ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วัยใส

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 53


     
    วิ..เร็วเข้า....เราต้องไปสมัครแต่ต้น ๆ คนยังน้อยอยู่  เสร็จแล้วจะได้มีเวลาไปเดินดูรอบ ๆ โรงเรียนกัน  

    ขวัญฤดีเรียกเพื่อนสาวร่างท้วมขาวท่าทางน่ารัก  วิภาวี เดินมายังห้องประชุมที่รับสมัครสอบอย่างสบาย ๆ  เหมือนไม่รีบไม่ร้อน สองสาวจะมาสมัครเข้าเรียนต่อระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนแห่งนี้ซึ่งเป็นโรงเรียนดังประจำจังหวัด

    รีบสมัครให้เสร็จก็ดีหรอก แต่ไปเดินดูรอบโรงเรียนไม่เอาด้วยนะขี้เกียจ ร้อนก็ร้อนเหนื่อยด้วยอยากกลับบ้าน   วิภาวีบอกเพื่อนสาวเมื่อเดินมาถึงเพื่อนสาวที่ยืนรออยู่ด้วยท่าทีกระตือรือร้นเพื่อนสาวของเธอเป็นคนเข้าขั้นสวยเชียว รูปร่างสมส่วนแววตาสดใสปากช่างเจรจา มองกี่ทีก็ดูน่ารักน่าเอ็นดู

    ­ น่านะไหน ๆ ก็มีโอกาสได้มาแล้วไปเดินเล่นเป็นเพื่อนหน่อยซิอยากดูมากเลยถือว่าเป็นความทรงจำวันสมัครสอบไง    

    ขวัญฤดียังคงอ้อนวิภาวีอย่างไม่ลดละ

    เฮ้อออ.............  วิภาวีแกล้งถอยหายใจยาวเจตนาให้เพื่อนสาวได้ยิน 

    เอางี้แล้วกันยายบ๊องไปสมัครเรียนให้เสร็จก่อนดีกว่ามั๊ย เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

    เออก็ได้ ๆ เซ็งนะเนี่ยงอนแล้วว ขวัญฤดีพ้อเพื่อนสาว

    ยายบ๊อง อย่าเพิ่งใจน้อยแสนงอนเลย ไปสมัครให้เสร็จ ๆ ก่อน วิภาวีพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ต้องตกใจกับเสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวที่แผดเสียงออกมาอย่างดีอกดีใจ ไม่อายฟ้าดิน

    กรี๊ดดด......เฮ้ย..  ! วิ ดูผู้ชายคนนั้นซิเท่ห์ชะมัดเลย หล่อมั๊ก ๆ

    มีเวลาดูหนุ่มนะยะเธอ ไหนยะคนไหนที่หล่อมั๊ก ๆ ของเธอน่ะ

    นั้นไง  

    ขวัญฤดีชี้มือไปที่เด็กนักเรียนหนุ่มคนหนึ่งซึ่งใส่เครื่องแบบนักเรียนชื่อดังของจังหวัด ยืนอยู่คนเดียวในกลุ่มนักเรียนหญิงสถาบันเดียวกัน  วิภาวี มองตามมือแล้วก็พบว่าหนุ่มที่เพื่อนบอกว่าเท่ห์นั้น เป็นอย่างที่เพื่อนว่าจริง ๆ ผู้ชายคนนั้น สูง ขาว หน้าตาหล่อคมสัน หล่อเข้าขั้นเทพเชียวหละ ตัดผมสั้น แต่งตัวสะอาด สะอ้าน ดูแล้วน่าประทับใจจริง ๆ เขาพูดคุยอยู่ในกลุ่มเพื่อนสาว ๆ ด้วยสีหน้าแววตาที่สดใสเป็นประกาย  รอยยิ้มติดอยู่ในหน้าตลอดดูแล้วช่างมีความสุขจริง ๆ

    เฮ้ย.. ยายวิ ....ยายยยวิ...  มองเพลินเชียวนะหล่อน สนใจเหมือนกันเหรอ  หล่ออย่างที่ฉันว่าใช่ม๊า..

