ตอนที่ 1 : บทนำ เพลงดาบในราวไพร(ปรับปรุง)
บุรุษหนุ่มในชุดรัดกุมสีน้ำเงินเข้มควบม้าดำวิ่งผ่านป่าทึบ เบื้องหลัง มีพลม้ายี่สิบนายใส่เสื้อแดง หมวกหนังปีกกว้าง ไล่ตามติด หนึ่งในกลุ่มผู้ล่าพุ่งหอกซัดใส่ ทว่าอีกฝ่ายกลับเบี่ยงกายพ้นคมหอก ราวมีตาหลัง
ที่สุด การไล่ล่าก็มาหยุดที่ลานโล่งติดหน้าผา เมื่อเห็นว่าจนมุม เขาจึงชักม้าหันมาประจันหน้าศัตรู ที่ยามนี้ได้แปรขบวนเป็นรูปครึ่งวงกลมล้อมไว้
“จนตรอกแล้วสิ” หัวหน้าฝ่ายล่ายิ้มแสยะ “เร่งส่งของมา หาไม่ กูจักสับเสียมิให้แค้นคอกา”
“หากใคร่ได้ ก็เอาหัวสูมาแลกไป” ชายหนุ่มตอบเสียงกร้าวพร้อมกระชากดาบจากฝัก เนื้อดาบดำวาวประดุจนิล
“ปากดีนะมึง” อีกฝ่ายคำรามก่อนสั่งคนของตน “เฮ้ย! พวกมึงทั้งหลาย เร่งไปกุดหัวไอ้เดนตายปากกล้า แล้วชิงของมา บัดเดี๋ยวนี้”
สิ้นคำสั่ง ชายขี่ม้าทั้งสิบเก้าก็พุ่งเข้าใส่ ขณะบุรุษผู้ถือดาบดำควบม้าทะยานเข้ามา ฟาดฟันรวดเร็ว เพียงพริบตา ศัตรูสามคนก็ร่วงจากหลังม้า พวกที่เหลือเข้ารุมล้อม ทว่าชายหนุ่มบังคับม้าหลบหลีกว่องไว พร้อมตวัดดาบคมกริบ เนื้อโลหะสะท้อนแสงอาทิตย์วาววับ หยาดเลือดสาดกระจาย ยามดาบคมเฉือนผ่านเนื้อหนัง
“เชิงดาบพญารุ้ง!” หัวหน้าฝ่ายล่าอุทาน เมื่อเห็นเพลงอาวุธของอีกฝ่าย ก่อนขบกรามเจ็บใจ เมื่อเห็นลูกน้องถูกสังหารไปเกือบครึ่ง
ทันใดนั้น ชายฉกรรจ์ร่วมร้อยก็กรูออกจากป่าพร้อมดาบและธนู ผู้เป็นหัวหน้ารีบชักม้าถอยไปรวมกับพวกที่มาใหม่ก่อนสั่งคนเหล่านั้นระดมยิงธนูใส่ชายผู้ถือดาบดำ
ลูกธนูเกือบครึ่งร้อยพุ่งเข้าใส่ ทว่าชายหนุ่มใช้ดาบปัดป้องจนคมศรมิได้ระคายผิว ก่อนพุ่งใส่ศัตรูราวพยัคฆ์กระโจนหาเหยื่อ ดาบพลิกพลิ้วรุนแรง ปลิดชีพศัตรูล้มตายดังใบไม้ร่วง
ขณะชายหนุ่มต่อสู้อยู่กลางวงล้อมศัตรู หัวหน้ากลุ่มผู้ล่า ได้ฉวยโอกาสปามีดสั้นไปปักที่ต้นขาขวาของเขา จนทรุด เป็นจังหวะให้ศัตรูคนหนึ่ง เหวี่ยงดาบเข้ากลางหลัง คมอาวุธจมลึกฝังเนื้อ โลหิตสาดกระจาย
ชายหนุ่มกัดฟันข่มความเจ็บ ดึงมีดออกแล้วเสียบเข้าที่ลำคอเจ้าของดาบ ก่อนฝ่าวงล้อม เข้าหาผู้ที่ปามีดใส่และก่อนฝ่ายนั้น จะขยับกาย ก็มีอันต้องร่างขาดสะพายแล่ง ร่วงตกจากหลังม้าด้วยคมดาบดำ
เมื่อหายจากตะลึง ที่เห็นหัวหน้าถูกสังหาร เหล่านักรบที่เหลือ ก็พุ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างเกรี้ยวกราด เพื่อหมายปลิดชีพอีกฝ่ายล้างแค้นให้นายตน ดาบนับสิบสะท้อนแสงวาววับ ตามมาด้วยเสียงกระทบกันของโลหะและประกายไฟยามดาบเข้าปะทะฟาดฟัน
ไม่นาน ลานกว้างริมผาแห่งนั้น ก็เหลือเพียงชายผู้ถูกล่า ยืนอยู่ผู้เดียว ขณะที่ศัตรูล้วนทอดร่างกลายเป็นศพเกลื่อนกลาด โลหิตไหลนองส่งกลิ่นคาวคลุ้ง
แม้จะชนะ แต่ชายหนุ่มก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งโดยเฉพาะแผลฉกรรจ์ที่ต้นขาและกลางหลังซึ่งมีเลือดไหลโทรม เขารวบรวมกำลังเหนี่ยวตัวขึ้นนั่งบนหลังม้าพร้อมกับรัดเชือกผูกห่อผ้าที่สะพายหลังให้แน่น ชายหนุ่มมองไปยังทิวเขารูปเสือหมอบเบื้องหน้าก่อนควบม้าไปยังทิศนั้น
***********************
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว่าแต่... "ขุนพระกลาโหม" นี่ตกลงยศท่านเป็น ขุน? พระ? หรือว่าอะไรหรือคะ?
แล้วราชทินนามนี่เป็น "กลาโหม" เลยหรือคะ??????????
แต่ท่าเพลงดาบอินทรีเหินนั่น
มันเป็นกำลังภายในไปรึเปล่าคะ - -"
เอ่อ มันขัดๆ กันน่ะค่ะ
แต่เขียนดีจังเลย ภาษาสวยอะ
สงครามนี้กำลังอยู่ในความสนใจพอดี คิดถึงรสอักษรท่านพี่พิกลยิ่ง วานมาต่ออย่ารอกาลเถิดท่าน...
เพิ่งได้ ขุนศึกสยาม
จาก SE-ED กทม
ต่างจังหวัดหายากอ่ะ [ปลายปีที่แล้ว]
ว้าว เก่งจังแฮะ ใช้ภาษาโบราณ ได้สละสลวยมากเลยครับ อ่านแล้วไม่มีติดขัด แอดไว้ก่อนแล้วกันเดี๋ยวจะตามมาอ่านอีก