คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : พระจันทร์ดวงที่ 16
ตึง!
พื้นดินสั่นสะเทือนด้วยน้ำหนักตัวของสัตว์กินพืชขนาดใหญ่หลายตันหลังมันถูกโจมตีจนนอนแน่นิ่ง
"ฝีมือข้าเป็นอย่างไร พอจะสู้บุตรหัวหน้าเผ่าได้หรือไม่" ลิเดียน่าอสูรเสือสายลมเอ่ยขึ้นเมื่อล้มเหยื่อตัวยักษ์ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่อสูรในเผ่าที่ถึงวัยเจริญพันธุ์ต้องออกล่าสัตว์ เป้าหมายยิ่งใหญ่ที่สุดในการล่าครั้งนี้คือการนำเนื้อชิ้นยักษ์กลับเผ่าเพื่อเป็นที่ยอมรับ
ลิเดียน่าอสูรเพศเมียถือเป็นหนึ่งในอสูรที่ถูกคาดหวังว่าจะได้ตำแหน่งที่สูงไม่น้อยทั้งระดับพลังและความสามารถ ต่างจากอสูรเสือสายลมอีกตนที่ติดตามมาด้วย
"เจ้าเก่งเกินไปแล้วลิเดียน่า" อารินเอ่ยด้วยความอิจฉา
นางเป็นอสูรที่มีการพัฒนาพลังได้น้อยกว่าอสูรตัวอื่นในวัยใกล้เคียงกัน แต่โชคดีที่มีสหายอย่างลิเดียน่าที่คอยช่วยเหลือ
"ไม่มีหรอกเก่งเกินน่ะ มีแต่ยิ่งเก่งยิ่งดี"
รอยยิ้มกว้างจนตาหยีของลิเดียน่าหุบลงทันทีที่เห็นสีหน้าของสหาย การล่าสัตว์นอกเผ่าครั้งแรกของทั้งสองถือเป็นการตัดสินชะตาชีวิตต่อจากนี้ไม่น้อย
เผ่าเสือสายลมที่มีจำนวนประชากรไม่มากแต่ถึงเช่นนั้นการล่าเพื่อให้เพียงพอต่อประชากรจึงต้องใช้คนที่มีความสามารถ หากในเผ่าเต็มไปด้วยอสูรที่ไร้ความสามารถก็ถือเป็นภาระหนึ่งของเผ่าที่จะนำไปสู่ความยากลำบาก จึงมีการจัดพิธีล่าของอสูรเจริญพันธุ์เพื่อคัดผู้ที่ไม่มีความสามารถออกจากเผ่า
"เจ้าไม่ต้องกังวลไป ยังเหลือเวลาอีกมาก อีกทั้งยังมีข้าที่คอยช่วยเหลือเจ้าอยู่นะ"
อารินพยักหน้าส่งยิ้มให้อย่างเข้าใจ
ลิเดียน่าเดินไปที่สัตว์กินพืชตัวใหญ่ที่นอนนิ่งใช้เชือกเถาวัลย์พันผูกที่ร่างของมันเพื่อนำกลับเผ่า
"ข้าช่วย"
ทั้งสองช่วยกันใช้เชือกเถาวัลย์หลายเส้นพันร่างของสัตว์ยักษ์อย่างแน่นหนาเพื่อให้แน่ใจว่าแข็งแรงมากพอที่จะไม่ขาดระหว่างทางกลับ
สายตาของลิเดียน่ามองไปเห็นหางขนาดใหญ่ของสัตว์กินพืชยักษ์ที่ส่วนปลายมีลักษณะเป็นลูกตุ้มขยับเล็กน้อยก็ตะโกนเตือนอารินที่อยู่ข้างๆ อย่างตกใจ
"อารินระวัง!"
