คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : พระจันทร์ดวงที่ 13
"แล้วเจ้าสร้างรังที่ใด" อสูรชราเอ่ยเสียงแหบถาม
ลิชท์เบิกตากว้างเมื่อพึ่งนึกได้
ปกติเขานอนร่วมโพรงดินกับเหล่าอสูรตัวผู้ที่ไม่มีคู่สัมพันธ์ เนื่องจากเผ่าต้องการการดูแลที่รัดกุม จึงอนุญาตให้อสูรที่มีคู่สัมพันธ์เท่านั้นแยกไปสร้างรังของตัวเองได้
"ตอนนี้มีที่ให้เจ้าสร้างรังได้อยู่สองฝั่ง ฝั่งหนึ่งติดกับป่าเมล็ดสนมีอสูรมากมายอยู่ที่นั่น อีกที่ด้านข้างน้ำตกลึกออกไปหน่อยที่นั่นแม้จะมีอสูรบางตาแต่ก็ติดสายน้ำเหมาะแก่การปลูกพืช"
ลิชท์พยักหน้าอย่างเข้าใจ
"ท่านหัวหน้าเผ่าอยู่หรือไม่"
เพื่อป้องกันการบุกรุกจากภายนอกการสร้างรังจึงต้องมีการแจ้งให้หัวหน้าเผ่าได้รู้
"ท่านหัวหน้าเผ่าไปแลกเปลี่ยนขนสัตว์สำหรับฤดูหนาวที่จะถึง พวกเจ้าก็สร้างรังให้แล้วเสร็จ แล้วไปแจ้งตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าให้ท่านมารูนน่าได้รู้ก็พอ"
หลังออกมาจากโพรงดินแคบๆ ของหญิงชรา ไวท์ก็พาเธอเดินไปตามทางที่ถูกถางจนกลายเป็นพื้นดินแห้ง
ซินดี้มองวิถีชีวิตรอบตัวด้วยความสนใจอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
ไม่ใช่แค่เพียงเธอที่มองพวกเขาด้วยความสนใจ อสูรในเผ่าประปรายที่กำลังทำกิจกรรมของตัวเองอยู่ก็มองตัวเมียตัวใหม่ที่เข้ามาในเผ่าอย่างอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เนื่องจากน้อยครั้งจะมีอสูรเข้ามาใหม่ในเผ่าเล็กๆ แห่งนี้ ยิ่งเป็นตัวเมียที่ในเผ่ามียังไม่ถึงยี่สิบตัวด้วยแล้วก็ยิ่งเรียกสายตาได้มากขึ้นไปอีก
ไวท์จูงมือเธอเดินลัดเลาะไปตามทางเลียบริมสายน้ำเล็กของเผ่า ระหว่างทางมีกระต่ายหลายตัวอยู่บริเวณลำธาร เนินดินยกสูงกว่าปกติมีม่านใบไม้ถูกแหวกออกปรากฏเป็นกระต่ายตัวหนึ่งมุดออกมา
ดูเหมือนคนที่นี่จะนิยมการสร้างโพรงทำรัง เพราะมีความปลอดภัย แต่ก็มีบางหลังที่เป็นแบบผสมโพรงดินครึ่งหนึ่งอีกครึ่งก่อเป็นหลังคาใบไม้แห้งที่เหมือนใบต้นจาก
เดินลึกเข้าไปเสียงน้ำไหลตกกระทบหินดังขึ้นเรื่อยๆ ภาพน้ำตกสูงบนยอดมีรุ้งพาดผ่านสวยงาม
มันเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นเลย
ซินดี้ที่เห็นน้ำตกใสก็วิ่งเข้าไปดูอย่างตื่นเต้น ละอองน้ำสร้างความสดชื่นมากขึ้นจากการเดินทางมาไกลจนเหนียวตัว หลายวันในการเดินทางน้อยครั้งที่เธอจะเจอน้ำที่ใสสะอาดขนาดนี้ เธอรีบวิ่งไปที่ริมสายน้ำใส วักน้ำขึ้นล้างหน้า
บริเวณนี้ค่อนข้างปลีกวิเวกจากเผ่า เพราะไม่มีเนินดินสูงมากนักส่วนใหญ่จะเป็นหินแข็งซึ่งไม่เหมาะสำหรับการทำขุดโพรงรัง
ชายหนุ่มที่เห็นตัวเมียตื่นเต้นกับน้ำตกตรงหน้าก็ตัดสินใจที่จะสร้างรังบริเวณนี้ทันที อะไรที่ตัวเมียชื่นชอบเขาจะหามาให้นาง
ร่างสูงเปลี่ยนเป็นกระต่ายเผือกมุ่งไปที่เนินดินที่คาดว่าสูงพอที่จะทำรังเล็กๆ ได้ ก่อนจะใช้ขาหน้าทั้งสองข้างตะกุยจนหินและก้อนดินกระเด็นไปทั่วบริเวณ ด้วยพลังของสัตว์อสูรดินแม้จะแข็งและมีหินมากเพียงใดก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา
