คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1
“เอาล่ะๆทุกคนมากันพร้อมแล้วใช่มั้ย” อาจารย์ใหญ่สุดเข้มกวาดสายตามองนักเรียนห้าสิบกว่าคน เขากัดฟันดังกรอดๆแล้วหน้าแดงโดยความโกรธ
“เจ้าเฟ็กแมธิคอยู่ไหน!!!” อาจารย์ใหญ่ตะโกนอย่างเกรียวกราดใส่นักเรียนทุกคน นักเรียนยมทูตมองหน้ากันและเริ่มพูดจอแจเรื่องของ ‘เฟ็กแมธิค’ บุคคลที่เป็นตำนานในเรื่องแย่ๆเสียๆ หากมีเรื่องชกต่อยกันที่โรงเรียน บ่อยครั้งที่จะมีแมธิคเป็นตัวตั้งตัวตีให้ทะเลาะกัน และจะมีการพนันเกิดขึ้น
“นั้นใครอยู่ตรงนั้นน่ะ” นักเรียนยมทูตคนหนึ่งพูด เขาชี้ไปทางบนกิ่งไม้ที่อยู่สูง ร่างของเด็กหนุ่มใส่หูฟังbeat สีดำ เขากระดิ่งขาอยู่บนต้นไม้เป็นจังหวะเพลง เปลือกตาเปิดมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าอย่างมีความสุข
“เห!มองอะไรกันอยู่หรอ” เด็กหนุ่มรู้สึกถึงสายตาของทุกคนจึงลืมตาถามขึ้นด้วยความสงสัย ดวงตาที่ดูซื่อไม่มีพิษภัยมองทุกคน
“เฟ็กแมธิคคุงลงมา เขาจะเลือกยมทูตที่จะขึ้นไปทำงานที่โลกมนุษย์นะ” หนึ่งในกลุ่มยมทูตตะโกนขึ้น แมธิคเขาทำหน้าเหมือนเข้าใจแล้วร้องอ้อยาว เขากระโนกางแขนกางขาลงมา
“หวา/หนีเร็ว/เฮ้ย” นักเรียนยมทูตแตกตื่นกับพฤติกรรมของแมธิค
“ฮ่าๆๆๆๆ” แมธิคหัวเราะร่วนขณะตกลงมาจากที่สูง
“เจ้าบ้าเฟ็กแมธิค” อาจารย์ใหญ่ร้องตะโกนด้วยความโกรธ+ความกลัว แมธิคหัวเราะดังลั่นมากกว่าเดิม
“สนุกออกครับอาจารย์ใหญ่ ฮ่าๆๆ ^^” แมธิคตะโกนตอบไป (เจ้าบ้า บ้าขนาดพี่ฉันยังอายเลย) แมธิคใกล้จะถึงพื้นแล้ว เขากางปีกสีดำมหึมาบินร่อนลง
“ฉันจะให้แก ไอ้แมธิคไปทำงานบนโลกมนุษย์” อาจารย์ใหญ่ตะโกนขึ้นด้วยความเกรียวโกรธขาดสติ นักเรียนทุกคนอึ้งทึ้งไปตามๆกัน การไปทำงานบนโลกมนุษย์โดยต้องควบคุมสมดุลระหว่างภพและนำพาวิญญาณไปพิภพคดีความ เป็นงานที่ต้องทำเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ของการจบจากโรงเรียนยมทูตแล้ว
“แต่ผมยังอย่างสนุกที่โรงเรียนM.O.D (messenger of death.)” แมธิคพุดด้วยเสียงเศร้าสร้อย พลางเอานิ้วจิ้มกัน
“ไปเตรียมตัวซะ!!!” อาจารย์ใหญ่ตะคอกใส่แมธิค เขากางปีกออกแล้วบินกลับไปบ้านอย่างซึมๆ แม่ของเขาเห็นแมธิคซึมๆไปจึงถาม เขาเล่าเรื่องที่อาจารย์ใหญ่พูดกับเขาทุกคำทุกประโยคให้แม่ของเขาฟัง
“ว้าว!แมธิคของแม่นี้เก่งจริงๆเลยนะ ได้ไปทำงานบนโลกมนุษย์แล้ว....” แม่ของเขาก็พล่ามไปเรื่อยๆ
