ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ริวจิ ชายผู้ไร้ประกายแห่งชีวิต
            “มายา    มายา!!”  ริวจิตกใจตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการที่มึนงงอย่างมาก เขารู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เขาได้ฝัน  “มายา เธอจะเป็นเช่นไรบ้าง ป่านนี้เธอจะอยู่ที่ไหนแล้ว” เขาคิดถึงแต่มายาเพียงคนเดียวเท่านั้นจน..............จนเขาไม่ได้ทำสิ่งใดเลย ไม่ได้ทำแม้กระทั่งขยับตัวเพียงเล็กน้อย ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาคิดคือ มายาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
            แต่แล้วความเจ็บปวดก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรุนแรง เขาไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับตัวเขา เขาเพียงดิ้นรนเพื่อจะหายจากความเจ็บปวดอันร้ายแรงนี้ แต่เมื่อเขายิ่งพยายามที่จะหาทางหลุดพ้นจากความเจ็บปวดเหล่านี้
แต่แล้วเขาก็พยายามกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อต้องการจะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขา........เขากลับเห็นเข็มนับร้อยนับพันเจาะทิ่มและจัดวางอย่างเป็นระเบียบบนร่างกายของเขา แต่สิ่งที่อยู่บนร่างกายของเขานี้หรอ....สิ่งนี้หรือที่ทำให้เขาเจ็บปวดแสนสาหัส เขาพยายามที่จะดึงมันออกอย่างเต็มกำลังที่เขามีอยู่ แต่มัน! กลับยิ่งจมดิ่งลึกลงไป มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งขึ้นอย่างแสนสาหัส จน........จน “มายา..........มายา”เขาตะโกนขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันกลับเป็นเสียง........เสียงแห่งความเจ็บปวดโดยแฝงความรักจนสุดหัวใจที่มีต่อเจ้าหญิงของเขา มายาริ
              “อะไร อะไรกัน เราอยู่ที่ไหนเนี้ย” เขาคิดในใจอยางสงสัย เพราะภาพบรรยากาศที่ผ่านเข้าสู่ ดวงตาอันไร้ประกายแห่งชีวิตนั้น มันเป็นสิ่งที่เขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เขาเห็นอย่างที่เขาเคยเห็นแต่............เอะ! นั้นร่างกายของเขาเองที่นอนราบอยู่บนพื้นห้อง และครั้งนี้เองเป็นครั้งแรกที่เขาได้สังเกตเห็นบรรยากาศโดยรอบ มัน.......มันชั่งเหมือน เหมือนๆ อะไรน้า เขานึกอยู่นานแต่ก็ยังคงนึกไม่ออกว่าคือที่นี้คือที่ไหน เขานึกไม่ออกแต่เพียงรู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก และแล้วเธอผู้นั้นก็เข้ามา
            หญิงงามผู้นี้ค่อนข้างตกใจกับอาการของร่างกายเขาอย่างมาก นางเดินไปนั่งคุกเข่าลงพลางขยับเข็มเหล่านั้นด้วยความคล่องแคล่วรวดเร็ว เขาแทบไม่เชื่อสายตาเพราะมือของเธอนั้นมีความรวดเร็วและแม่นยำมาก...............มากสะจนเขามองไม่ออกเลยว่าเข็มนับพันเหล่านี้ได้ถูกเธอเคลื่อนย้ายไปตามตำแหน่งต่างๆอย่างเรียบร้อยแล้ว และยังคงเป็นระเบียบสวยงามอย่างมาก สายตาของเขาก็เริ่มมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของนาง สีหน้าของนางค่อนข้างเปลี่ยนไปจากตอนที่นางเขามา เมื่อตอนที่นางเข้ามา นางมีสีหน้าขาวประดุจดั่งไข่มุก ตาของนางเรียวและดูน่ารักมาก คิ้วของนั้นโค้งอย่างเป็นธรรมชาติที่สวยงาม นางมีหน้าตาและบุคลิกภาพที่ดีมาก มากซะจนว่าถ้าเขาไม่มีมายาอยู่ในหัวใจของเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาคงอาจจะหลงเสน่ห์ไปตามรูปโฉมของนาง ผู้นี้ไปแล้ว เขาแทบคิดไม่ออกว่าถ้านางยิ้ม นางจะน่ารักได้ขนาดไหนกัน
