NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นฉันถูกลากเข้าป่า

    ลำดับตอนที่ #18 : พระจันทร์ดวงที่ 18

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 67


     "แดดแรงนัก เข้าไปข้างในกันดีหรือไม่"

    "อืม"

    ชายหนุ่มอุ้มตัวหญิงสาวขึ้นด้วยมือข้างเดียว

    ประตูไม้ถูกผลักออกอย่างไม่ไยดี ลิชท์วางร่างเล็กลงบนผืนหนังสัตว์หนานุ่มที่ใช้ปูนอน ก่อนจู่โจมจูบริมฝีปากอวบอิ่มจนเกิดเสียงเฉอะแฉะสร้างความรู้สึกวูบวาบที่ท้องน้อย

    "อืม ปิดประตูก่อน" ซินดี้ดันอกแกร่งออก ให้เขาไปปิดประตู ถึงบริเวณนี้จะไม่มีใครแต่เธอก็ไม่อยากประมาท
    ลิชท์ลุกไปปิดประตูลงกลอนไม้แน่นหนา

    ซินดี้ลุกขึ้นนั่งมองแผ่นหลังขาวตาหยาดเยิ้ม ด้วยพื้นที่ภายในบ้านไม้ไผ่ไม่ได้กว้างมาก ซินดี้จึงประชิดตัวร่างแกร่งได้ง่ายเพียงขยับตัวไม่กี่ครั้ง มือสวยจับที่ขาแกร่งข้างหนึ่งลูบไล้ขึ้นจนชายหนุ่มตัวเกร็งด้วยความตื่นเต้น

    "ปลดมันออก" หนังสัตว์ที่ปกปิดท่อนเนื้อไม่มิดถูกกระตุกเบาๆ

    ลิชท์หันหลังพิงประตู มือใหญ่เลื่อนลงปลดหนังสัตว์ออกแม้จะเต็มไปด้วยความสงสัย ซินดี้ที่มองตามผิวที่ขาวไปซะทุกส่วนของร่างใหญ่ตรงหน้า มือซุกซนสัมผัสลูบไล้จากต้นขาขึ้นเรื่อยๆ หยุดที่ใจกลางกาย แท่งร้อนที่พองตัวสู้อย่างก้าวร้าว

    "เจ้าจะทำอะไร อื้ม"

    ซินดี้ใช้ปลายลิ้นร้อนตวัดลงหยอกล้อกับหัวมนชมพูสัมผัสอุ่นร้อน ลิชท์ที่ไม่เคยสัมผัสความแปลกใหม่ของลิ้นร้อนที่ตวัดก็ขยับดันสะโพกให้สัมผัสความอ่อนนุ่มให้มากขึ้นพร้อมส่งเสียงพึงพอใจ

    "อ๊า"

    ซินดี้ที่เหลือบมองเห็นลิชท์ที่หลับตาพริ้มก็ทำตามที่เจ้าตัวต้องการพลางใช้มือชักสาวไปด้วยเพราะไม่สามารถรับท่อนใหญ่ได้ทั้งหมด และไม่ลืมลงไปหยอกล้อกับลูกเชอร์รี่ทั้งสอง

    ปึก ปึก ปึก

    สะโพกที่เริ่มโยกเข้าออกตามอารมณ์ดิบกระแทกรัวลงลึกจนร่างบางน้ำตาคลอ มือบางดันต้นขาแกร่งให้ขยับเบาลงแต่นอกจากที่ชายหนุ่มจะไม่ผ่อนแรงลงแล้วกลับใช้มือจับศีรษะของคนตัวเล็กมั่นแล้วรัวสะโพกกระแทกอย่างไร้ปรานี

    "ข้า...อ๊า"

    ความรู้สึกอัดอั้นมาหลายวันถูกปลดปล่อยเป็นน้ำสีขุ่นไหลทะลักจนเอ่อล้นหยาดซึมมุมปากแดงอมชมพู

    "แค่กๆ"

