คืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นฉันถูกลากเข้าป่า

ลำดับตอนที่ #11 : พระจันทร์ดวงที่ 11

ซินดี้ใช้กิ่งไม้ยาวเขี่ยทางไปเรื่อยเพราะกลัวจะมีสัตว์มีพิษไปซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ที่ทับถมกัน เหงื่อเม็ดเล็กไหลซึมทั่วแผ่นหลังใต้ร่มผ้า ด้วยอากาศอบอ้าวและการเดินทางติดต่อกันไม่ได้พักมาหลายชั่วโมง

ความจริงก่อนหน้านี้ไวท์อุ้มเธอตลอด แต่ด้วยความเมื่อยเลยขอเดินเอง แม้มันจะช้ากว่าแต่ก็ไม่ต้องเกร็งบนแขนเขา

ถ้าถามว่ามาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไงก็คงต้องย้อนไปเมื่อสามวันก่อน เธอตื่นขึ้นมาอยู่บนอ้อมแขนของพ่อกระต่ายหนุ่ม เขาอุ้มเธอเดินทางฝ่าป่ารกหลายชั่วโมงโดยที่เธอไม่รู้สึกตัวสักนิด ไม่รู้ว่าหลับหรือซ้อมตาย

ซินดี้ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังพาเธอไปไหนแต่ก็เลือกที่จะติดสอยห้อยตามเขาไปดีกว่าอยู่ในป่าโง่ๆ รอความตายคนเดียว ภาพแมงมุมเมื่อคืนนั้นยังหลอนไม่หาย ทำเธอที่ไม่เคยกลัวอะไรในชีวิตให้สติแตกได้ต้องสยองขนาดไหนคิดดูเถอะ

หลังจากเดินมาหลายชั่วโมงจนเริ่มเย็น สภาพแวดล้อมป่าจากป่าไม้ดิบชื้นหญ้ารกสูงกลายเป็นป่าไผ่เงียบสงบมีเพียงเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดจนเกิดเสียงผ่อนคลาย แสงอาทิตย์สีส้มสอดส่องมาเพียงรำไร

เธอเห็นหินขนาดใหญ่ตรงหน้า มันถูกจัดวางเดี่ยวๆ ท่ามกลางป่าไผ่สีเขียวชอุ่ม ดูเหมือนที่นั่งสำหรับปิกนิกมาก ด้านบนหินราบเรียบเหมาะเป็นที่นั่งหรือจะนอนก็ยังได้ จึงจะหันไปหาชายหนุ่มที่เดินตามมาข้างหลังทำท่าทางให้เขาเข้าใจว่าขอหยุดพัก

แต่พอหันไปก็เจอไวท์อยู่ในระยะประชิดตัว พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ร่างสูงกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่พอดีไม่มากหรือน้อยไปโอบตัวเธอจากด้านหลัง

"หยุดเลยนะ"

ซินดี้พยายามดันตัวไวท์ออก แต่ดูเหมือนคนตัวโตกว่าได้เปรียบ

ใบหน้าซุกลงที่ซอกคอระดมจูบและสูดดมกลิ่นหอมสดชื่นที่ทำให้เสพติดจนไม่อาจออกห่างได้

"ไวท์!"

ซินดี้ตวาดเขาเสียงดัง

หลายวันที่ผ่านมาที่อยู่ด้วยกัน เธอสังเกตและศึกษาสิ่งมีชีวิตที่ต่างจากคนธรรมดาอย่างตัวเธอ ทำให้ได้รู้ว่าเขามีการตอบสนองต่อเสียงได้ดีจากความสามารถของกระต่ายป่า จึงไม่ชอบเสียงดัง เธอใช้วิธีนี้หลายครั้งเพื่อสื่อถึงความไม่พอใจ แต่เหมือนมุกนี้จะใช้ไม่ได้ผลในตอนนี้

เขาถลกกางเกงและกางเกงชั้นในเธอลงอย่างรวดเร็ว มือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดจับหน้าเล็กหันไปรับจูบจากริมฝีปากเรียว ลิ้นร้อนชื้นกวาดสำรวจโพรงปากเล็กจนพอใจก่อนจะจับร่างเธอให้หันกลับไปก้มลง

ซินดี้จึงใช้มือทั้งสองข้างดันหินก้อนใหญ่ไว้ด้วยความทรงตัวไม่ทัน

เธออยากนั่งพักไม่ได้อยากออกกำลังเพิ่ม แค่เดินป่าก็เหนื่อยขาลากแล้วเขาเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะกัน

"อ๊ะ"

สัมผัสอุ่นร้อนถูไถที่ก้นของซินดี้ จนรู้สึกได้ถึงความฉ่ำที่ถูกผลิตออกมาอัตโนมัติ บรรยากาศป่าไผ่โล่งมีเสียงใบไผ่ลู่ลมเคล้าเสียงนกร้อง เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอเพิ่มความเสียวซ่าน

ท่อนเนื้อขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเส้นเลือดนูนค่อยๆ สอดเข้ามาจากทางด้านหลังช้าๆ จนหน้าท้องน้อยแนบชิดก้นกลมมน ทำเอาซินดี้แทบทรุดตัวเอาหน้าแนบแผ่นหิน

ตับ ตับ ตับ ตับ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังรัวไปทั่วบริเวณ ซินดี้มองไปโดยรอบทั้งที่รู้อยู่ว่าในป่าไม่น่ามีใครแต่ก็อดเหลือบมองไม่ได้

"อ๊าา เบาหน่อย"

เธอพูดเสียงเบา ชายหนุ่มด้านหลังได้ยินเสียงแหบพร่าก็รัวเอวเร็วกว่าเดิมจนร่างเล็กโยกอย่างรุนแรงเหมือนเธอเป็นกระป๋องน้ำอัดลมที่ถูกเขย่า มือบางที่ดันตัวเองกับหินแสบจี๊ด

"ฉันไม่ไหว อ๊ะ"

ไวท์ที่เห็นมือบางที่แดงเหมือนถลอกจากการถูกเสียดสีกับหิน แทนที่เขาจะหยุดเขากลับจับมือทั้งสองข้างของเธอไขว้ไว้ที่ด้านหลังแล้วกดตัวเธอให้โน้มไปข้างหน้า โดยใช้แขนข้างหนึ่งโอบเธอไว้

ตับ ตับ ตับ ตับ

"อ๊ะๆ"

"อ๊าย"

เสียงร้องเสร็จสมของหญิงสาวดังลั่น ชายหนุ่มที่ยังไม่ปลดปล่อยถอดท่อนเนื้อที่ถูกเคลือบด้วยน้ำเหนียวใสออก พลิกตัวร่างบางที่ตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรงอุ้มขึ้นนั่งบนก้อนหินใหญ่ ถอดเสื้อฮู้ดออกปลดตะขอยกทรงอย่างชำนาญ ใบหน้าซุกลงหยอกล้อดูดดึงยอดอก ซินดี้ยกมือขึ้นกำเส้นผมนุ่มสีขาวสว่างด้วยความเสียว

"อื้ม"

ชายหนุ่มละริมฝีปากออกจากจุกชมพู แล้วชักรูดท่อนเนื้อของตัวเองสองสามครั้งก่อนจะจ่อมันไปที่ช่องทางรักที่ชุ่มฉ่ำ

ซินดี้ที่ตอนแรกหมดแรงก็ฝืนตัวขึ้นเด้งตัวรับเอวสอบ เธอไม่อยากกลายเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา มันเสียชื่อสาวยุคสองพัน จะมาแพ้ให้กับหนุ่มก่อนยุคโลหะได้ไง เธอต้องกอบกู้ชื่อเสียง

ซินดี้กอดเอวสอบที่ขยับกระแทกกระทั้นซบใบหน้าลงที่ดูดเม้มซอกคอขาวจนชายหนุ่มครางต่ำด้วยความเสียวจนแทบเสร็จสม

"อ๊ะ ไวท์"

ชายหนุ่มดันตัวร่างบางให้เอนตัวนอนราบไปกับแผ่นหิน ยกเรียวขาทั้งสองขาพาดบ่า ทำให้ตัวตนแนบชิดกันเพิ่มความเสียวซ่านมากขึ้นไปอีก 

เอวหนาและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกระแทกตัวโถมเข้าใส่รัวแรงและลึกกว่าที่ผ่านมา

ปึก ปึก ปึก ปึก

จังหวะสุดท้ายร่างหนากระแทกตัวเข้าจนสุดโคนก่อนจะปลดปล่อยสายน้ำรักขาวขุ่นออกมา น้ำที่ปริมาณมากไหลทะลักออกมาข้างนอกบางส่วนจนเปรอะเปื้อนตามต้นขาขาว

ป็อก!