ซินดี้หันไปมองร่างกระต่ายที่ตั้งหน้าตั้งตาขุดดินจนตัวโก่งด้วยความฉงน ก่อนภาพโพรงดินแคบๆ ที่เธอเห็นก่อนหน้านี้จะขึ้นมาในหัว จึงเข้าใจทันทีว่าเขากำลังขุดดินทำที่อาศัย
คิดภาพว่าต้องอยู่ในที่มืดๆ แคบๆ ในโพรงดินที่มีแต่กลิ่นดินกับหญ้าเธอก็เวียนหัวแล้ว เธอเคยอยู่บ้านหลังใหญ่จะมาอยู่ในโพรงดินเล็กๆ ใช้วิถีชีวิตแบบสัตว์ก็คงไม่ไหว
"หยุด หยุดก่อน"
เสียงหวานตะโกนเอ่ยให้กระต่ายตัวใหญ่ที่มุ่งมั่นในการขุดหยุดตะกุยดิน ลิชท์หันไปมองหญิงสาวที่กำลังยืนเท้าเอวมองมาที่เขา
"ฉันไม่อยู่โพรงดินแคบๆ นั่นแน่"
ความปลอดภัยในชีวิตอยู่ที่ไหน เกิดดินถล่มขึ้นมาล่ะ แถวนี้เป็นน้ำตกด้วยหากเกิดน้ำป่า มันได้ไหลทะลักเข้ามาเธอคงได้ตายคาโพรง
"เจ้าอยากผสมพันธุ์หรือ"
ลิชท์แปลงกายเป็นร่างครึ่งอสูรเดินมาที่ร่างเล็ก เขามองบริเวณโดยรอบอย่างระแวดระวังพลางกอดรัดเอวบาง ส่วนซินดี้ที่ถูกกอดรัดก็พยายามแกะมือแกร่งออก
"ปล่อยฉันก่อน จะมาทำอะไรตอนนี้ห๊ะ" ซินดี้ที่เห็นใบหน้าเจ้าเล่ห์ของคนตัวสูงกว่าก็รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร
"เจ้าเป็นอะไร" สองภาษาเอ่ยตอบโต้กันแม้จะไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
ซินดี้งัดตัวเองออกจากอ้อมแขนของคนตัวใหญ่ได้ก็เดินไปชี้หลุมที่กระต่ายเผือกได้ขุดไว้ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยดินให้กลับไปกลบดังเดิม ร่างสูงที่ไม่เข้าใจการกระทำเอาแต่ใจของหญิงสาวก็เดินมาอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าตัวลอยพร้อมใช้มือตีที่ก้นเบาๆ
"เจ้าไม่ควรทำเช่นนี้ หากรังไม่เสร็จก่อนมืดเจ้าจะต้องนอนตากลม"
"ปล่อยฉันลงนะ โอ๊ยทำไมมันเข้าใจยากขนาดนี้"
ซินดี้ดิ้นจนชายหนุ่มยอมปล่อยเธอลง
เธอหยิบกิ่งไม้ใช้มันวาดรูปบ้านแบบง่ายที่สุดให้เขาดู แต่ก็กลัวว่าจะยังไม่เข้าใจ เธอเลยเติมรูปร่างของคนลงไปข้างๆ ด้วย
ทั่วภูเขาแห่งนี้มีต้นไผ่ประปรายเธอจึงคิดจะทำบ้านจากไม้ไผ่ เนื่องจากไม้ที่หาได้ชนิดอื่นเสียเวลาในการตัดเป็นชิ้น ต่างจากไม้ไผ่ที่มีความยืดหยุ่นและไม่แข็งมาก มันจะทำบ้านได้ง่ายและรวดเร็วกว่า
"ฉันอยากได้ต้นไผ่มาทำบ้าน"
ไวท์มองตามมือเธอไปเห็นต้นไผ่รำไรจึงเข้าใจทันที เขาที่เป็นหน่วยลาดตระเวนและบางครั้งออกไปแลกเปลี่ยนเสบียงกับเผ่าอื่นก็เคยเห็นรูปแบบรังแปลกตาที่ถูกสร้างจากต้นไม้ชนิดนั้นมาก่อน
"ฉันอยากได้บ้านแบบนี้"
ซินดี้ใช้กิ่งไม้ตีไปที่พื้นดินที่มีรูปบ้านจำลองแบบคร่าวๆ ไว้ ไวท์จ้องมองพลางวางแผนในการสร้างรังตามความต้องการของตัวเมียในใจ
ซินดี้มองอย่างมีความหวัง เมื่อเห็นท่าทีชายตรงหน้าเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เธอบอก
ไวท์รวบตัวเธอกอดพยุงไปนั่งที่โขดหินเล็กใต้ร่มไม้ที่แผ่กิ่งก้านออกมาบังแสงแดด
"รอข้าที่นี่"
มือที่ดูเล็กเมื่อถูกมือของคนที่ใหญ่กว่ายกขึ้นมาจุมพิตลงที่หลังมือ ซินดี้หน้าแดงให้กับการกระทำที่อ่อนโยนของเขาจนกลั้นยิ้มไม่อยู่ ไม่อยากยอมรับเลยจริงๆ ว่าเธอรู้สึกดีกับเขาไม่น้อย