    ท่อนเนื้อใหญ่ถอนตัวออกจากโพรงปากนุ่มทำให้ซินดี้ที่เหมือนเป็นอิสระไอจากการสำลักหยาดน้ำที่มากจนเก็บไว้ไม่ไหว 

    "เป็นอะไรหรือไม่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ"

    ลิชท์ที่เห็นร่างเล็กไอจนดวงตาแดงก่ำและน้ำรักของตัวเองที่ไหลซึมจากมุมปาก ก็รู้สึกผิดไม่น้อย มือใหญ่ลูบใบหน้าที่แดงอย่างอ่อนโยนราวกับก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับเธอ

    ซินดี้รู้ว่าไม่ใช่ความผิดของเขาสักนิดเป็นเธอเองต่างหากที่หาเรื่องแกล้งเขาจนเกือบตายเพราะสำลัก ใครจะคิดว่าหลังจากทิ้งห่างช่วงที่เธอเป็นประจำเดือน น้ำเขาจะไหลทะลักเป็นเขื่อนแตกขนาดนี้

     

    ซินดี้กัดผลไม้ป่ารสชาติเปรี้ยวหวานล้างปากจากรสคาวที่ติดลิ้น

    ลิชท์ออกไปลาดตระเวนตามหน้าที่ของตนไม่กี่นาทีก่อนด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะกิจกรรมจบลงเพียงแค่นั้น เธอเกือบตายจะมีอารมณ์ทำต่อได้ยังไง

    เมื่อกินผลไม้จนอิ่ม ซินดี้ก็เตรียมอาหารมื้อหลักของวันนี้ เธอคิดว่าจะทำอาหารที่ทำครั้งเดียวกินได้จนถึงเย็น เช่นสตูเนื้อกับมะเขือเทศ ทำแบบนี้แม้ลิชท์จะไม่กินเนื้อแต่ก็กินซุปได้ และเธอคิดว่าจะทำไปฝากเมลิซกับเอลิมัสด้วย

    เนื้อก้อนที่ได้มาครั้งนี้ไขมันน้อยกว่าครั้งที่แล้วเหมาะที่จะตุ๋น

    กลิ่นสตูของซินดี้โชยไปไกลถึงเขตเผ่า แม้กลิ่นจะไม่ได้มากแต่ด้วยความที่อสูรมีประสาทสัมผัสด้านการได้กลิ่น ทำให้ว้าวุ่นกับการหาต้นตอของกลิ่นไม่น้อย

    รวมถึงสองพี่น้องเสือดำที่กำลังมาที่รังไม้ไผ่ของซินดี้ด้วย

    ร่างเสือดำตัวโตทั้งสองทำเอาซินดี้เกือบวิ่งเข้าบ้านแต่โชคดีที่เธอตั้งสติคิดเสียก่อนจะต้อนรับเสือดำสองพี่น้องให้ขึ้นไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเล็กๆ ของเธอ

    ยังไงเธอก็ไม่ชินจริงๆ นั่นแหละกับความมหัศจรรย์พันลึกของที่นี่

    "รังเจ้าแปลกตา แต่ดูดีไม่น้อย"

    "ลมเย็นสบายใช่มั้ยล่ะ" ซินดี้ภูมิใจกับบ้านไม้ไผ่หลังเล็กของเธอไม่น้อย เรียกได้ว่ามันเป็นบ้านในฝันวัยเกษียณของเธอเลย มีที่น้ำตกสวยๆเย็นๆ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติจากป่าไม้

    "เอลิมัสเจ้าก็ชอบเล่นน้ำตกแถวนี้ไม่ใช่รึ" เอลิมัสมองหน้าพี่สาวนิ่งกับประโยคคำถาม

    ซินดี้ที่นึกได้เรื่องที่เกิดขึ้น เสือดำที่เธอเข้าใจผิดเพียงแค่มาเล่นน้ำตามปกติของเจ้าตัว แถมยังเอาเนื้อมาให้อีก