    บ้า..เปล่าสนใจซะหน่อย มองไปเรื่อย ๆ ไร้สาระน่ะ เท่ห์หล่อ ตรงไหน รสนิยมเธอเหรอนั่น   หญิงอายหน้าแดงเฉไฉแก้ตัวไปข้าง ๆ คู ๆ

     นี่หล่อน ตาไม่มีแววหรือไงยะหล่อม๊ากกกกกก ว๊ายดูซิยิ้มก็น่ารัก       

    ขวัญฤดี เขย่าแขนวิภาวี เต็มแรงพร้อมส่งเสียงเต็มเสียงอย่างลืมตัวจนกลุ่มนักเรียนที่เป็นที่สนใจของขวัญพากันหันมามองพลันสายตาของวิภาวี ก็สบเข้ากับสายตาของเขาคนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ วิภาวี ยิ้มอย่างอาย ๆ ออกอาการเคอะเขิน  แล้วก็เฉไฉหันไปมองทางอื่นทำเป็นเหมือนไม่สนใจเขาคนนั้น เลยไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มของเขาที่ขบขันกับท่าทางเคอะเขินของเธอ

    ต๊าย ยายวิดูซี เขายิ้มให้เราด้วย ดูซีดูซี

    ขวัญฤดีเขย่าเพื่อนสาวจนหัวสั่นหัวคลอนผมกระจุยกระจายมาปกคลุมใบหน้าอันขาวผ่อง เผยให้เห็นเพียงปากนิดจมูกหน่อยที่พ้นผมออกมา  จากแรงเขย่าโดยที่เพื่อนสาวยังไม่ทันรู้ตัวมันทำให้หล่อนทั้งคู่เซถลาล้มจ้ำบ้ำกันไปทั้งคู่  นพพรซึ่งยืนมองสองสาวอยู่แล้วอดขำไม่ได้จนเผลอหัวเราะออกมา เพื่อนสาวของเขาหันมามองนพพรอย่างแปลกใจในท่าทางของเขาที่อยู่ดี ๆ ก็หัวเราะออกมา

    นพเธอเป็นอะไรไปมีอะไรน่าขำหรือไง   มายาวีเพื่อนสาวคนสนิทของเขาถาม

    เปล่าไม่มีอะไร   นพพรตอบในขณะที่เขายังคงส่งเสียงหัวเราะไม่เลิกเหมือนคนบ้าจี้ที่หัวเราะแล้วหยุดไม่ได้   อาการของเขาไม่ใช่แค่เพื่อนของเขาเท่านั้นที่มองเขา  แต่ทำเอาสองสาวที่เป็นต้นเหตุของเสียงหัวเราะซึ่งขณะนี้ลุกขึ้นยืนได้แล้วยังต้องหันมองมาทางเขาอย่างแปลกใจเหมือนกัน

    วิเธอว่าเขาขำอะไร

    วิภาวี ทำท่างงเหมือนกัน แต่แล้วสายตาก็สบเข้ากับสายตาที่ยังมีแววขบขันอยู่อย่างบังเอิญ พอสายตาสบกันเท่านั้น นพพรก็ปล่อยหัวเราะก๊าก....ออกมาอีกอย่างดัง วิภาวี อายจนหน้าแดงคิดว่าเธอรู้แล้ว..ว่าไอ้สาเหตุที่เขาหัวเราะนั้นต้องมาจากที่พวกเธอล้มลุกคลุกคลานเป็นแน่   ดู๋ดู...แม่เพื่อนสาวตัวดีตัวต้นเหตุ ยังไม่สำนึก เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบชวนเพื่อนสาวไปให้พ้นจากสายตาเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่สปรี๊ดเหนือนรกอย่างเธอจะทำได้ 

      ไปสมัครเรียนกันได้แล้วไหนว่ารีบไง  

    ว่าแล้วก็ลากเพื่อนสาวที่ทำท่าว่าจะฝังรากแก้วไว้บนพื้นดินแถวนั้นเสียแล้ว เพราะเธอแทบจะไม่ยอมขยับขาตามแรงลากของเพื่อนสาว  แต่สุดท้ายก็ยอมไปโดยยังไม่วายทิ้งสายตาละห้อยหาให้ชายหนุ่มมองตาม

     

            ขณะที่วิภาวี นั่งเขียนใบสมัครเข้าเรียนอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงทักจากคนที่มายืนอยู่ข้างหน้าโต๊ะ

    สวัสดีครับ….”

