คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [WONHYUK] MISSION LOVABLE
MISSION LOVABLE
SIWON-HYUKJAE
ฝีเท้าของชายหนุ่มร่างสูงภายใต้อาภรณ์สีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าเหยียบย่ำไปตามพื้นถนนซึ่งสายฝนกำลังตกกระทบลงมาประปราย ผืนฟ้ายามรัตติกาลบดบังให้ชายหนุ่มเป็นเพียงเงามืดๆ ที่กำลังเคลื่อนกายอยู่ในถนนซึ่งไร้ผู้คนสายนี้
เขาเดินเลาะไปตามริมถนน ก่อนจะเข้าไปในซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งสุดซอยนั้นเป็นลานกว้างซึ่งมีห่วงชู้ตบาสถูกตั้งอยู่ สถานที่ที่เด็กวัยรุ่นมักจะมารวมกลุ่มกันเล่นบาสเก็ตบอล หรือสเก็ตบอร์ดกันหลังเลิกเรียน
ผนังอิฐปูนสีเทาที่ดูเขรอะไปด้วยสีสเปรย์ซึ่งถูกพ่นราวกับเป็นศิลปะของกลุ่มเด็กเหล่านั้นมากมาย ดวงตาคมกวาดสายตามองไปรอบๆ นั้นก่อนจะเดินตรงไปยังมุมในสุดของลานกว้างนี้
“ตรงเวลาดีนี่ ชเว ซีวอน” เสียงทุ้มแหบของคังอิน ชายหนุ่มซึ่งนั่งรออยู่กับกลุ่มคนอีกสองสามคนที่มุมนี้ ซีวอนยักไหล่และหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ เขาถอดแว่นตาเลนส์สีดำสนิทออกก่อนจะหยิบห่อกระดาษสีขาวซึ่งหนักพอควรออกมาจากกระเป๋าสีดำสนิทที่ถือมาด้วยส่งให้กับคังอิน
คังอินหยิบแผ่นเช็คเงินสดซึ่งเซ็นไว้เรียบร้อยแล้วออกมาจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้กับซีวอน
“ผมจะทำงานนี้เป็นงานสุดท้ายนะ” ซีวอนรับเช็คนั้นมาก่อนพูดขึ้นเสียงเรียบแต่เนื้อความในประโยคทำให้คิ้วของผู้ฟังกระตุกและขมวดเข้าหากัน สีหน้าฉายแววความไม่พอใจออกมา
“งานสุดท้าย ? ” คังอินถามขึ้น ก่อนจะพูดต่อพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยัน “หึ มีเงินใช้พอแล้วหรือไงถึงคิดจะเลิก?”
“ก่อนที่ผมจะตกลงมาทำผมก็ไม่ได้บอกว่าจะทำตลอดไปนี่” ย้อนกลับอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่คังอินนั้นกำหมัดแน่น ลูกน้องในกลุ่มอีกสองคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังก็หันมาจ้องซีวอนเป็นตาเดียวกัน
“แต่แกก็ทำงานให้ฉันมาตั้งนานแล้วแกก็รู้ความลับในกลุ่มของฉันแล้วด้วย!” น้ำเสียงที่เริ่มใส่อารมณ์ของคังอินไม่ได้ทำให้ซีวอนยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น มิหนำซ้ำร่างสูงกลับสวมแว่นของตัวเองกลับเข้าไปดังเดิม กระตุกรอยยิ้มที่มุมปากและขยับเสื้อสูทที่ใส่คลุมมาให้เรียบร้อย
“ที่ผมรู้ ก็เพราะคุณบอกผมเองนะ”
ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนจะหันหลังให้ หมายจะเดินกลับออกไปทว่ากลับมีมือของคนที่อยู่ด้านหลังนั้นเอื้อมมาแตะและกระชากเขาให้หันหลับไปเผชิญหน้า
หมัดหนักๆ ถูกสวนเข้ามาที่ใบหน้าของซีวอนทันที แต่ความว่องไวทำให้เขาหลบได้แบบเฉียดฉิว
และนั่นก็ราวกับการเติมเชื้อเพลิงให้ไฟความโกรธปะทุมากขึ้น
ซีวอนมองบุคคลซึ่งยืนล้อมรอบเขาอยู่ก่อนจะขยับคอไปมา เขาถอดเสื้อสูทสีดำสนิทออกก่อนจะปาลงพื้นที่ชื้นแฉะ
สามต่อหนึ่ง.. ก็ไม่ยากเท่าไหร่นะ
วืด..!
หมัดซึ่งคังอินเป็นผู้สวนมาซีวอนนั้นหลบได้อีกครั้ง ก่อนจะสวนหมัดเข้าที่คอของคังอิน ร่างสูงใหญ่ล้มลงไปเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ซีวอนรีบหันหลังกลับไปและยกเท้าขึ้นเตะเข้าที่คอของลูกน้องคนที่หนึ่งของคังอิน ส่วนอีกคนซึ่งยันเท้าเข้าที่เอวของซีวอนได้สำเร็จแต่ก็ไม่ทำให้ร่างสูงล้มลงได้นั้นถูกหมัดของซีวอนเสยเข้าที่คาง
คังอินลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าเพราะจังหวะล้มลงบนพื้นที่ชื้นแฉะนั้น ขาข้างซ้ายที่เพิ่งหายจากอุบัติเหตุเมื่อเดือนที่แล้วถูกกระแทกลงเข้ากับพื้นเต็มๆ ส่วนลูกน้องทั้งสองคนนั้นก็เริ่มลุกขึ้นมาสู้กับซีวอนต่อ
ฝนที่เริ่มตกลงมาหนักมากขึ้นเรื่อยๆ มาพร้อมกับการต่อสู้ที่รุนแรงมากขึ้น ซีวอนพยายามใช้ความปราดเปรียวและว่องไวผสานกับร่างกายที่แข็งแกร่ง เบี่ยงการรุกเร้าของอีกฝ่ายและสวนกลับให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้จะได้แผลมาบ้างแต่ก็เพียงน้อยนิดเท่านั้นเมื่อเทียบกับฝ่ายของคังอิน เนื่องจากลูกน้องทั้งสองคนนั้นรวมถึงตัวของคังอินเองไม่ได้เชี่ยวชาญในการสู้มือเปล่ามากนัก เพราะถนัดในการใช้อาวุธอย่างเช่นปืนมากกว่า
ปืน.. ใช่... อาวุธที่พวกนั้นถนัด.. คือปืน
ปัง ! ปัง ! ปัง !
สามนัดที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนซีวอนแทบจะหลบไม่ทันทำให้มือหนาต้องรีบหยิบปืนกระบอกสีเงินที่เหน็บไว้ออกมา เขาปลดเซฟปืนอย่างรวดเร็วก่อนจะสวนกระสุนปืนกลับไปทันที
ปัง ! ปัง !
แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่มีทางยอมแพ้ และยิ่งสถานที่นี้เป็นลานกว้่าง แถมฝนที่ตกกระหนำ่ลงมาก็ยิ่งทำให้ช่องทางการหลบกระสุนปืนนั้นน้อยลง
ฉับพลันเสียงที่ราวกับเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น มือที่กำลังถือปืนของทุกคนชะงักกึก
เพราะเสียงที่ว่านั้นคือเสียงรถตำรวจ..