เหยื่อที่คิดว่าสิ้นฤทธิ์ไปแล้วฟื้นตื่นขึ้นใช้หางซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวฟาดเอาร่างของทั้งสองกลิ้งไปคนละทาง อารินถูกกระแทกชนเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ ในขณะที่ร่างของลิเดียน่าถูกกระแทกตกลงไปในสายน้ำไหลเชี่ยวจนพัดเอาดินโคนในน้ำขึ้นขุ่นไปหมด
แขนข้างหนึ่งของลิเดียน่าคว้าเกาะกิ่งไม้เหนียวเต็มไปด้วยหนามแหลมคม ส่วนอีกข้างกลับไร้ความรู้สึกจากการถูกฟาดโดยตรงอย่างแรงจนกระดูกหัก
หญิงสาวผิวซีดที่จุกจากแรงกระแทกกับต้นไม้พยายามหยัดกายลุกขึ้นเดินเข้ามาบริเวณริมฝั่งน้ำที่ไหลเชี่ยว อารินดึงกระชากเถาวัลย์ใกล้มือเส้นหนึ่งที่พอจะช่วยดึงสหายของตนออกจากน้ำที่ไหลเชี่ยวได้
ลิเดียน่าที่พยายามจับกิ่งไม้แน่นแม้หนามแหลมคมของมันจะแทงทะลุมือนางจนน้ำขุ่นมัวผสมสีแดงฉาน
ดวงตาล้ามองไปยังร่างของสหายที่ยืนนิ่งมองเธอพร้อมเถาวัลย์ในมือแต่กลับไร้ท่าทีช่วยเหลือ
"แค่กๆ อา...ริน"
ด้วยความจุกและแรงของกระแสน้ำเชี่ยวทำให้ลิเดียน่าไรเรี่ยวแรงที่จะเกาะกิ่งไม้ต่อไป
"เฮือก!"
ซินดี้สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกำลังขาดหายใจจากการจมน้ำพร้อมความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด เรื่องก่อนหน้าที่เปรียบเสมือนความฝันที่เธอถูกเรียกด้วยนามของลิเดียน่าจารึกลงก้นบึ้งของจิตใจ
รู้สึกจุกอกจากความรู้สึกที่ไม่คล้ายเป็นของตนเองแน่นเต็มอกดวงตาร้อนผ่าว ลิเดียน่าเธอคนนั้นตายอย่างโดดเดี่ยวและเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเกินกว่าเธอจะรับไหวจากความทรงจำสุดท้าย
แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นคือความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างคล้ายกับว่าเธอไม่ได้รับมาแค่ความทรงจำและความรู้สึกสุดท้ายของอสูรเสือสายลมเท่านั้น แต่ซินดี้ยังรู้สึกได้ถึงความสามารถอื่นของลิเดียน่าด้วย
กุกกัก
ลิชท์ที่กลับมาพร้อมข้าวของมากมายถูกวางไว้หน้าบ้าน ส่วนตัวก็ขึ้นไปหาตัวเมียของเขา
ซินดี้ที่เห็นลิชท์จากช่องประตูเล็กก็สลัดทุกอย่างที่คิดในหัวออก แต่แล้วก็ต้องตัวโค้งงอด้วยอาการปวดหน่วงที่ท้องน้อย เธอกุมท้องแน่น สัมผัสเปียกชื้นเหนอะที่ต้นขาทำให้เธอก้มลงมอง
มาเป็นอะไรตอนนี้เนี่ย
"ตัวเมีย"
ลิชท์ที่เปิดประตูมาเจอเข้ากับร่างเล็กที่ตัวโค้งงอใบหน้าซีดไม่ตื่นตกใจเท่าสายเลือดที่ไหลรินที่ต้นขาขาว
"เจ้าบาดเจ็บ ข้าจะพาเจ้าไปหากระต่ายเฒ่า"
เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความร้อนรน พุ่งไปอุ้มร่างบางขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ฉะ ข้าไม่เป็นอะไร"
เสียงหวานที่เอ่ยเป็นภาษาอสูรด้วยความชัดถ้อยชัดคำทำให้ลิชท์ตัวแข็งค้าง