“เดี๋ยวแม่โทรหาพ่อเราดีกว่านะ” แม่ของเขาพูดพลางเดินไปหยิบโทรศัพท์บ้าน โทรหาพ่อของแมธิค เขากับพ่อมีอะไรที่ไม่เหมือนกันคือ นิสัยของเขากับพ่อเข้ากันแทบไม่ได้ ลับหลังแม่ของแมธิค เขาจะทะเลาะกับพ่อประจำ พออยู่ต่อหน้าแม่ก็ทำเป็นดีใส่กันเนียนๆ เพื่อไม่ให้แม่ต้องคิดมากเรื่องของพวกเขา
“ไฟรช์จ้าผมมาแล้ว” เสียงอันทุ่มๆดังมาหน้าประตูบ้าน ‘น่ารำคาญจริ๊ง ไม่รู้แม่จะชวนมาทำไมเนี่ย อารมณ์เสียหมดบรรยากาศก็กรอยลงอีกโห่เอ้ย!!!’ แมธิคบ่นในใจ พร้อมกรอกลูกตาไปมาอย่างเซ็งๆ ร่างสูงๆเดินมาหยุดที่ตะข้างๆของเขา
“คาลม่า แมธิคได้ไปทำงานบนโลกมนุษย์แล้วนะค่ะ” แม่นั่งลงข้างหน้ามีชากับขนม แมธิคกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย
“จริงหรอ พ่อดีใจมากเลยแมธิคลูกพ่อ” คาลม่าพูดพร้อมโอบกอดลูกชาย
“เสแสร้งเก่งเหมือนเดิมนะพ่อ” แมธิคกระซิบเหน็บแนม พลางกอดคาลม่ากลับ
“แกก็เหมือนกัน” คาลม่าผละออก ไฟรช์มองทั้งสองด้วยสายตาร่าเริงสมชื่อ frisk แปลว่า ร่าเริง เธอยิ้มอย่างมีความสุขหารู้ไม่ว่า พ่อลูกคู่นี้จะฆ่ากันอยู่
“คาลม่าคุณมาที่นี้เจ้านายคุณไม่ว่าหรอค่ะ” ไฟรช์ถาม แม่ของแมธิคจัดได้ว่าเป็นยมทูตที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้ จึงไปเตะตาของซาตานตนหนึ่งนั้นก็คือเฟ็กคาลม่าพ่อของแมธิคนั้นเอง พวกท่านไปเจอกันตอนที่คาลม่านั้นฆ่าฆาตกรคนหนึ่งตามคำบรรณชาของเจ้านาย แล้วซีซ่าไฟรช์(นามสกุลเก่าของไฟรช์)ก็มารับวิญญาณ คาลม่าจึงชวนดื่มน้ำชากัน และได้พูดคุยเป็นเพื่อน แล้วเรื่อยขั้นไปเรื่อยๆเป็นสามีภรรยานั้นเอง ซึ้งทั้งคู่มีชีวิตรักที่มีสีสันไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งสองเป็นตำนานชีวิตคู่รักที่เป็นอมตะที่สุดของโลกนี้
“ไม่หรอก ผมบอกท่านว่า กระผมขอไปเยี่ยมครอบครัวของกระผมซักสองสามวันนะขอรับ......”คาลม่าพูดต่อไปเรื่อยๆ แมธิคหันไปมองคาลม่าทันที
[ณ ตอนกลางคืน]
แมธิคที่นอนไม่หลับเพราะเสียงเจี้ยวจ้าวของพ่อกับแม่ จึงลงมานั่งดื่มนมหลังบ้านที่มีสนามหินอ่อนสวยงามอยู่ เขาถอนหายใจออกมา
“นี้จะหลบอยู่นานมั้ย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ร่างของหญิงสาวผมสีทองสลวยติดกิ๊บรูปผีเสื้อสีแดงในชุดราตรีกระโปรงสั้นละเข่าผ่าข้างสีม่วงเสื้อคลุมแขนยาวครึ่งตัว
“นี้ๆทำไมถึงรู้ล่ะแมธิคคุง” เธอพูด พร้อมเขย่าแขนเขาอย่างถือวิสาษะ
“สังเกตมาสองสามวันแล้ว ทำไมเธอถึงยุ่งกับฉันนัก” แมธิคพูด เขาซดนมเข้าไปอีกแก้วหนึ่ง
“ก็แมธิคคุงจีซัสนี่นา” เธอพูด (จีซัส = ใช้เรียกผู้ชายที่หน้าตาดี)
