คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue
Prologue
“เชิญ นาย นารายณ์ ที่ห้องตรวจ 2 ค่ะ” เสียงพยาบาลเรียกชื่อผมที่กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นหลังจากที่รอมานานกว่า 3 ชม. ใช่ครับ วันนี้ผมมาพบแพทย์เพราะเมื่อสองวันที่แล้วอยู่ๆผมก็ปวดหัวอย่างหนัก ลำบากให้ “เนย” คนรักของผมต้องพามาส่งโรงพยาบาล ซึ่งวันนี้เป็นวันที่แพทย์นัดมารับฟังผลตรวจครับ
หลังจากที่ผมเลื่อนประตูห้องตรวจที่ 2 ปิด แพทย์วัยกลางคนที่นั่งรออยู่แล้วจึงกวักมือเรียกผมให้ไปนั่งยังเก้าอี้ที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้
“คุณ นารายณ์ ใช่ไหมครับ”
“ครับผม มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามหลังจากเห็นสีหน้าลำบากใจของแพทย์วัยกลางคน
“มีแน่นอนครับ แต่ผมต้องมั่นใจก่อนว่าคุณรับฟังได้จริง” แพทย์วัยกลางคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล เล่นเอาผมรู้สึกใจคอไม่ดีเลย แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของตัวเองก็ต้องมีแต่ยอมรับความจริง
“แน่นอนครับ ผมรับฟังได้” ผมยืนยันกับแพทย์วัยกลางคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“งั้นฟังดีดีนะครับคุณอย่าเพิ่งตกใจ...” แพทย์วัยกลางคนหยุดพูดไปดื้อๆเล่นเอาผมแอบหงุดหงิดเล็กน้อย แสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่พอดูไม่งั้นแพทย์คงไม่มีทีท่ายึกยักอย่างนี้
“ครับผม...”
“คุณเป็นเนื้องอกในสมอง ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน แต่มีโอกาสรอดเพียงแค่ 50 เปอร์เซ็น...” สิ้นคำพูดของแพทย์วัยกลางคน ผมรู้สึกเหมือนโลกหยุดนิ่งไปเสียดื้อๆ ตอนนี้สมองขาวโพลนไปหมด ตัวผมเองนั้นไม่ห่วงหรอก แต่ห่วงคนข้างหลังมากกว่า ไหนจะน้องสาว คุณพ่อ คุณแม่ และที่สำคัญ เนย คนรักของผมเค้าจะยอมรับได้หรือไม่ หากผมไม่มีโอกาสรอดจริง สภาพจิตใจของคนทั้งหมดจะเป็นเช่นไร ผมไม่อาจจะรู้ได้เลย ถามว่ากลัวตายไหมตอบได้เลยว่ากลัว แต่ในเมื่อมีเกิดย่อมมีตายเป็นสัจธรรมของโลกที่ถูกคุณพ่อกรอกหูแทบทุกครั้งที่เจอหน้า ทำให้ผมไม่เสียใจมากนัก
“จริงหรือครับ มีโอกาสรอดแค่นั้นจริงๆหรือ...” ผมถามด้วยน้ำเสียงเบาโหวงบ่งบอกสภาพจิตใจตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องตอบว่าจริง...” คำตอบที่ผมไม่อยากได้ยินหลุดออกมาจากปากซีดนั่นจนได้ ตอนนี้ผมอึ้งจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว แต่ประโยคถัดมาทำให้ผมใจชื้นได้เล็กน้อยเท่านั้นก็ต้องสลดลงอีกเพราะประโยคสุดหลังๆที่นายแพทย์วัยกลางคนบอก
“เพราะเคสคุณเป็นเคสที่หนักเอาการ แต่จะมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นอีก 15 เปอร์เซ็นถ้าได้คุณหมอ เบรฟ ดี เชสแมน ผ่าตัดให้แต่ตอนนี้ท่านไปทำธุระที่ต่างประเทศ กว่าจะกลับก็คงอีกประมาณ 6 เดือนครับ ไม่ทราบว่าคุณจะรอคุณหมอ หรือนัดผ่าตัดเลยครับ”
“รอคุณหมอเบรฟได้ไหมครับ” ผมตอบออกไป อย่างน้อยก็ขอยืดวันผ่าตัดออกไปอีกหน่อย เพราะมันกะทันหันเกินผมยังไม่ได้ร่ำลาครอบครัวผม ทดแทนคุณพ่อแม่ก็ยังไม่ได้ทำ ไหนจะคนรักของผมอีกละ
“ได้อยู่ครับ แต่คุณอาจต้องทรมานกับอาการปวดหัวมากพอตัว คุณแน่ใจนะครับ” แพทย์วัยกลางคนถามด้วยความเป็นห่วง ถึงยังไงเขาก็เป็นแพทย์เจ้าของเคส ถึงแม้เขาจะพยายามหาวิธีรักษาทุกอย่างแล้วแต่ไม่ใคร่จะลองนัก วิธีผ่าตัดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแม้ความเป็นตายของคนไข้จะมีค่าเท่ากัน แต่มันก็คุ้มที่จะเสี่ยงเพราะหากปล่อยไว้คนไข้ก็จะเสียชีวิตอยู่ดี
“ไม่เป็น’ไรครับ หากผมทนไม่ไหวจริงๆจะมาพบคุณหมอนะครับ ผมขอตัวก่อน” แพทย์วัยกลางคนพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับยื่นนามบัตรให้ นารายณ์รับมันมาก่อนที่จะลุกจากเก้าอี้ ยังลุกไม่สุดนารายณ์ก็หยุดชะงัก
“คุณหมอครับ รบกวนช่วยอย่าบอกเรื่องนี้กับทางครอบครัวได้ไหมครับ เมื่อผมพร้อมผมจะบอกเอง” นารายณ์ว่าดักไว้เพราะ เนย คนรักของเขาต้องมาสอบถามแน่นอน รายนั้นเป็นห่วงเขายังกับอะไร ด้วยจรรยาบรรณแพทย์คุณหมอต้องบอกอาการเขาแก่เนยแน่นอน
และนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดที่สุด เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะเนยเป็นลูกคุณหนูทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง แต่ด้วยนิสัยที่จริงใจ ทะเล้นๆ ออกจะบ้าๆบอๆ เล็กน้อย และขี้เป็นห่วงคน ทำให้มีเพื่อนมากมาย และที่สำคัญยังเซ็นซิทีฟมากอีกต่างหาก ถ้าได้ยินอาการของเขาไม่มีอะไรสามารถการันตีได้เลยว่าเนยจะทำใจได้ เพราะงั้นปิดเงียบไว้ดีสุดค่อยบอกเมื่อพร้อม
“ขอบคุณสำหรับคำปรึกษาครับ ไว้พบกันใหม่” นารายณ์เดินก้าวออกจากห้องตรวจ ในใจหวาดวิตกเป็นอย่างมากด้วยห่วงถึงคนข้างหลัง แต่ในเมื่อโชคชะตาเล่นตลกกับเขา เขาก็จะยอมรับมัน และหลังจากนี้เขาจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้คนที่เขารักมีความสุขที่สุกตราบจนเขาสิ้นใจ
**************************************************************************
มาเจิมเเค่นี้ก่อนอิอิพอดี
ไรท์ง่วงเจอกันพรุ่งนี้นะครัช
หลังเรียนเสร็จจะรีบมาลงเลย
มีคำผิดบอกนะ
HiDdEn_BlAdE
ความคิดเห็น