คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พระจันทร์ดวงที่ 1
เสียงฝีเท้าที่วิ่งกันจ้าละหวั่นพร้อมเสียงร้องโหยหวนดังไปทั่วบริเวณ หญิงสาวได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง
สงครามระหว่างหมูป่าและวานรหลายสิบตัวปะทะกันอยู่ด้านล่างลานพิธีกรรมประหลาด
ตุ้บ...
หัวของหมูป่าตัวหนึ่งในวงสงครามกระเด็นมากระทบที่ปลายเท้าของร่างบาง ของเหลวสีแดงสดไหลนองย้อมพื้นโดยรอบเป็นสีแดงฉาน กลิ่นคาวสนิมฉุนขึ้นจมูกจนแทบอยากเอาอาหารที่อยู่ในกระเพาะออกมา
ขณะที่มองเหตุการณ์น่าสะอิดสะเอียน ท้องฟ้าดูเหมือนจะครึ้มลง อ่า...ดูเหมือนจะมืดครึ้มแต่ตรงฉันคนเดียว พอหันไปมองข้างหลัง ก็พบเข้ากับลิงยักษ์สูงราวสามเมตร
ยังไม่ทันได้ส่งเสียงกรีดร้อง ตัวของเธอก็ถูกยกขึ้นพาดบ่าของมัน นี่คงไม่ได้ถ่ายทำหนังเรื่องคิงคองเวอร์ชันรีเมคกันอยู่ใช่มั้ย
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!
อุทยานแห่งหนึ่ง
ดวงตาที่จ้องมองเธอไม่กะพริบส่งรังสีประหลาดมาไม่หยุดจนต้องหันไปมองกลับ
"อะไรไอ้เจ๊ง"
"ก็ตกใจเจ๊น่ะสิ คิดยังไงทำเขี้ยว" เจ๊ง เด็กหนุ่มผิวเข้มผมทรงบัซคัตสีเขียวขจีจนปวดใจคนมองเอ่ยขึ้น
"แล้วเท่มั้ยล่ะ" ริมฝีปากสีชมพูอ่อนยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวที่เสียตังไปไม่น้อย ช่วงนี้กำลังอินอานิเมะดัง บรรดาเสาหลัก ตู๊ ตู๊--- อสูร ตัวละครที่ชอบจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากน้องเนซึโกะ อยากจะมีเขี้ยวเหมือนน้องเอาไว้แต่งคอสเพลย์แต่ทำออกมาแล้วกลับเหมือนหมาแทนเนี่ยสิ
"ก็...เท่ครับเท่ เหมือนน้องไซหน้าตึกเลย"
"อยากโดนกัดจมเขี้ยวมั้ย" ซินดี้กดเสียงต่ำพร้อมสายตาจิกส่งสัญญาณเตือนเมื่อถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนหมาพันธุ์ไซบีเรียน
"อุ๊ย ผมปากไม่ดีเลยเนอะเจ๊ซิน"
เจ๊งหัวเราะกลบเกลื่อนหันไปรินน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ ให้ดื่มคลายร้อนแล้วยกพัดขึ้นมาปรนนิบัติพัดวีหญิงสาว
ซินดี้ถลกแขนเสื้อฮู้ดสีน้ำตาลเข้มขึ้น ยกมือขึ้นเสยผมทรงวูฟคัท มืออีกข้างรับแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ท่าทางเก๊กหล่อทำให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านเต็นท์ไปหันมามองกันเหลียวหลัง
ไม่อยากจะพูดหรอกนะว่าเธอก็ฮอตอยู่พอตัว เพราะสีตาที่ดูเป็นลูกครึ่ง นัยน์ตาน้ำตาลอมเขียว ผมสีดำสนิท สูงร้อยแปดสิบห้าเรียกได้ว่าสูงเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยคนไทยไปแล้ว
และเหมือนแม่จะกลัวคนไม่รู้ว่าเป็นลูกครึ่งแม่ก็ตั้งชื่ออินเตอร์ให้ว่า ซินดี้ แม้ว่าโตมาแล้วมันจะไม่เข้ากับเธอเท่าไหร่ก็ตาม
