คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Unlovable
Title : Unlovable
Inspiration : Unlovable Mild
Pairing : Rabi x Yuu
Purpose : HBD พี่หมี ... เผามากำลังดี ไฟไม่แรงแต่ใช้เวลานาน ไหม้เล็กน้อย ข้างนอกเกรียมข้างในไม่สุก
เสริฟร้อนๆพร้อมความไม่รั่ว (ได้ข่าวว่ารีเควสรั่ว) ขอให้อายุยืนยาว อยู่เป็นร่มโพธิร่มไทรกับบอร์ดเรานานๆนะคร้าบ //เผ่น
รักข้างเดียวอาจเจ็บปวด... แต่เจ็บปวดยิ่งกว่าหากไม่ได้รัก
แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาในห้องซึ่งเต็มไปด้วยกองหนังสือ ... อีกนัยหนึ่งคือรกเรื้อไปด้วยหนังสือจนแทบจะถล่มทับเจ้าของห้อง ..เด็กหนุ่มหน้ามนนามราวี่ ผู้สืบทอดตำแหน่งบุ๊คแมนกำลังเช็คข่าวสำคัญต่างๆ แทนบุ๊คแมนตัวจริงที่ออกไปทำภารกิจระยะยาว
“ยะฮู้ เสร็จซะที” ร่างสูงโปร่งกระโดดลุก ยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย “อากาศดีๆแบบนี้ ... ไปหายูดีกว่า”
ประโยคเดิมๆที่พูดกับตัวเองได้ทุกครั้งของราวี่คือ ไปหายูดีกว่า ถึงแม้ว่าคำนำหน้าอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศก็ตาม เช่น
วันนั้น..
‘ฝนตก ... ไปหายูดีกว่า’
วันโน้น..
‘ร้อนชะมัดยาดเลยน้า ...ไปหายูดีกว่า’
วันไหน..
‘ว้าว หิมะตก ... ต้องไปบอกยู’ ทั้งๆที่รู้ว่าคันดะก็เห็นหิมะพร้อมๆกับเจ้าตัวนั่นล่ะ
แทบจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของพ่อหนุ่มว่าที่บุ๊คแมนคนนี้เสียแล้วที่จะต้องหาเรื่องก่อกวนเด็กหนุ่มหน้าใสวัยไล่เลี่ยกันทุกวี่วัน เรียกได้ว่าถ้าวันไหนไม่โดนดาบจ่อหัว ราวี่คงกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว
“ยูจาง~~”
ฟิ้ว~ ฉึก!
ดาบปลายดาบสีเงินปักเข้ากับผนังข้างช่องประตูที่ราวี่โผล่มาพอดิบพอดี ทำเอากระต่ายปากไวสะดุ้งโหยง เหลือบมองมุเก็นที่เพิ่งเฉียดหน้าตนไปอย่างหวาดๆ
“มีอะไร” น้ำเสียงอำมหิตไม่มากไม่น้อยดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโรงอาหาร ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นกำลังพนมมือขอบคุณวิญญาณโซบะตรงหน้า ก่อนจะเหลือบสายตามองคนกล้าที่เพิ่งเรียกชื่อเขาออกมา
“ไม่มีอะไรจ้า ไม่มีอะไร แหะๆ” ราวี่หัวเราะแห้งๆ สองมือชูขึ้นระดับหน้าอกเป็นเชิงธงขาว คันดะหันหน้ากลับไปและดื่มน้ำชาเงียบๆ
กระต่ายส้มออกอาการจิตตก อากาศดีแต่อารมณ์คนสวยไม่ยักดีตามอากาศแฮะ
ราวี่เก็บดาบมุเก็นไป(ถวาย)คืนให้คันดะ ผลจากการทำดีครั้งนี้คือสายตาเชือดเฉือนจากพ่อหนุ่มเจ้าของดาบญี่ปุ่น แต่ด้วยความดื้อ(ด้าน)บวกด้วยความกล้าตาย ทำให้ราวี่เลือกที่จะลองเสี่ยงชีวิตอีกครั้ง
“นี่ ... ยู วันนี้..”
