คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : BLANKETS Chapter9 : สามข้อ
“ที่เราทะเลาะกันเป็นเพราะ?”
บ็อบบี้พูดก่อนจะยิ้มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่าคนที่เสียเปรียบอย่างฮันบินได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้
“บ็อบ ก็มีส่วนผิดนะ......”
ฮันบินพยายามหาข้อแก้ตัวแต่ก็หุบปากไปทันทีเพราะบ็อบบี้เอาโพสอิสที่เขียนว่า
‘ ขออะไรมาสั่งอะไรมาจะทำให้เลย’
เอาขึ้นมาพัดไปมา
“นายก็ผิดเยอะสุดอยู่ดี เพราะปากเนี่ย นี่ๆๆๆ” บ็อบบี้ชี้นิ้วไปที่ปากเล็กๆนั่นก่อนจะจิ้มๆๆจนฮันบินเบ้หน้าหนี
“โอ้ย
สรุปจะให้ทำอะไรล่ะ”
“มาเป็นคนใช้ของป๋าซะดีๆ”
บ็อบบี้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนตรงหน้าที่ยืนทำหน้าเบื่อโลก
“-____-“
“มึงช่วยทำหน้าเห็นด้วยกับกูหน่อยได้มั้ยล่ะ”
“ผมไม่ได้หมายถึงให้ผมเป็นคนใช้ซะหน่อยนะบ็อบหมายถึงเวลา......”
ฮันบินถอนหายใจพรืดพร้อมทำหน้าละเหี่ยใจแต่ยังไม่ทันพูดจบบ็อบบี้ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“แกล้งเล่นหน่าไอตูดดด”
นิ้วยาวชี้มาตรงหน้าผากของฮันบินก่อนจะโดนดันจนหน้าหงาย
“.................”
“กูขอมึงสามอย่างล้ะกันนะ”
บ็อบบี้พูดพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
“ว่ามาเลยครับ” ตอนนี้ยังไงก็ได้แล้วล่ะตามใจเฮียแกเถอะ
“ข้อแรก.......มึงอย่าหลงมันมากกว่ากูได้มั้ย ไอ้มิโนน่ะ”
บ็อบบี้พูดเสียงอ่อนใบหน้าคมดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดเขากำลังขอร้องฮันบินในเมื่อไม่ว่าจะทำยังไงขัดขวางเท่าไหร่มิโนก็ดูเป็นคนสำคัญของฮันบินเอามากๆ เข้าใจแล้วการที่เราแอบชอบใครสักคนแล้วเขาคนนั้นเพ้อถึงคนอื่นให้ความสำคัญกับคนอื่นที่ไม่ใช่เรา
มันน่าน้อยใจแถมยังแอบเจ็บในใจลึกๆอีกตะหาก
“บ็อบ.....คือมิโนแค่เป็นเพื่อนเฉยๆ น้อยใจหรอ?” เขาไม่ชอบเลยเวลาเห็นบ็อบบี้ทำหน้าเศร้ามันดูไม่ใช่บ็อบบี้เลย เห็นทีไรมันรู้สึกเหมือนน้องหมากำลังหิวขนมเลย
อิอิ ฮันบินกำลังคิดว่าเขาน่าสงสารอะดิ้
“ป่าวหรอก
แค่เหมือนอยู่ก็เหมือนไม่อยู่” ในเมื่อมามุกนี้มันได้ผลมันก็ต้องเล่นใหญ่เข้าไว้บ็อบบี้ผลุบตาลงมองต่ำพร้อมกับก้มหน้าสูดหายใจเข้าลึกๆให้เหมือนคนพยายามกลั้นไม่ให้ร้องไห้
“บ็อบบี้ ไม่น้อยใจน้ะๆ” ดูสิ
ยิ่งเหมือนน้องหมามาขอข้าวกินแล้วป้าร้านข้าวแกปฏิเสธไม่ให้กิน
“ใช่หนิ ไม่ได้หน้าตาเหมือนหมีแบบมิโนหนิชอบอะไรหมีๆไม่ใช่หรอก็ใช่หนิไม่สำคัญอะไม่ได้น้อยใจหรอก”
คราวนี้บ็อบบี้ลงไปนั่งกอดเข่าก่อนจะเอาหน้าซุกกับเข่าแล้วแกล้งร้องไห้ออกมา เอาให้ฮันบินรู้สึกผิดเยอะๆเลยสะใจดี
“..................”
“โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
แงงง้ อึกกโฮรรรรๆๆๆๆ”
คุณเข้าใจมั้ยว่าเสียงใหญ่ๆบวกกับตะโกนแหกปากอะไรไม่รู้มันน่ารำคาญขนาดไหน?.....
มันน่ารำคาญมากกกกกกกกกกกกเขารู้เลยว่าที่ผ่านมาเมื่อกี้เขาโดนหลอกล้วนๆ
เห็นใจอ่อนหน่อยไม่ได้ บ็อบบี้เนี่ยภายนอกเท๊เท่
มาเอาเข้าจริงต๊งต๊องสติไม่ค่อยจะมี
“บ็อบบี้
เล่นใหญ่ไปมั้ย”
“อ้าวรู้หรอ” เสียงร้องน่ารำคาญเงียบลงทันทีก่อนจะตามมาด้วยหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราว
“รู้สิ
วันหลังร้องไห้ให้มันเนียนๆหน่อยสิ55555ตลกอะ555555ตัวก็ใหญ่มาทำเหมือนตัวเองเป็นเด็กตัวเล็กน่ารักๆอย่างนั้นแหละ555555555”
ฮันบินนั่งลงยองๆตรงหน้าก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ยใส่หน้าบ็อบบี้
“555555ตอนแรกว่าจะเอาน้ำลายป้ายตาแล้วนะเนี่ย
ดีนะทักขึ้นมาก่อน” พูดจบบ็อบบี้ยิ้มก็ออกมาน้อยๆ
ฮันบินตอนนี้มันน่ารักจริงๆนะ
“อี๋
สกปรกอะบ็อบ555555555” ฮันบินตีมือบ็อบบี้เบาๆก่อนจะยิ้มตาปิดแล้วหัวเราะออกมา
ใครกันแน่ที่เหมือนเด็ก บ็อบบี้จ้องหน้าฮันบินที่กำลังยิ้มหน้าบานใกล้ๆอย่างไม่ละสายตาเขามีความสุขยังไงไม่รู้
มันเหมือนเราทำให้คนที่เรารักยิ้มได้มากกว่าร้องไห้ประมาณนั้นหน่ะ
“มีอะไรติดหน้าผมอ่อ”
ฮันบินเอานิ้วมาชี้ๆที่หน้าตัวเองเพราะเห็นบ็อบบี้จ้องหน้าเขาเหมือนอะไรจะพูดสักอย่าง
“มีอย่างนึง”
“อะไรอะ???”
“ความน่ารักนี่ไง” บ็อบบี้พูดพร้อมกับเอื้อมไปหยิกแก้มนิ่มๆอย่างหมันเขี้ยวหนึ่งที
“โถ่ บ็อบก็นึกว่าอะไร
ไม่ต้องชมรู้ตัวหน่า555”
พอคืนดีกันอะไรมันก็ดูดีไปหมดเลยเนอะJ
“หึ
กูโกหก”
“เดี๋ยวฟาดเลยบ็อบ เดี๋ยวเหอะ”
“หยอกๆกันเล่นเน๊าะๆ”
มีแววกลัวเมียสูงมากเลยนะกูเนื่ย
“อะก็ได้
แล้วข้อสองล่ะบ็อบ” ฮันบินโบกมือปัดๆเหมือนไอเรื่องเมื่อกี้ให้ช่างมันไป
“คืนนี้
ไปเที่ยวกูได้มั้ย”
เพราะเขาไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเล่นกับฮันบินเท่าไหร่ถึงจะอยู่บ้านเดียวกันก็เถอะแต่ส่วนใหญ่ก็อยู่แต่บ้านไปโรงเรียนแถมเจ้าตัวก็ชอบออกไปเที่ยวกับมิโนนั่นแหละพอเขาชวนทีไรก็บอกขี้เกียจเพิ่งออกไปกับมิโนมา บอกเลยว่าช่วงนี้ บ็อบบี้คนหล่อพ่อรวยเหงามั่ก
หญิงแอดมาหนักๆ แฝดควอนมันถึงกับล้อผมแบบนี้เลย
“ได้สิบ็อบ
ไปตากลมให้สบายใจซะหน่อย” ฮันบินลุกขึ้นยืนเอามือปัดๆตูดนิดหน่อยแล้วยื่นมือไปตรงหน้าบ็อบบี้
“จัดไปหาของกินกันด้วยเลยล้ะกัน”
บ็อบบี้จับมือฮันบินก่อนจะดึงตัวเองขึ้นยืน
“บ็อบเลี้ยงนะ”
“ปกติกูก็เป็นคนออกอยู่แล้วหนิ ไม่ต้องมาพูดเลยยย”
“555555”
--------------------------------------60%--------------------------------------
เสียงจอแจวุ่นวายผู้คนเดินกันเพ่นพ่านแต่แสงสีจากร้านค้าต่างๆตัดกับเวลากลางคืนแบบนี้มันทำให้ดูมีสีสันสวยงามไม่ใช่น้อยบวกกับลมเย็นที่พัดมาเอื่อยๆทำให้ฮันบินรู้สึกรีแลกซ์ไม่ใช่น้อยคนข้างๆเขาก็ดูจะชอบบรรยากาศแบบนี้เหมือนกันเห็นเดินทำหน้าระรื่นแถมมีเนียนจับมือเขาอีกตะหาก
“พรุ่งนี้ไปโรงเรียน จัดกระเป๋ารึยังเนี่ย”
คนตัวสูงเหล่มามองฮันบินเป็นเชิงถาม
“ยังอะ
เดี๋ยวค่อยกลับมาจัด555”
“มึง อยากกินไอติมมั้ย?”
บ็อบบี้ชี้นิ้วไปทางด้านซ้ายที่มีรถขายไอติมเปิดอยู่น่าจะเป็นไอติมชาเขียววนิลาซะด้วย
“อยากกินง่า แต่กลัวจะเป็นหวัดอะ”
เขาอยากจะกินจริงๆนะแต่อากาศเย็นแบบนี้กินอะไรร้อนๆน่าจะดีต่อสุขภาพเขามากกว่าเดี๋ยวป่วยแล้วออมม่าสุดที่เลิฟของเขาจะงอแงจะกลับมาเกาหลีอีก
“เรื่องของมึง กูจะกิน”
พูดจบก็จูงมือแล้วลากฮันบินไปทางร้านทันที
คือพี่แกอยากกินก็บอกมาแต่แรกก็จบแล้วแหม่มาแอ็กแกล้งถามเขาว่าอยากกินมั้ย เห็นแบบนี้ก็เลือกกินนะเห้ยย
เลือกที่จะกินทุกอย่างอะ ขร่าบบ
ร่างหนายืนสั่งไอติมกับพี่พนักงานแต่ที่น่าแปลกใจคือทำไมบ็อบถึงสั่งถ้วยใหญ่??หลังจากจ่ายเงินแล้วพี่พนักงานก็ยื่นไอติมถ้วยใหญ่ๆให้
พร้อมกับ
สลิปเปอร์ลายหมีพูห์....
