คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Super Star Special Part I
Title : Super Star Special
Pairing : Nakayama Yuma x Yamada Ryosuke | Nakajima Kento x Sato Shori
Genre : Love Comedy
Rate : PG13
Author : I-PrA
“ขอโทษนะ ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ แล้วก็...เดทได้แต่ในห้องน่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ...ตราบใดที่ผมได้อยู่กับยามะจัง ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ♥”
......ถึงยูมะจะเคยพูดไว้อย่างนั้นพร้อมกับหน้าซื่อๆที่ยิ้มเหมือนกับจะบอกว่า “ไม่ว่าอะไรก็ยอมได้ทุกอย่าง ถ้าเป็นยามะจัง” .... แต่คนเราก็ย่อมมีขีดจำกัดของความอดทนเหมือนกัน ต่อให้รักมากมายแค่ไหน ก็คงต้องมีบ้างที่รู้สึกเหงา ว้าเหว่ รู้สึกเหี่ยวเฉา แห้งแล้ง ขาดส่วนเติมเต็มในหัวใจเปรียบเสมือนเหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยง........
เรียวสุเกะเองก็รู้สึกได้ ว่าพักหลังๆมานี้ยูมะหงอยและเซื่องซึม ไม่ค่อยมีปากเสียง พูดง่าย ไม่งอแงเวลาที่เขายกเลิกนัดเดทกระทันหันเพราะมีงานด่วนเข้ามา ....หรืออีกนัยก็คือไม่ค่อยกระตือรือร้นมากเท่าที่เคยในตอนที่ถูกนัดคราแรก เพราะการตั้งความหวังและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อมากเท่าไหร่ เวลาที่ผิดหวังก็จะยิ่งเสียใจมากตามไปด้วย
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องที่เรียวสุเกะไม่สบายใจในตอนนี้
เขารู้สึกได้ถึงความเย็นชา หมางเมินที่เกิดขึ้นในตัวคนรัก แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม เรียวสุเกะก็รู้สึกผิดและไม่สบายใจอยู่ดี.....จนสุดท้ายต้องบากหน้ามาขอคำปรึกษาจากน้องชายข้างบ้านอย่างเสียมิได้
....เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องกันหรอกนะ แถมพักนี้เคนโตะยังเข้าๆออกๆบ้านแฟนเป็นว่าเล่นตั้งแต่ที่พี่ชายไฟเขียวให้คบกันได้น่ะ
.......น่าอิจฉาจะตาย...ที่คบกันได้แบบเปิดเผยแบบนั้น......
คนเขาอุตส่าห์หนีร้อนหวังจะมาพึ่งเย็น ....แต่ไอ้เจ้าชายสุดหล่อของโรงเรียนที่เรียวสุเกะเห็นเป็นแค่เพียงเด็กพิลึกข้างบ้านก็ดันให้คำแนะนำทีเล่นทีจริงว่า ....ให้เรียวสุเกะปลอมตัวแล้วออกไปเที่ยวข้างนอกกับยูมะแบบคู่รักทั่วไปบ้าง เป็นสีสันในชีวิต
“แล้วปลอมตัวแบบไหนล่ะ?”
เรียวสุเกะแกล้งถามต่อ... แต่ในใจก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าแต่ละอย่างที่ออกจากปาก ‘นากาจิม่า เคนโตะ’ มักจะล้ำแบบที่ชาวบ้านธรรมดาเค้าไม่ทำกันเสมอ...จะว่าเป็นเด็กที่มีจินตนาการเป็นเลิศก็คงได้ล่ะมั้ง
.....เอาน่ะ อย่างน้อยมันก็ไม่เคยมีประวัติอกหักรักคุดกับใครที่ไหน ถึงวิธีการจะแปลกๆไปหน่อยแต่ก็คงใช้ได้ล่ะนะ!....
“ยามะจังสวยจะตาย แต่งเป็นเด็กผู้หญิงสิ”
....ขอร้องล่ะ ว่าอย่าพูดเรื่องไม่ธรรมดาด้วยหน้าตาที่เหมือนกับเรื่องธรรมดาทีได้มั้ย....ไอ้เด็กประหลาด!
