ตอนที่ 44 : บทที่42 พี่สาวคนนั้น...กับสงครามเย็น(อีกครั้ง)
บทที่ 42 พี่สาวคนนั้น...กับสงครามเย็น(อีกครั้ง)
ฉันรู้สึกถึงการถูกอุ้มขึ้น และแรงวิ่ง คาดว่าน่าจะเป็นใครซักคนอุ้มฉันวิ่งไปยังห้องพยาบาลอันคุ้นเคย ใช่แล้ว เวลาเอสเทียมาสอบที่นี่ทีไร ก็จะจบลงที่ห้องพยาบาลที่เดิมตลอด เฮ้อ วิถีคนป่วยที่แท้ทรู
ฉันได้ยินเสียงเขาคุยกับคุณหมอที่ดูแลห้องพยาบาลอย่างร้อนใจ แต่เพราะเตียงที่ฉันกำลังนอนอยู่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและมีม่านกั้นที่ร่ายเวทย์กันเสียงเข้ามารบกวนคนป่วย ฉันจึงไม่รู้ว่าเป็นใครที่อุ้มฉันมาส่ง ก่อนที่ในที่สุดที่อย่างจะเงียบสนิท และไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเปิดม่านเข้ามาพร้อมเสียงยกเก้าอี้ข้างเตียงเบาๆ เพื่อไม่รบกวนฉันที่กำลังนอนอยู่ ฉันจึงตัดสินใจค่อยๆลืมตาขึ้นแบบคนพึ่งฟื้น และค่อยๆหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พี่ทำให้ตื่นหรอ” อั๊ก รังสีความหล่อแทงตา ฉันหรี่ตามองไปยังคนคุ้นเคยที่มักจะลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นเวลาป่วยเสมอ พี่ราฟาเอล นั่นเอง
“เปล่าค่ะ” ฉันฉีกยิ้มอ่อนให้ดูป่วยๆหน่อย ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นจะประทับลงบนหน้าผากอย่างอ่อนโยน
“ไม่มีไข้นะ พี่เห็นเราอาการดีขึ้นมาตลอด ไหงอยู่ๆถึงเป็นลมกันละ” น้องตอแ_ลค่ะ แค่กๆ ไม่ใช่สิ ฉันที่รู้สึกผิดที่เล่นละครใหญ่ไปหน่อย เลยทำได้แค่ยิ้มแห้งๆส่งให้ พี่ราฟาเอลยกมุมปากน้อยๆ และสั่งให้ฉันปลดกระดุกเสื้อออกเล็กน้อย พร้อมวางเครื่องฟังเสียงหัวใจลง พร้อมบอกให้ฉันหายใจเข้าออกช้าๆ
“อาการเราดีขึ้นจนพี่ตกใจเลย” พี่ราฟาเอลพูดพร้อมเก็บอุปกรณ์แพทย์เข้ากระเป๋าของเขา ส่วนฉันก็ทำได้แค่ยิ้มบางๆให้เท่านั้น จะบอกพี่ได้ไงว่ากินยาผี(แม่มด)บอกอยู่...
