คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : My Valentine
Title : My Valentine
Author : witch-toy
Category : One shot, BL, AU, Romance
Couple : Tiki x
... รักคงคล้ายกับขนมหวาน เพราะยิ่งกินก็ยิ่งอยากกินต่อไปเรื่อยๆ ...
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูใบไม้ผลิแรกเริ่มมาเยือน อากาศเย็นไม่มากชวนให้อยากขดตัวนอนอยู่ในผ้าห่มอุ่น แต่คงจะเป็นไปได้ยากสำหรับผู้มีภาระงานที่ต้องทำ เช่นเดียวกับหนุ่มน้อยคนนี้ ...
นาฬิกาปลุกข้างเตียงแผดเสียงร้องแสบหูตามหน้าที่ นานพอดูกว่ามือเล็กๆของใครบางคนจะเอื้อมไปปิดมัน เจ้าของมือชันตัวขึ้นนั่ง ขยี้ตาด้วยความงัวเงีย ... เหนือผ้าห่มที่ถูกเลิกลง คือร่างของเด็กชายวัยสิบห้า ผมสีขาวสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้าดูยุ่งเหยิง ดวงตาสีเงินเชื่อมราวกับเพิ่งตื่นจากฝันแสนหวาน เด็กหนุ่มสลึมสลือลุกขึ้นจากที่นอน ทอดสายตามองไปยังเตียงว่างเปล่าข้างๆกัน
.. นี่ออกไปแล้ว หรือยังไม่กลับกันนะ ..
คำถามเกี่ยวกับรูมเมทหน้าสวยผุดขึ้นมาในใจโดยไร้คำตอบ แล้วทำไมต้องรู้สึกใจเต้นตึกๆแบบนี้ด้วยนะ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ชอบแบบนี้
.. มันทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองทุกที ..
ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีขาวสะบัดไปมาจนผมกระจาย มือบางยกขึ้นมาตบหน้าตัวเองเบาๆให้ความรู้สึกร้อนๆตรงแก้มหายไป จนตื่นเต็มตาแล้วเด็กชายจึงตั้งใจว่าจะไม่สนอะไรอีก
แม้แต่กลิ่นอายชวนฝันที่ยังติดอยู่บนเตียงของนายรูมเมทคนนั้นก็เถอะ!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“อเลน~” น้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เจ้าของชื่อแทบไม่ต้องทายว่าใครเรียก เด็กหนุ่มผมขาวตอบรับออกไปทั้งที่หันหลังอ่านหนังสืออยู่
“สนใจกันหน่อยสิ” ราวี่ดึงหนังสือออกจากมือของอเลน ก่อนจะเอี้ยวตัวไปประจันหน้า “วันนี้ฉันอุส่าห์มาเช้าเพื่อนายเชียวนะ”
“อะไรล่ะครับ” อเลนเดินเลี่ยงออกมานั่งบนม้านั่งใกล้ๆ หนังสือก็ถูกยึดไปเรียบร้อย จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟัง แต่ยังไม่ทันที่ที่รุ่นพี่หนุ่มผมสีเพลิงจะกล่าวอะไร เขากลับชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ให้ผมทายนะ” ดวงตาสีขาวหรี่ลงอย่างนึกสนุก “ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ก็ต้องเป็นเรื่องครูคนเก่งคนนั้นใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้จะพูดเรื่องทีกี้ให้ฟังซะหน่อย” ราวี่เถียงหน้าแดง “ ... ถึงมีก็แค่นิดเดียวล่ะน่า ไอ้ครูจอมหื่นพรรค์นั้นน่ะ ใครจะอยากพูดถึงกัน” ได้ฟังคำแก้ตัวแบบนั้นจากปากรุ่นพี่ปีสามอย่างราวี่ ทำให้อเลนอดรู้สึกขำไม่ได้
เรื่องอื่นล่ะเถรตรงนัก ทีอย่างนี้ล่ะปากแข็งเชียว
กว่าจะถึงเวลาเข้าเรียน สองหนุ่มก็พูดคุยเรื่องสัพเพเหระกันได้อีกโขทีเดียว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
มุมหนึ่งของดาดฟ้าโรงเรียนที่ไม่มีใครนึกผ่าน กลับปรากฏร่างสองร่างกอดรัดนัวเนียกันจนแทบจะหลอมรวมกัน
ชายหนุ่มร่างสูงผลักร่างของหญิงสาวสวยหยาดเยิ้มเข้าชิดกำแพง ตามด้วยการบดจูบอย่างรุนแรง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ไม่เลวเลยทีเดียว ริมฝีปากบดเบียดหยอกล้อกันอย่างกระหาย ร้อนรุ่ม
มือกร้านถลกกระโปรงดรุณีนางนั้นขึ้นสูง ลูบไล้ทั่วร่างกาย เนื้อแนบเนื้อ หนังแนบหนัง .... เสียงหอบกระเส่าและเสียงครางอย่างสุขสมดังทั่วบริเวณดาดฟ้า ...บทรักเร่าร้อนระหว่างคู่หนุ่มสาวดูราวกับจะเนิ่นนานยืดยาวต่อไป
เว้นเสียแต่ว่า ...
