ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #85 : DRIVE TO THE STARRY ROAD (75%)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 67


    DRIVE TO THE STARRY ROAD
    Playlist: woo!ah! – Catch the Star











    .

    เสียอะไรไม่ว่า แต่จะเสียหน้าไม่ได้!

    นั่นคือคติประจำใจของอามาโนะ อุจู เพราะฉะนั้นคนปากแข็ง ปากหนัก และปากเสียอย่างเธอ จึงไม่กล้าบอกว่าตอนนี้กำลังตกหลุมรักเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมห้อง เจ้าของที่นั่งแถวข้างๆ เยื้องไปด้านหน้า คนที่อุจูไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกพบด้วยเหตุผลงี่เง่าเหมือนอย่างที่เธอเป็นมาตลอดแค่ว่าไม่ถูกชะตา แต่ก็ไม่ได้เกลียดขี้หน้าอะไร อันที่จริงก็ใช่ว่ารูปลักษณ์เขาแย่หรือนิสัยเขาเสีย เพราะทากาฮาชิ เคียวเฮที่ทุกคนรู้จักไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด เขาหน้าตาดี ตัวก็สูง หุ่นก็ดี เล่นกีฬาก็เก่ง ถึงการเรียนจะครึ่งๆ กลางๆ ค่อนไปทางล่างๆ มากกว่า แต่อย่างกับว่าเรื่องนั้นสำคัญนักหนากับเด็กหนุ่มที่ประกาศว่าเรียนจบไฮสคูลแล้วจะไปเป็นช่างทำผม ไม่ต้องพูดถึงนิสัยที่ไม่มีใครเคยนินทาว่าร้ายเขาเลยสักครั้ง แต่เอาเป็นว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้ร้ายแค่ปากแต่ยังรวมถึงนิสัย เลยชอบเอาเขาไปแกล้งแซวให้เพื่อนสนิทตัวเองลับหลัง ทำเอาคนร่าเริงอารมณ์ดีอย่างนิกิถึงขนาดเกือบจะร้องไห้เพราะโดนล้อกับคนที่ทั้งไม่ได้ชอบและไม่คิดจะชอบ! ขณะที่เธอจะต้องเอาหน้าไปมุดดินแน่ถ้าเกิดว่าจะต้องเป็นฝ่ายโดนล้อบ้างเสียเอง

    แต่ก็เหมือนกับทุกเรื่องราวความรักที่มักจะมาเยี่ยมเยือนเราไม่ให้ทันตั้งตัว เล่นวีอาร์เวิลด์มาตั้งแต่รุ่นทดสอบเบต้าร้อยวันพันปีก็ไม่ยักกะเคยพบ หรือในตอนที่แค่เข้าไปเดินเตร่หรือเล่นเกมไหนๆ ก็ไม่ยักกะเคยเจอ แต่ในวันที่โชคชะตาฟ้าลิขิต อุจูที่เข้าไปเล่นเกมยิงซอมบี้คนเดียวก็ได้สุ่มทีมสี่คนเข้าร่วมกับปาร์ตี้สามคนของเคียวเฮแบบเหลือเชื่อน่าดู

    แค่ว่าเธอทะเลาะกับคนที่บ้านมาจนการออกล่ามอนสเตอร์ที่กำลังติดอยู่ในช่วงนี้ก็ไม่อาจช่วยคลายความขุ่นข้อง ดังนั้นตัวเลือกการฟาดฟันฝูงซอมบี้ที่ดาหน้าเข้ามาแบบไม่ต้องเผื่อเหลือสมองไปคิดถึงเรื่องอะไรอีกจึงเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดใจมากกว่า เคียวเฮที่มากับรุ่นพี่ชื่อจูริและโคจิทักทายเธอตามประสาเพื่อนร่วมห้องด้วยความเป็นมิตรดีแบบที่เขาเป็น แต่ก็อีกนั่นแหละที่คนนิสัยเสียและกำลังอารมณ์เสียจะทำตัวหยิ่งใส่ พอออกจากเซฟรูมปุ๊บก็คว้าเอาไม้เบสบอลออกไปหวดไม่ยั้ง ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนช่วยกันทำภารกิจไป เพิ่มเติมด้วยการเข้ามาช่วยดึงเธอที่เลือดหมดเพราะเล่นลุยเดี่ยวแบบไม่สนใจใครเลยไม่รู้ต่อกี่ครั้ง

    กระทั่งตอนที่เคียวเฮฝ่าฝูงซอมบี้รวมถึงนางแม่มดร่ำไห้ที่ยากเย็นเข้ามาช่วยเธอที่ล้มอยู่ห่างออกไปตั้งไกลคนเดียว เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมที่เหลือต้องช่วยกันขนน้ำมันมาเติมเรือพาหลบหนี ตอนที่เขาช่วยจับมือเธอดึงขึ้นเหมือนอย่างทุกครั้ง หากในครานี้จะค้างมันไว้ขณะก้มลงมาจ้องสบตากับเธอ อุจูรู้สึกได้ถึงแรงบีบเล็กน้อยเมื่อเขาบอกว่า “ต่อไปไปกับเรานะ อย่าลุยเดี่ยวคนเดียว เราไม่อยากเห็นเธอตายอีก” และตอนที่เขายิงเอเคคอยคุ้มกันเธอที่อาวุธอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ด้วยความแม่นยำเอามาก แถมยังเท่เอามากๆ เท่านั้นหัวใจของอุจูก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาทันที

     

