ตอนที่ 3 : Plz:02 You can 100%
Plz…Close2Me (LuBaek)
By winata
Note: กว่าจะเข็นออกมาได้ใช้เวลานานโข ในขณะที่คริสยอล ของบตนน เค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
Chapter_2: You can …..
You can fake a smile, but you can't fake your feelings. คุณอาจจะแกล้งฝืนยิ้มได้ แต่คุณแกล้งรู้สึกไม่ได้หรอกนะ
รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดสนิทหน้าบ้านหลังใหญ่ที่อยู่เกือบสุดซอยเลยทีเดียว แบคฮยอนยื่นหมวกส่งคืนให้เจ้าของ หลังจากก้าวลงแล้ว
"ขอบคุณมากครับที่พามาส่งบ้าน"
ลู่หานไม่ตอบรับนอกจากรอยยิ้มบนใบหน้าคมหวานส่งคืนมา ซึ่งมันทำให้ร่างเล็กตาพร่าไปชั่วขณะจนต้องหันขวับเพื่อเดินไปกดออดหน้าบ้านเพราะตอนนี้หัวใจดวงเล็กมันเต้นแรงจนกว่าอีกคนจะรู้
“เฮ้ยระวังแบคฮยอน.....” สิ้นเสียงลู่หาน ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความร้อนขึ้นมาบนผิวหน้าใสๆ แม้จะมีแสงไฟหน้าบ้านเพียงน้อยนิดก็สังเกตสีเรื่อบนใบหน้านั้นได้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อกี้ร่างเล็กสะดุดกระถางต้นไม้หน้าบ้านของคุณพ่อสุดที่รักเข้าให้อย่างจัง จนร่างสูงต้องโผเข้ามาช่วยพยุงและเป็นจังหวะเดียวกับที่แบคฮยอนหันมามองพอดี ทำให้ริมฝีปากบางไปโดนแก้มของลู่หานเต็ม ๆ
“เอ่อ........” ต่างคนต่างมองกันด้วยสายตาอึ้ง ๆ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวแทบจะกระเด้งตัวออกจากกันเมื่อเห็นว่าคริสเป็นคนออกมาเปิดประตูบ้านให้
“ขอบใจวะลู่” คริสบอกยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินมาจูงแขนน้องชายคนเล็กให้เดินเข้าบ้าน ซึ่งลู่หานก็ทำแค่ยิ้มรับก่อนจะเดินกลับมาที่มอเตอร์ไซด์คันเก่งของตัวเอง แต่สัมผัสที่เบาเหมือนปุ๋ยนุ่นที่ข้างแก้มที่ยังเหลือรอยอุ่นไว้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงได้รู้สึกอุ่นไปถึงหัวใจ
New message
[ประชุมด่วนที่บ้านนายท่าน ภายใน 30 นาที]
จากความรู้สึกอบอุ่นกลายเป็นความเหน็บหนาวถึงขั้วหัวใจเมื่อเห็นข้อความล่าสุด ไม่ว่าสักกี่ครั้งลู่หานก็รู้สึกเกรงและกลัวในตัวนายท่านเสมอ ถึงแม้ว่าตั้งแต่วันที่เจอนายท่านจนถึงทุกวันนี้..นายท่านจะให้ความเมตตาชุบเลี้ยงมา แต่บางครั้งความรู้สึกของคนเราก็ยากเกินจะอธิบาย มือข้างที่มีแผลเลือดยังซึมออกมาเรื่อย ๆ จนผ้าพันแผลสีขาวชุ่มไปด้วยสีแดง แต่มือข้างนั้นยังกำคันเร่งและบิดแน่นขึ้นอย่างไม่กลัวว่าแผลจะฉีกมากกว่าเดิมเลยสักนิด เพราะบางอย่างมันเจ็บเกินกว่าจะรู้สึกอะไร!!!
