NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นฉันถูกลากเข้าป่า

    ลำดับตอนที่ #15 : พระจันทร์ดวงที่ 15

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 67


    ซินดี้ยืนมองวิวน้ำตกผ่านหน้าต่างบานใหญ่เมื่อได้ยินเสียงไม้ลั่นจากการลงน้ำหนักเท้าก็หันไปมอง ใบหน้าชายหนุ่มยิ้มกว้างเข้าโอบกอดซุกหน้าลงกับซอกคอขาว

    ลิชท์เสพติดกลิ่นกายของตัวเมียในอ้อมกอดมากจนไม่อยากออกห่างแม้แต่วินาทีเดียว

    ซินดี้มองออกไปนอกหน้าต่างเมื่อไม่เห็นคนที่ช่วยสร้างบ้านตลอดสองวันก็คลายกังวลปล่อยให้ชายหนุ่มกอดจนพอใจ

    มือบางยกขึ้นสัมผัสเส้นผมนุ่มสีขาวสว่างที่คลอเคลียจั๊กจี้ สัมผัสนั้นต่างจากผมของเธอลิบ ตอนนี้ผมเธอทั้งแห้งกระด้างและยุ่งเหยิงจากการไม่ได้ทำความสะอาดด้วยแชมพูและทรีทเม้นท์มาร่วมเดือน แต่เส้นผมขาวที่ยาวกว่าซินดี้เกือบสองเท่าไม่น่าเคยได้ใช้แชมพูกลับนุ่มสลวยจนน่าอิจฉา

    ว่าไปแล้วเวลามันผ่านไปเร็วจนน่าใจหาย เธอไม่เคยคิดว่าจะอยู่ในป่าได้นานขนาดนี้ แต่ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีนี้ให้กับชายเจ้าของอ้อมกอดอุ่น

    ซินดี้รู้สึกดีไม่น้อยที่มีเขาอยู่ด้วย แต่บางครั้งเธอก็สับสน เพราะเธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขาและที่นี่

    แพขนตางอนยาวกะพริบตาจ้องมองใบหน้าเล็กที่เหม่อลอยบ้าง ทำหน้ายู่บ้าง แต่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มักจะงดงามในสายตาเขาเสมอ

    นานสองนานกว่าที่อ้อมแขนใหญ่จะปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ ช่วงบ่ายต่อจากนี้ลิชท์ตัดสินใจที่จะเข้าเผ่าไปคนเดียวเพื่อแจ้งตำแหน่งการสร้างรังและขนข้าวของจากโพรงดินที่อาศัยหลับนอนเก่ามาที่นี่ ซึ่งมันอยู่ไกลออกไปนอกเขตเผ่าเล็กน้อยเพราะเป็นที่สำหรับเวรการเฝ้าระวังรอบเผ่า

     

    ร่างสูงกำยำของลิชท์หยุดอยู่หน้ากระโจมหญ้าแห้ง ด้านหน้าปากทางเข้ามีอสูรกระต่ายเฝ้ายามอยู่

    "ข้ามาแจ้งเรื่องการสร้างรังที่ต้นน้ำตก"

    "เข้ามา"

    เสียงทุ้มเข้มจากภายในกระโจมทำให้อสูรเฝ้ายามทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะหลีกทางให้ลิชท์เข้าไปด้านในตามหน้าที่

    "เจ้ากลับมาแล้วรึ"

    หญิงสาวร่างอวบอั๋นเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าเย้ายวน ผืนหนังสัตว์ที่ดีที่สุดพร้อมด้วยเครื่องประดับลูกปัดไม้หายากประโคมทั่วตัว ดูงดงามน่าค้นหา

    นั่นเป็นความคิดของเขาในกาลก่อน ภาพซ้อนของตัวเมียตัวเล็กของเขา นางงดงามกว่าเป็นไหนๆ ยิ่งตอนไม่มีหนังสัตว์ปกปิดกายแล้ว...ยิ่งงดงามจนทำเอาเขาหายใจติดขัดเพียงแค่นึก

    เสียงกระแอมใหญ่ของบุรุษที่อยู่ร่วมบริเวณดังขึ้นดึงสติของลิชท์ให้กลับมาอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน

    ดอนเดินเข้ามาอยู่ข้างกายมารูนน่าพลางใช้มือนวดเค้นสะโพกขาวแสดงความเป็นเจ้าของ กระต่ายอสูรเพศเมียครางต่ำหันไปลูบคลำหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ความเขินอายพลางชายตาส่งไปที่ชายอีกคนที่ยืนมองร่างสองร่างนัวเนียแนบชิดกาย

    "ข้ามาแจ้งเรื่องการสร้างรัง"

    มารูนน่าคล้ายได้ยินสิ่งระคายหู มือที่กำลังลูบคลำเร้าอารมณ์ผลักอกแกร่งของคู่สัมพันธ์คนล่าสุดของตนออกอย่างไม่พอใจ