            “วิญญาณของเขาได้ออกจากร่างไปแล้ว มันช้าไปแล้วหรือนี้ เห็นทีข้าจะต้อง” เสียงอันแข็งแกร่งและห่วงใยก็ตอบโต้กลับมาว่า “คุณหนูอย่าเลยนะคะ แล้ว....แล้วถ้าเขาเป็น” นางค่อนข้างมีอายุแล้ว นางมาจากที่ใดก็ไม่รู้ นั่งอยู่ในระหว่างประตูทางเข้าของห้อง โดยพยายามจะแสดงความรู้สึกที่เป็นห่วงคุณหนูของเธอ
              “ท่านมีเหตุผลประการใดที่ต้องการจะขัดข้าเมื่อข้าต้องการจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน” “คุณหนูท่านกล่าวแรงเกินไปหรือไม่ อันประการนั้นแม่นมมีอยู่ อนึ่ง ข้ารักคุณหนูใจจะขาดคุณหนูเปรียบเสมือน ลูกของตน ข้ามิอยากให้คุณตกอยู่ในอันตราย อีกประการหนึ่งบุรุษผู้นี้เป็นผู้ใดมาจากไหนมิมีใครทราบถ้าเป็นพวกนินจบากิ แล้วท่านจะทำเช่นไร ประการสุดท้าย ถ้าท่านประมุขรู้เข้าคุณหนูจะถูกลงโทษนะคะ”
            “แล้วท่านจะให้ข้าทำเยี่ยงไร จะปล่อยให้เห็นเขาตายไปต่อหน้าต่อข้างั้นหรือ หรือว่าท่านทนได้” “ข้าทนได้คะคุณหนูแต่ข้าจะไม่ทนเห็นท่านตกอยู่ในอันตรายไม่ได้โดยเด็ดขาด ได้โปรด......คุณหนู คุณหนูคะ”
            “แม่นมท่านอย่าได้กล่าวสิ่งใดอีกต่อไปเลย ข้ารู้ว่าท่านเจ็บปวดอย่างมากที่ข้าจะเสี่ยงช่วยบุรุษผู้นี้ ได้โปรดเห็นแก่ข้า ผู้เป็นบุตรีเลี้ยงของท่าน ข้ามิอาจปล่อยให้บุรุษผู้นี้ตายไปโดยไร้การช่วยเหลือที่ข้าพอจะทำได้ แม่นมโปรดเข้าใจข้าด้วย”
            หญิงสาวแข็งใจออกคำสั่งด้วยเสียงอันแน่วแน่ โดยมิคำนึงถึงอันตรายต่างๆที่กำลังจะผ่านเข้ามาในเวลาอันสั้น “จงสั่งออกไป นำวารีทิพย์แห่งน้ำพุร้อนซูงิคาเระมาประมาณสองถังที่สร้างด้วยเปลือกไม้หอมอมจันทร์ของต้นซากุระงิ จงเร่งไปเถอด ก่อนตะวันรุ่ง 3 ชั่วยาม ข้าจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านั้น พวกท่านได้โปรดเข้าใจข้าด้วย”นางออกคำสั่งพร้อมกับขยิบตาให้กับแม่นมของนางราวอยากจะบอกกับนางว่ามิต้องห่วง นางจะระมัดระวังให้มากที่สุด
        “คะ นายหญิงน้อย” หญิงชรารับคำสั่ง พร้อมกับแอบยิ้มอย่างยินดีกับที่คุณหนูของนาง ได้แสดงความกล้าหาญออกมาพร้อมกับจิตใจที่บริสุทธ์และดีงาม นางเองก็อดดีใจมิได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโตเกือบ20ปีแล้ว ที่เด็กสาวแสนซนคนนี้ได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างน่าภูมิใจ
              ................................................. ............................................................. ......................................................... ..................................................................
“ริวจิ..........ริวจิ!!!!” มายาสดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการที่เป็นห่วงริวจิเป็นอย่างมาก เธอ.....เธอได้ยินเสียงของริวจิเต็มสองหูของเธอ เธอไม่อยากจะคิดว่าเขาประสบเหตุการณ์ร้ายๆ และ พยายามที่จะนอนหลับต่อ แต่แล้วเธอก็อดคิดถึงเขาไม่ได้ ริวจิ......ชายผู้สูญเสียประกายแห่งชีวิตไป.......