            วิภาวี เงยหน้าจากการเขียนใบสมัคร แล้วสิ่งที่ไม่อยู่ในความคาดคิดของเธอก็เกิดขึ้นเพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือผู้ชายที่สร้างความรู้สึกอับอายให้เกิดขึ้นในชีวิตสาวของเธอเมื่อซักครู่นี้เอง

    สวัสดีครับ ชายหนุ่มทักอีกครั้งเมื่อเห็นสาวเจ้าเอาแต่มองเขาแล้วไม่พูดอะไร

     

    คะ สวัสดีค่ะ เอ่อ.....มีอะไรหรือเปล่า  วิขานตอบแล้วก็ให้นึกถึงไอ้ท่าทางหัวเราะแทบเป็นแทบตายของเขาเมื่อกี้แล้วให้นึกหมั่นไส้นักหัวเราะเยาะเราขนาดนั้นแล้วยังกล้ามาทักเราอีก  ........นายแน่มากกกกกกก  แค้นนนนน...แต่ก็ได้แต่คิด

    เอ่อไม่มีอะไรหรอกครับเผอิญเห็นคุณนั่งอยู่คนเดียวเลยเข้ามาทักแล้วเพื่อนของคุณอีกคนไปไหนเสียแล้วหละ ว่าแต่จำผมได้ไหมครับที่เราเจอกันตรงหน้าห้องประชุมเมื่อสักครู่นี่น่ะครับ

    นพพรถามต่อเลยโดยไม่รอคำตอบจากประโยคแรก

     

    จำไม่ได้ก็บ้าแล้ว....วิภาวีคิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา  แล้วไอ้ภาพหัวเราะงอก่องอขิงของเขาเมื่อกี้ก็ลอยมากวนอารมณ์เธอให้ขุ่นขึ้นมาอีกจนได้ 

     

    ว่าไงครับจำผมได้ไหมเอ่ย...?   เอไม่น่าความจำสั้นเลยนะครับเพิ่งเจอกันเมื่อกี้เอง    นพพรกล่าวเสริมพร้อมกับแววตาที่พยายามกลั้นอาการหัวเราะเต็มที่

    จำได้ซี จำได้ดีเชียวแหละเจอหน้ากันครั้งแรกหัวเราะเสียขนาดนั้นไม่รู้ว่าพวกเราไปสะดุดต่อมอะไรของนายเข้าถึงหัวเราะจนฟ้าสะท้านดินสะเทือนซะขนาดนั้น

    เธอตอบอย่างกระแหนะกระแหนตอบแบบชวนหาเรื่อง แล้วทำท่าเหมือนจะปิดการสนทนาซะดื้อ ๆ  โดยหันไปสนใจเรื่องใบสมัครที่วางอยู่ตรงหน้า นพพรมองอาการต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างนึกขำมันเป็นความน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

    สมัครสายไหนครับ   นพพรยังไม่เลิกตอแยและไม่เลิกสนใจท่าทางอารมณ์เสียหัวฟัดหัวเหวี่ยงของสาวเจ้าแถมยังยิงคำถามต่อพร้อมกับมองใบสมัครในมือซึ่งเจ้าของถือมันไว้เฉย ๆ โดยไม่ได้เขียนอะไรต่อ

    วิภาวีครับ สมัครสายไหนครับ  นพพรเรียกชื่อเต็มพร้อมถามซ้ำเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากปากสาว

    รู้จักชื่อฉันได้อย่างไร...?” หญิงสาวถามเขากลับอย่างงง ๆ  เขารู้ชื่อเธอได้อย่างไรวิภาวีคิด

    นพพรหัวเราะเสียงดัง จนใบหน้าของเขาแดงกล่ำ เขาช่างเป็นคนหัวเราะง่ายเสียนี่กระไรวิภาวีคิดแบบประชด  เสียงหัวเราะของเขาทำให้วิภาวีหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ แดงแล้วก็ซีด....ซีดแล้วก็แดงขึ้นอีก  เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเขารู้จักชื่อเธอได้อย่างไร  อย่าว่าแต่ชื่อเลยยยยยยย...นามสกุลก็รู้ได้เพราะขณะนี้เธอสวมเครื่องแบบนักเรียนที่มีชื่อพร้อมนามสกุลปักหลาอยู่บนหน้าอก

    ขำพอหรือยัง ....?”  วิภาวีถามอย่างไม่สบอารมณ์โก๋ เหมือนพาลจะหาเรื่องซะให้ได้

    นพพรหยุดกึก...เหมือนจะสำนึกได้  เมื่อได้ยินน้ำเสียงของสาวที่อยู่ตรงหน้าบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ

    เอ่อขำพอแล้วครับ นพพรตอบ   แต่แหมนึกถึงหน้าคุณประกอบกับ ภาพหัวสั่นหัวคลอนล้มลุกคลุกคลานของคุณเมื่อกี้นี้แล้ว มันอดขำไม่ได้จริง ๆ นะ แต่ก็เป็นภาพที่น่ารักนะครับ  เขาพูดด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยรอยอมยิ้มแบบกลั้นหัวเราะกันสุดฤทธิ์ 

    ตบหัวแล้วลูบหลัง วิภาวีหน้าแดงแป๊ดดดด  กะจะฉะหนุ่มหล่อเท่ห์ของเพื่อนที่แสนจะปากดีคนนี้สักยก แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากทำตามที่ใจนึกก็ต้องรีบหุบปากลงเสมือนติดเบรกอย่างดี เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนสาวตัวดีของเธอนั่นเองที่ลอยมาตามลมน้ำเสียงบ่งบอกถึงอารมณ์อันแสนจะยินดีปรีดาเสียนี่กระไร 

    สวัสดีค่ะ   คุยอะไรกันอยู่คะแหม ดีใจจังเลยที่มีโอกาสได้พบกันอีก  

    เสียงทักจากขวัญฤดีเพื่อนรักที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาแต่ไกลแบบว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ว่าคิดอะไรอยู่ ดู่ดู๊ดู... ดูเธอทำ...  เพื่อนสาวเธอปรี่ไปหาหนุ่มในดวงใจปานว่าถ้าเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเขาได้ก็คงจะทำไปแล้ว ใช่ว่าจะสนใจเพื่อนสาวอย่างเธอเลย ลืมไปเลยมั้งว่ามีเธอยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย   เหมือนว่าโลกนี้มีเพียงเราสองคนฉะนั้นก็ไม่ปาน

     

      หวัดดีครับผมนพพรครับ กำลังคุยกับวิเรื่องการสมัครเรียนครับ ยังไม่ได้รับคำตอบเลย

    พูดจบนพพรก็หันมาสบตากับวิภาวี พร้อมกับส่งสายตาแบบยี่ยวนมาให้  วิภาวีเห็นแล้วเกิดอาการทนไม่ไหวเลยย่นจมูกใส่เขาเสียเลย แต่สำหรับนพพรแล้วมันกับเป็นอากัปกิริยาที่ดูธรรมชาติน่ารักเสียนี่กระไร..

     ถามว่าอะไรหรือคะ ขวัญฤดียังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วต่อไป

    ผมถามวิเขาว่าสมัครเรียนสายไหนน่ะครับ

    อ๋อ วิเขาสมัครสายวิทย์คณิต น่ะค่ะ    ขวัญก็เหมือนกันแล้ว

    นพพรล่ะสมัครเรียนสายไหนคะ

    เพื่อนสาวเธอตอบคำถามพร้อมสาธยายเสร็จสรรพ แถมยังยิงคำถามไปยังหนุ่มเท่ห์แบบไม่ให้เสียโอกาส เฮ้ออออออ.. เพื่อนเราเป็นไปได้ถึงเพียงนี้

    ครับ วิทย์คณิตเหมือนกันครับ

    แหมดีจังเลยถ้าสอบเข้าได้ ได้เรียนอยู่ห้องเดียวกันก็ดีนะคะเนี่ย 

    น่านให้มันได้อย่างนี้ซิเพื่อนเรา ไม่มีเหนียมอาย ไม่วางฟอร์ม ไม่เคยปล่อยโอกาสให้หลุดลอย วิภาวิคิดในใจแต่ไม่พูดไม่สนทนาด้วยแต่ก็เงี่ยหูฟังนะ

    ครับผมจะดีใจมากเลยครับ.....         นพพรขานรับแล้วก็มองไปยังสาวอีกคนที่นั่งก้มหน้าก้มตาเหมือนไม่สนใจใยดีที่มีเขายืนอยู่ตรงนี้ และเงียบตั้งแต่ขวัญฤดีเข้ามา....เพียงหวังว่าจะสบตาสักครั้งแต่ก็ไม่ได้สมดังใจเขาพบแต่เพียงผมสีดำเงางามที่ปิดบังใบหน้าส่วนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนเธอจะสนใจอยู่กับใบสมัครมากกว่าเขา  นพพรคิดน้อยใจนิด ๆ แต่หารู้ไม่ว่าขณะนั้นสาวที่เหมือนจะสนใจแต่เรื่องใบสมัครนั้น ก็สนใจในถ้อยคำสนทนาระหว่างเพื่อนสาวกับชายหนุ่มและจดจำทุกคำพูดของชายหนุ่มได้ แต่ด้วยอารมณ์แบบไหน..... ก็เหลือจะคาดเดาได้.........