เสียงลามกจากการถอดเอาท่อนเนื้อออกจากช่องทางรักที่คับแน่นผสมน้ำเหนียวไหลเอ่อ นิ้วเรียวใหญ่ควานเอาน้ำข้นหนืดขึ้นมาเลียชิมรสชาติสวาทด้วยลิ้นสีชมพู จนหญิงสาวหน้าแดงก่ำด้วยความอายจากการกระทำของชายตรงหน้า

ท่ามกลางแสงจากกองเพลิง มีหญิงสาวนั่งหน้าบูดเคี้ยวมันเทศเผาบนแผ่นหินขนาดใหญ่ โดยที่ตัวต้นเรื่องนั่งจ๋องมีรอยแดงรูปมือที่แก้มอยู่ไม่ไกล

เขาไปตัดใบไม้มาปูบนแผ่นหินรองเป็นที่นอนให้เธออย่างดี แต่ไม่ได้ช่วยให้เธอคลายความโกรธจากการถูกเขย่าเป็นค็อกเทลได้ เธอปวดขาปวดเนื้อปวดตัวไปหมดแล้ว เดินป่าก็เหนื่อยยังต้องมาโดนกระแทกจนช้ำในอีก

ในค่ำคืนนั้นเสียงร้องโหยหวนประหลาดในป่าไผ่แห่งนี้ทำเอาซินดี้หวาดระแวงไม่สามารถหลับลงได้ แม้จะมีไวท์นั่งพิงแผ่นหินเฝ้ายามให้อยู่ สุดท้ายต้องสะกิดเขาให้หันมาสนใจเธอ

ชายหนุ่มที่ถูกสะกิดยิ้มเจ้าเล่ห์แต่ก็ต้องหุบลงเมื่อได้รับสายตาพิฆาตของหญิงสาว

ซินดี้ขยับลงมานั่งเบียดกับร่างใหญ่จ้องกองไฟด้วยความเหนื่อยล้า บรรยากาศเงียบเชียบจนรู้สึกน่ากลัว เธอจึงหาวิธีคลายความกลัวในใจตัวเอง

"ฮึม ฮึม ฮึม"

เสียงฮัมเมโลดี้ดังเรียกความสนใจชายหนุ่มด้านข้างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

"อะแฮ่ม" เมื่อเห็นว่าไวท์สนใจเพลงที่เธอฮัมก็อยากจะโชว์สกิลการร้องของเจ้าแม่คาราโอเกะ

ฉันต้องการอยู่ในอ้อมแขนของคุณ

โอ้ที่รัก ให้ฉันกอดคุณไว้

จะไม่ปล่อยอ้อมกอดของคุณไป

เมื่อฉันหลงทางอยู่ในความมืดมิด

ยังมีเพียงคุณที่อยู่เคียงข้าง

ดวงตาที่สวยงามเหมือนอัญมณี

มันทำให้ฉันหลงใหลเพียงคุณ

คุณทำให้ฉันอบอุ่นในตอนที่ฉันมืดมน

ด้วยอารมณ์ที่พาไปทำให้เธอนึกถึงเพลงดังในโลกของเธอ เธอแค่ร้องเพลงที่ชอบไม่ได้มีความหมายมากกว่านั้นนะบอกไว้ก่อน ชิ

เสียงหวานดังอยู่ค่อนคืนก่อนจะเงียบลงเมื่อหญิงสาวปิดเปลือกตาศีรษะพิงกับไหล่แกร่ง

​

จะเบื่อNcของพ่อหนุ่มกระต่ายป่ากันมั้ยเนี่ย ใครอยากเจอผู้ใหม่รออีกไม่นานจะได้รับชิมรับชมกันแล้ว 

รับประกันความแซ่บแน่นอนค่ะ

เพลงที่ซินดี้ร้องเป็นเพลงที่วีแต่งขึ้นเองค่ะเพราะไม่แน่ใจเรื่องการนำเนื้อเพลงของศิลปินมาใส่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์มั้ย เลยแต่งเองดีกว่า 

วีไม่ได้มีความรู้ในการแต่งเพลง เน้นเอาความหมายของเพลงเฉยๆ

ถ้าใครงงๆก็ลองไปฟังเพลง  Until I Found You ของ Stephen Sanchez วีได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงนี้ค่ะ