ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BROTHER PROBLEMS [HAEEUN]

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] 하루에 (A Day)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 54


     Title :: 하루에 (A Day)
    Author :: winniewn
    Paring :: HAEEUN

    Note :: ค้างไว้สองหน้าเมื่อเดือนก่อนแต่งต่อด้วยความสับสนอย่างหนักว่าควรจะเป็นพี่ทงหรือซีวอนดี สุดท้ายก็มีคำแนะนำจากน้องว่าทงเฮดีกว่าเพราะว่าซีวอนดีเกินไป(?)สำหรับบทนี้ มาแบบสั้นๆและมันเป็นฟิคที่ง่อยมากไม่อะไรเลยจริงๆ55555555555555555555555  ไม่ได้ตรวจคำผิดไม่ได้อ่านทวนเราเป็นคนกลัวฟิคตัวเองค่ะ

     

    ขอบคุณคำแปลเพลง A day จาก Minnie @ SUJUISM.BLOGSPOT.COM ค่ะ
    ปล.เรื่องยาวเร็วๆนี้ค่ะ orz


    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com

     

     

     

     

     

     

     

    하루에 (A Day)

     

     

     

     

     

     

     

    “เห็นแล้วอยากจะกระชากกลับบ้านจริงๆ เลย”

     

    “ทำไมเท่ขนาดนี้เนี่ย โอ๊ยเครียด”

     

    “หล่อยิ่งกว่าในละครเรื่องใหม่อีก”

     

     

     

    เด็กนักเรียนหญิงสองคนยืนคร่ำครวญอยู่หน้าป้ายโฆษณาน้ำหอมยี่ห้อหนึ่งที่มีพรีเซนเตอร์หนุ่มหล่อยืนถือขวดแก้วดีไซน์เรียบๆ สีเทาใส ผมตัดสั้นเสยขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าหล่อ สวมเสื้อผ้าเรียบๆ เพียงแค่เชิร์ตสีดำกับกางเกงสีเดียวกันกับเสื้อแต่ดูเปล่งประกายอย่างกับจะทะลุออกมาจากป้าย

     

     

     

     

     

     

     

    อีทงเฮ นักแสดงและนายแบบหนุ่มที่ติดโพลผู้ชายที่สาวๆ อยากได้เป็นแฟนมากที่สุด งานเยอะทั้งละคร งานถ่ายแบบ โฆษณาและงานอีเว้นท์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มที่ฮอตสุดๆ ในวินาทีของวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้ ทั้งหล่อ รวย ไม่หยิ่ง อัธยาศัยดีสุดๆ เป็นทั้งที่รักของแฟนคลับและนักข่าว

     

     

     

     

     

     

     

    “โถ่เอ๊ย ขี้เก๊ก” เสียงพูดพึมกับตัวเองเบาพอที่สองสาวซึ่งยืนฟินอยู่หน้าป้ายโฆษณาจะไม่ได้ยิน ฮยอกแจแอบเบ้ปากใส่คนในป้ายนั้นนิดนึงก่อนจะเดินผ่านไปเหมือนปกติ มือสองข้างหิ้วถุงของกินและอุปกรณ์สำหรับทำงานในช่วงปิดเทอมที่ต้องส่งอาจารย์และเพิ่งซื้อมาเมื่อครู่

     

    พอไปถึงอพาร์ทเม้นท์ ขึ้นลิฟท์เดินไปอยู่ที่หน้าห้องเรียบร้อยแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นโพสอิทแผ่นสีเหลืองแปะอยู่ที่บานประตู ที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งต้องขมวดคิ้วเข้าไปอีก พออ่านจบก็ทำหน้าเบื่อเซ็งใส่โพสอิทแผ่นนั้น ก่อนจะเข้าห้องไปโดยหยิบติดมือเข้ามาแปะไว้ที่ชั้นวางรองเท้า

     

     

     

     

     

     

     

    ‘พรุ่งนี้บ่ายโมงที่เดิมนะ’

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    :: A DAY ::

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “โอ๊ยยย อืออออออ”

     

     

    ฮยอกแจพลิกตัวไปมาบนเตียงนอนนุ่มส่งเสียงโวยวายหงุดหงิดกับตัวเองนิดหน่อยก่อนจะลืมตาขึ้น เอื้อมมือแบบสะเปะสะปะคว้าโทรศัพท์มือถือมาดูเวลา... เที่ยงครึ่ง... ถือว่ายังดีและมีเวลาจัดการกับตัวเองก่อนออกไปตามนัดอีกเยอะ ฮยอกแจนอนกลิ้งต่ออีกสองสามทีแล้วค่อยลุกขึ้น เดินแบบมึนๆ ไปที่ห้องน้ำ

     

    ล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำสองนาทีเสร็จก็แต่งตัว เสื้อแขนยาวสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวสีอ่อน ทำหน้ามึนใส่กระจกสางผมด้วยนิ้วมือสองสามทีก็หยิบกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาลออกมาเดินไปใส่รองเท้าแล้วก็ออกจากห้อง ตอนนี้บ่ายโมงสี่สิบหาอะไรกินระหว่างทางนิดหน่อยบวกกับเวลาเดินทางคงจะถึงตามเวลานัดแบบเป๊ะๆ

     

    ‘ที่เดิม’ ที่เจ้าของโพสอิทเขียนบอกไว้คือคอนโดเพนท์เฮ้าส์สุดหรูที่ค่าเช่าเดือนนึงแพงกว่าค่าเทอมของฮยอกแจทั้งปี แต่ฮยอกแจก็เข้านอกออกในที่นี่ได้อย่างสะดวกเพราะคนๆนั้นบอกพนักงานทุกคนไว้ว่าให้อนุญาติฮยอกแจทุกครั้งที่มา

     

    ฮยอกแจขึ้นลิฟท์กระจกสวยไฮโซไปที่ชั้นสามสิบ ก้าวไปข้างหน้าสามก้าวเลี้ยวขวาสองก้าวก็ถึงประตูห้อง 3000 ยกนิ้วขึ้นกดออดรอแป๊บเดียวก็มีคนเดินมาเปิดประตูให้

     

     

     

    “........................”