ซีวอนอาศัยช่วงที่ฝ่ายนั้นกำลังตื่นตระหนกกับเสียงหวอ กระชากเสื้อสูทกลับมา รีบหลบหนีออกมาทันที และก็เป็นดังคาด แสงไฟสีแดงส่องมาให้เห็นริบๆ พร้อมกับรถตำรวจที่ซีวอนคาดว่ามาจากสน.แถวๆ บริเวณใกล้เคียงนี้
แล้วสายตาคมก็ไปปะทะเข้ากับใครบางคนที่กำลังยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงด้านหน้าของซอยที่เขาเดินเลาะเข้ามา
ซีวอนจ้องมองไปยังร่างนั้นและขมวดคิ้ว ส่วนผู้ถูกมองก็ทำหน้าตาเหรอหราใส่และหันหลังกลับไปหมายจะวิ่งหนี แต่ช่วงขาที่ยาวกว่าทำให้ซีวอนก้าวเข้าไปประชิดตัวร่างนั้นได้ทันที
“อ๊ะ.. อื้อ!”
มือหนายกขึ้นปิดปากของคนตัวเล็กที่ตั้งท่าว่าจะร้องโหวกเหวกออกมา คนที่โดนล็อคตัวไว้นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตั้งสติได้และดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนแข็งแรง
“อื้อๆๆ!” ร้องในลำคอแล้วพลันก็ต้องทำตาโตและหยุดร่างกายไว้นิ่ง เมื่อปลายกระบอกปืนสีเงินถูกจ่อเข้าที่ศีรษะจากบุคคลที่ล็อคตัวเขาไว้ ร่างเล็กตื่นตระหนกจนแทบลืมหายใจ ก่อนที่ความหวาดกลัวจะทำให้เขาไร้เรี่ยวแรงจนหมดสติไปทันที
.. เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงหวอจากรถตำรวจที่เขาโทรไปเรียกมาเท่านั้น ..
:
ร่างเล็กนอนกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงนอนนุ่ม เรือนร่างภายใต้ผ้าห่มหนาพลิกไปมามือเรียวควานหาหมอนข้างมากอดตามความเคยชิน
แต่คราวนี้ ไม่ว่าจะปัดป่ายไปทางใด กลับไม่พบหมอนข้างอย่างที่ตนต้องการ
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทั้งๆ ที่ยังหลับตา ริมฝีปากแดงเบะบึ้งอย่างไม่พอใจ ร่างเล็กผิวขาวกลิ้งตัวไปมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นนั่งและยกมือขึ้นขยี้เรือนผมยุ่งเหยิงสีน้ำตาลสวยของตัวเอง
ดวงตาเรียวค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ...
ก่อนจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อทัศนียภาพตรงหน้าไม่ใช่กองตุ๊กตาสารพัดชนิด แต่กลับเป็นโซฟาตัวโตสีดำสนิท
เห้ยยยยยยยยย อี ฮยอกแจมาอยู่ที่ไหนกันเนี่ยยยยยยยย !!!
“นอนกินบ้านกินเมืองที่สุดเลยนะคุณน่ะ”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นมาจากทางด้านข้างทำให้ฮยอกแจต้องสะบัดหน้าไปมองตามเสียงทันที แล้วก็พบว่าคนที่เรียกเขาคือชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงๆ ข้างๆ กับตัวเขา
“คุณ! คุณเป็นใคร!” ฮยอกแจตะโกนถามเสียงดังและรีบถดกายหนีไปอีกด้านทันที ซีวอนมองท่าทีที่ดูลนลานนั้นยิ้มๆ .. ทำไมถึงดูน่าแกล้งขนาดนี้นะ
ว่าแล้วก็แกล้งเสียหน่อยก็แล้วกัน
“ผมก็เป็นใครสักคนที่กำลังทำงานอยู่ แต่มีเด็กมือซนที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง เดินสะพายกล้องไปมาแล้วก็กดโทรเรียกรถตำรวจน่ะสิ” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเครียดๆ ก่อนจะเขยื้อนกายเข้าไปหาร่างเล็กและกดไหล่บางลงให้แผ่นหลังของฮยอกแจแนบลงกับเตียง
ใบหน้าคมโน้มลงจนแทบชิดกับใบหน้าเล็ก พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
คุณน่ะ ทำให้งานผมพังไม่เป็นท่าเลยนะครับ รู้ไหม?”
“งานพังอะไรกัน! ผมไม่ใช่เด็กนะ ! อื้อออ!!” ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรๆ ออกมามากกว่านี้ ปากก็ถูกปิดด้วยมือหนาของร่างสูง ซีวอนโน้มใบหน้าลงมาให้ชิดมากขึ้น ริมฝีปากของร่างสูงที่แทบจะชิดติดกับมือของเขาที่ปิดปากร่างเล็กไว้ๆ ค่อยขยับเพื่อเอ่ยคำพูดออกมา
“ไม่ต้องพูดมากหรอก ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็กินข้าวได้แล้วนะเด็กน้อย”
“อื้อ! .. ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย ! แล้วทำไมต้องมาทำตามคำสั่งของคุ...!!”
ซีวอนหยุดคำพูดของร่างเล็กด้วยการชักมือที่ปิดปากออกและทำให้ระยะห่างของใบหน้าและริมฝีปากของพวกเขาทั้งสองเหลือเพียงพื้นที่ให้สายลมพัดผ่านได้เท่านั้น ฮยอกแจปิดปากฉับและนอนนิ่งตัวเกร็ง ไม่กล้าที่จะขยับส่วนใดๆ ของร่างกายแม้แต่นิด
“ไปอาบน้ำ แต่งตัว ห้องน้ำอยู่ด้านซ้าย พอเสร็จแล้วก็มากินข้าวได้แล้วครับ”
ชิ! ยอมทำตามคำสั่งก็ได้!!
“โอเคคคค .. โอ๊ยยย ลุกออกไปสิคุณ!”
ฮยอกแจก้มหน้าโวยวายและผลักอกร่างสูงออก เดินฟึดฟัดปึงปังลงมาจากเตียง ตรงเข้าห้องน้ำไปทันที เสียงปิดประตูดังขึ้นมาไม่นาน เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายก็ดังตามมาออกมา
เมื่อฮยอกแจได้มายืนอยู่หน้ากระจก และพบว่าเขาอยู่ในชุดนอนตัวโคร่งสีเทาอ่อน
...เมื่อคืน... เขาจำได้ว่าเขากำลังจะเดินกลับคอนโด หลังจากที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองลืมของสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างกล้องโปรไว้ที่มินิมาร์ทแถวๆ อพาร์ทเม้นท์ของซองมิน
แล้วเขาก็เห็นกลุ่มผู้ชายที่คาดกำลังทำอะไรสักอย่างที่ไม่ดี นั่นทำให้ฮยอกแจตัดสินใจโทรเรียกรถตำรวจมา
และในจังหวะที่รถตำรวจมาแล้วนั้นฮยอกแจกำลังจะเดินออกมา..
แต่ใครสักคนก็มาเจอ..แล้วเข้ามาปิดปากฮยอกแจไว้..
ก่อนที่จะเอาปืนมาจ่อหัว..หลังจากนั้นฮยอกแจก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
จนกระทั่งตื่นมาเมื่อครู่นี้.. เจอคนแปลกหน้าที่มาบอกว่าฮยอกแจเป็นเด็ก บังคับให้เดินเข้ามาอาบน้ำ
เขาก็เดินมาเข้าห้องน้ำในชุดนอนตัวโคร่งชุดนี้...
คือเมื่อคืน.. เขาไม่ได้อยู่ในชุดนี้นะ..
แล้วใครเปลี่ยนให้.. ?