    จนทำให้การไปโรงเรียนในวันถัดมากลายเป็นความว้าวุ่น เธอพยายามที่จะไม่เอาแต่มองไปยังทิศทางของเขา แต่สุดท้ายก็ห้ามตัวเองเผื่อว่าจะได้เห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างสักนิดก็ยังดีไม่ได้ทุกที ไม่ว่าจะตอนที่เขาลุกออกไปหรือเดินกลับเข้ามา ทุกครั้งที่เมื่อบังเอิญได้สบตากันเขาก็จะยิ้มให้ หากอุจูก็จะรีบเบือนหลบไปด้วยความอาย ทั้งที่เธอเองก็อยากคุยกับเขานอกเกมบ้างใจแทบขาด แต่เด็กสาวที่กินศักดิ์ศรีเป็นอาหารย่อมไม่มีทางอาจหาญ แค่เล่นเกมเดียวด้วยกันใช่ว่าจะเปลี่ยนความสัมพันธ์กันได้ภายในชั่วข้ามคืนสักหน่อย ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเธอยังเป็นภาระให้พวกเขาแบกอีกต่างหาก บางทีเคียวเฮก็อาจจะคิดแบบนั้น เขาถึงได้ไม่พยายามเข้ามาคุยกับเธอเหมือนอย่างที่คุยกับเพื่อนคนอื่นๆ และอุจูก็ไม่คาดหวังว่าจะบังเอิญโชคดีได้เจอเขาในวีอาร์เวิลด์ที่มีโลกหลากหลายและเกมมากมายอีกในเร็ววัน เพราะเกมชู้ตติ้งแนวแบทเทิลรอยัลที่เขาชอบเล่นกับกลุ่มเพื่อนสนิท แตกต่างจากแนวพัซเซิล จับจังหวะ แฟนตาซี เบาสมอง เน้นเรื่องราว โดยเฉพาะสยองขวัญที่เธอชอบสรรหาทำกับนิกิ (และแทบไม่เคยเจอหนุ่มๆ ในห้องเลยสักคนนอกจากหัวหน้าห้องโอฮาชิ) เป็นประจำ

    พอหดหู่มาตลอดทั้งเช้าแล้วหัวใจก็พลอยห่อเหี่ยวมาจนถึงดึกดื่น พาลบอกปัดการเล่นเกมแข่งรถน่ารักกับแมพใหม่ในเวนิสทั้งที่เคยสัญญากับนิกิไว้เสียดิบดี เธอไม่ควรจะมีความลับกับเพื่อนสนิท แต่เพื่อนสนิทคนที่เคยไปไล่แซวให้คนที่ดันมาแอบชอบเสียเองตอนนี้มันก็ออกจะน่าอายเกินไป ใช่จะจำที่ตัวเองเคยพูดกับนิกิที่ยอกย้อนใส่ว่า “แกชอบผู้ชายเล่นเกมเก่งนี่อุจู แถมเป็นเกมยิงด้วยไม่ใช่ ถ้างั้นในห้องเราก็มีเคียวเฮนี่แหละที่เหมาะกับแกที่สุดแล้ว!” ด้วยการโต้ตอบกลับไปว่า “เล่นเกมเก่งแล้วไง! ไม่เห็นจะหล่อ! ยังไงก็ไม่ชอบหรอก!” ไม่ได้

    แถมสุดท้ายก็จะดันมาตกหลุมรักเขาจากหน้าตาที่สลัดออกจากความคิดไปไม่พ้นสักทีเข้าจนได้

    เพราะอย่างนั้นเธอเลยสำลักโค้กโฟลตที่ยกแก้วขึ้นมาดูดเป็นการใหญ่ เมื่อได้เห็นใบหน้าที่กำลังคิดถึงผ่านบานกระจกนอกสเปซโซดาร้านโปรด ในโลกนีออนมุมโปรด ที่เธอมานั่งเป็นลูกค้าจำนวนน้อยนิดในวันกลางสัปดาห์อยู่ ไม่เพียงแค่นั้น เขาที่เดินอยู่คนเดียวยังผลักบานประตูเข้ามาที่นี่! เธอเลยต้องรีบหันขวับกลับมาก่อนได้ทันสบตา ทั้งที่ไม่มีอะไรที่อุจูอยากทำมากไปกว่าการมองหน้าพูดคุยกับเขาอีกแล้ว ไม่ใช่คนที่เธอทำเป็นเนียนกดรายชื่อผู้ติดต่อไปหา หากเจ้าตัวก็จะทั้งตอบรับและตัดสายทิ้งด้วยความเร็วเต็มสปีดหลังเสียงกรี๊ดดังลั่นว่า “รถจะคว่ำแล้ว!” จนริมฝีปากของอุจูได้แต่เผยอค้างอยู่อย่างนั้น

    แมพใหม่คนเยอะโคตรๆ!

    ให้อุจูเป็นต้องได้สะดุ้งโหยงจากเคียวเฮที่ถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม ด้วยรอยยิ้มที่ทำให้แก้มของเธอร้อนวูบ

    “อ้อ ป...ไปมาแล้วเหรอ?

    พวกโอฮาชิก็ชวนอยู่ แต่พอบอกว่าคนเยอะเราเลยขอบายดีกว่า” เขาไหวไหล่ “ว่าแต่อุจูเหอะ ไม่เห็นไปกับเพื่อน”

    ก็...เหมือนกันแหละ คนเยอะ เราไม่ชอบ” เธอตอบกลับ ทำทีเป็นยกมือขึ้นลูบผมตัวเองเป็นการแก้เก้อ ครั้นจะให้บอกความจริงไปว่าไม่มีแก่ใจอยากเล่นเกมอะไรเลยเพราะมีเขาเป็นสาเหตุก็ไม่ใช่เรื่องที่เข้าที “ว่าแต่เคียวเฮเหอะ มาทำอะไรคนเดียวที่นี่?”

    เขาหันไปขอบคุณพนักงานเสิร์ฟ เมื่อหล่อนขัดจังหวะที่เก้กังของเธอแต่ฝ่ายเดียวด้วยการวางแก้วโค้กโฟลต เครื่องดื่มยอดนิยมอันดับหนึ่งของสเปซโซดา!’ ลงบนโต๊ะ หลังจากที่เคียวเฮดูดเครื่องดื่มไปอึกใหญ่ๆ พร้อมกับรอยยิ้มกว้างแบบที่สื่อว่าเขากำลังพอใจ...ขณะที่อุจูต้องกลั้นใจ! แล้วจึงค่อยตอบคำถามก่อนหน้านั้น

    บังเอิญว่าเราผ่านมาทางนี้” ไม่ทันที่คู่สนทนาจะได้พยักหน้าหรือขานในลำคอเป็นการตอบรับ เขาจะก็เอ่ยต่อไปโดยไม่รั้งรอ หรือไม่ก็มีคนแนะนำที่นี่มา บอกว่าโค้กโฟลตเด็ดมากเลยคิดว่าอยากลองแวะมาชิมดู เราควรจะตอบอะไรแบบนี้ใช่ไหมถึงจะดูไม่น่าสงสัย แต่เราตัดสินใจแล้วว่าไม่อยากอ้อมค้อมให้เสียเวลา ความจริงคือพอเรารู้จากพวกโอฮาชิว่าเจอนิกิอยู่ที่แมพใหม่คนเดียว เราเลยตั้งใจมาที่นี่เพราะคิดว่าจะได้เจอเธอ”