‘ตึก’
“ใครน่ะ!” เสียงห้าวตะคอกถามทันทีที่ได้ยินเสียงอะไรซักอย่างตกถึงพื้น ถึงจะอยู่คนละฝั่งกำแพง แต่เขาก็แน่ใจว่าต้องมีคนอยู่ที่นั่นแน่นอน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งออกไป ชายหนุ่มละจากสตรีตรงหน้าทันที
“เดี๋ยวสิคะ” มือนุ่มนิ่มอย่างคนไม่เคยทำงานเกาะชายเสื้อนักเรียนเด็กหนุ่มไว้แน่น น้ำเสียงตวัดไม่พอใจที่อีกฝ่ายปล่อยให้เธอค้างเติ่งอยู่อย่างนี้ “ช่างเถอะค่ะ เรามาต่อกันเถอะ” รอยยิ้มยั่วยวนที่เคยถูกใช้มานับไม่ถ้วน จำนวนครั้งที่สำเร็จก็คงจะร้อยเปอร์เซ็นต์เสียด้วย
ถ้าไม่ได้เอามาใช้กับคนอย่าง คันดะ ยู
“ช่างเธอสิ” คันดะพูดอย่างไร้เยื่อใย จัดแจงสวมเสื้อผ้าจนเรียบร้อย และวิ่งลงจากดาดฟ้าไปในทันที
.
“แฮ่ก ..แฮ่ก”
อเลนวิ่งตึกๆเข้ามาในห้องเรียนตามด้วยปิดประตูอย่างแรง ร่างเล็กพิงประตูหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน ใบหน้าหวานซับสีแดงจัด นัยน์ตาสีขาวเบิกกว้างราวกับเพิ่งผ่านเรื่องที่น่าตกใจที่สุดในชีวิต เพราะเขาดันทุรังจะไปกินข้าวข้างบนคนเดียวแท้ๆเชียว ถึงได้ไปเจออะไรแบบนั้นเข้า ถึงจะไม่เห็นก็เถอะ
แถมยังไม่ใช่คนอื่นใกล้ รูมเมทของเขาเอแท้ๆ
เด็กชายพาตัวเองไปยังโต๊ะเรียน ทิ้งตัวลงอย่างหมดแรง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ารูมเมทของตนจะเป็นคนเช่นนั้น ถึงจะมีคนรัก แต่ก็ไม่ควรจะมาทำอะไรๆอย่างว่าที่โรงเรียนนี่
“คิดจะทำอะไรกันก็หาที่ลับตาหน่อยสิ ประเจิดประเจ้อชะมัด” เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง แต่ในสมองกลับได้ยินแต่ของเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆ อเลนนิ่วหน้า เขาเป็นคนลามกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
... แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกแปล๊บๆที่หัวใจด้วยนะ ...
คนเพิ่งผ่านเหตุการณ์ระทึกมาหมาดๆเก็บขวดนมรสหวานไว้ใต้โต๊ะ ดันทำขนมปังที่จะทานเป็นอาหารเที่ยงหลุดมือไปเมื่อกี้นี่เอง
‘แถมนั่นมันรสแอปเปิ้ลของโปรดของผมนะ T T’
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“นี่ ..กระต่ายน้อย”
“หืม”
“กระต่ายน้อย..”
