คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : พระจันทร์ดวงที่ 19
"จะไปไหน" ซินดี้คว้าแขนแกร่งทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มมีท่าทีฉุนเฉียวใบหน้ามืดครึ้ม
"ข้าจะไปหาท่านหัวหน้าเผ่า"
นั่นไงเธอว่าแล้ว
ลิชท์ขืนตัวจะมุ่งหน้าเข้าเผ่าโดยมีเธอใช้แรงทั้งหมดรั้งเขาไว้
ซินดี้รู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอ แต่มันมากเกินไปจนอาจทำร้ายตัวเขาเอง เธอคิดว่าการที่เข้ามาอยู่ภายใต้อารยธรรมที่ไม่รู้จักการหลีกเลี่ยงการปะทะดีกว่าการพุ่งชน แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมทุกอย่าง ต้องมีการแบ่งรับแบ่งสู้เพื่อให้ได้ประโยชน์และไม่เสียประโยชน์
ผู้ที่จะเป็นหัวหน้าเผ่าต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วถึงดูแลคนทั้งเผ่าได้ ซินดี้ไม่อยากทำให้ตัวเองเป็นปัญหาสำหรับลิชท์
"ลิชท์"
มือที่จับแขนแกร่งไว้เปลี่ยนมาเป็นโอบกอดเขาให้ใจเย็นลงพร้อมเอ่ยเรียกสติเขาไว้ ดูเหมือนมันจะทำให้เขาเย็นลงแม้จะเพียงเล็กน้อย
"เรื่องนี้ให้ข้าจัดการเถอะ"
"เจ้ายังบาดเจ็บอยู่นะ"
ลิชท์นึกถึงเธอเสมอไม่ว่าจะทำอะไร แต่เธอจะบอกเขายังไงดี การไปร่วมขบวนล่าครั้งนี้มันไม่ใช่เพียงการทดสอบของหัวหน้าเผ่า แต่เป็นการปลดล็อกอะไรหลายๆ อย่างในใจของเธอด้วย
เธอรู้ดีว่าเธอจะไม่เป็นอะไร เพราะความสามารถการเอาตัวรอดบางส่วนของลิเดียน่า แต่ความสามารถที่ถ่ายทอดมาอย่างกับการก๊อบปี้วางจะสู้ประสบการณ์ที่พบเจอจริงๆ ได้ยังไง
หากเธอต้องการที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ เธอก็ควรที่จะออกจะเซฟโซนอย่างเขาสักที
"เชื่อใจข้าได้มั้ย"
เธอจ้องเข้าไปในดวงตาที่ขุ่นมัวของลิชท์
"ให้ข้าได้ลอง ข้าไม่อยากพึ่งแต่เจ้าตลอดไปไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการเจ้าแต่เป็นเพราะข้าอยากทำอะไรเพื่อเราบ้างเช่นกัน แม้พลังข้ายังไม่เต็มร้อยแต่ความทรงจำบางส่วนของข้ากลับมาแล้ว ข้าไม่มีทางเป็นอะไรไป ข้าสัญญา"
คำอธิบายผสมความเท็จอันยืดยาวดูเหมือนจะทำให้เขาคล้อยตามไป เมื่อเห็นท่าทีเย็นลง
ซินดี้ก็ดึงแขนของลิชท์ให้นั่งลงที่แคร่ไม้ไผ่ วิ่งวุ่นหยิบน้ำมะเขือเทศที่เธอคั้นไว้ส่งให้เขาดับความร้อนในกาย
กะลาไม้ที่บรรจุน้ำมะเขือเทศถูกจ่อที่ริมฝีปากบาง มือหนายกขึ้นกุมมือบางที่ป้อนเขาไว้แผ่วเบาพลางดื่มมันอย่างไม่ใคร่สงสัยสิ่งใด
"เป็นไง สดชื่นขึ้นหรือไม่" ซินดี้พยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้ผ่านสถานการณ์ไม่สู้ดีไปให้ได้
"อืม" เสียงตอบรับเพียงสั้นๆ ทำเอาเธอเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย
ซินดี้สอดส่ายสายตามองหาสิ่งอื่นมาเอาใจชายตรงหน้า นึกได้ว่ามีสตูที่เหลืออยู่
"งั้นชิมสตูข้าสิ"
"อร่อยมั้ย"
"อืม"
ท่าทีที่นิ่งเฉยกว่าเดิมทำให้ซินดี้เกร็งหนักขึ้นไปอีก เธอไม่เคยเจอลิชท์ในเวอร์ชันนี้ ส่วนใหญ่ชายผิวขาวตรงหน้าเอาอกเอาใจเธอเก่งไม่น้อย
หรือสตูของเธอมีกลิ่นเนื้อมากเกินไปจนเขากินไม่ได้
ซินดี้ยกสตูขึ้นชิม เพื่อพิสูจน์รสชาติแต่ยังไม่ทันได้กลืนมันลงคอ เธอก็ถูกดึงลงไปนั่งอยู่ภายใต้อ้อมกอดอุ่นร้อน รสชาติของสตูถูกกวาดออกไปด้วยลิ้นนุ่มหยุ่นของชายที่ตอนแรกมีท่าทีนิ่งเฉย
"แต่กินจากปากเจ้าอร่อยกว่า"
"ลิชท์!"