ใคร..?
ใคร..?
ใคร..?
“ใคร..?
“คุณเปลี่ยนชุดนอนให้ผมใช่ไหม!? ไอ้คนบ้า!!!!”
:
“มากินข้าวเดี๋ยวนี้!”
“ไม่!”
“บอกให้มากินข้าว!”
“ไม่กิน!”
“อย่ามาดื้อนะ!”
“ไม่ได้ดื้อ! ก็ไม่หิว ก็ไม่อยากกิน เกิดคุณใส่ยาเบื่อหนูให้ผมกินขึ้นมาผมก็ตายน่ะสิ!!”
สงครามเล็กๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศบนโต๊ะอาหารซึ่งมีชามข้าวสวยถูกโปะหน้าด้วยไข่ดาวราดซอสมะเขือเทศเหมือนกับอาหารเด็กวางอยู่เคียงข้างแก้วใสบรรจุนมสดไว้เกือบเต็มแก้ว
คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าอาหารเหล่านั้นกำลังนั่งกอดอกทำสีหน้าปั้นปึ่งใส่คนตัวโตที่กำลังจ้องเขม็งมาอย่างดุๆ
“กินเดี๋ยวนี้ฮยอกแจ”
“ผมไม่กิน!”
ฮยอกแจกอดอกและสะบัดหน้าไปทางอื่นทันทีที่พูดจบ หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จแล้วและใส่เสื้อเชิ้ตของซีวอนที่ตัวใหญ่อย่างกับกระสอบ โดนลากมาสอบสวนอยู่ที่โต๊ะกินข้าวอยู่ครู่หนึ่งก็โดนยัดเยียดข้าวมาให้กิน
ใครมันจะไปกล้ากิน อีตาซีวอนนี่น่ากลัวจะตาย เมื่อวานฮยอกแจเห็นหรอกนะว่ากำลังทำอะไรอยู่
เห็นตั้งแต่เริ่มเลย! ที่หมอนี่ส่งห่อขาวๆ ให้กับตาคนตัวโตคนนั้น นั่นมันยาเสพติดชัดๆ!!
“ฮยอกแจ จะกินดีๆ หรือให้ผมป้อน?”
“ไม่เอาไม่กิน ไม่ต้องมาป้อนด้วย ไม่ต้องมายุ่ง!”
“ก็ได้ โอเค ผมตามใจฮยอกแจก็ได้” ซีวอนเอ่ยขึ้นอย่างหน่ายๆ เขาลุกขึ้นเก็บชามข้าวและแก้วนมไปไว้ด้านหลังครัว ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติกและแก้วนม “เดี๋ยวผมจะเอาของพวกนี้ไปให้หมาแถวคอนโดกินแล้วผมก็จะไปทำงาน ฮยอกแจห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผมฮะ!” ผุดลุกขึ้นยืนทันที อีตานี่เป็นบ้าหรือไงกัน มีสิทธิ์อะไรมาขังเขาไว้ในห้องแบบนี้
ถึงซีวอนจะหล่อมากแล้วห้องก็หรูมากก็เถอะ แต่ถึงยังไงหมอนี่ก็เป็นคนไม่ดี!
“สิทธิ์อะไรน่ะเหรอ.. เอ.. สิทธิ์อะไรน้า” ทอดเสียงยาวพลางทำสีหน้าครุ่นคิดและยื่นหน้าไปใกล้ๆ กับฮยอกแจ ร่างเล็กถอยหนีอย่างหวาดๆ
เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างแผ่วเบาใกล้ๆ กับใบหูของฮยอกแจ
“สิทธิ์ของคนที่ฮยอกแจมาเห็นการกระทำเลวๆ ของคนไม่ดีอย่างผมแล้วผมต้องให้ฮยอกแจกุมความลับไว้
.. หรือสิทธิ์ของคนที่ได้เปลี่ยนชุดนอนให้ฮยอกแจดี?”
คำพูดของซีวอนในประโยคถัดมาทำเอาฮยอกแจเลือดขึ้นหน้าจนรีบถอยหนีออกห่างและโวยวายออกมาไม่เป็นภาษา
“ไปเลย! จะไปไหนก็ไปเลย ไม่ต้องมายุ่ง ไปๆๆๆๆ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นแหล่ะ!”
“ครับ เป็นเด็กดีด้วยนะ”
“เออออออ ไปเลย ไปๆๆๆๆ”
ซีวอนยืนยิ้มมองคนตัวเล็กที่เดินโวยวายก่อนจะไปหยิบกระเป๋าของเขา เดินตรงไปที่ประตูห้อง
และก่อนที่จะออกจากห้อง เขาล้วงเอาโทรศัพท์มือถือปลอกสีส้มลายลูกเจี๊ยบออกมาจากกระเป๋ากางเกง แกว่งเล่นไปมาก่อนจะทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงยียวนให้เจ้าของโทรศัพท์นั้นหงุดหงิดเล่น และเดินออกไปจากห้องทันที
“มือถือปลอกสีส้มลายลูกเจี๊ยบของใครก็ไม่รู้ ผมขอยืมไปดูเล่นหน่อยก็แล้วกันนะ”
“เฮ้ย! ซีวอน! เอามานะ นั้นมันมือถือผม!!”
แกร๊ก!
ประตูถูกปิดลงไม่ทันให้ฮยอกแจได้คว้าไว้ ครั้นพอขยับด้ามจับทั้งผลัก ทั้งดึงก็ไม่มีการขยับเขยื้อนบานประตูแม้แต่น้อย ฮยอกแจเตะประตูอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินกุมเท้าร้องโอดโอย ย้ายตัวเองไปนั่งแหมะอยู่บนโซฟา
ถูกขังซะแล้ว อี ฮยอกแจ!
:
ชเว ซีวอนร้ายกาจมาก!
เป็นพวกค้ายาเสพติดยังไม่พอ ยังจะจับฮยอกแจมากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ สายโทรศัพท์ภายในห้องคอนโดตามที่ควรจะมีก็ถูกดึงหายไปไหนไม่รู้ มิหนำซ้ำยังมาทรมานด้วยการทิ้งให้ตู้เย็นว่างเปล่าและมีแต่เบียร์ที่อัดแน่นไว้เต็มอีก
หมอนี่มันเถื่อนจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ TT________________TT
จะหนียังไงก็หนีไม่ได้ ประตูห้องถูกล็อคไว้จากด้านนอก ถ้าจะให้โดดระเบียงลงไปความสูงยี่สิบหกชั้นคงทำให้ฮยอกแจได้ตายก่อนที่จะได้หนี
ปั่ดโธ่เว้ย! อะไรมันจะซวยแบบนี้วะ
ร่างเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตตัวยาวของซีวอนนั่งดูโทรทัศน์พร้อมกับความขุ่นเคืองใจ สลับกับเดินไปเดินมารื้อของในห้องซีวอนเล่น ไปๆ มาๆ ก็นอนงีบไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับท้องที่ร้องดังโครกคราก
หิว หิว หิว! ฮยอกแจอยากกลับไปต้มรามยอนที่หอ!
โอ๊ยยยย ทำไมชีวิตของเด็กอายุสิบแปดคนนึงที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยในโซลได้มันถึงซวยแบบนี้วะ!