    “จ! เจอเราเหรอ!” โชคดีที่อุจูกำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่เฉยๆ ปฏิกิริยาของเธอจึงมีแค่การสะดุ้งเฮือกจนตัวโยน ไม่ใช่สำลักอะไรพรวดออกไป

    ก็ตอนอยู่โรงเรียนเธอดูเหมือนไม่อยากคุยกับเรา เราเลยคิดว่าถ้าได้เจอเธอที่โลกอื่นแบบที่ไม่มีเพื่อนคนอื่นอยู่ด้วยเธออาจจะยอมคุยกับเราก็ได้ ถึงจะดูเหมือนเราบีบบังคับให้เธอต้องคุย เพราะเรามานั่งร่วมโต๊ะเองเลยโดยที่เธอไม่ได้เชิญก็เถอะ”

    ม! ไม่นี่!”

    มีคนเคยบอกด้วยว่าเธอไม่ชอบหน้าเรา”

    ก! ก็เปล่านะ!”

    ครั้นอีกฝ่ายปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแหลมสูงที่ไม่เนียนเอาเสียเลยมาจนถึงตรงนี้ เคียวเฮก็จะหัวเราะออกมา “เราไม่ว่าอะไรหรอก”

    อุจูก็เลยเปลี่ยนเป็นงึมงำคำขอโทษที่ใครมันจะมาได้ยินแทน

    “รู้ไหมว่าเมื่อวานตอนที่สุ่มเจอเธอเราโคตรดีใจเลย เพราะเราอยากเล่นเกมกับเธอมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่เคนโตะเล่าว่าตีมอนกับเธอแล้วโคตรเดือดจนหมอนั่นช็อกไปเลย แต่เมื่อวานเราจะคุยกับเธอก็ไม่กล้า เพราะหน้าตาเธอดูบอกบุญไม่รับสุดๆ แถมยังลุยเดี่ยวแบบไม่กลัวอะไรเลยสุดๆ...”

    ก่อนที่จะถูกเบรกจากเจ้าตัวที่กึ่งตะโกนออกมาว่า “หยุดแซวได้แล้ว! เราอายนะ!

    เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากเคียวเฮขึ้นมาอีกครั้ง

    เราจะบอกว่าชอบมากๆ เลยต่างหาก!”

    พอเขาพูดประโยคต้องห้ามนั้นออกมา แม้จะหมายถึงแค่ความบ้าดีเดือดก็ช่าง แต่หัวใจที่เคยแข็งแกร่งดุจหินผาของอุจูก็คล้ายว่าจะอ่อนยวบยาบลงไป อย่างไอศกรีมวานิลลาที่โปะอยู่บนแก้วเครื่องดื่มอันดับหนึ่งของสเปซโซดา...เพราะตอนนี้เขาคืออันดับหนึ่งของสเปซเลิฟเวอร์! อุจูแน่ใจเลยว่าใบหน้าขาวของตัวเองในยามนี้ต้องกำลังขึ้นสีแดงแปร๊ด เหมือนที่แน่ใจได้ว่าโคมไฟทรงกลมกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ในคาเฟ่โทนสีม่วงชมพูพาสเทลที่กำลังส่องสว่างจะไม่ได้ช่วยกลบเกลื่อนให้เลยสักนิด เช่นนั้นคนที่จนมุมก็เลยทำโวยกลบเกลื่อนไปว่า “จะบอกว่าเรามันพวกลุยเดี่ยวแบบคนบ้าทั้งที่ไม่ได้เก่งอย่างเคียวเฮก็พูดมาได้นะ”

    เราก็ไม่ได้เล่นเก่งทุกเกม และเราก็ไม่ได้ชอบคนเล่นเกมเก่งสักหน่อย” เคียวเฮสวนย้อน ความรวดเร็วของจังหวะรวมถึงช่วงเวลาทั้งหมดเหล่านั้นสร้างความประหลาดใจให้กับคนที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับเขาเลยเป็นอย่างมาก “ขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน อามาโนะ อุจู เราสนใจเธอตั้งแต่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ถึงตอนแรกจะเพราะเราฝันอยากเป็นช่างทำผมเลยสนใจสีผมที่สวยโคตรๆ ของเธอ แต่เราไม่รู้จะเข้าหายังไงเพราะเธอดูหยิ่งมาก แถมมีแต่คนบอกว่าเธอไม่ชอบหน้าเรา เรารู้ว่าเธอเล่นเกมอะไรบ้างแต่จะทำยังไงก็ไม่เคยสุ่มเจอกันเหมือนที่เธอเจอโอฮาชิหรือเคนโตะ เรายังรู้ด้วยว่าเธอชอบไปกินดื่มที่ร้านไหนแต่ส่วนใหญ่เธอก็จะอยู่แต่กับนิกิ เราก็เลยไม่มีโอกาสสักที จนกระทั่งเมื่อวานที่เราได้เล่นเกมกับเธอเป็นครั้งแรก เหมือนเราได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นล่ะมั้ง ทุกครั้งตอนที่ได้ช่วยเธอ ได้จับมือเธอ เราก็คิดว่าอยากเป็นคนที่ปกป้องเธอขึ้นมาเลย”

    อุจูรับฟังคำพูดทั้งหมดนั้นด้วยสีหน้าที่อึ้งงัน ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะถูกคนสารภาพรักได้ยาวเหยียดขนาดนี้ ลิ้นของเธอก็ดูเหมือนจะแข็งทื่อจนควานหาประโยคคำพูดอะไรไม่เจอนอกจาก “เอ๊ะ?”

