NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นฉันถูกลากเข้าป่า

    ลำดับตอนที่ #1 : พระจันทร์ดวงที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 66


    เสียงฝีเท้าที่วิ่งกันจ้าละหวั่นพร้อมเสียงร้องโหยหวนดังไปทั่วบริเวณ หญิงสาวได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง

    สงครามระหว่างหมูป่าและวานรหลายสิบตัวปะทะกันอยู่ด้านล่างลานพิธีกรรมประหลาด

    ตุ้บ...

    หัวของหมูป่าตัวหนึ่งในวงสงครามกระเด็นมากระทบที่ปลายเท้าของร่างบาง ของเหลวสีแดงสดไหลนองย้อมพื้นโดยรอบเป็นสีแดงฉาน กลิ่นคาวสนิมฉุนขึ้นจมูกจนแทบอยากเอาอาหารที่อยู่ในกระเพาะออกมา

    ขณะที่มองเหตุการณ์น่าสะอิดสะเอียน ท้องฟ้าดูเหมือนจะครึ้มลง อ่า...ดูเหมือนจะมืดครึ้มแต่ตรงฉันคนเดียว พอหันไปมองข้างหลัง ก็พบเข้ากับลิงยักษ์สูงราวสามเมตร

    ยังไม่ทันได้ส่งเสียงกรีดร้อง ตัวของเธอก็ถูกยกขึ้นพาดบ่าของมัน นี่คงไม่ได้ถ่ายทำหนังเรื่องคิงคองเวอร์ชันรีเมคกันอยู่ใช่มั้ย

    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!

     

     

    อุทยานแห่งหนึ่ง

    ดวงตาที่จ้องมองเธอไม่กะพริบส่งรังสีประหลาดมาไม่หยุดจนต้องหันไปมองกลับ

    "อะไรไอ้เจ๊ง"

    "ก็ตกใจเจ๊น่ะสิ คิดยังไงทำเขี้ยว" เจ๊ง เด็กหนุ่มผิวเข้มผมทรงบัซคัตสีเขียวขจีจนปวดใจคนมองเอ่ยขึ้น

    "แล้วเท่มั้ยล่ะ" ริมฝีปากสีชมพูอ่อนยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวที่เสียตังไปไม่น้อย ช่วงนี้กำลังอินอานิเมะดัง บรรดาเสาหลัก ตู๊ ตู๊--- อสูร ตัวละครที่ชอบจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากน้องเนซึโกะ อยากจะมีเขี้ยวเหมือนน้องเอาไว้แต่งคอสเพลย์แต่ทำออกมาแล้วกลับเหมือนหมาแทนเนี่ยสิ

    "ก็...เท่ครับเท่ เหมือนน้องไซหน้าตึกเลย"

    "อยากโดนกัดจมเขี้ยวมั้ย" ซินดี้กดเสียงต่ำพร้อมสายตาจิกส่งสัญญาณเตือนเมื่อถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนหมาพันธุ์ไซบีเรียน

    "อุ๊ย ผมปากไม่ดีเลยเนอะเจ๊ซิน"

    เจ๊งหัวเราะกลบเกลื่อนหันไปรินน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ ให้ดื่มคลายร้อนแล้วยกพัดขึ้นมาปรนนิบัติพัดวีหญิงสาว

     

    ซินดี้ถลกแขนเสื้อฮู้ดสีน้ำตาลเข้มขึ้น ยกมือขึ้นเสยผมทรงวูฟคัท มืออีกข้างรับแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ท่าทางเก๊กหล่อทำให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านเต็นท์ไปหันมามองกันเหลียวหลัง

    ไม่อยากจะพูดหรอกนะว่าเธอก็ฮอตอยู่พอตัว เพราะสีตาที่ดูเป็นลูกครึ่ง นัยน์ตาน้ำตาลอมเขียว ผมสีดำสนิท สูงร้อยแปดสิบห้าเรียกได้ว่าสูงเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยคนไทยไปแล้ว