    นพ ไปสมัครเร็ว .....ไม่สมัครหรือไงวะ?   หลีสาวอยู่ได้ มาสมัครเรียนนะโว้ยสมัครให้เสร็จก่อน เพื่อนของนพพรตะโกนเรียกเขา

    เพื่อน ๆ ของเขาเรียกแล้ว วิภาวีคิดในใจแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นยังคงเขียนใบสมัครต่อไปเสมือนไม่สนใจชายหนุ่ม

    เพื่อนเรียกแล้วเหรอยังคุยกันได้ไม่นานเลย จะมีโอกาสได้คุยกันอีกไหมคะก่อนกลับ

    เอ่อ...  ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นพร้อมกับเหลือบสายตาไปยังหญิงสาวอีกคน

    ว่าไงคะ จะได้พบกันก่อนกลับไหมเพราะขวัญกับวิว่าจะเดินดูโรงเรียนก่อนกลับน่ะ แต่ไปน้อยคนกลัวกร่อย

    นพพรดีใจลึก ๆ ครับ ถ้าสมัครเสร็จแล้วนะครับ....จะรอตรงไหนครับ

    หน้าหอประชุมก็แล้วกันนะคะ แหมขวัญดีใจมากเลยนะคะนึกว่าต้องเดินชมแบบกร่อย ๆ กับวิ เสียแล้ว

    ไปก่อนนะแล้วผมจะมาหา ..นพพรพูดพร้อมกับมองไปยังสาวซึ่งก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา จนนพพรต้องเอยขึ้นอีก

    วิ...ผมไปก่อนแล้วค่อยเจอกันนะครับ    วิภาวี เงยหน้าแต่ไม่ได้

    เอ่ยตอบอะไรพร้อมกับยิ้ม  เอหรือสแยะ.....นพพรคิดแล้วก็พลอยจะขนหัวลุกซะให้ได้

    เราดีใจจังเลย เขายอมรับนัดเราด้วยหละวิ  ว๊าววววววววว... เร็ว ๆ เข้ารีบสมัครให้เสร็จ ๆ ยายวิ   เราจะได้มีเวลาเดินดูโรงเรียนกันนาน ๆ  ช่างมีความสุขจริง ๆ เลย โอ ความทรงจำที่แสนวิเศษ.

    น่านให้มันได้ยังนี้เพื่อนฉัน

      เกินไปไหมจ๊ะยายขวัญ น้อย ๆ หน่อย หล่อนเป็นผู้หญิงนะยะ หงิม  เสงี่ยม นะ มีไหม เดี๋ยวเขาจะว่าเอาได้ มาสมัครเรียนนะจ๊ะไม่ได้นัดบอดดูตัวเลือกคู่ 

    แหมเธอก้อจะเป็นคุณยายหงำหงึก คร่ำครึ โบราญไปถึงไหน สมัยนี้สมัยใหม่แล้วยุคฮายเทคโนโลยีกันแล้ว   นี่ก็เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อยของเพื่อนฝูง หยวน   น่ะ

    ก็รู้...ถึงไม่อยากค้าน  แต่เราเป็นผู้หญิงก็ต้องไว้เนื้อไว้ตัวบ้างเปิดเผยไปซะหมด คิดอะไรเขารู้หมด ระวังจะไม่มีค่าในสายตาเขา แล้วไปกับคนที่พึ่งจะรู้จักกัน นิสัยดีร้ายยังไงก็ยังไม่รู้เลย ท่าทางก็กวน ๆ ชวนโมโห นี่นะ

