คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 8 วันเกิดและของขวัญ
>>เปิดเพลงเพื่อให้ได้อรรถรสค่ะ<<
จากวินาทีก็กลายเป็นนาที...จากนาทีกลายเป็นชั่วโมง...จากชั่วโมงก็กลายเป็นวัน...จากวันก็กลายเป็นสัปดาห์...จากสัปดาห์ก็กลายเป็นเดือน...
30/03/12...
และแล้ววันเกิดของผมก็มาถึง และเช่นเดียวกันว่า ยัยหยุดก็อยู่กับผมมาจนถึงวันนี้...วันเกิดของผม...ซึ่งจะเป็นปีที่ผมจะไม่ลืมเลือน...
ก่อนวันเกิด1อาทิตย์
หมวดโอภาสได้มาหาผมอีกครั้งที่บ้าน เพื่อเป็นการย้ำเตือนผมว่า...ผมรั้งเธอไว้นานมากเกินไปแล้ว...
“หมวดครับ ผมบอกแล้วไงครับว่าผมขอเว..”
“ผมเข้าใจครับ แต่ผมแค่จะมาบอกคุณให้คุณรู้ว่า...ตอนนี้...ร่างกายของคนไข้อ่อนแอลงมาก...บางที...ผมก็คิดว่าคุณน่าจะเสียสละ..”
หัวใจผมกระตุกวูบอย่างกังวลเมื่อหมวดโอภาสพูดออกมา และหมวดโอภาสมีท่าทีเหมือนชั่งใจอยู่ว่าควรจะพูดมั้ย? และแล้วแววตาลังเลที่ผมเห็นก็หายไปแววตาเด็ดเดี่ยวก็ปรากฏขึ้น
แต่ถึงแม้ผมจะรู้สึกอยากไปให้ไกลไม่อยากรับรู้อะไรก็ตาม แต่ผมก็คงต้องฟัง
ผมไม่รู้ว่าหมวดโอภาสจะมาที่นี้เพราะต้องการให้คนไข้ดีขึ้นหรือว่าอะไรยังไง
แต่!
แต่ถ้าการเสียสละอย่างที่หมวดโอภาสบอก คือการคืนเธอไป
ผมคงทำไม่ได้!!
“เสียสละที่หมวดบอกผม หมายถึงคืนเธอไปงั้นหรอครับ...ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงทำไม่ได้...”
“ผมจะไม่พูดโน้มน้าวอะไรคุณนะครับ ผมจะบอกให้คุณรับรู้เรื่องนี้ ส่วนคุณจะตัดสินใจยังไง ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะทำเพื่อคนที่คุณรักได้หรือเปล่า”
หมวดโอภาสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ก่อนจะยื่นซองสีน้ำตาลให้ผม
“ตอนนี้เราได้ประวัติของคนไข้แล้วจากญาติของคนไข้ซึ่งบอกว่าตัวเองคือน้องสาวของคนไข้”
ผมมองหมวดโอภาสสลับกับมองซองสีน้ำตาล ภายในใจรู้สึกปั่นป่วน
มีคนหาเธอเจอแล้ว! ตอนนี้ร่างกายกับวิญญาณของเธอยังคงตอบสนองกันอยู่ ใครพูดอะไรกับเธอ เธอก็จะได้ยิน ถ้าน้องสาวของเธอพูดให้เธอกลับ เธอก็ต้องกลับไปน่ะสิ
ผมรับซองด้วยความรู้สึกสองจิตสองใจ ใจหนึ่งอยากรับรู้ตัวตนจริงๆของเธอ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้เธอเป็นยัยหยุดอีกต่อไป
ผมเปิดซองอ่าน พอดีกับหมวดโอภาสพูดขึ้น
“เธอชื่อ นางสาว วริษฐา จตุรสุขวชิระ ชื่อเล่น สต๊อป อายุ 21ปี มีพี่น้องทั้งหมด3คน มีน้องร่วมสายเลือด1คนและน้องสาวบุญธรรม1คน เป็นลูกคนโต ทางบ้านทำธุรกิจ อัญมณีและไข่มุก เคยเป็นว่าที่คู่หมั้นของนาย อิสริยะ ภัทรมานพ แต่เกิดอุบัติเหตุซะก่อน ก็เลย จัดให้นาย อิสริยะหมั้นกับ นางสาว ศุภัคชญา จตุรสุขวชิระแทน สถานภาพก็ยังโสด....”