“ห้ะ!! ทำไมฉันต้องลงทุนถึงขนาดนั้นด้วย มากไปหรือเปล่า”
…..ถึงจะยอมรับว่ายูมะเป็นที่เค้าแคร์และให้ความสำคัญ แต่ถ้าต้องทำถึงขนาดนี้ก็เครียดอยู่นะ...
“แหม ยามะจังเป็นคนดังนะ ปลอมตัวแบบนี้แหละ แฟนคลับจะได้จำไม่ได้ ปาปารัสซี่ก็ตามไม่เจอด้วย ได้ประโยชน์สองต่อเลยเห็นมั้ย”
...จะว่าไปมันก็จริงของมันแหละ.. ถ้าเขาไปในสภาพของ ‘ยามาดะ เรียวสุเกะ’ ก็คงไม่พ้นถูกประชาชนจับจ้องจนต้องเดินเกร็งกันไปตลอดทางแน่ๆล่ะ
“แล้ว...เคนโตะคิดว่าเจ้านั่นจะชอบเหรอ”
...แม้ใจของเขาจะเริ่มโอนอ่อนตามคำยุยงของไอ้เจ้าชายเพี้ยนนี่ไปแล้วกว่า 80% ก็ตามเถอะ... เขาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
“คิดอะไรมาก...หมอนั่นมันบ้ายามะจังจะตาย คงจะกระโดดดีใจเป็นบ้าเป็นหลังน่ะสิ”
.....แหม พูดซะเห็นเป็นภาพเชียวล่ะ.....
ก็ทุกครั้งเวลาที่เขาทำอะไรให้เจ้านั่นไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ปฏิกิริยาตอบรับที่ได้กลับมาคือความดีใจแบบโอเวอร์แอคติ้งจนเขาอดที่จะยิ้มไปด้วยไม่ได้เลย
“ยะ..อย่างงั้นเหรอ”
....ก็พอจะรู้ตัวเองว่าเป็นคนหน้าหวานเหมือนผู้หญิงอยู่มากล่ะนะ แต่ให้มาแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วออกไปเดทเนี่ย.... แต่คิดก็เขินแล้วมั้ย >//////< เพราะเข้าวงการมาตั้งแต่อายุยังน้อย เค้าก็เลยยังไม่มีโอกาสไปเดทกับใครสักครั้ง
....เดทนี้มันจะเป็นเดทแรกของเขาด้วย....
ยูมะก็ทำอะไรหลายอย่างเพื่อเขามามากแล้ว แถมยังอดทนไม่ปริปากบ่นมาตลอด เพราะฉะนั้นครั้งนี้....เขาจะเป็นฝ่ายพยายามบ้างก็แล้วกัน!
.
.
เรียวสุเกะยืนมองภาพสะท้อนตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกไม่เหมือนว่ากำลังมองตัวเองอยู่
.....ก็ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าตัวเองจะชอบหมอนั่นมากขนาดที่ยอมลงทุนทำถึงขนาดนี้ ......
อีคนในกระจกนี่ใคร? นอกเหนือจากคำว่า ตุ๊ดแคระ แล้ว เรียวสุเกะก็ไม่รู้จะไปหาคำไหนมาจำกัดความให้กับความรู้สึกของตัวเองในเวลานี้ได้เลย
ร่างเล็กกะทัดรัดถูกจับสวมวิกผมยาวสีน้ำตาลอ่อนลอนปลาย สวมเสื้อแขนยาวสีขาวเนื้อนุ่มปุกปุยกับกระโปรงสั้นหลอกตาให้ดูเหมือนว่าขายาว และรองเท้าบู๊ทหนังสีน้ำตาลน่ารักที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้เคนโตะมันไปเป่าหูพี่สาวเขาอิท่าไหนถึงได้รวมหัวกันเล่นแต่งตัวตุ๊กตาโดยมีเขาเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายกันสนุกสนานแบบนี้
“ทำหน้าดีๆหน่อยสิเรียวจัง..เดี๋ยวไม่สวยนะ” พี่จิฮิโระดุขึ้นมาในระหว่างที่กำลังลงเครื่องสำอางบนหน้าเขาอย่างบรรจงเหมือนกับว่าตั้งใจส่งน้องชายไปประกวดมิสทิฟฟานี่มากกว่าเมคอัพสำหรับเดทแรก
...คือปกติเวลาทำงานเขาก็โดนจับแต่งหน้าบ้างแหละ แต่แต่งหน้าผู้ชายมันไม่ฟูลออฟชั่นขนาดนี้นี่นา....เขาหวิดโดนพี่สาวตบตาแตกหลายรอบแล้วเพราะเผลอกระพริบตาตอนนางกรีดอายไลน์เนอร์ให้
วันนี้สิ่งที่เรียวสุเกะจะเรียนรู้และจดจำไปจนตายก็คือ...