    นางคลอเคลียกับคู่สัมพันธ์ต่อหน้าเขาถือเป็นการเชิญชวนขนาดนี้เหตุใดจึงนิ่งเฉยไม่ร่วมด้วย อีกทั้งยังเอ่ยธุระด้วยน้ำเสียงที่คล้ายไม่ใส่ใจ เขาเคยหลงใหลนางไม่ใช่หรือ

    "เหตุใดจึงแยกไปสร้างรังเอง"

    "ข้ากับคู่สัมพันธ์ของข้าต้องการความเป็นส่วนตัว"

    "ตัวเมียบ้าใบ้ที่อสูรในเผ่าลือกันน่ะหรือ"

    มารูนน่าได้ยินข่าวลือมาไม่น้อยเกี่ยวกับตัวเมียตัวใหม่ที่เข้ามาในเผ่า แต่นางไม่คิดว่าจะเป็นคู่สัมพันธ์อสูรกระต่ายเผือกที่เคยหลงใหลนางตนนี้

    ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ ลิชท์ถือเป็นอสูรกระต่ายระดับสูงไม่น้อยในเผ่าทั้งอายุยังไม่มาก รูปร่างหน้าตางดงาม เหมาะที่จะเป็นหนึ่งในคู่สัมพันธ์ของนางแต่กลับไปเป็นคู่สัมพันธ์ของตัวเมียไม่รู้ที่มาที่ไปและมีข่าวลือว่าบ้าใบ้งั้นหรือ

    "เหตุใดจึงทำเช่นนี้กันหรือน้อยใจที่ข้าทำพันธะคู่สัมพันธ์กับเขาก่อนเจ้า เช่นนั้นข้าทำให้เจ้าตอนนี้เลยก็ย่อมได้"

    มารูนน่าเดินเข้าประชิดตัวยกมือขึ้นหมายจะลูบไล้อกขาวกลับถูกปัดออกเสียงดังทั้งเกิดแรงผลักทำให้มารูนน่าถอยไปหลายก้าว ดีที่มีกระต่ายอสูรอีกตัวรับร่างไว้ได้

    "นางไม่ได้บ้าใบ้"

    ลิชท์เสียงดังขึ้นอย่างไม่พอใจกับคำกล่าวว่าของตัวเมียตรงหน้า

    "เจ้ากล้าเอามือสกปรกมาแตะต้องท่านมารูนน่ารึ"

    มารูนน่ายกมือขึ้นห้ามปรามดอนที่หมายจะเข้าไปสั่งสอนอสูรกระต่ายศัตรูหัวใจ

    "เห็นทีข้าคงมองเจ้าผิดไป"

    มารูนน่าเชิดใบหน้าขึ้นพลางมองกดลิชท์แสดงถึงชนชั้นที่สูงกว่าของตน

    "เรื่องรังและตัวเมียตนนั้นจะต้องมีการพิจารณาว่านางเหมาะสมที่จะอยู่ที่นี่หรือไม่ หวังว่าเจ้าจะเข้าใจสิ่งที่ข้าหมายถึง"

    มารูนน่ามองตามร่างกายขาวผ่องที่เดินออกไป

    ที่นางถอยไม่ใช่นางยอมแพ้ นางเป็นถึงบุตรของหัวหน้าเผ่ากระต่ายภูเขาที่กำลังจะได้รับตำแหน่งต่อ นางดีเลิศเกินตัวเมียตนใดในเผ่าแห่งนี้ และไม่มีอะไรที่นางอยากได้แล้วไม่ได้ นางมีอีกหลายสิบวิธีที่จะทำให้อสูรกระต่ายเผือกคลานเข่ากลับมาอยู่แทบเท้าของนาง รวมถึงวิธีการที่จะกำจัดสิ่งที่นางไม่พิสมัยด้วยเช่นกัน

     

     

    ซินดี้นอนกลิ้งเกลือกไปมาบนพื้นบ้านไม้ไผ่อย่างเบื่อหน่าย ลิชท์หายออกไปทิ้งให้เธออยู่คนเดียว

    เสียงซอกแซกนอกบ้านทำให้ซินดี้เด้งตัวขึ้นแง้มบานประตูออกดูอย่างระมัดระวัง

    ก่อนจะต้องรีบปิดเมื่อเห็นร่างใหญ่ที่ทำเอาเธอวิ่งหนีสติแตกไปเมื่อไม่นาน

    ซินดี้ซ่อนตัวหลังประตูไม้ไผ่แต่เมื่อคิดได้ว่าบ้านเธอค่อนข้างสูงจากพื้นดินมีความปลอดภัยระดับหนึ่งจึงใจกล้าแง้มประตูเพื่อมองเสือดำที่วนเวียนอยู่ที่หน้าบ้านเธอ

    เสือดำตัวใหญ่ปากของมันคาบห่อบางอย่างวางไว้ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านของซินดี้ ท่าทางไม่เหมือนสัตว์ไร้สติปัญญาทำเอาซินดี้ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