    ต๊ายยายวิ ว่าสุดหล่อของฉัน  ตรงไหนยะที่หล่อนพูดมาน่ะ  เขาออกจะน่ารัก เพอร์เฟคซะขนาดนั้น ตามีแววหรือเปล่าจ๊ะ ..คุณยายประจำคาน    เอ......หรือจะเป็นเจ้าหญิงบนหอคอยที่เจ้าชายต้องไปช่วยลงมาดีนะ ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เดี๋ยวเถอะยายต๊องเถียงแทนคอเป็นเอ็นเชียวนะ   ฉันยอมอยู่บนคาน หรือบนหอคอยดีกว่า จะคบผู้ชายไม่ดี มีหลายคน  ศักดิ์ศรีน่ะรู้จักไหม ยายสาวสมัยใหม่ สาวไฮเทค  เอาตัวให้รอดเถอะ เขาเป็นคนอย่างไรดูกันไปนาน ๆ ก่อนดีไหม  แล้วก็ไม่รู้ว่าจะสอบเข้าเรียนได้หรือเปล่าเลย  สนใจเรื่องเรียนก่อนดีกว่า อนาคตที่ดี ๆ ๆ ท่องเข้าไว้  วิภาวีเทศยาว

    วิภาวีและขวัญฤดี  สมัครจนเสร็จ  ก็โทรบอกทางบ้านขออนุญาตเดินชมโรงเรียนกับเพื่อนก่อนกลับ  แล้วมานั่งรอนพพรตรงหน้าหอประชุมตามนัด  ช่วงระยะเวลา

    การรอ...วิภาวี รู้สึกเหมือนกับว่ามันช่างนานเสียนี่กระไร

    เฮ้อพ่อเจ้าประคุณพ่อเทพบุตร เมื่อไรจะเสด็จมาเสียที .....แล้วการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อวิภาวี มองไปเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมายังจุดที่เธอนั่งอยู่ ใช่แล้วเขานั่นเอง เขามาตามที่นัดกับขวัญไว้แต่...เขาไม่ได้มาคนเดียวเขามาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่ได้เจอกันครั้งแรก แต่คราวนี้มีผู้ชายมาเพิ่มขึ้น  กลุ่มนพพรเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ  นพพรกล่าวทักพร้อมกับแนะนำเพื่อน ๆ ให้เธอและขวัญได้รู้จัก

    พอดี  เพื่อน ๆ รู้ว่าผมจะไปเดินชมโรงเรียนก็เลยอยากมา ร่วมกิจกรรม ด้วย ก็ดี ไปหลาย ๆ คนจะได้สนุกเป็นความทรงจำที่ดี

    ใช่ไปหลาย ๆ คนสนุกดีผมชอบมากเนอะ มายาวี

    เพื่อนของนพพรกล่าวเสริมพร้อมกับหันไปพยักหน้าให้กับสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างนพพร  ซึ่งวิภาวี เพิ่งสังเกตเห็นว่าสาวสวยคนนี้ยืนอยู่ใกล้นพพรมาก ความสนิทสนมคงไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาเรียนมาจากโรงเรียนเดียวกัน วิภาวีเหลือบมองไปยังเพื่อนสาวซึ่งคงยังไม่รู้สึก

    ไปกันหรือยัง .......นพพรกล่าว

    ไปซิ ๆ ๆ  ไปครับขวัญ วิ   เกียรติศักดิ์กล่าวชวนขวัญ และวิภาวี

    ขวัญดูมีความสุขเธอคุยไปตลอดทางที่เดินชมโรงเรียนโดยเธอคุยได้กับทุกคนโดยเฉพาะเกียรติศักดิ์ และนพพร  ดูเพื่อนเธอจะสนุกสนานจนเหลือคณานับ  ดูเธอเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี สำหรับวิภาวีได้แต่เดินไปเงียบ ๆ คุยบ้างบางครั้งเมื่อมีคนถาม แต่วิภาวีเลือกที่จะเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่พูดมากกว่า แต่สายตาเธอ เมื่อลืมตัวเธอก็อดที่จะมองไปทางนพพรและมายาวีที่เดินพูดคุยกันหนุงหนิงอย่างมีความสุขไม่ได้แฟนกันหรือเปล่า  มองที่ไรก็ให้รู้สึกหมั่นไส้เล็ก ๆ ทุกครั้ง  วิภาวีรู้สึกว่าระยะเวลามันช่างนานเสียเหลือเกิน .....มันนานเกินไปแล้ว

    ในที่สุดการเที่ยวชมโรงเรียนก็สิ้นสุดลงเมื่อทุกคนเดินวนจนมาถึงหอประชุมอีกครั้ง

    แหมเวลาผ่านไปเร็วจังเลย แต่เป็นความทรงจำที่ดีนะ เกียรติศักดิ์เอ่ย

    ใช่ ๆ  เป็นความทรงจำที่ดีมากเลยถ้าพวกเราสอบเข้าเรียนต่อได้ทุกคนและได้เรียนห้องเดียวกันก็จะดีมากเลย