“แอสเตอร์สินะ” แมธิคกระดกนมลงกระเพาะที่หิวโหยนมของเขา
“ใช่จ๊ะ แมธิคคุงรู้ชื่อของฉันด้วย”
“อย่ายุ่งกับฉันอีก” แมธิคเดิน กลับไปชุดยูกาตะสีม่วงคล้ำโอบิสีดำปลิวไสว ‘ท่านแมธิคเท่หล่อบาดใจแอสเตอร์ม๊ากมากค่ะ’ แมธิคเดินกลับไปที่ห้องล้มตัวนอนต่อ บ้านของเขาเป็นแบบญี่ปุ่นที่ใหญ่โตมโหระทึก ร่างของแอสเตอร์นั้นหายไปราวกับสายลมที่พัดผ่าน
[วันต่อมา]
แมธิคเดินไปเข้าแถวกับพวกนักเรียนที่จะไปทำงานที่โลกมนุษย์เบื้องบน เขาพบแอสเตอร์ที่กระดี๊กระด๊าเมื่อเห็นเขาเดินผ่านไป ‘เด็กผู้หญิงเป็นงี้หมดมั้ยเนี่ย’ เขาคิดพลางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายชีวิต
“เอาล่ะ ให้นักเรียนทั้งสิบคนไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสามประเทศเป็นคู่ๆ แต่จะแยกเป็นตอนเหนือกับตอนใต้ หรือตามเขตพื้นที่นะ” อาจารย์ใหญ่พูดอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม แมธิคแคะขี้หูอย่างถือวิสาษะเป็นอย่างมาก
“มูติเช่เธอไปที่ประเทศอิตาลี ที่แคว้นลาซีโอเมืองหลวงโรม มาเชลที่แคว้นลิกูเลียเมืองหลวงเจโนวา”
“เนโลวินเร่ประเทศรัสเซียดินแดนครัสโนยาสค์ แพนน่าแคว้นนิจนีนอฟโกรอด”
“เฟ็กแมธิคประเทศญี่ปุ่นเขตเฮียวโงะ รินารี่เขตกิฟุ แอสเตอร์เขตโอกินาวา แคนเขตฮกไกโด”
“ขอให้นักเรียนทุกคนโชคดี” อาจารย์ใหญ่อวยพรให้นักเรียนยมทูตที่จะไปทำงานจบการศึกษาที่โลกมนุษย์เป็นเวลาหกปีอย่างต่ำ หลังจากนั้นจะให้ไปทำงานตามคะแนนที่ทำงานจบการศึกษาของโรงเรียน 20 แกม ทำงานเป็นร.ป.ภ 30 แกม ทำงานนายแบบ 40 แกมทำงานเป็นยมทูตเงินเดือน 50 แกม ทำงานเป็นอาจารย์ 60 แกม ทำงานเป็นทหาร 70 แกม ทำงานเป็นขุนนาง 80 แกม ทำงานเป็นองครักษ์ 90 แกม ทำงานเป็นล่ามภาษา 100 แกม มีสิทธิ์เป็นรัฐญาติ ส่วน 10 แกม ทำงานพนักงานทำความสะอาด
“อาจารย์ซิกเมล เราจะไม่ได้เจอกันอีกหรอครับ” แมธิคกอดอาจารย์สาวที่ค่อยช่วยเขาอยู่ตลอดด้วยความรู้เหมือนขาดโล่กำบังตัวเองไป
“เฟ็กอาจารย์เป็นเพื่อนกับแม่เธอนะ เราสามารถติดต่อกันได้ไม่ต้องห่วงจ๊ะ ^^” อาจารย์ซิกเมลพูดพลางลูบหัวแมธิคอย่างเอ็นดู เธอคิดว่าเขาเป็นลูกชายของเธอคนหนึ่งเหมือนกันเพราะเธอมาเยี่ยมไฟรช์ตอนท้องอ่อนๆถึงแมธิคอายุหกขวบ และเธอไม่ลงรอยกับคาลม่าสามีของเพื่อนรัก(เพราะบังอาจมาทำเพื่อนรักของฉันทรมานที่ต้องอุ้มท้อง ให้อภัยไม่ได้ตายซะเถอะเจ้าซาตานคาลม่าบ้าป่าเถื่อน ย้ากกกกก!!! .\[]/.)
