NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นฉันถูกลากเข้าป่า

    ลำดับตอนที่ #16 : พระจันทร์ดวงที่ 16

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 67


    ตึง!

    พื้นดินสั่นสะเทือนด้วยน้ำหนักตัวของสัตว์กินพืชขนาดใหญ่หลายตันหลังมันถูกโจมตีจนนอนแน่นิ่ง

    "ฝีมือข้าเป็นอย่างไร พอจะสู้บุตรหัวหน้าเผ่าได้หรือไม่" ลิเดียน่าอสูรเสือสายลมเอ่ยขึ้นเมื่อล้มเหยื่อตัวยักษ์ได้

    นี่เป็นครั้งแรกที่อสูรในเผ่าที่ถึงวัยเจริญพันธุ์ต้องออกล่าสัตว์ เป้าหมายยิ่งใหญ่ที่สุดในการล่าครั้งนี้คือการนำเนื้อชิ้นยักษ์กลับเผ่าเพื่อเป็นที่ยอมรับ

    ลิเดียน่าอสูรเพศเมียถือเป็นหนึ่งในอสูรที่ถูกคาดหวังว่าจะได้ตำแหน่งที่สูงไม่น้อยทั้งระดับพลังและความสามารถ ต่างจากอสูรเสือสายลมอีกตนที่ติดตามมาด้วย

    "เจ้าเก่งเกินไปแล้วลิเดียน่า" อารินเอ่ยด้วยความอิจฉา

    นางเป็นอสูรที่มีการพัฒนาพลังได้น้อยกว่าอสูรตัวอื่นในวัยใกล้เคียงกัน แต่โชคดีที่มีสหายอย่างลิเดียน่าที่คอยช่วยเหลือ

    "ไม่มีหรอกเก่งเกินน่ะ มีแต่ยิ่งเก่งยิ่งดี"

    รอยยิ้มกว้างจนตาหยีของลิเดียน่าหุบลงทันทีที่เห็นสีหน้าของสหาย การล่าสัตว์นอกเผ่าครั้งแรกของทั้งสองถือเป็นการตัดสินชะตาชีวิตต่อจากนี้ไม่น้อย

    เผ่าเสือสายลมที่มีจำนวนประชากรไม่มากแต่ถึงเช่นนั้นการล่าเพื่อให้เพียงพอต่อประชากรจึงต้องใช้คนที่มีความสามารถ หากในเผ่าเต็มไปด้วยอสูรที่ไร้ความสามารถก็ถือเป็นภาระหนึ่งของเผ่าที่จะนำไปสู่ความยากลำบาก จึงมีการจัดพิธีล่าของอสูรเจริญพันธุ์เพื่อคัดผู้ที่ไม่มีความสามารถออกจากเผ่า

    "เจ้าไม่ต้องกังวลไป ยังเหลือเวลาอีกมาก อีกทั้งยังมีข้าที่คอยช่วยเหลือเจ้าอยู่นะ"

    อารินพยักหน้าส่งยิ้มให้อย่างเข้าใจ

    ลิเดียน่าเดินไปที่สัตว์กินพืชตัวใหญ่ที่นอนนิ่งใช้เชือกเถาวัลย์พันผูกที่ร่างของมันเพื่อนำกลับเผ่า

    "ข้าช่วย"

    ทั้งสองช่วยกันใช้เชือกเถาวัลย์หลายเส้นพันร่างของสัตว์ยักษ์อย่างแน่นหนาเพื่อให้แน่ใจว่าแข็งแรงมากพอที่จะไม่ขาดระหว่างทางกลับ

    สายตาของลิเดียน่ามองไปเห็นหางขนาดใหญ่ของสัตว์กินพืชยักษ์ที่ส่วนปลายมีลักษณะเป็นลูกตุ้มขยับเล็กน้อยก็ตะโกนเตือนอารินที่อยู่ข้างๆ อย่างตกใจ

    "อารินระวัง!"

