ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] "ALL ABOUT US" [SUPER JUNIOR]

    ลำดับตอนที่ #1 : [WONHYUK] MISSION LOVABLE

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 57





     

    MISSION LOVABLE
    SIWON-HYUKJAE









     







            ฝีเท้าของชายหนุ่มร่างสูงภายใต้อาภรณ์สีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าเหยียบย่ำไปตามพื้นถนนซึ่งสายฝนกำลังตกกระทบลงมาประปราย ผืนฟ้ายามรัตติกาลบดบังให้ชายหนุ่มเป็นเพียงเงามืดๆ ที่กำลังเคลื่อนกายอยู่ในถนนซึ่งไร้ผู้คนสายนี้

     

            เขาเดินเลาะไปตามริมถนน ก่อนจะเข้าไปในซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งสุดซอยนั้นเป็นลานกว้างซึ่งมีห่วงชู้ตบาสถูกตั้งอยู่ สถานที่ที่เด็กวัยรุ่นมักจะมารวมกลุ่มกันเล่นบาสเก็ตบอล หรือสเก็ตบอร์ดกันหลังเลิกเรียน

     

            ผนังอิฐปูนสีเทาที่ดูเขรอะไปด้วยสีสเปรย์ซึ่งถูกพ่นราวกับเป็นศิลปะของกลุ่มเด็กเหล่านั้นมากมาย ดวงตาคมกวาดสายตามองไปรอบๆ นั้นก่อนจะเดินตรงไปยังมุมในสุดของลานกว้างนี้

     

            “ตรงเวลาดีนี่ ชเว ซีวอน” เสียงทุ้มแหบของคังอิน ชายหนุ่มซึ่งนั่งรออยู่กับกลุ่มคนอีกสองสามคนที่มุมนี้ ซีวอนยักไหล่และหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ เขาถอดแว่นตาเลนส์สีดำสนิทออกก่อนจะหยิบห่อกระดาษสีขาวซึ่งหนักพอควรออกมาจากกระเป๋าสีดำสนิทที่ถือมาด้วยส่งให้กับคังอิน

     

            คังอินหยิบแผ่นเช็คเงินสดซึ่งเซ็นไว้เรียบร้อยแล้วออกมาจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้กับซีวอน

     

            “ผมจะทำงานนี้เป็นงานสุดท้ายนะ” ซีวอนรับเช็คนั้นมาก่อนพูดขึ้นเสียงเรียบแต่เนื้อความในประโยคทำให้คิ้วของผู้ฟังกระตุกและขมวดเข้าหากัน สีหน้าฉายแววความไม่พอใจออกมา

     

            “งานสุดท้าย ? ” คังอินถามขึ้น ก่อนจะพูดต่อพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยัน “หึ มีเงินใช้พอแล้วหรือไงถึงคิดจะเลิก?”

     

            “ก่อนที่ผมจะตกลงมาทำผมก็ไม่ได้บอกว่าจะทำตลอดไปนี่” ย้อนกลับอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่คังอินนั้นกำหมัดแน่น ลูกน้องในกลุ่มอีกสองคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังก็หันมาจ้องซีวอนเป็นตาเดียวกัน

     

            “แต่แกก็ทำงานให้ฉันมาตั้งนานแล้วแกก็รู้ความลับในกลุ่มของฉันแล้วด้วย!” น้ำเสียงที่เริ่มใส่อารมณ์ของคังอินไม่ได้ทำให้ซีวอนยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น มิหนำซ้ำร่างสูงกลับสวมแว่นของตัวเองกลับเข้าไปดังเดิม กระตุกรอยยิ้มที่มุมปากและขยับเสื้อสูทที่ใส่คลุมมาให้เรียบร้อย

     

            “ที่ผมรู้ ก็เพราะคุณบอกผมเองนะ”

     

            ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนจะหันหลังให้ หมายจะเดินกลับออกไปทว่ากลับมีมือของคนที่อยู่ด้านหลังนั้นเอื้อมมาแตะและกระชากเขาให้หันหลับไปเผชิญหน้า

     

            หมัดหนักๆ ถูกสวนเข้ามาที่ใบหน้าของซีวอนทันที แต่ความว่องไวทำให้เขาหลบได้แบบเฉียดฉิว

     

            และนั่นก็ราวกับการเติมเชื้อเพลิงให้ไฟความโกรธปะทุมากขึ้น

     

            ซีวอนมองบุคคลซึ่งยืนล้อมรอบเขาอยู่ก่อนจะขยับคอไปมา เขาถอดเสื้อสูทสีดำสนิทออกก่อนจะปาลงพื้นที่ชื้นแฉะ

     

    สามต่อหนึ่ง.. ก็ไม่ยากเท่าไหร่นะ

     

            วืด..!

     

            หมัดซึ่งคังอินเป็นผู้สวนมาซีวอนนั้นหลบได้อีกครั้ง ก่อนจะสวนหมัดเข้าที่คอของคังอิน ร่างสูงใหญ่ล้มลงไปเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ซีวอนรีบหันหลังกลับไปและยกเท้าขึ้นเตะเข้าที่คอของลูกน้องคนที่หนึ่งของคังอิน ส่วนอีกคนซึ่งยันเท้าเข้าที่เอวของซีวอนได้สำเร็จแต่ก็ไม่ทำให้ร่างสูงล้มลงได้นั้นถูกหมัดของซีวอนเสยเข้าที่คาง

     

            คังอินลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าเพราะจังหวะล้มลงบนพื้นที่ชื้นแฉะนั้น ขาข้างซ้ายที่เพิ่งหายจากอุบัติเหตุเมื่อเดือนที่แล้วถูกกระแทกลงเข้ากับพื้นเต็มๆ ส่วนลูกน้องทั้งสองคนนั้นก็เริ่มลุกขึ้นมาสู้กับซีวอนต่อ

     

            ฝนที่เริ่มตกลงมาหนักมากขึ้นเรื่อยๆ มาพร้อมกับการต่อสู้ที่รุนแรงมากขึ้น ซีวอนพยายามใช้ความปราดเปรียวและว่องไวผสานกับร่างกายที่แข็งแกร่ง เบี่ยงการรุกเร้าของอีกฝ่ายและสวนกลับให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

            แม้จะได้แผลมาบ้างแต่ก็เพียงน้อยนิดเท่านั้นเมื่อเทียบกับฝ่ายของคังอิน เนื่องจากลูกน้องทั้งสองคนนั้นรวมถึงตัวของคังอินเองไม่ได้เชี่ยวชาญในการสู้มือเปล่ามากนัก เพราะถนัดในการใช้อาวุธอย่างเช่นปืนมากกว่า

     

            ปืน.. ใช่... อาวุธที่พวกนั้นถนัด.. คือปืน

     

            ปัง ! ปัง ! ปัง !

     

            สามนัดที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนซีวอนแทบจะหลบไม่ทันทำให้มือหนาต้องรีบหยิบปืนกระบอกสีเงินที่เหน็บไว้ออกมา เขาปลดเซฟปืนอย่างรวดเร็วก่อนจะสวนกระสุนปืนกลับไปทันที

     

            ปัง ! ปัง !

     

            แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่มีทางยอมแพ้ และยิ่งสถานที่นี้เป็นลานกว้่าง แถมฝนที่ตกกระหนำ่ลงมาก็ยิ่งทำให้ช่องทางการหลบกระสุนปืนนั้นน้อยลง

     

            ฉับพลันเสียงที่ราวกับเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น มือที่กำลังถือปืนของทุกคนชะงักกึก

     

            เพราะเสียงที่ว่านั้นคือเสียงรถตำรวจ..