    "ข้ายังไม่มีโอกาสขอบคุณเรื่องเมื่อครั้งก่อนเลย ขอบใจเจ้ามากนะ"

    "วันนี้ข้าทำสตูเนื้อ รอข้าเดี๋ยว"

    ซินดี้วิ่งลงมาดูหม้อสตูใบใหญ่ เมื่อเห็นว่าเนื้อถูกตุ๋นจนเปื่อยได้ที่พอดีแล้วจึงตักใส่ชามให้แขกทั้งสอง

    ชามดินเผาถูกยกมาวางตรงหน้าของเมลิซและเอลิมัส ทั้งสองต่างเพียงแค่มองด้วยความสงสัยต่อน้ำสีน้ำตาลอมแดงข้นมีชิ้นเนื้อลอยอยู่ แม้มันจะส่งกลิ่นหอมประหลาดออกมา

    "ข้านำผักกับเนื้อไปต้มรวมกัน ลองชิมดูว่าถูกปากมั้ย"

    เมลิซและเอลิมัสต่างมองตากัน แต่เป็นเอลิมัสที่ใจกล้าพอยกชามขึ้นจรดริมฝีปาก แต่ซินดี้เห็นก็จับมือใหญ่ไว้ก่อน

    "ทำแบบนั้นไม่ได้นะ"

    เอลิมัสวางชามดินเผาลงทันที ซินดี้ยกช้อนที่ทำจากไม้ไผ่ที่เธอใส่ไว้ในชามอยู่แล้วให้ทั้งสองดู ก่อนสาธิตวิธีการกิน

    "เห็นควันนี่มั้ย มันยังร้อนอยู่ต้องใช้ไม้อันนี้ตักมันขึ้นมาเป่าก่อน" 

    เมลิซทำหน้าไม่เข้าใจ ซินดี้ยกมันขึ้นเป่าเป็นตัวอย่างจนคิดว่าสตูบนช้อนอุ่นไม่ร้อนเกินไปแล้วเธอก็นำมันไปจ่อที่ริมฝีปากของชายเจ้าของสตูชามนั้น

    "กินสิ" เอลิมัสอ้าปากรับแต่โดยดี สายตาจับจ้องไปที่ริมฝีปากชมพูที่ก่อนหน้านี้พ่นลมออกมาใส่สิ่งที่ยื่นมาอยู่ตรงหน้าเขา เมื่อของเหลวข้นสัมผัสที่ลิ้นดวงตาเรียวก็สั่นไหวเมื่อได้ลิ้มรสชาติประหลาด

    สัมผัสอุ่นๆพร้อมกลิ่นเนื้อหอมเข้ากับความเปรี้ยวอมหวานของมะเขือเทศ ชิ้นเนื้อที่เคยเหนียวกลับนุ่มละลายเพียงใช้ลิ้นดุล มันเป็นรสชาติที่แปลกแต่ดีสำหรับเขา

    เมลิซที่เห็นท่าทีของน้องชายจึงทำตามวิธีการกินแสนประหลาดของตัวเมียซินดี้

    "แปลกมาก แต่ข้าชอบ" ซินดี้ที่เห็นอสูรทั้งสองชอบสตูของเธอก็ยิ้มกว้าง เหมือนได้รางวัลยอดเชฟจากรายการดัง

    "รสชาติดีกว่าเนื้อสดจริงๆ" เสียงทุ้มราบเรียบของเอลิมัสเอ่ย ทำเอาซินดี้หัวใจกระตุกไม่น้อย เธอเพิ่งเคยได้ยินเขาพูดชัดๆก็ครั้งนี้ เสียงทุ้มเข้มสะกดเธอได้จริงๆมันเป็นโทนเสียงที่เธอชอบ ถ้าเขาอยู่ในโลกของเธอคงเป็นดีเจหรือนักร้องแน่

    "หากชอบข้าทำให้ได้ทุกวันเลย ขอแค่เจ้าเอาเนื้อมาแลก"