ไปเรียนได้ไม่ถึงอาทิตย์ มีเพื่อนอยู่สองคน จู่ๆ ก็โดนพวกค้ายา(แต่หน้าตาดีมาก)จับมาขัง
คิดๆ ไปแล้วก็หงุดหงิดตัวเองชะมัด ร่างเล็กลุกเดินไปที่ตู้เย็น เปิดออกพร้อมกับหยิบกระป๋องเบียร์เย็นเจี๊ยบออกมาอย่างชั่งใจ ถ้าถามว่าเคยลองดื่มไม่ก็คงจะตอบว่าไม่ แต่ถ้าถามว่าอยากลองไหมก็คงตอบว่าอยาก
ยิ่งตอนนี้อี ฮยอกแจกำลังหิวจัด ต่อให้ตรงหน้ามีรามยอนหมดอายุฮยอกแจก็จะต้มกิน!
คิดได้ดังนี้ร่างเล็กก็ปิดตู้เย็นเดินตรงไปที่โซฟาพร้อมกับเบียร์สองกระป๋องทันที
แกร๊ก !
:
23.00 pm
ซีวอนกลับมายังคอนโดพร้อมกับถุงของมากมายรวมไปทั้งกล่องข้าวสองกล่อง ป่านนี้ฮยอกแจจะเป็นอย่างไรบ้างแล้วก็ไม่รู้ เขาแค่อยากจะแกล้งนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่รู้จริงๆ ว่าวันนี้จะมีงานดึกขนาดนี้
ร่างสูงเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องก่อนจะต้องตาโตเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะมีกระป๋องเบียร์มากมายหลายกระป๋องที่ถูกดื่มหมดแล้ววางสะเปะสะปะ แต่ที่ทำให้ซีวอนตกใจไปมากกว่านั้นก็เห็นจะเป็นร่างเล็กในสภาพที่เมามายไม่ได้สติ..
เรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง พวงแก้มแดงจัด กระดุมเสื้อเชิ้ตที่ถูกเจ้าตัวปลดออกเองสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกขาวเนียนที่แสนจะยั่วตา
จะเป็นลม..
ซีวอนกำลังรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ฮยอกแจกำลังเมา.. และกำลังยั่วเขาเหลือเกิน ซีวอนรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิด “อะไรแบบนั้น” ออกไปจากหัวของเขา ก่อนจะรีบเดินไปวางของทั้งหมดไว้ และตรงเข้าไปประคองฮยอกแจ
“อื้อออออออออออ อาวววอีกกกกกกกกกก” ริมฝีปากเล็กขยับพึมพำไม่เป็นภาษา ซีวอนรีบจัดแจงช้อนตัวฮยอกแจขึ้นมาไว้บนแขนของเขา เดินตรงไปที่ห้องน้ำและจัดการเปิดก๊อกน้ำใช้มือรองน้ำที่ไหลออกมาลูบใบหน้าของฮยอกแจ
“ม่ายยยยยย ออกปายยยยยยย อื้อออออออออ”
“อย่าโวยวายน่า..”
“จาอาวอีกกกกกกกกก จาอาวววววววววว”
เมาขนาดนี้แล้วจะเอาอะไรอีก -________-
“อาวววเบียยยยยยยยยยยยย”
จะกินอีกได้ไง ไม่ได้สติซะขนาดนี้แล้ว =_________=
เอ่อ.. แล้วเขาจะมาตอบฮยอกแจในใจทำไมเนี่ย = =’’
ซีวอนรีบล้างหน้าฮยอกแจให้เช็ดก่อนจะนำผ้าขนหนูผืนเล็กที่ตากไว้มาชุบน้ำให้ บิดให้หมาด ค่อยๆ กลั้นหายใจปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด ใช้ผ้าเช็ดไปตามเรือนร่างบอบบางอย่างที่ทำเมื่อวาน เมื่อเสร็จหมดทุกอย่างแล้วเขาก็นำชุดนอนสีฟ้าลายแบบเด็กๆ ที่เพิ่งซื้อมาวันนี้สวมให้กับฮยอกแจ สุดท้ายจึงอุ้มร่างเล็กไปวางไว้บนเตียงนอน
ผ้าห่มผืนหนานุ่มถูกดึงขึ้นมาคลุมร่างเล็กของฮยอกแจไว้ และหลังจากที่ซีวอนอาบน้ำเสร็จแล้วร่างสูงก็เดินมาที่เตียง สอดแทรกกายลงไปภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับฮยอกแจ
:
“ไม่เอาไม่ไป! ไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”
เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายที่ซีวอนคุ้นชินดังขึ้นทันทีที่เห็นสิ่งที่เขานำมาให้และได้ยินประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียวออกมาจากปากของเขา
‘รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วใส่ชุดนี้ ผมมีงานที่ต้องให้คุณไปด้วย’
หลังจากที่ฮยอกแจได้ยินก็โวยวายออกมาอย่างที่เห็น..
จริงๆ แล้ว.. ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์นิดๆ ที่ฮยอกแจอยู่กับเขาที่นี่ก็พอจะทำให้เขาได้รู้นิสัยของฮยอกแจบ้างแล้ว ฮยอกแจเป็นคนขี้โวยวายมาก เอาแต่ใจมาก และดื้อมากๆ ถึงฮยอกแจจะรู้(คิด?)ว่าเขาทำงานอะไร แต่ฮยอกแจก็ไม่มีทีท่าว่าจะหวาดกลัวเขาแม้แต่นิดอย่างที่ควรจะเป็น
หรือซีวอน.. จะใจดีเกินไป ?
เปล่าหรอกนะ.. เขาไม่ได้ใจดีหรอก เขาไม่ปล่อยให้ฮยอกแจออกไปไหนเลยแม้สักครั้ง วันไหนร่างเล็กโวยวายเขาก็ยึดขนมที่เขาเองเป็นคนซื้อมาไว้ให้่ออกไป
แล้วเขาก็แค่ซื้อหนูแฮมสเตอร์ เกมส์Wii หนังสือต่างๆ มาให้ฮยอกแจเอาไว้แก้เบื่อ แค่นี้เอง..
ซีวอนไม่ได้ใจดีหรอกนะ.. (เหรอ?)
“ฮยอกแจครับ ผมรีบนะวันนี้ อย่ามาดื้อใส่นะ” กดเสียงต่ำพูดด้วยสีหน้าเข้มๆ แต่ฮยอกแจก็ไม่สนใจ ร่างเล็กสะบัดหน้าไปทางหนูแฮมสเตอร์สีน้ำตาลอ่อนตัวเล็กๆ สองมือบางประคองมันขึ้นมาอย่างเบามือ
“คุณจะไปก็ไป วันนี้ฮยอกแจอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณแมว”
((คุณแมว = ชื่อของหนูแฮมสเตอร์ที่ซีวอนซื้อให้ฮยอกแจเลี้ยง))
“ฮยอกแจ ผมจะนับหนึ่งถึงสาม..”
“นับถึงสี่ได้ไหม?” ถามอย่างกวนๆ โดยที่ไม่มองหน้าเพราะกำลังเล่นอยู่กับคุณแมว
“-_______-” ซีวอนถึงกับนิ่งไปเพราะความกวนของฮยอกแจ
“หนึ่ง” ก่อนจะเริ่มนับด้วยน้ำเสียงแข็งๆ
“คุณแมว~ คิคิ หิวข้าวแล้วหรอฮะ?”
“สอง”
“อ่า~ หรือว่าคุณแมวอยากวิ่งเล่น~??”
“สาม”
“เอ๋~? หรือคุณแมวหิวน้ำ?”
“สี่!”
“คุณมะ... เฮ้ยยย!!! ทำบ้าอะไรของคุณน่ะ!!”
