ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 3 ทะเลสาปและป่าละเมาะ(4)
ว็อกเกอร์นึกถึงคำพูดของวาโลคานเกี่ยวกับกุญแจศิลานี้ ที่บอกว่า เมื่อมีอันตรายใกล้เข้ามา กุญแจจะเปล่งแสง
เมิร์ฟหนุ่มมองรอบตัวอย่างหวาดระแวงก่อนจะบอกกับกร็อดที่กำลังพายอยู่ว่า
"กร็อด !พายให้เร็วขึ้นอีก เราต้องไปให้พ้นจากตรงนี้"
"ทำไมเหรอ" กร็อดมองเพื่อนอย่างงงๆ
"ข้าก็บอกไม่ได้เหมือนกัน รู้แต่ว่าถ้าอยู่ตรงนี้ ล่ะก็ ไม่ดีแน่" ว็อกเกอร์บอก
กร็อดมองเพื่อน"ถ้าเจ้าไม่บอกเหตุผลล่ะ ก้อ ข้าก็จะไม่ออกแรงเพิ่มหรอกนะ"
"ถ้าเรายังอยู่ตรงนี้ พวกเราทั้งหมดจะมีอันตราย"ว็อกเกอร์กล่าวกับเพื่อน
"เจ้ารู้ได้ไง"กร็อดยังสงสัย
ว็อกเกอร์ไม่รู้จะพูดอย่างไร เขาไม่อาจบอกเพื่อนถึงเรื่องกุญแจศิลาได้
เพราะได้รับปากกับวาโลคานและน็อกซ์เอาไว้
แต่ก่อนที่เมิร์ฟหนุ่มจะหาคำอธิบายอื่นที่เหมาะๆให้เพื่อนของเขาได้นั้นเอง
เขาก็ได้ยินเสียงตีน้ำเหมือนอย่างเมื่อคืนดังขึ้น ขณะเดียวกัน จินกับมิน
ที่อยู่ทางท้ายแพก็บินขึ้นและส่งเสียงร้องอย่างตกใจ
"ข้างหลัง !ดูข้างหลัง มีอะไรบางอย่างอยู่ใต้น้ำ กำลังพุ่งมาหาแพ "จินร้องบอก
ว็อกเกอร์กับกร็อดหันไปข้างหลังทันที
ทั้งสองคนเห็นผิวน้ำแหวกเป็นทางคล้ายมีอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังว่ายอยู่ใต้น้ำและสิ่งนั้นกำลังตรง มาที่แพ
แต่ก่อนที่เมิร์ฟทั้งสองจะทำอะไรต่อ มินก็ร้องโวยวายขึ้น
"มีอะไรก็ไม่รู้อยู่ใต้น้ำกำลังพุ่งมาข้างซ้ายด้วย !"
