คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #105 : FF15: Starlit Waltz
บรรยากาศของเมืองแห่งสายน้ำที่งดงามจับตาและแสนจะโรแมนติกพลันสลายหายวับไปในชั่วพริบตา ขณะเธอซึ่งกำลังยืนจับราว ปล่อยให้สายลมระต้องขณะทอดมองดูสายน้ำกับกอนโดล่าที่แล่นไปอย่างเรื่อยเฉื่อยท่ามกลางแสงแดดเจืออ่อนของยามสาย ส่องประกายวิบวับ กระนั้นก็ไม่มีสิ่งใดจับใจเธอได้เท่ากับชายหญิงที่กำลังนั่งหัวร่อต่อกระซิกกันบนกอนโดล่า ก่อนฝ่ายชายจะบังเอิญเงยใบหน้าขึ้นมาสบกับเธอแล้วต่างชะงักงัน หุบรอยยิ้มที่มีถึงตอนก่อนหน้าไปพร้อมๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย
โฮลี่ซิกซ์!
ความคิดของเธอฉิวเฉียดกว่าเสียงร้องเรียกของหล่อนที่เงยมองตามอาการชะงักงันจากคนใกล้ ก่อนยกมือขึ้นโบกไหวๆ เปล่งเสียงหัวเราะเริงร่าบนริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่วาดเป็นรอยยิ้มกว้าง รีบบอกให้ฝีพายพาเรือเข้าเทียบท่าซึ่งอยู่ไกลห่างจากเธอแค่ไม่กี่ก้าวเดิน ครั้นจะทำตัวเสียมารยาทกับเจ้าหล่อนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด...นอกจากเลือกผู้ชายผิด...ก็คงจะใจร้ายเกินไปหน่อย สุเอมิตสึ ฮาอาสะจึงทำได้เพียงปั้นแต่งรอยยิ้มโง่ๆ ให้กับนาโอระ เอ็นนะที่ปรี่เข้ามาจับไม้จับมือ ซ้ำยังสวมกอดเข้าให้จนฮาสะทำอะไรไม่ถูกไปครู่ขณะ ทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกันมากไปกว่าฐานะเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่รู้จักกันอย่างผิวเผินผ่านเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน เมื่อไหร่ที่เจอหน้ากันก็จะเพียงแค่ส่งยิ้มและทักทายกันเท่านั้น
ไม่เหมือนกับชายคนรักของเธอที่เพิ่งจะวิ่งมาหาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปในมือ เขาเองก็หัวเราะเมื่อได้เห็นทุกคนที่รู้จักพร้อมหน้ากันอย่างน่าเหลือเชื่อ สองในสามคือเพื่อนที่เรียกได้ว่าสนิทมาตั้งแต่สมัยไฮสคูล ไม่นับเธอที่ย้ายจากบ้านเกิดเมืองนอนไปเข้าเรียนต่อที่อินซอมเนีย ก่อนที่จะย้ายกลับมาทำงานยังบ้านเกิดเมืองนอกที่กราเลียหลังจบการศึกษาและได้พบกับโคจิมะ เคนที่มาเก็บข้อมูลในฐานะนักข่าวภาคสนามของช่องโทรทัศน์อีกครั้งหลังจากสองปีให้หลัง ทั้งที่ไม่เคยมีวี่แววตลอดสี่ปีที่ได้รู้จักกันมา แต่ก็ดันตกลงคบหากันแบบงงๆ แต่แม้จะผ่านมาสามเดือนแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อันที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้แตกต่างจากตอนคบหากันเป็นเพื่อนธรรมดาสมัยเรียนเลยด้วยซ้ำ จะเป็นเพราะเขาไม่ใส่ใจหรือเธอไม่สนใจก็สุดแท้แต่ หากทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบเรียบจนน่าอัศจรรย์ แม้จะเดินทางมาถึงอัลทิสเชียและพักค้างคืนในห้องเดียวกันตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้วก็ตาม
ถ้าถามว่าเธอชอบเคนไหม แน่นอนว่าทุกคนที่ได้รู้จักเขาย่อมต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ชอบ’ เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี อารมณ์ คอยสร้างความสุขให้กับผู้คนรอบข้างเสมอ แต่ถ้าถึงขั้นรักหรือเปล่า ซาอายะก็ชี้ชัดลงไปไม่ได้ แค่เพราะเธอที่เบื่อๆ อยู่กับชีวิตซังกะตายในบริษัทที่ดูท่าว่าจะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่ไปวันๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากหลังชวนกันไปดื่มเป็นเพื่อนหลังเลิกงานตอนที่กรึ่มๆ ว่า “ในเมื่อเราสองคนต่างก็ไม่มีใคร งั้นมาลองคบกันดูดีไหม? แล้วถ้าระหว่างนี้ไม่เวิร์คหรือว่าเจอคนที่ชอบจริงๆ ก็เลิกกันได้เลย” ครั้นพอมาย้อนนึกดูก็ตลกดีเหมือนกันที่เคนเองก็ตกปากรับคำง่ายดายถึงเพียงนั้น แม้มีบ่อยครั้งที่ฮาอาสะอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาอาจเลิกรากันก่อนได้มีใครรุกคืบเสียด้วยซ้ำ
“มาเดตกันเหรอ?”