บ็อบบี้แทบจะไม่สนใจไอติมในมือเลยแม้แต่น้อยรวมถึงตัวเขาด้วยที่ตอนนี้ได้ปล่อยมือเขาแล้วไปลูบๆคลำๆสลิปเปอร์ลายหมีพูห์แทนพร้อมกับทำหน้ายิ้มมีเลศนัยสุดๆ
“แหม่
อยากได้รองเท้านี่ก็บอกสิครับไม่ใช่มาแอ็กถามอยากกินไอติมมั้ย” มันอดที่จะแซวไอตัวหมียักษ์นี่ไม่ได้จริงๆ
“เห่ย อยากได้รองเท้าอะไรกันเล่ากินแล้วสะสมแต้มได้พอดีหรอกหน่า”
คนตัวสูงรีบตีหน้านิ่งแล้วทำเป็นเหมือนไม่ค่อยจะอยากได้รองเท้าแตะคู่นี้ซะหน่อย
“งั้นก็คืนพี่พนักงานเค้าไปสิไม่อยากได้ไม่ใช่หรอ”
“ไม่!!” บ็อบบี้รีบปฏิเสธเสียงเขียวทันทีแต่หลังจากนั้นก็เพิ่งมารู้ตัวว่าตัวเองโดนหลอกซะแล้ว
“ฮันแน่ๆๆๆๆ 55555”
“ไม่ต้องมาแซวเลยหน่า”
“อะๆไม่แซว ชอบว่าผมติดผ้าห่มติดมิกกี้เมาส์ดูตัวเองดิหมีพูห์อย่างงู้นอย่างงี้”
“ไหนมึงบอกไม่แซวกูไง-__-“ คนตัวสูงตักไอติมเข้าปากรัวๆแล้วเอารองเท้าแตะมาหนีบไว้ที่จั๊กกุแร้แทน
“ก็ว่าทำไมสั่งถ้วยใหญ่ได้แสตมป์สามดวงอะดิ้มันครบพอดีเลยใช่มั้ยหล้า” ฮันบินก็ยังคงแซวต่อไป จนคนโดนแซววางช้อนแล้วผลักหัวไอตัวจ้อจนหัวทิ่ม
“มึงหยุดเลยยย
เสร็จนี่ไปกินเนื้อย่างกันป่าว”
“โอเคเล้ย”
“ไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอ555”
“อย่ามากวนโอ้ยหน่าบ็อบบี้รีบกินเร็วๆๆๆ”
“จ้า”
หลังจากเดินเล่นกินไอติมอยู่สักพักบ็อบบี้ก็พาไปร้านเนื้อย่างสั่งของกินมาเต็มโต๊ะบ็อบกินเนื้อไปสามสี่จานบวกกับข้าวอีกกล่องใหญ่
จะไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้ตัวใหญ่ขนาดนี้อะนะแต่ว่าถึงจะตัวใหญ่แต่ก็มีแต่กล้ามทั้งนั้น......เขาเป็นผู้ชายเขายังแอบมองหุ่นบ็อบบี้บ่อยๆเลย
เขาเคยเข้าไปดูในเฟสของบ็อบบี้มีแต่ผญ.แซ่บๆแอดมาขอเป็นทั้งเพื่อนทั้งนั้นเลยแต่เจ้าตัวก็ไม่กดรับใครสักคน
หยิ่งอะเนอะก็คนมันหล่อว่าแล้วก็อิจฉาอะครับ.....
ปล่อยให้มนุษย์หมีพูห์สวาปามจนอิ่มก่อนจะออกจากร้านไปเดินดูช็อปเสื้อผ้าต่างๆตรงซอยข้างหน้าระหว่างเดินดูของคนตัวสูงกว่าก็เดินกอดคอเขาลากเขาไปมาเดี๋ยวแวะร้านนู้นร้านนี้
ทำแบบนี้บ่อยๆผมว่ามันก็ไม่ค่อยจะดีแหละครับ ตอนนี้พยายามท่องอยู่ว่าผมคือผู้ชายๆ
“กลับกันเถอะ”
“ปวดขาไปหมดล้ะเนี่ยย”
“อุ้มมั้ย?”
