คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : พระจันทร์ดวงที่ 10
แซ่ก แซ่ก
เสียงพุ่มไม้ข้างหน้าทำเอาซินดี้ถอยหลังอัตโนมัติ เหมือนเขตป่าบริเวณนี้จะกลายเป็นรังของแมงมุมไปแล้วมากกว่าครึ่ง เส้นใยแมงมุมใสๆ สองสามเส้นถูกโยงพาดมาที่ต้นไม้บริเวณใกล้บ้านโพรงไม้ ที่ของเธอกำลังถูกบุกรุก
หากเธออยากจะกำจัดมันต้องเผาป่าอีกครั้งมั้ย พวกมันจะหายไปหรือเปล่า
ทางที่ดีที่สุดการย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นแทนคงง่ายกว่า
พึ่บ
"กรี๊ด!"
ซินดี้กรี๊ดด้วยความตกใจเมื่อมีบางอย่างสัมผัสโอบรัดเธอจากด้านหลัง
"นูก้า"
ใจที่เต้นเหมือนจะกระเด็นหลุดออกมาจากอกค่อยๆ ช้าลงเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอย่างโล่งใจ แขนแกร่งที่โอบเธอกระชับขึ้น ก่อนจะรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่ต้นคอแม้จะมีอารมณ์คุกรุ่นจากการที่ถูกทำให้ตกใจไม่น้อย จะด่าก็ทำไม่ได้เพราะเจ้าตัวไม่เข้าใจที่เธอพูด
ซินดี้แกะแขนแกร่งออกแล้วหมุนตัวกลับไปฟาดมือลงที่หน้าอกแน่นจนเป็นรอยมือแดงเพื่อแสดงออกว่าเธอไม่พอใจกับการกระทำที่ทำให้เธอตกใจของเขา แต่ก็ได้รับกลับมาเพียงเสียงหัวเราะในลำคอเท่านั้น สลดที่ไหนกัน
ซี่...
เสียงประหลาดจากทางป่าเรียกความสนใจของเธอและไวท์ได้เป็นอย่างดี ไวท์มองด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เธอคิดว่าเขารู้แน่ๆ ว่ามันคือเสียงอะไร
ซินดี้อยากจะย้ายออกไปจากที่นี่ซะตอนนี้ หากอยู่ต่อต้องกลายเป็นขนมให้พวกแปดขาแทะเล่นแน่ แต่สื่อสารกับไวท์ให้เขาเข้าใจไม่ได้ หรือว่าเธอควรเก็บของแล้วลากเขาเดินเข้าป่าไปด้วยกันเลย
เปรี๊ยะ
เสียงดีดของเปลวไฟที่ถูกก่อไว้ย่างอาหารดังขึ้น โดยที่มีชายหญิงนั่งผิงไฟมองอยู่
ไวท์ใช้มือพลิกเห็ดที่ถูกย่างอย่างไม่กลัวร้อนทำเอาซินดี้หวาดเสียว รีบดึงมือเขาออก แล้วใช้กิ่งไม้เขี่ยกลับด้านเห็ดแทน เจ้าของมือใหญ่ยิ้มกว้างน่าหมั่นไส้ แต่ด้วยความกลัวว่ามือของเจ้ากระต่ายยักษ์จอมมึนตรงหน้าจะเป็นอะไรไปจึงดึงมือมาล้างด้วยน้ำในกระบอกไม้น้ำดื่ม
มือไวท์ใหญ่กว่าซินดี้ถึงสองเท่า ไม่เพียงแค่มือเท่านั้นตัวเขาก็สูงใหญ่กว่าเธอมาก จนเธอกลายเป็นสาวตัวเล็กขึ้นมาทันที มันก็แปลกดีจากสาวที่สูงกว่ามาตรฐานได้มีประสบการณ์ที่โลกก่อนมีโอกาสได้น้อยจะเจอ