ว็อกเกอร์รีบหันไปดูก็พบว่ามีบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาจากทางซ้าย ดังที่เจ้ากาบอก
ขณะที่กร็อดซึ่งอยู่ทางขวาก็ร้องตะโกนขึ้นอย่างตกใจเช่นกัน และไม่นานนัก ทั้งสี่
ก็พบว่าแพของพวกเขาถูกล้อมไว้แล้วทั้งสี่ด้านด้วยสิ่งที่อยู่ใต้น้ำ
แพกระเทือน เมื่อถูกสิ่งที่ว่ายอยู่ใต้น้ำพุ่งชนเอา กร็อดเสียหลักและเกือบกลิ้งตกน้ำ ดีที่ ว็อกเกอร์คว้าเสื้อเอาไว้ทัน แต่ถุงสัมภาระใบหนึ่งที่ผูกไว้ไม่ดีนักก็กระเด็นตกน้ำไป
เงาดำๆใต้น้ำพุ่งเข้าไปรุมเล่นงานถุงสัมภาระใบนั้นอย่างดุเดือด น้ำบริเวณนั้นแตกเป็นฟองพล่านกระจายไปทั่ว
ชั่วขณะหนึ่งที่ว็อกเกอร์เห็นร่างขนาดใหญ่สีดำสนิทเป็นมันพร้อมกับแผงหลังเตี้ยๆสีแดงโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำที่กำลังเดือดพล่าน
อสุรกายพวกนี้เป็นปลากินเนื้อขนาดยักษ์อันดุร้าย ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาปมรกต
โดยกินปลาในทะเลสาปเป็นอาหารแต่บางครั้งถ้ามีสัตว์บกลงไปในทะเลสาปพวกมันก็จับกินด้วยเช่นกัน
พวกมันแข็งแรงขนาดสามารถลากวัวตัวโตๆลงน้ำได้อย่างสบาย
ตามปกติปลาพวกนี้จะไม่ออกหากินตอนกลางวันเพราะไม่ชอบแสงแดด แต่เนื่องจากบ่ายวันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่มีแดด จึงนับว่าเป็นโชคร้ายของว็อกเกอร์และพวก
"พาย! กร็อด พายเร็วเข้า!" ว็อกเกอร์ร้องบอกพร้อมกับออกแรงจ้ำพายให้เร็วขึ้น
เมิร์ฟทั้งสองพยายามหนีจากฝูงอสุรกายใต้น้ำ
ที่ตอนนี้จัดการกับถุงสัมภาระไปแล้วและกำลังไล่หลังพวกเขามา
ในไม่ช้าพวกมันก็ตามแพทัน
เจ้าปลาตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาที่ข้างแพ ตรงด้านของ ว็อกเกอร์พอดีจนน้ำเปียกกระจายเต็มตัวเขา
หัวของเจ้าสัตว์ประหลาดเป็นทรงกลมและโตพอๆกับย่ามสัมภาระใบใหญ่ที่สุดบนแพของเขา
มีตาสีแดงเพลิงหน้าสั้นมีฟันคมกริบคู่ใหญ่น่ากลัวสองคู่อยู่ในปาก มองดูคล้ายคีมขนาดยักษ์
เจ้าอสุรกายใต้น้ำงับไม้พายของว็อกเกอร์และขบจนหักกระเด็น เมิร์ฟหนุ่มเอาด้ามพายที่เหลืออยู่
กระหน่ำตีลงไปที่หัวของมันอย่างไม่ยั้งมือ จนเจ้าอสุรกายตัวนั้นเหวี่ยงหางไปมาด้วยความเจ็บปวด
ก่อนจะว่ายมุดหนีลงไปใต้น้ำ ขณะที่ปลาอีกตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาทางท้ายแพและพยายามงับแพเอาไว้
จินกับมินเห็นดังนั้นก็บินตรงเข้าไปจิกตีที่ตาของเจ้าอสุรกายจนมันต้องมุดน้ำลงไป
เมื่อการพุ่งเข้าขบกัดไม่ได้ผล พวกปลายักษ์จึงเปลี่ยนวิธีโจมตีใหม่ พวกมันพลัดกันพุ่งเข้ากระแทกแพ