     

            ซีวอนอาศัยช่วงที่ฝ่ายนั้นกำลังตื่นตระหนกกับเสียงหวอ กระชากเสื้อสูทกลับมา รีบหลบหนีออกมาทันที และก็เป็นดังคาด แสงไฟสีแดงส่องมาให้เห็นริบๆ พร้อมกับรถตำรวจที่ซีวอนคาดว่ามาจากสน.แถวๆ บริเวณใกล้เคียงนี้

     

            แล้วสายตาคมก็ไปปะทะเข้ากับใครบางคนที่กำลังยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงด้านหน้าของซอยที่เขาเดินเลาะเข้ามา

     

            ซีวอนจ้องมองไปยังร่างนั้นและขมวดคิ้ว ส่วนผู้ถูกมองก็ทำหน้าตาเหรอหราใส่และหันหลังกลับไปหมายจะวิ่งหนี แต่ช่วงขาที่ยาวกว่าทำให้ซีวอนก้าวเข้าไปประชิดตัวร่างนั้นได้ทันที

     

            “อ๊ะ.. อื้อ!”

     

            มือหนายกขึ้นปิดปากของคนตัวเล็กที่ตั้งท่าว่าจะร้องโหวกเหวกออกมา คนที่โดนล็อคตัวไว้นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตั้งสติได้และดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนแข็งแรง

     

            “อื้อๆๆ!” ร้องในลำคอแล้วพลันก็ต้องทำตาโตและหยุดร่างกายไว้นิ่ง เมื่อปลายกระบอกปืนสีเงินถูกจ่อเข้าที่ศีรษะจากบุคคลที่ล็อคตัวเขาไว้ ร่างเล็กตื่นตระหนกจนแทบลืมหายใจ ก่อนที่ความหวาดกลัวจะทำให้เขาไร้เรี่ยวแรงจนหมดสติไปทันที

     

            .. เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงหวอจากรถตำรวจที่เขาโทรไปเรียกมาเท่านั้น ..

     

     

     

     

     

    :

     

            ร่างเล็กนอนกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงนอนนุ่ม เรือนร่างภายใต้ผ้าห่มหนาพลิกไปมามือเรียวควานหาหมอนข้างมากอดตามความเคยชิน

     

            แต่คราวนี้ ไม่ว่าจะปัดป่ายไปทางใด กลับไม่พบหมอนข้างอย่างที่ตนต้องการ

     

            คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทั้งๆ ที่ยังหลับตา ริมฝีปากแดงเบะบึ้งอย่างไม่พอใจ ร่างเล็กผิวขาวกลิ้งตัวไปมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นนั่งและยกมือขึ้นขยี้เรือนผมยุ่งเหยิงสีน้ำตาลสวยของตัวเอง

     

            ดวงตาเรียวค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ...

     

            ก่อนจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อทัศนียภาพตรงหน้าไม่ใช่กองตุ๊กตาสารพัดชนิด แต่กลับเป็นโซฟาตัวโตสีดำสนิท

     

            เห้ยยยยยยยยย อี ฮยอกแจมาอยู่ที่ไหนกันเนี่ยยยยยยยย !!!

     

            “นอนกินบ้านกินเมืองที่สุดเลยนะคุณน่ะ”

     

            เสียงทุ้มที่ดังขึ้นมาจากทางด้านข้างทำให้ฮยอกแจต้องสะบัดหน้าไปมองตามเสียงทันที แล้วก็พบว่าคนที่เรียกเขาคือชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงๆ ข้างๆ กับตัวเขา

     

            “คุณ! คุณเป็นใคร!” ฮยอกแจตะโกนถามเสียงดังและรีบถดกายหนีไปอีกด้านทันที ซีวอนมองท่าทีที่ดูลนลานนั้นยิ้มๆ .. ทำไมถึงดูน่าแกล้งขนาดนี้นะ

     

            ว่าแล้วก็แกล้งเสียหน่อยก็แล้วกัน

     

            “ผมก็เป็นใครสักคนที่กำลังทำงานอยู่ แต่มีเด็กมือซนที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง เดินสะพายกล้องไปมาแล้วก็กดโทรเรียกรถตำรวจน่ะสิ” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเครียดๆ ก่อนจะเขยื้อนกายเข้าไปหาร่างเล็กและกดไหล่บางลงให้แผ่นหลังของฮยอกแจแนบลงกับเตียง

     

            ใบหน้าคมโน้มลงจนแทบชิดกับใบหน้าเล็ก พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     

            คุณน่ะ ทำให้งานผมพังไม่เป็นท่าเลยนะครับ รู้ไหม?”

     

            “งานพังอะไรกัน! ผมไม่ใช่เด็กนะ ! อื้อออ!!” ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรๆ ออกมามากกว่านี้ ปากก็ถูกปิดด้วยมือหนาของร่างสูง ซีวอนโน้มใบหน้าลงมาให้ชิดมากขึ้น ริมฝีปากของร่างสูงที่แทบจะชิดติดกับมือของเขาที่ปิดปากร่างเล็กไว้ๆ ค่อยขยับเพื่อเอ่ยคำพูดออกมา

     

            “ไม่ต้องพูดมากหรอก ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็กินข้าวได้แล้วนะเด็กน้อย”

     

            “อื้อ! .. ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย ! แล้วทำไมต้องมาทำตามคำสั่งของคุ...!!”

     

            ซีวอนหยุดคำพูดของร่างเล็กด้วยการชักมือที่ปิดปากออกและทำให้ระยะห่างของใบหน้าและริมฝีปากของพวกเขาทั้งสองเหลือเพียงพื้นที่ให้สายลมพัดผ่านได้เท่านั้น ฮยอกแจปิดปากฉับและนอนนิ่งตัวเกร็ง ไม่กล้าที่จะขยับส่วนใดๆ ของร่างกายแม้แต่นิด

     

            “ไปอาบน้ำ แต่งตัว ห้องน้ำอยู่ด้านซ้าย พอเสร็จแล้วก็มากินข้าวได้แล้วครับ”

     

            ชิ! ยอมทำตามคำสั่งก็ได้!!

     

            “โอเคคคค .. โอ๊ยยย ลุกออกไปสิคุณ!”

     

            ฮยอกแจก้มหน้าโวยวายและผลักอกร่างสูงออก เดินฟึดฟัดปึงปังลงมาจากเตียง ตรงเข้าห้องน้ำไปทันที เสียงปิดประตูดังขึ้นมาไม่นาน เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายก็ดังตามมาออกมา

     

            เมื่อฮยอกแจได้มายืนอยู่หน้ากระจก และพบว่าเขาอยู่ในชุดนอนตัวโคร่งสีเทาอ่อน

     

            ...เมื่อคืน... เขาจำได้ว่าเขากำลังจะเดินกลับคอนโด หลังจากที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองลืมของสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างกล้องโปรไว้ที่มินิมาร์ทแถวๆ อพาร์ทเม้นท์ของซองมิน

     

            แล้วเขาก็เห็นกลุ่มผู้ชายที่คาดกำลังทำอะไรสักอย่างที่ไม่ดี นั่นทำให้ฮยอกแจตัดสินใจโทรเรียกรถตำรวจมา

     

            และในจังหวะที่รถตำรวจมาแล้วนั้นฮยอกแจกำลังจะเดินออกมา..

     

            แต่ใครสักคนก็มาเจอ..แล้วเข้ามาปิดปากฮยอกแจไว้..

     

            ก่อนที่จะเอาปืนมาจ่อหัว..หลังจากนั้นฮยอกแจก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

     

            จนกระทั่งตื่นมาเมื่อครู่นี้.. เจอคนแปลกหน้าที่มาบอกว่าฮยอกแจเป็นเด็ก บังคับให้เดินเข้ามาอาบน้ำ

     

            เขาก็เดินมาเข้าห้องน้ำในชุดนอนตัวโคร่งชุดนี้...

     

            คือเมื่อคืน.. เขาไม่ได้อยู่ในชุดนี้นะ..

     

            แล้วใครเปลี่ยนให้.. ?

     

            ใคร..?