    เหยื่อที่คิดว่าสิ้นฤทธิ์ไปแล้วฟื้นตื่นขึ้นใช้หางซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวฟาดเอาร่างของทั้งสองกลิ้งไปคนละทาง อารินถูกกระแทกชนเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ ในขณะที่ร่างของลิเดียน่าถูกกระแทกตกลงไปในสายน้ำไหลเชี่ยวจนพัดเอาดินโคนในน้ำขึ้นขุ่นไปหมด

    แขนข้างหนึ่งของลิเดียน่าคว้าเกาะกิ่งไม้เหนียวเต็มไปด้วยหนามแหลมคม ส่วนอีกข้างกลับไร้ความรู้สึกจากการถูกฟาดโดยตรงอย่างแรงจนกระดูกหัก

    หญิงสาวผิวซีดที่จุกจากแรงกระแทกกับต้นไม้พยายามหยัดกายลุกขึ้นเดินเข้ามาบริเวณริมฝั่งน้ำที่ไหลเชี่ยว อารินดึงกระชากเถาวัลย์ใกล้มือเส้นหนึ่งที่พอจะช่วยดึงสหายของตนออกจากน้ำที่ไหลเชี่ยวได้

    ลิเดียน่าที่พยายามจับกิ่งไม้แน่นแม้หนามแหลมคมของมันจะแทงทะลุมือนางจนน้ำขุ่นมัวผสมสีแดงฉาน

    ดวงตาล้ามองไปยังร่างของสหายที่ยืนนิ่งมองเธอพร้อมเถาวัลย์ในมือแต่กลับไร้ท่าทีช่วยเหลือ

    "แค่กๆ อา...ริน"

    ด้วยความจุกและแรงของกระแสน้ำเชี่ยวทำให้ลิเดียน่าไรเรี่ยวแรงที่จะเกาะกิ่งไม้ต่อไป

    "เฮือก!"

    ซินดี้สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกำลังขาดหายใจจากการจมน้ำพร้อมความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด เรื่องก่อนหน้าที่เปรียบเสมือนความฝันที่เธอถูกเรียกด้วยนามของลิเดียน่าจารึกลงก้นบึ้งของจิตใจ

    รู้สึกจุกอกจากความรู้สึกที่ไม่คล้ายเป็นของตนเองแน่นเต็มอกดวงตาร้อนผ่าว ลิเดียน่าเธอคนนั้นตายอย่างโดดเดี่ยวและเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเกินกว่าเธอจะรับไหวจากความทรงจำสุดท้าย

    แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นคือความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างคล้ายกับว่าเธอไม่ได้รับมาแค่ความทรงจำและความรู้สึกสุดท้ายของอสูรเสือสายลมเท่านั้น แต่ซินดี้ยังรู้สึกได้ถึงความสามารถอื่นของลิเดียน่าด้วย

    กุกกัก

    ลิชท์ที่กลับมาพร้อมข้าวของมากมายถูกวางไว้หน้าบ้าน ส่วนตัวก็ขึ้นไปหาตัวเมียของเขา

    ซินดี้ที่เห็นลิชท์จากช่องประตูเล็กก็สลัดทุกอย่างที่คิดในหัวออก แต่แล้วก็ต้องตัวโค้งงอด้วยอาการปวดหน่วงที่ท้องน้อย เธอกุมท้องแน่น สัมผัสเปียกชื้นเหนอะที่ต้นขาทำให้เธอก้มลงมอง

    มาเป็นอะไรตอนนี้เนี่ย

    "ตัวเมีย"

    ลิชท์ที่เปิดประตูมาเจอเข้ากับร่างเล็กที่ตัวโค้งงอใบหน้าซีดไม่ตื่นตกใจเท่าสายเลือดที่ไหลรินที่ต้นขาขาว

    "เจ้าบาดเจ็บ ข้าจะพาเจ้าไปหากระต่ายเฒ่า"

    เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความร้อนรน พุ่งไปอุ้มร่างบางขึ้นอย่างรวดเร็ว

    "ฉะ ข้าไม่เป็นอะไร"

    เสียงหวานที่เอ่ยเป็นภาษาอสูรด้วยความชัดถ้อยชัดคำทำให้ลิชท์ตัวแข็งค้าง

     

    ภายในโพรงดินมืดที่มีแสงสว่างเล็กน้อยส่องเข้ามามีเพียงความเงียบและเสียงสมุนไพรที่ถูกโขกจนละเอียด

    ซินดี้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดจมูกตัวเอง น้ำตาคลอเบ้าไปด้วยความพะอืดพะอมจากกลิ่นเขียวของสมุนไพร ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถูกกุมไว้ด้วยมือใหญ่