ร่างเล็กลอยหวือขึ้นทันทีที่ซีวอนนับจบ เขาอุ้มฮยอกแจไปที่ห้องน้ำก่อนจะค่อยๆ พาคุณแมวในมือของฮยอกแจกลับเข้ากรง พอจัดการกับคุณแมวเสร็จก็มาจัดการกับแมวจอมดื้อในห้องน้ำต่อ
“รีบอาบน้ำซะฮยอกแจ ผมรีบ”
“คุณจะพาผมไปทำงานเลวๆ กับคุณ พาผมไปตายเหรอ ไม่เอาหรอก!”
“จะอาบเองไหม?”
“ยังไงผมก็ไม่อาบ!”
“โอเค จะเอาอย่างนั้นก็ได้!”
ซีวอนพูดเสียงดัง มือหนาเอื้อมไปกดเปิดชาวเวอร์ น้ำไหลพุ่งออกมาจากฝักบัวด้านบนพร้อมกับซีวอนที่พยายามดึงเสื้อผ้าของฮยอกแจออก แม้ร่างบางจะขัดขืนแต่ก็สู้แรงของซีวอนไม่ได้แม้แต่นิด ยิ่งเมื่อน้ำที่ไหลลงมาทำให้พื้นห้องน้ำลื่นไปหมด ทำให้ฮยอกแจกลัวว่าจะลื่นล้นลงไป
“ไม่เอานะ! ซีวอนหยุด!!”
“ฮยอกแจจะยอมอาบดีๆ ไหม!?”
“ผมไม่อาบ! ไม่ไปไหนทั้งนั้น!! อ๊ะ..!”
“ฮยอกแจ!!”
ฮยอกแจลื่นล้มเพราะพื้นเปียกๆ ทว่าโชคดีที่ซีวอนนั้นดึงไว้ได้ทันจึงทำให้ร่างบางไม่ได้ล้มลงที่พื้นห้องน้ำ แต่ถูกดึงด้วยมือหนาและกดไว้ให้แผ่นหลังแนบติดกับผนังห้องน้ำแทน
ฮยอกแจเสหลบสายตาของซีวอนที่มองมายังเขา เรือนร่างเล็กบางที่ช่วงบนเปลือยเปล่าและกำลังโดนสายน้ำจากชาวเวอร์ไหลลงมาไม่ได้ทำให้ฮยอกแจหนาวเลยแม้แต่นิด เพราะตอนนี้ไอร้อนๆ กำลังตีขึ้นมาที่ใบหน้าของเขา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะระยะห่างที่น้อยนิดในตอนนี้ หรือเป็นเพราะเรือนกายแข็งแกร่งซึ่งสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่เปียกลู่แนบกับเนื้อไปเพราะสายน้ำที่ฮยอกแจกำลังมองอยู่ตอนนี้กันแน่..
แต่ตอนนี้ ฮยอกแจ เ ขิ น ม า ก !
“ออก..ออกไปนะ...” ร่างบางก้มหน้าก้มตาพยายามดันอกซีวอนออกไป แต่คนตัวโตก็ไม่สะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น มิหนำซ้ำกลับยิ่งโน้มกายลงมาชิดฮยอกแจมากขึ้นไปอีก
“ฮยอกแจจะยอมอาบน้ำดีๆ ไหม?” ถามเสียงทุ้ม แววตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายมองวิบวับไปที่ฮยอกแจจนร่างบางไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาสบตาได้เกินสองวินาที
“ก็.. ก็... ทำไมต้องไปด้วย .. ทำไมต้อง.....อื้อ...”
แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเปลืองเนื้อเปลืองตัวแต่นิสัยของฮยอกแจที่ทังดื้อรั้นและไม่ยอมฟังใครจึงสั่งให้เขาเถียงออกมา และเมื่อเถียงออกมาก็ต้องถูกคนที่มีวุฒิภาวะมากกว่าลงโทษ...
ลงโทษ.. จนแทบหมดลมหายใจ
อีฮยอกแจ..โดนพวกค้ายาขโมยจูบแรก .......
ฮยอกแจคิดในใจแต่กลับไม่สามารถผลักซีวอนออกไปได้ สัมผัสที่รุกเร้าทำให้ฮยอกแจตัวเกร็ง ร่างบางหลับตาปี๋ มือขยำเสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่มของซีวอนไว้แน่น
“อาบน้ำแต่งตัวไวๆ นะครับฮยอกแจ”
ซีวอนสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มหลังจากผละริมฝีปากออกมาแล้ว เสียงประตูห้องน้ำที่ปิดลงเรียกให้ฮยอกแจลืมตากว้างขึ้นมา มือเรียวยกขึ้นตบแก้มตัวเองราวกับว่าต้องการเรียกสติ ก่อนจะเลื่อนไปจับริมฝีปากที่เพิ่งถูกรุกรานไปเมื่อกี๊..
..โอเค ไม่เถียงแล้ว จะให้อาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดเหี้ยห่าอะไร จะให้ไปทำหอกทำเวรอะไรที่ไหน
ตอนนี้ กูยอมหมด!
:
พื้นพรมสีแดงเข้มของโรงแรมหรูกำลังค่อยๆ ถูกเหยียบย้ำโดยสองหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่ คนหนึ่งรูปร่างสูงสง่าอยู่ในชุดสูทสีเข้มดูน่าเกรงขาม ส่วนคนตัวเล็กกว่าอีกคนที่โดนลากเข้ามานั้นอยู่ในชุดสูทสีอ่อนและทรงผมที่ไม่ค่อยเป็นทรงสักเท่าไหร่
“ฮยอกแจ เดินดีๆ ได้ไหม!?”
“ก็อย่ามาบีบข้อมือไว้สิ!”
ระหว่างทางที่เดินเข้ามาก็เอาแต่เถียงกัน.. จะว่าไปแล้วก็เถียงกันตั้งแต่ฮยอกแจอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแหล่ะ ขึ้นมาบนรถจู่ๆ ฮยอกแจก็ถามขึ้นมาว่าซีวอนไปเอาชุดสูทมาจากไหน
‘ผมวัดตัวฮยอกแจตอนที่คุณนอนอยู่ไง เวลาใส่ชุดนอนวัดง่ายมากเลยนะ ผ้ามันบางๆ เอง’
ตอบไปแบบนี้..เท่านั้นแหล่ะ...โดนฟาดเข้าเต็มๆ หน้า
‘ซีวอน คุณเหี้ยมาก!’
แล้วก็โดนด่ากลับมาแบบนี้
ควรจะเจ็บดีไหมเนี่ย..
“แล้วนี่นายพาฉันมางานอะไรน่ะ คนค้ายาบ้าออกงานสังคมได้ด้วย....”
“ชู่ว”
ซีวอนยกนิ้วชี้ขึ้นปิดปากของฮยอกแจไว้และส่งสายตาเข้มๆ บอกให้ฮยอกแจเงียบ
อ๋อ! ฮยอกแจลืมไป ซีวอนให้เปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นพวกค้ายา!!
และก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะเดินขึ้นไปถึงห้องที่จัดงานซีวอนก็หันมากำชับกฏสามข้อที่ฮยอกแจต้องทำตาม
“ฮยอกแจครับพอเข้างานไปแล้ว ฮยอกแจต้องอยู่กับผมตลอดเวลา ถ้าผมบอกให้ไปก็ต้องวิ่งออกไป แล้วก็ห้ามเล่นซน โอเคไหมครับ?”