ร่างเล็กที่ปิดประตูห้องนอนของตัวเองแล้วโยนเป้สะพายไปส่ง ๆ ก่อนจะวิ่งถลาไปเกาะกระจกหน้าต่างเพื่อมองร่างสูงที่ตอนนี้มีแสงไฟจากโคมไฟหน้าบ้านสาดอยู่นั้น ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ก่อนจะขับออกไปแบคฮยอนจ้องจนไฟท้ายของร่างสูงหายไปกับความมืดก่อนจะเดินนั่งอยู่ข้างเตียง มือเล็กที่ปกติจับแต่เครื่องดนตรีเครื่องสายตอนนี้มันกำลังกุมอยู่ตรงหน้าอกด้านซ้ายที่กล้ามเนื้อของหัวใจทำงานอย่างหนัก
“ดีใจจังที่ได้เจออีกครั้ง” เอ่ยเบา ๆ กับตัวเองพร้อมรอยยิ้ม
แม้จะรู้ว่าร่างสูงคงจำตัวเองไม่ได้แต่แบคฮยอนก็ดีใจที่ได้เจอ...ลู่หานอีกครั้ง!!!
มือบางเอื้อมไปหยิบกล่องใบย่อมที่เก็บไว้ใต้เตียงออกมาก่อนจะกดถอดรหัสจากแม่กุญแจเพื่อเปิดดูสิ่งของภายในกล่อง
สร้อยสีเงินที่มันขาดออกจากกันพร้อมจี้ห้อยตัวอักษร LH ที่เมื่อก่อนแบคฮยอนเคยคาดเดามาตลอดว่ามันย่อมาจากอะไร ตอนนี้ร่างเล็กรู้แล้วว่ามันย่อมาจาก ‘ลู่หาน’ คนที่มีดวงตากลมเหมือนกวางที่มันเจือเศร้าอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้รู้สึกคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจกลับมาเรียนที่เกาหลีพร้อมกับพี่เซฮุนหลังจากที่พวกเขาสองพี่น้องโดนคุณป้าขอไปเลี้ยงดูที่ออสเตรเลียตั้งแต่เด็ก ๆ
“น้องแบค พี่คริสให้มาตามไปกินข้าว” เสียงเซฮุนพี่ชายที่ดังขึ้นหน้าประตูห้องทำให้แบคฮยอนรีบเก็บสร้อยเข้าที่เดิมพร้อมเตะกล่องไปซุกไว้ใต้เตียงเหมือนเดิม ก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปเพราะการที่ไปช้าทั้งที่มีคริสพี่ชายคนโตรออยู่ไม่ใช่เรื่องดีแน่
แล้วบางเรื่องแบคฮยอนก็ไม่อยากจะให้พี่ชายที่เป็นโรคหวงน้องขั้นแม็กซ์อย่างคริสรู้หรอกนะ โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ
แค่ทุกวันนี้ว่าร่างเล็กจะคบเพื่อนได้แต่ละคนพี่ชายคนโตก็สกรีนแล้วสกรีนอีกยิ่งกว่าอาป๊ากับออมม่าซะอีก -*-