    ซินดี้ถูกชายร่างยักษ์ข้างกายอุ้มมาที่โพรงดินเดิมที่เคยมาก่อนหน้าอย่างรีบร้อน หยาดเหงื่อผุดทั่วกรอบหน้าของชายที่มีสีหน้ากังวลจนเธอทำตัวไม่ถูก แถมก่อนหน้านี้เธอยังเกือบถูกหญิงชราถลกกระโปรงดูสาเหตุของเลือดอีกด้วย โชคดีที่เธอกระโดดหนีทัน

    ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้จักประจำเดือน จึงคิดว่าเธอมีแผล ซินดี้ต้องใช้เวลาหลายนาทีในการอธิบายว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมันเป็นอาการปกติของเธอที่จะเป็นทุกเดือนไม่ได้อันตรายถึงชีวิต

    "นอกจากปวดท้องและมีเลือดออกที่อวัยวะเพศแล้วมีอะไรอีกรึไม่" คุตี หญิงชราเอ่ยพลางลงน้ำสมุนไพรสีเขียวเข้มส่งให้เธอ

    ซินดี้ส่ายหน้าทันทีซึ่งหมายถึงปฏิเสธน้ำเขียวนั้นด้วย ทำให้มันตกไปอยู่ในมือของชายหนุ่มข้างๆ แทน

    "หากไม่มีอะไรแล้วก็ตอบมา ว่าเจ้าเป็นใคร ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่พูดภาษาอสูรบกกัน"

    ซินดี้ทำสายตาเลิ่กลั่กเมื่อเจอคำถามที่ภาวนาไม่อยากเจอ

    "นอกจากนี้ข้ายังสัมผัสได้ถึงมวลพลังที่เปลี่ยนไปด้วย"
    หญิงชราหรี่ตามองอย่างสงสัย เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของเผ่าย่อมต้องคอยดูแลเผ่าจากผู้บุกรุกเช่นกัน

    "ตอบมา!"

    "ข้า..."

    "ข้าชื่อซินดี้ มาจาก...ที่ห่างไกลมากๆ และที่นั่นไม่ได้ใช้ภาษาเหมือนที่นี่"
    ซินดี้เลือกที่จะตอบความจริงเพียงบางส่วนตามลางสังหรณ์ของตน เนื่องจากกลัวว่าหากตอบอะไรผิดพลาดไปจะถูกเอาไปบูชายัญแทน

    "ข้าเพิ่งกลับมาจำได้เมื่อไม่นานนี้ว่าข้าพูดภาษาที่นี่ได้"

    "เจ้าจะบอกว่าไม่มีความทรงจำที่ผ่านมางั้นรึ"

    "ใช่" ซินดี้พยักหน้าคอแทบหักเมื่อเห็นทางรอด

    "เจ้ามีร่างสัตว์อสูรอะไร"

    "ข้าจำไม่ได้ เอ่อ...อาจจะเป็นหมา ไม่ก็เสือมั้ง ข้าจำอะไรไม่ได้เลย" หญิงชราที่จ้องเขม็งมาที่เธอทำให้เธอเลือกที่จะตอบมั่วๆ ออกไป

    "งั้นเจ้าลองแปลงร่าง" ลิชท์เอ่ยขึ้นทำเอาซินดี้หันขวับไป

    "ข้าแปลงร่างไม่ได้"

    เธอจะไปแปลงร่างได้ไงกัน เธอเป็นคนเป็นมนุษย์ธรรมดาจากดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก

    "จิตอสูรของนางยังไม่แข็งแรง ข้าเห็นรอยร้าวมากมายจากครั้งก่อนที่มีเพียงความว่างเปล่า"

    ซินดี้เอามือทาบอกเธอสัมผัสได้เช่นกันถึงมวลพลังงานบางอย่างในตัวหลังได้รับความทรงจำจากหินประหลาดนั้น ก้อนผลึกสีม่วงอ่อนขนาดเล็กที่มีรอยแตกอย่างที่หญิงชราว่ามันเล็กเท่าไข่มุกเคลื่อนไหววนไปมาเป็นวงกลมช้าๆ



     

    หลังกลับถึงบ้านไม้ไผ่หลังน้อยซินดี้ก็ได้แต่นั่งบิดไปบิดมาโดยที่มีลิชท์อสูรกระต่ายที่อยู่ด้วยกันมานานและเพิ่งรู้ชื่อคอยใช้หนังสัตว์เช็ดตัวให้

    เธอทำตัวไม่ถูกด้วยอสูรกระต่ายเผือกตรงหน้าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ่ยเรียกชื่อเธอไม่หยุด ไม่รู้จะเรียกอะไรนัก

