใบหน้ายิ้มแย้มของพ่อตอนที่พูดคุยอยู่กับสองแม่ลูกบนโต๊ะอาหารของร้านอาหารจีนในซอกมุมหนึ่งของละแวกย่านเสื่อมโทรมที่ครอบครัวนาสุของเขาไม่มีทางจะมาเหยียบย่าง เสียงหัวเราะเริงร่าแสดงความสุขสันต์ที่ดังแว่วมาตามสายลมบาดลึกเข้าไปข้างในราวกับคมมีดที่กรีดเฉือน

    นี่ต่างหากคือความรักที่แท้จริงจากผู้ให้กำเนิด

    หัวใจที่เคยเปี่ยมไปด้วยความรักและความดีงามของนาสุเปลี่ยนไปเป็นด้านชา ลามมาถึงตัวตน แม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องชู้รักคนขับรถของแม่ที่น่าอดสูยิ่งกว่าในภายหลังก็ไม่ทำให้เขารู้สึกอะไรได้อีก เขาสวมใส่หน้ากากเหมือนที่ทุกคนในครอบครัวต่างก็หยิบมันขึ้นมาทาบทับเมื่ออยู่ที่บ้าน กระทั่งในที่สุดมันก็แนบสนิทเข้ากับใบหน้าราวกับอวัยวะอีกชิ้นหนึ่ง

     

    นาสุได้รู้จักกับยูอาสะ นินะ ตอนขึ้นชั้นไฮสคูล เธอเป็นเด็กสาวธรรมดาๆ ที่กลมกลืนไปกับเด็กนักเรียนอีกร้อยพันคนในสถาบัน ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยสักอย่างทั้งรูปลักษณ์ นิสัยใจคอ ผลการเรียน อาจรวมไปถึงการใช้ชีวิต จนไม่เคยอยู่ในสายตาหรือว่าความสนใจของเขามาก่อน กระทั่งในเย็นวันกลางฤดูใบไม้ร่วงที่เขาอยู่ช่วยเธอที่เป็นเวรทำความสะอาดต่อหลังเลิกเรียน เด็กสาวเพื่อนร่วมห้องก็เอ่ยปากพูดกับเขาเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบนิ่ง ที่นาสุเชื่อว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิดต่อเจตนาของการเสียดเย้ยภายในนั้นว่า

    “ถ้านายไม่อยากทำก็บอกครูไปสิว่าไม่อยากทำ จะมาเสแสร้งอยู่ได้ทำไม”

    “เอ๊ะ...ทำไมคุณยูอาสะถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”

    และถึงเขาจะทำเป็นส่งสีหน้าไร้เดียงสา หัวเราะกลบเกลื่อนคำพูดเหล่านั้นเหมือนกับว่าไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ใครไหนจะรู้ว่าแท้จริงข้างในใจของเขากำลังรุมร้อนเป็นไฟ

    “ที่จริงนะ ให้ฉันทำเองคนเดียวดีกว่า ส่วนนายก็กลับบ้านหรือจะไปไหนก็ไปเถอะ บอกตามตรงว่าเห็นความเสแสร้งแกล้งทำตัวเป็นนักเรียนดีเด่นของนายแล้วฉันสะเอียนจนอยากอ้วก ทั้งที่แต่ไหนแต่ไรนายก็ไม่เคยแยแสคนอย่างฉันมาก่อนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”

    หนนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของนาสุหุบลงไปขณะจ้องสบกับเธอที่ยืนอยู่คนละฟากฝั่งของกระดานดำโดยไม่มีฝ่ายไหนคิดจะเบือนหลบ เธอมันก็แค่ผู้หญิงกระจอกๆ กล้าดียังไงถึงมาว่าเขาแบบนั้น กล้าดียังไงถึงมองเขาด้วยสายตาดูแคลนแบบนั้น กล้าดียังไงถึงมาพูดเหมือนกับว่าตัวเองรู้ดีไปซะทุกอย่างทั้งที่เธอไม่รู้อะไรเลยสักนิด แล้วโดยที่ไม่รู้ตัว นาสุก็เดินไปตบหน้าเธอ