คำถามนี้ทำเอาฮันบินถึงกับทำหน้าเหวอ
นี่ล้อเล่นหรือถามจริงๆเนี่ย
“ตกใจอะไร
กูประชดหรอกโถ่ว” บ็อบบี้ยิ้มแบบสะใจแล้วกอดคอดึงคนตัวเตี้ยกว่าให้เข้ามาใกล้ๆก่อนจะเดินไปเรียกรถกลับบ้าน
ก็เห็นเจ้าตัวบอกว่าเมื่อยเลยเรียกรถเอาหน่ะนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
“เอ้อ
ข้อสามหน่ะคืออะไรหรอบ็อบ”
ฮันบินทักขึ้นมาหลังจากเพิ่งนึกได้ว่าบ็อบบอกมาแค่สองข้อเองเจ้าตัวเหล่มามองก่อนจะหันกลับไปดูทีวีต่อสักพักนึงก่อนจะลุกไปหยิบป็อบคอร์นมาแกะแล้วหันมาบอกพร้อมหน้าตาเจ้าเล่ห์สุดๆ
“ไว้ตอนใกล้จะนอนก่อน”
ถ้าบอกว่าผมไม่ได้คิดไปไกลจริงๆนี่จะเชื่อมั้ยเนี่ย
“บอก... ตอนนี้ไม่ได้รึไง”
“ไม่ใช่อะไรแบบที่มึงมึงคิดหรอกหน่า”
“อะไร้
คิดอะไรบ้าป่าวบ็อบคิดอะไรใครคิด” ฮันบินรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธพูดจนลิ้นเร็วพันกันฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“คิดว่ากูจะปล้ำมึงหรอ ฮันแน่ ลามกนะเราอะ”
บ็อบบี้เอานิ้วมาชี้ๆตรงหน้าอย่างจับผิดทำเอาคนโดนหน้าขึ้นสีอย่างห้ามไม่ได้
“เงียบไปเลยไป๊ๆๆ หนีไปนอนล้ะ” ฮันบินรีบเผ่นวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเองทันทีก่อนที่จะโดนแซวไปมากกว่านี้
“ถึงกับไปนอนรอบนห้องเลยหรอจ้ะที่ร้ากกกก”
ก็ยังไม่วายตะโกนแซวขึ้นมาอีกอะน้อคนเรา
รู้ก็รู้ว่ามันอายเนี่ยT__T
แกร็ก
เสียงเปิดประตูดังขึ้นภายในห้องมีแค่แสงสว่างจากโทรศัพท์ที่ฮันบินกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงเงียบๆ จะปิดไฟเล่นทำไมเดี๋ยวสายตาก็เสียกันพอดี
แต่ก็นะจะนอนแล้วก็ช่างมันเถอะ
“จะฟังข้อสามมั้ย” บ็อบบี้เอนตัวลงนอนข้างๆแล้วนอนตะแคงหันหน้าไปหาหันบิน
“อือๆฟังๆ” ฮันบินปิดหน้าจอโทรศัพท์ลงแล้วหันมานอนตะแคงเข้าหาบ็อบบี้
“เอาหน้ามาใกล้ๆมีไรจะบอก”
หลังจากที่บ็อบบี้กวักๆมือให้เข้ามาใกล้ๆฮันบินก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ตามที่บอกแบบงงๆ
ก่อนที่บ็อบบี้จะยืดตัวเล็กน้อยแล้วก้มลงไปหอมแก้มนิ่มเบาๆ
จุ้บ
“ไนท์คิส J”
ฮันบินที่โดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวถึงกับสตั้นนอนตัวแข็งอยู่ท่าเดิมแบบนั้น
หัวใจที่เต้นรัวอยู่ข้างในนี้มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนแทบจะบ้าตาย
“เห้ย เป็นอะไร” พอเห็นว่าคนข้างๆเงียบไปผิดปกติ หรือ เขาจะเล่นแรงเกินไปรึเปล่านะ
“อยู่ดีๆก็มาหอมแก้ม....”
“............??”
“ใครมันจะไปนอนหลับลงล่ะฮ่วยยย! เงียบๆแล้วอยู่เฉยๆไปเลยนะ”
พูดจบฮันบินก็พุ่งเข้าไปกอดคนข้างๆแบบเต็มกอด
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงมันค่อนข้างจะสับสนแต่ในเมื่อจู่โจมมาก็ต้องจู่โจมกลับ ขืนนอนมองหน้าแบบนั้นไม่ต้องได้นอนกันแน่ๆ
“5555”
“ฝันดี”
“ฝันดีแน่นอน นอนกอดกูแบบนี้55”
“บอกให้เงียบไง เงียบไปเลยนะ”
ดีนะที่ปิดไฟแล้วไม่งั้นเห็นหน้าเขาแดงถึงหูแน่ๆ
“รับทราบครับ”
เขาว่ามันไม่ปกติแล้วล่ะระหว่างเขากับบ็อบบี้
#ฟิคผ้าห่มฮันบิน
มาต่อให้แล้วนาจา
มาๆหายๆขอโต้ดดล่วยน้อ
ถ้าจะเปิดเรื่องใหม่จะให้พี่จินคู่กับใครดีอะ
ด้วบบบ
ความคิดเห็น