ไม่นานเห็ดที่ถูกย่างก็ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหล ไวท์ใช้ไม้เขี่ยมันลงบนใบไม้แล้วส่งให้เธอ ส่วนตัวเขาเองก็หยิบลูกไม้ป่าสีเหลืองอ่อนขึ้นมากินแทน
ซินดี้มองลูกไม้นั้นหน้าเบ้ ด้วยรสชาติของมันเปรี้ยวและฝาดสุดๆ ชาตินี้ต่อให้อดตายแล้วต้องกินดินเธอก็ไม่มีทางกินมันเด็ดขาด
ในยามราตรีร่างสูงผิวขาวซีดตามตัวเปื้อนไปด้วยของเหลวสีน้ำเงินเข้ม เศษซากขาสีดำที่ถูกแยกจากส่วนตัวถูกขว้างทิ้งอย่างไม่ไยดี การต่อสู้ที่แสนเงียบเชียบมีเพียงเสียงพุ่มไม้กิ่งไม้เท่านั้นแต่พื้นที่ทั่วบริเวณกลับเต็มไปด้วยเศษซากของแมงมุมหลายสิบตัวที่ถูกฉีกแยกร่างเลือดสีน้ำเงินกระจายไปทั่ว
ลิชท์ที่เห็นความผิดปกติของฝูงแมงมุมมาหลายวัน จึงออกมากำจัดพวกมันในทุกค่ำคืนหลังที่ตัวเมียหลับไปแล้ว
แมงมุมดินหลายร้อยตัวเข้ายึดพื้นที่ป่าเขตลุ่มน้ำทั้งที่ปกติพวกมันมักอยู่บนเขาแท้ๆ แม้พวกมันจะอ่อนแอแต่พวกมันก็มีจำนวนไม่น้อย กำจัดสิบตัวก็มีเพิ่มอีกเป็นร้อยตัว พวกแมงมุมดินแพร่พันธุ์ง่ายขอเพียงมีอาหารเพียงพอสำหรับพวกมันก็ผลิตไข่ได้ทุกช่วงฤดู
แมงมุมหลายสิบตัวทั้งตัวเล็กตัวใหญ่พากันรุกเข้าหาลิชท์ที่อยู่ในร่างครึ่งอสูรอย่างไร้สติปัญญา
พวกมันเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำอะไรสัตว์อสูรระดับสี่ได้หรอก ทำได้เพียงสร้างความรำคาญเท่านั้น
แมงมุมยักษ์ที่ดูจะเป็นพ่อแม่ของฝูงแมงมุมตัวเล็กๆ พวกมันตีอกของตัวเองกับต้นไม้ใหญ่ข่มขวัญศัตรู เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล จึงชูขาหน้าของมันเพื่อโจมตี
ตึง!
ลิชท์ใช้มือใหญ่จับที่ขาของมันเหวี่ยงฟาดแมงมุมยักษ์ลงกับพื้นอย่างไม่ทันให้มันได้ตั้งตัว มันดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดก่อนจะแน่นิ่งจมกองของเหลวสีน้ำเงิน
แมงมุมตัวเล็กหลายตัวที่เห็นผู้ให้กำเนิดพวกมันตายรีบถอยกลับเข้าป่าด้วยความหวาดกลัว แต่ก็มีบางตัวที่สู้ไม่ถอยเช่นกัน
หากป่าแถบนี้เป็นรังของพวกมัน รังของเขาและตัวเมียก็จะถูกยึดไปด้วย เป็นแบบนั้นเขาคงต้องพาตัวเมียไปอยู่ที่อื่น
หลายวันหลายราตรีที่ผ่านมาทำให้เขาได้รู้ว่าตัวเมียของเขามีความผิดปกตินางมีร่างกายที่อ่อนแอ นางป่วยหลังจากคืนที่เขาและนางผสมพันธุ์กัน ดีที่มีกลีบดอกซาเรเซียที่มีสรรพคุณเป็นยาลดความร้อนในร่างกายช่วยนางไว้