คิ้วสวยได้รูปเลิกขึ้นเมื่อเห็นเซฮุนพี่ชายคนที่สนิทด้วยที่สุดยืนรออยู่หน้าประตูห้องนอน แม้ใบหน้าขาวที่ติดจะเฉย ๆ จะไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาทางสีหน้า แต่ดวงตาเรียวที่มันแพรวระยิบระยับราวกับรู้ทันมันทำให้ร่างเล็กทนไม่ไหวต้องเตะเข้าที่ขายาวๆ ของเซฮุน
“โอย!!! ไอ้ลูกหมานิ” เซฮุนว่าก่อนจะดึงน้องชายคนเล็กเข้ามากอดคอแล้วลากเดินลงบันไดไปพร้อม ๆ กัน เพราะยังอยากถ่วงเวลาเข้าไปนั่งอยู่กลางดงสงครามของมื้อเย็นระหว่างบรรดาพี่ชายทั้งจุนมยอน จื่อเทา คริส รวมถึงปาร์คชานยอล เพื่อนสนิทพี่ชายที่รายหลังชักจะมาที่บ้านบ่อยเกินความจำเป็น
“พี่ชานยอลมาอีกแล้วสินะ” แบคฮยอนพูดเบา ๆ เพราะรับรู้จังหวะการเดินของพี่ชายที่มันช้าเกินปกติ
“น่าเบื่อ” บ่งบอกความเป็นโอเซฮุนได้ดี ที่ใช้คำสั้นกระชับได้ใจความ
แล้วแบคฮยอนก็เข้าใจได้เลยว่า “น่าเบื่อ” ของพี่ชายที่ตัวเองสนิทด้วยที่สุดมันเป็นยังไง เพราะตลอดเวลามื้อค่ำนั่น ทั้งที่ชานยอลบอกหลายครั้งต่อหลายครั้งแล้วว่ามาเพื่อจีบพี่ชายตัวขาวคิมจุนมยอนอยู่ ที่แต่แบคฮยอนเห็นคือพี่ชายคนโตอย่างคริสเอาอกเอาใจชานยอล มันมากกว่าคนเป็นเพื่อนสนิททำให้กัน ส่วนจุนมยอนกับจื่อเทาสองคนนี้ก็ง้องแง้งใส่กันจนลืมไปแล้วละมั้งว่ามีคนอื่นร่วมโต๊ะอยู่
“เอ้ากินซะ” แบคฮยอนช้อนตาขึ้นมองเซฮุนที่เพิ่งคีบปลาสามรสให้พร้อมกับยิ้มขอบคุณ ก่อนจะพยายามรีบกินให้อิ่มเร็ว ๆ ที่สุด เพราะบรรยากาศบนโต๊ะอาหารแบบนี้ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ยังไงเขาก็ไม่ชินสักที
“เฮ้ยคริส อยากกินปลาสามรสอะตักให้หน่อย เอาก้างออกให้ด้วยนะ” เมื่อชานยอลเอ่ยบอก
“ไอ้นิ กินยากกินเย็น ไม่ต้องกินเลยดีม่ะ”
ถึงคริสจะบ่นแต่ก็คีบให้เพื่อนสนิทพร้อมใช้ตะเกียบเขี่ยก้างปลาออกพร้อมกับคีมส่งใส่ปากให้ชานยอลที่อ้าปากรับพร้อมยักคิ้วให้ แบคฮยอนที่เห็นก็เบนหน้าไปสบตากับเซฮุนที่ทำหน้าตายเซ็ง ๆ
ปลาสามรสที่ผัดใส่มะม่วงหิมพานต์และพริกหวานนี่ แม่ครัวบ้านนี้เขาทอดปลาจนกรอบแบบให้เคี้ยวได้ทั้งชิ้น พี่ชานยอลยังจะมากลัวก้างอะไร....แล้วคุณพี่ชายก็บ้าจี้แกะก้างให้แถมยังป้อนต่ออีก....นี่มันมากกว่าเพื่อนปกติเขาทำให้แล้วนะ ส่วนอีกคู่นะเหรอ...