     

    “........................”

     

     

    “เข้ามาดิ่”

     

     

     

    เจ้าของห้องในชุดเสื้อยืดสีขาวกับผ้ากันเปื้อนที่สกปรกเลอะเทอะหลีกทางให้คนที่ยืนหน้ามึนอยู่หน้าประตู ฮยอกแจเดินเข้าห้องถอดรองเท้าไว้ก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว

     

     

    “กินอะไรมายัง” คนที่เพิ่งปิดประตูห้องตัวเองเดินเข้ามาถามร่างบางที่นั่งฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะพร้อมกับกลับเข้าครัวไปทำกับข้าวต่อ

     

     

    “ไอติมถ้วยนึง”

     

     

    “กินไอติมแต่เช้าอีกแล้ว เดี๋ยวโดนตีแน่”

     

     

    “จะตีก็ตีสิจะได้เอาไปบอกนักข่าวว่าอีทงเฮที่ดังโคตรๆ อยู่ตอนนี้เป็นคนนิสัยไม่ดี”

     

     

    ฮยอกแจพูดงึมงำๆ โดยที่ยังนอนฟุบอยู่อย่างนั้น ทงเฮโรยเกลือลงไปในข้าวผัดกิมจิคนอีกสองสามทีก็ปิดเตา ตักข้าวใส่จานสองจานเท่าๆ กันก่อนจะโปะหน้าด้วยไข่ดาวที่ทอดไว้ก่อนแล้ว

     

     

    “กิน”

     

    จานข้าวถูกวางลงตรงหน้าฮยอกแจหนึ่งจานและของทงเฮเองหนึ่งจาน ทงเฮกลับเข้าครัวไปอีกครั้งเพื่อหยิบขวดน้ำเปล่าจากตู้เย็นออกมาพร้อมแก้วสองใบ รินน้ำให้ฮยอกแจกับตัวเองเสร็จแล้วก็จะเริ่มกินข่้าวผัดเพราะหิว แต่คนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามยังคงเอาหน้าฟุบไว้กับโต๊ะ

     

     

    “ฮยอกแจ”

     

     

    “........................”

     

     

    “ตื่นมากินข้าว”

     

     

    “ง่วง..”

     

     

    “โอเคงั้นไปหาอะไรทำให้หายง่วงกันดีกว่า เอาที่ไหนดี ห้องนอนดีไหม”

     

    “กินก็ได้”

     

    ฮยอกแจยอมเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะและกินข้าวที่ทงเฮทำ รสชาติก็อร่อยดีเหมือนข้าวผัดกิมจิทั่วๆ ไปแต่กินได้แค่ไม่ถึงครึ่งจานฮยอกแจก็วางช้อนลงเพราะอิ่ม ฮยอกแจไม่ชอบกินข้าวเท่าไหร่แต่ชอบกินขนมกับของหวานมากที่สุดในโลกโดยเฉพาะไอติม ทงเฮหยิบส้มมาปอกให้กินล้างปากฮยอกแจกินไปสามกลีบ ฮยอกแจไม่ค่อยชอบผลไม้แต่ก็พอกินได้แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามสิ่งที่ฮยอกแจชอบมากที่สุดยิ่งกว่าขนมทุกอย่างบนโลกคือการนอน

     

     

    “อิ่มแล้วจะนอนก็ไปที่ห้อง ไม่ต้องมาฟุบบนโต๊ะ”

     

    “อือ”

     

     

    ทงเฮมองคนตัวผอมที่เดินเอื่อยๆ ขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนของเขาที่อยู่ชั้นสองแล้วก็ยิ้มออกมา เอื้อมไปหยิบจานข้าวที่อีกคนกินเหลือมานั่งกินต่อให้หมดเหมือนคุณพ่อที่ต้องคอยกินของเหลือของลูกจอมงอแง ไม่ชอบกินข้าวเอะอะจะกินแต่ขนมอย่างเดียว

     

    ทงเฮกับฮยอกแจเป็นแฟนกัน (ถ้าทงเฮเข้าใจไม่ผิดนะ(?)) เอาเป็นว่าทงเฮกับฮยอกแจรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยตอนอยู่โรงเรียนมัธยม ทงเฮเป็นสตาฟงานวันกีฬาสีม.ปลายปีสุดท้ายส่วนฮยอกแจเป็นรุ่นน้องอยู่มัธยมต้นปีสอง จนปัจจุบันฮยอกแจอยู่ปีหนึ่งแล้วเรียนนิเทศศิลป์ ทงเฮเรียนจบมีอาชีพการงานเป็นนักแสดงและนายแบบที่กำลังดังสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนๆ นึงมองว่าทงเฮเป็นคนธรรมดาคนเดิมไม่ใช่คนดังที่ไหน

     

    ฮยอกแจชมทงเฮนับครั้งได้ ชอบบอกว่าทงเฮขี้เก๊กไม่เห็นหล่อตรงไหน ฮยอกแจชอบทำหน้ามึนๆ ใส่ ชอบง่วงนอนตลอดเวลา กินแต่ขนม เอาใจยากที่สุดในโลกแต่ทงเฮก็รู้สึกว่าฮยอกแจคือคนที่เขาอยู่่ด้วยแล้วมีความสุข

     

     