    “ไม่ต้องคิดมาก เราไม่ได้หวังคำตอบอะไรอยู่แล้ว” พูดจบเขาก็ก้มลงไปตักไอศกรีม (เพิ่มพิเศษ!) เข้าปาก แล้วส่งยิ้มที่สื่อความหมายชัดเจนว่าไม่มีทั้งความลังเลในสิ่งที่เอ่ยออกไปก่อนหน้านั้น หรือจะผิดหวังทั้งคำปฏิเสธที่คิดว่าเธอน่าจะเอ่ยหลังจากนี้

    แต่หากปล่อยให้วินาทีนี้หลุดลอยไป อุจูก็รู้ว่าเขาจะยอมรับมันแต่โดยดี ขณะที่เธอจะไม่ได้พบโอกาสครั้งที่สามในโลกใบที่กว้างใหญ่เกินกว่าจะมาโคจรบรรจบอีกเลย

    ถ้าอย่างนั้นเราก็จะขอพูดตรงๆ ด้วย” แล้วพลันโพล่งขึ้นด้วยความกล้าที่แม้แต่ตัวเองยังไม่คิดว่าชาตินี้จะมีให้ผู้ชายคนไหนในโลกถึงจะชอบมากขนาดไหนก็ตาม แต่อาจเป็นเพราะว่าเธอชอบเคียวเฮมากขนาดนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะใช้หัวใจมากกว่าสมอง “ทากาฮาชิ เคียวเฮ เราเคยไม่ชอบหน้าเธอแบบไม่มีเหตุผลจริงๆ เพราะเธอก็รู้ว่าคนอย่างเราไม่เคยมีเหตุผล แต่เมื่อวานตอนที่ได้เห็นเธอฝ่าซอมบี้มาช่วยเรา ยิงปืนคุ้มกันเรา เป็นตอนนั้นแหละที่เราคิดว่าเธอเท่สุดๆ แล้วก็ตกหลุมรักขึ้นมาเลย!”

    เอ๊ะ? สีหน้าของเขาเหรอหราจากคำตอบที่ไม่คาดคิด

    เราไม่อยากได้คนมาปกป้องหรอก แต่แค่คอยอยู่กับเรา ทนความบ้าบองี่เง่าของเรา แล้วถ้าวันไหนเราล้ม ก็แค่ยื่นมือมาช่วยฉุดเราขึ้นก็พอ เคียวเฮจะทำได้ไหมล่ะ!”

    และเมื่อเขาหัวเราะออกมา ลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้เธอจับกระชับแน่นเหมือนกับครั้งแรกเพื่อเป็นการยืนยัน อุจูก็รู้สึกว่าเธอจะสามารถโบยบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้ายังสรวงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับนับจากนี้ได้

    หรือไม่...เธอก็อาจคว้าดวงดาวที่เปล่งประกายที่สุดมาได้แล้วต่างหาก

     