“ครับอาจารย์ ^-^” แมธิคผละออกมาจากอาจารย์ซิกเมลด้วยท่าทางไม่อยากจากไปไหน แต่ในใจนั้น.... ‘ยะหู้! แฮปปี้ลัคกี้สุดๆ จะได้ออกจากโรงเรียนม็อดแล้วโว้ย กิ้วๆๆ ชาวโลกล้างคอเตรียมไว้เลยนะ ฮ่าๆๆๆ’ นี้แหละเฟ็กแมธิคตรงข้ามกับชื่อที่แปลว่า เฉยชาเสียจริง
“แมธิครักษาตัวดีๆนะลูก” ไฟรช์โบกลาลูกชายที่เดินทางด้วยรถไฟเหาะของยมทูต แมธิคยื่นหัวออกไปโบกมือกลับให้แม่เขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“แมธิคอย่าก่อเรื่องที่นั้นนะ” คาลม่าที่ตามมาด้วยตะโกนกลับไป แมธิคโบกมือพร้อมทำหน้าแหยๆให้คาลม่า
ปลัก ตุบ ผลัวะ ตับ ตุบ ตึง !!!
อาจารย์ซิกเมลที่เอาเก้าอี้พับเหล็กฟาดคาลม่าจนเขาล้ม แต่ก็ฟาดไม่อยู่จนคาลม่ายกธงขาวยอมแพ้ให้อาจารย์ซิกเมล แมธิคที่เห็นจึงหัวเราะและโบกมือให้อาจารย์ซิกเมลอย่างเอาเป็นเอาตายสุดชีวิต
“แมธิคไปโลกมนุษย์ดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะ” อาจารย์ซิกเมลตะโกน พร้อมโบกมือที่ถือเก้าอี้พับเหล็กไปมา
“ครับ อาจารย์.... เรียกพี่สาวดีกว่า ผมไปแล้วนะครับพี่ซิกเมล ^^;” แมธิคตะโกนกลับไปบอกอาจารย์สาวที่ยิ้มร่าอย่างมีความสุข
“แมธิคคุงเนี่ยรักอาจารย์ซิกเมลเหมือนแม่เลยเนอะ” แอสเตอร์ที่แทรกระหว่างแมธิคกับแคนก็พูดขึ้น แมธิครู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากที่มีแอสเตอร์อยู่ด้วยตลอดการเดินทางของเขาในครั้งนี้เป็นที่สุด เขาเปลี่ยนที่นั่งไปนั่งข้างรินารี่
“แคนตอนแรกนายคิดว่านายจะได้ไปประเทศอะไรว่ะ” แมธิคถามแคนเพื่อนที่รู้จักกัน โดยไม่สนใจแอสเตอร์ที่ถามเขาเลย
“ฟิลิปปิน นายอ่ะแมค” เขาเรียกกันอย่างสนิทสนม แมธิคมองนอกหน้าต่าง แล้วหันมายิ้มให้อย่างอ่อนหวาน
“รัฐแท็คซัส ^^” เขาตอบ ทำเอาเพื่อนๆตกตะลึงงึงงันกัน แอสเตอร์เองก็ตกตะลึง
“โฮ!!!” เพื่อนๆพากันร้อง เขาคิดสูงจริงๆพ่อคนนี้ (ซูฮกๆ)
“รินารี่ล่ะ” แมธิคหันไปถาม รินารี่ที่ม้วนผมสีเขียวเล่นอยู่
“ฮังกาเรี่ยนน่ะ” เธอตอบ พร้อมมองแมธิคอย่างหลบๆสายตาเขา แมธิคเห็นท่าทางของเธอแล้วจึงหัวเราะลั่นออกมาด้วยความตลก
