ตอนที่ 9 : บทที่9 พี่สาวคนนั้น...โดนโจมตี
“เอล…..เอลว่าคุณพี่ดูแปลกไปไหม” หลังจากที่เราวิ่งตามอะมาดิโอที่ไม่ยอมรอเราเลย จนในที่สุดก็ตามทัน ยังไม่ทันที่เราจะหายเหนื่อย อยู่ๆอะมาดิโอก็พูดขึ้นมา แปลกหรือ
“ท่านพี่ ดูเข้มแข็งขึ้นกว่าเมื่อก่อน ดูมีชีวิตชีวาขึ้น จนบางครั้ง เราก็รู้สึกเหมือนคนละคนกับท่านพี่ แต่สายตาเราไม่เคยพลาด ท่านพี่ยังไงก็ยังคงเป็นท่านพี่ ว่าแต่ทำไมอะมาดิโอถึงสงสัยละ” เรามองไปยังอะมาดิโอที่เดินข้างๆ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบ ก็ถึงหน้าห้องเรียนพอดี เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าอาจารย์ลาล่ายังมาไม่ถึง เราถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่พวกเรากำลังจะแยกย้ายเข้าประจำที่นั่ง อะมาดิโอก็พูดลอยๆเบาๆ ที่เราได้ยินชัด
“สายตาที่เปลี่ยนไป ดูอันตรายขึ้นเยอะ” แล้วเขาก็เดินไปนั่งที่นั่งของเขาข้างๆ ลีโอ และฟารัส เราไม่เข้าใจคำพูดเท่าไรเลยไม่ได้ใส่ใจนัก แล้วนั่งประจำที่เราตรงกลางระหว่าง อาแมนด้ากับลีลี่ ระหว่างรออาจารย์ เราก็คิดถึงคำพูดของอะมาดิโอ อันตรายขึ้นงั้นหรอ จริงอยู่ที่ท่านพี่หลังจากที่ฟื้นมาจะมีบางอย่างแปลกๆไป แต่ท่านพี่ดูเข้มแข็งขึ้นมาก เราชอบท่านพี่แบบนี้มากกว่า ดูร่าเริงจริงๆ ไม่ใช่แสร้งทำให้คนรอบตัวสบายใจเหมือนเมื่อก่อน ท่านพี่น่ะมีร่างกายที่อ่อนแอมาก แม้กระทั่งมาโรงเรียนยังไม่ได้ เพราะฉะนั้น ท่านพี่มักจะมีใบหน้าที่เศร้าสร้อยเสมอ แม้จะมองทุกคนในครอบครัวอย่างอ่อนโยนและแสดงบทว่าตัวเองเข้มแข็งเสมอ แต่พออยู่คนเดียวมันจะมีใบหน้าที่ยอมแพ้ต่อชีวิต เราเคยได้ยินท่านพี่ร้องไห้อย่างทรมานเวลาไข้ขึ้น แต่ท่านพี่ที่งดงามและน่าสงสารของเธอเวลาอยู่ต่อหน้าใครๆมักจะแสดงว่าไหวและไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น เราจึงรักท่านพี่มากๆ ยิ่งมารู้ว่าท่านพี่ปกป้องเราจนบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งหยุดหายใจไปชั่วขณะ ก็ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด เราน่ะ จะไม่ยอมให้คนที่สั่งการเรื่องนี้อยู่รอดแน่นอน มันต้องไม่ตายดี ยิ่ง…...ถ้าสมมติเป็นคุณเบลล่าที่แสร้งอ่อนแอคนนั้นแล้ว เราจะไม่มีวันยอมให้ตายสบายหรอก มันจะต้องทรมานจนอยู่ก็ไม่สู้ตาย….