“อะไรเล่า!” ราวี่ตบโต๊ะอย่างฉุนขาด “เรียกอยู่ได้ มีอะไรก็ว่ามา”
ครูหนุ่มผมดำมองศิษย์รักหงอๆ “นายเหยียบเท้าฉันอยู่น่ะ” ว่าพลางชี้จึกๆที่เท้าตัวเองใต้โต๊ะ เล่นเอากระต่ายส้มสะดุ้งยกเท้าออกแทบไม่ทัน ขอโทษขอโพยกันยกใหญ่
“แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกเล่า” รับเคราะห์อย่างเดียวไม่พอ ทีกี้ยังได้ความผิดฐานไม่บอกพ่วงไปอีกกระทง แต่เจ้าตัวกลับยิ้มแฉ่ง
“ก็เท้านายมันเล็กดี วางไว้เฉยๆมันก็ดีอยู่หรอก แต่นายดันกระทืบนี่สิ” ยกไหล่น้อยๆเป็นนัยว่าไม่ถือสา ยังไงกระต่ายน้อยน่ารักอย่างราวี่ก็ไม่ผิดอยู่แล้วในสายตาเขา
“เวลาเล่าเรื่องฉันก็ต้องใส่อารมณ์บ้างสิ ใครจะไปอารมณ์ดีตอดเวลาได้อย่างนาย” โดยเฉพาะเวลาพูดถึงครูวิทยาศาสตร์สุดต๊องอย่างโคมุอิ ที่อยู่ดีๆก็นึกสนุกไล่ให้เด็กทั้งห้องออกไปเต้นคาราเมลแดนซ์หน้าโรงเรียนน่ะ มันทำให้รู้สึกอับอายจนอยากฆ่าให้ตายเชียว
“ว่าแต่ ... นายฝึกสอนม.ต้นนี่ เจออเลนบ้างรึเปล่า” ผู้อ่อนวัยกว่าเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ทำเอาคนแก่เกือบตามไม่ทัน ทีกี้เงียบไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะตอบออกมา
“หือ? เพื่อนรุ่นน้องที่นายเล่าให้ฟังบ่อยๆน่ะหรือ? อยู่ห้องเอใช่ไหมล่ะ เจอบ้าง แต่ไม่บ่อยหรอก เขาไม่ได้จัดให้ฉันสองห้องเด็กเก่งแบบนั้นนี่”
“งั้นเหรอ” คำตอบบอกให้รู้ว่าวัยรุ่นกำลังเซ็ง ไม่รู้ว่าเซ็งคนจัดห้องสอนหรือเซ็งคุณหนูตระกูลโนอาห์ตรงหน้ากันแน่
“แล้วมีอะไรล่ะ” ทีกี้ถามเอาใจ ลองราวี่พูดเกริ่นออกมาแล้วแปลว่าเรื่องนั้นเจ้าตัวคงสนใจไม่น้อย อีกอย่าง เรื่องที่ว่าที่ภรรยาสนใจ จะให้ละเลยไปก็คงไม่ดี
“ฉันว่าดูเหมือนอเลนจะตกหลุมรักล่ะ” นักเรียนผมแสดป้องปากพูดเบาๆราวกับว่าเป็นความลับระดับโลก คุณครูจอมสงสัยจึงถามกลับ
“แล้วไงล่ะ”
“โธ่ ก็ฉันอยากช่วยน่ะสิ” น้ำเสียงเหมือนจะบอกครูหนุ่มให้ช่วยรู้อะไรหน่อยได้ไหม ทีกี้อยากจะพูดเหลือเกินว่าถ้าจะช่วยน่ะ ช่วยให้ความรักเขาสมหวังหน่อยจะไม่ง่ายกว่าหรือ แต่ก็ต้องอุบไว้ ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนสารพันคำด่ากราดกลางโรงหารได้
“ก็เลยจะให้ฉันช่วย?” คำถามรู้ทันทำให้ราวี่ยิ้มแหย หากเพียงไม่กี่วิฯรอยยิ้มเอาใจก็แย้มออก
“แน่นอน ฉันรู้ว่านายพึ่งได้ นายก็รู้นี่นา เพื่อนฉันน่ะเป็นพวกอารมณ์เป็นยังไง ก็แสดงออกมาหมด ลองนายมีเพื่อนที่แต่ละวันเอาแต่นั่งเหม่อ กินข้าวไม่ลง เจอไม่ทัก ถามไม่ตอบ นอนไม่หลับ การบ้านไม่ลอก ข้อสอบไม่...”