“ใครใช้ให้เรียกชื่อฉัน”
“แล้วนายมีชื่อเอาไว้ทำไมเล่า”
ราวี่อยากจะตบปากตัวเองเสียให้ตาย เสียดายที่มือของเขาช้ากว่าดาบของยูหน่อย แทนที่จะตบปากตัวเองตาย ตอนนี้จึงกลายเป็นว่ากำลังจะถูกมุเก็นเสียบตายจริงๆ
“อยากตายรึเปล่า” น้ำเสียงเย็นเยียบจากริมฝีปากบางสวยทำให้ราวี่ขนลุกซู่
ยูจัง ฉันยังมีตำแหน่งบุ๊คแมนที่ต้องสืบทอดนะ TT TT
“มะ ..ไม่อยากจ๊ะ”
“ก็ดี” คันดะเหน็บมุเก็นไว้กับเอว เดินลุกออกไปโดยทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้กระต่ายงงเล่น
“กว่าสงครามนี้จะจบ ห้ามตายเด็ดขาด”
“นี่ยู ที่นายพูดวันนั้นอ่ะ แปลว่าอะไรเหรอ”
“วันไหน” คันดะละสมาธิจากการฝึกดาบ หันมาเผชิญหน้ากับตัวก่อกวนการฝึกของเขา
“วันก่อนที่ฉันจะถูกเรียกไปทำภารกิจไง” ราวี่ลูบแผลที่เพิ่งได้มาจากภาริกิจล่าสุด พูดทวนคำ ‘วันนั้น’ ของคันดะเบาๆ “จนกว่าจะจบสงคราม ห้ามตาย?”
“ถ้าไม่อยากมีแผลเพิ่ม ลืมมันไปซะ” คันดะตอบเรียบๆ ใบหน้าสวยสะบัดไปอีกทางจนผมม้าข้างหลังปัดตามแรงเหวี่ยง แต่ก็ไม่เร็วพอที่จะซ่อนรอยแดงๆบนแก้มได้ทัน
‘ยูเขิน!?’ ถ้าไม่ติดว่าเจ็บแผลแปล๊บๆละก็ ราวี่คงจะลองตบหน้าตัวเองซักฉาดเพื่อให้รู้ว่าไม่ได้ฝันไป ยิ่งเอาคำพูดที่น่าสงสัยแปลมาในแง่ดี ...
“นายเป็นห่วงฉันใช่มั๊ย?” คิดปุ๊บพูดปั๊บตามแบบฉบับของราวี่ นั่นทำให้คันดะหันควับกลับมาปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ปละ ..ปล่าวซะหน่อย”
“งั้นทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ ยูจังเขินใช่มั๊ยล่า” คราวนี้ทั้งพูดทั้งกระโดดเข้าหา ความเครียดที่หอบมากับสมองเหมือนถูกเป่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้
‘โป๊ก!’ และสมองอาจจะหายไปพร้อมกับฝักดาบหนักๆโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยเช่นกัน
“ลามปามแล้วนะไอ้กระต่ายหัวส้ม” คันดะยกดาบที่ฟาดหัวราวี่ออกพร้อมๆกับเท้าที่ฝากรอยไว้ตรงท้อง
“โอย ยูอย่าเบิ้ลสองดิ” ไม่ทันจบประโยคดี คันดะก็เดินลิ่วๆไปแล้ว ทิ้งคนแกล้งเจ็บให้นั่งหัวเราะคนเดียวอยู่เบื้องหลัง
หลายวันที่ผ่านมาค่อนข้างมีความสุขทีเดียวสำหรับราวี่ ..คันดะไม่ค่อยจะผลักไสเขาอย่างที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีความคืบหน้ามากกว่าเดิม แต่แค่ไม่โดนไล่เขาก็มีความสุขมากแล้ว
ราวี่ผิวปากอย่างอารมณ์ดีขณะไปรับภารกิจจากโคมุอิ แม้แต่ริเวอร์ก็ยังจับสังเกตได้ว่าเอ็กโซซิสต์อารมณ์ดีคนนี้ดูจะมีความสุขเป็นพิเศษ
“มีเรื่องดีๆน่ะ” คำตอบพร้อมรอยยิ้มสดใสที่ตอบใครๆพลอยให้คนถามรู้สึกอยากยิ้มไปด้วย ก็ในช่วงสงครามแบบนี้ หาคนยิ้มอย่างมีความสุขจริงๆได้ซะที่ไหน
ราวี่คิดเอาไว้แล้วว่าหากจบภารกิจครั้งนี้ลงได้ สิ่งที่เขาจะทำเป็นสิ่งแรกคือสารภาพรักกับคันดะ
ถ้ามันเป็นไปได้ดีก็ดีสิ ...