    ในวันๆ หนึ่งของทงเฮที่มีงานเยอะแยะจนรู้สึกเหนื่อยล้า แต่เพียงแค่ได้คิดถึงฮยอกแจทุกอย่างก็จะดีขึ้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กินข้าวล้างจานจนเสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปหาคนที่นอนอยู่ข้างบน ทงเฮอยากกอดฮยอกแจ แต่ก็ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเพราะเพิ่งทำกับข้าวเสร็จและจะออกไปเดินเล่นนอกบ้านกับฮยอกแจด้วย วันนี้ทงเฮว่างทั้งวันซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากมากเพราะฉะนั้นเมื่อวานตอนเสร็จงานโฆษณาปุ๊บทงเฮจึงรีบไปไปแปะโพสอิทบอกเวลานัดกับฮยอกแจที่หน้าห้องพัก

     

    “ไม่ได้หลับหรอ” ทงเฮถามฮยอกแจที่นอนมองเขาตาแป๋วอยู่พลางเช็ดผมไปด้วยเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จฮยอกแจตอบสั้นๆ แค่เปล่าก่อนจะลุกจากเตียง ทงเฮเดินเข้ามากอดฮยอกแจไว้แน่นโน้มใบหน้าลงหอมแก้มฮยอกแจแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว

     

    “ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านหรือเปล่า?”

     

    “ไม่ได้ทา”

     

    “ทำไมไม่ทา บอกกี่ครั้งแล้วเนี่ย”

     

    “เกินร้อยแล้วแหล่ะ”

     

    ทงเฮดันไหล่ให้คนตัวเล็กกว่านั่งลงกับเตียงก่อนจะเดินไปหยิบครีมกันแดดสำหรับทาหน้าจากลิ้นชักออกมา ทงเฮอยากให้ฮยอกแจดูแลตัวเองบ้างถึงจะไม่ได้มากมายแต่ก็แค่ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน บอกฮยอกแจตลอดว่าให้ทา แดดแรงๆ มันไม่ดีต่อผิวหรือไม่อย่างน้อยก็ใส่หมวกก็ได้แต่ฮยอกแจไม่เคยฟัง พอทงเฮดุก็ทำตาขวางใส่แล้วก็งอนไปเลย

     

    “ถ้าไม่ทาอย่างน้อยก็ใส่หมวกก็ได้”

     

    “แล้วมายุ่งอะไร”

     

    “แค่เป็นห่วง”

     

    ทงเฮพูดสั้นๆ ก่อนจะเริ่มทาครีมกันแดดให้ฮยอกแจ ทาไปบ่นไปบ่นเสร็จก็ถามว่าอยากไปไหนดูหนังดีไหมหรือขี่จักรยานเดินเล่นที่สวนดี ฮยอกแจก็ตอบแค่อือๆๆ แล้วก็นั่งขมวดคิ้วให้ทงเฮทาครีมด้วยความหมั่นเขี้ยว ถูแรงจนหน้าฮยอกแจแทบแหก

     

    หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากคอนโดนั่งอยู่บนรถสีดำของทงเฮ ฮยอกแจถูกจับใส่หมวกปีกเล็กสีน้ำตาลเปลี่ยนกระเป๋าใบใหญ่ให้เป็นกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กที่พกแค่โทรศัพท์กับเงินก็พอจะได้ไม่ต้องถืออะไรให้เยอะแยะ ทงเฮแต่งตัวธรรมดาๆ เสื้อโปโลลาคอสสีขาวกับกางเกงยีนส์แล้วก็รองเท้าผ้าใบไม่ได้ปกปิดอะไรหรือแต่งตัวเหมือนโจร

     

    ทุกครั้งที่ออกมานอกบ้านกับฮยอกแจก็จะทำเหมือนเพื่อนเดินเล่นด้วยกัน ไม่มีอะไรมากมาย ถึงหลายครั้งจะมีนักข่าวมาถามเรื่องนี้แต่ทงเฮก็แค่ยิ้มๆ ให้เท่านั้นส่วนฮยอกแจเป็นคนที่นักข่าวไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไหร่ ท่าทางไม่เป็นมิตรสุดๆ ถามอะไรก็ตอบแค่ครับ เปล่าครับ ไม่ครับอยู่แค่นี้ ชอบทำหน้ามึนใส่กล้องเหมือนที่ทำใส่ทงเฮทุกวัน

     

    “ไม่ชอบเดินด้วยเลย เบื่อคนดัง” ฮยอกแจพูดงึมงำๆ เมื่อเห็นสายตาของคนที่เดินผ่านมองมาที่อีทงเฮและตัวฮยอกแจเองอย่างสนใจ ถึงจะไม่มีใครกรี๊ดกร๊าดอะไรเพราะที่นี่คือห้างระดับหรูแต่ยังไงฮยอกแจก็ไม่ชอบอยู่ดี

     

    “งั้นไปหาที่นั่งกัน”

     

    ร้านหนังสือเงียบๆ เป็นที่ที่ดีที่สุดในห้างรองจากภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ชั้นบน มุมประจำของทงเฮกับฮยอกแจคือด้านในสุดของฝั่งขวาที่เป็นร้านกาแฟเล็กๆ เงียบๆ พร้อมกับมีที่นั่งให้ ทุกครั้งที่มาทงเฮกับฮยอกแจจะเลือกซื้อหนังสือแล้วก็มานั่งอ่านด้วยกันที่ร้านนี้

     

