ฉานซิง หัตถ์สยบศาสตรา - นิยาย ฉานซิง หัตถ์สยบศาสตรา : Dek-D.com - Writer
×

    ฉานซิง หัตถ์สยบศาสตรา

    เมื่อสงครามได้ยุติลง พร้อมกับการสาบสูญของคัมภีร์อิมเมจอันศักดิ์สิทธิ์ คนรุ่นก่อนได้ตายไปกับสงครามครั้งที่แล้ว สงครามรอบใหม่ที่กำลังจะปะทุแล้วใครล่ะจะเป็นผู้คิดค้นและฝึกฝนวิชาเหล่านี้

    ผู้เข้าชมรวม

    113

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    113

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 มี.ค. 61 / 18:01 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

           ในสมัยก่อนคริสตศักราช มีราชวงศ์ 3 ราชวงศ์ที่ปกครองร่วมกันอย่างมีความสุขแผ่นดินร่วมกันอย่างสงบร่มเย็น ได้แก่ ราชวงศ์ซิง ราชวงศ์หม่า ราชวงศ์โฮ่ง ต่อมามีเรื่องผิดใจกันทั้งสามฝ่าย ทำให้แผ่นดินแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน และได้นัดเวลาทำสงครามกันอีกสิบปีข้างหน้า ทั้งสามได้ฝึกทหารเพื่อเตรียมการสู้รบ โดยการฝึกวิชาที่แตกต่างกันออกไป



                                                     *———————บทนำ————————————————-*


             “ท่านพ่อ จะท่านให้ข้าฝึกอะไรเนี่ย หนักเป็นบ้าเลย”

             ขณะนี้เด็กชายอายุ 14 กำลังแบกหินที่ใหญ่กว่าตัวเอง ยกขึ้นและวางลงอยู่อย่างนั้น โดยมีพระบิดาของตนเป็นผู้ยืนคุม เด็กชายฝึกได้ 3 วันแล้ว แต่ยังไม่ชิน 

             อื้ดดด แขนเล็กๆที่สั่นเทากำลังพยายามยกหินขึ้นใส่บ่าอย่างยากลำบาก

             “ทะ ท่านพ่อ ขะ ข้าจะไม่ไหวอยู่แล้ว”

             เด็กชายพูดอย่างลำบากและยกหินใส่บ่าให้สำเร็จ

             “เกิดเป็นลูกผู้ชาย ต้องกดทน ไม่งั้นจะปกป้องสิ่งที่รักได้ยังไง”

              นี่เป็นคำตอบที่ได้ยินเสมอจากปากผู้เป็นบิดา เมื่อเขาบอกว่าทนไม่ไหว เสียงที่หนักแน่นก้องกังวาลของผู้ที่พูด ทำให้องอาจสมชายชาตรี ผู้อยู่ในชุดนักรบสีทอง

             ส่วนเขาน่ะหรอ อยู่ในชุดขาดลุ่ย ที่เต็มไปด้วยฝุ่นจับ แต่เขาก็มีท่านแม่คอยให้ท้ายเสมอ

             “ท่านพี่ ลูกเราคงไม่ไหวแล้วเพคะ”

             ผู้ที่อยู่ในชุดราชินีอย่างสง่างาม แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความห่วงใย เธอมักจะมาดูลูกชายฝึกเสมอ เพื่อให้กำลังใจ แม้จะถูกสวามีติเตียนบ่อยครั้ง แต่ดัวยความเป็นห่วงเธอจึงดื้อรั้น

            “เจ้าชอบเข้าข้างมัน แล้วมันจะเก่งได้ยังไง”

            โดนตำหนิจนได้-_- 

            “ก็หม่อมฉันสงสารลูกนี่เพคะ ท่านฝึกลูกหนักเกินไป”

            เธอพูดด้วยความรู้สึกผิด

            “แค่นี้นะ ฝึกหนัก นี่ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าแค่นี้ผ่านไปไม่ได้ ต่อไปก็ปกป้องเมืองที่รักไม่ได้”

             ชายวัยกลางคนพูดด้วยเสียงหนักแน่นเช่นเคย ถึงแม้จะ 35 แล้ว หน้าตากลับดูเหมือนอายุ 20 เพราะรูปร่างที่ใหญ่ตัวและกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ จึงทำให้ดูหนุ่มตลอดเวลา

            “ไม่เป็นไรฮะ ท่านแม่ ข้าฝึกต่อได้”

            เด็กชายฝืนบอกเพื่อไม่ให้มารดาของตนเป็นห่วง

            “ดี ลูกผู้ชายต้องแบบนี้”

            ‘ไม่ใช่พ่อไม่รักลูก แต่พ่อต้องการให้ลูกเป็นยอดแห่งลมปราณ’

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น