            เข็มแล้ว เข็มเล่ามิมีวันหมด นางพยายามที่จะดึงเข็มฟื้นชีพจรเหล่านั้นออกมาให้หมดอย่างระมัดระวัง สายตาของของนางนั้นได้กาดไปทั่วทั้งร่ายกายของเขาโดยมีสาเหตุอะไรบางอย่าง นาง......นางกำลังหาจุดชีพจรหลักของชายหนุ่มผู้นี้
            คนเราทุกคนย่อมมีจุดชีพจรหลักกันทุกคน แต่จุดเหล่านั้นของแต่ละคนจะอยู่ตำแหน่งไม่เหมือนกัน บ้างก็มีที่แขน บ้างก็มีที่ข้อมือ บ้างก็มีที่หลัง และก็มีที่ท้อง จุดชีพจรหลักนี้ ถ้าเปรียบได้คงจะเป็นจุดที่อ่อนแอและสำคัญที่สุดในร่างกายของเรา หรือถ้าพูดกันง่ายๆมันก็คือจุดอ่อนของร่างกายเรานั้นเอง
และแล้วหลังจากนางจ้องพินิจพิจารณาจุดๆหนึ่งอยู่เป็นเวลานาน จนนางตัดสินใจได้ นางหยิบเข็มด้ามเล็กขึ้นมาอีกครั้ง แต่.....มันแปลกไปกว่าทุกด้ามที่นางเคยใช้มา มันคือเข็มประจำตัวของนางนั้นเอง เข็มเป็นสีขาวนวล แต่มีความวาวยิ่งนัก ลักษณะของเข็มนั้นสื่อได้ถึงจิตใจของเจ้าของ และจิตใจของเจ้าของนั้นก็ยังประสานกับจุดขั้วของเข็ม นี้คือสุดยอดวิชารักษาแห่งหมู่บ้าน วิชาคืนเข็มโคจรคืนชีวา เป็นวิชาที่เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก ผู้ที่ใช้วิชานี้จำเป็นจะต้องมีพรสวรรค์อย่างมากและต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธ์ ขนาดพ่อของนางเองยังไม่สามารถใช้วิชานี้ได้เลยเพราะว่าถ้าพลาดพลั่งเพียงเล็กน้อยธาตุไฟสามารถเข้าแทรกได้ทุกเมื่อ
            นางค่อยๆร่ายพลังบนเข็มลงอย่างช้าๆ และ.....................จิตใจสงบ มีสติ จน จนถึงเวลาที่เหมาะสม....................นางทิ่มเข็มเข้าไปอย่างจังที่หน้าผากของเขา แต่.....แต่มันกลับไม่มีแม้แต่เลือดหรือลอยช้ำแม้แต่น้อย หรือนางสำหรับวิชารักษา3สุดขั้วบริสุทธ์แล้ว นี้คงเป็นเพราะความเพียรพยายามและพรสวรรค์ของนางที่ต้องการที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของแม่ของนางเพื่อจะช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วย นางเริ่มฝึกวิชานี้ตั้งแต่เล็กจนเติบโตจนทุกวันนี้ความสามารถของนางมีมากกว่าเซียนโอสถด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายด้วยร่างกายอันอ่อนแออของนาง นางจึงมิสามารถจะทำสิ่งใดได้มากมาย.........
            เข็มนั้นก็ค่อยๆปักหายไปเรื่อยๆพร้อมกับที่นางพยายามตั้งสมาธิควบคุมเข็มเล่มนั้นอยู่จากหน้าผากสู่หน้า จากหน้าสู่หน้าอก จากหน้าอกสู่หัวใจและปักลงอย่างนุ่มนวลและนางค่อยๆถ่ายพลังลงไปอย่างช้าๆ แต่แล้วภาพๆหนึ่งก็ดิ่งเข้าสู่สติของนาง นางเห็น.....หญิงสาวผู้น่ารักมาก นางคือใครกันน้า หรือว่าสิ่งที่ท่านแม่จะเป็นจริง ข้า....................... ข้าขอโทษ
            “เธอกำลังทำสิ่งใดอยู่ เธอ.............จะทำอะไรกับร่างกายของเรา เอะ เอะนี้มัน”เขารู้สึกแน่นหน้าอกมาก จน..................จนเขามองสิ่งใดไม่เห็นอีกแล้วสิ่งที่เขาเห็นเพียงสิ่งเดียวตอนนี้คือความมืดที่กำลังปกคลุมร่างกายของเขาอย่างช้าๆ
           
            คืนนี้ชั่งเป็นคืนที่มืดมนยิ่งนัก ลมก็โหมกระหน่ำเป็นอย่างมาก ต้นไม้ที่มีอายุไขเกินกว่า100ปียังเอนโค้ง จนรูสึกได้ถึงภัยอันตรายที่ร้ายแรงของวายุที่กำลังโหมกระหน่ำ และแล้วเสียงหัวเราะที่ดังมากก็ปรากฏขึ้นมา มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่ากลัวมาก ใช่มันจะต้องไม่ธรรมดาซะแล้ว ชายชุดดำมากมายวิ่งผ่านลงเขาสูงชันอย่างรวดเร็ว พวกเขาเคลื่อนไหวเร็วมากโดยคนในหมู่บ้านมิอาจสังเกตเห็น ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่อยู่บนยอดเขากำลังร่ายมนต์แห่งวาตภัยอยู่ ไม่ผิดแน่พวกมันมากันแล้ว