“เธอนี่น่า ไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายเกินหนึ่งเมตรรึไง” แมธิคพูด พลางโยกหัวรินารี่ไปมา เขาชอบยอกเล่นกับเด็กผู้หญิงอย่างนี้ทุกคน แอสเตอร์ที่เห็นก็เริ่มอิจฉารินารี่ขึ้นมา ‘เชอะ! ยัยนั้นมีดีตรงไหนกันแมธิคคุงถึงยอกเล่นด้วยท่าทางสนิทสนมแบบนั้น’ รินารี่ที่รู้สึกถึงสายตาของแอสเตอร์เธอจึงมองกลับไป แล้วเกิดสงครามระหว่างสองสาวทางสายตาเกิดขึ้น
‘นี่เธอดูตัวเองซะบ้างนะ แมธิคคุงเป็นของฉัน’ <<< แอสเตอร์
‘ต๊าย! เธอนึกว่าตัวเองเป็นใครแมธิคต้องเป็นของฉันย่ะ’ <<< รินารี่
‘แกมันก็แค่ตัวสำรองของเขา’ <<< แอสเตอร์
‘นี่ เธอจะบอกว่าตัวจริงขิงเขาคือเธอว่างั้น’ <<< รินารี่
‘ใช่ ยัยตัวสำรอง > [] <’ <<< แอสเตอร์
‘เธอมีตาไว้ดูไฝรึไง แมธิคเขายอกเล่นกับฉัน แต่กับเธอเขายังไม่อยากจะนั่งใกล้ แถมไม่ตอบคำถามที่เธอถามด้วยซ้ำ’ <<< รินารี่
‘แกยัยบ้า กล้ามาแย่งแมธิคไปจากฉันงั้นหรอ’ <<< แอสเตอร์
‘มาดูกันป่ะล่ะ ว่าแมธิคสนใจใครมากกว่ากัน’ <<< รินารี่
‘ได้’ <<< แอสเตอร์
“ฮะ คะ...คุณแอสเตอร์ค่ะ ยะยะ อย่ามองรินารี่ ด้วยสายตาแบบนั้นสิค่ะ ....ฉะฉะ ฉันกลัวค่ะ >C<” รินารี่พูด เธอหดตัวให้เล็กลงเสแสร้งทำแววตากลัวแอสเตอร์ ตอนนี้เธอได้เข้าไปซุกอยู่ใกล้ๆแมธิค เธอเกาะแขนเขาด้วยอาการ(เสแสร้ง)กลัว
“แอสเตอร์เธอเลิกมองรินารี่ด้วยสายตาจะฆ่าเขาซะทีเถอะ” แมธิคที่เห็นสายตาที่แอสเตอร์มองรินารี่พูดด้วยความเฉยชา ทุกคนที่เห็นสายตาของแอสเตอร์ต่างก็กลัวกันหัวหด รินารี่ที่ใช้ประโยชน์จากคู่แข่งก็แอบยิ้มเล็กน้อย เธอกระตุกแขนเสื้อเขาเบาๆ
“มีอะไรหรอ” เขาถาม
“ฉันกลัว .....แอส แอสเตอร์ แมธิคช่วยพาฉันไปจากตรงนี้เถอะนะแมธิคนะ ขอร้อง” รินารี่เขย่าแขนเสื้อเขาด้วยท่าทางที่อยากจะบอกว่า ‘น่ากลัวจังเลย รีบพาฉันไปจากนี้ที’ แมธิคลุกขึ้นพร้อมเดินไปทางอื่นกับรินารี่โดนมีแคนตามมาด้วยเป็นเพื่อนกับแมธิค แอสเตอร์ที่เห็นก็กดดวงตาให้หรี่เล็กจนน่ากลัว ‘หน่อยแหนะ -_-+’ แอสเตอร์มองทั้งสามคนด้วยสายตาจิกกัด
ความคิดเห็น