    "ซินดี้...ตัวเมียของข้า" ขนอ่อนเธอลุกเกลียวชักแขนที่ถูกเช็ดด้วยหนังสัตว์นุ่มออก

    "หยุดพูดได้แล้ว"

    เสียงหัวเราะในลำคอทำเอาซินดี้หันไปมองตาเขียว ตอนที่พูดกันไม่รู้เรื่องก็คิดไว้ว่าชายตรงหน้าต้องไม่ธรรมดาแน่แต่ไม่คิดว่าจะกวนประสาทเธอได้ขนาดนี้

    มือใหญ่วางมือลงที่ต้นขาขาว สอดมือเข้าใต้กระโปรงหนังสัตว์สั้น ซินดี้สะดุ้งตัวรีบจับมือแกร่งให้หยุดอยู่เพียงข้างนอกไม่เข้าไปลึกกว่านี้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

    "ข้ายังเลือดออกอยู่นะ"

    "ข้าแค่จะดูแผลเจ้า"

    ซินดี้ที่คิดไปไกลอยากจะเอาหัวมุดกระโปรงตัวเอง

    "ก็บอกว่าไม่ใช่แผลไง"

    "เลือดเจ้าออกมากขนาดนี้เจ้าจะแย่เอาได้ หากเจ้าเขินอายที่จะรักษากับกระต่ายเฒ่าข้าจะรักษาให้เอง ข้ามียาที่พอจะรักษาได้"

    ซินดี้ที่เหนื่อยจะอธิบายก็ปล่อยให้ลิชท์เดินออกไปเพื่อหยิบยาที่เขาใช้ประจำมาให้เธอ

    ไม่นานลิชท์ก็กลับมาพร้อมกับโถดินเผาภายในเต็มไปด้วยผลึกสีขาวที่ทำให้ซินดี้ตาลุกวาว

    "เกลือทะเล มันช่วยห้ามเลือดได้ดี"

    หญิงสาวนึกตามแผลสดๆ กับเกลือแค่คิดเธอก็ขนลุกแล้ว แสบถึงกระดูกสันหลังแน่

    "ข้าขอได้มั้ย"

    "มันเป็นของเจ้า อะไรที่เป็นของข้าล้วนเป็นของเจ้าทั้งนั้น"

    ซินดี้ที่กอดโถแน่นอยากจะทุ่มมันทิ้งทันทีเมื่อได้ยินประโยคคำตอบ ก่อนจะพยายามเปลี่ยนไปเรื่องอื่น

    "ลิทช์ข้าอยากได้หนังสัตว์ที่ซับน้ำดีๆ สักผืน"

    "ข้าจะไปเอามาให้"

    ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมนก่อนจะเดินออกไปเอาหนังสัตว์มาให้ตัวเมียของเขาตามคำขอ

    หนังสัตว์ขนนุ่มหนาไม่ทราบชนิดผืนใหญ่ถูกส่งมาให้ซินดี้ เธอให้ลิชท์ตัดมันเป็นทรงนาฬิกาทรายที่มีสายยาวที่มุมทั้งสี่

    หนังสัตว์ผืนใหญ่ตัดทำได้หลายตัวก่อนจะถูกนำไปซักด้วยน้ำที่ถูกต้ม กลายเป็นกางเกงซับเลือดทรงบิกินี่ผูกข้าง

    ชีวิตในยุคที่ไม่มีนวัตกรรมคอยอำนวยความสะดวกมันลำบากจริงๆ

     

    ยามรุ่งเช้าของวันหนึ่งเสียงตะโกนเรียกจากหน้าบ้านไม้ไผ่ทำให้ซินดี้ที่กำลังนอนกอดก่ายลิชท์อยู่สะดุ้งตัวตื่น

    "นอนต่อเถอะ ข้าจะออกไปดูเอง" ลิชท์ลูบหัวกล่อมให้ตัวเมียนอนด้วยเห็นว่าพระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นเต็มดวง

    เมื่อเปิดประตูออกมา ก็พบเข้ากับราฟต้นเสียงตะโกนเรียก

    "ท่านหัวหน้าเผ่ากลับมาแล้ว และให้เจ้ากับตัวเมียไปพบด่วน"

    "เจ้าระวังตัวด้วย หัวหน้าเผ่าดูอารมณ์ไม่ดีนัก"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×