“เดตเดิตอะไรไม่ใช่สักหน่อย!” เอ็นนะหัวเราะขณะตอบคำถามของเคน ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน คู่ชายหญิงที่นั่งคุยกันอยู่บนกอนโดล่าถึงก่อนหน้า และยืนเคียงคู่กันอย่างสง่างาม ณ ยามนี้ก็เหมือนกับคู่รักสวรรค์สร้างเท่าที่อัลทิสเชีย...หรือแม้แต่อินซอมเนียจะมีได้ “บังเอิญว่าฉันต้องมาทำธุระที่นี่ แต่ว่าเรือหยุดให้บริการชั่วคราว โยชิโนริก็เลยอาสาพามาส่งน่ะ”
“แหม ที่โยชิโนริใจดีให้ขนาดนี้ก็เพราะว่าเป็นคุณเอ็นนะต่างหากล่ะ”
“ก็จริงนะ”
คนที่อ่านคำประชดประชันออกสวนย้อนกลับไปทันควัน จนริมฝีปากคู่สีแดงของเธอฉีกกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเงยขึ้นสบตากับเขา ตรงกันข้ามกับมือซึ่งเปลี่ยนไปไขว้หลังและกำเป็นหมัดแน่น
“ว่าแต่พวกนายเถอะ มาเดตกันเหรอ?”
“อ๋อ ใช่ พวกเรามาเดตกันเนอะเคน” ยาพิษยังคงเคลือบน้ำตาล กระนั้นก็หาได้สะทกสะท้านต่อชายหนุ่มซึ่งยักไหล่ไหว ไม่ได้ให้ความสนใจต่อคำตอบที่ตัวเองเป็นคนถาม
“เอ๋! จริงเหรอ! ยินดีด้วยนะทั้งสองคน!” เอ็นนะอาจแสดงความกระตือรือร้นยิ่งกว่า ‘คู่รักตัวจริง’ ที่คนหนึ่งได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่วนอีกคนหนึ่งก็ได้แต่ยิ้มเก้อๆ แต่อย่างไรก็คงจะออกมาดูงี่เง่าทั้งคู่นั่นแหละ “ว่าแต่เคนกับฮาอาสะ...”
กลับเป็นโยชิโนริที่ขัดขึ้นมาเสียก่อนว่า “ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ไปหาร้านนั่งคุยกันดีกว่า”
เอ็นนะหันไปพยักหน้ารับคนข้างกายได้อย่างน่าชังโดยไม่ได้ดูขัดหูขัดตาเลยแม้แต่น้อย ขณะเดินตามหลังพวกเขาไป ซาอายะก็นึกอดสูไม่ได้แม้จากแผ่นหลังที่เคียงคู่กัน เมื่อคนที่ออกตัวว่าเป็นแค่เพื่อนกันยังดูเหมาะสมกันยิ่งกว่า ‘คู่รักตัวจริง’ ตรงนี้เสียอีก
_______________
ความคิดเห็น