ซินดี้ก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อของเธอสัญชาติอะไรและเป็นใคร เพราะผู้เป็นแม่ไม่เคยบอก เรื่องเดียวที่แม่พูดถึงพ่อคือพ่ออยู่ในที่ไกลแสนไกลพร้อมทำหน้าเศร้า สรุปได้ว่าพ่อของเธอคงอยู่บนสวรรค์เรียบร้อยแล้ว ส่วนแม่ที่เลี้ยงเธอมาก็พึ่งย้ายไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์เมื่อสามปีก่อนนี้เอง
เมื่อดื่มเก๊กฮวยชื่นใจพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแล้ว ก็หันมานั่งรอเพื่อนที่เหลืออย่างเบื่อหน่าย ช่วงนี้เป็นเทศกาลปีใหม่กลุ่มปีสามหลักสูตรศิลปกรรมที่เหลือเพียงหยิบมือเพราะเป็นสาขาที่คนเรียนน้อยก็นัดรวมตัวกันมาเที่ยวแคมป์ปิ้ง
เธอกับเจ๊งที่มารถคันเดียวกันมาถึงก่อนก็ช่วยกันกางเต็นท์จัดโต๊ะเก้าอี้รอเพื่อนที่มารถอีกคันแวะซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เพราะในตัวเมืองราคาถูกกว่าของขายในเขตอุทยาน จนตอนนี้จัดการทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว คนที่แวะซื้อของก็ยังมาไม่ถึง
"พวกไอ้โยมันหายหัวไปซื้อเบียร์กันถึงไหนวะ"
"โน่นไงเจ๊ มันมากันแล้ว" ปากศักดิ์สิทธิ์จริง พูดปุ๊บมาปั๊บ
โย เป็ด และมิ้นท์เดินถือของพะรุงพะรังมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"เป็นอะไรหน้าบูดมาเลย"
"มีวัยรุ่นมันขับรถตัดหน้าแล้วกวนตีนใส่อ่ะเจ๊ แต่หนูห้ามไว้ไม่ให้มีเรื่อง"
มิ้นท์แฟนสาวเป็ดตอบด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
"เจ้าถิ่นเปล่าวะ ดีและที่ห้ามไว้"
สมัยนี้โลกร้อนอย่างเดียวไม่พอเลือดร้อนด้วย ข่าวยิงกันแทงกันตายแทบทุกวัน เธอไม่อยากให้วันหยุดต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้หรอกนะ
"ปกติเจ๊ต้องวิ่งใส่เดี่ยวแล้วดิ ทำไมวันนี้เจ๊ห้าม"
"มึงโง่เหรอ ถ้ามันเป็นเจ้าถิ่นแล้วแม่งเรียกพวกมาล่ะ ถ้าแค่พวกมึงไม่มีมิ้นท์จะไม่ห่วงเลย แล้ววันนี้มาพักผ่อนเว้ยไม่ได้มาตีกับใคร"
มิ้นท์นั่งลงข้างๆ กอดแขนซินดี้แล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย หน้าอกหน้าใจของสาวหมวยสัมผัสเข้าที่แขนของสาวอีกคนเต็มๆ ก่อนที่มิ้นท์จะหยิบแตงโมที่ซื้อมาจากร้านรถเข็นป้อนปากชมพูที่ยิ้มเจ้าเล่ห์โชว์เขี้ยวจนเป็ดหรี่ตามองทั้งคู่
"เจ๊ไม่ได้เป็นชู้กับแฟนผมใช่มั้ย"
ไอ้พวกนี้... มันไม่ได้มองเธอเป็นผู้หญิงเลยสักนิด คงเพราะภาพลักษณ์ที่ดูแรง ตาเฉี่ยวดุแถมตัวสูงปรี๊ด ต่างจากมิ้นท์ ที่ขาวสวยหมวยตัวเล็กน่ารักไซส์หมากระเป๋าดีกรีดาวคณะ ทำให้พวกมันลืมกันไปแล้วว่าเธอเองก็เป็นผู้หญิง!