“พอ.. พอแล้ว” ครูหนุ่มรีบเบรกไว้ก่อนที่นักเรียนที่รักของเขาจะพล่ามไปมากกว่านี้ นี่แค่เพื่อนตกหลุมรัก ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนพ่อกระต่ายน้อยก็ตื่นตูมไปขนาดนี้ ถ้ามีแฟนไปคงมาร้องห่มร้องไห้ว่าโดนทิ้งแหงๆ “แล้วจะให้ฉันทำยังไง เพื่อนนายฉันก็รู้จักแค่หน้ากับชื่อเท่านั้นเอง รักใครชอบใครฉันก็ไม่รู้นี่”
“ไม่หรอก นายรู้จักแน่ๆ คนคนนั้นน่ะ” เสียงตอบมั่นใจจนคนฟังรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
“ใคร?”
“คันดะ ยูไง” เพียงแค่เอ่ยนาม ก็ทำให้ทีกี้ชะงักไปได้ กระต่ายน้อยผู้ไม่สังเกตอะไรอยู่แล้วหยิบโพยออกมาอธิบายต่อ
“ปี3 ห้องซี แต่สอบติดหนึ่งในยี่สิบของระดับชั้นได้สบายๆ แถมยังทั้งสวยทั้งหล่อ.. ถึงจะน้อยกว่าฉันก็เถอะ สาวๆติดเกรียว ฟันหญิงไม่เลือกซะด้วย หาคนคุยด้วยยากยิ่งกว่าหาความจริงจังจากโคมุอิ และหนึ่งในผู้ชายที่คุยกับหมอนั่นได้ ก็นายไงล่ะ”
นิ้วเรียวชี้ไปยังผู้ชายที่นั่งตรงข้ามเขาอย่างมั่นใจในชัยชนะ ยังไงงานนี้ถึงกับทำให้เขาต้องมาไหว้วานไอ้ครูจอมหื่นที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าซักเท่าไหร่เชียวนะ ที่ไม่ชอบก็เพราะหมอนี่ชอบทำให้ใจเขาตุ้มๆต่อมๆน่ะสิ อยู่ใกล้ทีไรก็ชอบฉวยโอกาส ถ้าเป็นช่วงแรกๆคงไม่มีโอกาสคุยกันแบบนี้หรอก แค่เห็นในระยะสิบเมตรเขาก็วิ่งกระเจิงแล้ว
ทีกี้จับมือที่ชี้มาทางเขาเอาไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก
“ถ้าฉันทำให้เพื่อนนายสมหวังได้ ฉันจะได้อะไร”
“นายอยากได้อะไรล่ะ”
“นาย” คำตอบฉับพลันเรียกเลือดร้อนๆให้สูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าของพ่อหนุ่มผมส้มจนแดงปลั่งไปหมด ราวี่อึ้งไปหน่อยกว่าจะตอบออกมาได้
“อะ ไอ้บ้า” หมัดลุ่นๆพุ่งเข้าจะประทุษร้ายคนปากดี แต่ก็ถูกเบรกไว้โดยมือของอีกฝ่าย
“โธ่ ฉันรึก็อยากจะช่วย ถ้ากระต่ายน้อยไม่อยากช่วยเพื่อนก็ไม่เป็นไร แต่อย่าทำร้ายกันดื้อๆแบบนี้สิ” คำพูดเหมือนเหน็บแนมทำให้ราวี่ลดหมัดลง ความรักเพื่อนที่อยู่ในหัวกับจิตสำนึกที่บอกให้อยู่ห่างๆจอมโรคจิตอย่างทีกี้ตีกันยุ่งไปหมด
ช่วยอเลน? ป้องกันตัว? ถ้าขืนยุ่งมากๆมีหวังเสร็จไอ้บ้านี่แน่ๆ แต่อเลนล่ะ... โอ้ยยย~
เห็นกระต่ายน้อยของเขาทำหน้าซีดๆสลับกับอยู่ๆก็แดงเรื่องขึ้นมาทำให้ทีกี้พอใจยิ่งนัก เสียงห้าวหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนจะพูดนิ่มๆแกล้งคนที่คิดเตลิดไปไหนต่อไหน
“คิดไปไกลถึงไหน ฉันแค่อยากจะให้นายไปเดทกับฉันวันวาเลนไทน์เท่านั้นเอง” ได้ยินแบบนั้น ราวี่จึงตะกุกตะกักถามออกไป
“แค่เดทจริงนะ?”