    เขาไม่ได้ใส่เรี่ยวแรงลงไปทั้งหมดแม้ว่าจะไม่พอใจคนตรงหน้าแค่ไหน เพราะถึงยังไงเธอก็ยังเป็นผู้หญิง...ที่อ่อนแอมากเสียจนแค่เท่านี้ก็ทำให้ใบหน้าของเธอหันไปอีกทาง แก้มขาวของเธอขึ้นเป็นรอยแดงที่อาจไม่ได้ชัดเจน แต่เป็นของเหลวสีสดจากมุมริมฝีปากนั้นต่างหากที่ทำให้นาสุงันไป ก่อนที่เขาจะได้เข้าใจต่อความเข้มแข็ง — หรือไม่ก็บ้าบิ่น — ในตอนที่นินะพุ่งตัวเข้ามาตบหน้าเขาคืน นาสุแน่ใจว่าเธอใส่ลงไปสุดแรงแล้ว กระนั้นก็หาได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดนอกจากระคาย นั่นคงเป็นตัวกระตุ้นให้เธอยิ่งขุ่นเคืองใจจนต้องยกมือขึ้นตบหน้าเขาซ้ำๆ โดยที่นาสุไม่คิดจะโต้ตอบกลับไป และการที่เขายังยืนก้มหน้ามองเธอราวกับคนต้อยต่ำกว่าอยู่ได้ก็เป็นเหตุผลมากพอให้เธอผลักเขาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวให้ล้มลงไป เหมือนกับที่นาสุก็ไม่ทันได้ตั้งตัวกับร่างของเธอที่ตามลงมานั่งคร่อมเขาไว้และ...จูบเขา

    เป็นความตื่นตกใจในทีแรกของสิ่งที่นาสุก็เรียกได้ว่าเป็นจูบแรกในชีวิต แต่ก็แค่ครู่ขณะเดียวเท่านั้นจนเขาแทบไม่ทันได้รู้สึกถึงอะไร เมื่อสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นจะเป็นความเจ็บของริมฝีปากที่ถูกกัดอย่างแรงมาก จนเขาผลักเธอออกไป ยกหลังมือขึ้นปาดเพื่อจะได้มองเห็นรอยเลือดอยู่บนนั้น

    “ทำอะไรไว้ก็ควรได้อย่างนั้นกลับไปไม่ใช่เหรอ?” เธอเยาะหยัน

    ขณะที่นาสุยกแขนเสื้อสูทขึ้นเช็ดปากและมองดูเธอด้วยความหงุดหงิด นินะที่ไม่สนใจจะทำอะไรกับมันก็เพียงยันตัวเองลุกขึ้นยืน หากในวินาทีที่เธอแค่ใช้ลิ้นกวาดเลีย นาสุก็รู้สึกถึงบางอย่างที่พลุ่งพล่านอยู่ภายใน สิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจ สิ่งที่เกินกว่าเขาจะควบคุมได้ ทว่าบัดนี้มันกำลังควบคุมหัวใจที่เคยนิ่งสนิทให้กลับมาเต้นแรงได้อีกครั้งหลังจากเนิ่นนานมาแล้ว เขาอาจจะบ้าไปแล้วที่ปล่อยให้มันครอบงำการกระทำจนเข้าไปจับท่อนแขนทั้งสองข้างของเธอไว้ กระแทกแผ่นหลังนั้นลงไปกับบอร์ดหน้าห้องเพื่อที่จะก้มลงไปลิ้มรสชาติของสนิมที่คลุ้งอยู่ในโพรงปากเมื่อเขาสอดลิ้นเข้าไปโดยไม่รั้งรอ ความเจ็บปวดที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นฝ่ายผลักไส บัดนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความรุนแรงเมื่อบดขยี้ลงไป ราวกับว่าเขาโหยหาปรารถนามันมาตลอด

    ใบหน้าของนินะเป็นสีแดงก่ำยามหอบหายใจเอาอากาศเข้าไปเมื่อเขาผละออกในที่สุด เช่นเดียวกับริมฝีปากบวมเจ่อที่เปรอะไปด้วยเลือด ซึ่งคงไม่ได้ต่างอะไรจากเขา นี่อาจเป็นครั้งแรกที่นาสุได้มองเห็นความงดงามของเธอ

    ฉับพลันนั้นเอง ความรู้สึกผิดก็ถั่งโถมเข้ามา เมื่อคิดว่าตัวเองได้ทำลายความงดงามนั้นลงไปเสียแล้ว เขาได้แต่ทิ้งตัวนั่งก้มหน้ากอดเข่าลงบนพื้น พร่ำคำขอโทษกับเธอด้วยเสียงที่แผ่วเบาหากก็ดังพอในห้องเรียนยามเย็นที่เงียบสงัดนี้