“เอล เป็นอะไรหรอเปล่า หน้าเครียดเชียว” เสียงลีลี่ที่ถามอย่างเป็นห่วง ทำให้เราที่คิดไปไกลกลับมาอีกครั้ง เราหายใจเข้าออกเพื่อให้ใจเย็นขึ้น
“ไม่มีอะไรจ๊ะ เราแค่มีอะไรให้คิดหน่อยน่ะ เรื่องเรื่อยเปื่อยน่ะ” เรายิ้มตอบลีลี่ไป เมื่อลีลี่เห็นอย่างนั้นก็ตบลงบนมือที่กำแน่นตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เราคลายมือออก และไม่นานหลังจากนั้น อาจารย์ลาล่าก็เดินเข้ามาและเริ่มตรวจว่าใครไม่เอาหนังสือมาเพื่อทำโทษ และเริ่มการเรียนการสอนในที่สุด…...อ่า คิดถึงท่านพี่จัง รีบๆเลิกสิ เราจะได้กลับไปอ้อนท่านพี่ซักที
********************************************
“ฮะชิ้ว!!” ฉันจามเสียงดังระหว่างที่พวกเรากำลังอยู่ในรถม้า เพื่อเดินทางกลับบ้าน
“คุณหนูไม่สบายหรือคะ ถึงคฤหาสน์ให้เมลีนตามท่านหมอให้ไหมคะ” เมลีนมองฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วง พร้อมยื่นชาอุ่นๆมาให้ ฉันรับไปพร้อมเอ่ยขอบคุณเบาๆ
“ไม่เป็นไรจ๊ะ น่าจะแค่มีเจอฝุ่นนิดหน่อยละมั้ง” ฉันที่มีผ้าเช็ดหน้าลูกไม้ปิดจมูกเอาไว้ตอบด้วยเสียงอู้อี้ แต่ฉันชัวร์มากเลย ต้องมีคนนินทาฉันแน่ๆ ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างพลางมองป่าด้านข้าง พอฉันทานอาหารเที่ยวเสร็จ แถมทำภารกิจส่งหนังสือให้น้องสาวเรียบร้อย ฉันก็ขอตัวกลับบ้าน พี่รามีทำหน้าเสียดาย พร้อมบอกว่าให้เขียนจดหมายมาเยอะๆนะ จะรออ่าน แล้วชวนฉันมางานประลองไตรภาคีที่กำลังจะจัดขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งฉันไม่ได้รับปาก เพราะถ้าสุขภาพไม่โอ ก็จะนอนกินบ้านกินเมืองรอน้องสาวกลับมารายงานผลงานที่บ้าน
ตอนนี่เราออกมาจากโรงเรียนได้ซักพักหนึ่งแล้ว คาดว่าประมาณ 5 โมงเย็นน่าจะถึงบ้าน อากาศยามบ่ายเริ่มดีกว่าเมื่อเช้า เพราะท้องฟ้าในตอนนี้เต็มไปด้วยเมฆ คาดว่าอีกไม่ช้าฝนหน้าจะตก ฉันจึงตัดสินใจ เคาะยังแผ่นไม้ที่ปิดช่องด้านหน้า ไม่นานนัก ใบหน้าครึ่งบนของแซนก็มองมาที่ฉันนิ่งๆ ฉันยิ้มบางๆ และบอกไป
“แซนจ๊ะ ฝากบอกบิลด้วยว่า เร่งความเร็วได้เลย เราไหว เราไม่อยากให้ฝนตกระหว่างเดินทาง” ซึ่งแซนก็ผงกหัว แล้วฉันก็รู้สึกถึงความเร็วรถม้าที่เพิ่มขึ้น ชนิดที่ฉันหัวแทบทิ่ม ถ้าไม่ได้เมลีนช่วยประคองไว้ เอิ่ม ถึงบอกให้เร่งเครื่องก็เถอะ จำเป็นต้องเร็วชนิด Fast 8 ไหม ทำไมไม่ดริฟไปเลยละ ถ้าจะโหดร้ายต่อคนกำลังป่วยขณะนี้
แต่แล้วราวกับบิลได้ยินเสียงฉัน ร่างของฉันกับเมลีนก็เอียงไปกองอยู่ฝั่งขวา เพราะตัวรถม้าฝั่งซ้ายยกขึ้น บิล...บิลเข้าใจคำว่าประชดไหม เมื่อตัวรถกลับมาตั้งตรง ยังไม่ทันที่ฉันจะเคาะเพื่อบอกให้ใจเย็นๆ อย่าพึ่งพาฉันไปส่งยมโลกตอนนี้เลย ขอร้องละ แซนก็เปิดช่องนั้น ใบหน้านิ่งปกติ ต่างตรงที่ นัยน์ตาสีดำวาวขึ้นอย่างเคร่งเครียด