    หนังสือที่ซื้อในวันนี้เป็นหนังสือแบบบ้านสไตล์คันทรี่สวยๆ เล่มใหญ่หนาหลังจากที่เดินวนอยู่หลายสิบรอบแล้วฮยอกแจก็หายไปขลุกอยู่กับหนังสือนิยายอยู่นานสองนาน ทงเฮกับฮยอกแจนั่งดูด้วยกันบนโต๊ะที่มีแก้วชาเขียวปั่นวางอยู่ผลัดกันดูดคนละอึก นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย วิจารณ์แบบบ้านไปเรื่อย ทงเฮหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเข้าแอพพลิเคชั่นทวิตเตอร์ที่เอาไว้พูดคุยกับแฟนคลับและอัพเดทข่าวสารต่างๆ ทงเฮมองใบหน้าของฮยอกแจที่ตั้งใจดูรายละเอียดของบ้านต่างๆ ในหนังสืออย่างใจจดใจจ่อก่อนจะทวีตข้อความสั้นๆ ลงไป

     

     

     

     

     

    donghae861015

    좋은 ^ ^

     

    .. Good day ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ทงเฮ”

     

    “หือ?” เงยหน้ามองตามเสียงเรียกของคนตรงข้าม ถึงจะอายุห่างกันเกือบห้าปีแต่ฮยอกแจเรียกทงเฮว่าพี่แบบนับครั้งได้ตั้งแต่รู้จักกันมาหลายปีแต่ทงเฮก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ฮยอกแจยอมเรียกชื่อเขาก็ดีเท่าไหร่แล้วปกติเงียบตลอดถ้าทงเฮไม่ชวนคุยก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ยินเสียงฮยอกแจ

     

    “พี่ทงเฮ”

     

    “อะไร พูดจาแปลกๆนะ” ถามพร้อมกับใจที่เต้นแรงเวลาที่ฮยอกแจพูดแบบนี้แถมยังมองมาด้วยสายตาอ้อนๆ อีก ไม่ได้ทำหน้าอึนๆเหมือนที่ชอบทำ ปกติฮยอกแจก็น่ารักอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งน่ารักมากกว่าเดิมสิบเท่า นานๆ ทีทงเฮจะเห็นฮยอกแจแบบนี้

     

    “รักฮยอกแจมากแค่ไหน”

     

    ทงเฮหลุดยิ้มออกมาแต่ก็ปรับสีหน้ากลับไปเป็นเรียบเฉยพลางหยิบแก้วชาเขียวปั่นขึ้นมาเปิดฝาพลาสติคออกแล้วใช้หลอดคนไปคนมาเล่นๆ แปลกใจเหมือนกันที่ฮยอกแจถามอะไรอย่างนี้ ทงเฮนั่งเงียบให้ฮยอกแจถามซ้ำซ้ำซ้ำจนฮยอกแจหงุดหงิดเลยเลิกอ้อนเลิกพูดดีๆ ด้วยถามทงเฮอีกรอบด้วยน้ำเสียงแบบปกติ แถมยังบังคับให้ตอบเร็วๆ

     

    “ตอบมา”

     

    “รักฮยอกแจมากกว่าหมาที่บ้านนิดนึง”

     

    ฮยอกแจปิดหนังสือเล่มใหญ่แรงๆ มองทงเฮตาขวางแต่ทงเฮกลับยิ้มให้แล้วก็ชวนกลับบ้านไปดูหนังที่ห้องด้่วยกัน ฮยอกแจแกะแขนล่ำๆ ที่เข้ามาคล้องคอออก ก้าวยาวๆ เพื่อเดินหนีทงเฮ ทงเฮเดินตามแล้วพยายามจะจับมือคนตัวเล็กแต่ฮยอกแจก็สะบัดออกแถมยังเบือนหน้าหนีไม่ยอมหันมาพูดกับทงเฮดีๆ

     

    “ฮยอกแจเป็นไรเนี่ย”

     

    “เป็นบ้า”

     

    “โอเคงั้นเดี๋ยวพาไปฉีดยา”

     

    “ไอ้บ้าทงเฮ”

     

     

    “พี่ทงเฮคะ” เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นทงเฮกับฮยอกแจหยุดเถียงกันแล้วหันไปมองพร้อมเมื่อเห็นว่าเป็นใครทงเฮทักทายหญิงสาวตัวเล็กในชุดเดรสสีเทาพร้อมกับยิ้มให้ผิดกับฮยอกแจที่ทำหน้าบึ้งมากกว่าเดิมอีก

     

    “เพิ่งกลับมาหรอจีอึน เป็นยังไงบ้าง”

     

    จีอึนเป็นนักแสดงรุ่นน้องในสังกัดเดียวกันกับทงเฮเลยรู้จักกันเป็นอย่างดี จีอึนเพิ่งกลับมาจากพักร้อนสองสัปดาห์ที่เธอได้ไปเที่ยวแถบยุโรปกับครอบครัวมา

     

    “ดีมากเลยค่ะได้ไปเที่ยวหลายประเทศเลย พี่ทงเฮมาเดินเล่นหรอคะ”

     

    “ครับ..  นี่ฮยอกแจจะรีบไปไหนรอก่อนสิ !  เอ่อ จีอึนไว้เจอกันนะ ขอโทษจริงไ”

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ”

     

    ทงเฮบอกลากหญิงสาวด้วยความรวดเร็วก่อนจะก้าวเท้าเดินตามฮยอกแจที่เดินหนีออกไป พอคว้าแขนได้ก็ลากลู่ถูกังกันไปที่รถ ฮยอกแจเงียบไม่ยอมพูดอะไรจนทงเฮต้องถามเป็นสิบๆรอบว่าเป็นอะไรจนในที่สุดฮยอกแจก็ยอมพูดออกมาได้ถึงจะตอบไม่ค่อยตรงแต่ทงเฮก็เข้าใจว่าฮยอกแจเป็นไร

     

    “โตแล้วนะ กลับบ้านเองได้ ทงเฮจะคุยกับใครก็คุยไปไม่ต้องมาสนใจหรอก”

     