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ในแต่ละนาทีที่ผ่านไปซินดี้ไม่ได้ปล่อยมันไปอย่างสูญเปล่า เธอใช้เวลาทั้งหมดเตรียมตัวกับการล่าสัตว์ที่ไม่เคยพบเจอ
ไม่เพียงแค่ซินดี้เท่านั้นลิชท์ก็ทุ่มเทไม่น้อยเช่นกัน สิ่งใดที่ว่าดีบำรุงรักษาร่างกายและจิตอสูรของซินดี้ ลิชท์ล้วนเสาะหามาให้
ยาขมสารพัดสูตรจากอสูรเฒ่าคุตีถูกลำเลียงมาให้หญิงสาวฝืนกินหลายสิบห่อ แม้ซินดี้รู้ดีว่ามันอาจไม่ได้ช่วยอะไรเธอ ทั้งยังทรมานจากการกลืนยาขมแต่เธอก็ต้องดื่มมันลงไปเพื่อความสบายใจของลิชท์
ปัก!
ลูกดอกแหลมพุ่งปักลงที่ลำต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นเป้า
ซินดี้พอใจกับสิ่งที่ทำขึ้นในมือไม่น้อย คิดว่ามันจะมีประโยชน์กับเธอในการออกไปล่าสัตว์ที่จะถึงนี้
หน้าไม้จากไม้เนื้อดีขนาดจับถนัดมือพร้อมลูกดอกที่ส่วนหัวเป็นกระดูกสัตว์ที่แหลมคม เธอเลือกที่จะทำหน้าไม้เพราะมีการจับและเล็งได้สะดวกกว่าธนูไม้ธรรมดา อีกทั้งยังรุนแรงกว่ามาก แม้จะทำยุ่งยากกว่าแต่เมื่อคำนึงถึงผลลัพธ์แล้วหน้าไม้ย่อมดีกว่า
หูและจมูกของซินดี้สัมผัสได้ถึงตัวตนที่กำลังมุ่งหน้ามาในเขตบ้านของเธอ ซินดี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะยาขมที่กินไปรวมๆ กันแล้วได้ผลขึ้นมาหรือเปล่าที่ทำให้ร่างกายเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย ซินดี้รู้สึกว่าประสาทสัมผัสเธอดีกว่าเดิม
กลิ่นที่แสนคุ้นเคยและน้ำหนักเท้าทำให้เธอได้รู้ว่าคนที่เข้ามาในเขตของเธอไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพ่อกระต่ายหนุ่มนั่นเอง
"วันนี้เจ้ากลับไว"
"ฟาริสลาดตระเวนแทนข้า เพราะข้าอยากกลับมาอยู่กับเจ้าก่อน..." ดวงตาของลิชท์ไหววูบ
ซินดี้รู้ดีว่าชายหนุ่มยังไม่พอใจเรื่องการเข้าร่วมขบวนล่าสัตว์ แต่ทำสิ่งใดไม่ได้เพราะเธอยืนยันว่าจะไป
"นั่น..." ซินดี้มองไปเห็นห่อใบไม้ที่ลิชท์ถืออยู่ก็รู้สึกเหนียวคอ ลักษณะคล้ายห่อยาพิศวงอีกทั้งครั้งนี้มันใหญ่กว่าครั้งก่อนเสียอีก
"ข้าขอไม่กินได้มั้ย ช่วงนี้ท้องข้าปั่นป่วนมาก"
"นี่เนื้อบีดี้" ลิชท์เห็นท่าทีขยาดของตัวเมียตนก็นึกขบขัน ก่อนจะอธิบายว่ามันคือเนื้อสัตว์
เขาตั้งใจนำมันมาย่างให้เธอสำหรับเป็นเสบียงในวันพรุ่งนี้
ซินดี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ที่เจ้าถืออยู่คืออะไร" ลิชท์จับจ้องเครื่องมือไม้ประหลาดที่อยู่ในมือของตัวเมียนานสองนาน
ซินดี้ที่เห็นลิชท์สนใจ ก็นำเสนอมันให้เขาฟัง
"มันคือหน้าไม้ ใช้โจมตีสัตว์หรือศัตรูในระยะไกล หากโดนไม้แหลมนี่แทงจะบาดเจ็บและอาจตายได้"
"มันจะโจมตีอย่างไร" ลิชท์ไม่เข้าใจว่าไม้แหลมจะแทงเข้าอย่างไรในเมื่อมันสั้นมาก
"ข้าจะทำให้ดู" ซินดี้ใส่ลูกดอกลงไปก่อนจะเล็งไปที่ต้นไม้ที่เป็นเป้านิ่งต้นเดิม
ปัก!
