คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : First Christmas III
‘ปึง!’ เสียงถ้วยข้าวกระแทกโต๊ะอย่างจงใจ อเลนก้มหน้าเหล่มองน้อยๆ หวาดกลัวกับท่าทีของคนตรงหน้าเสียจนทำอะไรไม่ถูก
“กระดูกร้าว!” เสียงห้าวตะคอกใส่ “นายยังมีหน้ามาบอกฉันว่าไม่เป็นอะไรอีกงั้นเรอะ!”
เด็กชายยิ้มแหย เงยหน้าขึ้นพยายามดิ้นรน
“ผม . . . มะ”
“หุบปากไปเลยเจ้าถั่วงอก!” ดูเหมือนการพยายามแก้ตัวจะทำให้คันดะยิ่งฉุน เขาเดินไปมาเหมือนคนใกล้บ้า อเลนก้มหน้างุดเงียบกริบในทันที
พักใหญ่ ดูเหมือนคันดะจะเพิ่งคิดได้ว่ายังไม่ได้ตั้งกับข้าว เขาเดินเข้าไปในส่วนเล็กๆ ที่เป็นครัวภายในห้องพัก ถือกับข้าวสองสามอย่างออกมาตั้งไว้ แล้วเดินเข้าห้องไป
อเลนมองตามไปหงอยๆ . . . ถ้าคันดะไม่กินแล้วเขาจะกินลงได้ยังไงล่ะ . . . เด็กชายถอนหายใจเฮือก เดินกระเผลกๆ ลากขาข้างที่เจ็บไปเก็บของจนเรียบร้อย แล้วเข้าห้องนอนเช่นกัน
ห้องนอนขนาดเจ็ดเสื่อ ออกจะแคบหน่อยสำหรับสองคน เตียงสองชั้นตั้งชิดริมผนัง ไฟปิดมืดอเลนจึงมองเห็นเพียงแค่เงาดำๆ นอนนิ่งอยู่ชั้นบน
“คันดะครับ . . .”
ไร้เสียงตอบรับจากร่างนั้น อเลนเรียกซ้ำอยู่หลายหน สุดท้ายก็ต้องถอดใจเพราะคันดะอาจจะหลับไปแล้วจริงๆ ก็ได้ เด็กชายล้มตัวลงนอนในที่ของตัวเอง
“ผมขอโทษนะครับ . . .” ถ้าหูเขาไม่ฝาด อเลนคิดว่า เขาได้ยินเสียงถอนใจเบาๆ จากด้านบน หากความเพลียและความเจ็บร้าวในบริเวณขาทำให้เด็กชายจมดิ่งลงสู่ห้วงนิทราภายในเวลาอันรวดเร็ว
.
.
25/12 8 years ago
“พี่ยูฮะ” ใบหน้าเยาว์วัยเหลียวมอง . . . ภายในงานเทศกาลที่กินบริเวณกว้าง เด็กชายพยายามมองหาผู้ที่พาเขามา
ปึ๊ก!
“อุ๊บ! ขอโทษครับ” อเลนกุมใบหน้าที่ไปชนโดนแผ่นหลังของใครบางคนเอาไว้ พลางเอ่ยคำขอโทษ
“หืม . . . เฮ้ย มาดูเด็กนี่เร็ว!” เสียงตะโกนเรียกพวกพ้องดังขึ้น อเลนเงยหน้ามองชายร่างสูงอย่างงุนงง
“ใช้ได้ป่าววะ เด็กผู้หญิงนี่น่ารักใช้ได้เลยนะเว่ย” ชายคนนั้นเอ่ยต่อไป พรรคพวกของมันสองสามคนเดินเข้ามา พึมพำเห็นด้วยกับความคิดของชายคนแรก
“ไม่ใช่นะ เด็กนี่ไม่ใช่ผู้หญิงซักหน่อย” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น “เด็กผู้ชายต่างหาก”
อเลนเห็นท่าไม่ดี จึงถอยหลังเตรียมออกวิ่ง หากโดนมือใหญ่คว้าหมับไว้พอดี
“เอาน่า . . . หน้าหวานขนาดนี้คงขายได้เงินดีไม่ใช่น้อยล่ะ” สายตาน่ารังเกียจมองพิจารณาประเมินค่าเด็กน้อย อเลนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุม . . . แต่มีหรือ ที่แรงของเด็กเจ็ดขวบจะสู้แรงของผู้ใหญ่ใจทรามอย่างนั้นได้
“ชุดยูกาตะนี่ก็น่าจะแพงน่าดู เหมือนกับลูกคนรวยหลงทางเลยนะ . . . ว่าไงล่ะ คุณหนู” เสียงกระซิบถามเด็กชาย อเลนเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ หากมือกร้านยึดคางของเขาไว้
“อย่ามาทำท่าทางแบบนี้ต่อหน้าฉันนะ!” มือนั้นออกแรงบีบ อเลนฝืนใบหน้าให้หลุดจากมือนั้น กัดริมฝีปากจนเลือดซิบ
“อย่ารุนแรงซี่ เดี๋ยวช้ำซะจะขายไม่ได้ราคาเอานา” พรรคพวกของมันส่งเสียงหยอกล้อ มันจึงปล่อยมือออกจากใบหน้าขาว พวกมันสองสามคนพยายามหิ้วเด็กชายที่ดิ้นเต็มที่ไป อเลนกรีดร้องสุดเสียง หลายคนได้ยินแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้ายุ่งกับพวกนี้