ภายในโพรงดินมืดที่มีแสงสว่างเล็กน้อยส่องเข้ามามีเพียงความเงียบและเสียงสมุนไพรที่ถูกโขกจนละเอียด
ซินดี้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดจมูกตัวเอง น้ำตาคลอเบ้าไปด้วยความพะอืดพะอมจากกลิ่นเขียวของสมุนไพร ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถูกกุมไว้ด้วยมือใหญ่
ซินดี้ถูกชายร่างยักษ์ข้างกายอุ้มมาที่โพรงดินเดิมที่เคยมาก่อนหน้าอย่างรีบร้อน หยาดเหงื่อผุดทั่วกรอบหน้าของชายที่มีสีหน้ากังวลจนเธอทำตัวไม่ถูก แถมก่อนหน้านี้เธอยังเกือบถูกหญิงชราถลกกระโปรงดูสาเหตุของเลือดอีกด้วย โชคดีที่เธอกระโดดหนีทัน
ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้จักประจำเดือน จึงคิดว่าเธอมีแผล ซินดี้ต้องใช้เวลาหลายนาทีในการอธิบายว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมันเป็นอาการปกติของเธอที่จะเป็นทุกเดือนไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
"นอกจากปวดท้องและมีเลือดออกที่อวัยวะเพศแล้วมีอะไรอีกรึไม่" คุตี หญิงชราเอ่ยพลางลงน้ำสมุนไพรสีเขียวเข้มส่งให้เธอ
ซินดี้ส่ายหน้าทันทีซึ่งหมายถึงปฏิเสธน้ำเขียวนั้นด้วย ทำให้มันตกไปอยู่ในมือของชายหนุ่มข้างๆ แทน
"หากไม่มีอะไรแล้วก็ตอบมา ว่าเจ้าเป็นใคร ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่พูดภาษาอสูรบกกัน"
ซินดี้ทำสายตาเลิ่กลั่กเมื่อเจอคำถามที่ภาวนาไม่อยากเจอ
"นอกจากนี้ข้ายังสัมผัสได้ถึงมวลพลังที่เปลี่ยนไปด้วย"
หญิงชราหรี่ตามองอย่างสงสัย เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของเผ่าย่อมต้องคอยดูแลเผ่าจากผู้บุกรุกเช่นกัน
"ตอบมา!"
"ข้า..."
"ข้าชื่อซินดี้ มาจาก...ที่ห่างไกลมากๆ และที่นั่นไม่ได้ใช้ภาษาเหมือนที่นี่"
ซินดี้เลือกที่จะตอบความจริงเพียงบางส่วนตามลางสังหรณ์ของตน เนื่องจากกลัวว่าหากตอบอะไรผิดพลาดไปจะถูกเอาไปบูชายัญแทน
"ข้าเพิ่งกลับมาจำได้เมื่อไม่นานนี้ว่าข้าพูดภาษาที่นี่ได้"
"เจ้าจะบอกว่าไม่มีความทรงจำที่ผ่านมางั้นรึ"
"ใช่" ซินดี้พยักหน้าคอแทบหักเมื่อเห็นทางรอด
"เจ้ามีร่างสัตว์อสูรอะไร"
"ข้าจำไม่ได้ เอ่อ...อาจจะเป็นหมา ไม่ก็เสือมั้ง ข้าจำอะไรไม่ได้เลย" หญิงชราที่จ้องเขม็งมาที่เธอทำให้เธอเลือกที่จะตอบมั่วๆ ออกไป
"งั้นเจ้าลองแปลงร่าง" ลิชท์เอ่ยขึ้นทำเอาซินดี้หันขวับไป
"ข้าแปลงร่างไม่ได้"
เธอจะไปแปลงร่างได้ไงกัน เธอเป็นคนเป็นมนุษย์ธรรมดาจากดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก
"จิตอสูรของนางยังไม่แข็งแรง ข้าเห็นรอยร้าวมากมายจากครั้งก่อนที่มีเพียงความว่างเปล่า"
ซินดี้เอามือทาบอกเธอสัมผัสได้เช่นกันถึงมวลพลังงานบางอย่างในตัวหลังได้รับความทรงจำจากหินประหลาดนั้น ก้อนผลึกสีม่วงอ่อนขนาดเล็กที่มีรอยแตกอย่างที่หญิงชราว่ามันเล็กเท่าไข่มุกเคลื่อนไหววนไปมาเป็นวงกลมช้าๆ