...กว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยขึ้นมาได้ช่างเป็นเรื่องยากลำบากและใช้ความอดทนมากเหลือเกิน....เขานับถือผู้หญิงทุกคนที่แต่งหน้าสวยเช้งออกจากบ้านทุกวันได้จริงๆ
“เอ้า เสร็จแล้ว ....เป็นไงบ้างเคนจัง” พี่จิฮิโระจับตัวเรียวสุเกะให้หันมาหาไอ้เจ้าชายที่มันกำลังสนุกสนานกับการเลือกชุดสาวน้อยที่กองอยู่บนเตียง ดูเหมือนว่าในสมองเพี้ยนๆนั่นจะวางแผนชั่วอะไรไว้อีกแล้วแน่ๆ
“โห....เหมือนเด็กผู้หญิงจริงๆเลย ...ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอกว่านี่คือซุปเปอร์สตาร์ยามาดะ เรียวสุเกะน่ะ”
…..จุดนี้เขาควรดีใจกับคำชมของมันดีรึเปล่านะ?.....
จากนั้นเจ้าเคนโตะก็พาเรียวสุเกะที่แปลงร่างเป็นสาวน้อยอย่างสมบูรณ์แบบทั้งเสื้อผ้าหน้าผมมาเคาะประตูหน้าบ้านทาคาคิจนได้.... เรียวสุเกะรู้สึกปั้นหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำหน้าแบบไหนดีตอนที่เจอหน้ายูมะ ..ถึงจะเตรียมใจมาแล้วก็เถอะ พอมายืนหน้าบ้านแบบนี้แล้วใจมันฝ่อๆชอบกล ...รู้สึกอยากกลับบ้านขึ้นมาแล้ว
....แต่ไม่รู้ว่าโชคช่วยหรือว่ายังไง เพราะคนที่ออกมาเปิดประตูคือยูยะพี่ชายคนโต....หมอนั่นเปิดประตูมาเจอเคนโตะยืนยิ้มหน้าสลอนกับเขา(ที่เขาคิดว่าพี่ยูยะเห็นเป็นผู้หญิงคนนึง)ก็ทำตาขวางแล้วเขม่นใส่สุดพลัง
“ว่าไงไอ้เจ้าชาย แล้วนี่ใคร? ....แกนอกใจโชริเหรอ!! แกไม่อยากตายดีใช่ไหมถึงกล้าพาแฟนใหม่มาหยามกันขนาดนี้น่ะห๊า!!!!” เสียงทุ้มดังสนั่นหวั่นไหวอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่ชายขี้โวยวายประจำบ้านนี้
“เดี๋ยวๆ เปล่า...เปล่านะครับ พี่ยูยะเข้าใจผิดแล้ว...คือ” เคนโตะเดินก้าวเท้าถอยหลังไปทีละนิดเมื่อเห็นว่าพี่ยูยะทำท่าจะคว้าของใกล้ตัวมาใช้แทนอาวุธ....และเป้าหมายก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าชายสุดป๊อปของโรงเรียนคนนี้เนี่ยแหละ!!!!
“พี่ยูยะเสียงดังอะไรน่ะ อ้ะ..ยามะจัง!!”
ยูมะที่รีบวิ่งมาดูเพราะได้ยินเสียงโวยวายดังลั่น กลัวว่าจะไปทะเลาะกับชาวบ้านชาวเมืองด้วยความอารมณ์ร้อนจึงต้องรีบรุดมาห้ามศึก....แต่พอเห็นสาวน้อยที่ยืนบิดชายกระโปรงยิกๆอยู่ใกล้ๆกันเท่านั้นแหละ ไอ้ตาโตมันทิ้งพี่แล้วทำตาถลนแทบออกนอกเบ้ารีบเดินออกมาหาแฟนมันทันที
ในขณะที่ยูยะยืนช็อคอ้าปากค้าง
….ยามะจังงั้นเหรอ?!!
