คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter10
‘แต๊น แต่น แตร๊นนน!!’ เสียงโห่ร้อง เสียงแตร และเสียงฮือฮาจากฝูงชนเรียกความสนใจจากเอ็กโซซิสท์หนุ่มน้อยได้ดียิ่งนัก นัยน์ตาสีเทาเหลือบมองไปทั่วงานเทศกาลอย่างตื่นเต้น ท่ามกลางความขบขันของผู้ร่วมทางอีกคน คันดะมองใบหน้าเล็กๆ ที่มองสิ่งต่างๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ
“ขำอะไรครับคันดะ อ๊ะ ดูนั่นสิครับ” อารมณ์ของเด็กชายเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนคนฟังชักจะตามไม่ทัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมองตามคำชี้ชวน
คู่รักหนุ่มสาวหลายคู่เต้นรำอยู่บนลานกว้างกลางเมือง ทุกจังหวะการเต้นเข้ากับเสียงเพลงดูมีชีวิตชีวาจนผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องเหลียวมองซ้ำ กับความสดใสของวัยแรกรุ่นเหล่านั้น คันดะมองผู้คนคู่เต้นทั้งหลายนั้นด้วยความสนใจ แต่สำหรับเขา สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่าบุคคลข้างกายเขานั้นคงไม่มีอีกแล้ว . . . ดวงหน้ากระจ่างใสท่ามกลางแสงไฟ ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มจนแก้มป่องน่าเอ็นดู ผมสีหิมะปลิวลู่ตามแรงลม นัยน์ตากลมโตฉายแววแห่งความสดใสจนคนมองรู้สึกปวดใจน้อยๆ ก่อนตัดสินใจยื่นมือเข้าไปหา
“เอ๋?” อเลนมองมือขาวซีดที่ถูกส่งมาด้วยความงุนงง
“จะไปเต้นไหมล่ะ ฉันเห็นนายมองอย่างกับจะไปแย่งคู่เขามาอย่างนั้น”
“ผมไม่ได้จ้องขนาดนั้นซักหน่อย” มือเล็กที่ยื่นให้จับนั้นเต็มไปด้วยความลังเล คันดะนิ่วหน้ากับกิริยาที่อีกฝ่ายแสดงออกจนอเลนเริ่มลุกลี้ลุกลน
“คือ ผม . . ผมเต้นไม่เป็นน่ะครับ” อเลนก้มหน้างุด เสียงหัวเราะเย็นๆ หลุดออกมาหน่อยหนึ่ง เด็กชายจึงตั้งท่าจะโวยวายพร้อมๆ กับที่คันดะฉวยข้อมือเล็กนั้นเอาไว้
“. . .ฉันจะนำให้ นายค่อยๆ ก้าวตามแล้วกัน . . . ทำได้มั๊ย” ถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นทีท่าลังเลของเด็กชาย อเลนสูดหายใจลึกๆ หนึ่งทีก่อนตัดสินใจตอบ
“ได้ครับ” แล้วคันดะก็พาอเลนเดินเข้าไปภายในลานกว้าง ชายหนุ่มโค้งน้อยๆ ให้ รั้งเอวของอีกฝ่ายเข้ามาประชิดตัวจนร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ ด้วยความตกใจ
“ฉันจะก้าวช้าๆ มองตามนะ” ดวงหน้าหวานก้มงุด ไม่รู้ว่าเพราะมองจังหวะก้าวขา หรือกำลังเขินอายอยู่กันแน่ ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารักจนคันดะอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ . . . เด็กชายลนลานก้าวผิดก้าวถูก เหยียบโดนเท้าของร่างสูงไปก็หลายครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นจะเอ่ยคำขอโทษ กลับได้รับสายตาเย็นยะเยือกคาดโทษส่งมาก่อน จึงได้แต่เก้มหน้าก้มตาพยายามเต้นต่อไป . . . สายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มทั้งสองโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก
“คู่นั้นน่ารักจังนะ”
“เด็กคนนั้นผู้หญิงหรือผู้ชายน่ะ น่ารักจัง”
“เด็กผู้ชายคนสูงๆ นั่นเต้นเก่งเนอะ”
“เหมาะสมกันดีจัง”
ภาพที่ปรากฏแก่สายตาผู้คน ไม่ใช่ภาพของเอ็กโซซิสท์ผู้มีหน้าที่ทำลายและปกป้อง . . . หากเป็นเพียงภาพของคนธรรมดาๆ สองคนที่มีความรักให้แก่กันเท่านั้น
ร่างหนึ่งงดงาม กระจ่างใส เฉิดฉายแม้ในยามค่ำคืน อีกร่างนั้นสวยงาม ลึกลับ และน่าหลงใหล . . . น่าประหลาดที่บุคคลซึ่งราวกับอยู่คนละฝั่งฟาก หากเมื่ออยู่เคียงคู่กัน กลับดูเหมาะสมลงตัวอย่างพอดิบพอดี
“คะ คันดะครับ คนเค้ามองใหญ่แล้ว” เสียงใสๆ เอ่ยเมื่อรู้สึกว่ามีสายตากำลังจ้องมองพวกเขาอยู่
“ช่างพวกนั้นสิ นายจะไปสนใจทำไมกัน”
