ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INSPECTOR BEE [BeeCris]

    ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 4 [70%]

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 59


    ----- CHAPTER 4 -----

     

                สารวัตรรร คิดถึงจังเลยเสียงหญิงสาวดังมาแต่ไกลพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่บ่งบอกว่าเธอกำลังวิ่งเข้ามาหาร่างสูง แต่ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะเข้ามาถึงตัว น้ำทิพย์ก็ยกมือชี้หน้าเธอเสียก่อน ทำให้เธอต้องเปลี่ยนจากการวิ่งเป็นการเดินเร็วแทน

     

                โตแล้วยังจะทำเสียงดังอักนะหญิงน้ำทิพย์ดุสาวสวยตรงหน้า

     

                โถ่ ก็ฉันไม่เจอแกตั้งนานแล้วนะรฐาเพื่อนสาวคนสนิทของน้ำทิพย์ สองคนเรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมปลายทำให้สนิทกันมาก และคงไม่แปลกที่จะมีคนเม้าท์ว่าทั้งสองคนคบกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทั้งสองคนให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะน้ำทิพย์เองก็รู้ดีว่าเพื่อนของเธอมีแฟนอยู่แล้ว และแฟนของรฐาก็...

     

                หญิง แค่ไม่เจอบีไม่กี่วันทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย

     

                แกไปเคลียร์กับพลอยเอาเองนะ ฉันไปล่ะน้ำทิพย์ยักคิ้วให้รฐาก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานของตนเอง แต่ก่อนที่จะเดินไปถึงโต๊ะทำงานที่มีเอกสารวางอยู่หลายแฟ้มนั้น เสียงจากด้านนอกก็ทำให้น้ำทิพย์หัวเราะออกมา จะเสียงอะไรล่ะ ก็เสียงของรฐาที่โดนแฟนสาวคนสวยบิดหูไงล่ะ

     

                น้ำทิพย์มองกองเอกสารตรงหน้าที่มีเยอะแยะจนไม่รู้ว่าจะหยิบอะไรขึ้นมาดูก่อนดี ไม่คิดว่าการไม่เข้ามาที่หน่วยไม่กี่วัน เอกสารสรุปคดีต่างๆจะเยอะขนาดนี้ น้ำทิพย์เหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะทำงาน ไม่รู้ว่าคุณหนูศิรินของเธอจะตื่นแล้วหรือยัง แอบหวังลึกๆไม่ให้ศิรินหนีออกไปเที่ยวแบบเมื่อวานอีก

     

               

                สาววัตรไปไหนคะป้าศิรินที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารถามสาวใช้พร้อมกับมองซ้ายมองขวาหาคนตัวสูง

     

                คุณบีไปทำงานน่ะค่ะ คุณหนูจะรับอะไรเพิ่มหรอคะ

     

                “ป่าวค่ะ ป้าไปทำอย่างอื่นเถอะค่ะ

     

                ไปทำงานก็ไม่บอกกันก่อนศิรินตักอาหารเช้าปากพร้อมกับบ่นออกมาเสียงเบาๆ

     

     

                นาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะของสารวัตรน้ำทิพย์บ่งบอกว่าเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว น้ำทิพย์จำได้ว่าล่าสุดที่เธอมองตัวเลขบนหน้าจอ มันยังแค่แปดโมงกว่าๆเท่านั้นเอง น้ำทิพย์วางปากกาในมือก่อนจะปิดแฟ้มเอกสารลง บิดตัวไปมาเล็กน้อยด้วยความเมื่อยก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปที่ประตูเพื่อจะออกไปหาข้าวกลางวันกินเสียหน่อย แต่น้ำทิพย์ก็ต้องถอยหลังไปเมื่อประตูถูกผลักเข้ามาพอดี กำลังจะอ้าปากดุคนที่เข้ามาโดยไม่ยอมเคาะประตู คำพูดนั้นก็ถูกกลืนลงไปเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เป็นคนเปิดประตู

     

                คุณศิริน

     