            หมู่บ้านแห่งนี้ก็มิแพ้กัน ถึงแม้ลมจะแรงเพียงใด หญิงชราผู้นั้นยังคงคุมกำลังรักษาหมู่บ้านอย่างแน่นหนา ยิ่งไปกว่านั้นคือบริเวณโดยรอบแม้แมลงสักตัวยังมิปรากฏ นี้.............นี้มันเกิดสิ่งใดขึ้นเนี้ย
            “เพล้งๆ ...........ตรุบ!!” เสียงแจกันตกแตกดังมาจากห้องทำพิธี มันเป็นเสียงที่ดังไม่มาก แต่ก็มิอาจจะหลุดพ้นการสังเกตของแม่นมไปได้ นางรีบโผล่เข้าห้องไปพร้อมกับความหวังที่เต็มเปี่ยมว่าคุณหนูคงจะไม่เป็นไร แต่เสียงนี้นเอง หูอันเฉียบคมของชายบนยอดเขาก็ได้ยินเข้าจนได้ “55555555 วันนี้หมู่บ้านของไอ้แก้ซามุริโต้ต้องถูกทำลาย5555555”
            หญิงชราโผล่เข้าห้องนั้นอย่างรวดเร็ว และได้พบกับคุณหนูของนางที่ตกอยู่ในสภาพหมดเรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง จนแทบไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ “แม่นมคะ ช่วยพยุงหนูหน่อยคะ” หญิงชราเรียบพยุงตัวนาง และพยายามพานาง
ไปที่ห้องพัก เพื่อจะให้นางรักษาตัวให้หายดี แต่นางก็กลับได้พูดบางสิ่งก่อนที่จะไป “ตอนนี้ก็คงต้องขึ้นกับชะตาของเขาแล้วข้าช่วยได้เพียงเท่านี้และ...........”นางเริ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหม่อง “ไปเถอะคะคุณหนู”
            ในขณะที่แม่นมกำลังวางหญิงสาวลงบนที่นอนอันนุ่มนวลนั้น แม่นมก็ได้ขอถามนางอีกหนึ่งข้อว่า “คุณหนูคะ จะให้ทำสิ่งใดกลับชายหนุ่มผู้นั้น.....?” “ท่านได้โปรดนำวารีทิพย์นั้นไปให้ชายผู้นั้นอาบเมื่อเขาตื่นขึ้นมา แต่..............แต่” “แต่อะไรคะ คุณหนู” “ในพิธีนั้นข้าจำเป็นจะต้องทำสิ่งหนึ่งนั้นคือ ข้า.......ข้าได้ทำลายความรักอันสูงสุดของเขาที่มีต่อ...........เจ้าหญิงของเขา ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ........... ท่านว่าข้าทำผิดมากไหม” แม่นมของนางมิตอบสิ่งใด นางเพียงส่งสายตาเพื่อบอกให้นางรู้ว่า นางได้ทำเท่าที่นางสามารถทำได้แล้ว เพื่อรักษาชีวิตเขาไว้ นางไม่ผิดหรอก ไม่มีผู้ใดที่ผิดสักคน
              แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงนี้เป็นเสียงที่รุนแรงจริงๆ นางตัดสินใจมองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่นางได้เห็นมันไม่ต่างอะไรไปจากนรก การฆ่าอย่างโหดเหี้ยมได้เกิดขึ้นมากมาย  ชายชุดดำผู้ฝึกวิชานินจัตสึมาจากไหนก็ไม่รู้มากมาย นางรีบพาคุณหนูของนางไปที่ปลอดภัย ระหว่างทางนางผ่านห้องทำพิธี นางหยุดและคิดตัดสินใจสักพัก และแล้วนางก็ราดวารีทิพย์ทั้งสองถังลงบนร่างกายของเขาจนหมด พร้อมกลับกล่าวว่า “ชะตาฟ้าลิขิต ถ้าเจ้ามีวาสนาต่อคุณหนูและข้าอีก คงจะได้พบกัน”และนางก็รีบวิ่งไปพร้อมกับอุ้มร่างของหญิงสาวไว้ นางวิ่งๆ ....วิ่งไปจนถึงช่องแคบของเทือกเขาแห่งหนึ่งนางหันหลังกลับไปเพื่อมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านของนาง สีแดงของไฟเปลี่ยนภาพของหมู่บ้านของนางจนเหมือนกับนรก นางพยายามทำใจและวิ่งต่อไปแต่กลับมีชายชุดดำสองคนติดตามนางมา นางวิ่งไปสักพักจนมาถึงลานกว้างแห่งหนึ่งนางค่อยๆวางหญิงสาวลงและหยิบกริบยาวคู่หนึ่งขึ้นมา อาวุธของนางนั้นถือว่าการออกแบบที่ออกได้ดีเยี่ยม ลวดลายน้ำบนใบกริบนั้นถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน มิต้องบอก็รู้ว่าผู้ออกอบบ สิ่งมหัสจรรย์คู่นี้คือปรมจารย์อาวุธ ที่ได้ตกทอดมาจากท่านอามากุมิ มิผิดเพี้ยน