     

            ใคร..?

     

            ใคร..?

     

            “ใคร..?

     

     

            “คุณเปลี่ยนชุดนอนให้ผมใช่ไหม!? ไอ้คนบ้า!!!!”

     

                :

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

       

            “มากินข้าวเดี๋ยวนี้!”

     

            “ไม่!”

     

            “บอกให้มากินข้าว!”

     

            “ไม่กิน!”

     

            “อย่ามาดื้อนะ!”

     

            “ไม่ได้ดื้อ! ก็ไม่หิว ก็ไม่อยากกิน เกิดคุณใส่ยาเบื่อหนูให้ผมกินขึ้นมาผมก็ตายน่ะสิ!!”

     

            สงครามเล็กๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศบนโต๊ะอาหารซึ่งมีชามข้าวสวยถูกโปะหน้าด้วยไข่ดาวราดซอสมะเขือเทศเหมือนกับอาหารเด็กวางอยู่เคียงข้างแก้วใสบรรจุนมสดไว้เกือบเต็มแก้ว

     

            คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าอาหารเหล่านั้นกำลังนั่งกอดอกทำสีหน้าปั้นปึ่งใส่คนตัวโตที่กำลังจ้องเขม็งมาอย่างดุๆ

     

            “กินเดี๋ยวนี้ฮยอกแจ”

     

            “ผมไม่กิน!”

     

            ฮยอกแจกอดอกและสะบัดหน้าไปทางอื่นทันทีที่พูดจบ หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จแล้วและใส่เสื้อเชิ้ตของซีวอนที่ตัวใหญ่อย่างกับกระสอบ โดนลากมาสอบสวนอยู่ที่โต๊ะกินข้าวอยู่ครู่หนึ่งก็โดนยัดเยียดข้าวมาให้กิน

     

            ใครมันจะไปกล้ากิน อีตาซีวอนนี่น่ากลัวจะตาย เมื่อวานฮยอกแจเห็นหรอกนะว่ากำลังทำอะไรอยู่

     

            เห็นตั้งแต่เริ่มเลย! ที่หมอนี่ส่งห่อขาวๆ ให้กับตาคนตัวโตคนนั้น นั่นมันยาเสพติดชัดๆ!!

     

            “ฮยอกแจ จะกินดีๆ หรือให้ผมป้อน?”

     

            “ไม่เอาไม่กิน ไม่ต้องมาป้อนด้วย ไม่ต้องมายุ่ง!”

     

            “ก็ได้ โอเค ผมตามใจฮยอกแจก็ได้” ซีวอนเอ่ยขึ้นอย่างหน่ายๆ เขาลุกขึ้นเก็บชามข้าวและแก้วนมไปไว้ด้านหลังครัว ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติกและแก้วนม “เดี๋ยวผมจะเอาของพวกนี้ไปให้หมาแถวคอนโดกินแล้วผมก็จะไปทำงาน ฮยอกแจห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”

     

            “คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผมฮะ!” ผุดลุกขึ้นยืนทันที อีตานี่เป็นบ้าหรือไงกัน มีสิทธิ์อะไรมาขังเขาไว้ในห้องแบบนี้

     

            ถึงซีวอนจะหล่อมากแล้วห้องก็หรูมากก็เถอะ แต่ถึงยังไงหมอนี่ก็เป็นคนไม่ดี!

     

            “สิทธิ์อะไรน่ะเหรอ.. เอ.. สิทธิ์อะไรน้า” ทอดเสียงยาวพลางทำสีหน้าครุ่นคิดและยื่นหน้าไปใกล้ๆ กับฮยอกแจ ร่างเล็กถอยหนีอย่างหวาดๆ

     

            เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างแผ่วเบาใกล้ๆ กับใบหูของฮยอกแจ

     

            “สิทธิ์ของคนที่ฮยอกแจมาเห็นการกระทำเลวๆ ของคนไม่ดีอย่างผมแล้วผมต้องให้ฮยอกแจกุมความลับไว้

     

            .. หรือสิทธิ์ของคนที่ได้เปลี่ยนชุดนอนให้ฮยอกแจดี?”

     

            คำพูดของซีวอนในประโยคถัดมาทำเอาฮยอกแจเลือดขึ้นหน้าจนรีบถอยหนีออกห่างและโวยวายออกมาไม่เป็นภาษา

     

            “ไปเลย! จะไปไหนก็ไปเลย ไม่ต้องมายุ่ง ไปๆๆๆๆ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นแหล่ะ!”

     

            “ครับ เป็นเด็กดีด้วยนะ”

     

            “เออออออ ไปเลย ไปๆๆๆๆ”

     

            ซีวอนยืนยิ้มมองคนตัวเล็กที่เดินโวยวายก่อนจะไปหยิบกระเป๋าของเขา เดินตรงไปที่ประตูห้อง

     

            และก่อนที่จะออกจากห้อง เขาล้วงเอาโทรศัพท์มือถือปลอกสีส้มลายลูกเจี๊ยบออกมาจากกระเป๋ากางเกง แกว่งเล่นไปมาก่อนจะทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงยียวนให้เจ้าของโทรศัพท์นั้นหงุดหงิดเล่น และเดินออกไปจากห้องทันที

     

            “มือถือปลอกสีส้มลายลูกเจี๊ยบของใครก็ไม่รู้ ผมขอยืมไปดูเล่นหน่อยก็แล้วกันนะ”

     

            “เฮ้ย! ซีวอน! เอามานะ นั้นมันมือถือผม!!”

     

            แกร๊ก!

     

            ประตูถูกปิดลงไม่ทันให้ฮยอกแจได้คว้าไว้ ครั้นพอขยับด้ามจับทั้งผลัก ทั้งดึงก็ไม่มีการขยับเขยื้อนบานประตูแม้แต่น้อย ฮยอกแจเตะประตูอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินกุมเท้าร้องโอดโอย ย้ายตัวเองไปนั่งแหมะอยู่บนโซฟา

     

            ถูกขังซะแล้ว อี ฮยอกแจ!

     

       

     

     

     

     

             :

     

            ชเว ซีวอนร้ายกาจมาก!

     

            เป็นพวกค้ายาเสพติดยังไม่พอ ยังจะจับฮยอกแจมากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ สายโทรศัพท์ภายในห้องคอนโดตามที่ควรจะมีก็ถูกดึงหายไปไหนไม่รู้ มิหนำซ้ำยังมาทรมานด้วยการทิ้งให้ตู้เย็นว่างเปล่าและมีแต่เบียร์ที่อัดแน่นไว้เต็มอีก

     

            หมอนี่มันเถื่อนจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ TT________________TT

     

            จะหนียังไงก็หนีไม่ได้ ประตูห้องถูกล็อคไว้จากด้านนอก ถ้าจะให้โดดระเบียงลงไปความสูงยี่สิบหกชั้นคงทำให้ฮยอกแจได้ตายก่อนที่จะได้หนี

     

            ปั่ดโธ่เว้ย! อะไรมันจะซวยแบบนี้วะ

     

            ร่างเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตตัวยาวของซีวอนนั่งดูโทรทัศน์พร้อมกับความขุ่นเคืองใจ สลับกับเดินไปเดินมารื้อของในห้องซีวอนเล่น ไปๆ มาๆ ก็นอนงีบไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับท้องที่ร้องดังโครกคราก

     

            หิว หิว หิว! ฮยอกแจอยากกลับไปต้มรามยอนที่หอ!

     

            โอ๊ยยยย ทำไมชีวิตของเด็กอายุสิบแปดคนนึงที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยในโซลได้มันถึงซวยแบบนี้วะ!