    ใช่ ผมก็อยากให้เป็นเป็นอย่างนั้น

     พูดพร้อมกับหันมามองวิภาวี ซึ่งคราวนี้เขาได้สบตากับเธออย่างจัง เพราะวิภาวี มองเขาอยู่แล้วตลอดเวลาที่มาถึงหอประชุม วิภาวีรีบหันไปมองทางอื่นไม่เออออไปกับความคิดของใครทั้งนั้น ในใจก็คิดไปต่าง ๆ นานา มันจะดีตรงไหนนะ....  คิดไม่ออก อยู่ใกล้ก็อยากจะซัดซักยกแล้ว แหมมีสาวสวยติดตามตัวมาขนาดนี้ยังมีเวลาสอดส่ายสายตาสานสัมพันธ์กันคนอื่นได้อีกนะ พ่อปลาไหล น่าหมั่นไส้จริงเลย  วิภาวี คิดในใจแต่หารู้ไม่ว่าความคิดมันแสดงออกมาทางสีหน้าแววตาอย่างเห็นได้ชัด

    วิ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ... นพพรถาม

    เปล่า ....ไม่ได้เป็นอะไรหนิ ปกติจะตาย..วิภาวีตอบแบบไม่เก็บอารมณ์เลย

    เงียบ...........................  บรรยากาศมันชั่งอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

    นี่เรามาแลกเบอร์โทรกันไหมเผื่อก่อนสอบจะได้นัดกันดู

    หนังสือบ้าง .. .

    โอ้แม่เจ้า... เพื่อนเธอชั่งกล้าคิดนะ

    เอาซี่ เป็นความคิดที่ดีมากเลย....เกียรติศักดิ์เสริม

    ได้จ๊ะ  มายาวีกล่าวพร้อมกับบอกเบอร์ของเธอ และ ของนพพร  ให้ทราบ .เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเขาและเธอสนิทสนมกันจนจำเบอร์โทรศัพท์ของกันได้

    เสร็จยัง......กลับกันเถอะขวัญ............วิภาวี กล่าวชวนขวัญ

    ยังไม่ได้เบอร์วิเลย  นพพรกล่าวท้วง

    เอ้อ เราไม่มีโทรศัพท์  วิภาวีแกล้งโกหกเพราะไม่อยากให้เบอร์กับเขา ขวัญฤดีมองหน้าเพื่อนแบบงง ๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร

    อ้าว แล้วจะติดเธอได้อย่างไรหละ....นพพรอุทานปนผิดหวัง

     ติดต่อผ่านเราก็ได้เพราะเป็นคู่แฝดกันอยู่แล้วและจะดีใจมากเลยถ้าเธอโทรมาหา แล้วจะรอนะ .  ขวัญกล่าว

    ไปได้แล้ววิชวนเพื่อนสาวอีกครั้ง  แล้วก็หันไปกล่าวลาเพื่อนใหม่แบบกลาง ๆ  โดยไม่ได้หันไปมองนพพรอีกเลย

     

    นพพร มองตามหลังหญิงสาวที่กล่าวลาเขา โดยไม่แม้จะหันมาสบตาเขา เธอเป็นอะไรไป........?    นพพรคิดกังวลอยู่ในภวังค์....โดยไม่ได้ยินเสียงมายาวีที่เอ่ยชวนเขากลับบ้าน

    นพ ๆ    หญิงสาวเขย่าแขนเพื่อนหนุ่ม  

    หา...........ว่าไงนะ ? ” นพพรสะดุ้งขานรับพร้อมกับละสายตาจากวิภาวีที่เดินจากไป หันกลับมามองหน้าเพื่อนสาว 

    กลับบ้าน...เพื่อน ๆ ไปกันหมดแล้ว  .เป็นอะไรของเธอนะ  ใจลอยไปถึงไหนเรียกไม่ได้ยินเลย........... มายาวีตัดพ้อนิด ๆ

    ไม่มีอะไรกลับเถอะเหนื่อยเหมือนกัน   นพพรกล่าว

     

    ตั้งแต่วิภาวีเดินจากไป  เขากลับรู้สึกเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างไรไม่รู้   ไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ   
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×