            นางตั้งสมาธิอย่างแน่วแน่น ถือกริบทั้ง2ในมืออย่างมาดมั่น ชายหนุ่ม2คนนั้นเริ่มการโจมตีทันทีแต่................แต่แล้ว
            “บูชินโด ฮันโซโตริ” นางตะโกนออกมาพร้อมกับวาดลวยลายกริบคู่ของนางอย่างเฉียบคมและงดงาม
                                                                  To be continued
           
            แต่แล้วความเจ็บปวดก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรุนแรง เขาไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับตัวเขา เขาเพียงดิ้นรนเพื่อจะหายจากความเจ็บปวดอันร้ายแรงนี้ แต่เมื่อเขายิ่งพยายามที่จะหาทางหลุดพ้นจากความเจ็บปวดเหล่านี้
แต่แล้วเขาก็พยายามกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อต้องการจะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขา........เขากลับเห็นเข็มนับร้อยนับพันเจาะทิ่มและจัดวางอย่างเป็นระเบียบบนร่างกายของเขา แต่สิ่งที่อยู่บนร่างกายของเขานี้หรอ....สิ่งนี้หรือที่ทำให้เขาเจ็บปวดแสนสาหัส เขาพยายามที่จะดึงมันออกอย่างเต็มกำลังที่เขามีอยู่ แต่มัน! กลับยิ่งจมดิ่งลึกลงไป มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งขึ้นอย่างแสนสาหัส จน........จน “มายา..........มายา”เขาตะโกนขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันกลับเป็นเสียง........เสียงแห่งความเจ็บปวดโดยแฝงความรักจนสุดหัวใจที่มีต่อเจ้าหญิงของเขา มายาริ
              “อะไร อะไรกัน เราอยู่ที่ไหนเนี้ย” เขาคิดในใจอยางสงสัย เพราะภาพบรรยากาศที่ผ่านเข้าสู่ ดวงตาอันไร้ประกายแห่งชีวิตนั้น มันเป็นสิ่งที่เขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เขาเห็นอย่างที่เขาเคยเห็นแต่............เอะ! นั้นร่างกายของเขาเองที่นอนราบอยู่บนพื้นห้อง และครั้งนี้เองเป็นครั้งแรกที่เขาได้สังเกตเห็นบรรยากาศโดยรอบ มัน.......มันชั่งเหมือน เหมือนๆ อะไรน้า เขานึกอยู่นานแต่ก็ยังคงนึกไม่ออกว่าคือที่นี้คือที่ไหน เขานึกไม่ออกแต่เพียงรู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก และแล้วเธอผู้นั้นก็เข้ามา
            หญิงงามผู้นี้ค่อนข้างตกใจกับอาการของร่างกายเขาอย่างมาก นางเดินไปนั่งคุกเข่าลงพลางขยับเข็มเหล่านั้นด้วยความคล่องแคล่วรวดเร็ว เขาแทบไม่เชื่อสายตาเพราะมือของเธอนั้นมีความรวดเร็วและแม่นยำมาก...............มากสะจนเขามองไม่ออกเลยว่าเข็มนับพันเหล่านี้ได้ถูกเธอเคลื่อนย้ายไปตามตำแหน่งต่างๆอย่างเรียบร้อยแล้ว และยังคงเป็นระเบียบสวยงามอย่างมาก สายตาของเขาก็เริ่มมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของนาง สีหน้าของนางค่อนข้างเปลี่ยนไปจากตอนที่นางเขามา เมื่อตอนที่นางเข้ามา นางมีสีหน้าขาวประดุจดั่งไข่มุก ตาของนางเรียวและดูน่ารักมาก คิ้วของนั้นโค้งอย่างเป็นธรรมชาติที่สวยงาม นางมีหน้าตาและบุคลิกภาพที่ดีมาก มากซะจนว่าถ้าเขาไม่มีมายาอยู่ในหัวใจของเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาคงอาจจะหลงเสน่ห์ไปตามรูปโฉมของนาง ผู้นี้ไปแล้ว เขาแทบคิดไม่ออกว่าถ้านางยิ้ม นางจะน่ารักได้ขนาดไหนกัน