                “อือ ก็ฉันน่ะสิ ทำไมต้องทำหน้าตกใจด้วย

     

                “มาได้ยังไงคะ

     

                “ก็ถามคุณพ่อเอาว่าคุณทำงานที่ไหน ไม่เห็นจะยากเลย ศิรินตอบพลางเดินเข้ามาในห้องทำงานของน้ำทิพย์

     

                แล้วนั่นจะไปไหนน่ะ

     

                “เอ่อ ไปทานข้าวค่ะ

     

                “จะไปทำไม ฉันให้ที่บ้านทำมาให้คุณแล้ว - - “มานั่งสิศิรินเรียกคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู น้ำทิพย์จึงเดินมานั่งตามที่ศิรินบอกพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย

     

                คุณศิรินไม่ได้ใส่อะไรลงไปในอาหารพวกนี้ใช่ไหมคะน้ำทิพย์มองอาหารกลางวันตรงหน้าด้วยความระแวงก่อนจะเงยหน้าถามศิริน

     

                คุณเห็นฉันเป็นคนยังไงศิรินตอบด้วยการสวนคำถามกลับไป

     

                ขี้โวยวาย ขี้เหวี่ยง เอาแต่ใจ เจ้าเล่ห์ ไม่ใจไม่น่าได้

     

                สารวัตร!!” ศิรินขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิด จริงอยู่ที่มันเป็นคำถาม แต่น้ำทิพย์ไม่จำเป็นต้องตอบออกมาทั้งหมดแบบนี้ หาข้อดีไม่ได้เลยสักข้อ

     

                จะเสียงดังทำไมคะ ก็คุณศิรินถามฉันก็ตอบ

     

                “ก็ไม่ต้องไล่มาครบหมดทุกอย่างก็ได้ไหมล่ะ แล้วข้อดีๆของฉันทำไมไม่พูด

     

                “ฉันยังหาไม่เจอนี่คะน้ำทิพย์ตอบหน้าตายพร้อมกับตักอาหารตรงหน้าเข้าปาก

     

                ศิรินนั่งมองน้ำทิพย์ที่ดูจะเอร็ดอร่อยกับอาหารที่เธอเอามาให้ ถ้ารู้ว่าน้ำทิพย์จะกวนเธอแบบนี้รู้งี้เธอใส่อะไรแปลกๆลงไปในอาหารนั่นก็ดีหรอก น้ำทิพย์ปิดกล่องอาหารแล้วยิ้มให้คนตรงหน้าพร้อมกับกล่าวขอบคุณแต่ศิรินกลับเบะปากใส่เธอเสียอย่างนั้น

     

                โกรธหรอคะ

     

                “...

     

                “คุณศิริน..

     

                ไม่ตอบ ศิรินไม่ตอบน้ำทิพย์แถมยังหันหน้าหนีไปอีกทางเสียด้วย

     

                เย็นนี้ไปเดินห้างกันนะคะคุณศิริน ได้ยินคำว่าเดินห้างปุ๊บศิรินก็เหลือบมองน้ำทิพย์ทันที นะคะคุณศิริน

     

                “อืม

     

                งั้นฉันขอเคลียร์งานเปปนึงนะคะน้ำทิพย์ยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของเธอทันที ศิรินแอบมองน้ำทิพย์เล็กน้อย จริงๆเธอก็ไม่ได้โกรธน้ำทิพย์ขนาดนั้นเสียหน่อย แค่อยากรู้ว่าน้ำทิพย์จะง้อเธอไหมแค่นั้นเอง

     

                เข้ามาเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้งก่อนน้ำทิพย์ส่งเสียงอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามา

     

                พี่บี เอ่อ...ผู้เข้ามาใหม่ทักทายด้วยการเรียกชื่อเล่นของน้ำทิพย์ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่นั่งไขว่ห้องอยู่ตรงโซฟาพร้อมกับก้มหัวเป็นการทักทาย

     

                ว่าไงติช่า

     