ลูกดอกปักลงบริเวณใกล้เคียงจากลูกดอกอันเก่า เธอคิดว่าเธอก็มีฝีมือไม่น้อย
ลิชท์ที่มองตามก็ตกตะลึง มันเหมือนกับการสลัดขนแหลมของเม่นแต่รุนแรงกว่ามาก
"อยากลองหรือไม่"
ลิชท์ทิ้งทุกอย่างที่แบกมาจับหน้าไม้พลิกไปมาสำรวจหาสาเหตุที่มันสามารถส่งไม้กิ่งแหลมไปปักต้นไม้ได้
ท่าทีของลิชท์ทำเอาเธอขบขันไม่น้อย เขาไม่รู้ต้องจับมันยังไงทำให้จับไม่ถูกที่ แต่กลับดูน่ารักในสายตาเธอ
"ใส่ลูกดอกเข้าไปตรงนี้ แล้วเล็งไปข้างหน้า" ซินดี้เข้าไปโอบจัดท่าทางให้กับคนตัวโต ทั้งการจับหน้าไม้และท่าทางการเล็ง แต่ลำบากไม่น้อยเพราะตัวของคนในอ้อมกอดใหญ่กว่ามาก "ย่อตัวลงหน่อยได้มั้ย"
ปัก!
แรงดีดของเชือกทำเอาลิชท์สะดุ้งเล็กน้อยทำให้เล็งคลาดเคลื่อน แต่ก็ปักลงที่ต้นไม้ใกล้ๆ อยู่ดี
"ทีนี้เจ้าก็หายห่วงข้าได้แล้ว" ซินดี้เอ่ยกระซิบข้างใบหูลิชท์ ก่อนจะปล่อยเขาจากอ้อมกอด
ลิชท์มองหน้าไม้ในมือ พลางคิดว่ามันดีไม่น้อยแต่มันจะสู้ตัวเขาที่พร้อมปกป้องเธอได้อย่างไร และเหนือสิ่งอื่นใดมันไม่สามารถเติมเต็มและคลายความเหงาแบบเขาได้แน่ เมื่อคิดนึกถึงเรื่องนี้แล้วเขาจะอยู่ได้อย่างไรเมื่อไร้ร่างกายหอมให้สูดดม
"ข้าต้องขาดใจแน่ๆ ที่ต้องห่างจากกายเจ้า" ใบหน้าเศร้าหมองที่สวนทางกับประโยคชวนคิดลึกของลิชท์เรียกเลือดขึ้นสูบฉีดบนใบหน้าของซินดี้ไม่น้อย
"งั้น...ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ เติมความคิดถึงให้เต็มก่อนดีหรือไม่" ซินดี้เข้าไปโอบคอแกร่งให้โน้มลงจนปลายจมูกห่างกันไม่กี่เซน ยิ้มอย่างยั่วยวน
เธอจะต้องห่างจากเขาหลายวันก็คงคิดถึงเขาไม่น้อยเช่นกัน หากได้เติมเต็มให้ตัวเองและปลอบโยนเขาไปในตัวก็ถือว่าคุ้มไม่น้อย
"เจ้าจะไม่เหนื่อยไปหรือ" เสียงแหบพร้อมสายตาหยาดเยิ้มเอ่ยทักท้วงแม้มือทั้งสองข้างจะทิ้งหน้าไม้เปลี่ยนมายกอุ้มตัวร่างเล็กขึ้นแนบอก
"ข้าไหว"
...