เพื่อหวังให้แพแตก ว็อกเกอร์กับกร็อดหมอบลงและเกาะแพไว้แน่น
แพสั่นสะเทือนทุกครั้งที่ปลายักษ์พวกนั้นพุ่งเข้าชน โชคดีที่แพนั้นผูกไว้อย่างแน่นหนาจึงไม่แตกง่ายๆ
แต่เจ้าอสุรกายใต้น้ำพวกนั้นก็ยังไม่ละความพยายามที่จะทำลายแพนี้ให้ได้
เพื่อที่จะได้ลิ้มรสของเมิร์ฟทั้งสอง
"เอาไงดี ว็อกเกอร์ ขืนปล่อยให้พวกมันกระแทกเอาแบบนี้ แพคงจะทานไว้ไม่ได้แน่"กร็อดร้องถามขณะมีเกาะแพแน่น
ว็อกเกอร์ได้ฟังเพื่อนพูด ก็พยายามหาทางออก แต่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
ดูเหมือนเขาจะหาความคิดดีๆไม่ได้เลย(มีต่อ)
เมิร์ฟหนุ่มมองรอบตัวอย่างหวาดระแวงก่อนจะบอกกับกร็อดที่กำลังพายอยู่ว่า
"กร็อด !พายให้เร็วขึ้นอีก เราต้องไปให้พ้นจากตรงนี้"
"ทำไมเหรอ" กร็อดมองเพื่อนอย่างงงๆ
"ข้าก็บอกไม่ได้เหมือนกัน รู้แต่ว่าถ้าอยู่ตรงนี้ ล่ะก็ ไม่ดีแน่" ว็อกเกอร์บอก
กร็อดมองเพื่อน"ถ้าเจ้าไม่บอกเหตุผลล่ะ ก้อ ข้าก็จะไม่ออกแรงเพิ่มหรอกนะ"
"ถ้าเรายังอยู่ตรงนี้ พวกเราทั้งหมดจะมีอันตราย"ว็อกเกอร์กล่าวกับเพื่อน
"เจ้ารู้ได้ไง"กร็อดยังสงสัย
ว็อกเกอร์ไม่รู้จะพูดอย่างไร เขาไม่อาจบอกเพื่อนถึงเรื่องกุญแจศิลาได้
เพราะได้รับปากกับวาโลคานและน็อกซ์เอาไว้
แต่ก่อนที่เมิร์ฟหนุ่มจะหาคำอธิบายอื่นที่เหมาะๆให้เพื่อนของเขาได้นั้นเอง
เขาก็ได้ยินเสียงตีน้ำเหมือนอย่างเมื่อคืนดังขึ้น ขณะเดียวกัน จินกับมิน
ที่อยู่ทางท้ายแพก็บินขึ้นและส่งเสียงร้องอย่างตกใจ
"ข้างหลัง !ดูข้างหลัง มีอะไรบางอย่างอยู่ใต้น้ำ กำลังพุ่งมาหาแพ "จินร้องบอก
ว็อกเกอร์กับกร็อดหันไปข้างหลังทันที
ทั้งสองคนเห็นผิวน้ำแหวกเป็นทางคล้ายมีอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังว่ายอยู่ใต้น้ำและสิ่งนั้นกำลังตรง มาที่แพ
แต่ก่อนที่เมิร์ฟทั้งสองจะทำอะไรต่อ มินก็ร้องโวยวายขึ้น
"มีอะไรก็ไม่รู้อยู่ใต้น้ำกำลังพุ่งมาข้างซ้ายด้วย !"
ว็อกเกอร์รีบหันไปดูก็พบว่ามีบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาจากทางซ้าย ดังที่เจ้ากาบอก
ขณะที่กร็อดซึ่งอยู่ทางขวาก็ร้องตะโกนขึ้นอย่างตกใจเช่นกัน และไม่นานนัก ทั้งสี่
ก็พบว่าแพของพวกเขาถูกล้อมไว้แล้วทั้งสี่ด้านด้วยสิ่งที่อยู่ใต้น้ำ
แพกระเทือน เมื่อถูกสิ่งที่ว่ายอยู่ใต้น้ำพุ่งชนเอา กร็อดเสียหลักและเกือบกลิ้งตกน้ำ ดีที่ ว็อกเกอร์คว้าเสื้อเอาไว้ทัน แต่ถุงสัมภาระใบหนึ่งที่ผูกไว้ไม่ดีนักก็กระเด็นตกน้ำไป
เงาดำๆใต้น้ำพุ่งเข้าไปรุมเล่นงานถุงสัมภาระใบนั้นอย่างดุเดือด น้ำบริเวณนั้นแตกเป็นฟองพล่านกระจายไปทั่ว