นอกจากนี้ความประหลาดของนางยังมีอีกมาก ทั้งวิธีการดำเนินชีวิตที่แปลก นางใช้ชีวิตอยู่กับเปลวไฟโดยไม่เกรงกลัวกินอาหารที่ถูกเผาเท่านั้น และไม่เคยเผยร่างสัตว์อสูรเลยสักครั้ง ต่างจากสัตว์อสูรพเนจรที่เขาเคยได้ยินมา
นางอาจเป็นเพียงอสูรหลงฝูงหรืออสูรที่ถูกขับไล่จากเผ่าจึงเร่ร่อนเพียงตัวเดียว โชคดีที่เอาตัวรอดมาได้จนเจอเขา
ลิชท์ไล่ฉีกกระชากแมงมุมจนพวกมันล่าถอยไปจนหมด แต่พวกมันต้องกลับมาอีกแน่ แมงมุมดินในป่าแห่งนี้หลายร้อยตัวไม่รวมไข่ที่ยังไม่ได้ฟักออกนับพัน
เผ่ากระต่ายภูเขาเปิดรับสัตว์อสูรต่างเผ่าเสมอขอเพียงไม่ล่ากันในเผ่าและมีความสามารถที่เป็นประโยชน์ ที่นั้นมีทรัพยากรมากมายจากการแลกเปลี่ยนของในเผ่าพันธมิตร การกลับไปที่เผ่าจะทำให้เขาและตัวเมียผ่านฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงไปได้ และอาจรักษานางให้แข็งแรงขึ้นได้ ทั้งที่คิดว่ามันเป็นทางเลือกสุดท้ายแท้ๆ แต่กลับมีหลายเหตุการณ์ที่บีบให้เขาต้องกลับไป
กรี๊ดดด!
เสียงกรีดร้องที่แสนคุ้นหูดังขึ้นนอกป่าซึ่งเป็นจุดโพรงไม้รังของเขา ร่างของลิชท์กลายเป็นกระต่ายวิ่งไปที่รังทันที เมื่อกลับมาถึงก็พบเข้ากับตัวเมียนั่งอยู่กับพื้นดินดูเหมือนขานางจะพลิก
ลิชท์ในร่างอสูรกระต่ายสะบัดของเหลวที่เปรอะเปื้อนตามตัวออก แล้วแปลงร่างเป็นครึ่งอสูรเข้าสวมกอดตัวเมีย
"เจ้าเป็นอะไรหรือไม่"
นางหน้าตื่นเหมือนกำลังตกใจกลัว มือของนางชี้ไปที่ใยแมงมุมที่อยู่บนต้นไม้เหนือโพรงไม้
ตัวเมียกอดซุกตัวที่อกของเขา พร้อมพูดภาษาที่เขาไม่เข้าใจ แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็รับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวของนาง เขาจึงอุ้มนางเข้าไปในโพรงไม้วางนางลงบนกองใบไม้ที่ปูรอง ก่อนจะล้มตัวลงนอนสวมกอดนางไว้
นางคงตื่นมาแล้วไม่เจอเขาแล้วออกไปตามหาเป็นแน่ พวกแมงมุมรุกเข้ามาถึงรังของเขาแล้ว การปล่อยให้ตัวเมียของเขาอยู่ตัวเดียวกลายเป็นเรื่องอันตราย แต่เป็นไปได้ยากที่จะอยู่กับนางตลอดเวลา เขาต้องรีบออกเดินทางแล้วสินะ
เขาไม่เคยเสียดายรังโพรงไม้นี้ แต่สิ่งที่เขากลัวคือ...
นางที่ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอในอ้อมกอดดูงดงามในสายตาเขามาก หากต้องมีพวกมันตัวอื่นในเผ่ามาแย่งเขาดูภาพนี้เขาจะทนได้อย่างไร
ความคิดเห็น