...ก็อยู่ดีๆน้องสะใภ้มาเปิดตัวด้วยภาพลักษณ์นี้ เป็นใครจะไม่ตกใจล่ะ.....
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ มีงานมาเหรอ” เสียงอ่อนโยนที่คุ้นเคยถามไถ่กับเรียวสุเกะที่กำลังทำหน้าปั้นยากอยู่..... จะให้ตอบว่าไงดีล่ะ อยากมาเซอร์ไพรส์แฟนอย่างนี้เหรอ เขาไม่กล้าพูดอะไรน่าอายแบบนั้นหรอกนะ!!
“เปล่า”
...เรียวสุเกะก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกเขินกว่าปกตินัก อาจจะเป็นเพราะวันนี้เขาสวมวิญญาณสาวน้อยมา...เสียงที่เปล่งออกไปมันถึงได้ทั้งขลาดทั้งเขินราวกับสาวแรกแย้มขนาดนี้
“เอ้ะ?” ยูมะขมวดคิ้วสงสัย
....ก็ถ้าไม่ได้มีงาน แล้วทำไมถึงได้?....
“บอกไปสิยามะจังว่าจะชวนไปเดทน่ะ”
“เคนจัง!”
เสียงเคนโตะตะโกนแทรกเข้ามาในบทสนทนา ทำให้เรียวสุเกะต้องหันไปจิกตาใส่มันอย่างแค้นเคือง
...อย่าให้ถึงคราวเขาบ้างก็แล้วกันนะ ฮึ่ม!!
“จริงเหรอ? ยามะจังจะออกไปข้างนอกได้จริงๆเหรอ?”
ยูมะคว้ามือของเรียวสุเกะมากุมไว้แนบอก ถามพลางจ้องตาอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่ไม่สามารถปิดบังความดีใจได้เลย มันทั้งแวววาวสุกใส เป็นประกายแห่งความสุขที่อัดแน่นจนแทบล้น
“แล้วคิดว่าที่ฉันทำขนาดนี้เพราะอะไรเล่า ไอ้บ้า~”
แล้วพอเรียวสุเกะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็สะท้อนเห็นแต่ภาพของเขาก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่น่ะสิ!!
“ทำเพื่อผมเหรอ จริงดิ โอ้ย! ดีใจที่สุดเลย รอแปปนะ เข้ามารอในบ้านก่อน ขอแต่งตัว 10 นาที”
ยูมะจูงมือเรียวสุเกะเข้ามานั่งที่ห้องรับแขก ก่อนตัวเองจะกระโดดโลดเต้นเผ่นแผล้วขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว
“พี่ยูยะครับ ผมอยากพาโชริไปเที่ยวบ้าง” เคนโตะก็เดินตามเข้ามาในบ้านด้วย และไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปขออนุญาตจากพี่ยูยะทันที
“ก็ไปสิ” ยูยะก็อารมณ์ดีพอที่จะออกปากอนุญาตไปอย่างง่ายๆ
“แล้วก็อยากให้โชริแต่งหญิงแบบยามะจังด้วย” เคนโตะฉีกยิ้มใส่ยูยะ...พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองใสๆ ไร้พิษภัย ไม่ได้คิดอะไรเฮนไตเลย จริงจริ้งงง
เรียวสุเกะหรี่ตามอง...เค้าว่าแล้ว ไอ้เจ้าชายมันวางแผนชั่วไว้ในหัวจริงๆด้วย เขาสงสัยตั้งแต่มันขอชุดจากพี่สาวเค้ามาด้วยแล้วล่ะ
“ผมไม่เอาด้วยหรอกฮะ” โชริมุ่ยหน้า ...เขาไม่ได้อยากเป็นเด็กผู้หญิงนี่นา อย่าได้คิดจะมาบังคับกันง่ายๆเชียว... รู้จักฤทธิ์เดชน้องคนเล็กน้อยไปซะละ
“นี่ไง ฉันเตรียมมาให้ด้วย โชริ ลองหน่อยสิ นะ..ฉันอยากเห็น”
เรียวสุเกะรีบเอามือปิดปากแล้วแอบขำอยู่คนเดียวตอนเห็นความพยายามในการหว่านล้อมของเคนโตะ
“ไม่เอา ผมไม่อยากแต่ง” โชริส่ายหัวดิ๊ก ยังไงก็ไม่ยอมท่าเดียว มือเล็กเกาะชายเสื้อยูยะเอาไว้แน่นเพราะต้องการตัวช่วย
“ต้องน่ารักแน่ๆเลยน้า ลองหน่อยๆ” ไอ้นี่ก็มีความอดทนสูง ตื้อไม่เลิกไม่รา
“ไม่เอา” โชริส่งเสียงงอแงแล้วไปหลบอยู่ข้างหลังยูยะเรียบร้อย ใช้พี่ชายต่างป้อมปราการสุดท้ายที่แข็งแกร่งทรงพลังและมีอำนาจสูงสุด
“โชริบอกว่าไม่ชอบ...แกอยากให้แต่งก็แต่งซะเองสิ”
ในที่สุดยูยะก็ต้องออกโรงช่วยน้องชายสุดที่รักจนได้....