    2022年06月01日
    _______________
     เป็นเรื่องบังเอิญที่นากยองเกิดวันนี้พอดี! คลิปเคียวเฮเล่นมาริโอ้คาร์ทก็ลงวันนี้พอดี! กูจึงจะถือฤกษ์งามยามดีวันนี้ลงฟิคโคคุโบะใสๆ หัวใจเกินร้อยในวันที่ 1 ของเดือนหก! ในตอนที่เลขสวยมากอย่าง 111! เพื่อสื่อด้วยว่าปีนี้ที่หนึ่งของเราคือบ่าวทากาฮาชิยังไงล่ะ! สัญญาแล้วนะว่าใครจะย้ายเมนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ทากาฮาชิให้มาบอกกันก่อนด้วย (หมายถึงกูนี่แหละบอกมึงก่อน) และช่วยด้วย เคียวเฮเล่นมาริโอ้คาร์ทเก่งมาก หล่อมาก กูรักเค้า ถึงไม่รู้จะนานเท่าไหร่ จะบ้าได้เท่าอุมิไหม แต่ตอนนี้กูก็รักเค้าที่สุด คันไซนัมบาวัน!!!
     ความฝันหนึ่งของกูคืออยากแต่งพล็อตแนวเข้าไปในโลกเกมแบบเอ็มวี Q&A ของเชอร์รี่บูลเล็ตมาเป็นชาติแล้ว แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก จนวันที่ 16 พ.ค. กูเห็นปกเอ็มวีเพลงแคนดี้ชูการ์ป๊อปของแอสโทรสวยจัง สไตล์กูเรยนี่ ไหนกดเข้าไปดูหน่อยสิแล้วก็วี้ดว้าย! กรี๊ด! แสงสี! นีออน! แล้วพล็อตก็มาเฉย งง ทีนี้เพื่อให้เป็นโลกเกมแบบรวมๆ เลยเอา VR Chat มาผสมด้วย ว่าไปก็คิดถึง Wreck-It Ralph อยู่เนาะที่ไปโลกเกมไหนก็ได้ >_< ซึ่งกูตั้งใจแต่งเรื่องนี้เป็นจดหมายเหตุให้เราสองคนที่มาชอบบ่าวทากาฮาชิเหมือนกัน แต่ก่อนที่เราจะมาถึงจุดนี้ เราต่างมีความหลังจริง หนึ่งคือมึงไม่เอาเลยพี่ไคโตะคิงปุริทั้งที่กูเคยว่าก็หล่อดี ซุยเอ็มวีนามาเอะโอชิเอเตะตั้งแต่ตอนที่ปล่อยเพราะฉากโรงละครด้วย ส่วนกูก็แซวเคียวเฮให้มึงช่วงนึงจนมึงด่า ขนาดเรามาถกกันว่าถ้ามึงชอบเค้าจริงกูจะทำยังไง แต่ถ้ามึงชอบจริงกูก็คงไม่ชอบหรอก มั้งนะ 55555 และอย่างที่เรารู้กันว่าเคียวเฮเล่นเกมยิงเทพจริง (แต่เล่นฟอลกายห่วยจริง) กูชอบเค้าเพราะเอ็มวี The Answer จริง แต่ที่ทำให้กูแบบบ้าตายไปเรยคือตอนเล่นเกม Knives Out (ชื่อเกมญี่ปุ่นอ่านว่าไรไม่รู้ว่ะ) แล้วเป็นสายลุยจริง เก่งจริง ก็เอาเป็นว่าเปลี่ยนจากชอบมารักเค้าเพราะเห็นยิงปืนนี่แหละ 55555 ส่วนมึงก็บอกว่าชอบไคโตะเพราะเห็นตอนยิ้ม กูก็เลย ได้! มา! งั้นก็แต่งฟิคแบบให้ตาย (อาย) กันตรงนี้ให้หมด!
     ตอนแรกอุจูจะได้เล่นเกมแนวแบทเทิลรอยัลเว้ย แต่จากประสบการณ์กูที่เคยเล่นฟอร์ทไนท์มา ถ้ายิงไม่ได้ยังไงมันก็ไม่โดน แล้วนางเอกก็จะไม่ได้โชว์ความผีบ้า กูเลยคิดถึงเกมที่จะได้ลุยกันหมดแล้วก็ตายหลายรอบได้ เลยเลือก Left 4 Dead 2 ที่ทุกคนไปลุยด้วยกันได้แทน มาจากประสบการณ์จริงที่สมัยนั้นกูก็เคยมีเพื่อนที่เล่นเกมเก่งแบบนี้แหละ (ขอบคุณมากที่ตอนนั้นมันติดพับจีคนับ) ชวนไปเล่นด้วยกัน สักระยะนึงมันก็เปิดไมค์เพื่อบอกว่าเธออย่าไปลุยเดี่ยว ไปด้วยกัน ซึ่งคนอย่างเราก็เอาทั้งความฝันและประสบการณ์จริงมาแต่งฟิคได้เสมอ 55555 ส่วนที่อุจูชอบไปล่ามอนเพราะนี่คือเกมเดียวที่เคียวเฮเล่นแล้วกูก็ (เคย) ติด อ่าฆ์ U_U / ส่วนที่ให้แทนตัวเองด้วยคำว่าเรากับเธอเพราะมาจากสังคมเล่นเกมที่เคยเจอ (จริงๆ เจอที่ใช้เค้าเลย แต่อันนี้เกิ๊น พิมพ์แล้วขำ) เลยอยากแต่งด้วยฟีลที่คุ้นเคยหน่อย ให้เรียกชื่อเลยถึงจะไม่สนิทแต่ต้องแคร์อะไร อิอิ สมัยเกมออนไลน์เน็ต 56k / ปล. เลือกจูริเพราะเล่นเกมยิงกับเคียวเฮแล้วเก่งกันทั้งคู่ ไม่มาไม่ได้ โคจิเล่นแก๊งบีสต์กับเคียวเฮแล้วน่ารัก ส่วนโอฮาชิกับเคนโตะก็เป็นเมมของนานิวะที่ได้ออกในช่องอยู่แล้ว (โอฮาชิเล่นไอเดนฯแล้วเป็นจู๊คคิง! แถมเคยเล่นไบโอฯมาก่อนด้วย! กูว่าคนนี้แหละไหมที่เล่นเกมสไตล์เรา 55555) แต่พาร์ทของนิกิจะได้เล่นแต่กับพี่ไคโตะนี่แหละ เพราะไม่มีใครทนเล่นกับมึงได้หรอกแม้แต่กู!
     ชื่อเรื่องมาจากชื่ออัลบั้มของแอสโทรที่เห็นแล้วก็โอ๊ย ไม่ได้ละ เพราะช่วงนี้ JGR กำลังแข่งมาริโอ้คาร์ทอยู่ และเพราะกูรักดวงดาว สเปซมาก กูเลยจะพามึงไปถนนสายดวงดาวด้วยกันงับ >_< ส่วนชื่ออุจูตอนแรกคือใช้ไปงั้นๆ เพราะคิดถึงนีออนก็คิดถึงอวกาศ แต่สุดท้ายก็ขี้เกียจนึกชื่ออื่นเลยเอาเป็นอุจูที่อ่านว่าอุจูเท่านั้น! (ที่ฟิคมึงเคียวเฮก็พูดถึงอวกาศว่ะ สัส ใจตรงกับกูเกินปุยมุ้ย!) / เพราะนานิวะมีเพลงชื่อโซดาป๊อปเลิฟเลยเป็นร้านสเปซโซดา ดัดแปลงมาจากสเปซคาวบอย >_< / ทีนี้อู้อ้าจะคัมแบคพอดี กูก็กรี๊ดดด เลยนึกถึงเพลงที่ชอบที่สุดซึ่งมีชื่อเพลงสอดคล้องกับฟิคเรื่องนี้อย่าง Catch The Stars กูก็กรี๊ดดดด จะรออยู่ใย และชอบมากที่เรื่องนี้ได้เปรียบพระเอกเป็นดวงดาวบ้าง เพราะแต่งให้นางเอกเป็นดวงดาวมาร้อยล้านเรื่องแล้วกูก็เบื่อเนาะ (ต่อไปจะเป็นพระอาทิตย์แล้วจ้าเพราะเนื้อเพลงอุบุราบุบอกเธอคือพระอาทิตย์ 55555ตอนแรกก็คิดว่าอยากใช้อู้อ้าจัง เรามีเมนวงนี้ตั้งสามคน แต่ไม่ได้ว่ะ พอคิดถึงว่านากยองก็เคยไปแข่งเกมดอลลิมปิก 2018 เล่นพับจี อยู่ทีมเดียวกับกงชานตัวเต็ง โอ๊ยละอีดอก สมัยนั้นกูชอบโออุนเค้าก็ไปแข่งเว้ย (ยิงนากยองกูด้วย กำ) อยากบอกว่าไม่เคยตอแหลแอ๊บแอ๋เลือกเมนที่เล่นเกมเพื่อจะอวดว่าเป็นเกมเมอร์เหมือนเค้า เพราะก็รู้ตัวดีว่าไม่ใช่ เป็นแค่คนปกติธรรมดาที่สนใจแวดวงเกม แถมไม่เล่น FPS ด้วยซ้ำ กูเลือกเมนเพราะหน้า 55555 แต่สุดท้ายเค้าก็จะชอบเกมจริง เล่นเกมเก่งจริงตลอด ว้าวซ่า นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่ากูไม่เคยเลือกเมนผิด (เหมือนมึง) สวัสดี
     ยอมรับว่าแต่งฟิคฟีลแนวโคคุโบะไม่ค่อยได้แล้ว ไปตามวัย แถมบทพูดเยอะมากแต่งยากจังวะ แต่ตอนแต่งก็สนุกมากนะ ลื่นปรื๊ดๆ แค่สองวันก็เสร็จ (แต่เกลาเสริมนานอยู่และต้องรอรูปที่นานกว่า เลยอดเปิดตัวเป็นเรื่องแรกเลย อิอิ) ว่าไปแอบให้ฟีลเหมือนเรื่องอุมิบอสัดเกมเปี๊ยบ นางเอกนิสัย อิมเมจเดิมด้วย แต่ทำไมกูชอบเรื่องนี้กว่ามากๆ หรือเพราะบทพระเอกมันดีกว่าวะ ขนาดตอนนั้นกูชอบอุมิมากๆ ละนะยังไม่เปิงใจเลย เฮ้อ ว่าแต่ทำไมเราแต่งเคียวเฮน่ารักจัง รูปโปสก็น่ารักจัง รู้ป่ะว่าแมกนี้เคียวเฮแต่งแบบ preppy แหละ แม่งเอ๊ย กูเก๊าะต้องซื้อสิวะ! บ่าไหวบอกไหว ลาแล้วบทลูสเซอร์รองมือรองเท้าที่แต่งให้อุมิกว่าร้อยเรื่อง เบื่อ พอ หยุด
     และขอบคุณรูปคอมมิชจากคุณเนยซอรัส (ลิงค์) ที่โอ๊ย กูไม่ได้โดเนตร้อยบาท! กูไปถามราคาเปิดจริงๆ แล้วจ่ายไปเท่านั้นแหละ จะเล่าว่าไปจองเค้าตั้งแต่ต้นเดือนแต่เค้าไม่ตอบสักทีกูเลยไปจ้างคนอื่นเรื่องอื่นแทน จนพอกลางเดือนเค้าเพิ่งมาเห็นกูก็ตายแล้ว จะเอาบรีฟไหนไปจ้างดีวะ บาปบุญ พระเจ้าดลบันดาลให้กูปิ๊งพล็อตเรื่องนี้ขึ้นมาพอดี ตอนแรกจะเป็นรูปนางเอกคู่กันแหละ แต่งั้นก็เล่นคนละสีไม่ได้น่ะสิ เลยแยกเดี่ยวพาร์ทใครพาร์ทมันไปเร้ย ถึงยังไม่เห็นแต่มีรูปให้นิกิจังสีเหลืองด้วยแน่นอนจ้า >_< / ฉากหลังของอุจูมาจากเอ็มวีของแอสโทร ซีนที่นั่งกินอมยิ้มหน้าร้านแต่มุมไม่เป๊ะนะต๊ะ กูเก๊าะต้องจัดโค้กโฟลตให้เข้ากับเรื่องไปเร้ย! อวดด้วยว่าชุดมีกลิตเตอร์วิบวับมาจากเมย์จังในเอ็มวี Q&A (ลิงค์) ต่างหูที่ข้างหนึ่งเป็นดาว ข้างหนึ่งเป็นอวกาศก็มาจากเมย์หมดเลย ซึ่งกูดีใจมากๆ ที่เค้าวาดออกมาได้น่ารักมากเว่อร์! เห็นสีม่วงชมพูของพ้มไหมงับ โอ๊ยมีเขียวแร้วงัย เขียวก็คือโอฮาชิ จบ
     มึง จู่ๆ กูก็มานั่งนึกว่าเราสองคนชอบจอห์นนีส์มาเป็นสิบๆ ปี ผ่านมาแล้วก็หลายวง แต่ก็ไม่เคยมีเมนหลักเป็นสีที่เราชอบที่สุดแม้แต่คนเดียว! วงเดียว! จนมาเจอเคียวเฮกับไคโตะ! ที่กูมึงต่างชอบกันเอง แต่ดันนามสกุลทากาฮาชิเหมือนกัน! แถมที่จริงตอนแรกเคียวเฮก็ไม่ได้อยากได้สีม่วงด้วยแค่แพ้จังเคนปง! ส่วนสีของไคโตะคือเหลืองทานตะวันที่เป็นชื่อมึงมาชาตินึงละ! เฮ้ย! มึงไม่คิดว่ามันคือโชคชะตาฟ้าลิขิตเหรอวะ! สมัยก่อนกูยังเป็นแฟนทราวิสที่หมั่นนานิวะเพราะเป็นคู่แข่งกันแต่ดันได้เดก่อนอยู่เลย กูจำได้ 55555 และกูก็จำได้ว่าเคยจะชอบนานิวะตั้งแต่ปลายปี '20 สมัยที่เพิ่งเริ่มตามจูเนียร์ เพราะไปเจอรูปมิจิเอดะแล้วหล่อมาก แต่มึงไม่ให้ชอบเพราะไม่ใช่แนว กูจำได้หมดแหละ ไดอะมอนด์สมายล์ ฮ่าๆๆ