“พี่จุน เทาเทาไม่กินแครอทนะ”
“งั้นเอามานี่ เดี๋ยวพี่กินเอง”
แต่บางครั้งการกระทำของพี่ ๆ แต่ละคนมันก็ชวนให้พยอนแบคฮยอนทำความเข้าใจได้ยากขึ้นทุกวันไล่มาตั้งแต่จุนมยอนกับจื่อเทา นี่มันมากเกินกว่าพี่น้องแล้วนะ มากเกินจนตัวเขาต้องทำมองผ่านเวลาพี่ชายตาคมหาเศษหาเลยกับพี่ชายตัวขาวที่ดูเหมือนจะเต็มซะด้วยสิ ส่วนพี่ชายคนสนิทเซฮุนมนุษย์โฟว์ดีที่แบคฮยอนก็ยังไม่เข้าใจกับพฤติกรรมการตื่นแต่เช้ามารอรับนมกับขนมปังเอง แถมยังชอบนั่งรถเมล์ไปเรียนเองอีกต่างหากทั้ง ๆ ที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่ชายคนอื่น ๆ แท้ ๆ
อย่างว่าละ...ถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน...พี่น้องกันแต่บางเรื่องมันใช่ว่าจะอธิบายให้กันฟังได้ง่าย ๆ
“เอ้า พี่เซฮุนจะไปไหน...ไหนว่าจะให้น้องแบคเล่นเพลงใหม่ให้ฟัง” แบคฮยอนดึงแขนพี่ชายเอาไว้หลังจากที่พวกเขากินข้าวอิ่มก็โดนพี่ชายโฟว์ดีลากขึ้นมาบนชั้นสองของบ้านที
“พูดไปงั้น ขี้เกียจอยู่ดูคนเข้าจีบกัน” เจ้าตัวพูดจบก็ปิดประตูห้องนอนดังปังทันที เหลือแต่แบคฮยอนที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะสาวเท้าเดินกลับลงไปยังด้านล่างเพื่อไปยังห้องซ้อมดนตรีที่อาป๊ากับออมม่าถึงขั้นลงทุนตบแต่งใหม่เพื่อสร้างห้องเก็บเสียงให้หลังจากที่เขากับพี่ชายโอเซฮุนตัดสินใจกลับมาเรียนต่อที่เกาหลีหลังจากไปอยู่กับคุณป้าที่ออสเตรียตั้งแต่เด็ก ๆ
โชคดีที่โรงเรียนในเกาหลีใต้มีสอนเฉพาะทางด้านดนตรีอยู่แบคฮยอนจึงไม่รีรอที่จะกลับมา ก็คงเหมือนกับเซฮุนที่พยายามสอบเข้าคณะสถาปัตย์ให้ ถึงจะเรียนอินเตอร์ก็ใช่ว่าจะเรียนได้ง่าย ๆ
ร่างเล็กนั่งลงหน้าแกรนด์เปียโนตัวใหญ่ มือเรียวบางไล่กดเล่นโน้ตไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่สองมือเรียวจะกดโน้ตเพลงเริ่มบรรเลง Minuet in G ของ Beethoven ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะเล่นเพลงนี้ขึ้นหรือเพราะว่าเพลงนี้คือเพลงที่ได้ยินจากไอพอดของเพื่อนสนิทพี่ชายที่อาสาไปรับมาส่งที่บ้าน แค่อยากจะเล่นซ้ำ ๆ ราวกับกำลังตั้งใจเล่นให้ใครบางคนได้ฟัง เหมือนกับเย็นวันนี้ที่รับรู้ถึงสายตาคมที่จ้องผ่านกระจกมาจนต้องตั้งใจจับสายเชลโล่เพราะกลัวที่จะเล่นผิดพลาด
“แบค”
เคร้ง!!!
สัมผัสหนัก ๆ ที่ไหล่ทำให้แบคฮยอนที่มัวแต่สนใจเปียโนอยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว
“พี่คริส” ดวงตากลมตวัดมองพี่ชายแบบเคือง ๆ ก่อนจะหมุนตัวมาหาพี่ชายคนโตที่ยืนยิ้มอยู่ข้างแกรนด์เปียโนหลังใหญ่