    ทงเฮถึงกับยิ้มออกมาเพราะฮยอกแจพูดแบบนี้แสดงว่าหึงหวงออกมาอย่างชัดเจน ทงเฮเปิดแผ่นซีดีฟังเพลงก่อนจะออกรถ

     

    “ไม่สนใจได้ไงแฟนทั้งคน”

     

    “เราเป็นคนงี่เง่าจะตาย ไม่รู้จะมาคบด้วยทำไมเสียเวลาเปล่า”

     

    ฮยอกแจหันหน้าไปทางหน้าต่างกระจกรถแล้วยกศอกขึ้นตั้งท้าวคางตัวเองไว้ ถึงจะพูดเบาๆ แต่ทงเฮก็ได้ยิน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน วันนี้ฮยอกแจดูพูดจาแปลกๆ ยังไงชอบกลตั้งแต่ในร้านกาแฟแล้ว

     

    “ใครบอกว่าฮยอกแจงี่เง่า”

     

    “......................”

     

    “ใคร?”

     

    “......................”

     

    “ฮยอกแจ..”

     

     

    “แบบทดสอบ”

     

    “หือ?” ทงเฮไม่ได้ได้ยินไม่ชัดแต่ก็ไม่เข้าใจในคำตอบ แบบทดสอบ? อะไรกัน

     

    “ตอนอยู่ร้านหนังสือไปเจอหนังสือเล่มนึงวางมั่วอยู่กับนิยาย เลยเปิดดูแล้วลองทำแบบทดสอบ เขาบอกว่าเราเป็นคนงี่เง่าเกินไประวังแฟนจะทิ้งเข้าซักวัน”

     

    “......................”

     

    “ปรับปรุงตัวยังไงดี บอกหน่อย ยังทนเราได้ใช่ไหม”

     

    ฮยอกแจก้มหน้าก้มตาถามทงเฮมองก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันแต่ไม่ได้เติมน้ำมันเพียงแค่จะจอดรถแล้วคุยกันให้เข้าใจก่อนเฉยๆ

     

    “พี่ไม่เคยทนฮยอกแจเลย ไม่เคยเลยจริงๆ เพราะเต็มใจมาตลอด”

     

    “.......................”

     

    “อย่าไปเชื่อหนังสือเล่มนั้นดิ่”

     

    “.......................”

     

    “ถ้าพี่ทนไม่ไหวไม่ทนมาห้าปีหรอก”

     

    ฮยอกแจไม่ตอบอะไรแต่ทงเฮก็คิดว่าฮยอกแจน่าจะเข้าใจแล้วจึงตัดสินใจออกรถไปตามเดิม ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจากที่คิดไว้ว่าตอนแรกจะพาฮยอกแจกลับไปที่คอนโดด้วยกันแต่เพราะฮยอกแจบอกว่าอยากกลับห้องตัวเองทงเฮเลยมาส่งฮยอกแจที่อพาร์ทเม้นท์

     

    “อย่านอนดึกนะฮยอกแจ กินข้าวด้วย”

     

    “อือ”

     

    ฮยอกแจตอบรับเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป ทงเฮรู้สึกแย่ไม่น้อยกับสิ่งที่ฮยอกแจถาม สำหรับคนอื่นฮยอกแจอาจจะดูนิสัยไม่ดี เพราะไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ อัธยาศัยไม่ดีเข้าขั้นติดลบ ขี้หงุดหงิด แต่สำหรับทงเฮทุกอย่างที่เป็นฮยอกแจคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ทงเฮเคยได้รู้จัก

     

     

     

     

     

     

    묻지 항상 얼마나 사랑

    가끔씩 아직 미래까 불안해하지

    걱정하지마 괴롭히지마 내겐 완벽한 람인걸

    숨만 쉬어도 화장 해도 름다워 눈부셔

     

    You always ask me how much I love you.

    Sometimes, you would even worry about the far future.

    Don't worry.  Don't torture yourself.  You are perfect to me.

    Even if you just breathe.  Even if you don't wear make-up.

    You are beautiful , you are dazzling.

     

     

     

     

     

     

     

    “อยู่ไหนวะ” มือบางควานหาของบนโต๊ะรกๆ ของตัวเองที่เต็มไปด้วยซองขนมและเศษกระดาษวาดรูปเพราะแม่บ้านลางานหนึ่งอาทิตย์ห้องฮยอกแจเลยรกมาก มืออีกข้างปัดผมหน้าม้าสีอ่อนที่ยาวลงมาปรกตาจนน่ารำคาญและพอเจอกรรไกรที่ควานหาอยู่นานก็เดินเข้าไปที่ห้องน้ำ ยื่นหน้าไปใกล้ๆ กระจกก่อนจะหรี่ตาและหยิบกรรไกรขึ้นมา

     

    ฮยอกแจกำลังจะตัดผมหน้าม้าของตัวเองด้วยกรรไกรตัดกระดาษเพราะขี้เกียจออกไปร้าน ผมข้างหลังก็ยังสั้นพอดีอยู่ถ้าออกไปตัดหน้าม้าอย่างเดียวก็เปลืองเงินแย่ ผมหน้าม้าก็ทิ่มตาน่ารำคาญอีกอย่างเย็นพรุ่งนี้ต้องไปกินข้าวบนเรือกับทงเฮด้วยเพราะทงเฮจองเรือไว้แล้ว ยังไงก็ต้องเล็มให้มันดูดีหน่อย

     

     

     

    ฉึบๆๆๆ ฉับ !!

