คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter5
ด้านอเลนน้อยที่หลงทางอยู่ภายในเขาวงกตนานนับชั่วโมงจนอารมณ์ชักจะเดือด เด็กชายหยุดเดิน หันกลับมาใช้สมองให้เป็นประโยชน์แทน
“เดินจากตรงนี้ เดินไปทางนี้แล้ว ทางนี้ก็เดินไปแล้ว . . ” อเลนจ้องสัญลักษณ์ที่เขาทำไว้ตลอดทางเดิน นอกจากของเขายังมีสัญลักษณ์อื่นๆอีกมากมาย . . นี่แสดงว่าไม่มีใครไม่หลงล่ะสิ เด็กชายคิดอย่างหนักใจ ก่อนเดินตรงไปทางแยกสุดท้าย . . หวังว่าคงจะมีทางออกให้เขานะ อเลนเดินมาจนสุดปลายทาง มันยังคงกลับมายังจุดเดิมที่เขาเดินจากมา
‘ปึด’ เสียงความอดทนขาดผึง
“ไม่ดงไม่เดินมันแล้ว ย๊าก!! อินโนเซนต์สำแดงฤทธิ์!!”
‘โครมๆ’ ‘ครืนๆ’ ผนังและกำแพงต่างๆที่ขวางกั้นถูกศาสตราจากมือข้างซ้ายซัดเรียบ อเลนยิ้มเยือกๆ ตามฉบับน้องงอกเวอร์ชั่นมืด
“เฮ้ย! แค่กๆ ไอ้ถั่วงอก จะฆ่ากันรึไงวะ” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝุ่นควัน ร่างสูงโปร่งปรากฏแก่สายตาอย่างช้าๆ ดวงตาสีหมอก(ซึ่งกลับไปอยู่ในโหมดปกติแล้ว)เบิกกว้างอย่างตกใจ
“คันดะ มานี่ทำไมน่ะครับ คุณเป็นคนป่วยนะ” เสียงเล็กๆตวาดแหว พร้อมกับร่างเล็กที่เดินเข้าไปฉุดคนตัวสูงให้เดินไปพร้อมกัน
“อ๊ะ เป็นแผลด้วย กลับกันเถอะครับ ผมจะทำแผลให้”
“เดี๋ยวมันก็หายน่า” เมื่อพูดจบก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว รอยสักบริเวณหน้าอกของเขาหายไป ตั้งแต่สูบพลังชีวิตของตนเองจนไม่มีเหลือเพื่อดำรงชีวิตต่ออีกสามวัน
“หึ” เด็กชายยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนลากคันดะที่ฝืนตัวเอาไว้นิดหน่อยเข้าห้อง
ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย ไม่อยากให้รอยยิ้มอันแสนบริสุทธ์นั่นหายไปเลย . . อเลน
“ผมจะไปขอยาจากแผนกบำบัดนะครับ คันดะรอตรงนี้เดี๋ยวผมกลับมา” ถ้าขืนไปขอจากแผนกวิทยาศาสตร์ แทนที่แผลเล็กๆน้อยๆนั่นจะหาย มันอาจจะมีต้นไม้งอกออกมาแทนก็ได้ ใครจะไปรู้ . . คนอย่างอเลน ถึงเจ็บแล้วไม่ค่อยจำ แต่ขอยกเว้นไว้เรื่องเหอะ คุณโคมุอิ ผมจะจำไปจนวันตายเลย เด็กหนุ่มเดินหน้าบูดออกจากห้องสีขาวไป ทิ้งให้คันดะมองตามหลังไปด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย
ทั้งที่อยากจะรั้งเอาไว้ แต่ทำไมกันนะ . . ปากมันไม่ยอมขยับอย่างที่ใจอยากให้เป็น . . ทำไมกันนะ
นิ้วเรียวสวยแตะริมฝีปากตัวเอง นึกแค้นอยู่ในใจที่ไม่สามารถพูดอะไรตรงๆได้อย่างราวี่ แสดงความรู้สึกไม่เก่งไม่อย่างโคมุอิ แม้กระทั่งจะเศร้า ยังไม่อาจจะแสดงออกมาได้เหมือนที่คนอื่นๆเป็นด้วยซ้ำ
“แค่กๆ . .” คันดะปิดปากไอออกมาอย่างรุนแรง เมื่อเอามือออกก็เห็นเลือดสีสดอยู่ในอุ้งมือ หากเจ้าของมือนั้นไม่ได้สะทกสะท้านตกใจแต่อย่างใด ในสมองกลับคิดแต่เรื่องของเด็กชายผมขาวเท่านั้น. . . .