คิดไปพลางก็เขินไปพลาง ..ภาพเอ็กโซซิสต์ตัวโย่งยืนบิดๆม้วนๆอยู่หน้าแผนกวิทยาศาสตร์จึงเป็นที่ขบขันของชาวศาสนจักรที่เดินผ่านไปมา โดยที่เจ้าตัวไม่คิดจะรู้ตัวเลย ...
ภารกิจที่ได้รับกินเวลาไปหลายวัน แต่ในที่สุดราวี่ก็ทำสำเร็จด้วยดี กระต่ายส้มตัวแสบของห้องพยาบาลแอบย่องออกมาทำภารกิจถัดไปที่คิดจะทำตั้งแต่ก่อนออกนอกศาสนจักร ...
“คุณราวี่!!” เสียงของหัวหน้าพยาบาลดังขึ้นข้างหลัง
“ขอโทษคร้าบ!!” โดยไม่หันไปมอง ราวี่ใส่เกียร์กระต่าย โกยแน่บทันที
.
‘แกร๊ก’
“เชิญ” ประตูห้องสีดำสนิทถูกเปิดออกพร้อมคำเชิญไม่เต็มใจซักเท่าไหร่จากเจ้าของห้อง แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับกระต่ายอารมณ์ดีที่สู้อุส่าเคาะประตูเป็นชั่วโมง
“มีอะไร” คันดะพูดขึ้นเมื่อเห็นราวี่มองสำรวจห้องของเขาแบบไม่มีปิดบัง เครื่องใช้ในห้องมีเพียงสองสามชิ้น แต่ราวี่ก็ยังมองแล้วมองอีก ด้วยว่าไม่เคยเข้ามาในห้องนี้และไม่เคยคิดด้วยว่าจะมีวันได้เข้ามา จึงตื่นเต้นเสียจนเกือบลืมจุดประสงค์ที่มา
“มีสิ ว่าแต่ห้องนายนี่เรียบร้อยดีจัง” ถ้าไม่รวมกระจกร้าวบานใหญ่ล่ะก็นะ
“ถ้าธุระนายมีแค่นั้น ออกไปซะ” คันดะพูดเสียงเย็น ราวี่ที่กำลังประหม่ากับสิ่งที่ตัวเองจะทำจึงไม่ได้สังเกตแววตาเจือความเศร้าของอีกฝ่ายเลย
“โธ่ ยูอย่าใจร้ายสิ ขอฉันเตรียมใจก่อน” ชายหนุ่มสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เหมือนเรียกความมั่นใจกลับมาก่อนจะเอ่ย
“ชั้นรักนาย”
แววตาของคนที่ถูกบอกรักไปหมาดๆอ่อนลงเล็กน้อย ก่อนเจ้าตัวจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ได้เย็นชาหรือเฉยเมยเหมือนเมื่อครู่
“ฉันรู้” ราวี่นั่งลุ้นจนหัวใจแทบวาย ในที่สุดก็ยิ้มออกมา แต่ถ้าสังเกตดีๆ เขาจะพบกระแสความเศร้าที่ปนอยู่ในน้ำเสียงของคันดะ
“งั้นเราลองคบกัน ...”