“แน่นอน หรือกระต่ายน้อยอยากให้มากกว่านั้น ฉันก็ยินดีนะ”
“ไอ้โรคจิต วิปริต ครูหื่นเอ๊ย” คำผรุสวาสเป็นชุดๆหลุดจากปากสวยๆของคนโดนลวนลามทางคำพูด พอดีกับที่ออดโรงเรียนดังขึ้น ราวี่ลุกวิ่งไปห้องเรียนทันที คุณครูผมดำได้แต่มองแผ่นหลังเล็กๆหายลับขึ้นห้องเรียนไป
... อเลน วอร์คเกอร์ กับ คันดะ ยู บังเอิญจริงๆ
รอยยิ้มไร้ความหมายแย้มออกช้าๆ
... มีเรื่องสนุกๆมาให้ทำอีกแล้ว ...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กระจกตกแต่งในบาร์ชั้นหรูสะท้อนสปอร์ตไลท์ส่องแสงวิบวับน่ามอง เสียงดนตรีสบายๆกลืนหายไปกับเสียงจ้อกแจ้กของผู้คน บรรยากาศของร้านไม่สว่างเกินไปแต่ก็ไม่มืดจนทำให้ทีกี้มองไม่เห็นคู่รักชั่วคราวหลายคู่ซึ่งกำลังพลอดรักกันอย่างดูดดื่ม ...รวมถึงคนที่เขาหาด้วย
เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นนั่งอยู่ในมุมวิเวก ไม่ใช่แค่คนเดียว บนตักของเขาคือร่างของสาวน้อยหุ่นเพรียว ริมฝีปากของเธอประกบอยู่กับเรียวปากของเด็กหนุ่ม แขนเรียวเล็กโอบรอบคอของอีกฝ่าย โดยมีมือของฝ่ายชายเกาะอยู่ที่เอวของเธอเช่นกัน
ทีกี้แทบจะไม่อยากเชื่อว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้นจะมาทำเรื่องอะไรไม่ดีไม่งามกลางที่สาธารณะชนได้ ถึงจะไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนก็เถอะ ยังไงก็น่าเกลียดอยู่ดี สู้กระต่ายน้อยของเขาก็ไม่ได้ รักนวลสงวนตัวเป็นกุลสตรีที่ดี(?)
คิดนอกเรื่องไปนิดหน่อยแต่ในที่สุดทีกี้ก็กลับมาสานภารกิจของตนต่อ ร่างสูงเดินตรงไปยังหนุ่มสาวคู่นั้นจนแทบจะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอยู่แล้ว หากทั้งคู่ก็ยังไม่รู้สึกตัว
“แฮ่ม..” ชายหนุ่มแกล้งกระแอมเล็กน้อยพร้อมเคาะเก้าอี้เบาๆเพื่อเรียกความสนใจ แน่นอนว่ามันได้ผล ทั้งคู่ละจากกันทันที ฝ่ายหญิงสะบัดหน้ามาทำตาเขียวปั๊ดใส่เขา คนที่เพิ่งเข้ามาขัดจังหวะชาวบ้านฉีกยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ก่อนเอ่ย
“ผมขอคุยธุระกับเพื่อนซักครู่ได้ไหมครับ คุณผู้หญิง” ไร้คำแนะนำตัว ไร้การเอ่ยทักทาย หญิงสาวมองทีกี้จากศีรษะจรดปลายเท้าอย่างดูแคลน ก่อนจะหันไปหาคู่รักของเธอราวขอความเห็น แต่คันดะกลับพยักหน้าให้เธอออกไป นัยน์ตาคู่สวยที่แต่งแต้มด้วยสีสันสารพัดหันมาค้อนใส่คุณครูนอกเวลาวงใหญ่ ก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินสะบัดออกไป
“มีอะไร” คำถามเรียบๆส่งถึงผู้มาใหม่ที่นั่งตรงข้ามเขาเรียบร้อยโดยไม่รอคำเชิญ คันดะตีหน้านิ่งเสียจนทีกี้ชักนับถือ เมื่อกี้ยังเร่าร้อนอยู่แท้ๆ
“อย่าทำเสียงดุนักซี่” น้ำเสียงล้อเล่นแต่ไร้แววขำขัน “ชวดเหยื่อไปเพราะฉัน หรือเสียแต้มคืนนี้เลยโมโหรึไง”
“เปล่า แบบนั้นน่ะ หาเมื่อไหร่ก็ได้” คันดะยักไหล่ไม่สนใจ “แค่ฉันสงสัยว่าทำไมแกถึงได้มาที่นี่ ได้ข่าวว่าเจอตัวจริงก็เลยล้างมือไปแล้ว?”