หลังกลับถึงบ้านไม้ไผ่หลังน้อยซินดี้ก็ได้แต่นั่งบิดไปบิดมาโดยที่มีลิชท์อสูรกระต่ายที่อยู่ด้วยกันมานานและเพิ่งรู้ชื่อคอยใช้หนังสัตว์เช็ดตัวให้
เธอทำตัวไม่ถูกด้วยอสูรกระต่ายเผือกตรงหน้าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ่ยเรียกชื่อเธอไม่หยุด ไม่รู้จะเรียกอะไรนัก
"ซินดี้...ตัวเมียของข้า" ขนอ่อนเธอลุกเกลียวชักแขนที่ถูกเช็ดด้วยหนังสัตว์นุ่มออก
"หยุดพูดได้แล้ว"
เสียงหัวเราะในลำคอทำเอาซินดี้หันไปมองตาเขียว ตอนที่พูดกันไม่รู้เรื่องก็คิดไว้ว่าชายตรงหน้าต้องไม่ธรรมดาแน่แต่ไม่คิดว่าจะกวนประสาทเธอได้ขนาดนี้
มือใหญ่วางมือลงที่ต้นขาขาว สอดมือเข้าใต้กระโปรงหนังสัตว์สั้น ซินดี้สะดุ้งตัวรีบจับมือแกร่งให้หยุดอยู่เพียงข้างนอกไม่เข้าไปลึกกว่านี้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"ข้ายังเลือดออกอยู่นะ"
"ข้าแค่จะดูแผลเจ้า"
ซินดี้ที่คิดไปไกลอยากจะเอาหัวมุดกระโปรงตัวเอง
"ก็บอกว่าไม่ใช่แผลไง"
"เลือดเจ้าออกมากขนาดนี้เจ้าจะแย่เอาได้ หากเจ้าเขินอายที่จะรักษากับกระต่ายเฒ่าข้าจะรักษาให้เอง ข้ามียาที่พอจะรักษาได้"
ซินดี้ที่เหนื่อยจะอธิบายก็ปล่อยให้ลิชท์เดินออกไปเพื่อหยิบยาที่เขาใช้ประจำมาให้เธอ
ไม่นานลิชท์ก็กลับมาพร้อมกับโถดินเผาภายในเต็มไปด้วยผลึกสีขาวที่ทำให้ซินดี้ตาลุกวาว
"เกลือทะเล มันช่วยห้ามเลือดได้ดี"
หญิงสาวนึกตามแผลสดๆ กับเกลือแค่คิดเธอก็ขนลุกแล้ว แสบถึงกระดูกสันหลังแน่
"ข้าขอได้มั้ย"
"มันเป็นของเจ้า อะไรที่เป็นของข้าล้วนเป็นของเจ้าทั้งนั้น"
ซินดี้ที่กอดโถแน่นอยากจะทุ่มมันทิ้งทันทีเมื่อได้ยินประโยคคำตอบ ก่อนจะพยายามเปลี่ยนไปเรื่องอื่น
"ลิทช์ข้าอยากได้หนังสัตว์ที่ซับน้ำดีๆ สักผืน"
"ข้าจะไปเอามาให้"
ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมนก่อนจะเดินออกไปเอาหนังสัตว์มาให้ตัวเมียของเขาตามคำขอ
หนังสัตว์ขนนุ่มหนาไม่ทราบชนิดผืนใหญ่ถูกส่งมาให้ซินดี้ เธอให้ลิชท์ตัดมันเป็นทรงนาฬิกาทรายที่มีสายยาวที่มุมทั้งสี่
หนังสัตว์ผืนใหญ่ตัดทำได้หลายตัวก่อนจะถูกนำไปซักด้วยน้ำที่ถูกต้ม กลายเป็นกางเกงซับเลือดทรงบิกินี่ผูกข้าง
ชีวิตในยุคที่ไม่มีนวัตกรรมคอยอำนวยความสะดวกมันลำบากจริงๆ
ยามรุ่งเช้าของวันหนึ่งเสียงตะโกนเรียกจากหน้าบ้านไม้ไผ่ทำให้ซินดี้ที่กำลังนอนกอดก่ายลิชท์อยู่สะดุ้งตัวตื่น
"นอนต่อเถอะ ข้าจะออกไปดูเอง" ลิชท์ลูบหัวกล่อมให้ตัวเมียนอนด้วยเห็นว่าพระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นเต็มดวง
เมื่อเปิดประตูออกมา ก็พบเข้ากับราฟต้นเสียงตะโกนเรียก
"ท่านหัวหน้าเผ่ากลับมาแล้ว และให้เจ้ากับตัวเมียไปพบด่วน"
"เจ้าระวังตัวด้วย หัวหน้าเผ่าดูอารมณ์ไม่ดีนัก"
ความคิดเห็น