            “วิญญาณของเขาได้ออกจากร่างไปแล้ว มันช้าไปแล้วหรือนี้ เห็นทีข้าจะต้อง” เสียงอันแข็งแกร่งและห่วงใยก็ตอบโต้กลับมาว่า “คุณหนูอย่าเลยนะคะ แล้ว....แล้วถ้าเขาเป็น” นางค่อนข้างมีอายุแล้ว นางมาจากที่ใดก็ไม่รู้ นั่งอยู่ในระหว่างประตูทางเข้าของห้อง โดยพยายามจะแสดงความรู้สึกที่เป็นห่วงคุณหนูของเธอ
              “ท่านมีเหตุผลประการใดที่ต้องการจะขัดข้าเมื่อข้าต้องการจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน” “คุณหนูท่านกล่าวแรงเกินไปหรือไม่ อันประการนั้นแม่นมมีอยู่ อนึ่ง ข้ารักคุณหนูใจจะขาดคุณหนูเปรียบเสมือน ลูกของตน ข้ามิอยากให้คุณตกอยู่ในอันตราย อีกประการหนึ่งบุรุษผู้นี้เป็นผู้ใดมาจากไหนมิมีใครทราบถ้าเป็นพวกนินจบากิ แล้วท่านจะทำเช่นไร ประการสุดท้าย ถ้าท่านประมุขรู้เข้าคุณหนูจะถูกลงโทษนะคะ”
            “แล้วท่านจะให้ข้าทำเยี่ยงไร จะปล่อยให้เห็นเขาตายไปต่อหน้าต่อข้างั้นหรือ หรือว่าท่านทนได้” “ข้าทนได้คะคุณหนูแต่ข้าจะไม่ทนเห็นท่านตกอยู่ในอันตรายไม่ได้โดยเด็ดขาด ได้โปรด......คุณหนู คุณหนูคะ”
            “แม่นมท่านอย่าได้กล่าวสิ่งใดอีกต่อไปเลย ข้ารู้ว่าท่านเจ็บปวดอย่างมากที่ข้าจะเสี่ยงช่วยบุรุษผู้นี้ ได้โปรดเห็นแก่ข้า ผู้เป็นบุตรีเลี้ยงของท่าน ข้ามิอาจปล่อยให้บุรุษผู้นี้ตายไปโดยไร้การช่วยเหลือที่ข้าพอจะทำได้ แม่นมโปรดเข้าใจข้าด้วย”
            หญิงสาวแข็งใจออกคำสั่งด้วยเสียงอันแน่วแน่ โดยมิคำนึงถึงอันตรายต่างๆที่กำลังจะผ่านเข้ามาในเวลาอันสั้น “จงสั่งออกไป นำวารีทิพย์แห่งน้ำพุร้อนซูงิคาเระมาประมาณสองถังที่สร้างด้วยเปลือกไม้หอมอมจันทร์ของต้นซากุระงิ จงเร่งไปเถอด ก่อนตะวันรุ่ง 3 ชั่วยาม ข้าจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านั้น พวกท่านได้โปรดเข้าใจข้าด้วย”นางออกคำสั่งพร้อมกับขยิบตาให้กับแม่นมของนางราวอยากจะบอกกับนางว่ามิต้องห่วง นางจะระมัดระวังให้มากที่สุด
        “คะ นายหญิงน้อย” หญิงชรารับคำสั่ง พร้อมกับแอบยิ้มอย่างยินดีกับที่คุณหนูของนาง ได้แสดงความกล้าหาญออกมาพร้อมกับจิตใจที่บริสุทธ์และดีงาม นางเองก็อดดีใจมิได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโตเกือบ20ปีแล้ว ที่เด็กสาวแสนซนคนนี้ได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างน่าภูมิใจ
              ................................................. ............................................................. ......................................................... ..................................................................
“ริวจิ..........ริวจิ!!!!” มายาสดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการที่เป็นห่วงริวจิเป็นอย่างมาก เธอ.....เธอได้ยินเสียงของริวจิเต็มสองหูของเธอ เธอไม่อยากจะคิดว่าเขาประสบเหตุการณ์ร้ายๆ และ พยายามที่จะนอนหลับต่อ แต่แล้วเธอก็อดคิดถึงเขาไม่ได้ ริวจิ......ชายผู้สูญเสียประกายแห่งชีวิตไป.......