    DRIVE TO THE STARRY ROAD
    Playlist: ASTRO – Candy Sugar Pop











    .

    มันเป็นเรื่องที่ทำให้ฮาระ นิกิ หนักอกหนักใจลำพังมาได้กว่าสัปดาห์แล้ว ต้นสายปลายเหตุมาจากวันที่อุจูแยกตัวไปล่ามอนสเตอร์ที่เธอยังไม่คิดจะเปลี่ยนวิถีไปเป็นฮันเตอร์ให้ได้โดนล่าเองซะมากกว่า ตอนที่เดินเตร่คิดว่าถ้าอย่างนั้นคืนนี้จะทำอะไรดี ก็ให้บังเอิญเดินผ่านกลุ่มคนที่คุยกันเรื่องเกมเทนนิสน่ารัก (เธอกับอุจูเหมาเรียกเกมที่ภาพสีสันสดใสละลานตาเหมือนหลุดมาจากเครื่องเกมสมัยพระเจ้าเหาอย่างนินเทนโดสวิตช์ว่าเกมน่ารัก) เลยตกลงใจเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นเกมแนวกีฬาที่การันตีฝีมือของเจ้าตัวจากเพื่อนสนิทได้ว่า “ห่วยแตก! กระจอก! ขนาดฉันที่เล่นพอถูๆ ไถๆ ยังทนไม่ไหว แล้วใครหน้าไหนมันจะไปจับคู่เล่นกับแกลง!” แต่บางครั้งถ้าอยากจะมีความสุข คนเราก็ต้องหัดทำตัวไม่แคร์สื่อบ้าง

    เหมือนกับผู้เล่นที่ชื่อเร็นเร็น ซึ่งก็จะไม่แคร์สื่อด้วยการระเบิดเสียงหัวเราะหนักมากตลอดเวลาที่ได้จับคู่แข่งกับเธอ เขาไม่ได้แสดงทีท่าว่ารำคาญใจหรือหงุดหงิดใจกับการเล่น — ที่เหมือนไม่ได้เล่น — เพราะเธอแทบจะตีลูกคืนไม่ได้เลย แต่ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการถูกเย้ยเยาะให้ได้เสียหน้าก็จะทำให้นิกินึกอับอายขึ้นมา เธออยากจะปากดีแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมได้อย่างอุจูที่คงไม่ยั้งปากตัวเองถึงต่อให้เจตนาของเขาจะไม่ใช่ในแง่ร้าย ทว่าสิ่งเดียวที่นิกิทำได้ก็คือการเดินคอตกงึมงำ เก็บความเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไว้ในใจเพื่อรอเอาไประบายให้อุจูฟังด้วยความแค้นเคือง

    “เราสอนให้ไหม?