     

     

     

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยย”

     

     

     

    ฮยอกแจร้องเสียงดังด้วยความตกใจพร้อมกับเอาหน้าตัวเองส่องใกล้ๆ จนแทบจะแนบเข้าไปกับกระจกก่อนจะเอาหน้าออกมา ยกมือขึ้นจับดูผมหน้าม้าของตัวเองที่หลังจากเสียงฉับเมื่อกี๊ผมทางด้านซ้ายก็แหว่งเหนือคิ้วไปทั้งแถบ ฮยอกแจดูหน้าตาที่เด๋อด๋าของตัวเองในกระจกรู้สึกอยากจะร้องไห้ที่สุด

     

     

    ทำไงดี

     

     

    ฮยอกแจยืนคิดอยู่หน้ากระจกอยู่นานจนในที่สุดก็ตัดสินใจเดือนออกไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะกดโทรหาทงเฮแต่ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้วพรุ่งนี้เช้าทงเฮมีนัดไปดูบทละครตั้งแต่เก้าโมงเช้าทงเฮคงนอนไปแล้ว ฮยอกแจจึงวางโทรศัพท์ลงก่อนจะปิดไฟห้องล้มตัวลงนอนบนเตียงพลิกตัวไปมาอย่างคิดไม่ตก

     

    ทำไงดี T___________T

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ::  A DAY ::

     

     

     

     

    ออดดด ~

     

     

     

    ทงเฮขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงจากหน้าประตู ค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมองข้างนอกยังไม่สว่างเต็มที่เลยด้วยซ้ำ รู้สึกหงุดหงิดเต็มขั้น เมื่อคืนกะว่าจะนอนเร็วๆ แต่กว่าจะหลับก็เกือบตีสองเพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่จะไปกินข้าวกับฮยอกแจคืนนี้ล่องเรือสุดโรแมนติคที่ทงเฮได้ตัดสูทเรียบๆ ชุดใหม่ให้ฮยอกแจใส่ไปกินข้าวด้วยกัน มัวแต่คิดภาพว่าฮยอกแจใส่แล้วจะออกมาน่ารักขนาดไหนจนเกือบไม่ได้นอน

     

    แล้วใครมารบกวนเวลานอนตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งก่อนเวลาตื่นที่ตั้งไว้ตั้งครึ่งชั่วโมง ทงเฮพยายามแซะตัวเองขึ้นจากเตียงในขณะที่เสียงออดก็ดังขึ้นอีกรอบ ทงเฮล้างหน้าล้างตาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูพอเห็นว่าเป็นใครที่มาก็ตกใจจนหายง่วง

     

    “ฮยอกแจ ! ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร้อยวันพันปีไม่เคยมีสักครั้งที่ฮยอกแจจะมาหาทงเฮเองโดยที่ทงเฮไม่ได้นัดไว้ ร่างบางเดินเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่นเงียบๆ แปลกที่วันนี้มาแต่เช้ามากแถมยังใส่หมวกไหมพรมปิดลงมาเกือบถึงตา ทงเฮเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะหยิบมัฟฟินบลูเบอร์รี่ที่ซื้อมาเผื่อฮยอกแจมาที่ห้องไว้ออกมาอุ่นแล้วเอาออกมาให้ฮยอกแจพร้อมกับนมจืดเย็นๆ แก้วนึง

     

    “ฮยอกแจ มาหาแต่เช้าเลย มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ทงเฮถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ฮยอกแจใช้ส้อมตักมัฟฟินนุ่มๆ เข้าปากหนึ่งคำก่อนจะหันมาหาทงเฮพร้อมสีหน้าหงอยๆ เหมือนลูกแมวคิดถึงแม่ เป็นฮยอกแจในอีกแบบที่ทงเฮชอบแต่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก

     

    “ฮยอกแจ...”

     

    “ทงเฮห้ามขำนะ”

     

    “หือ?”

     

    ทงเฮสงสัยได้ไม่นานก็ได้รู้ว่าที่ฮยอกแจบอกว่าห้ามขำคืออะไรเมื่อมือบางถอดหมวกไหมพรมสีดำของตัวเองออกเผยให้เห็นผมหน้าม้าที่แหว่งขึ้นไปเหนือคิ้ว ฮยอกแจโผเข้ากอดทงเฮแล้วเอาหน้าซบไว้ที่บ่ากว้างเพราะไม่อยากให้ทงเฮมองอีก ทงเฮยกมือขึ้นลูบหัวฮยอกแจเบาๆ ยิ้มออกมาเพราะฮยอกแจกำลังทำตัวน่ารักมากใส่เขา อ้อนๆ หงอยๆ แบบนี้นานๆ ทีจะมีให้เห็น

     

    “ทำไงดีอ่ะ..”

     

    “ไหน เอามาให้ดูหน่อย”

     

    มือหนาดันไหล่บางออกแล้วจับผมหน้าม้าที่เบี้ยวดู ก็เบี้ยวเยอะเหมือนกันถ้าจะให้ตัดอีกข้างให้เท่ากันก็คงจะไม่ดีแน่ ฮยอกแจยังทำหน้าหงอยๆ ทงเฮเลยจับแก้มนิ่มๆ สองข้างแล้วบิดไปมาก่อนจะรั้งคนตัวบางเข้ามากอดแน่นๆ

     

    “ไม่เห็นต้องคิดมากเลยเดี๋ยวมันก็ยาว”

     

    “มันตลก..”