“ปล่อยมือของแกออกจากตัวเขาซะ เจ้าพวกสวะ” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น เด็กชายวัยเก้าขวบยืนอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มคนนักในมือถือดาบสีนิล อเลนซึ่งตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ร้อง แต่น้ำตากลับรื้นลงมาทันทีที่เห็นคนๆ นั้น
“คันดะ! ช่วยผมด้ว . . อุ๊บ!” มือกร้านบีบปากเขาไว้แน่น อเลนได้แต่ส่งเสียงร้องอู้อี้
คันดะวิ่งเข้ามาใกล้ เจ้าคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าออกมาดักเขาไว้ เด็กชายจ้องเขม็งราวกับเคียดแค้นเสียเต็มประดา ชายร่างสูงหัวเราะน้อยๆ
“แกคิดว่าจะสู้กับพวกฉันได้งั้นรึ เจ้าเด็กโง่”
คันดะกัดฟันกรอด ชักดาบออกจากฝัก
“ได้ไม่ได้รู้กันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ” แล้วเขาก็ตรงเข้าฟาดดาบใส่ทันที มันกระโดดหลบทันหวุดหวิด ตะโกนเรียกพวกให้กรูเข้ามา ร่างเพรียวกระโดดหลุดจากการจับกุมของพวกมันได้ ชายร่างใหญ่สองดึงมีดพกออกมาจากกระเป๋าพุ่งตรงเข้าทำร้ายเขา คันดะฟาดสันดาบลงบนหลังของคนหนึ่งและฟาดเท้าเตะขึ้นเสยคางของอีกคนจนร่วงกองลงไปทั้งคู่ ชายร่างใหญ่จู่โจมเข้ามาจากทางด้านหลัง เด็กชายไหวตัวหลบทัน ก่อนที่จะทำอะไรได้ทัน ชายคนนั้นวกกลับตรงมาทำร้ายเขาอีกครั้ง คันดะจำเป็นต้องพุ่งดาบออกไปอย่างไม่มีทางเลือก
‘ฉัวะ!’ เลือดสีแดงข้นไหลทะลักทันทีที่ดาบเสียบทะลุท้อง คันดะยืนตกตะลึง สัมผัสที่มือเขาคือเลือดอุ่นๆ และความรู้สึกของดาบที่เสียดสีผ่านเนื้อหนัง
“กรี๊ด!” เสียงผู้คนกรีดร้องวิ่งวุ่น คันดะตั้งสติได้รีบดึงดาบออก เผชิญหน้ากับตัวหัวหน้าขี้ขลาด
“แกฆ่าคนแกต้องได้รับโทษ!” มันกรีดเสียงใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง มือหนึ่งอุ้มเด็กชายผมขาวซึ่งหมดสติไปแล้วไว้ อีกข้างถือมีดจ่อคอเด็กคนนั้น คันดะยิ้มเย็น . . . จากเด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดู กลายเป็นปีศาจไปภายในพริบตา
“ถ้าแกทำอะไรเด็กคนนั้น” เขาเริ่ม “อย่าหวังว่าแกจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป”
มันเริ่มมีอาการขาสั่น ถึงแม้จะยังถือมีดอยู่แต่ก็ดูคลอนแคลนเต็มที ไอยะเยือกแผ่พุ่งออกมาจากตัวเด็กชาย . . . เย็นเยียบจนหน้าหวาดผวา
คันดะพุ่งตัวเข้าไปปัดมืดออกจากมือมันด้วยความรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน ชายผู้นั้นนั่งกองลงกับพื้น ในขณะที่เด็กหนุ่มคว้าตัวอเลนไว้ได้ทัน
“ยกโทษให้ฉันด้วย” ทั้งมือทั้งขาสั่นจนน่าเวทนา สายตาเย็นเยียบราวปีศาจสบกับดวงตาขี้ขลาดวูบหนึ่ง
“อะ อือ” เสียงใสๆ ครางเบาๆ ในอ้อมแขนของคันดะ เขาละสายตาจากจอมขี้ขลาด หันมาดูเด็กน้อย
“เป็นอะไรรึปล่าว” คำถามอ่อนโยน ไม่เหลือเค้าความน่ากลัวอย่างเมื่อครู่แม้แต่น้อย อเลนพยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบ คันดะเหลียวมองรอบกาย ดูเหมือนการวิวาทครั้งนี้จะทำให้ที่นี่วุ่นวายไม่น้อย . . . อีกเดี๋ยว ตำรวจคงมา คันดะคิดแล้วก็ใจหาย แต่ก็คุมสติเอ่ยกับเด็กน้อยด้วยเสียงอันเบา
“เราต้องหนีแล้วล่ะ”
.