    และเหมือนแม่จะกลัวคนไม่รู้ว่าเป็นลูกครึ่งแม่ก็ตั้งชื่ออินเตอร์ให้ว่า ซินดี้ แม้ว่าโตมาแล้วมันจะไม่เข้ากับเธอเท่าไหร่ก็ตาม

    ซินดี้ก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อของเธอสัญชาติอะไรและเป็นใคร เพราะผู้เป็นแม่ไม่เคยบอก เรื่องเดียวที่แม่พูดถึงพ่อคือพ่ออยู่ในที่ไกลแสนไกลพร้อมทำหน้าเศร้า สรุปได้ว่าพ่อของเธอคงอยู่บนสวรรค์เรียบร้อยแล้ว ส่วนแม่ที่เลี้ยงเธอมาก็พึ่งย้ายไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์เมื่อสามปีก่อนนี้เอง

     

    เมื่อดื่มเก๊กฮวยชื่นใจพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแล้ว ก็หันมานั่งรอเพื่อนที่เหลืออย่างเบื่อหน่าย ช่วงนี้เป็นเทศกาลปีใหม่กลุ่มปีสามหลักสูตรศิลปกรรมที่เหลือเพียงหยิบมือเพราะเป็นสาขาที่คนเรียนน้อยก็นัดรวมตัวกันมาเที่ยวแคมป์ปิ้ง

    เธอกับเจ๊งที่มารถคันเดียวกันมาถึงก่อนก็ช่วยกันกางเต็นท์จัดโต๊ะเก้าอี้รอเพื่อนที่มารถอีกคันแวะซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เพราะในตัวเมืองราคาถูกกว่าของขายในเขตอุทยาน จนตอนนี้จัดการทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว คนที่แวะซื้อของก็ยังมาไม่ถึง

    "พวกไอ้โยมันหายหัวไปซื้อเบียร์กันถึงไหนวะ"

    "โน่นไงเจ๊ มันมากันแล้ว" ปากศักดิ์สิทธิ์จริง พูดปุ๊บมาปั๊บ

    โย เป็ด และมิ้นท์เดินถือของพะรุงพะรังมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

    "เป็นอะไรหน้าบูดมาเลย"

    "มีวัยรุ่นมันขับรถตัดหน้าแล้วกวนตีนใส่อ่ะเจ๊ แต่หนูห้ามไว้ไม่ให้มีเรื่อง"

    มิ้นท์แฟนสาวเป็ดตอบด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์

    "เจ้าถิ่นเปล่าวะ ดีและที่ห้ามไว้"

    สมัยนี้โลกร้อนอย่างเดียวไม่พอเลือดร้อนด้วย ข่าวยิงกันแทงกันตายแทบทุกวัน เธอไม่อยากให้วันหยุดต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้หรอกนะ

    "ปกติเจ๊ต้องวิ่งใส่เดี่ยวแล้วดิ ทำไมวันนี้เจ๊ห้าม"

    "มึงโง่เหรอ ถ้ามันเป็นเจ้าถิ่นแล้วแม่งเรียกพวกมาล่ะ ถ้าแค่พวกมึงไม่มีมิ้นท์จะไม่ห่วงเลย แล้ววันนี้มาพักผ่อนเว้ยไม่ได้มาตีกับใคร"

    มิ้นท์นั่งลงข้างๆ กอดแขนซินดี้แล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย หน้าอกหน้าใจของสาวหมวยสัมผัสเข้าที่แขนของสาวอีกคนเต็มๆ ก่อนที่มิ้นท์จะหยิบแตงโมที่ซื้อมาจากร้านรถเข็นป้อนปากชมพูที่ยิ้มเจ้าเล่ห์โชว์เขี้ยวจนเป็ดหรี่ตามองทั้งคู่

    "เจ๊ไม่ได้เป็นชู้กับแฟนผมใช่มั้ย"

    ไอ้พวกนี้... มันไม่ได้มองเธอเป็นผู้หญิงเลยสักนิด คงเพราะภาพลักษณ์ที่ดูแรง ตาเฉี่ยวดุแถมตัวสูงปรี๊ด ต่างจากมิ้นท์ ที่ขาวสวยหมวยตัวเล็กน่ารักไซส์หมากระเป๋าดีกรีดาวคณะ ทำให้พวกมันลืมกันไปแล้วว่าเธอเองก็เป็นผู้หญิง!