“ผมว่าหยุดก่อนเถอะนะครับ” สายตาเว้าวอนถูกส่งมาจากผู้ที่มีอายุน้อยกว่า แก้มใสๆ แต้มไปด้วยรอยแดงเพราะความเขินอาย คันดะจึงยอมทำตามคำขอร้อง . . . เขาพาอเลนมายังจุดที่ปลอดผู้คนและเงียบสงบ . . . ริมสายน้ำที่มีลมพัดผ่าน ใต้จันทราที่ลอยเด่นอยู่ไกลๆ บุคคลสองคนนั่งเคียงกันท่ามกลางความเงียบ . . . ทั้งความหวาดหวั่น ความกลัว และความเศร้าที่เคยรู้สึกถูกชะล้างออกไปจนแทบหมดสิ้น อเลนพยายามทำตัวให้เป็นปรกติและลืมเรื่องราวอันแสนโหดร้ายไป เขาต้องเข้มแข็งขึ้นเพื่อใช้เวลาอยู่กับคนรักของเขาถึงแม้เวลาที่ว่านั้นจะเหลืออีกเพียงน้อยนิดก็ตามที่
“คันดะครับ” เด็กชายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
“หืม”
“ผมน่ะ เคยคิดว่า ชีวิตนี้ของผม มีไว้เพื่อมนุษย์ทุกคน และเพื่ออาคุมะเท่านั้น . . . แต่ตอนนี้ผมคิดว่าชีวิตนี้มันก็มีอะไรที่หลากหลายกว่านั้นนะครับ” รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าอ่อนเยาว์ราวเด็กน้อย
“ตอนนั้นนายมันโง่เกินคนปกติเขานี่” คันดะกัดเล็กๆ ด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู
“โถ่คันดะอ่ะ ผมอุส่าซึ้ง . . . รู้งี้ไม่เล่าให้ฟังดีกว่า” เสียงบ่นอุบอิบตามมา ถึงแม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่คันดะก็ได้ยินจนได้
“แล้วไงล่ะ ถึงนายจะเล่าไป ฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไงอยู่ดี เพราะนายก็คือนาย ถึงจะโง่ งี่เง่า ชอบต่อปากต่อคำหัวเป็นถั่ว . . .”
“อ้าวๆ ว่ากันงี้ก็สวยสิครับคันดะ คุณก็เหมือนกันล่ะน่า . . . วันๆ กินแต่โซบะ ถึงได้ขาดสารอาหารจนผอมเป็นไม้เสียบผีอย่างงี้”
‘ปึด’ เส้นเลือดปูดๆ บนหัวของคันดะขาดไปหนึ่งเส้น
“รู้สึกว่าแกจะไม่รักชีวิตของตัวเองเอาซะเลยนะไอ้ถั่วงอก พ่อเชือดทิ้งซะตรงนี้ดีไหม”
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็เอาสิครับ” ว่าแล้วทั้งคู่ก็ยกศาตราคู่กายขึ้นมา เตรียมฆ่าฟันกันเต็มที่ บรรยากาศอันโรแมนติกเมื่อครู่พังครืน
‘ตูม!’ ทั้งอเลนและคันดะหันไปตามเสียง ซึ่งดังมาจากทิศทางที่ตั้งของศาสนจักร
“คันดะ! นั่นมันอะไรกันน่ะครับ” อเลนถามด้วยความตกใจ
“จะไปรู้มั๊ยเล่า ก็อยู่ด้วยกัน” คำตอบเผ็ดร้อนที่ได้รับทำให้เด็กชายชักมีน้ำโห
“งั้นใครไปรู้ก่อนชนะเอามั๊ยล่ะครับ” ว่าแล้วร่างเล็กก็กระโจนออกไปทันที
“เฮ้ย! . . . จะเล่นงี้กับฉันเรอะ แล้วแกจะเสียใจ เจ้าถั่วงอก” บ่นไปพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วคันดะก็มุ่งหน้าตามไปเช่นกัน
= [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] =
‘อึ๊ก’ ริเวอร์พยายามแกะมือที่บีบคอของตัวเองออก หากไม่เป็นผล เพราะคนตรงหน้านั้นมีกำลังมากมายกว่าเขาหลายเท่านัก
“พวกเอ็กโซซิสท์ อยู่ไหน?”
บุคลากรในแผนกบำบัดล้มเจ็บเกลื่อนพื้นด้วยแรงระเบิดเมื่อครู่ บางคนยังร้องโอดโอยอยู่ แต่ดูเหมือนชายผู้บุกรุกจะไม่ได้สนใจมากนัก กลับพุ่งความสนใจมาที่เขาซึ่งเป็นบุคคลเพียงผู้เดียวที่ไม่ได้อยู่ในแผนกนี้
“ฉันไม่บอกแกหรอก!” สำเนียงอึกอักเปล่งรอดออกมาได้เพียงเล็กน้อย มือใหญ่ที่คาอยู่ที่คอเกร็งแน่นขึ้น ในที่สุดร่างในกำมือก็แน่นิ่ง
“หืม รักกันซะจริงนะ” ว่าพลางปล่อยร่างปวกเปียกของรองหัวหน้าแผนกร่วงลงพื้น คำสั่งของเคาท์พันปี หรือที่ตัวเขาเองเรียกเล่นๆ ว่าขุนนางพันปีลอยเข้ามาในหัว
‘ทำลายที่นั่นเสีย หรือไม่ก็เก็บเอ็กโซซิสท์ซักตัวสองตัวก็ได้นะขอรับ’ คำพูดนั้นชะงักเล็กน้อย
‘ทำได้นะขอรับ?’
ทีกี้หัวเราะให้ตัวเองหน่อยนึงกับคำตอบรับที่ตนให้ไปกับเคาท์พันปี . . . ใครก็ได้ งั้นไม่ใช่คนๆ นั้นก็ได้สินะ เมื่อคิดได้ดังนั้น ทีกี้ก็รีบพาตัวไปยังที่ๆ คิดว่าน่าจะมีเป้าหมายของเขาอยู่ . . .
ความคิดเห็น