“ทำไมยังไม่นอน นี่เกือบห้าทุ่มแล้วนะ” คริสถามขึ้นพร้อมกับลูบหัวกลม ๆ เล็ก ๆ ของน้องชายคนเล็กไปมา จะบอกว่าพยอนแบคฮยอนคือน้องชายคนที่คริสห่วงและหวงที่สุดก็ว่าได้ คนเป็นน้องไม่ตอบอะไรนอกจากซบหน้าลงตรงเอวของพี่ชายพร้อมยกมือกอดเอวหนาไว้
คริสยิ้มออกมาเมื่อเห็นอาการอ้อนของน้องชายคนเล็กที่นาน ๆ จะอ้อนสักครั้งตั้งแต่กลับมาจากออสเตรียไม่เหมือนตอนเป็นเด็ก ๆ พี่คริส....พี่คริส อยู่แทบจะทุกเวลาที่เจ้าตัวลืมตาตื่น
“อ้อนแบบนี้ อยากได้อะไรหึ น้องแบค”
“เปล่า แค่พักนี้รู้สึกว่าพี่คริสเหินห่างจากน้อง ๆ ไปก็เท่านั้นเอง” เสียงใสที่มันอู้อี้มันยิ่งทำให้คนพี่ยิ้มกว้างมากขึ้นจนต้องแกะมือน้องออกแล้วทรุดตัวนั่งบนส้นเท้า มือหนาลูบใบหน้าของน้องชายคนเล็ก
“คิดมากไปถึงไหน ยังไงน้องๆ ก็สำคัญที่สุด”
สำคัญที่สุด...แบคฮยอนอยากจะเบะปากให้ถึงดาวอังคาร พอพี่ชานยอลโผล่มาละก็ลืมน้อง ๆ ทุกทีแต่ไม่อยากจะขัดอารมณ์ดี ๆ ของพี่ชายคนโตให้ดร็อปลงมา
“ไป๋!!! ลุกเร็ว ไปอาบน้ำนอน พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน อย่ามามองแบบนี้มันไม่ได้ผลน้องแบค” ร่างเล็กเบ้หน้าก่อนจะโดนพี่ชายคนลากขึ้นไปยังห้องนอน แถมมีออฟชั่นพิเศษ คือนั่งเฝ้าหน้าห้องน้ำ รอจนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ช่วยเป่าผม และนั่งเฝ้าจนกว่าพยอนแบคฮยอนจะหลับด้วย แบบนี้ไงเรื่องบางเรื่องโดยเฉพาะหัวใจเขาถึงไม่อยากให้พี่ชายคนโตรู้!!!
ลู่หานเร่งมอเตอร์ไซด์เครื่องยนต์สี่สูบคู่ใจแล่นมาตามเส้นทางที่คุ้นเคยจนแทบจะหลับตาขับมาก็ว่าได้ เปิดไฟเลี้ยวเข้าบ้านตระกูลที่ประตูบานใหญ่เปิดรออยู่แล้ว ดวงตาคมเห็นเห็นรถยนต์แปลกตาสามคันเดาไม่ยากว่าคันไหนเป็นของใครบาง เพราะยังไงมิคาเอลกับแองเจิ้ลก็มาด้วยกันอยู่แล้ว โลมาน้อยก็คงมาหนูผีอีกเช่นเคย แล้วซาตานคงฉายเดี่ยวเช่นเดิม
“มาช้านะลู่หาน” ร่างสูงหันไปโค้งเก้าสิบองศาให้ “นายท่าน” ของตระกูลปาร์คที่วันนี้เดินมารับเขาเองถึงโรงจอดเร็ว
“ขอโทษครับ” อีกครั้งที่ลู่หานไม่เคยแก้ตัวใด ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้านายท่าน
“ไม่ได้จะว่า รีบเถอะก่อนที่เจ้าพวกนั้นจะกินกันจนหมด วันนี้ยูราเข้าครัวเองนะพอรู้ว่าเธอจะเข้าบ้านมาด้วยขนาดเจ้าชานยอลเองยังไม่มีโอกาสได้กินเลย”
“น้องยอลยังไม่กลับมาอีกครับ” ไม่มีคำตอบจากนายท่านนอกจากรอยยิ้ม แค่นี้ลู่หานก็พอเดาได้ว่าตอนนี้ชานยอลคนที่ลู่หานรักเหมือนน้องชายแท้ ๆ ตอนนี้อยู่ที่ไหนกับใคร บางทีเขาควรจะจับตาดูอู๋อี้ฟานมากกว่าปกติแล้วนะ