“ถูกต้อง ..แต่ฉันไม่ได้มาเพราะเรื่องอย่างว่านี่ ฉันมาก็เพราะพ่อกระต่ายน้อยขอให้มาต่างหาก”
“กระต่ายน้อย ไม้กวาดหัวส้มน่ะนะ” คันดะถามงุนงง ไม่แน่ใจว่าไอ้เด็กห้องเอจอมทะเล้นคนนั้นลงเอยกับครูหื่นนี่ตอนไหน คงเพราะเขาไม่ค่อยได้สนใจเรื่องในโรงเรียนล่ะมั๊ง ถึงได้ตกข่าวใหญ่
“เอ้อ...ช่างเถอะ ว่าแต่เด็กคนที่นายชอบเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่คราวนั้นก็ไม่เห็นนายพูดถึงอีกเลยนี่” คราวนั้นของทีกี้คือคราวที่คันดะเล่าให้ฟังถึงรูมเมทคนใหม่ซึ่งตอนนั้นเพิ่งย้ายมาอยู่ด้วยกัน
‘ติงต๊องเป็นบ้า หัวก็ขาวๆเหมือนถั่วงอก กินเก่งยังกับมีหลุมดำอยู่ในท้อง ... แต่ก็น่ารักดี’
นี่คือคำนิยามถึงหนุ่มน้อยผมขาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่พ่อหนุ่มผมม้าตรงหน้าเขาให้ไว้
“เจ้าถั่วงอกรึ? ... ทำไมฉันต้องพูดถึงหมอนั่นด้วย” ถึงปากพูดแบบนั้น แต่นัยน์ตาสีกลางคืนกลับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “อยู่ๆก็ไม่พูดไม่จา กลับหอก็ปึงปังใส่จนฉันต้องออกมาเร่ร่อนอยู่นี่ไง”
“ทำไมล่ะ นายไม่ค่อยถูกกันเหรอ” ทีกี้ถามอย่างประหลาดใจ ก่อนจะประหลาดใจยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นเรียวปากสวยของอีกฝ่ายคลี่ยิ้มอ่อน
“มั๊ง เถียงกันได้ทุกวันล่ะ โดยเฉพาะเรื่องชื่อของหมอนั่น เรื่องมากชะมัด เรียกถั่วงอกก็เหมาะกับหน้าอยู่แล้ว ... แล้วทำไมฉันต้องบ่นให้แกฟังด้วยวะ” คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดมากไปทำหน้ามุ่ย
“เอาน่า ถือว่าวันนี้เป็นวันโชคดีของนายที่เจอเพื่อนปรับทุกข์อย่างฉัน”
“โชคร้ายนะสิไม่ว่า พาผู้หญิงขึ้นไปบนดาดฟ้าก็ดันมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ตามขึ้นไปเห็น กลับหอก็เจอเจ้าถั่วงอกทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่ แถมยังหน้าแดงๆเหมือนจะเป็นไข้อีก มาผับก็เจอเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายอย่างแก” มนุษย์หน้าสวยกระตุกยิ้ม “โชคดีจริงๆ”
“ดูท่านายจะจริงจังกับเด็กคนนั้นมากเลยนะ ...ใส่ใจกันจัง” ครูหนุ่มลากเสียงหน่อยๆเป็นการแกล้งคืน ก่อนรีบเข้าไคลแม็กซ์ของแผนการ
“อยากได้ไหมล่ะ”
“แกมันบ้า” แผนการสุดกู่ของทีกี้สะดุดโครมลงทันทีที่ไม่ได้รับการตอบรับ “ถ้าฉันกล้าขนาดนั้น คงไม่มานั่งหาที่ระบายกับผู้หญิงพรรค์นี้ให้เสียเวลาหรอก” คันดะชักสงสัยเข้าไปทุกทีว่าเป็นเพราะเมรัยสีเข้มตรงหน้าหรือเพราะลางสังหรณ์อะไรที่ทำให้เขาพูดออกไปได้มากขนาดนี้ แต่โดยข้อสันนิฐานแล้วควรจะเป็นอย่างแรกมากกว่า