.
.
.
“ . . . . เรื่องนี้ยังไงก็ . . . ต้อง . . . ล่ะนะ. . .” เสียงคุ้นหูดังออกมาจากที่ทำการของแผนกบำบัด
คุณโคมุอิ? อยู่นี่ด้วยเหรอเนี่ย? เป็นคำถามที่อเลนไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะคนในแผนกต่างๆ ของศาสนจักรจะมีเรื่องที่ต้องมาเกี่ยวข้องกันบ้างมันก็ไม่แปลก แต่ประโยคต่อมากลับทำให้เท้าทั้งสองข้างหยุดกึก
“ . . .นี่เป็นข้อมูลของคันดะคุง ช่วยหน่อยนะ”
“ครับ . . แต่หัวหน้าแผนกวิทย์ครับ เอ็กโซซิสต์รายนี้ไม่มีความผิดปรกติอะไรนี่ครับ แล้วทำไม. . .” อเลนขยับเข้าใกล้ประตูมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“จริงอยู่ที่ร่างกายของเขาไม่มีความผิดปรกติ แต่ . . . ฉันเชื่อว่าเขาพูดความจริง . . คันดะ ยูคงจะอยู่ได้อีกไม่เกิน3วัน”
“ทำไมกันครับ” เด็กชายเดินออกมาจากช่องประตู นัยน์ตาสีเทาแข็งกร้าว มือเล็กๆเกร็งกำแน่น
“อเลน! . .” โคมุอิร้องออกมาอย่างตกใจ มือไม้โบกไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก “คือ . . ฉัน . . คันดะคุงเค้า . .” หัวหน้าแผนกวิทยาศาสตร์ผู้เก่งกาจ เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้กลับพูดไม่ออก โคมุอิสบสายตากับดวงตาสีเทา เพียงเท่านั้น เขาก็ตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เด็กน้อยผู้เป็นที่รักของทุกคนฟัง . . . .
.
.
“ . . .คุณโคมุอิครับ” อเลนพูดขึ้น หลังจากเงียบกันไปพักใหญ่
“เราจะช่วยคันดะได้ใช่มั๊ยครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น ในใจเจ็บชาไปหมด ทั้งตกใจ สับสน และรวดร้าว จนกระทั่งไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะเอามาร้องไห้
โคมุอินิ่งไป เพราะไม่สามารถตอบอะไรได้จึงทำแค่เงียบ เด็กชายใจหายวาบ มือบางสั่นน้อยๆกำแน่น ก่อนหันหลังวิ่งออกไปท่ามกลางความตกใจของคนอื่นๆ
“แฮ่ก . . แฮ่ก” อเลนหยุดวิ่ง ใช้มือยันผนังไว้และหอบหายใจ น้ำตารื้นลงมาอาบพวงแก้มขาว มือเล็กรีบปาดน้ำตาออก พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ ก่อนเดินไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไว้
‘แกร็ก’ คันดะหันมองไปตามเสียง ประตูไม้สีน้ำตาลอ่อนถูกเปิดออก เผยให้เห็นรูปร่างบอบบางของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาให้ห้อง
“เป็นอะไร. .” คำถามห้วนๆ ไร้ซึ่งความหวานตามแบบฉบับคันดะ แต่ก็แสดงถึงความใส่ใจ ห่วงใย เพราะเพียงแวบเดียวเท่านั้นชายหนุ่มก็สามารถจับความผิดปรกติของเด็กชายได้ทันที