ไวท์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินกลับไปทางเผ่า ทำเอาทั่วบริเวณเต็มไปด้วยความเงียบมีแค่เสียงน้ำตกกับเสียงนกแมลงร้องเท่านั้น
ซินดี้ที่อยู่นิ่งไม่ได้จึงเดินสำรวจน้ำตกหาสิ่งมีชีวิตในลำธารที่จะมาเป็นอาหารให้เธอได้ และเป็นอย่างที่คิด ลำน้ำใสนี้เต็มไปด้วยฝูงปลาและยังมีกุ้งตัวโตที่แอบอยู่ตามซอกหินอีกด้วย หากนำมาย่างกินคงดีมากแน่ๆ
และไหนๆ เธอก็หมกตัวไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้ว กระโดดน้ำล้างตัวให้สบายใจสักหน่อยก็ดี ว่าแล้วเธอก็ถอดเสื้อฮูดกับกางเกงขายาวออก เหลือเพียงชุดชั้นในเข้าเซต พุ่งตัวกระโดดลงน้ำดำไปหากุ้งตัวโตที่แอบอยู่ในซอกนิ่งล่อตาล่อใจเธออยู่
หลายนาทีต่อมา
กุ้งตัวโตถูกโยนขึ้นมาโดดดิ้นบนฝั่งโดยที่ซินดี้ยังคงดำหามื้อเย็นตัวต่อไป
รวมๆ แล้วเธอจับพวกมันได้ห้าถึงหกตัวแล้ว เธอคิดจะจับตัวสุดท้ายแล้วขึ้นไปผึ่งลมให้ตัวแห้ง ระหว่างที่สอดส่องสายตาไปตามซอกหินสายตาของเธอสะดุดเข้ากับแสงสีม่วงเข้มใต้น้ำบริเวณซอกหินขนาดเล็ก มันทอแสงวูบวาบเป็นจังหวะ ด้วยความอยากรู้เธอจึงพุ่งตัวแหวกว่ายเข้าไปหามัน
ก้อนเรืองแสงสีม่วงถูกเธอหยิบขึ้นมา มันดูเหมือนจะเป็นแร่ธาตุอะไรสักอย่าง
เธอกำมันไว้ในมือ เตรียมจะขึ้นไปเหนือผิวน้ำเพื่อมองสิ่งที่อยู่ในมือชัดๆ
แต่จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังจนทำให้เธอหวาดระแวงหันกลับไปมองด้านหลัง ก็ได้พบกับร่างใหญ่สีดำสนิท ดวงตาสีทองประกายจับจ้องมาห่างจากเธอไม่กี่เมตร
ด้วยความตกใจทำเอาเธอเผลอสูดหายใจเอาน้ำเข้าไป มือที่สองพยายามไขว่คว้าหาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อดันตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ
เธอที่ดันตัวขึ้นมาบนพื้นดินได้มองกลับไปเห็นสิ่งที่ว่ายตามขึ้นมาก็วิ่งเตลิดเข้าไปในบริเวณเผ่า พร้อมเสียงร้องโวยวายภาษาแม่ที่ทำให้อสูรไม่เข้าใจ
"เสือ!"
ซินดี้วิ่งเตลิดเข้าไปที่บริเวณที่มีกลุ่มคน เธอชนเข้ากับร่างหนึ่งที่สูงใหญ่กว่าเธอมากจนหงายหลังล้มลงกับพื้นด้วยความตัวเล็กกว่า หมู่คนโดยรอบบริเวณมองมาที่เธอด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
"เจ้าเป็นอันใดรึไม่"
ร่างหญิงสูงสองเมตรที่เธอวิ่งชน ดึงเธอขึ้นจากพื้น ตามตัวของเธอเต็มไปด้วยดินสีน้ำตาลจากการล้มลุกคลุกคลานระหว่างวิ่งเตลิดมาที่นี่
"นางเป็นตัวเมียที่มากับกระต่ายเผือกข้าจำกลิ่นได้"
อสูรกระต่ายตัวหนึ่งที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์เอ่ยขึ้น
ซินดี้ที่ถูกกลุ่มคนแปลกหน้าสูงเกือบสองเมตรรุมล้อมพร้อมภาษาที่ฟังไม่ออกส่งเสียงจอแจจนแยกไม่ได้ว่าเป็นเสียงใครทำให้เธอหน้าซีดด้วยความตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม
"ข้าว่าแล้วว่านางสติไม่ดี"
"เจ้ากระต่ายเผือกนั้นจักมีเมียสักทีกลับเลือกอสูรเช่นนี้"
"นางฟั่นเฟือนจริงๆ"
เหล่าอสูรที่เห็นร่างสกปรกผมเผ้าเปียกชื้นรุงรังเต็มไปด้วยใบไม้ก็พากันส่งเสียงพูดคุยกันเรื่องตัวเมียตัวใหม่ที่เข้ามาในเผ่า ดูท่าจะเป็นพวกร่างกายอ่อนแอไม่มีสติปัญญาไปเสียได้
ความคิดเห็น