NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นฉันถูกลากเข้าป่า

    ลำดับตอนที่ #9 : พระจันทร์ดวงที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 67


    ซินดี้สะดุ้งตัวตื่นขึ้นในยามบ่ายของวันต่อมา แสงแดดสาดส่องเข้ามาตามช่องไม้กระทบเข้ากับใบหน้าเล็กซีด

    ความรู้สึกหนักอึ้งตามร่างกายถาโถมเข้ามาจะลุกก็ลุกไม่ขึ้น ทำได้เพียงเปิดเปลือกตามองไปรอบๆ เธอยังอยู่ที่เดิมที่นอนโพรงไม้ แต่เรื่องราวเมื่อราตรีที่ผ่านมาก็วิ่งเข้ามาในหัวหรือมันเป็นความฝันกัน

    แอ๊ด...

    เสียงประตูไม้ชั่วคราวของเธอถูกเปิดออก เป็นชายผมยาว ดวงตาสีรูบี้ ผิวขาวซีดมีร่องรอยขีดข่วนเต็มแขนและแผ่นหลัง เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าเป็นคนทำด้วยตัวเอง ทำเอาร่างกายแข็งค้าง

    มันยากเกินจะรับไหวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะหลงเข้ามาในที่ที่ไม่ใช่โลกเดิม หรือความจริงเธออาจตายไปแล้วก็ได้ ไม่ว่าจะทฤษฎีไหนก็กลายเป็นเธอไม่ได้อยู่บนโลกปกติใบเดิมอีกแล้ว แต่เป็นโลกที่เธอไม่เคยอยู่ ไม่มีผู้คนเพื่อนหรือใครที่เธอรู้จัก และอีกมากมายที่เธอไม่เคยพบเจอ

    หญิงสาวยกมือขึ้นกุมหัวตัวเองด้วยความเครียด การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาพร้อมกับความเครียดและความสับสนเสมอ 

    การใช้ชีวิตในโลกที่แตกต่างมันยากเกินไป เธอยังจำเรื่องน่ากลัวที่ผ่านมาตลอดหลังจากเธอตื่นขึ้นมาอยู่ในโลกนี้ได้หากมีเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกล่ะ 

    เธอเงยหน้ามองชายที่ยืนมองเธออยู่นาน

    ชายหนุ่มที่เหมือนจะรับรู้ได้ถึงความหวาดระแวงก็ถอยหลังเล็กน้อย

    "นาย..."

    ชายหนุ่มตรงหน้ามีท่าทีงงงวย ซินดี้จึงพยายามลุกขึ้นนั่ง ทำให้เธอได้รู้ว่าร่างกายของเธอมีเพียงแผ่นหนังนุ่มผืนบางเล็กคลุมตัวไว้เท่านั้น พอยันตัวลุกขึ้น หนังสัตว์ผืนบางก็ลงมากองที่เอวเธอแทน

    ความเย็นจากลมที่พัดมาโดนจุดอ่อนไหวทำเอาสะดุ้งรีบดึงแผ่นหนังขึ้นมาปิดหน้าอกทันที นอกจากนี้ยังรู้สึกแสบที่ช่องทางรักอีกต่างหาก

    สายตาเธอเหลือบมองท่อนเนื้อรำไรผ่านแผ่นหนังแสนสั้นของชายตรงหน้า มันใหญ่มากจริงๆ จะเจ็บก็ไม่แปลก
    ซินดี้สะบัดหัวไล่ความคิดประหลาดออกไป

    "ฟังฉันเข้าใจมั้ย"

    ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในมือของเขาถือห่อใบไม้ห่อใหญ่

    "นูกาอารูโอโดมารู" เขาตอบกลับด้วยภาษาประหลาดแทนภาษาที่เธอเข้าใจ ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าหมดความหวังแล้ว

    "บ้าฉิบ แค่กๆ" เสียงที่แหบจากพิษไข้ไอแห้งๆ ออกมา

    ชายหนุ่มสะดุ้งก่อนจะเดินเข้ามาหา เธอดันตัวถอยหลังจนติดผนังมองด้วยความหวาดระแวง เขาที่รู้ว่าหญิงสาวไม่ไว้ใจก็ยื่นห่อใบไม้ออกมาให้ดู

    เขาแกะห่อใบไม้ออกปรากฏดอกบัวสีชมพูบานสวยดอกใหญ่

    มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดดึงกลีบดอกชมพูมาบีบขย้ำรวมกันจนเป็นก้อนเล็กส่งให้เธอ เธอมองด้วยความไม่เข้าใจจนชายหนุ่มยื่นมาที่ปาก

    ทำให้รู้ว่าเขาต้องการให้เธอกินมัน ซินดี้ส่ายหน้าเม้มปากแน่น ไม่มีทางกินดอกบัวที่ถูกยำจนเละบนฝ่ามือเขาแน่

    "อูนูจาวานอ" เขาพูดภาษาประหลาดออกมา ก่อนจะพยายามจับใบหน้าเธอให้อ้าปากรับก้อนกลีบดอกบัวนั้น

    รสทั้งฝาดทั้งขมจนซินดี้คายทิ้งทันที ชายหนุ่มมองอย่างตกใจและเสียดายกองปฏิกูลที่เธอคายไว้

    เขามองไปที่หญิงสาวอย่างคาดโทษแล้วดึงกลีบดอกบัวที่เหลือขยี้จนเป็นก้อนกลมใหญ่กว่าครั้งที่แล้วยัดปากเธอไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่ปิดปากหญิงสาวไว้จนเธอต้องเคี้ยวกลืนพวกมันลงไปให้หมด