ร่างเล็กๆไม่ได้ตั้งใจฟังนัก สักแต่ว่าพยักหน้ารับๆ เท่านั้น พอแขนแกร่งส่งมาให้พร้อมกับสายตาที่มองมาที่แขนของเขาก็เอื้อมขึ้นไปคล้องหลวม เดินเข้าไปยิ้มๆ แต่ในหัวไม่มีคำว่าอะไรเลยนอกจาก
ได้โอกาสออกมาแล้วก็หนีเลยฮยอกแจ!
:
ซีวอนทักทายคนในงานเป็นร้อยคนจนฮยอกแจมึนหัว ร่างบางดื่มน้ำส้มที่มีพนักงานนำมาเสิร์ฟให้ในงานเลี้ยงค็อกเทลแห่งนี้ไปหลายแก้วพอควร พร้อมกับแขนที่ถูกซีวอนล็อคไว้แน่นตลอด
ส่วนทางด้านซีวอนนั้นก็กำลังสอดสายตามองไปทั่ว ผู้ร่วมงานมากหน้าหลายตายืนอยู่ในพื้นที่น้อยนิดที่พอจะมีสำหรับให้ยืนได้ภายในห้องจัดงานเล็กๆ นี้ เขาขมวดคิ้วพร้อมกับกวาดสายตาคมกริบไปมาอีกครั้ง
“สวัสดีครับ แขกผู้ร่วมงานทุกท่าน” งานนี้เป็นงานเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด และพิธีกรกำลังเริ่มกล่าวเปิดงาน
ซีวอนเหลือบมองไปบนเวทีนิดๆ และในจังหวะนั้นเองที่เขาตวัดสายตากลับมายังกลุ่มผู้คนอีกครั้ง ในระยะที่ห่างออกไปไม่มากนัก ชายหนุ่มในเสื้อสูทสีดำสองคนกำลังทำท่าทีมีพิรุธโดยยืนเสียจนแนบชิดติดกัน มือของชายหนุ่มคนขวายกชายเสื้อสูทขึ้นมาสูงจนปิดภาพด้านหน้าที่ซีวอนอยากเห็น!
เขารีบหยิบวิทยุสื่อสารที่เหน็บอยู่ในเสื้อสูทออกมาและกรอกเสียงลงไปอย่างรวดเร็วทันที
“..........”
ทันใดนั้นเองเสียงปะทุก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสุดของห้องจัดงาน!
“และในตอนนี้ ผมขอเชิญ คุณ ปาร์ค....”
ปัง!
“กรี๊ดดด!”
เสียงโหวกเหวกโวยวายและกรีดร้องดังมาจากผู้ร่วมงานทั้งชายและหญิงซึ่งหมอบลงและสภานการณ์นั้นเริ่มวุ่นวาย ฮยอกแจที่กำังยืนจิบน้ำส้มและเงยหน้ามองเพดานชื่นชมความงามอยู่นานแสนนานก็สะดุ้งตกใจจนแทบช็อค
ซีวอนสบถออกมาอย่างหัวเสีย พวกนั้นมันต้องเห็นตอนที่เขายกวิทยุขึ้นมาคุยแน่เลย!
ปัง!
กระสุนอีกนัดที่ถูกยิงขึ้นมาเพื่อสร้างความโกลาหลภายในห้องจัดงานดูเหมือนจะทำงานได้ดีเพราะผู้ร่วมงานหลายคนเริ่มวิ่งออกไปจากห้องจัดงานแห่งนี้
และนั่นมันก็จะหมายถึงอาชญากรที่เขาเล็งไว้จะต้องหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายๆ!
“ซี..ซีวอนเกิด... เกิดอะไรขึ้น”
ปัง!
ซีวอนที่ยังยืนอยู่นิ่งและไม่ออกไปไหนกอดร่างเล็กไว้แน่น มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นปิดหูของคนตัวเล็กไว้ ให้ตายเถอะ! นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาทำอะไรแบบนี้เสียหน่อย!
สิ่งที่ซีวอนควรจะทำมากที่สุดคือปล่อยฮยอกแจให้หนีออกไปและรีบรุดไปช่วยงานต่างหาก!
“ผู้หมวดชเว! คุณออกไปพร้อมกับเด็กคุณเลย เดี๋ยวเขาจะไม่ปลอดภัย ทางนี้พวกเราเรียกกำลังเสริมมาแล้ว!”
ชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งที่ซีวอนคุ้นหน้าคุ้นตาดีตะโกนให้ซีวอนได้ยินขณะที่ผู้คนเริ่มส่งเสียงโวยวายหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ซีวอนพยักหน้ารับหนักแน่นก่อนจะโอบตัวฮยอกแจไว้แน่น พาร่างเล็กวิ่งฝ่าฝูงชนออกไปทันที
ฮยอกแจวิ่งไปตามแรงของซีวอนที่โอบไหล่เขาไว้แน่นมาก เสียงปืนดังๆ และเหตุการณ์ที่น่ากลัวทำให้ฮยอกแจน้ำตาไหลออกมาและไม่เหลือพื้นที่ในหัวสมองไว้สำหรับความสับสนว่าอะไรเป็นอะไร
ร่างสูงพาร่างเล็กขึ้นรถไปอย่างรวดเร็วและขับออกไปทันที ฮยอกแจนั่งนิ่งตัวเกร็งแต่น้ำตายังไหลออกมาไม่หยุดด้วยความตกใจ
“สะกัดจับตั้งด่านไว้ทุกช่องทางแล้ว คุณไปรอที่ด่านของถนนฝั่งขวาของโรงแรมได้เลย” เสียงวิทยุสื่อสารที่ดังขึ้นมาทำให้ซีวอนหักรถไปตามคำสั่งที่ได้ยินมา
แล้วก็เป็นไปดังคาดรถมากมายหลายคันถูกสะกัดจับไว้ทันที ซีวอนรีบแล้วเข้าไปต่อท้าย และเมื่อตำรวจนายหนึ่งเดินมาหาเขา เขาก็เปิดกระจกรถและยื่นบัตรใบหนึ่งให้ดู
“ผู้หมวดผ่านได้ครับ!”
ผู้หมวด..
ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้่างๆ คนขับและเพิ่งได้สติขึ้นมากลั่นกรองสิ่งที่ตนได้ยินอย่างสงสัย ผู้หมวด... ผู้หมวด......
หรือว่า........
ฮยอกแจเก็บความสงสัยที่มาพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้งไว้และรอจนรถได้เข้ามาจอดที่หน้าคอนโด เมื่อเครื่องยนต์ได้ดับลงก็ยังไม่มีใครเปิดประตูลงไป
มีเพียงความเงียบที่ครอบงำบรรยากาศน่าอึดอัดนี้..
ริมฝีปากอิ่มที่สั่นระริกค่อยๆ ขยับและเปล่งเสียงออกมาอย่างเชื่องช้า
“คุณ.... คุณ......เป็น...........”
“ใช่.. ผมเป็นตำรวจ”
พูดต่อขึ้นมาคลายความสงสัยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับส่งบัตรประจำตัวให้กับร่างเล็ก
มือที่สั่นเทาเอื้อมไปหยิบมาดู จ้องมองอ่านตัวหนังสือผ่านม่านน้ำตาที่เข้ามาบดบังการมองเห็น ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่นเมื่อทุกอย่างได้ค่อยๆ กระจ่างขึ้นมา
ซีวอนจึงเริ่มพูดต่อ ในสิ่งที่เขาคิดว่าฮยอกแจจำเป็นต้องได้รับการไขข้อข้องใจ
“วันนั้นที่ฮยอกแจมาเห็นผมส่งของให้กับพวกนั้น มันเป็นหนึ่งในแผนที่ผมต้องทำเพื่อใช้ล่อลวงพวกค้ายากลุ่มนั้นออกมาให้สำเร็จ”
“แล้วทำไมคุณไม่บอกผมตั้งแต่แรก!”