                “นี่ยัวเกิลเฟรนหรอพี่บีเหมือนเธอจะลืมธุระที่จะทำไปเมื่อเห็นศิรินจึงถามน้ำทิพย์ออกไปแบบนั้น

     

                บ้า ไม่ใช่ มีอะไรก็ว่ามาเร็วๆ ฉันรีบน้ำทิพย์รีบปฏิเสธทันทีเพราะกลัวศิรินจะลุกขึ้นมาด่าลูกน้องของเธอ

     

                รีบ? ยูจะไปเดทหรอไม่จบ.. และคงจะมีคำถามออกมาอีกถ้าน้ำทิพย์ไม่พูดขึ้นมาก่อน

     

                ยูเอาลูกปืนไปกินหน่อยไหมติช่า

     

                อะไร แค่นี้ก็ต้องขู่กันด้วย ช่าจะมาเอาเอกสารที่พี่บีทำเสร็จไปให้บอสต่างหาก

     

                “เออ ก็แค่นี้แหละ เอาไปเลยไป เดี๋ยวอันนี้ฉันเอาไปให้บอสเอง น้ำทิพย์ชี้กองแฟ้มตรงหน้าเป็นการสั่งติช่า

     

                พี่บี...

     

                “ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ออกไปได้แล้วไปได้ยินน้ำทิพย์พูดแบบนั้น ติช่าก็เดินหอบแฟ้มเอกสารนั้นออกไปโดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้กับศิรินด้วย

     

                เวลาผ่านไปไม่นานอฟ้มสุดท้ายบนโต๊ะก็ถูกปิดลงพร้อมกับน้ำทิพย์ที่ลุกขึ้นแล้วหยิบแฟ้มนั้นเดินตรงออกไปข้างนอกโดยมีศิรินมองตามออกไป

     

    เมื่อประตูถูกปิดลงศิรินก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันทีก่อนจะเดินดูรอบๆห้องทำงานของน้ำทิพย์ สายตาของศิรินสะดุดกับกรอบรูปบนโต๊ะทำงานของน้ำทิพย์ คนหน้าหมวยมองไปที่ประตูเมื่อไม่เห็นว่ามันจะมีท่าทีว่าจะถูกเปิดจึงหยิบกรอบรูปนั่นขึ้นมาดู รูปที่อยู่ภายในกรอบรูปนั้นเป็นเหมือนจะเป็นรูปครอบครัวของน้ำทิพย์ มีพ่อ แม่ มีเด็กสองคน เด็กตัวสูงกว่านั่นคงจะเป็นน้ำทิพย์ คนตัวเล็กกว่านั่นก็คงไม่พ้นน้องสาวของน้ำทิพย์

     

    ทำอะไรคะคุณศิริน เสียงของเจ้าของกรอบรูปนั้นดังขึ้นทำให้ศิรินเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆเธอทันที

     

                เอ่อ ฉัน..

     

                “ไปกันเถอะค่ะน้ำทิพย์แย่งกรอบรูปจากมือศิรินมาแล้ววางมันลงที่เดิม

     

                นี่คุณ เด็กอีกคนนี่น้องสาวคุณหรอศิรินที่เดินตามน้ำทิพย์มาติดๆถามด้วยความสงสัย ไม่เคยเห็นคุณหรือคุณพ่อพูดถึงเลย

     

                “…”

     

                “นี่ ได้ยินี่ฉันถามรึเปล่า โอ๊ยศิรินร้องออกมาเบาๆเมื่ออยู่ๆคนตัวสูงก็หยุดเดินทำให้เธอชนเข้ากับแผ่นหลังของสารวัตรพอดี

     

                พี่สาวฉันต่างหาก

     

                “...

     

    ไว้เมื่อไหร่ที่ฉันอยากจะเล่า ฉันจะเล่าให้คุณฟังเองนะคะ ไปขึ้นรถได้แล้วค่ะน้ำทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูซีเรียสจนศิรินเองไม่กล้าจะถามอะไรต่อ น้ำทิพย์มองคุณหนูของเธอที่ขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วก่อนจะถอนหายใจออกมา

     

    ---------- 70 % ---------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×