            เข็มแล้ว เข็มเล่ามิมีวันหมด นางพยายามที่จะดึงเข็มฟื้นชีพจรเหล่านั้นออกมาให้หมดอย่างระมัดระวัง สายตาของของนางนั้นได้กาดไปทั่วทั้งร่ายกายของเขาโดยมีสาเหตุอะไรบางอย่าง นาง......นางกำลังหาจุดชีพจรหลักของชายหนุ่มผู้นี้
            คนเราทุกคนย่อมมีจุดชีพจรหลักกันทุกคน แต่จุดเหล่านั้นของแต่ละคนจะอยู่ตำแหน่งไม่เหมือนกัน บ้างก็มีที่แขน บ้างก็มีที่ข้อมือ บ้างก็มีที่หลัง และก็มีที่ท้อง จุดชีพจรหลักนี้ ถ้าเปรียบได้คงจะเป็นจุดที่อ่อนแอและสำคัญที่สุดในร่างกายของเรา หรือถ้าพูดกันง่ายๆมันก็คือจุดอ่อนของร่างกายเรานั้นเอง
และแล้วหลังจากนางจ้องพินิจพิจารณาจุดๆหนึ่งอยู่เป็นเวลานาน จนนางตัดสินใจได้ นางหยิบเข็มด้ามเล็กขึ้นมาอีกครั้ง แต่.....มันแปลกไปกว่าทุกด้ามที่นางเคยใช้มา มันคือเข็มประจำตัวของนางนั้นเอง เข็มเป็นสีขาวนวล แต่มีความวาวยิ่งนัก ลักษณะของเข็มนั้นสื่อได้ถึงจิตใจของเจ้าของ และจิตใจของเจ้าของนั้นก็ยังประสานกับจุดขั้วของเข็ม นี้คือสุดยอดวิชารักษาแห่งหมู่บ้าน วิชาคืนเข็มโคจรคืนชีวา เป็นวิชาที่เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก ผู้ที่ใช้วิชานี้จำเป็นจะต้องมีพรสวรรค์อย่างมากและต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธ์ ขนาดพ่อของนางเองยังไม่สามารถใช้วิชานี้ได้เลยเพราะว่าถ้าพลาดพลั่งเพียงเล็กน้อยธาตุไฟสามารถเข้าแทรกได้ทุกเมื่อ
            นางค่อยๆร่ายพลังบนเข็มลงอย่างช้าๆ และ.....................จิตใจสงบ มีสติ จน จนถึงเวลาที่เหมาะสม....................นางทิ่มเข็มเข้าไปอย่างจังที่หน้าผากของเขา แต่.....แต่มันกลับไม่มีแม้แต่เลือดหรือลอยช้ำแม้แต่น้อย หรือนางสำหรับวิชารักษา3สุดขั้วบริสุทธ์แล้ว นี้คงเป็นเพราะความเพียรพยายามและพรสวรรค์ของนางที่ต้องการที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของแม่ของนางเพื่อจะช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วย นางเริ่มฝึกวิชานี้ตั้งแต่เล็กจนเติบโตจนทุกวันนี้ความสามารถของนางมีมากกว่าเซียนโอสถด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายด้วยร่างกายอันอ่อนแออของนาง นางจึงมิสามารถจะทำสิ่งใดได้มากมาย.........
            เข็มนั้นก็ค่อยๆปักหายไปเรื่อยๆพร้อมกับที่นางพยายามตั้งสมาธิควบคุมเข็มเล่มนั้นอยู่จากหน้าผากสู่หน้า จากหน้าสู่หน้าอก จากหน้าอกสู่หัวใจและปักลงอย่างนุ่มนวลและนางค่อยๆถ่ายพลังลงไปอย่างช้าๆ แต่แล้วภาพๆหนึ่งก็ดิ่งเข้าสู่สติของนาง นางเห็น.....หญิงสาวผู้น่ารักมาก นางคือใครกันน้า หรือว่าสิ่งที่ท่านแม่จะเป็นจริง ข้า....................... ข้าขอโทษ
            “เธอกำลังทำสิ่งใดอยู่ เธอ.............จะทำอะไรกับร่างกายของเรา เอะ เอะนี้มัน”เขารู้สึกแน่นหน้าอกมาก จน..................จนเขามองสิ่งใดไม่เห็นอีกแล้วสิ่งที่เขาเห็นเพียงสิ่งเดียวตอนนี้คือความมืดที่กำลังปกคลุมร่างกายของเขาอย่างช้าๆ
           
            คืนนี้ชั่งเป็นคืนที่มืดมนยิ่งนัก ลมก็โหมกระหน่ำเป็นอย่างมาก ต้นไม้ที่มีอายุไขเกินกว่า100ปียังเอนโค้ง จนรูสึกได้ถึงภัยอันตรายที่ร้ายแรงของวายุที่กำลังโหมกระหน่ำ และแล้วเสียงหัวเราะที่ดังมากก็ปรากฏขึ้นมา มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่ากลัวมาก ใช่มันจะต้องไม่ธรรมดาซะแล้ว ชายชุดดำมากมายวิ่งผ่านลงเขาสูงชันอย่างรวดเร็ว พวกเขาเคลื่อนไหวเร็วมากโดยคนในหมู่บ้านมิอาจสังเกตเห็น ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่อยู่บนยอดเขากำลังร่ายมนต์แห่งวาตภัยอยู่ ไม่ผิดแน่พวกมันมากันแล้ว