“คุณหนูขอรับ ดูเหมือนจะมีโจรจะมาปล้นเรา คาดว่าอาจจะต้องเพิ่มความเร็วเพื่อให้หลุด ฉะนั้นคุณหนูรบกวนหาที่เกาะดีๆนะขอรับ” เป็นประโยคที่ยาวที่สุดตั้งแต่ที่รู้จักกันมา แต่ฉันไม่ดีใจซักนิด ดูเหมือนความเร็วจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว เมลีนกอดฉันแน่นเพื่อไม่ให้ฉันเสียหลักไปนอนเล่นที่พื้น ฉันจึงมองดูภายในรถม้าเพื่อหาที่เกาะ ฉันก็เห็นบางสิ่ง ฉันตัดสินใจใช้มีดปอกผลไม้ ขึ้นมาตัดผ้าม่านสีแดงเข้มผืนงามออกจากหน้าต่างรถม้า และผูกปลายด้านหนึ่งเข้ากับเสาเหล็กของเก้าอี้นวมที่นั่งอยู่ เมื่อเมลีนเห็นจึงเข้าใจสิ่งที่ต้องทำโดยทำแบบเดียวกันกับอีกข้างหนึ่ง เพื่อรั้งร่างพวกเราไว้กับเก้าอี้ไม่ให้ลอยเคว้งคว้างตามแรงกระโดดของรถม้า เมลีนยึดตัวฉันแน่น ฉันเองก็ใช้ไม้เท้าให้เป็นประโยชน์โดยใช้มันขว้างเราไว้อีกชั้น เผื่อผ้าโง่ๆนี้จะไม่อยู่ จริงๆถ้าจะใช้เวทมนตร์ เพื่อให้รอดพ้นก็ได้ แต่ร่างกายฉันยังไม่แข็งแรงขนาดนั้น และสถานการณ์เป็นยังไงก็ไม่รู้ ขืนใช้พร่ำเพรื่อมันอาจจะทำให้แย่ลงก็ได้
สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงก็ช่าง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้…... ถ้าเค้าอ้วกในรถ เมลีนจะตีเค้าไหมอ่าาา อุก…..
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,071 ความคิดเห็น
-
#512 LUKTARN19 (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 มกราคม 2561 / 21:10ฝนน่าจะตกใช้คำนี้นะคะ#5120
-
#505 [F.S]Fang_041 (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 มกราคม 2561 / 16:36ตลกกกกก#5050
-
#62 annaaa (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 / 13:53รอตอนต่อน้า#620
-
#61 b. bow (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 / 11:53รออ่านต่อค่าาา ชอบมากๆ#610
-
#60 Boomsakalaka999 (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 / 08:33ขอบคุณนะ ขนาดจะสอบยังแต่งนิยายให้รีดๆได้อ่าน ขอบคุณไรท์นะ พระเอกของพี่สาวคนสวยจะออกมาเมื่อไหร่นะ#600
-
#59 Alphadel (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 / 06:56อ้วกในรถมันไม่งามนะคะท่านพี่!!!!#590
-
Columnist#58 P'YinG (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 / 02:10รอติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้^^#580
-
#57 Kittttttttie (จากตอนที่ 9)วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 / 01:05ว้า พี่รามีบทหมดซะและ(ช่วยโผล่มาบ่อยๆน้า) นางเอกก็อดทนนะ อย่าเพิ่งอ้วกนะลูก55555555#570