    นาสุคิดว่าเธออาจจะตรงเข้ามาทำร้ายเขา หรือหนีกลับไปเลยโดยไม่มีวันญาติดีกันอีกตลอดชาติ...เหมือนอย่างที่เธอกับเขาควรจะเป็น แต่ไม่ว่าจะอะไร มันย่อมต้องไม่ใช่อ้อมกอดที่โอบรับเขาเข้าไปอย่างแนบแน่นมากเสียจนนาสุสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจที่ไม่สงบของเธอ พร้อมกับคำพูดจากลมหายใจอุ่นร้อนที่รดรินอยู่ข้างลำคอของเขาว่า

    “นายแบ่งปันความเจ็บปวดให้ฉัน แล้วฉันจะแบ่งปันความสุขให้นายเอง”

    กับความรู้สึกที่นาสุเกือบเชื่อว่ามันคือความจริงแท้แรกในชีวิตที่เขาได้รับจากใคร

    ก่อนที่จะได้เข้าใจว่าสุดท้ายมันก็แค่เรื่องจอมปลอมทั้งเพ












    .

    ความรักสำหรับยูอาสะ นินะ คือการแบ่งปันที่เทียมเท่ากัน

     

    เช่นกุชอบเคนแต่ก้ชอบไทเสด้วยเท่าๆ กัน
    แต่ก้ยังไม่ดันทุรังเท่ามึงที่ชอบไคโตะกับโช
    เป้นต้น