.
คำว่าหนีของคันดะไม่ค่อยเป็นผลซักเท่าไหร่นัก อเลนเกาะเขาแน่นไม่ยอมปล่อย แถมยิ่งร้องไห้ฟูมฟายมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นรอยเลือดเปรอะทั้งหน้า ทั้งเสื้อของเขา
“ฮึก พะ... พี่ยูเจ็บมั๊ย” เด็กน้อยสะอึกสะอื้น จับชายเสื้อของผู้สูงอายุกว่าถามเบาๆ คำถามที่ทำให้คนฟังรู้สึกโล่งใจ
อย่างน้อยอเลนก็ไม่ได้กลัวเขา ที่ไปทำร้ายคนอื่น
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า นี่ไม่ใช่เลือดฉัน”
“ไม่เอาอ่ะ ..ฮึก ..พี่ชายเลือดเต็มไปหมดเลย ฮือ” ทั้ปลอบทั้งขู่ยังไม่อาจทำให้อเลนหยุดร้องหรือปล่อยมือจากเสื้อของเขา คันดะจึงต้องรอเฉยๆจนกระทั่งตำรวจและพลเมืองดีอีกหลายคนเข้ามาช่วย อเลนจึงสงบลงและพากลับบ้านได้
ภายในห้องพักเล็กๆที่ถูกเรียกว่าบ้าน เด็กชายผมยาวถูกตำรวจสองสามคนซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนแทบไม่เหลืออะไรให้ตอบ ส่วนเด็กชายอีกคนเข้าไปหมกตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวน้อยจะกลัวจัดเสียจนคันดะต้องไล่ให้เข้าไปอยู่ในนั้น
อาจารย์ใจดีอย่างทีเอดอลช่วยได้มากสำหรับเรื่องของการไกล่เกลี่ย และจัดการเรื่องยุ่งยากที่ผู้ใหญ่ต้องทำให้ หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น คันดะก็สามารถดูแลอเลนได้อย่างเปิดเผย เพราะทีเอดอลแจ้งเรื่องนี้ให้กับบุคคลที่มีศักดิ์เป็นผู้ปกครองของคันดะไปเรียบร้อย หนำซ้ำยังอบรมเขาเสียยกใหญ่
“ยูคุง เธอก็รู้ไม่ใช่หรือว่าอเลนคุงน่ะไม่ใช่ลูกหมาที่เธอจะเลี้ยงไว้ในบ้านแล้วก็ให้อาหารก็พอน่ะ”
คันดะนิ่ง รู้อยู่แก่ใจว่าตนนั้นผิดที่พาอเลนมาอยู่ด้วยโดยไม่บอกใคร แต่ถึงจะเลือกใหม่ได้ เขาก็จะเลือกพาอเลนมาที่นี่ ...
