ตอนที่ 42 : บทที่40พี่สาวคนนั้น...หิวแล้ว
บทที่40 พี่สาวคนนั้น...หิวแล้ว
เวลาผ่านไปนานพอควรกว่าที่ทุกคนจะได้สติว่าควรต้องจัดกิจกรรมกันต่อ กว่าที่งานจะดำเนินไปตามแผนเดิมก็เลทมาพอสมควร ฉันจึงต้องฆ่าเวลาโดยการคุยเล่นกับพี่รามีกับพวกอาจารย์ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีวนไป ขณะที่ฉันกำลังตั้งใจฟังที่อาจารย์ดีเลน่าอาจารย์สาววัยกลางคนที่อายุก็ปาขึ้นเลข4(ได้ยินมาอย่างนั้น เพราะอายุอาจารย์เป็นเรื่องต้องห้ามที่ไม่ควรถาม) แต่ยังคงสวยหุ่นเซะซี่ไม่เปลี่ยนแปลง อาจารย์สอนวิชาดนตรีและเต้นรำแก่เอสเทีย ซึ่งตอนนี้แกกำลังเมาท์เรื่องอาจารย์ท่านอื่นที่หน้าดำหน้าแดงฟังอยู่ เรียกได้ว่านินทาระยะเผาขน อยู่ๆฉันก็รู้สึกถึงสายตาอันร้อนแรงแทบไหม้มาจากสามที่ ฉันจึงต้องหันไปดูอย่างช่วยไม่ได้
ปรากฎว่าคนที่กำลังมองมาประกอบด้วย จากแถวโรงเรียนเมแลนตัน น้องเฮลผู้น่ารักที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าเป็นตัวละครลับที่จีบได้ น้องจ้องมองฉันอย่างจริงจังจนฉันหลุดขำออกมา และโบกมือน้อยๆให้อย่างเป็นมิตร ทำให้น้องหน้าขึ้นสีอย่างน่าเอ็นดู คนที่สองได้แก่คนที่ส่งสายตาอันร้อนแรงที่สุด แน่นอนว่าแถมไปด้วยความเคียดแค้นที่ทำอะไรไม่ได้ เจ้าหัวแดงเจ้าเก่า เขายืนกัดฟันแน่นมองมาจากแถวของโรงเรียนเรเพียร์ รู้สึกว่าหัวแดงจะชื่อ….อืม…..ชื่ออะไรนะ ช่างมันเถอะ แต่ที่ยืนข้างๆหมอนั้นคือแดนคนสุภาพที่เข้าข่ายน่าสงสัยว่าเป็นตัวละครลับอีกคนหนึ่ง ซึ่งพอเห็นว่าฉันหันไปมองเขาก็ยิ้มให้พร้อมโค้งเล็กๆ ทำให้ฉันต้องก้มหัวน้อยๆตอบกลับ ช่างเป็นคนที่เป็นสุภาพบุรุษอะไรเช่นนี้ สมแล้วที่ได้ชื่อว่าตัวละครที่สมควรเป็นพ่อของลูก สายตาอันร้อนแรงคนสุดท้ายย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากน้องสาวคนสวยของฉันนั้นเอง ซึ่งตอนนี้มองจากสีหน้า คาดว่าอยากจะมาอ้อานฉันเร็วๆแล้ว แต่ติดที่รุ่นพี่และอาจารย์ยังไม่ปล่อย ฉ้นจึงยิ้มหวานให้อย่างให้กำลังใจและขยับปากว่าสู้ๆ ซึ่งน้องสาวก็ยิ้มสวยตอบกลับอย่างน่ารัก เฮ้อน้องสาวฉัน ช่างน่ารักอะไรอย่างงี้
“เอสรู้จักด้วยหรอ” เสียงจากคนข้างๆทำให้ฉันละสายตาจากน้องสาวมามองพี่รามีที่ทำหน้าเครียดแม้จะฉีกยิ้มอยู่ก็ตาม
“คะ?” ฉันเอียงคอถามอย่างสงสัย รู้จักใครอ่ะ
“เด็กต่างโรงเรียนพวกนั้นน่ะ ทั้งของเมแลนตันแล้วก็เรเพียร์” พี่รามีอธิบายพร้อมปรายตาไปมองที่หนูเฮลกับพวกหัวแดง
“ออ ก็รู้จักนิดหน่อยน่ะค่ะ เด็กเมแลนตันคนนั้นเคยช่วยเอสตอนที่หลงทางค่ะ ส่วนเด็กเรเพียร์ พอดีเคยมีปัญหากันเลยคุ้นหน้ากันดีน่ะค่ะ” ฉันอธิบายยิ้มๆ พี่รามีแค่พยักหน้ารับรู้ด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ส่วนฉันก็ต้องหลบสายตาร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างเหนื่อยๆ รีบๆเลิกได้ไหม เค้าหิวข้าวแล้วน้าาาา
*********************************************
“ท่านพี่คะ ท่านพี่...” เสียงเรียกอันแผ่วเบาดังขึ้นข้างๆหู ทำให้ฉันที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นช้าๆ สิ่งแรกที่เห็น คือ ขนสีขาวสะอาด คาดว่าฉันคงเอาหน้าฟุบกับขนของเฟนแน่ๆ ฉันเงยหน้าขึ้นมา ยังไม่ทันจะได้ลืมตาขึ้นดี ก็รู้สึกถึงผ้าหนาคลุมหัวเอาไว้พร้อมกับความรู้สึกถูกกอดแน่น ทำเอาฉันตกใจไม่น้อย