“ทำไมท่านพี่ราฟถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละคะ” ฉันอดถามไม่ได้ เพราะที่โรงเรียนอยู่ในช่วงจำกัดคนเข้าออก เนื่องจากมีเชื้อพระวงค์มาอยู่ จึงยากที่คนนอกจะเข้าออกได้อย่างอิสระ
“พอดีพี่มาเป็นผู้ปกครองของน้องสาวแทนท่านพ่อน่ะ รีฟาไง แต่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว น้องอาจจะจำไม่ได้” อ่า ชื่อนี้คุ้นๆจัง รีฟา…...อืม เหมือนลืมอะไรไป แต่ตามความทรงจำของเอสเทียเมื่อนานมาแล้ว รีฟาเป็นน้องสาวตัวน้อยที่ดูก็รู้ว่าถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ ความเอาแต่ใจอันดับหนึ่ง เพราะถูกเลี้ยงมาด้วยผู้ชายที่หน้านิ่งมากๆ(พ่อและพี่ชาย)เพราะเสียคุณแม่ตั้งแต่ยังเล็ก ถือได้ว่าเป็นเด็กมีปมคนหนึ่ง ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เจอกัน ตอนนั้นเทียกำลังเรียนอยู่ขั้นพื้นฐานปี1 ที่บ้านเชิญท่านหมอฟาวน์ผู้เป็นพ่อของพี่ราฟาเอลและรีฟา เดินทางมาตรวจสุขภาพประจำปีของเทียตามปกติ ในตอนนี้ด้วยเหตุจำเป็นซักอย่างรีฟาจึงติดสอยห้อยตามมาด้วย….ด้วยหน้าตาไม่พอใจ ผมสีดำสนิทมัดรวบเป็นแกละสองข้างสะบัดไปตามแรงเหวี่ยงของหัว นัยน์ตาสีเขียวหม่นเหมือนคุณหมอประจำตระกูลมองมายังเทียอย่างไม่สบอารมณ์ พลางกอดอกแน่น…..ดูก็รู้ว่าเจ้าอารมณ์….. ด้วยเพราะอายุเท่ากับเอลโดร่า คุณหมอคงคิดว่าจะสานสัมพันธ์สหายสนิทตั้งแต่เด็กให้เหมือนกับตังเองกับท่านพ่อกระมั้ง จึงบอกให้รีฟาออกไปเล่นกับเอลที่ตอนนั้นกำลังนั่งฟังเทียอ่านหนังสือให้ฟังอยู่ แทนที่รีฟาจะดีใจที่มีเพื่อนกลับมองมาอย่างไม่พอใจ และกระทืบเท้าออกจากห้องไปอย่างไร้มารยาท เป็นการพบกันครั้งแรกที่ไร้มารยาทที่สุด
“อ่า น้องไม่ได้เจอเธอนานมากแล้วนะคะ ครั้งสุดท้ายน้องยังเรียนชั้นพื้นฐานอยู่เลย” ฉันบอกพี่ราฟาเอลที่พยุงฉันนั่งอิงหัวเตียงพร้อมยื่นน้ำชามาให้ฉันจิบแก้คอแห้งที่เริ่มเกิดขึ้นนิดๆแล้ว
“นั้นสินะ ตอนนี้เธอเรียนอยู่สาขาบริหาร ปี1แล้วน่ะ เฮ้อ” ดูจากหัวคิ้วที่เริ่มขมวดเบาๆ คาดว่านิสัยของน้องคงแย่เหมือนเดิม ว่าแต่ เหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในใจนะ….
ขณะที่ฉันกำลังจมอยู่กับความคิด พลันได้ยินเสียงเปิดม่านอย่างแรง พร้อมกันร่างของพี่รามีเอลที่เปิดเข้ามาอย่างร้อนใจ และพอเห็นฉันนั่งจิบน้ำชาเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมเผยยิ้มบางๆให้ แต่รอยยิ้มก็พลันชะงักเมื่อเขามองไปยังที่นั่งข้างขวาของฉันที่มีพี่ราฟาเอลนั่งอยู่….
“ไม่ได้พบกันซะนานนะขอรับ” อ่า รอยยิ้มพี่รามีโคตรไร้ความจริงใจเลย
“นั้นสินะครับ” ทำไมพี่ราฟทำหน้าอย่างน้านนน แล้วปล่อยไอเย็นมาทำม้ายยย น้องหนาววว
ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยยยย…..
***********************************
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ๊๊ากกกกกกจะเยร์ใครดีคนนึงก็ตรงสเป็คอีกคนก็พ่อของลูกเทียเหมาเลย//ถือแท่งไฟเกาะเวที>~<
แต่ว่าไม่เอาฮาเร็มน้าาาาา พลีสสสสส;A;
ครุคริๆ รออยู่นะคะ~ อุครุคริๆ
มันก็จะกรี๊ดกร๊าดหน่อยๆ