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” อเลนเสมองไปทางอื่น นำกล่องยาและอุปกรณ์ทำแผลที่ขอจากรินารี่มา วางไว้บนโต๊ะ หยิบพลาสเตอร์กับแอลกอฮอล์ออกมา มือเล็กๆเช็ดแผลถลอกบนแขนแกร่งอย่างระมัดระวังแล้วค่อยๆบรรจงติดพลาสเตอร์ให้อย่างเบามือ คันดะมองอเลนอย่างไม่เข้าใจในกริยา มีอะไรซักอย่างที่เขาไม่รู้ แต่ทำไมเด็กชายถึงไม่ยอมบอกเขา
“. . .คันดะ” เสียงใสเอ่ยขึ้นเบาๆหลังเงียบไปครู่ใหญ่
“คุณเป็นอะไร . .” คำถามย้อนกลับเหมือนเมื่อครู่ ทำให้คิ้วเรียวสวยของคนถูกถามขมวดมุ่น
“เป็นอะไร?” ต่างคนต่างมองหน้ากันพักใหญ่ อเลนสะกดอารมณ์กราดเกรี้ยวไว้อย่างยากลำบาก
“คุณเชื่อใจผมบ้างหรือเปล่า”
“เชื่อสิ” คันดะย้ำคำหนักแน่น ไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่เสี้ยววินาที
อเลนมองหน้าคนที่ตนรักสุดหัวใจ อึดใจเดียวเขาก็หันหน้ากลับ ทำเหมือนกำลังสนใจรอยเลอะตรงแขนเสื้อเสียเต็มประดา
“แล้วทำไม . . ต้องปิดบังกันด้วย” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมา คันดะใจหาย แววตาสีเทาฉายประกายรวดร้าว ราวกับเจ้าของดวงตานั้นกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
“ปิดบัง . . นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” คันดะเลือกที่จะหนีให้ได้นานที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นทางเลือกที่โง่มากในสถานการณ์แบบนี้ก็ตาม
“อ้อ จนถึงที่สุด คุณก็ยังจะปิดบังผมสินะครับ . . . ต้องการให้ผมเป็นคนโง่ เป็นไอ้บ้าต่อไปแบบนี้ใช่มั๊ยครับ!” ในที่สุด ความอดทนสุดท้ายก็ขาดสะบั้น อเลนตวาดเสียงในช่วงท้าย น้ำตารื้นคลอเต็มนัยน์ตา
ดวงตาสีนิลเปลี่ยนแววฉับพลัน ไม่เหลือเค้าของคันดะคนเดิมอีกต่อไป
“ใช่ . . . สำหรับฉัน นายก็เป็นได้แค่คนโง่ๆ”
‘ไม่ใช่นะ . . มันไม่ใช่ . . อเลน ฉันขอโทษ’
“ใครจะไปรู้ว่าตัวเองต้องตายไว ในเมื่อจะตาย ฉันก็ขอทำอะไรสนุกๆแก้เซ็งบ้างซี่”
‘อย่ามองฉันแบบนั้น อย่าทำสายตาแบบนั้น ได้โปรด. . ฉันจำเป็นต้องทำ . . ฉันเสียใจ’
“เมื่อรู้แล้วจะมาสมเพชฉัน หรือสมน้ำหน้าฉันกันล่ะ พูดมาสิ พูดมาเลย . . ไหนๆ ฉันก็จะตายแล้วนี่ คงจะอยู่คิดบัญชีกับนายไม่ได้นาน . . เสียดายอยู่หน่อย. . . .”
“ถ้าแผนไม่แตกเร็วแบบนี้ ฉันก็คงจะไปไหนถึงไหนกับนายแล้ว” ร่างกายสูงโปร่งยันตัวยืนขึ้น ขยับเข้าใกล้เด็กชายที่ยืนตัวแข็ง โอบเอวบางไว้หลวมๆ พร้อมก้มลงกระซิบแผ่ว “ร่างกายอ้อนแอ้นแบบนี้ สงสัยนักว่าทำไมหลายคนถึงได้ติดใจกัน . .”