“ห๋า ผมเนี่ยนะ” เจอไม้นี้ของพี่ยูยะเข้าไป ไอ้เจ้าชายทำหน้าเหวอเหรอหราจนเรียวสุเกะหัวเราะก๊ากออกมาเสียงดังแบบห้ามไม่อยู่
“ไปเปลี่ยนชุดสิ ฉันก็อยากเห็น” ยูยะยกยิ้มร้ายกาจ
“เอ่อ พี่ยูยะ” เคนโตะพยายามจะคัดค้าน..แต่ทว่า
“จะไปดีๆหรือไม่ไป” ยูยะเริ่มทำเสียงเข้ม เค้าความใจดีในคราแรกเหือดหายไปเหลือเพียงความน่าเกรงขาม มือหนาชกกำปั้นตัวเองเป็นการซ้อมมือ ....เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เตือนแล้วนะ....
เคนโตะจึงต้องหอบชุดที่เตรียมมาให้โชริเข้าไปแต่งเองในห้องน้ำในสภาพจำยอม ....ไม่คิดมาก่อนเลยว่าแผนที่วางไว้จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองจนป่นปี้ขนาดนี้
“เล่นสนุกอะไรกันอยู่น่ะ”
ยูมะที่แต่งตัวเสร็จเพิ่งเดินออกมาจากห้องทำหน้างง เมื่อเห็นทุกคนหัวเราะคิกคักเหมือนเจอเรื่องสนุกกันอย่างพร้อมเพรียงจนน่าสงสัย
“แกรอดูเองก็แล้วกัน หึหึ” ยูยะเป็นคนตอบ... ซึ่งไม่ได้สร้างความกระจ่างใจให้กับน้องชายเลยแม้แต่น้อย... ยูมะยักไหล่แบบด้อนมายแล้วเดินไปนั่งอิงพนักโซฟา รอดูอยู่ข้างๆเรียวสุเกะ
ห้านาทีผ่านไป....
“มาแล้วๆ ว้าว เคนโตะคุงสวยจังเลยล่ะ”
โชริส่งเสียงนำมาเป็นคนแรก รีบวิ่งไปลากเจ้าชายในร่างเจ้าหญิงที่ยืนกระมิดกระเมี้ยนไร้ซึ่งความมั่นใจอยู่หน้าห้องน้ำไม่ยอมเดินออกมาสักที
“โชริ ฉันไม่ดีใจหรอกนะ” เคนโตะล่ะอยากร้องไห้... ลาก่อนภาพลักษณ์แบบเจ้าชายที่สั่งสมมาตลอดชีวิต T^T
“นึกครื้มอะไรขึ้นมาวะไอ้เจ้าชาย เอ้ะไม่สิ ต้องเรียกเจ้าหญิงแล้วสินะ ฮ่าๆๆ” แน่นอนว่าเพื่อนแสนดีอย่างยูมะไม่มีทางที่จะละเลยการกระทืบซ้ำ เหยียบย่ำให้จมดิน
“นายเองก็แต่งหญิงขึ้นเหมือนกันนะ...เคนจัง ฮ่าๆๆ” เรียวสุเกะหัวเราะท้องคัดท้องแข็งจนน้ำตาไหล ยูมะรีบส่งทิชชู่ให้ซับเพราะกลัวเครื่องสำอางที่แต่งมาสวยๆจะเปื้อนกลายเป็นแพนด้าซะก่อน
“เคนโตะคุง อ้ะ เคนโกะจังสินะ แต่งชุดนี้ไปเที่ยวกันเถอะ” โชริเอ่ยปากชวนใสๆ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกตัวน้อยนี่มัน...ปิดยังไงก็ไม่มิดจริงๆ
“ไม่เอานะโชริ” เคนโตะทำตาเหลือก
....ไม่นะ ถ้าจะออกบ้านด้วยสภาพนี้....