“มาแล้วเหรอจ๊ะลู่หาน” ยูราที่กำลังจะตักข้าวถึงกับส่งต่อทัพพีให้แจจุงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนเดินมาหาลู่หานก่อนจะกอดร่างสูงเอาไว้แน่น ๆ
“ผอมไปนะเรา”
“ปกตินะครับคุณท่าน” ลู่หานตอบกลับอย่างสุภาพ
“คุณแม่จ๊ะ สอนไม่จำนะคะลู่หาน นี่ดูสิเรากลับมาทานข้าวเย็นบ้านแบบนี้ในวันที่น้องยอลไม่อยู่รับรองถ้ารู้สงสัยบ่นไปอีก7วัน” คุณยูราพูดถึงลูกชายที่เมื่อเย็นส่งข้อความมาบอกว่าอยู่ทานข้าวเย็นบ้านเพื่อนสนิทอีกคน
ใช้เวลาไม่นานในการจัดการอาหารค่ำที่นาน ๆ ทีพวกเขาทั้งหมดจะว่างตรงกัน ก่อนที่ทั้งหมดจะอพยพมานั่งคุยงานกันต่อที่ห้องรับแขก สักพักใหญ่ ๆ ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันกลับไป
ลู่หานรีบใช้เท้าขยี้ม้วนสีขาวลงพื้นทันทีเมื่อเห็นคุณปาร์คจองฮุนเดินมาอยู่ข้าง ๆ
“ไม่ได้ห้ามสักหน่อยเรื่องสูบ แต่ควรรู้ลิมิตของตัวเอง” เมื่อเห็นคนอ่อนวัยอยู่ยังนิ่ง คุณปาร์คจองฮุนเลยพูดต่อ
“อย่างที่บอกไปเมื่อหัวค่ำ หมดงานนี้แล้วฉันกับยูราจะขอเกษียณ แล้วในฐานะพ่อก็อยากให้เธอวางมือจากงานนี้เหมือนกัน ไม่ใช่คำสั่งแต่มันคือคำขอร้อง”
“ลู่หาน บางทีถ้าไม่อยากจะยิ้มหรือไม่อยากทำอะไรก็ปฏิเสธบ้างก็ได้ พ่อไม่เคยว่าอะไรอยู่แล้วสำหรับสิ่งที่เราเลือก”
“...”
ลู่หานยังไม่เอ่ยตอบใด ๆ คุณปาร์คจองฮุนก็เดินเข้าบ้านแล้ว ใบหน้าคมเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่เต็มดวงวันนี้ในคืนที่ท้องฟ้าเปิด ถึงนายท่านกับคุณท่านไม่สั่งหรือว่าขอร้องแต่ถ้าเป็นสิ่งที่พวกท่านสั่งสองต้องการลู่หานก็พร้อมที่จะทำตามโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ อยู่แล้ว มือหนายกไลฟ์เตอร์ขึ้นมาจุดม้วนสีขาวคาดเขียวก่อนสูดควันสีขาวแล้วพ่นออกมา ทั้งที่ปกติรสมิ้นท์จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่ตอนนี้ในหัวของลู่หานกับมีอะไรมากมายหลายอย่างให้คิด ไม่ใช่ไม่ดีใจที่จะได้วางมือ แต่ชีวิตหลังจากวางมือไปแล้วจะเป็นยังไง..เป็นนักศึกษาธรรมดาแค่นั้นเหรอ?
แต่แล้วเสียงรถยนต์ที่แล่นมาจอดหน้าบ้านแล้วดับเครื่อง แล้วไหนจะเสียงโวยวายที่ลู่หานไม่ได้เห็นหน้าคนพูดก็รู้ดีว่าคือน้องชายตัวโตของเขาที่เจ้าตัวสูงล้ำหน้าพี่ชายอย่างเขาไปแล้ว อีกคนคงเดาไม่ยากว่าคือคริสเพื่อนในกลุ่มอีกคน
ลู่หานชะงักก่อนจะหลบอยู่หลังเสาข้างรั้วบ้าน จากมุมที่เขายืนอยู่เห็นเหตุการณ์อย่างหน้าบ้านได้อย่างชัดเจนเต็ม ๆ สองตา ภาพที่เห็นคือคริสกระชากคอชานยอลเอาไปใกล้ ๆ ก่อนกดจูบที่มุมปาก ร่างสูงไม่มองจนจบเพราะสะดุ้งที่มือตัวเองเมื่อขี้ม้วนสีขาวที่คีบไว้มันมือจนต้องรีบสะบัดทิ้งแล้วรีบใช้เท้าเหยียบแล้วจู่ ๆ คำพูดของจงอินก็แวบเข้ามา