ไหวก็บ้าแล้ว!
"อื้ม ลิชท์พอแล้ว"
ซินดี้เอ่ยปากท้วงคนตัวโตที่โยกกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้ามาอย่างหนักหน่วง เธอที่แผ่หลาเพราะหมดแรงจากกิจกรรมหลายชั่วโมงติดต่อกัน จากฟ้าสว่างจนตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิท คอแห้งจากการสูญเสียน้ำในร่างกาย ทั้งยังไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้ว
ตับ ตับ ตับ
"อ๊ะ ตรงนั้น"
"ชอบรึ"
ใบหน้าสวยส่ายไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงตรงกันข้ามกับร่างกายที่แอ่นรับแรงกระแทก เธอไม่อยากยอมรับตัวเอง เหนื่อยแทบขาดใจแต่ยังรู้สึกเสียวจนดิ้นเร่าโยกตามจังหวะ
"แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกหลายราตรีข้าก็ไม่อยากปล่อยเลย อ๊า"
"อือ"
"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ"
เสียงร้องคราญครางหวานเร้าอารมณ์ดิบของชายตัวโตได้ไม่น้อย มือจับล็อกเอวเล็กให้ยกขึ้นรับท่อนเนื้อเข้าออกสอดประสาน ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ปริมและกำลังจะปริแตกในร่องคับแน่น
ตับ ตับ ตับ ตับ
"อ๊าย"
เสียงหอบหายใจดังจนกลบเสียงน้ำตกด้านนอก ร่างกายที่รู้สึกเปียกชื้นทั้งหยาดเหงื่อและของเหลวจากกิจกรรมหรรษาทำให้เหนียวตัวถูกขจัดด้วยผ้าชื้นเย็น มือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าของคนตัวเล็กที่หลับใหลอย่างหมดแรง
แซ่ก แซ่ก แซ่ก
ในยามท้องฟ้ามืดสนิท ร่างของเสือดำนอนพักพิงบนหินก้อนใหญ่ในเขตป่าเงียบสงบใบหูตั้งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหว เปลือกตาเปิดปรากฏดวงตาสีทองเรืองแสง
กลิ่นไม่น่าอภิรมย์ผสมเข้ากับกลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาพึงใจสร้างความหงุดหงิดให้อสูรเสือดำไม่น้อย
เขตพื้นที่อาศัยของเอลิมัสอยู่ห่างจากเผ่ามากหลายกิโลน้อยนักที่จะมีอสูรมาย่างกราย แต่ในค่ำคืนนี้กลับมีผู้มาเยือนส่งกลิ่นน่าหงุดหงิดไปทั่วบริเวณ
ร่างชายผิวขาวเผือกย่างกรายเข้ามาอย่างไร้ความเกรงกลัวเจ้าของอาณาเขต สายตาสีแดงสดสบประสานเข้ากับนัตน์ตาสีทองนิ่ง
"ข้าต้องการทำข้อตกลง"
ยามเช้ามืดของวันต่อมา
ลิชท์ทำหน้าเครียดตลอดทางที่เดินจูงมือเธอมายังลานกว้างที่มีกลุ่มชายและหญิงหลายสิบคนดูท่าจะเป็นขบวนที่ออกลาดตระเวนในครั้งนี้
ซึ่งในหมู่อสูรนั้นมีเมลิซและเอลิมัสที่เหลือบมองมาที่พวกเธอก่อนจะหันกลับไปง่วนกับสัมภาระของตัวเอง
หน้าไม้และห่อเนื้อย่างถูกส่งมาให้ซินดี้ถือไว้สัมภาระของเธอมีเพียงเท่านี้ เพราะเธอไม่อยากลำบากวุ่นวายกับของที่เอาไปมากเกินไป ชุดที่เธอใส่ก็เป็นกางเกงและเสื้อฮู้ดเพื่อความคล่องตัว
"อย่าให้บาดเจ็บ" ลิชท์เอ่ยแม้ไม่ได้มองมาที่เธอ
"ข้าจะดูแลตัวเองอย่างดี"
"พร้อมหรือยัง" เสียงของเมลิซเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าคนครบแล้วและเตรียมออกเดินทาง
ซินดี้เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบลาลิชท์ก่อนจะรีบเดินตามขบวนอสูรตนอื่นๆ ไป
มาคลายเหงากันไปก่อนนะคะ ขอตัวไปปั่นงานก่อนนนน
ความคิดเห็น