     

            ไปเรียนได้ไม่ถึงอาทิตย์ มีเพื่อนอยู่สองคน จู่ๆ ก็โดนพวกค้ายา(แต่หน้าตาดีมาก)จับมาขัง

     

            คิดๆ ไปแล้วก็หงุดหงิดตัวเองชะมัด ร่างเล็กลุกเดินไปที่ตู้เย็น เปิดออกพร้อมกับหยิบกระป๋องเบียร์เย็นเจี๊ยบออกมาอย่างชั่งใจ ถ้าถามว่าเคยลองดื่มไม่ก็คงจะตอบว่าไม่ แต่ถ้าถามว่าอยากลองไหมก็คงตอบว่าอยาก

     

            ยิ่งตอนนี้อี ฮยอกแจกำลังหิวจัด ต่อให้ตรงหน้ามีรามยอนหมดอายุฮยอกแจก็จะต้มกิน!

     

            คิดได้ดังนี้ร่างเล็กก็ปิดตู้เย็นเดินตรงไปที่โซฟาพร้อมกับเบียร์สองกระป๋องทันที

     

            แกร๊ก !

     

                :

     

     

     

     

     

     

       

            23.00 pm

     

            ซีวอนกลับมายังคอนโดพร้อมกับถุงของมากมายรวมไปทั้งกล่องข้าวสองกล่อง ป่านนี้ฮยอกแจจะเป็นอย่างไรบ้างแล้วก็ไม่รู้ เขาแค่อยากจะแกล้งนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่รู้จริงๆ ว่าวันนี้จะมีงานดึกขนาดนี้

     

            ร่างสูงเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องก่อนจะต้องตาโตเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะมีกระป๋องเบียร์มากมายหลายกระป๋องที่ถูกดื่มหมดแล้ววางสะเปะสะปะ แต่ที่ทำให้ซีวอนตกใจไปมากกว่านั้นก็เห็นจะเป็นร่างเล็กในสภาพที่เมามายไม่ได้สติ..

     

            เรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง พวงแก้มแดงจัด กระดุมเสื้อเชิ้ตที่ถูกเจ้าตัวปลดออกเองสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกขาวเนียนที่แสนจะยั่วตา

     

            จะเป็นลม..

     

            ซีวอนกำลังรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ฮยอกแจกำลังเมา.. และกำลังยั่วเขาเหลือเกิน ซีวอนรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิด “อะไรแบบนั้น” ออกไปจากหัวของเขา ก่อนจะรีบเดินไปวางของทั้งหมดไว้ และตรงเข้าไปประคองฮยอกแจ

     

            “อื้อออออออออออ อาวววอีกกกกกกกกกก” ริมฝีปากเล็กขยับพึมพำไม่เป็นภาษา ซีวอนรีบจัดแจงช้อนตัวฮยอกแจขึ้นมาไว้บนแขนของเขา เดินตรงไปที่ห้องน้ำและจัดการเปิดก๊อกน้ำใช้มือรองน้ำที่ไหลออกมาลูบใบหน้าของฮยอกแจ

     

            “ม่ายยยยยย ออกปายยยยยยย อื้อออออออออ”

     

            “อย่าโวยวายน่า..”

     

            “จาอาวอีกกกกกกกกก จาอาวววววววววว”

     

            เมาขนาดนี้แล้วจะเอาอะไรอีก -________-

     

            “อาวววเบียยยยยยยยยยยยย”

     

            จะกินอีกได้ไง ไม่ได้สติซะขนาดนี้แล้ว =_________=

     

            เอ่อ.. แล้วเขาจะมาตอบฮยอกแจในใจทำไมเนี่ย = =’’

     

            ซีวอนรีบล้างหน้าฮยอกแจให้เช็ดก่อนจะนำผ้าขนหนูผืนเล็กที่ตากไว้มาชุบน้ำให้ บิดให้หมาด ค่อยๆ กลั้นหายใจปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด ใช้ผ้าเช็ดไปตามเรือนร่างบอบบางอย่างที่ทำเมื่อวาน เมื่อเสร็จหมดทุกอย่างแล้วเขาก็นำชุดนอนสีฟ้าลายแบบเด็กๆ ที่เพิ่งซื้อมาวันนี้สวมให้กับฮยอกแจ สุดท้ายจึงอุ้มร่างเล็กไปวางไว้บนเตียงนอน

     

            ผ้าห่มผืนหนานุ่มถูกดึงขึ้นมาคลุมร่างเล็กของฮยอกแจไว้ และหลังจากที่ซีวอนอาบน้ำเสร็จแล้วร่างสูงก็เดินมาที่เตียง สอดแทรกกายลงไปภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับฮยอกแจ

     

     

     

     

     

     

                :

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

            “ไม่เอาไม่ไป! ไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”

     

            เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายที่ซีวอนคุ้นชินดังขึ้นทันทีที่เห็นสิ่งที่เขานำมาให้และได้ยินประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียวออกมาจากปากของเขา

     

            ‘รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วใส่ชุดนี้ ผมมีงานที่ต้องให้คุณไปด้วย’

     

            หลังจากที่ฮยอกแจได้ยินก็โวยวายออกมาอย่างที่เห็น..

     

            จริงๆ แล้ว.. ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์นิดๆ ที่ฮยอกแจอยู่กับเขาที่นี่ก็พอจะทำให้เขาได้รู้นิสัยของฮยอกแจบ้างแล้ว ฮยอกแจเป็นคนขี้โวยวายมาก เอาแต่ใจมาก และดื้อมากๆ ถึงฮยอกแจจะรู้(คิด?)ว่าเขาทำงานอะไร แต่ฮยอกแจก็ไม่มีทีท่าว่าจะหวาดกลัวเขาแม้แต่นิดอย่างที่ควรจะเป็น

     

            หรือซีวอน.. จะใจดีเกินไป ?

     

            เปล่าหรอกนะ.. เขาไม่ได้ใจดีหรอก เขาไม่ปล่อยให้ฮยอกแจออกไปไหนเลยแม้สักครั้ง วันไหนร่างเล็กโวยวายเขาก็ยึดขนมที่เขาเองเป็นคนซื้อมาไว้ให้่ออกไป

     

            แล้วเขาก็แค่ซื้อหนูแฮมสเตอร์ เกมส์Wii หนังสือต่างๆ มาให้ฮยอกแจเอาไว้แก้เบื่อ แค่นี้เอง..

     

            ซีวอนไม่ได้ใจดีหรอกนะ.. (เหรอ?)

     

    “ฮยอกแจครับ ผมรีบนะวันนี้ อย่ามาดื้อใส่นะ” กดเสียงต่ำพูดด้วยสีหน้าเข้มๆ แต่ฮยอกแจก็ไม่สนใจ ร่างเล็กสะบัดหน้าไปทางหนูแฮมสเตอร์สีน้ำตาลอ่อนตัวเล็กๆ สองมือบางประคองมันขึ้นมาอย่างเบามือ

     

            “คุณจะไปก็ไป วันนี้ฮยอกแจอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณแมว”

     

            ((คุณแมว = ชื่อของหนูแฮมสเตอร์ที่ซีวอนซื้อให้ฮยอกแจเลี้ยง))

     

            “ฮยอกแจ ผมจะนับหนึ่งถึงสาม..”

     

            “นับถึงสี่ได้ไหม?” ถามอย่างกวนๆ โดยที่ไม่มองหน้าเพราะกำลังเล่นอยู่กับคุณแมว

     

            “-_______-” ซีวอนถึงกับนิ่งไปเพราะความกวนของฮยอกแจ

     

            “หนึ่ง” ก่อนจะเริ่มนับด้วยน้ำเสียงแข็งๆ

     

            “คุณแมว~ คิคิ หิวข้าวแล้วหรอฮะ?”

     

            “สอง”

     

            “อ่า~ หรือว่าคุณแมวอยากวิ่งเล่น~??”

     

            “สาม”

     

            “เอ๋~? หรือคุณแมวหิวน้ำ?”

     

            “สี่!”