‘ไอ้ลู่ มึงดูโน้น...น้องมึงกับไอ้คริสมันจะชักยังไงแล้วนะ’
‘ก็เพื่อนสนิทกัน’ วันนั้นลู่หานบอกอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้มหน้าก้มตาปั่นบันทึกแล็ปต่อ
‘มึง...แล้วมึงกับกูก็สนิทกันเลยเล่นแบบไอ้สองตัวนั่นด้วยเหรอวะ แบบนั้นมันจะคู่ผัวตัวเมียละ…โอย!!!’ เขกหัวไอ้เพื่อนตัวดำขี้สงสัยไปทีก่อนจะหันมาก้มหน้าก้มหน้าต่อปั่นต่อเพราะต้องส่งภายในชั่วโมงนี้
‘จะเป็นเพื่อน จะเป็นคู่ผัวตัวเมียก็ช่างมันแต่อย่าทำน้องกูเสียใจพอ’
จำได้ว่าตัวเองตอบไปแบบนี้ แต่วันนี้พอมาเห็นอะไร ๆ คาตาแบบนี้อารมณ์คนหวงน้องมันก็ขึ้นสมองเลยจนแทบจะเปิดประตูรั้วออกไป แล้วถ้าถามทำไมลู่หานถึงได้มายืนสูบไอ้ม้วนขาวในมือต่อก็คงเพราะรอยยิ้มบนใบหน้าชานยอลนั่นไง ทำให้เขาไม่กล้า...กล้าที่จะทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าใส ๆ นั่นหายไป
“พี่ลู่~~~~~”
เสียงใสที่มาพร้อมขนาดตัวไม่เล็กที่โถมใส่คนเป็นพี่ที่ยืนพิงเสาอยู่จนแทบจะล้ม แต่เจ้าตัวยังไม่สำนึกแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่เมื่อเห็นสิ่งในมือพี่ชาย
“ไหนว่าจะเลิกไง เอามานี่เลยน้องยอลไม่ชอบ” พูดจบก็ดึงไอ้ม้วนขาวมากระทืบ...กระทืบ ประหนึ่งระบายความแค้นที่โดนไอ้เถื่อนที่ขับรถมาส่งหน้าบ้านตะกี้แกล้งอีกแล้ว
“ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้องยอล”
“อึก...พี่ลู่~~พี่ลู่ว่าน้องยอล” ชานยอลที่มองใบหน้าคมของลู่หาน แล้วรู้สึกเหมือนน้ำตามันคลอที่ตาพร้อมที่จะไหลได้ทุกเมื่อ แม้ปกติจะโดนคนอื่นดุอยู่บ่อย ๆ แต่เขามั่นใจว่าอย่างน้อยต้องมีคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คนเดียวที่จะยืนอยู่ข้างปาร์คชานยอลแม้ว่าตัวเขาจะทำผิดก็เถอะ
“ใช่เซ่!!!...น้องยอลมันเป็นคนอื่น ตั้งแต่วันที่ตัวตัดสินใจย้ายออกไปอยู่คนเดียวแล้วนิ กว่าจะกลับบ้านแต่ละครั้งอ้อนวอนแทบตาย” ผลักอกคนเป็นพี่อย่างแรง ก่อนที่ยกมือปาดน้ำตา
“อย่าขยี้ตาแรง ๆ แบบนี้” ลู่หานใช้น้ำเสียงอ่อนลงเพราะชานยอลเพิ่งไปทำเลสิกมาเมื่อปิดเทอม ยอมรับว่าผิดที่ใช้น้ำเสียงแข็งใส่คนเป็นน้องทั้งที่ปกติ ไม่เคยเก็บอารมณ์หงุดหงิดมาลงกับน้อง มือหนากุมมือน้องไว้ก่อนอีกมือจะล่วงผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาให้ชานยอลที่ยิ่งเช็ดให้แต่น้ำตายิ่งไหลออกมา
“พี่ลู่~~~”
“เอ้าไอ้นิ” ลู่หานได้แต่ลูบหัวคนที่พุ่งตัวมามาซบไหล่เขาจนสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้น นานแล้วเหมือนกันที่ชานยอลไม่ได้อ้อนเขาเหมือนตอนเด็ก ๆ