แค่ได้ฟังคำสารภาพจากหนุ่มแดนโซบะก็ทำให้อีกหนุ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นเป็นกอง เห็นสวรรค์การเดทกับกระต่ายน้อยอยู่รำไร
“เชื่อมือเถอะน่า”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
14/02/19xx - Valentine’s Day
“เฮ้ย จะพาฉันไปไหน”
“เถอะน่า”
“ปล่อยนะเว้ย ไม่งั้นแกหัวแบะแน่ๆ ทีกี้”
สิ้นคำพูด ทีกี้ก็ปล่อยมือจากคอเสื้อของคันดะทันที
...ไม่ได้กลัวนะ แค่ขอตั้งหลักก่อน
“นายเรื่องมากนักสิ พ่อหนุ่ม ฉันไม่พานายไปข่มขืนหรอก เมียฉันก็มีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว”
“เมียที่แกโมเมเอาเองน่ะสิ” เด็กนักเรียนม.ปลายสวนกลับเข้าให้ จนคุณครูอึ้งไปเล็กน้อย ใครบอกมันหว่า แต่เรื่องเขาก็เลือกที่จะปัดเรื่องนั้นทิ้งไปก่อน เพราะมีเป้าหมายที่สำคัญกว่ารอยู่
เดทกับกระต่ายน้อย!
ห้าพยางค์ที่ทำให้คุณครูผมดำกระชุ่มกระชวยได้ยิ่งกว่าได้ไวอากร้า คึกคักยิ่งกว่ากระดกยาปลุกแขนงไหน แขนล่ำๆของทีกี้ล็อคคอคันดะไว้แน่น ลากพาตรงไปยังจุดหมายปลายทางจนได้ โชคยังดีที่คันดะไม่ได้พกดาบญี่ปุ่นคู่กายมาด้วย ไม่งั้นศีรษะหล่อๆของเขาอาจจะแบะจริงๆ
“นี่มันห้อง..!”
‘ปึง!’ เสียงประตูปิดกลบคำสุดท้ายที่หนุ่มผมม้าพูดจนไม่ได้ยิน ทีกี้จัดการล็อกประตูจากข้างนอกก่อนจะรีบเผ่นออกไป
“กระต่ายน้อย~ ฉันมาทวงคำสัญญาสองเราแล้ว~”
.
“อะไรของมัน” คันดะสบถอย่างหัวเสีย จู่ๆเจ้าบ้านั่นก็ลากเขามาที่ห้องของตัวเองทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาซักนิด ห้าโมงกว่าๆเท่านั้นเอง ผับยังไม่เปิดด้วยซ้ำ แต่เมื่อชายหนุ่มหันกลับมามองสภาพห้อง เขาก็ต้องชะงัก
กุหลาบบานเต็มห้องนอนเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ แถมเตียงยังหายไปหนึ่งเตียง นี่เจ้าถั่วงอกย้ายออกรึไง คันดะคิดในใจก่อนจะเดินไปเปิดห้องน้ำที่ส่งเสียงตึงๆมาตั้งแต่เมื่อกี้
“คันดะ!” อารมณ์ช็อกสามารถแทรกผ่านเข้าในสมองของมนุษย์ที่ชื่อว่าคันดะ ยู ได้เป็นครั้งแรก เมื่อได้เห็นหนึ่งถั่วงอกที่อยากเป็นมนุษย์นามอเลน วอร์คเกอร์ถูกจับแช่ในอ่างช็อกโกแลต ของหวานสีน้ำตาลเปื้อนขึ้นมาถึงแผงอกขาวเปลือยเปล่า ชวนให้จิตนาการถึงอะไรที่อยู่ข้างใต้ของเหลวหวานๆนั้นเสียเหลือเกิน
“ช่วยผมด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็กน้อยดังขึ้นอีกครั้งเมื่อไร้ปฏิกิริยาจากรุ่นพี่ร่วมห้อง แต่ถั่วงอกน้อยไม่อาจรู้ได้เลยว่าบุคคลเย็นชาแห่งปีคนนั้นหลุดโหมดไปแล้ว
.
“ว๊ากกกกก~” เสียงกรีดร้องดังสนั่นทั่วหอพัก เสียดายที่คนอื่นพากันไปฉลองวันวาเลนไทน์กันหมด จึงไม่มีความช่วยเหลือย่างกลายเข้าหาช็อคโกแลตวาเลนไทน์แสนหวานคนนั้น
... ไม่เสร็จก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ...