หมวดโอภาสร่ายออกมาอีกยาวแต่ตอนนี้ผมไม่ฟังอะไรแล้ว ภายในซองสีน้ำตาล หลักฐานก็ระบุชัดเจน ชัดเจนแล้วสินะ ว่าเธอเป็นใคร ผมรู้สึกเหมือนขาจะอ่อนเปลี้ยหมดแรง และกำลังจะทรุดลงไปในอีกไม่ช้า
“คุณแกงส้มครับ ฟังผมอีกหน่อยนะครับ แล้วผมจะไม่เข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของคุณแล้วจริงๆ”
หมวดโอภาสพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ผมพยักหน้าพร้อมที่จะฟังด้วยความรู้สึกท้อแท้
“ผมจะบอกคุณว่า ยิ่งคุณรั้งเธอไว้เท่าไหร่ ร่างกายก็จะอ่อนแอลง จนกระทั่ง...มันอาจจะรุนแรงถึงขั้นหมอช่วยไม่ได้..อีกแล้ว ซึ่งมันอาจเสียไปทั้งร่างกายและ...วิญญาณ..”
เมื่อหมวดโอภาสพูดจบผมแทบอยากจะกระทืบตัวเองให้ได้ซะ
นี้ผมทำอะไรของผมกัน? ความเห็นแก่ตัวของผมกำลังจะพรากเธอไปอย่างนั้นหรอ...
ไปแบบไม่มีวันกลับมา...
“เข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ยครับ...”
“ขอบคุณหมวดมากนะครับที่ทำให้สิ่งที่ผมลังเล ชัดขึ้นมาว่าผมควรจะทำอะไร”
จากนั้นผมก็หันหลัง เดินต่อไป ทุกก้าวของผมพร่ำถามตัวเอง และโทษอะไรก็ตามที่ทำให้มันเป็นแบบนี้
ทำไมโชคชะตาถึงกลั่นแกล้งผมถึงขนาดนี้....ทำให้ผมรู้จักเธอ...รักเธอ แล้วก็กลั่นแกล้งผมด้วยการ พาเธอกลับไป บีบให้ผมต้องเลือกในแต่ละทางที่ผมรู้ว่าต้องปวดใจ
ถ้าโชคชะตาต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นผมก็จะตกลง ถ้ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมต้องคืนเธอจริงๆ ผมขอให้โชคชะตาทำให้ผมมั่นใจอีกครั้ง กับการมีตัวตนของเธอ
ผมเดินไปเรื่อยๆจนถึงริมทะเล ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเดินห่างจากบ้านไกลแค่ไหน อะไรบางอย่างทำให้ผมเดินต่อไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งผมเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง...
มันเหมือนบัตรอะไรสักอย่าง ที่น่าจะลอยน้ำทะเลมานานมากแล้ว
เหมือนมีอะไรดลใจให้ผมเดินไปหยิบบัตรใบนั้น ดูเผินๆเหมือนบัตรประชาชน และเมื่อดูให้ละเอียดอีกที ผมก็ไม่นึกว่าโชคชะตาจะให้คำตอบกับผมเร็วขนาดนี้
มันเป็นบัตรประจำตัวของ...ยัยหยุดจริงๆด้วย
ผมไม่รู้ว่าตอนนั้น ผมรู้สึกยังไง ผมรู้แค่ว่าผมไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว...สมองและความรู้สึกของผมมันชาไปหมด ไม่รู้เลยว่าน้ำตาไหลออกมา ทั้งๆที่เจอเรื่องหนักหนาแค่ไหน...ก็ไม่เคยไหล
และสิ่งที่ผมไม่แน่ใจมานาน ในตอนนี้มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ว่าผมรักเธอ ความไม่แน่ใจของผมมาจากระยะเวลาที่สั้น ทำให้ผมลังเลว่าผมรักเธอหรือเปล่า...แต่ในตอนนี้..มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร
และผมก็คงต้องบอกเธอ...ทุกเรื่อง ที่เธอควรรู้...