    ร่างกายหญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อดวงตาสีทองมองมาที่เธอ เสียงครางต่ำของสิ่งมีชีวิตสี่ขาดังผสมผสานเข้ากับเสียงบรรยากาศรอบตัว ก่อนขนสีดำสนิทจะค่อยๆ หายไป เท้าหน้าขนาดใหญ่เปลี่ยนแปลงเป็นแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

    ชายผิวเข้ม ผมดำสนิทสั้นระต้นคอ จมูกโด่งรับกับดวงตาเรียวนัยน์ตาสีเหลืองทอง ใบหน้าหล่อเหลาดึงดูดสายตาไม่แพ้สีผิวช็อกโกแลตมิลค์เงา กล้ามเนื้อทั่วร่างกายดูดีไปหมดทุกส่วน

    ใช่จริงๆ ด้วย เขาเป็นเหมือนไวท์ แต่ก็ไม่รู้ว่ามาดีมาร้ายอยู่ดี ซินดี้จึงแอบซ่อนตัวอยู่ในบ้านมองผ่านช่องประตูต่อไปทั้งที่รู้ว่าเขาเห็นตนแล้วก็ตาม

    ซินดี้ละสายตาขยับท่าทางคลายความเมื่อย แต่เมื่อมองไปตำแหน่งเดิมที่ชายแปลกหน้ายืนอยู่ก็ไม่เห็นร่างสูงแล้ว เธอชะโงกศีรษะออกมานอกประตูกวาดตามองรอบบริเวณหน้าบ้านก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใด จึงออกมาตรงไปที่ห่อปริศนาต้องสงสัย

    ก้อนเนื้อสีแดงสดก้อนใหญ่ถูกห่อด้วยใบไม้หลายชั้น แล้วมันเนื้อตัวอะไรกัน

    เธอหันหลังเตรียมจะกลับขึ้นบ้านด้วยความรู้สึกเสียวสันหลังคิดได้ว่าเธอไม่ควรลงมาคนเดียวแต่ก็ไม่ทันแล้วเธอชนเข้ากับผนังแข็งสีเข้ม

    ซินดี้ยกมือขึ้นลูบสันจมูกด้วยความเจ็บจากการกระแทกอย่างแรง

    "โอ๊ย"

    เสียงลมหายใจแรงดังเรียกสติของซินดี้กลับไปสนใจก่อนจะพบว่าไอ้ของแข็งที่เธอชนเข้าคือกำแพงมนุษย์ชายแปลกหน้าที่หายไปก่อนหน้านี้

    มือของซินดี้แปะอยู่ที่อกแน่น เมื่อรู้สึกตัวก็รีบดึงออกอย่างต้องของร้อน กระโดดตัวถอยหลังออกห่างหลายก้าว

    ชายหนุ่มผิวเข้มเดินเข้ามาด้วยใบหน้ามืดครึ้มยื่นมือใหญ่มาหาจนหญิงสาวตื่นตกใจถอยหลังจนล้มลงนั่งบนแคร่ไม้ไผ่

    ชายร่างสูงใบหน้ามืดครึ้มลงกว่าเดิม ก่อนจะยื่นมือที่กำบางอย่างไว้มาตรงหน้า ซินดี้หลับตาปี๋นับนาทีแต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายอย่างใดจึงหรี่ตาขึ้นดู

    ปรากฏเป็นก้อนผลึกสีม่วงที่ถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ ซินดี้ที่เห็นมันก็เหมือนถูกสะกด รับมันมาอย่างเหม่อลอย

    รู้ตัวอีกทีชายแปลกหน้าก็ถอยหลังแปลงเป็นร่างเสือดำตัวใหญ่วิ่งเข้าป่าไปแล้ว

    ซินดี้รีบขึ้นบ้านไม้ไผ่หลังน้อยทันทีด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา

    "ตกใจหมดเลย"

    ซินดี้รู้ตัวว่าตัวเองประมาทเกินไป โชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ

    ร่างกายบางหันหลังพิงประตูมือกำก้อนผลึกประหลาดแน่นยกขึ้นแนบอกอย่างปลอบขวัญตัวเอง

    ก่อนที่จะสังเกตเห็นแสงที่ลอดผ่านมือออกมาเป็นสาย หินเรืองแสงในมือส่องแสงสว่างมากขึ้นเมื่ออยู่ในมืออุ่น

    ซินดี้ยกมันขึ้นส่องพลิกไปมาอย่างสงสัย ก่อนที่เธอจะเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวภายในก้อนผลึก ดวงตาสีน้ำตาลอมเขียวเพ่งมองจนได้เห็นว่าเป็นใบหน้าหญิงสาวคนหนึ่งก่อนที่ผลึกจะร้อนเหมือนโดนไฟลวกและระเบิดแตกกระจายเป็นเศษชิ้นเล็ก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×