    รอยยิ้มพอใจของคนตรงหน้าทำเอาหญิงสาวโมโหกว่าเดิม

    "แหวะ ทำอะไรของนายห๊ะ"

    ไร้เสียงตอบรับ เขาทำเพียงจับจ้องมาที่ริมฝีปากที่กำลังใช้ลิ้นกวาดเอารสชาติขมออกจากริมฝีปาก ก่อนที่ซินดี้รู้สึกถึงแรงดุนดันที่ต้นขา

    บัดซบ นั้นขาที่สามรึไง มันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแถมเปิดมุ้งมาจ๊ะเอ๋เธออีก ทำเอาหญิงสาวตาโตค้าง

    เสียงท้องร้องเหมือนช่วยชีวิต ชายตัวโตจำใจถอยจากเธอแล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างเร่งรีบ

    ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับหอยที่ถูกย่างสุกบ้างไม่สุกบ้างและบางชิ้นที่ไหม้เกรียม มือที่แดงทั้งสองเหมือนโดนไฟลวก เมื่อเห็นอาหารซินดี้ก็ไม่ปฏิเสธ ยัดมันลงกระเพาะด้วยความหิวทันที โดยที่ชายหนุ่มนั่งมองอย่างเงียบๆ ถ้าเขาวางยาเธอคงตายไปแล้ว

    "นายคือกระต่ายตัวนั้นใช่มั้ย"

    แม้อยากจะพูดคุยแต่ก็ไม่เข้าใจกัน เลยต้องใช้ภาษามือในการสื่อสาร ซินดี้ยกมือทั้งสองข้างทำมือเป็นหูกระต่ายเหนือศีรษะ ก่อนจะชี้ไปที่ตัวเขา

    "กระต่ายน่ะ"

    "นายูยา"

    เขาทำหน้างง ก่อนเหมือนเข้าใจ ลุกขึ้นยืน ร่างของมนุษย์ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกระต่ายสีขาวตัวโต มันน่ามหัศจรรย์แต่ก็สยองแปลกๆ ถึงจะเตรียมใจมาแล้ว ก็อดตะลึงกับภาพตรงหน้าไม่ได้

    กระต่ายสีขาวกระโดดเข้ามาถูที่ต้นขาทำเอาซินดี้ตัวแข็งทื่อ ขนสีขาวนุ่มฟูจนเธอต้องยกมือไปสัมผัส
    เมื่อกระต่ายตัวโตเห็นว่าหญิงสาวสัมผัสมันมากขึ้น ก็กระโดดโถมตัวเข้าใส่พร้อมกลายร่างที่เป็นชายหนุ่มผิวขาวซีดจู่โจมฉกริมฝีปากที่จ้องมาเนิ่นนาน

    "อื้ออ"

    เมื่อบดขยี้ริมฝีปากจนพอใจ เขาก็ถอยออก สายตามองมาที่เธอทำเอาขนลุกเกรียว ก่อนจะจู่โจมเป็นครั้งที่สอง และอีกหลายๆ ครั้งต่อมา

     

     

     

    หลายวันมานี้ พ่อหนุ่มกระต่ายยักษ์ดูแลเธอดีมากจนรู้สึกเหมือนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ถ้าไม่รวมเรื่องนั้นที่เขาขยันทำเช้ากลางวันเย็นน่ะนะ

    การออกมานอกโพรงไม้อย่างสบายตัวครั้งนี้ทำให้ซินดี้รู้สึกหายจากไข้เป็นปลิดทิ้งแล้ว เสียงสายน้ำที่ไหลซู่ซ่ารอเธอไปล้างหน้าล้างตา

    ในตอนเช้าไวท์เข้าป่าไปพร้อมกับตะกร้าของเธอ ไวท์ เป็นชื่อที่เธอตั้งให้เขา

    เขาออกไปหาลูกไม้ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อให้กลับมาทันทำมื้อเช้า เขาทำตัวดั่งพ่อบ้านคอยดูแลทั้งอาหารการกิน การดูแลเธอตั้งแต่วันนั้น

    พอนึกแล้วก็รู้สึกดีไม่น้อยที่มีคนอยู่ด้วยในโลกที่เธอไม่รู้จักนี่ ถึงจะเป็นคนประหลาดครึ่งสัตว์ พูดจาไม่รู้เรื่อง วันๆ คิดแต่เรื่องลามกก็เถอะ

    "เฮ้อ" เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แต่เครียดไปก็ไม่ได้อะไร ไม่ได้ช่วยให้เธอกลับไปได้ ตอนนี้ทำได้เพียงแค่มีชีวิตรอดอย่างไม่ยากลำบากมากเกินไปก็พอแล้ว

    "ฮึม ฮึม ฮึม"

    ซินดี้ฮัมเพลงพลางวักน้ำล้างหน้าล้างตัวให้สดชื่น ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจโดยที่สายตากวาดมองบรรยากาศรอบๆ ก่อนที่เธอสะดุดตากับอะไรบางอย่าง

    ขนอ่อนตามแขนลุกพรึ่บเมื่อเห็นว่าคืออะไร

    ใยแมงมุมขนาดใหญ่ปรากฏประปรายตลอดแนวชายฝั่งต้นไม้เสียงการเคลื่อนไหวในป่าฝั่งตรงข้ามพร้อมเสียงครืดคราดทำเอาหญิงสาวขวัญผวา

    หรือเป็นเพราะเธอไปเผาบ้านมันกัน พวกมันถึงมาอยู่ที่นี่แทน!!!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×