“แต่งหน้าด้วยสิ อ่ะ วิกน่ะ เตรียมมาด้วยไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันช่วยใส่ให้เอง” ยามะจังยิ้มหวาน แต่ในสายตาเคนโตะแล้วมัน ...รู้สึกขนลุกไปทั่วสรรพางค์กายเลยทีเดียว
....นี่สินะคือช่วงเวลาของการแก้แค้นที่เฝ้ารอคอยของเรียวสุเกะ ....
และแล้วแผนเดทของเรียวสุเกะในวันนี้ก็กลายเป็นดับเบิลเดทจนได้
เคนโตะที่ใช้เวลาร่วมชั่วโมงในการทำใจเรื่องแต่งหญิงได้แล้วก็ส่งซิกให้เรียวสุเกะตอนที่เดินออกบ้านแล้วเข้าไปควงแขนโชริพร้อมกระหนุงกระหนิงโชว์ให้ดูเป็นตัวอย่าง
แม้ว่าฝ่ายหญิงจะสูงและตัวใหญ่ล่ำสันกว่าฝ่ายชายที่ทั้งตัวเล็กและดูบอบบางกว่าหลายเท่านัก แต่แอคติ้งของนางนั้นสะดีดสะดิ้งเป็นเลิศได้อย่างน่าตบมากทีเดียว
เรียวสุเกะหลุบตามองมือหนาที่แกว่งอยู่ข้างตัวขณะเดินของยูมะด้วยใจที่เต้นระรัว....เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้ามือยูมะมาจับกุมไม่ให้แพ้กัน .... แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเทิร์นโปรความสะดีดสะดิ้งได้เท่านังเคนตี้....แต่การที่ยูมะหันมายิ้มให้แล้วเปลี่ยนเป็นแทรกนิ้วทั้งห้าเข้าสอดประสานกอบกุมมือเขาแทนด้วยความอบอุ่นนั้น
......มันดีไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว^^
.
.
ทันทีที่ทั้ง 4 คนออกไปเดินปะปนกับผู้คนในย่านช็อปปิ้งชื่อดังอย่างฮาราจุกุนั้น ก็เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่เดินผ่าน ...ไม่ว่าจะมองด้วยสายตาชื่นชมคู่ของเรียวสุเกะและยูมะที่มองยังไงก็ดูเหมือนคู่สร้างคู่สม คู่ชมคู่ชิด ในเมื่อคนหนึ่งสวยหวานหยาดฟ้ามาดิน แถมยังตัวเล็กน่ารักราวกับตุ๊กตาเดินได้... และอีกคนหนึ่งถึงหน้าตาจะไม่ได้หล่อเหลาจนคนทั้งโลกต้องสยบ แต่ใบหน้าที่คมคายกับรูปร่างสมส่วนพอเหมาะพอเจาะกับความสูงนั้นก็เสริมให้ยิ่งดูดีจนสาวๆมองกันเหลียวหลังเชียวล่ะ
...ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้รู้สึกถึงมันเลยแม้แต่น้อยก็ตาม
ส่วนอีกคู่นึงนั้น ...ถ้าให้บรรยายล่ะก็มันคือคู่ที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างได้อย่างมากทีเดียว ทั้งความไม่สมดุลกันของรูปร่างฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่มันดูขัดๆเหมือนถูกจับให้สลับร่างกัน แล้วอีผู้หญิงที่เหมือนกระเทยนี่ก็กรี๊ดกร๊าดวิ้ดว้ายชี้นกชมไม้ให้ฝ่ายชายดูเป็นที่อึกทึกครึกโครมมาตลอดเส้นทางที่นางได้ย่างกรายผ่าน
และที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ เคนโตะถูกฉุดไปลวนลาม ไม่รู้ว่าเพราะความแรด ความล้นที่คงไปเตะตาชายฉกรรจ์เข้าให้โดยไม่รู้ตัวหรือว่ายังไง ...แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่โชริตบะแตกทำหน้าบึ้งเข้าไปฉุดตัวแฟนสาวร่างยักษ์ออกมา แล้วกล้าพูดใส่หน้าชายฉกรรจ์พวกนั้นไปแบบโคตรเข้มว่า “อย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉัน!”