    หากในตอนที่เดินขยับปากมุบมิบกำแร็กเก็ตออกมาจากสนามได้ไม่ทันไร ประโยคคำพูดที่ฟังอย่างไรก็เจาะจงมาให้เธอจะทำให้การเรียบเรียงถ้อยคำก่นด่าในหัวเป็นต้องหยุดชะงักลง ครั้นเงยหน้าขึ้นมอง นิกิก็จะได้เห็นเด็กหนุ่มคนที่คุ้นหน้า — ถึงอาจไม่ได้คุ้นเคย — จากในโลกความเป็นจริง เขามีชื่อว่าทากาฮาชิ ไคโตะ เรียนโรงเรียนเดียวกัน ชั้นปีเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ถึงอย่างนั้นนิกิก็รู้จักเขาที่เป็นเพื่อนร่วมก๊วนของเก็นตะซึ่งนั่งติดหน้าต่างฝั่งประตูข้างหน้าเธอ อันที่จริงไม่ใช่แค่นั้น เมื่อเขาคือคนที่เธอเคยหยิบยกขึ้นมาสนทนากับอุจูว่าไม่เห็นจะหล่อ หน้าตาก็ดูหมองๆ แถมผิวคล้ำตั้งขนาดนั้นนี่เอาเวลาไปทำอะไรมา (“เขาไม่ได้เอาแต่นอนง่อยอยู่บ้านเหมือนแกกับฉันนี่!” อุจูเถียง) แล้วทำไมเขาถึงได้เป็นคนดังที่สาวๆ ในโรงเรียนแทบจะทุกชั้นปีแอบชอบกันนักหนา ถึงขนาดค้านหัวชนฝากับอุจูที่พยายามโต้แย้งแทนเขาอย่างสุดกำลังไม่แพ้กันว่า “ฉันว่าเค้าก็น่ารักดีออก นิสัยก็ดีด้วย แต่อาจเพราะแกชอบทากาฮาชิห้องเรามากกว่ามั้ง!” เป็นอันจบหัวข้อสนทนา ก่อนที่จะวางมวยกันให้หนักข้อไปกว่านี้

    หากในวินาทีที่ทากาฮาชิอีกห้องส่งยิ้มมาให้เธอ เท่านั้นหัวใจของนิกิก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาทันที

     

    ขณะที่ปุบปับทากาฮาชิห้องเดียวกันก็จะมาสนิทสนมกับเพื่อนรัก — ที่เขามารักด้วยตอนไหน! — ของเธอ นิกิไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าเรื่องผิดประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง พอถามด้วยความสอดรู้ เจ้าตัวก็จะเอาแต่บอกปัดไปก่อนว่ายังไม่มีอารมณ์อยากจะเล่า เหอะ! สงสัยจะกลัวเสียหน้าเพราะเคยเอามาล้อให้เธอบ่อยๆ ล่ะสิท่า! อยากรู้นักว่าถ้าเธอเกิดชอบทากาฮาชิคนนี้ขึ้นมาจริงๆ คนสวยเริ่ดเชิดหยิ่งนักหนาอย่างยัยอุจูจะมาแย่งไปอยู่ไหม แต่อย่างไรมันก็เป็นแค่เรื่องในความคิดที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งในแง่ที่เธอจะชอบเขาหรือว่าเขาจะมาชอบเธอ เพราะคนเดียวที่นิกิอยากให้เป็นความจริงต่างหากคือเด็กหนุ่มที่จะเดินมาหาเก็นตะเหมือนอย่างทุกวัน ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนทุกวันคือเขาจะเผื่อแผ่รอยยิ้มและคำทักทายแม้เพียงแค่ “สวัสดี” มาให้เธอด้วยเสมอๆ เพราะช่วงเวลาเล็กน้อยที่ได้ใช้ร่วมกันในสนามเทนนิสของเวลาเย็นย่ำเกือบทุกวันก่อนที่อุจูจะเข้าเกมมาในตอนหัวค่ำ ก็ช่วยทำให้นมรสกาแฟที่เธอดื่มอยู่ทุกเที่ยงกลายเป็นรสหวานจับใจขึ้นมาทันที

    นิกิเลยแสนจะดีอกดีใจที่อุจูประกาศกร้าวระหว่างเดินเข้าโรงเรียนด้วยกันมาว่า “ฉันคงต้องงดเล่นเกมกับแกสักพักจนกว่าจะหมดอีเวนต์ฮอลิเดย์ จอย เฟสต์!” ที่จะยิงยาวถึงกว่าสองสัปดาห์ หล่อนดูจริงจังมากขนาดทิ้งเธอไปวิเคราะห์จุดอ่อนของเหล่ามอนสเตอร์ตัวใหม่ในช่วงอีเวนต์กับพวกเคียวเฮ โอฮาชิ และเคนโตะทุกพักได้อย่างหน้าตาเฉย พอมีแฟนเล่นเกมเก่งที่สุดในห้องก็ดันจริงจังกับการเป็นฮันเตอร์ที่เคยบอกว่าแค่เล่นฆ่าเวลา ไม่ได้สนใจอยากมีปาร์ตี้กับใครเค้าขึ้นมาทันที ให้นิกิเป็นต้องเบ้หน้าเบะปาก เหอะ! ขอให้ปาร์ตี้แตกแล้วหล่อนโดนมังกรกระทืบตาย!