“ไม่ได้” คันดะปฏิเสธโดยไม่รอให้พูดจบ หัวใจของราวี่เหือดแห้งลงทีละน้อย
“ทำไมล่ะ” ไม่ต้องมองก็รู้แล้วว่าหนุ่มบุ๊คแมนจะทำหน้าเช่นไร คันดะไม่ยอมตอบ แต่ส่งคำถามกลับมาแทน
“ถ้าฉันตาย นายจะเป็นยังไง”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ” ราวี่ท้วง “นายจะตายไม่ได้นะ”
“ตอบมา” คันดะย้ำคำหนัก ราวี่กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก จินตนาการตัวเองในเงื่อนไขที่คันดะตั้งขึ้น
ถ้ายูไม่อยู่ ...
“ฉันคง ... ใกล้ตายเต็มที” เพียงแค่คิดว่าจะมีวันนั้น วันที่ไม่มียู หัวใจก็ปวดหนึบๆ บีบรัดจนหายใจไม่ออก
“งั้นหรือ” คันดะกัดริมฝีปากแน่น “งั้นเราก็คงรักกันไม่ได้ ถ้าใครซักคนตายไป มันคงเจ็บปวด”
“แล้วจะทำไมล่ะ ถ้านายไม่อยู่ ฉันก็ไม่คิดจะอยู่หรอกนะ”
“ราวี่!” คันดะตวาด “นายมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทิ้งจะทิ้งมันไปรึไง นายเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“..ยู” ราวี่เรียกเสียงอ่อน “ฉันรักนายนะ”
“ออกไปเถอะ”คันดะออกปากไล่
“ ...ยู”
“ขอร้อง ราวี่ ...ออกไป”
“...ฉันจะมาหาใหม่นะ” ราวี่ถอยออกจากห้องและปิดประตูลงเบาๆ
เหลือเพียงความเงียบเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน
..ผู้เฒ่าบุ๊คแมนพูดถูก เอ็กโซซิสต์อย่างเขาไม่อาจละเลยหน้าที่ได้เพียงเพราะมีความรัก
‘คันดะ เจ้าควรจะรู้ไว้ว่าราวี่มีหน้าที่ เขามีภาระที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะมาอยู่ที่ใครซักคนเพียงผู้เดียว แม้แต่เจ้า’
...คันดะสะอื้นเงียบๆ คนเดียว ดวงตาสีดำขลับรื้นไปด้วยน้ำตา เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นราวกับจะหยุดมันไว้แค่นั้น
... รักไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าไม่ได้รัก ...
อีกด้านหนึ่งของประตู ชายหนุ่มร่างสูงพิงบานประตูอย่างหมดเรี่ยวแรง สับสนกับการกระทำของคนในห้อง
หรือเพราะชั้นยังไม่ใช่สำหรับนาย ... เพราะอย่างนั้นหรือ ยู
ราวี่เหยียดยิ้มออกมา ...รอยยิ้มเย้ยหยันความโง่ของหัวใจตัวเอง
... ถึงอย่างนั้นก็คงจะรักต่อไปสินะ ...
ชายหนุ่มปาดน้ำตาที่ไหลลงมาข้างแก้ม ... ปรับยิ้มใหม่ สำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆที่เหมือนเดิม
พรุ่งนี้ เขาจะคุยกับคันดะเหมือนเดิม ด้วยความรู้สึกเดิม ... จนกว่าจะถึงวันที่ต้องจากกันจริงๆ..
... ฉันคงจะเลิกรักนายไม่ได้ ...
--- Endless Unloveable ---
ความคิดเห็น