    "ผัวเผลอแล้วเจอกันนะจ๊ะ"

    "เจ๊!"

    เสียงหัวเราะทำให้บรรยากาศกลับมาดีขึ้นอีกครั้งจนสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ

     

    หลังจากที่พระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนก็ช่วยกันจุดเตาปิ้งบาร์บีคิวปาร์ตี้สังสรรค์กัน

    ระหว่างที่กำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น เสียงเร่งเครื่องรถคันหนึ่งก็ดังขึ้น ทั้งหมดพร้อมใจกันหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงรวมถึงคนอื่นๆ ที่มาเที่ยวแคมป์บริเวณนั้นด้วย

    กลุ่มเด็กวัยรุ่นชะเง้อชะแง้เหมือนมองหาใครสักคนที่บริเวณจุดกางเต็นท์นักท่องเที่ยว โดยอีกสี่ห้าคนเกาะกลุ่มอยู่รอบรถกระบะสีส้มของเป็ด เห็นเค้าลางไม่ดีมาแต่ไกล

    "ใครวะ" ซินดี้หันไปถามเป็ดเพื่อความแน่ใจ

    "เจ๊ไอ้พวกนี้แหละที่มันกวนตีนผม" คำตอบที่ชัดเจนแจ่มแจ้งถึงกับทำเอากุมขมับ

    "แม่งมาทำไมวะ"

    มาเอาเลือดหัวมึงออกไง… เธอคิดในใจ มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามาเพื่อกระทืบไอ้เป็ด

    หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นชี้มาที่กลุ่มพวกเธอที่กำลังหันไปมองกลุ่มวัยรุ่นอยู่เช่นกัน

    "เดี๋ยวกูไปเคลียร์เอง โยมึงพามิ้นท์ไปที่อื่นก่อน" ถ้าไม่เคลียร์วันหยุดนี้คงไม่ต้องเที่ยวต่อแล้ว

    "เจ๊อย่าไปเลย" มิ้นท์กอดแขนซินดี้ไว้ด้วยความหวาดกลัว

    "แป๊บเดียว ไอ้เป็ดไอ้เจ๊งไปกับกู"

     

    "มีอะไรหรือเปล่า"

    เมื่อเดินมาถึงบริเวณลานจอดรถของอุทยาน เธอก็ถามกลุ่มวัยรุ่นทันที

    จากที่กวาดสายตาดูแล้วมีประมาณแปดคน น่าจะยังเป็นเยาวชนกันอยู่เลย เพราะบางคนก็ใส่ชุดนักเรียนและด้วยจำนวนคนที่เยอะกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีทางสู้ได้แน่ คนนะไม่ใช่ซูเปอร์แมน ตัวตัวเจอได้แต่หลายคนยอมยกมือไหว้รักษาชีวิตตัวเองไปเถอะ

    "ไอ้เxี้ยนี่แหละ"

    เด็กวัยรุ่นเสื้อฟ้าชี้ไปที่เป็ดที่หน้าออกไม่สบอารมณ์ ท่าลิ้นดันกระพุ้งแก้มสายตากวนโอ๊ยประจำตัว ซินดี้เลยดึงมันไว้ แล้วให้มันถอยไปอยู่ข้างหลัง ด้วยความที่ตัวเธอสูงเลยบังเป็ดเกือบมิด

    "ไรวะ เมื่อกี้ยังซ่าอยู่เลย ตอนนี้หลบหลัง...ผู้หญิงเหรอวะ" พวกมันมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ

    "อย่ามีเรื่องกันดีกว่า วันนี้พวกเรามาพักผ่อน"