ฮยอกแจตะโกนถามทั้งน้ำตา เมื่อจบประโยคเสียงสะอื้นอย่างหนักก็ตามมา ซีวอนตัวชาอย่างทำอะไรไม่ถูก ใจมันบีบรัดไปหมดเมื่อเห็นน้ำตาของฮยอกแจ..
“ผม..ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะ...”
“ไม่ได้ตั้งใจจะอะไร!? ฮึก.. ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจ.. ฮึก แล้วทำไมต้องโกหกผม.. ทำไมคุณต้องโกหกผมเพื่อที่จะได้ขังผมไว้แบบนั้น..ฮึก”
“......”
“ผมมันโง่..ฮึก... โง่ที่สุดเลย!”
“ฮยอกแจ!!”
ซีวอนตะโกนเรียกเสียงดังเมื่อคนตัวเล็กเปิดประตูเดินปึงปังลงไปจากรถ เขารีบเดินตามออกมาอย่างรวดเร็วและคว้าตัวฮยอกแจเข้ามากอดไว้แน่น
“ผมขอโทษ” กระซิบบอกเสียงแผ่วเบา แขนแกร่งกอดร่างเล็กไว้แน่นไม่ให้ฮยอกแจได้ดิ้นหลุดหรือทุบตีเขาได้ ริมฝีปากหยักกดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าพรมลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างปลอบประโลม น้ำตาที่เปียกชื้นลงมามันหยดลงที่เสื้อจนชื้น และมันก็ซึมลงไปในใจให้เขารู้สึกปวดร้าวไปหมด
“ฮึก ปล่อยผม คุณไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก ปล่อยนะ!!”
ฮยอกแจดิ้นแรงๆ อยู่นานจนซีวอนยอมปล่อยร่างเล็กออกเพราะไม่อยากฝืนกอดต่อไปให้ฮยอกแจเจ็บตัวไปมากกว่านี้
“ผมขอให้เราอย่าได้เจอกันอีก”
เสียงที่สั่นเครือค่อยๆ พูดขึ้นมาก่อนจะสะอื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างเล็กหันหลังให้ซีวอนหมายจะก้าวเดินออกไปให้พ้นจากคนๆ นี้ แต่ซีวอนนั้นกั้นหนทางของคนตัวเล็กไว้โดยการวิ่งมาดักไว้ทางด้านหน้า
“ฮยอกแจ ฟังผมก่อน”
“ผมไม่อยากฟังอะไรจากคนโกหกอย่างคุณทั้งนั้น!” ฮยอกแจตวาดกลับเสียงดัง เขารู้สึกว่าตัวเองราวกับคนโง่.. ถูกหลอก และเขาก็เชื่อคำโกหกทุกอย่างของผู้ชายคนนี้
เขาไม่ได้เสียใจแต่กำลังเสียความรู้สึก..
ความรู้สึก.. ที่ใจกำลังจะเผลอมอบให้กับซีวอนไป..
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ” อธิบายด้วยน้ำเสียงที่พูดอย่างใจเย็น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น
“จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจยังไงตอนนี้ผมก็เกลียดคุณแล้ว!”
“แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือไงว่าทำไมผมถึงไม่ยอมบอกความจริงกับคุณ ก็เพราะว่าผมไม่อยากปล่อยคุณไปยังไงล่ะ ผมแค่หาข้ออ้างมาผูกคุณให้อยู่กับเท่านั้น ถ้าผมไม่ต้องการคุณตั้งแต่แรก ผมปล่อยคุณไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว!!”
ทุกอย่างในใจซีวอนกำลังถูกระบายออกมาจนหมด ฮยอกแจได้แต่นิ่งค้างเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาด้วยอารมณ์และความรู้สึกหลากหลาย..
แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่มีมากที่สุด..มันบอกฮยอกแจว่าใจของเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดรับอะไรตอนนี้..
“แต่ผมไม่ต้องการอยู่กับคุณ.. ขอโทษด้วยนะ”
พูดเสียงแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆ ถอยเท้าออกมาและวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้น ไม่มีเสียงที่ตะโกนรั้ง หรือการวิ่งเข้ามาคว้าตัวของฮยอกแจไว้จากคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
ฮยอกแจวิ่งออกไปทั้งน้ำตา ไปตามทางอย่างไม่รู้จุดหมาย มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง
ซีวอนทำได้เพียงมองตามร่างเล็กในชุดสูทสีอ่อนนั้นไป.. จนลับสายตา
คนโกหกอย่างเขา.. ไม่สมควรจะได้รับการให้อภัยจริงๆ..
.. เพราะใจของฮยอกแจไม่ได้ต่้องการเขาตั้งแต่แรกเหมือนที่เขาต้องการฮยอกแจ ..
:
หลายวันผ่านไป
เกือบสองสัปดาห์แล้วที่ฮยอกแจกลับมา ทั้งซองมินและทงเฮต่างตกใจมากที่เขาหายไปนาน แต่ฮยอกแจก็แก้ต่างว่าพ่อที่อยู่ต่างจังหวัดป่วย แม่จึงโทรเรียกอย่างกระทันหันและฮยอกแจก็ทำโทรศัพท์มือถือหาย
เพื่อนทั้งสองนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจและไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ หลายวันผ่านมานี้ฮยอกแจรีบตามเรียนให้ทันจนหัวหมุนไปหมด เขาพยายามทำตัวเองให้ยุ่งมากๆ คิดถึงแต่เรื่องงาน
เพื่อให้หัวสมองไม่ต้องมีพื้นที่ว่างไว้สำหรับให้คิดเรื่องอื่นๆ..
“ฮยอกแจ ดูฝนเหมือนจะตกน่ะ เดินกลับดีๆ นะ” ทงเฮที่กำลังเดินออกมาจากตึกพร้อมกับเขาและซองมินเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง ฮยอกแจพยักหน้าและยิ้มให้บางๆ ก่อนที่พวกเขาจะโบกมือให้กันและแยกย้ายกันกลับบ้าน
ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม.. ดูท่าว่าฝนจะตกจริงๆ อย่างที่ทงเฮว่า คิดได้ดังนั้นก็รีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วทันที
ทันใดนั้นเองที่ฮยอกแจกำลังเดินผ่านไปตามซอยเปลี่ยวๆ ซึ่งร้างผู้คนอย่างรวดเร็วอยู่นั้น กระเป๋าสตางค์ที่ถืออยู่ในมือก็ถูกกระชากออกไปทันที!
“เฮ้ย! หยุดนะเว้ยไอ้โจร !!”
ยอกแจตะโกนไล่หลังด้วยเสียงดังขณะที่กำลังรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว คนเพิ่งจะเหนื่อยจากการเรียนมาหมาดๆ ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ยังจะมาเกิดเรื่องอะไรแบบนี้อีก
ฝนตก... จู่ๆ เรื่องนั้นก็แวบเข้ามา..
โอ๊ย! กูนี่มันดวงซวยในวันฝนตกจริงๆ!
“เฮ้ยยย!!! หยุดนะเว้ยย!!! ”
ฟึ่บ!!