"ผัวเผลอแล้วเจอกันนะจ๊ะ"
"เจ๊!"
เสียงหัวเราะทำให้บรรยากาศกลับมาดีขึ้นอีกครั้งจนสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
หลังจากที่พระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนก็ช่วยกันจุดเตาปิ้งบาร์บีคิวปาร์ตี้สังสรรค์กัน
ระหว่างที่กำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น เสียงเร่งเครื่องรถคันหนึ่งก็ดังขึ้น ทั้งหมดพร้อมใจกันหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงรวมถึงคนอื่นๆ ที่มาเที่ยวแคมป์บริเวณนั้นด้วย
กลุ่มเด็กวัยรุ่นชะเง้อชะแง้เหมือนมองหาใครสักคนที่บริเวณจุดกางเต็นท์นักท่องเที่ยว โดยอีกสี่ห้าคนเกาะกลุ่มอยู่รอบรถกระบะสีส้มของเป็ด เห็นเค้าลางไม่ดีมาแต่ไกล
"ใครวะ" ซินดี้หันไปถามเป็ดเพื่อความแน่ใจ
"เจ๊ไอ้พวกนี้แหละที่มันกวนตีนผม" คำตอบที่ชัดเจนแจ่มแจ้งถึงกับทำเอากุมขมับ
"แม่งมาทำไมวะ"
มาเอาเลือดหัวมึงออกไง… เธอคิดในใจ มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามาเพื่อกระทืบไอ้เป็ด
หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นชี้มาที่กลุ่มพวกเธอที่กำลังหันไปมองกลุ่มวัยรุ่นอยู่เช่นกัน
"เดี๋ยวกูไปเคลียร์เอง โยมึงพามิ้นท์ไปที่อื่นก่อน" ถ้าไม่เคลียร์วันหยุดนี้คงไม่ต้องเที่ยวต่อแล้ว
"เจ๊อย่าไปเลย" มิ้นท์กอดแขนซินดี้ไว้ด้วยความหวาดกลัว
"แป๊บเดียว ไอ้เป็ดไอ้เจ๊งไปกับกู"
"มีอะไรหรือเปล่า"
เมื่อเดินมาถึงบริเวณลานจอดรถของอุทยาน เธอก็ถามกลุ่มวัยรุ่นทันที
จากที่กวาดสายตาดูแล้วมีประมาณแปดคน น่าจะยังเป็นเยาวชนกันอยู่เลย เพราะบางคนก็ใส่ชุดนักเรียนและด้วยจำนวนคนที่เยอะกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีทางสู้ได้แน่ คนนะไม่ใช่ซูเปอร์แมน ตัวตัวเจอได้แต่หลายคนยอมยกมือไหว้รักษาชีวิตตัวเองไปเถอะ
"ไอ้เxี้ยนี่แหละ"
เด็กวัยรุ่นเสื้อฟ้าชี้ไปที่เป็ดที่หน้าออกไม่สบอารมณ์ ท่าลิ้นดันกระพุ้งแก้มสายตากวนโอ๊ยประจำตัว ซินดี้เลยดึงมันไว้ แล้วให้มันถอยไปอยู่ข้างหลัง ด้วยความที่ตัวเธอสูงเลยบังเป็ดเกือบมิด
"ไรวะ เมื่อกี้ยังซ่าอยู่เลย ตอนนี้หลบหลัง...ผู้หญิงเหรอวะ" พวกมันมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ
"อย่ามีเรื่องกันดีกว่า วันนี้พวกเรามาพักผ่อน"
"มึงเสือกอะไร เป็นเมียหรือผัวมัน?" ก่อนที่จะเกิดเสียงหัวเราะจากกลุ่มวัยรุ่น
"จะเอายังไง" เธอพยายามกดอารมณ์โมโหจากเสียงหัวเราะเยาะล้อเลียน
"ให้มันกราบตีนน้องกู" คนที่ดูโตที่สุดในกลุ่มของเด็กวัยรุ่นชี้ไปที่เด็กเสื้อฟ้า
"ไม่มากไปหน่อยหรือไง แค่ขอโทษก็พอมั้ง"
"กูไม่ขอโทษ!"