    "มึงเสือกอะไร เป็นเมียหรือผัวมัน?" ก่อนที่จะเกิดเสียงหัวเราะจากกลุ่มวัยรุ่น

    "จะเอายังไง" เธอพยายามกดอารมณ์โมโหจากเสียงหัวเราะเยาะล้อเลียน

    "ให้มันกราบตีนน้องกู" คนที่ดูโตที่สุดในกลุ่มของเด็กวัยรุ่นชี้ไปที่เด็กเสื้อฟ้า

    "ไม่มากไปหน่อยหรือไง แค่ขอโทษก็พอมั้ง"

    "กูไม่ขอโทษ!"

    เป็ดตะโกนแล้วจะพุ่งเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นท่าเดียว ดีที่มีเจ๊งจับเอาไว้

    "ไอ้เป็ดใจเย็น"

    แต่เป็ดก็สะบัดตัวเองจนหลุดออกจากการจับแล้วพุ่งเข้าหาคู่กรณีเสื้อฟ้า ก่อนจะซัดกันนัว กลุ่มวัยรุ่นก็เริ่มกระโจนเข้าไปรุมเป็ด

    "อย่ารุมกันดิ!" ซินตะโกนปรามเสียงดังแข่งกับเสียงเอะอะโวยวายก่อนจะพยายามดึงวัยรุ่นให้ออกมา ส่วนเจ๊งก็กระโจมเข้าไปอยู่กลางวงกับเป็ดเป็นที่เรียบร้อย จากสถานการณ์ที่แย่ลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็รีบวิ่งมาควบคุมสถานการณ์

    สายตาเธอเหลือบไปเห็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังขึ้นลำปืน

    "เฮ้ย!"

    ปัง! ปัง! ปัง!

    หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นยิงปืนขึ้นฟ้าก่อนจะเล็งมาที่เป็ดที่พึ่งถูกดึงตัวออกมาจากวง

    เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ทำให้ซินดี้รวมถึงคนที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ต้องวิ่งหนีกันคนละทาง เป็ดวิ่งไปทางอาคารไม้โรงอาบน้ำ ส่วนเธอถูกเจ๊งคว้าวิ่งมาอีกทางที่เป็นป่า

     

     

     

    ร่างสูงบางของซินดี้ล้มตัวลงไปนั่งพิงต้นไม้ใหญ่หลังจากที่วิ่งเข้ามาไกลพอสมควร

    "เจ๊!"

    "ไม่เป็นไร"

    "ไม่เป็นไรก็บ้าแล้วเจ๊ เลือดไหลทะลักขนาดนั้น"

    มือบางสัมผัสบริเวณเอวที่มีของเหลวหนืดออกมา เธอไม่รู้ว่าโดนยิงตอนไหน เพราะตลอดทางไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด แต่พอรู้ว่าโดนยิงต่อมความเจ็บก็ทำให้ฉันหน้าซีด

    "เจ๊เดี๋ยวผมไปตามคนมาช่วย" เจ๊งที่ดูแผลแล้วคิดว่า เขาวิ่งไปขอความช่วยเหลือข้างนอกน่าจะเร็วกว่าการพยุงเธอที่ตอนนี้ไม่มีแรงจะลุกด้วยซ้ำออกไปด้วยกัน

    “เจ๊รอผมนะ ผมจะไปตามคนมาช่วย”

    ซินดี้ได้แต่มองตามหลังเจ๊งที่วิ่งไกลออกไปท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องสว่างแม้ดวงตาก็เริ่มมัวและมืดลงเรื่อยๆ

    ไม่รู้ว่าเบลอไม่มีสติจากบาดแผลหรือเปล่า แต่การกะพริบตาที่หนักอึ้งแต่ละครั้งเธอกลับรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปพร้อมกับความรู้สึกของร่างกายที่ถูกลากไปกับพื้นหญ้าเศษดินและกิ่งไม้

    “จะ เจ๊ง มึงเหรอ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×