ตอนที่ 52 : บทที่50 พี่สาวคนนั้น...หลงป่า
บทที่ 50 พี่สาวคนนั้น...หลงป่า
ฉันเดินผ่านป่ามาซักพัก ก็รู้สึกเจ็บข้อเท้าเบาๆ จึงตัดสินใจหยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีโพรงขนาดพอที่ฉันจะยัดร่างตัวเองเข้าไป อย่างน้อยระหว่างนี้ ก็ซ่อนตัวเอาไว้ก่อนดีกว่า
‘เฟน….’ ฉันลองติดต่อเฟนริสดู
‘เทีย เป็นไงมั้ง ข้ารับรู้ถึงเจ้าได้แล้ว กำลังไปรับ’ เสียงเฟนดูรีบร้อนตอบกลับมา ทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกพอควร
‘หนีออกมาแล้วละ ตอนนี้อยู่ในป่า กำลังซ่อนตัวอยู่ เพื่อพวกนั้นจะตามมา’ ฉันตอบเขาพร้อมหยิบถุงมิติออกมา ล้วงมือเข้าไปหาของกินข้างใน ปกติฉันจะไม่เก็บอาหารไว้ในนี้ เลยมีแค่ขวดน้ำเปล่าให้พอกินแก้กระหายเท่านั้น
‘เทีย ที่ป่านั้นอย่าอยู่บนพื้นในตอนกลางคืน ให้อยู่บนต้นไม้แทนเข้าใจไหม’ เฟนกำชับกับฉันไว้แบบนั้น ก่อนจะตัดการติดต่อไป ทำไมถึงย้ำแบบนั้นละ แต่จากประสบการณ์การออกจากบ้านของฉัน…...เชื่อฟังไว้ดีกว่า
เมื่อพักจนหายปวด ฉันจึงออกจากที่ซ่อนและเดินทางต่อ พยายามเดินให้เร็วที่สุดและพักน้อยที่สุด เพื่อจะออกจากป่าที่ฉันไม่รู้ทิศทางและอันตรายนี้ให้เร็วที่สุด แต่อย่างที่บอกว่าพอไม่รู้ทิศใดๆ การเดินทางจึงเป็นไปได้ยาก ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนแล้ว หลงทางหรือเปล่า ฉันทำได้แค่นำปิ่นปักผมที่ติดมากับผมของตัวเอง สร้างรอยบนต้นไม้ เพื่อบอกทิศทางที่ผ่านมา และทำให้ไม่กลับไปทางเดิม
คงไม่สวยนั้น ถ้าเดินๆอยู่ ก็วกกลับไปหอคอยนั้น ป่านนี้พวกนั้นน่าจะรู้ตัวแล้วว่าฉันหนีออกมา คงหากันอยู่
เวลาผ่านไปนานซักเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม
ใกล้มืดแล้ว…… ฉันเริ่มมองหาต้นไม้ใหญ่ๆ และปีนขึ้นไม่ยาก รวมทั้งฉันให้อาเมะออกมาช่วยเลือก ไม่นานก็พบต้นที่ตามหา ฉันปีนขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือของอาเมะที่ปีนขึ้นไปก่อนหน้าเพื่อเช็ค ฉันเลือกที่จะปีนขึ้นไปสูงพอควร และสามารถซ่อนตัวหลังใบไม้หนาได้ เลือกนั่งอิงกับลำต้นใหญ่ให้มากที่สุด ล้วงมือเข้าไปในถุงมิติเพื่อหยิบผ้าผืนยาวมัดตัวเองเอาไว้กับลำต้นกันซุ่มซ่ามตกลงไปด้านล่าง จากความสูงระดับนี้ คาดว่าตกไปคงเจ็บไม่น้อยทีเดียว ส่วนอาเมะกลับไปอยู่ในร่างงู และขดรัดรอบลำต้นอยู่ข้างๆฉัน
นั่งมองท้องฟ้าค่อยๆมืดลง พระจันทร์ดวงสวยค่อยๆเผยโฉมขึ้นมา แสงจันทร์ส่องสว่างจนเห็นอะไรๆ แน่นอนว่า สิ่งที่เห็นนั้นก็คือ…..
ดวงตาวาวสีเหลืองมากกว่า 1 คู่กระจ่างใสวนอยู่รอบๆต้นไม้ใหญ่ที่ฉันอยู่…… เค…..เอาเป็นว่า ดีแล้วละที่เชื่อเฟนน่ะนะ ไม่อยากนึกสภาพถ้ายังเดินเฉิดฉายอยู่ด้านล่างในเวลานี้ คาดว่าจุดจบคงเป็นอาหารมื้อดึกของพวกนั้น
ถามว่าเจ้าของตาพวกนั้นคือตัวอะไร บอกเลยว่า ไม่รู้…...และไม่อยากรู้ด้วย เอาเป็นว่า……
“อาเมะ ฝันดีนะจ๊ะ” ฉันฉีกยิ้มอ่อน ทำหน้าว่างเปล่า ลูบหัวเจ้างูน้อยด้านข้าง และซุกหัวอิงลำต้นใหญ่ ปิดประสาทสัมผัสทั้งหลาย ไม่อยากรับรู้อะไร ทั้งเสียงร้อง เสียงฝีเท้าที่วนรอบต้นไม้ หรือเสียงข่วนต้นไม้อย่างบ้าคลั่ง
บางที เราก็ไม่ต้องรับรู้ก็ได้เนอะว่าเกิดอะไรขึ้น……
***************************************
สวัสดีค่าาา เอลิซ่าเองค่าาา
สุขสันต์วันหยุดค่ะ555
พอดีมีเวลาปั่น เนื่องในวันจันทร์เป็นวันหยุดค่ะ เย่ๆๆ 5555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใช่เลือกไม่รับรู้ดีที่สุด5555
รอจ้าาาาาาาาาาาา
รู้มาก เดียวจิตตกค่ะ
บางเรื่องก็ทำเป้นไม่รู้ไม่เห็นดีกว่าเนอะ55555+
ขออีกตอนได้ไหมค่ะ