“บอกว่ามีแฟนแล้วๆ แฟนหวงด้วย ดูสิแฟนฉันหล่อกว่าพวกแกๆๆสิบเท่า อย่าหวังว่าฉันจะลดตัว เหอะ!”
ขนาดว่าโดนผู้ชายลวนลามไปแล้วก็กล้าที่จะปากดีอยู่ โชริจึงรีบลากแขนเคนโตะให้วิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุก่อนที่คนพวกนั้นจะนึกอยากทำร้ายกระเทยขึ้นมาจนได้เจ็บตัวกันเปล่าๆ
“โฮ่ย นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว” ฝีเท้าระดับนักวิ่งอย่างโชริยังต้องบ่นอุบ.... เพราะมันเป็นฟีลลิ่งหนีตายก็เลยรู้สึกว่าเหนื่อยกว่าปกติ
แต่กระเทยร่างยักษ์นั้นกลับยิ้มแย้มมีความสุข ไม่มีเหน็ดไม่มีเหนื่อย
“โชริน่ารักสุดๆ!” ก้มหน้าหอมแก้มโชริ แล้วโอบบ่าเล็กให้เดินไปรวมกลุ่มกับยามะจังกับยูมะด้วยกัน
“เคนโตะคุงเป็นผู้หญิงอยู่นะฮะ” โชริสะกิดเตือน
“อุ้ยตาย ลืมไปเลย...ก็โชริคุงน่ารักมากนี่นา เมื่อกี้ก็เท่ห์สุดๆไปเลยล่ะ” เคนโตะจีบปากจีบคอพูดในสไตล์สาวน้อยแบบที่เคยเห็นแล้วคิดว่ามันน่ารักดี
....แต่ทำไมพอเขาทำแล้วโชริถึงได้ทำหน้าเหยเกแบบนั้นนะ?
“ผมขนลุกอ่ะ~ หยุดเถอะฮะ”
“โชริคุงพูดจาใจร้าย~”
.
.
“ยูมะ ไปลองชุดนี้ให้หน่อย”
เสื้อผ้าเนื้อดีแฟชั่นใหม่ๆจากบรรดาร้านโปรดของเรียวสุเกะถูกจับมายัดใส่มือร่างสูงไม่รู้ต่อกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ยูมะก็คร้านจะนับ.... เขาถูกใช้ให้เป็นหนูทดลองในการเลือกเสื้อผ้าของเรียวสุเกะมาตลอดช่วงเช้า โดยที่เจ้าตัวให้เหตุผลว่า “ก็ฉันอยู่ในสภาพนี้จะให้ไปลองเองได้ไงล่ะ ช่วยกันหน่อยสิ”
ก็ตามนั้นแหละ คนตามใจแฟนอย่างยูมะจะไปขัดอะไรได้ นอกเสียจากต้องทำตามประสงค์ของคนตัวเล็กแต่โดยดี ....แต่ก็ไม่ใช่ว่าเบื่อหรือไม่พอใจอะไรหรอกนะ การได้เห็นยามะจังเดินลั้ลลาเลือกเสื้อผ้ารองเท้าไปรอบๆร้านอย่างมีความสุขราวกับกำลังวิ่งเล่นท่ามกลางทุ่งดอกไม้นั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขายิ้มออกมาได้
“นี่ปกติยามะจังซื้อเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
ยูมะถามขึ้นมาขณะที่รับถุงเสื้อจากร้านล่าสุดมาถือเพิ่ม ทั้งๆที่ถุงเดิมที่เขาช่วยถืออยู่ในมือก็ค่อนข้างเยอะมากแล้วในความคิดของยูมะ
“ทำไงได้ ก็ฉันเป็นคนมีชื่อเสียงนี่นา ขืนใส่เสื้อผ้าซ้ำๆก็โดนเอาไปเม้าท์แย่สิ... อีกอย่างนะ”
“หืม”
“ช็อปปิ้งก็สนุกดีนี่นา ฉันชอบ^^” เรียวสุเกะตอบด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม ท่าทางมีความสุขมากซะจนยูมะที่ถูกใช้งานเยี่ยงทาส เดินถือของตามจนขาลากแขนปูดแต่กลับรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“หิวรึยังล่ะ ไปนั่งพักหาอะไรกินกันมั้ย”
“อื้อ ฉันอยากกินอะไรเย็นๆ”
อะไรเย็นๆของเรียวสุเกะที่ว่า.....