----------------------------------------------------------------------------------------------
“ฉันจะรู้ได้ไงว่านายไม่ได้โมเมเอาเอง” ราวี่ถามอย่างไม่มั่นใจขณะถูกทีกี้ขืนใจให้ไปร้านไอติมใกล้โรงเรียนด้วยกัน หลังจากวันที่ขอช่วยไป ทีกี้ก็ไม่ได้พูดอะไร จนถึงวันวาเลนไทน์กลับมาบอกว่าแผนการเป็นไปด้วยดี จะให้เชื่อเลยก็กระไรอยู่ เขายังไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นกระต่ายเชื่อคนง่ายนี่นา
“ฉันเคยโกหกนายรึไง” กระต่ายตาเขียวแอบตอบในใจว่านับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ตั้งใจฟังที่อีกฝ่ายพูดต่อ “พรุ่งนี้รอดูผลเลยก็ได้ รับรองด้วยร่างกายของฉันเลย”
“ใครจะไปอยากได้ร่างกายของนายกัน” หนุ่มน้อยผมเพลิงถามหน้าแดง น่ารักเสียจนทีกี้ชักจะอยากกดซะกลางถนนซะเลย จะได้รู้ว่าคนน่ารักคนนี้น่ะ ของเขา
“ถึงนายไม่อยากได้ แต่ฉันมีของที่อยากได้จากนายนะ” ขณะพูดก็แบมือไว้ตรงหน้าคนตัวเล็กกว่า แถมยังกระดิกมือดิ๊กๆ ราวกับจะเร่งให้ราวี่ทำอะไรซักอย่าง
“อะไร?” ใบหน้าสวยหวานเอียงคอถาม ไม่ได้โง่แกล้งนะ ไม่รู้จริงๆ สาบานด้วยเกียรติของกระต่ายเลย
“ช็อกโกแลตไง วันวาเลนไทน์เขาต้องให้ช็อกโกแลตกันไม่ใช่เหรอ”
“จะบ้ารึไง นั่นมันผู้หญิงให้ผู้ชายต่างหาก ไม่ใช่ฉันเอามาให้นาย”
“ก็ฉันอยากได้จากนายนี่” ทีกี้ชักมือกลับอย่างผิดหวังพลางเสหน้าไปทางอื่นเหมือนน้อยใจจนราวี่ใจเสีย
“เฮ้ อย่างอนเป็นเด็กๆสิ” ว่าแล้วก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ร่างเพรียวหยิบกระเป๋าตัวเองคุ้ยหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอามาโบกตรงหน้าคนตัวสูง
... กูลิโกะ ป๊อกกี้รสช็อคโกแลต ...
“ไอ้นี่คงแทนได้ใช่มั๊ย” คราวนี้กลับเป็นคนง้อที่เบือนหน้าไปทางอื่นแทน ขณะที่คนงอนหันขวับกลับมาอย่างดีใจ
“อะไรก็ได้ทั้งนั้นล่ะ ของให้เป็นของที่นายให้เถอะ” ซักพัก มือใหญ่ก็แกะกล่องขนมออก หยิบสติ๊กขนมปังกรอบออกมา ป้อนใส่ริมฝีปากบางสวย
“นายก็กินสิ ของนายนะ” คนน่ารักในสายตาของทีกี้พยักหน้าหงึกหงัก และกว่าจะรู้ตัวใบหน้าคมก็โน้มลงมาเกือบจะชิดกับใบหน้าเขาอยู่แล้ว
... ป๊อก ...
ขนมขบเคี้ยวแท่งยาวหายไปกว่าครึ่ง พร้อมๆกับที่ใบหน้าขาวจัดซับสีขึ้นมา นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างอย่างตกตะลึง สัมผัสอุ่นๆบนริมฝีปากของตนยังติดตรึงชัดเจน
ทีกี้ยิ้มขำ เคี้ยวขนมในปากกรุบๆ ยิ่งได้เห็นท่าทางเหวอๆของราวี่ เขายิ่งทำให้เขารู้สึกชอบเข้าไปใหญ่ มืออุ่นๆจับมือเล็กๆไว้ แล้วจูงให้ออกเดิน
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ”
ความคิดเห็น