     

    “แป๊บเดียวเอง อาทิตย์เดียวเองเดี๋ยวก็ยาวแล้ว”

     

    “งั้นจะไม่ออกจากบ้านอาทิตย์นึงเลย”

     

    “แป๊บนึงนะเดี๋ยวมา”

     

    ทงเฮผละออกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเองครู่หนึ่งแล้วเดินออกมาพร้อมกับหนังยางรัดผมหนึ่งเส้น จับผมหน้าม้าที่ฮยอกแจตัดเบี้ยวขึ้นมามัดเป็นจุกต้นมะพร้าวไว้ ฮยอกแจหน้ามุ่ยเพราะทงเฮทำเหมือนฮยอกแจเป็นเด็กอนุบาล ทงเฮจับใบหน้าของฮยอกแจไว้แล้วโน้มเข้าไปจูบหน้าผากที่ถูกเปิดขึ้นเบาๆ

     

    “นี่ไงหน้าม้าไม่เบี้ยวแล้ว”

     

    “แต่เป็นเด็กอนุบาลหนึ่ง”

     

    ฮยอกแจจับผมตัวเองที่ถูกมัดขึ้นแล้วเขี่ยไปมาก่อนจะกินมัฟฟินกับนมต่อ ทงเฮไปอาบน้ำแต่งตัวและออกไปเลยและบอกให้ฮยอกแจรออยู่ที่นี่จะกินเล่นนอนทำอะไรก็ได้แล้วเดี๋ยวบ่ายๆ ทงเฮจะกลับมา ทงเฮหยิบขนมที่ฮยอกแจชอบออกมากองไว้ ใส่ข้าวกึ่งสำเร็จรูปไว้ในไมโครเวฟหนึ่งกล่องตั้งเวลาไว้เรียบร้อยถ้าฮยอกแจหิวก็มากดปุ่มเดียวอุ่นเสร็จแล้วก็กินได้เลย

     

     

    และเพราะวันนี้ทงเฮใจดีมาก(ปกติก็ใจดีทุกวันอยู่แล้ว) และวันนี้ฮยอกแจน่ารักมาก(ปกติก็น่ารักอยู่แล้วด้วย) ฮยอกแจเลยหอมแก้มทงเฮก่อนทงเฮจะออกไป เป็นการให้กำลังใจที่ฮยอกแจคิดว่าตัวเองพอจะทำได้และน่าจะทำให้ทงเฮรู้สึกดีด้วย ซึ่งทงเฮก็รู้สึกดีจริงๆ ดีมากจนยิ้มไปตลอดทางแล้วก็เผลอฝ่าไฟแดงเพราะขับรถเพลินเกินไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    :: A DAY ::

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ขาไปอารมณ์ดีแต่ขากลับทงเฮรู้สึกแย่จนขับรถอย่างร้อนรนเพราะโทรศัพท์ที่ได้รับจากแม่ว่าพ่ออาการกำเริบเข้าโรงพยาบาล พ่อเป็นโรคหลายโรคทั้งความดันโรคหัวใจ และไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้ทงเฮรู้สึกแย่แต่ตอนไปที่บริษัทนอกจากจะได้บทละครมาแล้วทงเฮยังโดนเทศน์มาชุดใหญ่เรื่องวันนั้นที่ทงเฮไปเดินเล่นกับฮยอกแจแล้วเจอจีอึน มีปาปาราซซี่ถ่ายรูปมาแต่ว่าไม่ลงข่าวใหญ่โตเพราะทางบริษัทยัดเงินไว้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของทงเฮ ทงเฮฟังแล้วหงุดหงิด มันเสียหายขนาดนั้นเลยหรือไงแค่การเดินเล่นกับแฟนแล้วบังเอิญเจอคนรู้จักเท่านั้น

     

    ตลอดทางที่ขับรถกลับคอนโดสิ่งที่ทงเฮกังวลมากที่สุดคือเรื่องพ่อ ทงเฮจัดการโทรไปยกเลิกโต๊ะที่จองไว้จะกินข้าวกับฮยอกแจเพราะเขาต้องรีบกลับมาเก็บเสื้อผ้ากลับไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด ดีที่ฮยอกแจส่งข้อความมาคุยกันก่อนแล้วว่าไม่อยากไปกินข้าวที่เรือเพราะผมหน้าม้าฮยอกแจตลกมากจึงตกลงไว้ว่าค่อยไปกินด้วยกันทีหลัง

     

    พอมาถึงห้องเปิดประตูเข้าไปทงเฮก็ได้ยินเสียงก๊องแก๊งในครัวพร้อมกับกลิ่นอาหารลอยออกมา ในทีแรกทงเฮรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ แต่เพียงได้เห็นพ่อครัวตัวเล็กยืนขมวดคิ้วอยู่ในขณะที่พยายามจะทอดอะไรสักอย่างในกระทะทงเฮก็ยิ้มออกมา

     

    “ทำกับข้าวอยู่อย่าเพิ่งมาดูนะ”

     

    “ฮยอกแจทำอะไร”

     

    “บอกว่าอย่าเพิ่งมาดูไงเข้ามาทำไม.. ทงเฮ..​? ”

     

    ฮยอกแจนิ่งไปถือตะหลิวคาไว้ในมือเมื่ออยู่ๆ ทงเฮก็เดินมากอดจากทางด้านหลังแล้วซุกใบหน้าลงที่คอของเขา เสียงที่พูดแผ่วเบาว่าขอกอดสักพักทำให้ฮยอกแจสัมผัสได้ว่าทงเฮกำลังรู้สึกแย่

     

    “เสื้อเหม็นกับข้าวนะ”

     

    “ไม่เห็นเหม็นเลย” ทงเฮเลื่อนหน้าไปจูบเบาๆ ที่แก้มของฮยอกแจ น่าแปลกที่ความกังวลใจที่ทำให้ทงเฮอึดอัดเพียงแค่ได้กอดฮยอกแจทงเฮกลับรู้สึกดีขึ้นมาก ฮยอกแจปิดเตาแก๊ซก่อนจะแกะแขนทงเฮออกแล้วหันไปกอดทงเฮไว้

     

    “มีอะไรไม่สบายใจก็บอกได้นะ”

     

    “พ่อพี่เข้าโรงพยาบาล..”