     

            “คุณมะ... เฮ้ยยย!!! ทำบ้าอะไรของคุณน่ะ!!”

     

            ร่างเล็กลอยหวือขึ้นทันทีที่ซีวอนนับจบ เขาอุ้มฮยอกแจไปที่ห้องน้ำก่อนจะค่อยๆ พาคุณแมวในมือของฮยอกแจกลับเข้ากรง พอจัดการกับคุณแมวเสร็จก็มาจัดการกับแมวจอมดื้อในห้องน้ำต่อ

     

            “รีบอาบน้ำซะฮยอกแจ ผมรีบ”

     

            “คุณจะพาผมไปทำงานเลวๆ กับคุณ พาผมไปตายเหรอ ไม่เอาหรอก!”

     

            “จะอาบเองไหม?”

     

            “ยังไงผมก็ไม่อาบ!”

     

            “โอเค จะเอาอย่างนั้นก็ได้!”

     

            ซีวอนพูดเสียงดัง มือหนาเอื้อมไปกดเปิดชาวเวอร์ น้ำไหลพุ่งออกมาจากฝักบัวด้านบนพร้อมกับซีวอนที่พยายามดึงเสื้อผ้าของฮยอกแจออก แม้ร่างบางจะขัดขืนแต่ก็สู้แรงของซีวอนไม่ได้แม้แต่นิด ยิ่งเมื่อน้ำที่ไหลลงมาทำให้พื้นห้องน้ำลื่นไปหมด ทำให้ฮยอกแจกลัวว่าจะลื่นล้นลงไป

     

            “ไม่เอานะ! ซีวอนหยุด!!”

     

            “ฮยอกแจจะยอมอาบดีๆ ไหม!?”

     

            “ผมไม่อาบ! ไม่ไปไหนทั้งนั้น!! อ๊ะ..!”

     

            “ฮยอกแจ!!”

     

            ฮยอกแจลื่นล้มเพราะพื้นเปียกๆ ทว่าโชคดีที่ซีวอนนั้นดึงไว้ได้ทันจึงทำให้ร่างบางไม่ได้ล้มลงที่พื้นห้องน้ำ แต่ถูกดึงด้วยมือหนาและกดไว้ให้แผ่นหลังแนบติดกับผนังห้องน้ำแทน

     

            ฮยอกแจเสหลบสายตาของซีวอนที่มองมายังเขา เรือนร่างเล็กบางที่ช่วงบนเปลือยเปล่าและกำลังโดนสายน้ำจากชาวเวอร์ไหลลงมาไม่ได้ทำให้ฮยอกแจหนาวเลยแม้แต่นิด เพราะตอนนี้ไอร้อนๆ กำลังตีขึ้นมาที่ใบหน้าของเขา

     

            ไม่รู้ว่าเป็นเพราะระยะห่างที่น้อยนิดในตอนนี้ หรือเป็นเพราะเรือนกายแข็งแกร่งซึ่งสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่เปียกลู่แนบกับเนื้อไปเพราะสายน้ำที่ฮยอกแจกำลังมองอยู่ตอนนี้กันแน่..

     

            แต่ตอนนี้ ฮยอกแจ เ ขิ น ม า ก !

     

            “ออก..ออกไปนะ...” ร่างบางก้มหน้าก้มตาพยายามดันอกซีวอนออกไป แต่คนตัวโตก็ไม่สะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น มิหนำซ้ำกลับยิ่งโน้มกายลงมาชิดฮยอกแจมากขึ้นไปอีก

     

            “ฮยอกแจจะยอมอาบน้ำดีๆ ไหม?” ถามเสียงทุ้ม แววตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายมองวิบวับไปที่ฮยอกแจจนร่างบางไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาสบตาได้เกินสองวินาที

     

            “ก็.. ก็... ทำไมต้องไปด้วย .. ทำไมต้อง.....อื้อ...”

     

            แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเปลืองเนื้อเปลืองตัวแต่นิสัยของฮยอกแจที่ทังดื้อรั้นและไม่ยอมฟังใครจึงสั่งให้เขาเถียงออกมา และเมื่อเถียงออกมาก็ต้องถูกคนที่มีวุฒิภาวะมากกว่าลงโทษ...

     

            ลงโทษ.. จนแทบหมดลมหายใจ

     

            อีฮยอกแจ..โดนพวกค้ายาขโมยจูบแรก .......

     

            ฮยอกแจคิดในใจแต่กลับไม่สามารถผลักซีวอนออกไปได้ สัมผัสที่รุกเร้าทำให้ฮยอกแจตัวเกร็ง ร่างบางหลับตาปี๋ มือขยำเสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่มของซีวอนไว้แน่น

     

            “อาบน้ำแต่งตัวไวๆ นะครับฮยอกแจ”

     

            ซีวอนสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มหลังจากผละริมฝีปากออกมาแล้ว เสียงประตูห้องน้ำที่ปิดลงเรียกให้ฮยอกแจลืมตากว้างขึ้นมา มือเรียวยกขึ้นตบแก้มตัวเองราวกับว่าต้องการเรียกสติ ก่อนจะเลื่อนไปจับริมฝีปากที่เพิ่งถูกรุกรานไปเมื่อกี๊..

     

     

            ..โอเค ไม่เถียงแล้ว จะให้อาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดเหี้ยห่าอะไร จะให้ไปทำหอกทำเวรอะไรที่ไหน

     

            ตอนนี้ กูยอมหมด!

     

                :

            

            พื้นพรมสีแดงเข้มของโรงแรมหรูกำลังค่อยๆ ถูกเหยียบย้ำโดยสองหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่ คนหนึ่งรูปร่างสูงสง่าอยู่ในชุดสูทสีเข้มดูน่าเกรงขาม ส่วนคนตัวเล็กกว่าอีกคนที่โดนลากเข้ามานั้นอยู่ในชุดสูทสีอ่อนและทรงผมที่ไม่ค่อยเป็นทรงสักเท่าไหร่

     

            “ฮยอกแจ เดินดีๆ ได้ไหม!?”

     

            “ก็อย่ามาบีบข้อมือไว้สิ!”

     

            ระหว่างทางที่เดินเข้ามาก็เอาแต่เถียงกัน.. จะว่าไปแล้วก็เถียงกันตั้งแต่ฮยอกแจอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแหล่ะ ขึ้นมาบนรถจู่ๆ ฮยอกแจก็ถามขึ้นมาว่าซีวอนไปเอาชุดสูทมาจากไหน

     

            ‘ผมวัดตัวฮยอกแจตอนที่คุณนอนอยู่ไง เวลาใส่ชุดนอนวัดง่ายมากเลยนะ ผ้ามันบางๆ เอง’

     

            ตอบไปแบบนี้..เท่านั้นแหล่ะ...โดนฟาดเข้าเต็มๆ หน้า

     

            ‘ซีวอน คุณเหี้ยมาก!’

     

            แล้วก็โดนด่ากลับมาแบบนี้

     

            ควรจะเจ็บดีไหมเนี่ย..

     

            “แล้วนี่นายพาฉันมางานอะไรน่ะ คนค้ายาบ้าออกงานสังคมได้ด้วย....”

     

            “ชู่ว”

     

            ซีวอนยกนิ้วชี้ขึ้นปิดปากของฮยอกแจไว้และส่งสายตาเข้มๆ บอกให้ฮยอกแจเงียบ

     

            อ๋อ! ฮยอกแจลืมไป ซีวอนให้เปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นพวกค้ายา!!

     

            และก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะเดินขึ้นไปถึงห้องที่จัดงานซีวอนก็หันมากำชับกฏสามข้อที่ฮยอกแจต้องทำตาม

     

            “ฮยอกแจครับพอเข้างานไปแล้ว ฮยอกแจต้องอยู่กับผมตลอดเวลา ถ้าผมบอกให้ไปก็ต้องวิ่งออกไป แล้วก็ห้ามเล่นซน โอเคไหมครับ?”