“ผมทราบครับ”
ใบหน้าของทีเอดอลหม่นลง ก่อนเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“เราคงให้เธอดูแลเด็กคนนั้นแบบนี้ต่อไปไม่ได้”
คันดะสะดุ้งเฮือก ตกใจไปกับคำพูดของอาจารย์ นึกเรื่องราวไปต่างๆนาๆ
...เขาจะเลี้ยงอเลนต่อไม่ได้งั้นหรือ จริงสิ.. ตำรวจพวกนั้นอาจจะพาอเลนไป แล้วเจ้าตัวยุ่งของเขาจะไปยู่ที่ไหน ถ้าไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆใครจะช่วยปลอบอเลนเวลาร้องไห้ล่ะ เจ้าหนูผมขาวแถมมีมือประหลาดแบบนั้นอาจจะโดนคนอื่นล้อหรือแกล้งเอาก็ได้ ที่สำคัญที่สุด ...
ไม่มีอเลนแล้วเขาจะอยู่ยังไง
คันดะเคยอยู่ตัวคนเดียวมาก่อน อาจจะนานกว่าช่วงที่มีอเลนอยู่ด้วยซ้ำ
แต่เขาไม่อาจจินตนาการถึงช่วงเวลาต่อจากนี้ที่จะอยู่โดยปราศจากลูกแมวตัวน้อยของเขาได้เลย...
“ ยูคุง ..ยูคุง?” เสียงเรียกนุ่มๆจากผู้เป็นอาจารย์เรียกให้เด็กหนุ่มตื่นจากภวังค์ ดวงตาสีดำสนิทกร้าวขึ้นเมื่อเอ่ยขาน
“ครับ?” ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ก็จะไม่ยอมให้ใครพรากดวงตาสีเงินสดใสนั่นไปจากเขา
“เธอไม่ได้ฟังครูเลยนี่” ผ่อนลมหายใจราวตัดพ้อ “ครูบอกว่าอเลนจะต้องไปโรงเรียน เขาต้องรู้จักเข้าสังคมด้วย” ฟังจบเด็กชายผมดำก็เบิกตากว้าง
“อาจารย์หมายความว่า?”
“หมายความว่าถึงเวลาที่เธอต้องเจียดเงินค่าขนมให้เจ้าหนูคนนั้นไปโรงเรียนแล้วน่ะสิ” ทีเอดอลยิ้มนุ่มนวล “ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ต้องห่วง ครูจะจัดการให้”
รอยยิ้มแห่งความดีใจปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกของวัน ... ถึงแม้จะติดใจที่โดนอาจารย์แกล้งก็เถอะ
.
ด้วยเหตุนี้ เปิดเทอมครั้งถัดมา บรรดาเพื่อนบ้านจึงได้เห็นอเลนใส่ชุดนักเรียนประถมวิ่งออกจากห้องพักแต่เช้าตรู่ โดยมีพี่ชายต่างสายเลือดที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเดินตามหลัง ...
= [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] = = [] =
“อื้อ . . .” น้ำเสียงครางผะแผ่วดังขึ้นทันทีที่สัมผัสเย็นๆแตะลงบนใบหน้า นัยน์ตาสีหมอกปรือขึ้นเล็กน้อย . . . ตรงหน้าของอเลนคือภาพของชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่เขาหลงรักมาเกือบทั้งชีวิต แต่ด้วยสายตาที่พร่างพร่าและสติที่มึนเบลอ ทำให้ในสายตาของเด็กชายมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น . . . คันดะบรรจงวางผ้าหมาดน้ำไว้บนหน้าผากมน หยิบปรอทวัดไข้จากเด็กชายขึ้นมาตรวจดู ก่อนถอนหายใจเบาๆ
“พี่ . . ยู. . . ฮะ” อเลนพยายามที่จะพูด แต่ดูเหมือนเสียงของเขาจะใช้การไม่ได้ จึงทำได้แค่ส่งเสียงเครือ ๆ ไป นั่นเพียงพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มอีกคนในห้องหันกลับมา . . .
“นอนพักซะ . . . นายไม่สบาย เจ้าถั่วงอก” แล้วคันดะก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นหยาดน้ำตาอุ่นๆ หยดลงมาจากนัยน์ตาคู่สวย
“ผม . . . พี่ยู . . .” คนป่วยงึมงำราวจะพูดอะไร
‘ผมรักพี่ชายนะครับ..’
....แต่คนฟังกลับตีความไปอีกอย่าง
“ละเมอ?” ร่างสูงประคองไหล่บอบบางไว้แนบตัว ไออุ่นจากอ้อมแขนทำให้อเลนผล็อยหลับไปอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม ตรงข้ามกับผู้มีศักดิ์เป็นพี่ที่ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ . . .
ความคิดเห็น