“ท่านพี่คะ ท่านพี่พึ่งตื่นยังไม่เรียบร้อย เกรงว่าจะเสียมารยาทเพราะคนเยอะแยะ” ออ อย่างนี้นี่เอง ฉันนอนน้ำลายไหลสินะ ฉันจึงล้วงมือเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหน้าตัวเองและคราบน้ำลายข้างแก้มให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จ จึงสะกิตน้องสาวให้ปล่อย ไม่นานนักฉันก็ต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดยามเที่ยงที่ไม่แรงมาก แต่ก็ถือว่าแรงสำหรับคนที่อยู่เมืองเหนือตลอดแบบฉัน
“เอล…..พี่หิวแล้ว” ฉันที่รู้สึกได้ถึงเสียงคำรามเบาๆจากในท้องกระตุกชายเสื้อน้องสาวเบาๆพร้อมช้อนสายตามอง ทำเอาน้องสาวหน้าขึ้นสีบางๆ
“ค่ะ งั้นไปทานอาหารกันนะคะ” น้องสาวดึงฉันขึ้นและจับมือฉันพาเดินลงจากอัฒจันทร์ทำให้ฉันได้สำรวจรอบข้าง ปรากฏว่าไม่เหลือใครแล้ว น่าจะไปกินข้าวกันหมดแล้ว เหลือแค่พี่รามีที่เดินยิ้มบางๆตามมากับเจ้าหน้าน้ำแข็งที่เดินข้างๆเอลโดร่าเท่านั้น
“พี่รามียังไม่หิวหรอคะ” ฉันอดถามไม่ได้ พร้อมมองไปยังคนหน้ายิ้มที่เร่งฝีเท้าตามมา
“พี่รอกินพร้อมเอสน่ะ ไม่ได้หรอ” อั๊ก ดาเมจหนุ่มหล่อที่ติดอาวุธเอียงคอ 45 องศาช่างร้ายกาจ
“ก็ไม่มีปัญหาค่ะ” ฉันเลือกจะหันไปมองอย่างอื่นแทน เพื่อลดความเขินอาย ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ทำเอาหน้าฉันขึ้นสีแดงในทันที
จิ๊ เสียงเดาะลิ้นดังขึ้นจากข้างตัว ทำให้ฉันมองไปยังคนที่จับมือฉันเอาไว้แน่น ดวงตาสีฟ้าครามมองจิกไปที่พี่รามีอย่างอาฆาตแค้น ทำให้ฉันอดถอนหายใจไม่ได้….
คานทองประดับเพชรอันคงทนยิ่งกว่าโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ยากจะหาดาบใดมาถล่มทิ้ง เฮ้ออ…..
************************************
สวัสดีค่าาา
มาแล้วทุกคนนนน ขอเราบ่นหน่อยน้า T T
เค้าเข้าใจนะว่าทุกคนอยากอ่านต่อ แต่เค้าอยากให้ทุกคนเข้าใจนะว่าเค้าเรียนหนักมากๆๆๆ
เรียนหนักมาก งานหนักมาก
แถมเวลานอนยังแทบไม่มีเลย จะเอาอะไรกับเวลาแต่งนิยาย เนอะ เข้าใจเค้าหน่อยนะ
เพราะเกรดมีผลต่อการแต่งนิยายได้ มะม้าคงไม่โอเคถ้าการแต่งนิยายทำเราเกรดไม่ดี
การแต่งนิยายของเค้าเป็นงานอดิเรกเนอะ ต้องว่างๆหัวแล่นๆถึงแต่งได้
บางทีอ่านคอมเม้นต์ก็แอบนอยด์เหมือนกัน 5555
แต่พยายามไม่คิดมากค่ะ555
ขอบคุณที่ทุกคนที่คอมเม้นนะคะ ยังไงก็อยากให้ทุกคนเข้าใจเค้าน้าา
ปล.อย่าเผาบ้านเราเลย เดี๋ยวไม่มีที่แต่งนิยายนะ อิอิ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เกาะคานอย่างเหนียวแน่น5555
พยายามต่อไปนะค่ะ แล้วนี่คงเป็นคานทองที่มีชื่อที่ดูแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เราเคยได้ยินมาแล้วหล่ะค่ะ????
ขอบคุณครับ
ถูกแล้วครับไรท์ งานอดิเรก คือ งานที่ทำยามว่าง ถ้ายังไม่ว่าง ก็ไม่ต้องทำ
ใครจะกดดันเร่งยังไงก็ปล่อยผ่านไปเถอะ อย่าคิดมาก
ไม่มีใครทำอะไรได้ถูกใจทุกคนหรอก ถึงอัพทุกวัน ก็มีคนบ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่ดี
บางเรื่องหายไปเป็นปีก็มี แค่นี้จิ๊บๆ รอได้