‘เพียะ!’ ใบหน้าคมสวยหันไปตามแรงฝ่ามือ อเลนตกใจไม่น้อยกับการกระทำของตัวเอง น้ำตาอาบรื้นไปทั่วใบหน้าขาวซีด ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งสะอึกสะอื้นออกไป
คันดะมองตามร่างซึ่งวิ่งออกไปแล้วจนสุดสายตา
“แค่กๆ . .” อาการสำลักไอเกิดขึ้นหลังจากถูกกดเก็บไว้เนิ่นนาน เลือดแดงข้นไหลผ่านนิ้วเรียวออกมาเปรอะพื้น ร่างสูงถอยเข้าพิงผนัง ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด . . . ทั้งร่างกาย ทั้งหัวใจ
นี่ฉันกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วใช่ไหม . . .
พระเจ้า . . . สิ่งใดกันแน่ที่ท่านปรารถนา สิ่งใดกันแน่ที่ควรจะเกิดขึ้น . .
อเลนวิ่งไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา จนกระทั่งสุดทาง . . เด็กชายทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อยอ่อน ทุกคำพูดที่ได้ฟังก่อนหน้านี้ตามมาหลอกหลอนอยู่ในหัว
“ใช่ . . . สำหรับฉัน นายก็เป็นได้แค่คนโง่ๆ”
“ในเมื่อจะตาย ฉันก็ขอทำอะไรสนุกๆแก้เซ็งบ้างซี่”
มือบางยกขึ้นมากุมศีรษะ ปิดหูราวกับว่ามันจะทำให้ไม่ต้องได้ยินอะไรอีกต่อไป
“ไม่!! ไม่นะ! ไม่เอา!!” เด็กชายกรีดร้องลั่น มุมหนึ่งของทางเดินที่ไม่มีใครผ่านมา จึงไม่มีใครได้ยิน
เมื่อเสียงกรีดร้องสงบลง เสียงสะอื้นก็เข้ามาแทนที่ อเลนเอนตัวพิงผนังอย่างอ่อนล้า
“ผมควรจะทำยังไง ทั้งๆที่ . . .”
‘แกน่ะไม่มีสิ่งสำคัญอยู่บ้างเลยรึไง!!’
“. . ผม . . ฮึก . . ตอนนี้ . . ผมมีแล้วนะครับ . . . และผมก็คงจะ . . อึก . . สูญเสียมันไปอีกแล้ว” รำพึงจบ น้ำใสๆก็ทะลักออกมาจากนัยน์ตาคู่งาม
ใบหน้าคมมองมาอย่างเย็นชาทำให้ใจหาย
ดวงตาสีดำสนิทเย็นเยียบ หากแฝงไปด้วยรอยเศร้า . . ทำไมเขาจะไม่รู้
ทำไมต้องเศร้า . . หากคำพูดเหล่านั้นเป็นความจริง . . หรือว่า
ดวงตาสีเทาเบิกกว้าง ตกใจกับสิ่งที่เจ้าตัวเพิ่งนึกขึ้นได้
ถ้าเป็นคันดะ . . ไม่สิ เพราะเป็นคันดะ เขาจะต้องทำแบบนี้แน่ๆ
การผลักไสที่ไม่ใช่การทำร้าย แต่เป็นการพยายามปกป้อง . . . อเลนหลับตาลง
คนบ้า . . ทำแบบนี้มันก็เจ็บทั้งคู่ไม่ใช่หรือไง
.
.
“โธ่เว้ย!” คนที่ไปพูดทำร้ายจิตใจคนอื่นเขา ตอนนี้แทบจะกลายเป็นบ้าซะเอง ทั้งอาการกระอัก ทั้งอาการอาเจียนเป็นเลือดเพิ่มขึ้นจนคันดะชักมึน รู้สึกวูบวาบจวนจะล้มอยู่หลายหน แต่เจ้าตัวกัดฟันรักษาสติเอาไว้ได้ทุกครั้งไป
‘โครม!’ เก้าอี้ไม้สีน้ำตาลอ่อนถูกเหวี่ยงไปปะทะกับผนัง เช่นเดียวกับข้าวของอื่นๆ ที่กระจายแตกเกลื่อนด้วยโทสะของผู้มาพัก
“ชิ” คำสบถคำที่ร้อยหลังจากเด็กชายผู้เป็นที่รักจากไปด้วยความปวดร้าว ส่วนตัวเขาก็ปวดใจไม่แพ้กัน คันดะทาบมือลงบนหน้าอกที่อดีตมันเคยมีรอยสักสีดำ นิ้วเรียวค่อยๆจิกลง ราวกับว่ามีสิ่งหนึ่งข้างในภายใต้ผิวหนังนั้นกำลังเจ็บร้าวอย่างแสนสาหัส เขารู้สึกถึงเล่มเข็มแห่งความตายนับร้อยเล่มกำลังเสียดแทงอยู่ภายใน จนเหมือนกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
“ . . ยกโทษให้ฉัน . . . อเลน . . . ฉันรักนาย . .”