     

    ทงเฮเลือกที่จะบอกแค่เรื่องเดียวเท่านั้นเพราะไม่อยากให้ฮยอกแจต้องเครียด ฮยอกแจไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่กอดทงเฮไว้เงียบๆ

     

    “ทงเฮไปอาบน้ำสิ จะได้เก็บเสื้อผ้าต้องไปเยี่ยมพ่อ” ฮยอกแจพูดขึ้น ผละแขนออกและเงยหน้ามองทงเฮ ทงเฮพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยส่วนฮยอกแจก็เข้าไปในครัวทำกับข้าวต่อ

     

    ยี่สิบนาทีต่อมาทงเฮก็เก็บของพร้อมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเช่นเดียวกันกับฮยอกแจที่ทำอาหารเสร็จใส่กล่องไว้เรียบร้อย พอทงเฮเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ฮยอกแจก็ส่งกล่องทัพเปอร์แวร์นั้นให้

     

    “แพนเค้กกิมจิ เอาไว้กินระหว่างทางนะไม่รู้ว่าอร่อยไหม แล้วก็..” ฮยอกแจเดินไปหยิบกระติกน้ำลายทิกเกอร์ที่ทงเฮซื้อให้ฮยอกแจใช้ออกมา ในนั้นบรรจุน้ำเปล่าเย็นๆ ไว้เต็ม “เอานี่ไปด้วย”

     

    ทงเฮยิ้มและขอบคุณคนตัวเล็กพร้อมกับกอดอีกหนึ่งครั้ง ฮยอกแจบอกว่าตลอดเวลาที่ทงเฮไม่อยู่จะดูแลห้องให้เท่าที่จะทำได้ทงเฮสบายใจได้เลย ทงเฮยิ้มแล้วก็ยิ้มอีกวันนี้ฮยอกแจน่ารักมาก พูดเยอะกว่าปกติ ตอนเช้ามาอ้อน ตอนเย็นก็เอาใจซะยกใหญ่ทั้งทำอาหารให้เตรียมกระติกน้ำให้ด้วย ... เป็นฮยอกแจในแบบที่น่ารักมากที่ทงเฮไม่ค่อยได้เห็นแต่ยังไงก็ตามก่อนจะไม่ได้เจอกันหลายวัน ทงเฮก็อยากเจอฮยอกแจแบบที่เจอทุกวันซักหน่อย

     

     

    “ฮยอกแจ”

     

    “อะไรอีกไม่รีบไปอ่ะ”

     

    “รักฮยอกแจนะ”

     

    “.......................”

     

     

     

     

     

     

     

    “รักฮยอกแจ... มากกว่าหมาที่บ้านนิดนึง”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ^___________^

     

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจที่ชอบขมวดคิ้วและทำหน้ามึนๆ ใส่จริงๆแล้วน่ารักกว่าฮยอกแจขี้อ้อนหลายพันเท่าเลย

     

     

     

     

    END

     

    อีกนิด..

     

     

    เมื่อคืนหลังจากที่ทงเฮไปฮยอกแจนอนพักที่คอนโดทงเฮแล้วตอนเช้าก็ค่อยตื่นมาเอาเสื้อผ้าที่ห้องตัวเอง ทงเฮส่งข้อความมาบอกว่าตอนนี้พ่อไม่เป็นอะไรแล้วแต่ทงเฮคงจะอยู่ที่บ้านสักสามสี่วันเพราะลางานไว้แล้วฮยอกแจจึงสบายใจมากขึ้น

     

    พอมาถึงหน้าห้องฮยอกแจก็ต้องแปลกใจที่เห็นโพสอิทแผ่นสีเหลืองแปะไว้ที่หน้าประตูห้อง ... ทงเฮคงจะเอามาแปะไว้ก่อนไปเมื่อวานตอนเย็นเพราะอพาร์ทเม้นท์ฮยอกแจเป็นทางผ่านของถนนสายที่จะออกไปต่างจังหวัด

     

     

     

     

     

     

     

    ‘หมาบ้านพี่ชื่อโชกุนแล้วพี่ก็รักโชกุนมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมากมาก รักเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเลย’

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจดึงโพสอิทแผ่นนี้ออกมาหลังจากอ่านไปแล้วสามรอบ ผลักประตูห้องนอนเปิดเข้าไปปกติแล้วโพสอิทต่างๆ ที่ทงเฮให้มาฮยอกแจจะแปะไว้ที่ชั้นวางรองเท้าแต่แผ่นนี้ฮยอกแจเอาไปแปะไว้ที่หน้าโต๊ะทำงาน อ่านซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายๆ รอบแล้วก็นึกไปถึงประโยคที่ทงเฮเคยพูดกับฮยอกแจสองครั้งและทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาฮยอกแจจะขมวดคิ้วใส่แต่หลังจากนี้ถ้าทงเฮมาพูดแบบนี้อีก ฮยอกแจจะยิ้มกว้างๆ ให้เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ‘รักฮยอกแจ... มากกว่าหมาที่บ้านนิดนึง’

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    머릿속 온통 너의 생각뿐

    ฉันมีแค่เธอเท่านั้น

     

    하루에 생각해 상은 껴둘거야

    ฉันจะคิดถึงเธอวันละครั้งไม่มากมายไปกว่านั้น แต่ฉันจะเก็บรักษามันไว้

     

    힘들었던 하루의 썬샤 그대

    เธอเหมือนแสงสว่างที่ส่องแสงให้ฉันเข็มแข็งในวันที่ยากลำบาก

     

    O.K. 그걸

    แค่ฉันมีเธอ มันก็โอเคและเพียงพอสำหรับฉันแล้ว

     

     

     

    END

     

     

     

      

    [หน้าตาเหมือนฮยอกแจในเรื่องนี้ดี ง่วงๆมึนๆ555] 

    โฮ่งๆ ...

     

     

    ... (.____.)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×