    แต่นั่นก็หมายความว่าเธอจะได้มีโอกาสเล่นเกมคนเดียว...หมายถึงกับไคโตะที่จะคอยทิ้งข้อความในเกมไว้ให้ นิกิจึงไม่ต้องหาข้อแก้ตัวอะไรให้เพื่อนซี้ที่ก็ใช่ว่าจะสนใจเรื่องของเธออยู่แล้วได้มีพิรุธ เพราะท้ายที่สุดเธอก็จะทนเก็บพิรุธกับตัวเองเอาไว้ไม่ไหวแล้วหลุดปากออกไปเองอยู่ดี












    2022年06月06日
    _______________
     วันที่หก! ในเดือนหก! แต่ไม่มีหกอีกตัวไม่ถือว่าเป็นลูกซาตาน ไม่ใช่สโตนส์! กูจึงถือฤกษ์งามยามดีมาลงฟิคให้มึงที่บ้าไคโตะเหมียนหมาเหมียนควายอะไรขนาดนั้นวะ เบาได้เบานะมึง ผีเข้าขนาดนี้ ชอบแบบไม่มีสติ โคไว่ๆ ต้องดื่มน้ำผสมพริกไทยแล้วให้หมอปลาถีบเท่านั้น!
     แน่นอนว่าเกมที่กูเลือกมาเก๊าะต้องเป็นเกมเทนนิสที่คิงปุริไปเล่น Mario Tennis Aces ตอนไปช่อง JGR แล้วพอกูย้อนดูก็ว้าว! ไคโตะเล่นเก่งที่สุดในวงเรยนี่นาส์ สายสวิตช์เหรอเรา เป็นคนสอนเพื่อนด้วยนะกูไค่หัว เลือกคุปปะๆ อิอิ ก็เลยให้มาเจอกันในเกมเทนนิสหน่อยสิ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ ที่ก็ว้าวมาก เพราะมึงเล่นเกมไหนก็ห่วยหมด คนเหี้ยอะไรกากขนาดนี้ แต่คนดีๆ อย่างไคโตะทนมึงได้แน่นอน กูเชื่อ ไหนๆ ก็เลยให้ตัวโวยวายในวงมาแจมด้วย เพราะกูดูทรงคนที่น่าจะขำมึงเล่นได้จริงก็คนนี้แหละ 55555 จากนั้นพอกูไปหาประวัติอ่านก็ตกใจเล็กน้อยที่ไคโตะมีฮอบบี้คือเกม! แต่กูก็รู้แค่นี้แหละ ไม่รู้อะไรลึกกว่านั้นแล้วจ้า / ทีนี้ก็ไปเจอว่าเก็นตะเป็นเพื่อนไคโตะ กูก็เอ้า งั้นมา แต่รูปโปสกูจะใส่เคนโตะเมนรองในนานิวะของกูถึงจะมาแค่ชื่อ เพราะเค้าเป็นสมาชิกช่อง JGR เพราะเค้าก็เป็นสีเหลือง และเพราะวงที่ไม่ใช่ไปไหนก็ไปเต๊อะ / และกรี๊ดดด มึงมาถามว่าคือเข้าไปในเกมหรือไง อิจุงอิเหี้ยอิควาย เอางี้นะ ถ้ามึงไปดูเอ็มวี Q&A ก็จะฟีลประมาณนั้นแหละ แบบเราเข้าไปเป็นอวตารในโลกเกม แต่มันก็คือตัวเรานี่แหละ แค่เวลาเล่นเกมถึงจะได้เปลี่ยนชุดอะไรงี้ ฮ่าๆๆ แล้วก็จะมีคอมมู มีร้านอาหาร มีเกมให้เลือกเล่นได้ทุกแนว เพราะนี่คือโลกอนาคตยังไงล่ะวะ!
     และมาอวยรูปคอมมิชจากคุณเนยซอรัสอีกรอบกันจ้า! ที่กูจะบอกเลยว่าชอบมากกว่ารูปของกูอีก ทั้งแสงสีองค์ประกอบทุกอย่างใดๆ บ้าที่สุด! สีเหลืองกูก็มีเรย์อะ เคนโตะ มินาโตะระกัน อย่าให้ได้เนียน! orz ไอเดียฉากในเต๊นท์มาจากซีนของอูยอนในเอ็มวีแคชเดอะสตาร์ (กูตั้งใจให้เป็นฉากในเอ็มวีของเพลงที่เลือกใช้ประกอบอีกพาร์ทจริงๆ สาบานว่าตั้งใจ) เพราะมันเป็นแสงสีส้มๆ กูก็คิดว่าเออ โทนเดียวกับเหลือง น่าจะเปลี่ยนได้แล้วไม่ดูแปร่งๆ งั้นเอา แล้วกูก็นึกถึงเกมแอนิมอลครอสซิ่งขึ้นมานิดๆ ด้วย แคมปิ้งๆ ส่วนเสื้อผ้าทรงผมต่างหูเอามาจากเมย์จังที่รักกูในเพลงเลิฟโซสวีทจ้า (ลิงค์) แต่เปลี่ยนเป็นโทนสีเหลืองหน่อยนะคะ ที่ก็ออกมาสวยมาก ดีจริง เฮ้อ กูก็อยากมัดแกละบ้างไรบ้าง ส่วนสร้อยก็เป็นพระจันทร์ ดวงดาวหน่อย จะได้เข้าคอนเซปต์กับชื่อเรื่อง เพราะกูสัญญาแล้วว่าจะพามึงไปถนนสายดวงดาวด้วยกันงับ
     และในเมื่อแคนดี้ชูการ์ป๊อปคือแรงบันดาลใจใหญ่มากของฟิคเรื่องนี้ กูก็ต้องเอาเพลงเค้ามาประกอบสักพาร์ทสิวะ ถึงครึ่งหลังจะยังไม่มาแต่เชื่อกูว่าฟีลได้แน่นอน ลองแต่งไปแล้วสามแบบ เข้ากับเพลงทุกแบบ แต่ติดอย่างเดียวคือกูไม่เปิงใจสักแบบ แล้วไม่ได้ติดที่นิกิด้วยนะ ติดที่ไคโตะนี่แหละที่บทยังไม่ถูกใจกูสักที เค้าดีเกินไปไม่คู่ควรกับมึงว่ะ มีทางไหนที่เราจะช่วยพี่ไคโตะได้บ้างไหมคะ U_U
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×