ท้องฟ้าสีแดงเลือด บ่งบอกเวลาใกล้ค่ำ สำหรับบางคน มันเป็นฟ้ายามเย็นที่สวยสด แต่สำหรับบางคนมันไม่ต่างอะไรจากเข็มนาฬิกาซึ่งบอกให้รู้ว่า ช่วงเวลาแห่งความตายกำลังย่างกรายเข้ามาอีกหนึ่งก้าวแล้ว . . .
เสียงตีบอกเวลาสองทุ่มดังจากนาฬิกาเจ้าคุณปู่เรือนงามของห้องหญิงสาวผู้หนึ่ง รินารี่ ลี นั่งอยู่บนเตียงโดยมีเด็กชายผมขาวนั่งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องสำอาง(ห้องที่ไม่ใช่ห้องที่โคมุอิแต่งให้)
“ถ้าเค้าพูดถึงขนาดนั้น . . . แล้วอเลนคุงจะทำยังไงต่อไปล่ะ” เด็กสาวฟังเรื่องราวทุกอย่างจากปากอเลน รินารี่ทำหน้าเศร้า ยังคงยอมรับไม่ได้กับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น
“เธอคงจะไม่ทิ้งเขาไว้ ทั้งที่เป็นแบบนั้นหรอก . . ใช่มั๊ย”
อเลนยิ้มบางๆ
“ไม่มีทาง . . ผมไม่มีทางทิ้งเขาแน่ๆ” เมื่อมีคนยอมรับฟัง ทำให้เด็กชายรู้สึกสบายใจขึ้น เขาตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างหนักแน่นสุขุมขึ้น ไม่มีอาการฟูมฟายอีกต่อไป
“. . ผมเคยใฝ่ฝัน . . . ว่าจะได้เคียงข้าง . . .” ดวงตาสีเทาเหม่อลอยไปไกล ก่อนจะกลับมาเป็นปรกติ
“อ๊ะ! ขอโทษฮะ ผมคงพล่ามอะไรมากเกินไปหน่อย” ร่างกายเพรียวบางลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง
“นี่ก็ดึกแล้ว ขอตัวนะครับ”
“จ๊ะ แล้วมีอะไรก็บอกฉันได้นะ ฉันจะคอยช่วยอเลนคุงทุกอย่างเลย” เด็กสาวหยิบยื่นความหวังดีให้ อเลนยิ้มขอบคุณบางๆ
“ขอบคุณครับ แต่ผมไม่เป็นไร . . แล้วถ้าเจอราวี่ช่วยบอกเขาทีได้ไหมครับว่าผมกำลังหาเขาอยู่” อเลนพูดถึงบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งเขามั่นใจมากว่าเจ้าตัวจะต้องรู้เรื่องนี้แน่ แต่เจ้าตัวกลับหายตัวไปโดยไม่มีใครเห็นนี่สิน่าแปลก . .
“จ๊ะ แล้วจะบอกให้”
“ขอบคุณครับ” เอ่ยคำสุดท้ายก่อนเดินจากไป . . . ไปตามที่หัวใจเรียกร้อง
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
โฮๆ ขออภัยที่ตัดตอน เพราะพิมพ์ๆไปชักยาว ต่อตอนใหม่เลยดีกั่ว
ตอนหน้าจะไม่ช้าฮะ พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้คงลงได้ สัญญาเลยเอ๊า!
ตอนหน้า Nc!! ใครเด็กเกิน อด!!
ความคิดเห็น