ตอนที่ 2 : บทที่2 พี่สาวคนนั้น...กับร่างใหม่
ขณะที่ทำการสำรวจลูกไม้อย่างสนใจ ก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา พร้อมทั้งข้อมูลบางอย่างแล่นพรั่งพรู่เข้ามาในหัวจนรู้สึกเบลอ ยังไม่ทันตั้งสติ ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างสตรีงดงามผมสีบลอนด์ทองที่รวบตึงเป็นม้วยด้านหลัง นัยน์ตาสีม่วงงดงามมองมาที่ชั้นอย่างตกตะลึงก่อนจะวิ่งออกไปจากห้อง ทิ้งไว้เพียงเด็กผู้หญิงที่ดูคุ้นตาแปลกๆ ผมสีบลอนด์ทองเหมือนผู้หญิงคนตระกี้ อายุน่าจะประมาณ16ปี มองมาที่ฉันแล้วนัยน์ตาสีฟ้าครามมีน้ำตาคลอ เธอวิ่งเข้ามาหาชั้นที่เตียง กุมมือของฉันเอาไว้ ใบหน้าเปื้อนน้ำตามีรอยยิ้มกว้างประดับไว้ อ่า พอมองใกล้ๆ ก็นึกออกทันทีว่าเคยเห็นที่ไหน นี้มัน....ตัวร้ายเกมจีบหนุ่มที่ฉันเล่นก่อนตายไม่ใช่หรออออออออ
ตั้งสติแป๊บ เอาละ ข้อมูลในหัวที่เข้ามาบ่งบอกว่าตัวฉันคือ เอสเทีย ฮาเซล พี่สาวของ เอลโดร่า ฮาเซล ตัวร้ายจากเกม Be my princess เกมจีบหนุ่มที่ฉันใช้เวลา3วันในการเคลียร์เกม บ้าจริง ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่กัน
"ท่านพี่ เป็นยังไงมั้งคะ ยังเจ็บอยู่ไหม" เอล หรือ เอลโดร่า ถามฉันขึ้นมา ขัดความคิดของฉัน
"อืม ยังเจ็บนิดหน่อยจ๊ะ" ฉันตอบเธอไป สายตาพรางสำรวจร่างเล็กของเด็กสาวตรงหน้าตามประวัติในเกมส์ เอลโดร่า เป็นลูกสาวท่านดยุกแห่งรามัส เมืองเล็กๆทางตอนเหนือ ชิดภูเขารามัส ภูเขาที่ใหญ่และหนาวเหน็บที่สุดในอาณาจักรคาราคัส ท่านดยุกฮาเซลแม้มาอาศัยในเมืองเล็กๆ แต่เป็นสหายสนิทและที่ปรึกษาของพระราชาแห่งคาราคัส บิดาของหนึ่งในพระเอกเจ้าชายอะมาดิโอ คาราคัส เจ้าชายหิมะผู้เย็นชา หล่อเหลา ที่สำคัญเป็นคู่หมั้นของน้องสาวของฉัน เรื่องประวัติพวกนี้เดี๋ยวค่อยมานึกดีกว่า ขอเคลียร์สถานการณ์ตอนนี้แป็บ
"เอล.... เกิดอะไรขึ้น พี่จำอะไรไม่ได้เลย" ฉันใช้มือบางของตัวเองข้าวหนึ่งกุมหัวที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้ การแสดงขั้นเทพถูกงัดออกมาใช้ ฉันทำหน้าเจ็บออกมา ทำให้ น้องสาวมองอย่างตื่นๆ ในเกมส์ เอลโดร่าเป็นผู้หญิงสวยและร้ายกาจ การกลั่นแกล้งนางเอก ไม่เหมือนนางร้ายตัวอื่นๆ ทุกแผนการ ดูออกยาก และอันตราย ในฐานะคนเล่น ถ้าไม่เฉลยคนทำในตอนท้าย ทางนี้ก็ดูไม่ออก
"ท่านพี่จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยหรอคะ ฮึก เป็นความผิดน้องเอง" แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ ฉันตกใจ พยายามนึกความทรงจำของเอสเทีย และ ความทรงจำเกี่ยวกับเกมส์ ในเกมส์มีการกล่าวถึงเอสเทียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รู้เพียงว่าร่างกายอ่อนแอ เลยไม่ได้เข้าโรงเรียน พี่น้องสนิทกันมาก เท่านั้น ไม่มีการกล่าวถึงอาการบาดเจ็บในตอนนี้ และ เรื่องราวความหลังของเอลโดร่าที่เป็นตัวร้าย เอาวะ ไหนๆก็ไม่รู้ลองถามออกไปก็น่าจะได้ แต่เมื่อคิดจะถามประตูทางเข้าก็ถูกเปิดออกอย่างรุนแรงจนบานประตูกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง ทำเอาเอลโดร่าและฉันสะดุด หันไปมองพร้อมกัน เผยให้เห็น ชายหนุ่มรูปงามเคียงข้างด้วยผู้หญิงผมทองคนตระกี้ ที่ฉันนึกออกว่าเป็นคุณแม่ ถ้างั้นผู้ชายข้างๆก็คงเป็นคุณพ่อสินะ ไม่ทันสังเกต ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่เข้าใกล้มาจับข้อมือฉันแล้วกดตรวจเบาๆ เขาคงเป็นหมอแน่ๆ
"ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ อาจจะมีเจ็บแผลเล็กน้อย แต่แผลก็ดีมากครับ คาดว่าเร็วๆนี้น่าจะกลับมาปกติ" หมอที่ตรวจมองมีที่ฉันแล้วฉีกยิ้มให้ หมอคะอย่ายิ้มเยอะค่ะ หัวใจนังอลิซมันจะเด้งออดมา คนอะไรขนาดแก่ยังหล่อ หมอมีลูกไหมคะ สนใจลูกสะใภ้..แค่กๆ ไม่ใช่สิ พอได้สติ ฉันก็กวาดตามองคนอื่นๆ คุณแม่คนสวย ยิ้มด้วยใบหน้าคลอน้ำตาโดยมีคุณพ่อคนหล่อ ผมสีดำแซมขาวนิดๆดูมีสไตล์ นัยน์ตาสีฟ้ามองมาที่ฉันอย่างโล่งใจ น้องสาวคนสวยยิ้มมาให้อย่างดีใจ
"ขอบคุณมากนะ ฟาวน์" ท่านพ่อกล่าวเบาๆให้คุณหมอที่กำลังเก็บของและจัดยาให้ฉัน คุณหมอพยักหน้าให้ท่านพ่อ ก่อนนะขอตัวกลับออกไป
"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะเทีย" ท่านแม่ลูบตัวของฉันเบาๆ อา รู้สึกดีจัง นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีคนลูบหัวแบบนี้
"ท่านแม่คะ ลูกจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ เกิดอะไรขึ้นหรอคะ" ฉันตัดสินใจถามออกไป เพราะความทรงจำของเอสเทียที่กลับมาที่ฉัน ไม่มีเหตุที่ทำให้มานอนแหง่วบนเตียงแบบนี้ ถึงสภาพร่างกายปกติจะไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็สามารถเดินเหินได้สะดวก เมื่อมองกลับมาที่ท่านแม่ ฉันกลับเห็นหน้าลำบากใจ เอิ่ม พอมองไปที่เอลโดร่า ก็เห็นใบหน้าคลอน้ำตา สรุปจะไม่มีใครเล่าใช่มั้ย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตามต่อจ้า มาอัพเร็วๆนะ