ชั่วขณะหนึ่งที่ว็อกเกอร์เห็นร่างขนาดใหญ่สีดำสนิทเป็นมันพร้อมกับแผงหลังเตี้ยๆสีแดงโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำที่กำลังเดือดพล่าน
อสุรกายพวกนี้เป็นปลากินเนื้อขนาดยักษ์อันดุร้าย ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาปมรกต
โดยกินปลาในทะเลสาปเป็นอาหารแต่บางครั้งถ้ามีสัตว์บกลงไปในทะเลสาปพวกมันก็จับกินด้วยเช่นกัน
พวกมันแข็งแรงขนาดสามารถลากวัวตัวโตๆลงน้ำได้อย่างสบาย
ตามปกติปลาพวกนี้จะไม่ออกหากินตอนกลางวันเพราะไม่ชอบแสงแดด แต่เนื่องจากบ่ายวันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่มีแดด จึงนับว่าเป็นโชคร้ายของว็อกเกอร์และพวก
"พาย! กร็อด พายเร็วเข้า!" ว็อกเกอร์ร้องบอกพร้อมกับออกแรงจ้ำพายให้เร็วขึ้น
เมิร์ฟทั้งสองพยายามหนีจากฝูงอสุรกายใต้น้ำ
ที่ตอนนี้จัดการกับถุงสัมภาระไปแล้วและกำลังไล่หลังพวกเขามา
ในไม่ช้าพวกมันก็ตามแพทัน
เจ้าปลาตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาที่ข้างแพ ตรงด้านของ ว็อกเกอร์พอดีจนน้ำเปียกกระจายเต็มตัวเขา
หัวของเจ้าสัตว์ประหลาดเป็นทรงกลมและโตพอๆกับย่ามสัมภาระใบใหญ่ที่สุดบนแพของเขา
มีตาสีแดงเพลิงหน้าสั้นมีฟันคมกริบคู่ใหญ่น่ากลัวสองคู่อยู่ในปาก มองดูคล้ายคีมขนาดยักษ์
เจ้าอสุรกายใต้น้ำงับไม้พายของว็อกเกอร์และขบจนหักกระเด็น เมิร์ฟหนุ่มเอาด้ามพายที่เหลืออยู่
กระหน่ำตีลงไปที่หัวของมันอย่างไม่ยั้งมือ จนเจ้าอสุรกายตัวนั้นเหวี่ยงหางไปมาด้วยความเจ็บปวด
ก่อนจะว่ายมุดหนีลงไปใต้น้ำ ขณะที่ปลาอีกตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาทางท้ายแพและพยายามงับแพเอาไว้
จินกับมินเห็นดังนั้นก็บินตรงเข้าไปจิกตีที่ตาของเจ้าอสุรกายจนมันต้องมุดน้ำลงไป
เมื่อการพุ่งเข้าขบกัดไม่ได้ผล พวกปลายักษ์จึงเปลี่ยนวิธีโจมตีใหม่ พวกมันพลัดกันพุ่งเข้ากระแทกแพ
เพื่อหวังให้แพแตก ว็อกเกอร์กับกร็อดหมอบลงและเกาะแพไว้แน่น
แพสั่นสะเทือนทุกครั้งที่ปลายักษ์พวกนั้นพุ่งเข้าชน โชคดีที่แพนั้นผูกไว้อย่างแน่นหนาจึงไม่แตกง่ายๆ
แต่เจ้าอสุรกายใต้น้ำพวกนั้นก็ยังไม่ละความพยายามที่จะทำลายแพนี้ให้ได้
เพื่อที่จะได้ลิ้มรสของเมิร์ฟทั้งสอง
"เอาไงดี ว็อกเกอร์ ขืนปล่อยให้พวกมันกระแทกเอาแบบนี้ แพคงจะทานไว้ไม่ได้แน่"กร็อดร้องถามขณะมีเกาะแพแน่น
ว็อกเกอร์ได้ฟังเพื่อนพูด ก็พยายามหาทางออก แต่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
ดูเหมือนเขาจะหาความคิดดีๆไม่ได้เลย(มีต่อ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น