ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อดีตในอนาคต
        ระหว่างที่สาวน้อย กำลังเคริมกับภาพเหตุการณ์เหล่านั้นอยู่  เสียงจากคนมากมายที่ดูวุ่นวายก็เริ่มหายไป จากคนมากมายก็เหลือเพียงไม่กี่กลุ่ม จากไม่กี่กลุ่ม ก็เหลือเพียงกลุ่มของเธอในอดีตเท่านั้น มัน............มันดูเงียบไปถนัดตาจริงๆ
        “เกิด.........เกิดอะไรขึ้น ทุกคนหายไปไหนกันหมด”
          จากหัวเราะเป็นนิ่งเงียบอย่างน่าฉงนยิ่งนัก และ......และหายไป ทุกคนหายไปกันหมดแล้ว สาวน้อยยังคงมองดูภาพเหตุการณ์นั้นเพียงลำพัง
          “แอ็ด.........” ทันใดนั้นประตูทางเข้าตึกเรียนก็เปิดขึ้น เธอเดินเข้าไปตามทางเดิน ทางเดินนี้ยาวซะจนไม่สามารถมองเห็นปลายทางของมันได้ เธอยังคงรู้สึกได้ถึงภาพซ้อนอยู่ตลอดเวลา เธอเห็นเพื่อนของเธอกำลังหยอกล้อกัน บ้างก็นินทากัน แต่แล้วมันก็หายไปเหมือนเพียงภาพหลอนเท่านั้น
          “ต๊อก ต๊อก ต๊อก........”เธอรู้สึกว่าอะไรบางอย่างดลใจเธอให้เธอเปิดประตูที่อยู่ทางขวามือของเธอ ประตูแห่งความทรงจำ ประตูของห้องซ้อมดนตรี
          เธอเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง และแล้วเธอพบว่ามีบางสิ่งอยู่ส่วนหลังของห้องตกอยู่ เธอค่อยๆเดินไปข้างหลังอย่างสงสัยมาก “เพลงสายตะวัน”
มัน..........มันเป็นเพียงกระดาษโน้ตใบหนึ่งเท่านั้นสำหรับคนทั่วไป แต่เธอนั้นกับรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอมองโน้ตเหล่านั้นด้วยความอ่อนโยนที่ลึกซึ้ง โน้ตเหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างเธอขึ้นมาจากเด็กสาวที่ไม่รู้ตัวโน้ตสักตัวสู่นักดนตรีอันดับหนึ่งของโรงเรียน เธอไม่มีวันลืมมันเด็ดขาด โดยเฉพาะ “เพลงสายตะวัน” เพลงที่ทำให้เธอมีกำลังใจในการฝึกซ้อม และยังเป็นเพลงแรกที่เธอสามารถเป่าฟลุตได้อีกด้วย
        เธอเริ่มเป่าบทเพลงนั้นอย่างไพเราะ เสียงนั้นก้องกังวานไกลโค้นไปสู่ทุกมุมห้อง ทุกสิ่งราวกับหยุดคล้อยตามเพลงของเธอ ในขณะที่เธอกำลังเคลิ้มอยู่นั้น เธอหยุดแล้วลืมตาด้วยสายตาแห่งความสงบ และเธอสังเกตเห็นว่าปัจจุบันนี้ห้องนี้มิใช่ห้องดนตรีอีกต่อไปแล้ว  มัน...........มันกลายเป็นห้องเรียนประวัติศาสตร์ไปแล้ว ทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์ก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
      “มายา มายา!!! เธอจะไปทัศนศึกษาที่เมืองจีนกับฉันไหม น่าหนุกนะจ้ะ ฉันอยากไปมากๆเลย แล้วยิ่งเธอด้วยแล้ว สาวน้อยประวัติศาสตร์ ไม่อยากไปด้วยเหรอ”
        “อือ..........ฉันก็อยากไปอยู่นะ แต่..............”