ซองจดหมายสีน้ำตาลที่หมวดโอภาสเคยให้ ผมยังคงเก็บไว้
ในงานวันเกิดของผมก็จัดขึ้นนอกบ้านเพราะบ้านของผมจะอยู่ริมทะเล และมีแขกอยู่ไม่กี่คน ก็มีผม พี่แคน พี่โดม หมวดโอภาส หมวดเจริญ คุณ
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ นะไอ้/คุณ แกงส้ม!”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ”
ทุกคนอวยพรวันเกิดผมพร้อมกัน แต่คนที่ผมรอก็ยังไม่มา...
และแล้วผมก็เห็นเธอรอผมอยู่ มันห่างจากตัวงานนิดหน่อย ผมมองหน้าหมวดโอภาส ซึ่งหมวดโอภาสก็คงพอจะรู้ว่า...ผมต้องการไปพบเธอ
“เอ่อ...คุณแกงส้มครับ ช่วยไปหากระเป๋าตังค์ของผมได้มั้ยครับ ผมว่ามันคงจะตกอยู่ตรงนั้นนะครับ”
หมวดโอภาสพูดพร้อมชี้ไปยังจุดที่ยัยหยุดยืนอยู่ ผมพยักหน้า แต่แล้วก็
“หมวด! ไปสั่งเจ้าของงานได้ไงกันเล่า มานี้เลย ไปเอากับบัวก็ได้”
คุณบัวขวัญพูดแล้วก็ดึงหมวดโอภาสไป
“ไม่เป็นไรครับคุณบัวขวัญ ผมกะว่าจะเดินเล่นแถวนู้นด้วย เดี๋ยวผมไปเอาเองก็ได้ครับ”
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย?”
พี่กันถามขึ้น ผมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า
“ไม่เป็นไรครับ พี่อยู่ในงานต่อเถอะ เกิดน้องสาวโทรมาจิกให้กลับบ้าน ผมไม่รู้ด้วยน่ะ”
“น้องสาวพี่ คงไม่กล้าจิกพี่หรอก คงจะไปจิกไอ้แคนมากกว่า”
พี่กันเน้นพูดประโยคหลังดังๆพลางมองไปทางพี่แคน ผมมองตามก็พบว่าพี่แคนกำลังตักกุ้งเผาให้น้องสมายอยู่ ดูท่าทางแปลกๆ
“งั้นพี่ก็ไปบอกให้น้องสาวพี่ไปจิกพี่แคนด้วยละกันนะพี่”
พูดจบผมก็เดินมาหายัยหยุดที่ยืนรอผมอยู่ วันนี้เธอยิ้มแปลกๆดูแล้วชวนใจหาย
“ยัยหยุดคือ...”
“สุขสันต์วันเกิดนะ นายแกงส้ม ตลอดเวลาที่ผ่านมานายดีกับฉันมากเลยนะค่ะ ขอให้นายมีความสุขนะค่ะ”
ยัยหยุดพูดพร้อมยื่นบางอย่างที่กำไว้ในมือ ผมยื่นมือรับก็พบว่า สิ่งที่เธอให้มาก็คือ จี้ไม้ที่แกะออกมาเป็นตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษ’KSST’ ที่ดูแล้วก็ไม่ได้สวยงามเท่าไหร่ แต่ผมก็รู้ว่าคนทำมีความพยายามแค่ไหนในการแกะจี้ไม้ตัวนี้
“ฉันให้ ฉันขอโทษด้วยนะค่ะถ้ามันไม่สวย แต่ฉันตั้งใจทำมากเลยน่ะ”
เธอพูดแล้วยิ้มออกมา
“ตัวอักษรย่อนี้มีที่มายังไงหรอ”
“KSก็คือแกงส้ม STก็คือสต๊อป แปลว่าหยุด ไงล่ะ ฉันเก่งใช่มั้ย”J
ผมยิ้ม แม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะเรียนรู้เร็วและไม่ค่อยบื้เหมือนยัยหยุดแล้ว
ผมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกกำลังใจ
เอาล่ะ! ถึงเวลาแล้วสินะ
“หยุดนะ...ไม่สิ..สต๊อป...ฉันมีเรื่องจะมาบอก”
เธอมองหน้าผมเหมือนแปลกใจ แต่ก็รอฟังว่าผมจะพูดอะไรออกมา
“ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ฉันรู้มานานมากแล้ว..แต่..ฉัน..ฉันยอมรับว่าฉันเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้บอกเธอว่าฉันรู้เรื่องแล้ว ฉันยังไม่อยากให้เธอไป แต่ตอนนี้ ถ้าฉันไม่ให้เธอไป ร่างกายของเธอก็จะอ่อนแอ จนกระทั่ง...เธออาจจะตายจริงๆ”
“...”