     

            ร่างเล็กๆไม่ได้ตั้งใจฟังนัก สักแต่ว่าพยักหน้ารับๆ เท่านั้น พอแขนแกร่งส่งมาให้พร้อมกับสายตาที่มองมาที่แขนของเขาก็เอื้อมขึ้นไปคล้องหลวม เดินเข้าไปยิ้มๆ แต่ในหัวไม่มีคำว่าอะไรเลยนอกจาก

     

            ได้โอกาสออกมาแล้วก็หนีเลยฮยอกแจ!

     

                :

     

     

     

     

     

     

            ซีวอนทักทายคนในงานเป็นร้อยคนจนฮยอกแจมึนหัว ร่างบางดื่มน้ำส้มที่มีพนักงานนำมาเสิร์ฟให้ในงานเลี้ยงค็อกเทลแห่งนี้ไปหลายแก้วพอควร พร้อมกับแขนที่ถูกซีวอนล็อคไว้แน่นตลอด

     

            ส่วนทางด้านซีวอนนั้นก็กำลังสอดสายตามองไปทั่ว ผู้ร่วมงานมากหน้าหลายตายืนอยู่ในพื้นที่น้อยนิดที่พอจะมีสำหรับให้ยืนได้ภายในห้องจัดงานเล็กๆ นี้ เขาขมวดคิ้วพร้อมกับกวาดสายตาคมกริบไปมาอีกครั้ง

     

            “สวัสดีครับ แขกผู้ร่วมงานทุกท่าน” งานนี้เป็นงานเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด และพิธีกรกำลังเริ่มกล่าวเปิดงาน

     

            ซีวอนเหลือบมองไปบนเวทีนิดๆ และในจังหวะนั้นเองที่เขาตวัดสายตากลับมายังกลุ่มผู้คนอีกครั้ง ในระยะที่ห่างออกไปไม่มากนัก ชายหนุ่มในเสื้อสูทสีดำสองคนกำลังทำท่าทีมีพิรุธโดยยืนเสียจนแนบชิดติดกัน มือของชายหนุ่มคนขวายกชายเสื้อสูทขึ้นมาสูงจนปิดภาพด้านหน้าที่ซีวอนอยากเห็น!

     

            เขารีบหยิบวิทยุสื่อสารที่เหน็บอยู่ในเสื้อสูทออกมาและกรอกเสียงลงไปอย่างรวดเร็วทันที

     

            “..........”

     

            ทันใดนั้นเองเสียงปะทุก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสุดของห้องจัดงาน!

     

            “และในตอนนี้ ผมขอเชิญ คุณ ปาร์ค....”

     

            ปัง!

     

            “กรี๊ดดด!”

     

            เสียงโหวกเหวกโวยวายและกรีดร้องดังมาจากผู้ร่วมงานทั้งชายและหญิงซึ่งหมอบลงและสภานการณ์นั้นเริ่มวุ่นวาย ฮยอกแจที่กำังยืนจิบน้ำส้มและเงยหน้ามองเพดานชื่นชมความงามอยู่นานแสนนานก็สะดุ้งตกใจจนแทบช็อค

     

            ซีวอนสบถออกมาอย่างหัวเสีย พวกนั้นมันต้องเห็นตอนที่เขายกวิทยุขึ้นมาคุยแน่เลย!

     

            ปัง!

     

            กระสุนอีกนัดที่ถูกยิงขึ้นมาเพื่อสร้างความโกลาหลภายในห้องจัดงานดูเหมือนจะทำงานได้ดีเพราะผู้ร่วมงานหลายคนเริ่มวิ่งออกไปจากห้องจัดงานแห่งนี้

     

            และนั่นมันก็จะหมายถึงอาชญากรที่เขาเล็งไว้จะต้องหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายๆ!

     

            “ซี..ซีวอนเกิด... เกิดอะไรขึ้น”

            

            ปัง!

     

            ซีวอนที่ยังยืนอยู่นิ่งและไม่ออกไปไหนกอดร่างเล็กไว้แน่น มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นปิดหูของคนตัวเล็กไว้ ให้ตายเถอะ! นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาทำอะไรแบบนี้เสียหน่อย!

     

            สิ่งที่ซีวอนควรจะทำมากที่สุดคือปล่อยฮยอกแจให้หนีออกไปและรีบรุดไปช่วยงานต่างหาก!

     

            “ผู้หมวดชเว! คุณออกไปพร้อมกับเด็กคุณเลย เดี๋ยวเขาจะไม่ปลอดภัย ทางนี้พวกเราเรียกกำลังเสริมมาแล้ว!”

     

            ชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งที่ซีวอนคุ้นหน้าคุ้นตาดีตะโกนให้ซีวอนได้ยินขณะที่ผู้คนเริ่มส่งเสียงโวยวายหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ซีวอนพยักหน้ารับหนักแน่นก่อนจะโอบตัวฮยอกแจไว้แน่น พาร่างเล็กวิ่งฝ่าฝูงชนออกไปทันที

     

            ฮยอกแจวิ่งไปตามแรงของซีวอนที่โอบไหล่เขาไว้แน่นมาก เสียงปืนดังๆ และเหตุการณ์ที่น่ากลัวทำให้ฮยอกแจน้ำตาไหลออกมาและไม่เหลือพื้นที่ในหัวสมองไว้สำหรับความสับสนว่าอะไรเป็นอะไร

     

            ร่างสูงพาร่างเล็กขึ้นรถไปอย่างรวดเร็วและขับออกไปทันที ฮยอกแจนั่งนิ่งตัวเกร็งแต่น้ำตายังไหลออกมาไม่หยุดด้วยความตกใจ

     

            “สะกัดจับตั้งด่านไว้ทุกช่องทางแล้ว คุณไปรอที่ด่านของถนนฝั่งขวาของโรงแรมได้เลย” เสียงวิทยุสื่อสารที่ดังขึ้นมาทำให้ซีวอนหักรถไปตามคำสั่งที่ได้ยินมา

     

            แล้วก็เป็นไปดังคาดรถมากมายหลายคันถูกสะกัดจับไว้ทันที ซีวอนรีบแล้วเข้าไปต่อท้าย และเมื่อตำรวจนายหนึ่งเดินมาหาเขา เขาก็เปิดกระจกรถและยื่นบัตรใบหนึ่งให้ดู

     

            “ผู้หมวดผ่านได้ครับ!”

     

            ผู้หมวด..

     

            ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้่างๆ คนขับและเพิ่งได้สติขึ้นมากลั่นกรองสิ่งที่ตนได้ยินอย่างสงสัย ผู้หมวด... ผู้หมวด......

     

            หรือว่า........

     

            ฮยอกแจเก็บความสงสัยที่มาพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้งไว้และรอจนรถได้เข้ามาจอดที่หน้าคอนโด เมื่อเครื่องยนต์ได้ดับลงก็ยังไม่มีใครเปิดประตูลงไป

     

            มีเพียงความเงียบที่ครอบงำบรรยากาศน่าอึดอัดนี้..

     

            ริมฝีปากอิ่มที่สั่นระริกค่อยๆ ขยับและเปล่งเสียงออกมาอย่างเชื่องช้า

     

            “คุณ.... คุณ......เป็น...........”

            “ใช่.. ผมเป็นตำรวจ”

            พูดต่อขึ้นมาคลายความสงสัยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับส่งบัตรประจำตัวให้กับร่างเล็ก

     

            มือที่สั่นเทาเอื้อมไปหยิบมาดู จ้องมองอ่านตัวหนังสือผ่านม่านน้ำตาที่เข้ามาบดบังการมองเห็น ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่นเมื่อทุกอย่างได้ค่อยๆ กระจ่างขึ้นมา

     

            ซีวอนจึงเริ่มพูดต่อ ในสิ่งที่เขาคิดว่าฮยอกแจจำเป็นต้องได้รับการไขข้อข้องใจ

     

            “วันนั้นที่ฮยอกแจมาเห็นผมส่งของให้กับพวกนั้น มันเป็นหนึ่งในแผนที่ผมต้องทำเพื่อใช้ล่อลวงพวกค้ายากลุ่มนั้นออกมาให้สำเร็จ”

     

            “แล้วทำไมคุณไม่บอกผมตั้งแต่แรก!”