“ป๊ะ เข้าบ้านกัน เดี๋ยวเจอน้ำค้างมากๆ ได้เป็นไข้หวัดอีก”
“แหม น้องยอลโตแล้วเถอะไม่ได้ป่วยง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ แล้วนี่พี่ลู่มานานยัง แล้วเจอพ่อแม่ยังแล้วกินข้าวยัง ให้น้องยอลหาไรให้กินไหม” ลู่หานหลุดยิ้มออกมาก่อนจะขยี้ผมของชานยอลจนฟูไปหมดโดยไม่สนใจใบหน้ามุ่ย ๆ ไม่ชอบใจของคนเป็นน้องเลย
“รัวคำถามแบบนี้ตอบรวมๆ แล้วกัน วันนี้มากินข้าวเย็นกับพ่อแม่แล้วก็จะนอนที่บ้านคืนนี้” พูดจบก็ยิ้มเท่ให้คนเป็นน้องที่ทำตาโตก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปตามทางเดินเข้าไปอย่างดีใจ ที่เดินนำเข้าบ้านไปก่อนแล้วไปงุ้งงิ้งใส่พ่อกับแม่ที่นั่งดูหนังอยู่ว่าทำไมไม่โทรตามทั้งที่นานๆ ทีลู่หานจะกลับมากินข้าวเย็นที่บ้านพร้อมค้างคืน
บางทีการเป็นพี่ชายที่ดีแล้วได้ดูแลน้องชายที่น่ารักแบบชานยอลก็ดีเหมือนกัน แล้วอดคิดไปถึงแขนเล็กๆ ที่กอดเอวเขาแน่นตอนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คันเก่งของเขาเมื่อช่วงเย็น ใบหน้าคมของลู่หานก็มีรอยยิ้มขึ้น ตัวเล็ก ๆ บอบบาง แล้วยิ่งท่าตั้งอกตั้งใจสีเชลโล่มันทำให้ลู่หานอยากเข้าไปทำความรู้จักให้มากกว่านี้ แต่ดูท่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะตราบใดงูจงอางหวงไข่แบบอู๋อี้ฟานยังขู่ฟ่อแบบนี้ บางทีถ้าจับชานยอลใส่พานให้เพื่อนตัวแสบเพื่อแลกกับน้องชายคนเล็กคนที่อีกฝ่ายหวงแสนหวงมันจะคุ้มไหมนะ
ก็คิดเล่นๆ ก็เท่านั้นนะ
+++++++++tbc++++++++
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดีค้าาา เพอร์เฟคมาก เค้าเรียก สนธิสัญญาเปลี่ยนน้องเเลกเมีย คึคึ
ยอมจับน้องใส่พานไปแลกน้องแบคจริงหรอออ
นี่น้องๆจะอ้อนพี่มุ้งมิ้งไปไหน
แต่ละคนน่ารักน่าฟัดทั้งนั้น >___<
อยากอ่านต่อแล้วอ่า อิอิ เราเชียร์คู่นี้ ชอบคู่นี้โคตรๆ อ่า
LH BH ด้วยไหมคะ
อะไรกันนน พี่ลู่เคยทำอะไรไว้ให้แบคประทับใจปะ
หืมมมมมมมมมมมมมม
พี่คริสคนหวงน้อง แบร่!
รอนะค้าาา
เชียร์แว๊นซ์ปักกิ่งงงง
รอน่ะไรเตอร์^^
ค้างมากก ไรท์รีบมาต่อน้าาาาา
เขิลเลยอ้ะ
อ๊ากกกกกก! อย่างนี้ต้องติดตาม
เเต่ว่าตอนท้ายอ่ะ
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขิล
อร๊ากกกกกกกกก
พี่ลููู่เเลดูมีปมมมมมมมมม
ฮรืออออออ นายท่านพ่อนังปาร์คหรออ น่ากลัวหรอ??
อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ชีวิตพี่ลู่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่เลยอ่ะ