หลังจากที่ผมพูออกมาเธอก็ไม่พูดอะไร.. เธอมองหน้าผมด้วยแววตาเรียบๆ ผมหลับตากำจี้ในมือไว้
ผมรู้สึกว่าเธอกำลังเดินผ่านผมไป ด้วยท่าทีเฉยชา
แต่กลับไม่ใช่อย่างที่ผมคิด ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั้งจิตใจทำให้ผมรู้ว่า เธอกำลังกอดผมอยู่
“ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าตัวเองเป็นใคร.. รู้ก่อนที่นายจะบอกฉันซะอีก ขอบคุณนะที่นายยอมบอกฉัน”
เธอพูดขึ้น ในขณะที่ยังกอดผมอยู่
“เธอรู้ได้ยังไง”
“ฉันได้ยินนายพูดกับหมวดโอภาสเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ฉันรู้ว่าควรจะกลับไป ฉันก็เลยให้ของขวัญชิ้นแรก ชิ้นเดียวและชิ้นสุดท้ายให้นายไง”
ผมไม่พูดอะไรแต่มองจี้ในมือแทน
“ถ้าเธอกลับไป แล้วเธอจะจำฉันได้มั้ย?”
ผมถามเสียงเบา
“ถ้านายให้ฉันดูจี้ตัวนั้นอะนะ บางทีฉันอาจจะจำได้..”
“แล้วถ้ามีความรู้สึกพิเศษด้วยล่ะ?”
ผมถาม ตอนนี้ผมไม่สามารถเดาอารมณ์จากน้ำเสียงของเธอได้
“พิเศษยังไง”
เธอถามระหว่างผละออกจากอ้อมกอด
“เพราะฉันระ...”
“ฉันต้องไปแล้ว”
สิ้นเสียงของเธอ วิญญาณของเธอก็หายไปในทันที
แค่จะบอกความรู้สึกให้รับรู้ ยังบอกไม่ได้เลยหรอ...
ผมมองจี้ในมืออีกครั้งและพึมพำเบาๆ
“เพราะฉันรักเธอ..มันพิเศษหรือเปล่า?...”
Talk:
-ก่อนอื่นก็ต้อง HBDพี่แกงส้มก่อนเลยค่ะ แก่ขึ้นอีกปีแล้ว
-ในตอนนี้เกิดคึกอยากลงให้ตรงกับวันเกิดของพี่แกงส้มมาก ก็เลยถ่างตาปั่นแล้วรีบลง ซึ่งมันก็ยิ่งดูมึนหนักเข้าไปอีก ถ้าอ่านแล้วรู้สึกขัดๆเอ๋อมึนฮาก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ ช่วงนี้มึนหนักจริงๆ แต่ว่าหลังจากตอนนี้ เอ๋อมึนฮาจะพยายามทำให้ดีกว่านี้นะค่ะ
-ก็..นะค่ะ ตอนนี้มันดูวกวนมากเลย เอ๋อมึนฮายังไม่เคยแต่งดราม่าจริงจังซะด้วยสิ ก็ขอโทษอีกทีนะค่ะ อาจจะมีของบางคู่ที่ความสัมพันธ์จะไปไกลแล้วแต่เอ๋อมึนฮาไม่ได้แต่งมุมนั้นให้อ่านอ่ะค่ะ ก็จะแต่งในตอนต่อๆไปล่ะกันนะค่ะ (ต้องขอโทษนักอ่านที่จิ้นคู่ที่เอ๋อมึนฮายังไม่ได้แต่งให้มันดูเต็มๆไปสักตอนนึงด้วยนะค่ะ>/\<)
สุดท้ายก็ขอขอบคุณ ทุกคนที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน ที่กดแอด และเม้น หรือโหวต ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ
ความคิดเห็น