     

            ฮยอกแจตะโกนถามทั้งน้ำตา เมื่อจบประโยคเสียงสะอื้นอย่างหนักก็ตามมา ซีวอนตัวชาอย่างทำอะไรไม่ถูก ใจมันบีบรัดไปหมดเมื่อเห็นน้ำตาของฮยอกแจ..

     

            “ผม..ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะ...”

     

            “ไม่ได้ตั้งใจจะอะไร!? ฮึก.. ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจ.. ฮึก แล้วทำไมต้องโกหกผม.. ทำไมคุณต้องโกหกผมเพื่อที่จะได้ขังผมไว้แบบนั้น..ฮึก”

     

            “......”

     

            “ผมมันโง่..ฮึก... โง่ที่สุดเลย!”

     

            “ฮยอกแจ!!”

     

            ซีวอนตะโกนเรียกเสียงดังเมื่อคนตัวเล็กเปิดประตูเดินปึงปังลงไปจากรถ เขารีบเดินตามออกมาอย่างรวดเร็วและคว้าตัวฮยอกแจเข้ามากอดไว้แน่น

     

            “ผมขอโทษ” กระซิบบอกเสียงแผ่วเบา แขนแกร่งกอดร่างเล็กไว้แน่นไม่ให้ฮยอกแจได้ดิ้นหลุดหรือทุบตีเขาได้ ริมฝีปากหยักกดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าพรมลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างปลอบประโลม น้ำตาที่เปียกชื้นลงมามันหยดลงที่เสื้อจนชื้น และมันก็ซึมลงไปในใจให้เขารู้สึกปวดร้าวไปหมด

     

            “ฮึก ปล่อยผม คุณไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก ปล่อยนะ!!”

     

            ฮยอกแจดิ้นแรงๆ อยู่นานจนซีวอนยอมปล่อยร่างเล็กออกเพราะไม่อยากฝืนกอดต่อไปให้ฮยอกแจเจ็บตัวไปมากกว่านี้

     

            “ผมขอให้เราอย่าได้เจอกันอีก”

     

    เสียงที่สั่นเครือค่อยๆ พูดขึ้นมาก่อนจะสะอื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างเล็กหันหลังให้ซีวอนหมายจะก้าวเดินออกไปให้พ้นจากคนๆ นี้ แต่ซีวอนนั้นกั้นหนทางของคนตัวเล็กไว้โดยการวิ่งมาดักไว้ทางด้านหน้า

     

    “ฮยอกแจ ฟังผมก่อน”

     

            “ผมไม่อยากฟังอะไรจากคนโกหกอย่างคุณทั้งนั้น!” ฮยอกแจตวาดกลับเสียงดัง เขารู้สึกว่าตัวเองราวกับคนโง่.. ถูกหลอก และเขาก็เชื่อคำโกหกทุกอย่างของผู้ชายคนนี้

     

            เขาไม่ได้เสียใจแต่กำลังเสียความรู้สึก..

     

            ความรู้สึก.. ที่ใจกำลังจะเผลอมอบให้กับซีวอนไป..

     

            “ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ” อธิบายด้วยน้ำเสียงที่พูดอย่างใจเย็น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น

     

            “จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจยังไงตอนนี้ผมก็เกลียดคุณแล้ว!”

     

            “แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือไงว่าทำไมผมถึงไม่ยอมบอกความจริงกับคุณ ก็เพราะว่าผมไม่อยากปล่อยคุณไปยังไงล่ะ ผมแค่หาข้ออ้างมาผูกคุณให้อยู่กับเท่านั้น ถ้าผมไม่ต้องการคุณตั้งแต่แรก ผมปล่อยคุณไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว!!”

     

            ทุกอย่างในใจซีวอนกำลังถูกระบายออกมาจนหมด ฮยอกแจได้แต่นิ่งค้างเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาด้วยอารมณ์และความรู้สึกหลากหลาย..

     

            แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่มีมากที่สุด..มันบอกฮยอกแจว่าใจของเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดรับอะไรตอนนี้..

     

            “แต่ผมไม่ต้องการอยู่กับคุณ.. ขอโทษด้วยนะ”

     

            พูดเสียงแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆ ถอยเท้าออกมาและวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้น ไม่มีเสียงที่ตะโกนรั้ง หรือการวิ่งเข้ามาคว้าตัวของฮยอกแจไว้จากคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง

     

            ฮยอกแจวิ่งออกไปทั้งน้ำตา ไปตามทางอย่างไม่รู้จุดหมาย มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง

     

     

            ซีวอนทำได้เพียงมองตามร่างเล็กในชุดสูทสีอ่อนนั้นไป.. จนลับสายตา

       

            คนโกหกอย่างเขา.. ไม่สมควรจะได้รับการให้อภัยจริงๆ..

     

            .. เพราะใจของฮยอกแจไม่ได้ต่้องการเขาตั้งแต่แรกเหมือนที่เขาต้องการฮยอกแจ ..

     

     

     

     

     

     

        :

     

     

     

     

     

     

            หลายวันผ่านไป

     

            เกือบสองสัปดาห์แล้วที่ฮยอกแจกลับมา ทั้งซองมินและทงเฮต่างตกใจมากที่เขาหายไปนาน แต่ฮยอกแจก็แก้ต่างว่าพ่อที่อยู่ต่างจังหวัดป่วย แม่จึงโทรเรียกอย่างกระทันหันและฮยอกแจก็ทำโทรศัพท์มือถือหาย

     

            เพื่อนทั้งสองนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจและไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ หลายวันผ่านมานี้ฮยอกแจรีบตามเรียนให้ทันจนหัวหมุนไปหมด เขาพยายามทำตัวเองให้ยุ่งมากๆ คิดถึงแต่เรื่องงาน

     

            เพื่อให้หัวสมองไม่ต้องมีพื้นที่ว่างไว้สำหรับให้คิดเรื่องอื่นๆ..

     

            “ฮยอกแจ ดูฝนเหมือนจะตกน่ะ เดินกลับดีๆ นะ” ทงเฮที่กำลังเดินออกมาจากตึกพร้อมกับเขาและซองมินเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง ฮยอกแจพยักหน้าและยิ้มให้บางๆ ก่อนที่พวกเขาจะโบกมือให้กันและแยกย้ายกันกลับบ้าน

     

            ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม.. ดูท่าว่าฝนจะตกจริงๆ อย่างที่ทงเฮว่า คิดได้ดังนั้นก็รีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วทันที

     

            ทันใดนั้นเองที่ฮยอกแจกำลังเดินผ่านไปตามซอยเปลี่ยวๆ ซึ่งร้างผู้คนอย่างรวดเร็วอยู่นั้น กระเป๋าสตางค์ที่ถืออยู่ในมือก็ถูกกระชากออกไปทันที!

     

        “เฮ้ย! หยุดนะเว้ยไอ้โจร !!”

     

            ยอกแจตะโกนไล่หลังด้วยเสียงดังขณะที่กำลังรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว คนเพิ่งจะเหนื่อยจากการเรียนมาหมาดๆ ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ยังจะมาเกิดเรื่องอะไรแบบนี้อีก

            ฝนตก... จู่ๆ เรื่องนั้นก็แวบเข้ามา..

     

            โอ๊ย! กูนี่มันดวงซวยในวันฝนตกจริงๆ!

     

            “เฮ้ยยย!!! หยุดนะเว้ยย!!! ”

     

            ฟึ่บ!!