    2023年03月10日
    _______________
     ชื่อตอนมาจากเพลงของวง amazarashi แปลได้ประมาณว่า 'ความเชื่อที่ว่าพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนล้วนเป็นคนดี' ซึ่งกูไม่เชื่อค่าา แต่ก็เพื่อจะสื่อว่าสี่ตัวหลักเนี่ยพื้นฐานก็คือคนดีหมด (มั้ง) แต่มีจุดหักเหในชีวิตเลยทำให้กลายมาเป็นบ้าเป็นบออย่างทุกวันนี้ / และเนื่องจากปลายเดือนที่แล้วเพลงวิลอิล (โค้ดกีอัส!) กลับมาแนะนำในยูทูบกูเลยกดฟังไปด้วย อ่านคำแปลไปด้วย แล้วก็เว้ยเฮ้ย! จะไม่บอกว่าเนื้อเพลงมันเป๊ะเหมือนฟิคมึงหรอก แต่จะบอกว่ามันมีท่อนที่ตรงใจเว่อร์มากจนทนไม่ได้จริง กูจะชี้นิ้วโทษเพลงนี้เลยที่ทำให้ทิศทางของฟิคนี้มันไม่พี่หมีแล้ว ไม่ใช่วิชวลเคย์ด้วย แต่มันกลับมาแนวเพอร์เฟคฯอีกครั้ง orz ถามว่าชอบไหมไม่ค่อยแน่ใจ แต่แต่งสนุกจริงอันนี้แน่ใจ แต่แม่งหักจากที่คิดไว้หมดเลย ในเมื่อหันหลังกลับไม่ได้ก็มีแต่ต้องเดินหน้าเท่านั้น แต่จะไปได้ถึงไหนก็ช่างมัน / ละโอ้โห รู้สึกว่าไม่ได้แต่งแนวนี้นานมากตั้งแต่สมัย...อุมิ
     เซ็ตติ้งเรื่องนี้เป็นโฮโลแกรมล้ำๆ แต่ก็ไม่ได้ล้ำอะไรขนาดนั้นหรอก แค่โลกยุคดิสโทเปีย โตเกียวใหม่ แนวๆ ฟิคพี่หมีกูนั่นแหละ ฉากเฉิกก็แนวอากิระ ไซเบอร์พังค์ 2077 อะไรกันไป มุ้ปอรจากคำว่านีโอโตเกียวแล้วตั้งชื่อเมืองว่า  เพราะ ๑. นี่คือฟิคที่ตั้งใจอุทิศให้บิโชเน็น และ ๒. เพื่อจะสื่อว่ารัฐบาลอยากสร้างเมืองใหม่ให้ออกมาสวยน่าอยู่ แต่มันก็แค่ฉากหน้าเท่านั้นแหละ เฉียบ! / ใครสงสัยไหมไม่รู้ กูสงสัยเองก็ได้ว่าทำไมชอบแต่งให้พระเอกเป็นลูกนักการเมืองจัง เหมือนแต่งมาได้ 4-5 เรื่องละมั้ง จนรำลึกได้ว่าหรือมาจากละครที่สุดะมันสลับตัวกับพ่อที่เป็นนายกฯวะ กูก็ไม่เคยดูนะ แต่นึกถึงบทลูกนายกฯก็นึกถึงแต่เรื่องนี้เลยคิดว่าน่าจะใช่แหละ เพราะใครมันจะรวยล้นฟ้า กุมอำนาจทั้งประเทศได้เท่าตำแหน่งนี้อีก! เพราะใครมันจะเหมาะได้เท่าเมนกูอีก! (เยอะแยะ) / กับพล็อตพี่น้องที่เป็นลูกชู้นี่ก็เรื่องที่แสนล้านแปดละไหมวะ มันจะทำไมนักหนาฮึ แต่ไม่ต้องห่วง ทุกครอบครัวมีคบชู้หมด รอดูได้เลย 55555
     เนื้อเพลงเป็นสีสันก็จริง แต่สังเกตสิว่าในเรื่องกูแทบไม่ได้เขียนถึงสีสันอะไรเลย แค่บังเอิญที่เนื้อเพลงของทีเคมันมีคำว่า Transparency กับท่อนในรูปของนาสุ แล้วพอกูไล่ฟังเพลงของอุทาดะไปเรื่อยก็ว้าว COLORS ไงแม่! เพลงที่หนูเคยรักที่สุดของอุทาดะมาตั้งแต่ตอนที่เพิ่งปล่อยไงแม่! (เอ้ย เกิดไม่ทัน >_<) เจอสีฟ้าก็วี้ดว้าย ทนไม่ได้จริง เพื่อให้มึงด่าว่ามีเมนสีฟ้าคนเดียวก็ทำตัวเยอะเลยนะอีนี่! ละไหนๆ ฟิคนี้มันก็หลุดทิศทางแนวไซไฟ ชาวแก๊ง นักฆ่าแบบที่กูตั้งใจไปละ งั้นก็ขอกลับมาด้วยแนวดาร์ก ดราม่า ผีบ้าผีบอ อยากแต่งอะไรก็แต่ง อยากยัดอะไรก็ยัด ผู้สนับสนุนหลักคือแป้งเด็กแคร์ เหอะ กูจะใช้เพลงอุทาดะกับวงเด็กบ้าอนิเมะให้หมด! ลบภาพจำให้หมด! ถึงจะไม่มีใครชอบเอวานเกเลียนได้เหมือนเค้ากับรุ่นเฒ่าไปเลยเช่นแก๊งที่มีสองคนนั้นก็ช่างสิวะ! มันจะทำไม! (กูก็เส้าไง U_U)
     ไว้ถ้างานใหม่ไม่ยุ่งเดี๋ยวกูจะกลับไปเกลาเรื่องพาราด็อกซ์ที่แต่งจบหมดทุกคู่แล้วสักที ละกูก็เป็นบ้าเนาะ แต่งเสร็จไปหลายเรื่องแต่ก็แต่งใหม่เรื่อยๆ ไม่คิดกลับไปเกลา เหมือนกับที่กูหยุดแต่งฉากจูบไม่ได้จริงๆ เฮ้วป์ orz / เห้อออ เล่าหน่อย วันนี้เล่นเดโม RE4 แล้วกูก็เส้าใจ ไม่อยากคิดแต่ก็อดคิดถึงเจสสี้อุมิไม่ได้จริง กูจะกลับไปแนวบู๊ไม่ได้อีกแล้วจริงๆ เหรอ / ปล. กูเห็นแพทเทิร์นละว่ากูมึงตอนนี้คือดันวงตัวเองกันสุดลิ่ม ไม่สนสี่สนแปดใดๆ มึงสู้ด้วยเร็น กูสู้ด้วยอุกิโช มึงสู้ด้วยไคโตะ กูสู้ด้วยนาสุ อีเหี้ย บันเทิงดีว่ะ 55555 เหลือวงกองกลางเดียวที่อยู่กับเราคือ...เอ๋กรุ๊ป...เพราะมีพี่ไทเสที่ยึดเหนี่ยวเราสองคนไว้ (ส่วนสโตรตายไปจากใจมึงแล้ว อาจานอุบลช่วยด้วย! ว่าแต่จะมีคัมแบคไหมวะ ไหนๆ ชินทาโร่กับไคโตะก็จะเล่นละครด้วยกัน)
     รู้ป่ะ จริงๆ กูได้ยินแทบทุกคนเรียกว่านาสึ แต่ไม่ได้จริงว่ะ ไม่ชิน เรียกนาสุมาสองปีกว่าแล้ว ก็เรียกกันต่อไปนะพวกเรา
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×