        “ริวจิก็ไปด้วยนะ น้าๆ ไปด้วยกันเถอะ”
        “อืม.....................ก็ได้แต่เธอต้องไปด้วยกันนะ ฉันไม่อยากไปคนเดียว”
        “แน่นอนจ้ะ เราเคยห่างกันซะที่ไหนละ ปะไปบอกคุณครูกันดีกว่า”
สาวน้อยทั้งสองเดินออกจากประตูห้องไปอย่างรีบร้อน ใช่....ใช่เธอยังคงจำมันได้ มันเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนพลันชีวิตของเธอมาจนอยู่ ณ จุดนี้
        “สาวน้อย............. สาวน้อย พอได้แล้ว พอเพียงแล้วกับสิ่งที่เจ้าได้รับ ข้ารู้ ข้าเห็น ข้ารู้สึกได้ จากความเป็นจริงสู่อดีต อดีตสู่อนาคต และอนาคตสู่ปัจจุบันที่เจ้าควรจะเป็น ยัง....ยังมีหลายสิ่งอีกมากมายที่เจ้าควรจะทำ เจ้าจะจมปรักกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ มา......จงก้าวมาพร้อมกับจิตใจอันบริสุทธิ์ จิตใจแห่งความบริสุทธิ์” มันเป็นเสียงที่เยือกเย็นมากแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความหวังและความอ่อนโยน และก็มายาก้าวไปอย่างช้าๆสู่แสงสว่างแห่งความจริง
                                                    To be continued
        “เกิด.........เกิดอะไรขึ้น ทุกคนหายไปไหนกันหมด”
          จากหัวเราะเป็นนิ่งเงียบอย่างน่าฉงนยิ่งนัก และ......และหายไป ทุกคนหายไปกันหมดแล้ว สาวน้อยยังคงมองดูภาพเหตุการณ์นั้นเพียงลำพัง
          “แอ็ด.........” ทันใดนั้นประตูทางเข้าตึกเรียนก็เปิดขึ้น เธอเดินเข้าไปตามทางเดิน ทางเดินนี้ยาวซะจนไม่สามารถมองเห็นปลายทางของมันได้ เธอยังคงรู้สึกได้ถึงภาพซ้อนอยู่ตลอดเวลา เธอเห็นเพื่อนของเธอกำลังหยอกล้อกัน บ้างก็นินทากัน แต่แล้วมันก็หายไปเหมือนเพียงภาพหลอนเท่านั้น
          “ต๊อก ต๊อก ต๊อก........”เธอรู้สึกว่าอะไรบางอย่างดลใจเธอให้เธอเปิดประตูที่อยู่ทางขวามือของเธอ ประตูแห่งความทรงจำ ประตูของห้องซ้อมดนตรี
          เธอเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง และแล้วเธอพบว่ามีบางสิ่งอยู่ส่วนหลังของห้องตกอยู่ เธอค่อยๆเดินไปข้างหลังอย่างสงสัยมาก “เพลงสายตะวัน”
มัน..........มันเป็นเพียงกระดาษโน้ตใบหนึ่งเท่านั้นสำหรับคนทั่วไป แต่เธอนั้นกับรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอมองโน้ตเหล่านั้นด้วยความอ่อนโยนที่ลึกซึ้ง โน้ตเหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างเธอขึ้นมาจากเด็กสาวที่ไม่รู้ตัวโน้ตสักตัวสู่นักดนตรีอันดับหนึ่งของโรงเรียน เธอไม่มีวันลืมมันเด็ดขาด โดยเฉพาะ “เพลงสายตะวัน” เพลงที่ทำให้เธอมีกำลังใจในการฝึกซ้อม และยังเป็นเพลงแรกที่เธอสามารถเป่าฟลุตได้อีกด้วย
        เธอเริ่มเป่าบทเพลงนั้นอย่างไพเราะ เสียงนั้นก้องกังวานไกลโค้นไปสู่ทุกมุมห้อง ทุกสิ่งราวกับหยุดคล้อยตามเพลงของเธอ ในขณะที่เธอกำลังเคลิ้มอยู่นั้น เธอหยุดแล้วลืมตาด้วยสายตาแห่งความสงบ และเธอสังเกตเห็นว่าปัจจุบันนี้ห้องนี้มิใช่ห้องดนตรีอีกต่อไปแล้ว  มัน...........มันกลายเป็นห้องเรียนประวัติศาสตร์ไปแล้ว ทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์ก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
      “มายา มายา!!! เธอจะไปทัศนศึกษาที่เมืองจีนกับฉันไหม น่าหนุกนะจ้ะ ฉันอยากไปมากๆเลย แล้วยิ่งเธอด้วยแล้ว สาวน้อยประวัติศาสตร์ ไม่อยากไปด้วยเหรอ”
        “อือ..........ฉันก็อยากไปอยู่นะ แต่..............”
        “ริวจิก็ไปด้วยนะ น้าๆ ไปด้วยกันเถอะ”
        “อืม.....................ก็ได้แต่เธอต้องไปด้วยกันนะ ฉันไม่อยากไปคนเดียว”
        “แน่นอนจ้ะ เราเคยห่างกันซะที่ไหนละ ปะไปบอกคุณครูกันดีกว่า”
สาวน้อยทั้งสองเดินออกจากประตูห้องไปอย่างรีบร้อน ใช่....ใช่เธอยังคงจำมันได้ มันเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนพลันชีวิตของเธอมาจนอยู่ ณ จุดนี้
        “สาวน้อย............. สาวน้อย พอได้แล้ว พอเพียงแล้วกับสิ่งที่เจ้าได้รับ ข้ารู้ ข้าเห็น ข้ารู้สึกได้ จากความเป็นจริงสู่อดีต อดีตสู่อนาคต และอนาคตสู่ปัจจุบันที่เจ้าควรจะเป็น ยัง....ยังมีหลายสิ่งอีกมากมายที่เจ้าควรจะทำ เจ้าจะจมปรักกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ มา......จงก้าวมาพร้อมกับจิตใจอันบริสุทธิ์ จิตใจแห่งความบริสุทธิ์” มันเป็นเสียงที่เยือกเย็นมากแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความหวังและความอ่อนโยน และก็มายาก้าวไปอย่างช้าๆสู่แสงสว่างแห่งความจริง
                                                    To be continued
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น