     

            ในจังหวะที่ฮยอกแจกำลังวิ่งไล่ตามคนที่วิ่งราวกระเป๋าสตางค์ของเขาอยู่นั้น จู่ๆ ร่างของชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งในชุดเสื้อฮู้ดสีดำสนิทก็วิ่งออกมาจากมุมตึกและล็อคตัวผู้ที่ขโมยของของเขาไว้..

     

            ออกมาได้จังหวะ..ราวกับตั้งใจ

       

            “นี่ของของคุณครับ”

     

            เสียงทุ้มที่ค่อนข้างจะคุ้นหูดังขึ้นมาจากพลเมืองดีผู้เข้ามาช่วยเขาไว้ แม้ฝนจะกำลังเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนฮยอกแจแทบไม่ได้ยินสิ่งใด แต่เสียงของชายหนุ่มผู้นี้กลับแว่วไปมาภายในโสตประสาทของเขา..

     

            ถ้าให้เขาเดานะ.. เขารู้ว่าคนนี้ๆ คือใคร

     

            เมื่อเห็นฮยอกแจนิ่งไป ชายหนุ่มจึงยัดกระเป๋าสตางค์เข้าไปในมือของฮยอกแจไว้ ก่อนจะปลดเสื้อคลุมตัวนอกออกจากร่างกาย

     

            และสิ่งที่ฮยอกแจคาดเดาไว้.. ก็ชัดเจน

     

            “ซะ.. ซีวอน.. คุณ....”

     

            ดูเหมือนว่าจะอึ้งไปไม่น้อย และได้ยินนิ่งอยู่ตรงหน้าซีวอนแบบนั้น ร่างสูงเกรงว่าร่างเล็กที่กำลังเปียกปอนอาจโดนน้ำฝนมากกว่านี้ จึงกางเสื้อคลุมตัวนอกที่เพิ่งถอดออกมา ถือไว้เหนือศีรษะเพื่อบังน้ำฝนไม่ให้โดนฮยอกแจ

     

            “หือ? คุณรู้จักชื่อผมด้วยหรือครับ ผมชเว ซีวอน” ซีวอนพูดออกมาราวกับว่าเขากับฮยอกแจไม่รู้จักกันและยิ่งทำให้ฮยอกแจอึ้งไปมากกว่าเดิม

     

            มือหนาสอดเข้าไปหยิบบัตรใบหนึ่งออกมาชูให้ฮยอกแจดู “ผมเป็นตำรวจครับ”

     

            “นี่! คุณ!!! จำผมไม่ได้เหรอ ฮยอกแจไง!!” ฮยอกแจถามเสียงดังและชี้ๆ ที่ตัวเอง ให้ตายเถอะ ชเว ซีวอนประสาทกลับหรือไง หรือว่าความจำเสื่อม

     

            ทำไมถึงลืมเขาได้ง่ายๆ แบบนี้!

     

            “คุณมันแย่ที่สุดเลย! คุณลืมผมแต่ในหัวผมกลับมีแต่คุณตลอดเวลา!”

     

            ฮยอกแจรู้สึกเสียใจและความคิดถึงทำให้ทุกอย่างที่อัดอั้นมาถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาซีวอนรู้สึกใจเสียที่เห็นน้ำตาของคนตรงหน้า

     

            “ฮยอกแจครับ.. ทำไมผมถึงจะจำฮยอกแจไม่ได้ล่ะ?” พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือหนาเกลี่ยปาดน้ำตาให้กับฮยอกแจเบาๆ “ผมแค่อยากให้เราทำความรู้จักกันใหม่..”

     

            “.....?......”

     

            “โดยที่ผมไม่ต้องโกหกฮยอกแจเหมือนครั้งแรกไง”

     

            แล้วซีวอนก็ยกยิ้มให้กับฮยอกแจ ร่างเล็กรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นตึกตักอย่างรุนแรงคล้ายจะหลุดออกมานอกอก น้ำฝนเย็นๆ ที่ชื้นอยู่บนผิวแก้มของเขาถูกกลบด้วยความร้อนผ่าวจากเลือดที่วิ่งขึ้นมาให้แก้มแดงพล่าน กำปั้นทุบเข้าที่อกของซีวอนอย่างทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะโถมกายเข้ากอดคนตรงหน้าแน่น

     

            “ผม อี ฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักเป็นครั้งที่สองนะครับ คุณ ชเว ซีวอน”

     

        :

     

     





     

    แถม

     

            “เอ๋? นี่นายเป็นโจรไม่ใช่เหรอ ซีวอนๆ คุณจับโจรดิ่ โจรคนนี้ซื่อสัตย์มากเลยนะ ไม่ยอมหนีไปไหนเลย”

     

            ฮยอกแจกำลังพูดถึงชายหนุ่มที่วิ่งมาฉกกระเป๋าสตางค์ของฮยอกแจ ขณะที่เขากับซีวอนกำลังยืนคุยกันอยู่นั้น โจรคนนี้ไม่ได้หนีไปไหนเลยแม้แต่นิด ยืนอยู่นานจนเมื่อซีวอนกำลังจะพาฮยอกแจกลับไปส่งที่หอแล้ว ฮยอกแจก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ายังไม่ไปไหน

     

            “เอ่อ..อ่ะ...คือ” ท่าทีอึกอักจนฮยอกแจต้องขมวดคิ้วมอง “คนนี้คือ คิม คิบอม เพื่อนผมเอง เป็นตำรวจจราจร”

     

            แล้วเมื่อได้ยินมา สมองของฮยอกแจก็กลั่นกรองทุกอย่างอย่างรวดเร็วจนเข้าใจแจ่มแจ้ง

     

            “นี่คุณหลอกผมอีกแล้วใช่ไหม!? โอ๊ยยยยย”

     

            ฮยอกแจโวยวายและเริ่มประทุษร้ายร่างกายซีวอนด้วยการใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบๆๆ ไปที่ซีวอนอีกครั้ง จนซีวอนต้องรวบร่างเล็กไว้แน่น

     

            “ฮยอกแจ เดี๋ยวก่อนสิ ผมไม่ได้หลอกคุณเลยนะ”

     

            “ฮึ! ไม่ได้หลอกอะไร” ฮยอกแจตวัดสายตามองด้วยความไม่พอใจ “ก็เห็นๆ อยู่”

     

            “ผมไม่ได้หลอกคุณจริงๆ” ซีวอนค่อยอธิบายให้คนในอ้อมกอดฟัง

     

            “นี่ฮยอกแจ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ตอนนี้ผมจะได้กอดฮยอกแจแบบนี้หรอ?”

     

            ..แล้วผมก็อยากจะกอดฮยอกแจต่อไปด้วย

     

            “โอ๊ย! คุณมันก็อ้างแบบนี้ทุกที เห็นแก่ตัวที่สุดเลย!”

     

            แม้จะเป็นคำพูดต่อว่า แต่ผู้พูดกลับยิ้มเสียจนแก้มแทบแตก ซีวอนก็ยิ้มเช่นกัน เขามองคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดก่อนจะโน้มหน้าลงไปกดริมฝีปากลงบนแก้มใสเบาๆ

     

            “ฮยอกแจ ฮยอกแจรู้อะไรไหม” ซีวอนถามขึ้นเบาๆ กับคนในอ้อมกอด

     

            “อะไร!” เพราะยังโมโอยู่จึงกระแทกเสียงถามไปด้วยความไม่พอใจ แต่ประโยคถัดมาที่ได้ยินจากซีวอน ก็ทำเอาหัวใจฮยอกแจแทบละลาย

     

            “ตอนที่เราห่างกัน ไม่มีวันไหนเลยสักวันที่ผมไม่คิดถึงฮยอกแจ”

     

     

     

        :




     

     

        2nd Mission Completed!


     

     

             END





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×