    "ได้" เมลิซตอบตกลงทันทีอย่างไม่ต้องคิดโดยมีเอลิมัสนิ่งไม่คัดค้านใดๆ

    สองพี่น้องเสือดำกินจุกว่าที่คิด ตั้งแต่เวลาบ่ายกว่าๆจนแดดเริ่มอ่อนลงอากาศเริ่มเย็นขึ้นพวกเขาเติมไปคนละหลายชามใหญ่ จนสตูที่เต็มหม้อใหญ่เหลือเพียงก้นหม้อ ถ้าพวกเขากินเยอะขนาดนี้เธอจะคุ้มมั้ยเนี่ย

    "ตอนข้าออกล่าก็มีบ้างที่ไม่ได้สัตว์เลย แต่ข้าก็ตามออกล่าทุกครั้ง"

    หลังจากกินอิ่มพวกเธอก็นั่งคุยกัน ความจริงเป็นซินดี้กับเมลิซที่คุยกันซะส่วนใหญ่ เนื่องจากชายหนุ่มผิวเข้มทำเพียงมองใบหน้าที่ฟังเรื่องเล่าของพี่สาวของเขาอย่างตื่นเต้นเท่านั้น

    "พวกเจ้า!" 

    ซินดี้ที่กำลังฟังเรื่องเล่าของเมลิซอยู่ก็สะดุ้งด้วยเสียงคุ้นหูที่ดังท่ามกลางความเงียบ 

    ลิชท์ที่กลับมาจากการลาดตระเวรรอบเผ่าเห็นแขกไม่ได้รับเชิญก็ไม่อาจกดอารมณ์คุกรุ่นไว้ได้ พุ่งตัวไปดึงตัวของตัวเมียของตนให้ออกห่างจากอสูรเสือดำที่มองตัวเมียของเขาด้วยสายตาหวานเชื่อม

    "กลับมาแล้วเหรอ ข้าทำสตูไว้ให้เจ้าลองชิมด้วย" ซินดี้ที่เห็นถึงอารมณ์ที่ผิดปกติของลิชท์ก็ดึงความสนใจของเขาแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

    "พวกเจ้ามาทำอะไรกัน"

    "พวกเขามากินสตูที่ทำ และก็นั่งคุยกับข้าแก้เหงารอเจ้า"

    "เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ข้าคงต้องกลับแล้ว" เมลิซลุกเดินลงบันไดมายืนอยู่ข้างเธอโดยมีเอลิมัสตามมาด้วย

    "ข้าลืมบอกไป อีกสองวันขบวนล่าเนื้อจะลงทางใต้เจ้าต้องเตรียมอาหารใหม่มากหน่อย" 

    ซินดี้มีสีหน้าจริงจังขึ้น เมลิซบอกเธอแล้วว่าเธอต้องร่วมออกล่ากับขบวนล่าที่นางเป็นหัวหน้า

    "ข้าจะไปกับเจ้าด้วย" 

    "ไม่ได้" เมลิซเอ่ยขัดทันควัน 

    ใบหน้าของลิชท์มืดครึ้มลงจนเธอเห็นท่าไม่ดีใช้มือจับแขนแกร่งไว้

    "ท่านหัวหน้าเผ่าจะให้พวกเจ้าขึ้นเหนือไปแลกเปลี่ยนผลผลิต แต่เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลนางให้" เมลิซเอ่ยก่อนจะหันไปลาซินดี้แล้วเดินจากไป

    เอลิมัสตามออกไปโดยไม่พูดใดๆมีเพียงสายตาที่เหลือบมองหญิงสาวที่เกาะเกี่ยวร่างของอสูรกระต่ายเผือกเท่านั้น

     

    วีติดธุระเลยไม่มีเวลาตรวจคำผิดเลย

    เดี๋ยวผ่านวิกฤตชีวิตนี้ไปได้จะมาชดเชยให้นะคะ T T

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×