ในจังหวะที่ฮยอกแจกำลังวิ่งไล่ตามคนที่วิ่งราวกระเป๋าสตางค์ของเขาอยู่นั้น จู่ๆ ร่างของชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งในชุดเสื้อฮู้ดสีดำสนิทก็วิ่งออกมาจากมุมตึกและล็อคตัวผู้ที่ขโมยของของเขาไว้..
ออกมาได้จังหวะ..ราวกับตั้งใจ
“นี่ของของคุณครับ”
เสียงทุ้มที่ค่อนข้างจะคุ้นหูดังขึ้นมาจากพลเมืองดีผู้เข้ามาช่วยเขาไว้ แม้ฝนจะกำลังเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนฮยอกแจแทบไม่ได้ยินสิ่งใด แต่เสียงของชายหนุ่มผู้นี้กลับแว่วไปมาภายในโสตประสาทของเขา..
ถ้าให้เขาเดานะ.. เขารู้ว่าคนนี้ๆ คือใคร
เมื่อเห็นฮยอกแจนิ่งไป ชายหนุ่มจึงยัดกระเป๋าสตางค์เข้าไปในมือของฮยอกแจไว้ ก่อนจะปลดเสื้อคลุมตัวนอกออกจากร่างกาย
และสิ่งที่ฮยอกแจคาดเดาไว้.. ก็ชัดเจน
“ซะ.. ซีวอน.. คุณ....”
ดูเหมือนว่าจะอึ้งไปไม่น้อย และได้ยินนิ่งอยู่ตรงหน้าซีวอนแบบนั้น ร่างสูงเกรงว่าร่างเล็กที่กำลังเปียกปอนอาจโดนน้ำฝนมากกว่านี้ จึงกางเสื้อคลุมตัวนอกที่เพิ่งถอดออกมา ถือไว้เหนือศีรษะเพื่อบังน้ำฝนไม่ให้โดนฮยอกแจ
“หือ? คุณรู้จักชื่อผมด้วยหรือครับ ผมชเว ซีวอน” ซีวอนพูดออกมาราวกับว่าเขากับฮยอกแจไม่รู้จักกันและยิ่งทำให้ฮยอกแจอึ้งไปมากกว่าเดิม
มือหนาสอดเข้าไปหยิบบัตรใบหนึ่งออกมาชูให้ฮยอกแจดู “ผมเป็นตำรวจครับ”
“นี่! คุณ!!! จำผมไม่ได้เหรอ ฮยอกแจไง!!” ฮยอกแจถามเสียงดังและชี้ๆ ที่ตัวเอง ให้ตายเถอะ ชเว ซีวอนประสาทกลับหรือไง หรือว่าความจำเสื่อม
ทำไมถึงลืมเขาได้ง่ายๆ แบบนี้!
“คุณมันแย่ที่สุดเลย! คุณลืมผมแต่ในหัวผมกลับมีแต่คุณตลอดเวลา!”
ฮยอกแจรู้สึกเสียใจและความคิดถึงทำให้ทุกอย่างที่อัดอั้นมาถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาซีวอนรู้สึกใจเสียที่เห็นน้ำตาของคนตรงหน้า
“ฮยอกแจครับ.. ทำไมผมถึงจะจำฮยอกแจไม่ได้ล่ะ?” พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือหนาเกลี่ยปาดน้ำตาให้กับฮยอกแจเบาๆ “ผมแค่อยากให้เราทำความรู้จักกันใหม่..”
“.....?......”
“โดยที่ผมไม่ต้องโกหกฮยอกแจเหมือนครั้งแรกไง”
แล้วซีวอนก็ยกยิ้มให้กับฮยอกแจ ร่างเล็กรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นตึกตักอย่างรุนแรงคล้ายจะหลุดออกมานอกอก น้ำฝนเย็นๆ ที่ชื้นอยู่บนผิวแก้มของเขาถูกกลบด้วยความร้อนผ่าวจากเลือดที่วิ่งขึ้นมาให้แก้มแดงพล่าน กำปั้นทุบเข้าที่อกของซีวอนอย่างทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะโถมกายเข้ากอดคนตรงหน้าแน่น
“ผม อี ฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักเป็นครั้งที่สองนะครับ คุณ ชเว ซีวอน”
:
แถม
“เอ๋? นี่นายเป็นโจรไม่ใช่เหรอ ซีวอนๆ คุณจับโจรดิ่ โจรคนนี้ซื่อสัตย์มากเลยนะ ไม่ยอมหนีไปไหนเลย”
ฮยอกแจกำลังพูดถึงชายหนุ่มที่วิ่งมาฉกกระเป๋าสตางค์ของฮยอกแจ ขณะที่เขากับซีวอนกำลังยืนคุยกันอยู่นั้น โจรคนนี้ไม่ได้หนีไปไหนเลยแม้แต่นิด ยืนอยู่นานจนเมื่อซีวอนกำลังจะพาฮยอกแจกลับไปส่งที่หอแล้ว ฮยอกแจก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ายังไม่ไปไหน
“เอ่อ..อ่ะ...คือ” ท่าทีอึกอักจนฮยอกแจต้องขมวดคิ้วมอง “คนนี้คือ คิม คิบอม เพื่อนผมเอง เป็นตำรวจจราจร”
แล้วเมื่อได้ยินมา สมองของฮยอกแจก็กลั่นกรองทุกอย่างอย่างรวดเร็วจนเข้าใจแจ่มแจ้ง
“นี่คุณหลอกผมอีกแล้วใช่ไหม!? โอ๊ยยยยย”
ฮยอกแจโวยวายและเริ่มประทุษร้ายร่างกายซีวอนด้วยการใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบๆๆ ไปที่ซีวอนอีกครั้ง จนซีวอนต้องรวบร่างเล็กไว้แน่น
“ฮยอกแจ เดี๋ยวก่อนสิ ผมไม่ได้หลอกคุณเลยนะ”
“ฮึ! ไม่ได้หลอกอะไร” ฮยอกแจตวัดสายตามองด้วยความไม่พอใจ “ก็เห็นๆ อยู่”
“ผมไม่ได้หลอกคุณจริงๆ” ซีวอนค่อยอธิบายให้คนในอ้อมกอดฟัง
“นี่ฮยอกแจ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ตอนนี้ผมจะได้กอดฮยอกแจแบบนี้หรอ?”
..แล้วผมก็อยากจะกอดฮยอกแจต่อไปด้วย
“โอ๊ย! คุณมันก็อ้างแบบนี้ทุกที เห็นแก่ตัวที่สุดเลย!”
แม้จะเป็นคำพูดต่อว่า แต่ผู้พูดกลับยิ้มเสียจนแก้มแทบแตก ซีวอนก็ยิ้มเช่นกัน เขามองคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดก่อนจะโน้มหน้าลงไปกดริมฝีปากลงบนแก้มใสเบาๆ
“ฮยอกแจ ฮยอกแจรู้อะไรไหม” ซีวอนถามขึ้นเบาๆ กับคนในอ้อมกอด
“อะไร!” เพราะยังโมโอยู่จึงกระแทกเสียงถามไปด้วยความไม่พอใจ แต่ประโยคถัดมาที่ได้ยินจากซีวอน ก็ทำเอาหัวใจฮยอกแจแทบละลาย
“ตอนที่เราห่างกัน ไม่มีวันไหนเลยสักวันที่ผมไม่คิดถึงฮยอกแจ”
:
2nd Mission Completed!
END
ความคิดเห็น