เป็ดตะโกนแล้วจะพุ่งเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นท่าเดียว ดีที่มีเจ๊งจับเอาไว้
"ไอ้เป็ดใจเย็น"
แต่เป็ดก็สะบัดตัวเองจนหลุดออกจากการจับแล้วพุ่งเข้าหาคู่กรณีเสื้อฟ้า ก่อนจะซัดกันนัว กลุ่มวัยรุ่นก็เริ่มกระโจนเข้าไปรุมเป็ด
"อย่ารุมกันดิ!" ซินตะโกนปรามเสียงดังแข่งกับเสียงเอะอะโวยวายก่อนจะพยายามดึงวัยรุ่นให้ออกมา ส่วนเจ๊งก็กระโจมเข้าไปอยู่กลางวงกับเป็ดเป็นที่เรียบร้อย จากสถานการณ์ที่แย่ลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็รีบวิ่งมาควบคุมสถานการณ์
สายตาเธอเหลือบไปเห็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังขึ้นลำปืน
"เฮ้ย!"
ปัง! ปัง! ปัง!
หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นยิงปืนขึ้นฟ้าก่อนจะเล็งมาที่เป็ดที่พึ่งถูกดึงตัวออกมาจากวง
เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ทำให้ซินดี้รวมถึงคนที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ต้องวิ่งหนีกันคนละทาง เป็ดวิ่งไปทางอาคารไม้โรงอาบน้ำ ส่วนเธอถูกเจ๊งคว้าวิ่งมาอีกทางที่เป็นป่า
ร่างสูงบางของซินดี้ล้มตัวลงไปนั่งพิงต้นไม้ใหญ่หลังจากที่วิ่งเข้ามาไกลพอสมควร
"เจ๊!"
"ไม่เป็นไร"
"ไม่เป็นไรก็บ้าแล้วเจ๊ เลือดไหลทะลักขนาดนั้น"
มือบางสัมผัสบริเวณเอวที่มีของเหลวหนืดออกมา เธอไม่รู้ว่าโดนยิงตอนไหน เพราะตลอดทางไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด แต่พอรู้ว่าโดนยิงต่อมความเจ็บก็ทำให้ฉันหน้าซีด
"เจ๊เดี๋ยวผมไปตามคนมาช่วย" เจ๊งที่ดูแผลแล้วคิดว่า เขาวิ่งไปขอความช่วยเหลือข้างนอกน่าจะเร็วกว่าการพยุงเธอที่ตอนนี้ไม่มีแรงจะลุกด้วยซ้ำออกไปด้วยกัน
“เจ๊รอผมนะ ผมจะไปตามคนมาช่วย”
ซินดี้ได้แต่มองตามหลังเจ๊งที่วิ่งไกลออกไปท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องสว่างแม้ดวงตาก็เริ่มมัวและมืดลงเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าเบลอไม่มีสติจากบาดแผลหรือเปล่า แต่การกะพริบตาที่หนักอึ้งแต่ละครั้งเธอกลับรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปพร้อมกับความรู้สึกของร่างกายที่ถูกลากไปกับพื้นหญ้าเศษดินและกิ่งไม้
“จะ เจ๊ง มึงเหรอ”
ความคิดเห็น