            หมู่บ้านแห่งนี้ก็มิแพ้กัน ถึงแม้ลมจะแรงเพียงใด หญิงชราผู้นั้นยังคงคุมกำลังรักษาหมู่บ้านอย่างแน่นหนา ยิ่งไปกว่านั้นคือบริเวณโดยรอบแม้แมลงสักตัวยังมิปรากฏ นี้.............นี้มันเกิดสิ่งใดขึ้นเนี้ย
            “เพล้งๆ ...........ตรุบ!!” เสียงแจกันตกแตกดังมาจากห้องทำพิธี มันเป็นเสียงที่ดังไม่มาก แต่ก็มิอาจจะหลุดพ้นการสังเกตของแม่นมไปได้ นางรีบโผล่เข้าห้องไปพร้อมกับความหวังที่เต็มเปี่ยมว่าคุณหนูคงจะไม่เป็นไร แต่เสียงนี้นเอง หูอันเฉียบคมของชายบนยอดเขาก็ได้ยินเข้าจนได้ “55555555 วันนี้หมู่บ้านของไอ้แก้ซามุริโต้ต้องถูกทำลาย5555555”
            หญิงชราโผล่เข้าห้องนั้นอย่างรวดเร็ว และได้พบกับคุณหนูของนางที่ตกอยู่ในสภาพหมดเรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง จนแทบไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ “แม่นมคะ ช่วยพยุงหนูหน่อยคะ” หญิงชราเรียบพยุงตัวนาง และพยายามพานาง
ไปที่ห้องพัก เพื่อจะให้นางรักษาตัวให้หายดี แต่นางก็กลับได้พูดบางสิ่งก่อนที่จะไป “ตอนนี้ก็คงต้องขึ้นกับชะตาของเขาแล้วข้าช่วยได้เพียงเท่านี้และ...........”นางเริ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหม่อง “ไปเถอะคะคุณหนู”
            ในขณะที่แม่นมกำลังวางหญิงสาวลงบนที่นอนอันนุ่มนวลนั้น แม่นมก็ได้ขอถามนางอีกหนึ่งข้อว่า “คุณหนูคะ จะให้ทำสิ่งใดกลับชายหนุ่มผู้นั้น.....?” “ท่านได้โปรดนำวารีทิพย์นั้นไปให้ชายผู้นั้นอาบเมื่อเขาตื่นขึ้นมา แต่..............แต่” “แต่อะไรคะ คุณหนู” “ในพิธีนั้นข้าจำเป็นจะต้องทำสิ่งหนึ่งนั้นคือ ข้า.......ข้าได้ทำลายความรักอันสูงสุดของเขาที่มีต่อ...........เจ้าหญิงของเขา ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ........... ท่านว่าข้าทำผิดมากไหม” แม่นมของนางมิตอบสิ่งใด นางเพียงส่งสายตาเพื่อบอกให้นางรู้ว่า นางได้ทำเท่าที่นางสามารถทำได้แล้ว เพื่อรักษาชีวิตเขาไว้ นางไม่ผิดหรอก ไม่มีผู้ใดที่ผิดสักคน
              แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงนี้เป็นเสียงที่รุนแรงจริงๆ นางตัดสินใจมองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่นางได้เห็นมันไม่ต่างอะไรไปจากนรก การฆ่าอย่างโหดเหี้ยมได้เกิดขึ้นมากมาย  ชายชุดดำผู้ฝึกวิชานินจัตสึมาจากไหนก็ไม่รู้มากมาย นางรีบพาคุณหนูของนางไปที่ปลอดภัย ระหว่างทางนางผ่านห้องทำพิธี นางหยุดและคิดตัดสินใจสักพัก และแล้วนางก็ราดวารีทิพย์ทั้งสองถังลงบนร่างกายของเขาจนหมด พร้อมกลับกล่าวว่า “ชะตาฟ้าลิขิต ถ้าเจ้ามีวาสนาต่อคุณหนูและข้าอีก คงจะได้พบกัน”และนางก็รีบวิ่งไปพร้อมกับอุ้มร่างของหญิงสาวไว้ นางวิ่งๆ ....วิ่งไปจนถึงช่องแคบของเทือกเขาแห่งหนึ่งนางหันหลังกลับไปเพื่อมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านของนาง สีแดงของไฟเปลี่ยนภาพของหมู่บ้านของนางจนเหมือนกับนรก นางพยายามทำใจและวิ่งต่อไปแต่กลับมีชายชุดดำสองคนติดตามนางมา นางวิ่งไปสักพักจนมาถึงลานกว้างแห่งหนึ่งนางค่อยๆวางหญิงสาวลงและหยิบกริบยาวคู่หนึ่งขึ้นมา อาวุธของนางนั้นถือว่าการออกแบบที่ออกได้ดีเยี่ยม ลวดลายน้ำบนใบกริบนั้นถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน มิต้องบอก็รู้ว่าผู้ออกอบบ สิ่งมหัสจรรย์คู่นี้คือปรมจารย์อาวุธ ที่ได้ตกทอดมาจากท่านอามากุมิ มิผิดเพี้ยน
            นางตั้งสมาธิอย่างแน่วแน่น ถือกริบทั้ง2ในมืออย่างมาดมั่น ชายหนุ่ม2คนนั้นเริ่มการโจมตีทันทีแต่................แต่แล้ว
            “บูชินโด ฮันโซโตริ” นางตะโกนออกมาพร้อมกับวาดลวยลายกริบคู่ของนางอย่างเฉียบคมและงดงาม
                                                                  To be continued
           
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น