ตอนนี้ยูมะกับโชริกำลังทำหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดีในการยืนต่อแถวซื้อซอฟต์ครีมร้านดังที่คนยืนรอคิวแน่นขนัด หลังจากที่ดัชนีนิ้วชี้ของเรียวสุเกะทำการยืนยันเป้าหมายว่าอยากกินซอฟต์ครีมร้านนี้ โดยที่สาวน้อยเรียวสุเกะและกระเทยเคนตี้จะไปหาที่นั่งรอพักเหนื่อยอยู่ใกล้ๆร้าน
“อ่ะ สตรอเบอร์รี่ใช่มั้ยล่ะ”
ยูมะกลับมาพร้อมซอฟต์ครีมสองรสในมือ และยื่นอันที่น่าจะถูกใจร่างเล็กไปให้...ซึ่งเดาไม่พ้นจะเป็นสตรอเบอร์รี่อีกนั่นแหละ
“อื้อ ขอบคุณน้า” เรียวสุเกะยิ้มดีใจเหมือนเด็กน้อยแล้วรับไปถือไว้ เล็มชิมเพียงเล็กน้อยแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขเพราะรสชาติถูกปาก
….จากห้วงลึกในหัวใจของยูมะ...บอกเลยว่าชื่นใจ หายเหนื่อย เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มหวานๆนี้ ยูมะยินดีรับใช้ทุกประการ!!!.....
“อันนี้ของเคนจัง”
โชริยื่นรสวานิลลาให้ แล้วตัวเองก็แทะเล็มรสชอคโก้มินต์ของโปรดในมือ
“แต่ฉันอยากกินอันนั้นมากกว่า~” นังกระเทยแผนสูงเริ่มออกลวดลายสะบัดสะบิ้ง
“เอ้ะ แต่ว่าผมกินไปแล้วนะ” โชริทำหน้าเหรอหรา
.......ก็เท่าที่จำได้ตอนเคนโตะเคยพามากินก็สั่งรสนี้นี่นา...ไม่ใช่เหรอ? .....
“ไม่เห็นเป็นไรเลย กินด้วยกันนะ”
เคนโตะจับมือโชริข้างที่ถือซอฟต์ครีมอยู่ ดึงมากินโดยที่สายตาจับจ้องร่างบางแบบไม่วางตา
โชริที่ถูกกระเทยรุกไม่ทันตั้งตัวก็เขิน... นี่มันเหมือนจูบทางอ้อมเลยนี่นา~
“โอ้ย! ผู้หญิงไร แรดจริงโว้ย!!”
ยูมะที่อดรนทนเห็นภาพน้องชายอายใส่กระเทยไม่ได้ก็พูดลอยๆขึ้นมาเสียงดังพอที่ให้มันได้ยิน
“อย่ามาอิจฉา” กระเทยร้อนตัวก็เลยส่งเสียงเย็นๆกลับคืนมาอย่างไม่ยอมแพ้
“ใครจะไปอิจฉาแก ไอ้...” จะด่ามันว่าตุ๊ดก็ไม่ถนัดปากเท่าไหร่ หนำซ้ำยังอาจถูกยามะจังเขวี้ยงค้อนใส่ แถมงอนไปเลยก็ได้
“หยุดพูดจาหยาบคายกับสุภาพสตรีผู้บอบบางเดี๋ยวนี้นะ”
“ห๊า!!! ตรงไหนของแกที่บอบบางวะ แข้งขาแม่งระดับนักฟุตบอลแท้ๆ...กล้าพูดนะ”
“เค้าเรียกว่าผู้หญิงยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพย่ะ!”
เรียวสุเกะกับโชริที่มาสุมหัวกันนั่งดูแฟนของทั้งคู่เถียงกันแล้วก็หัวเราะคิกคักกันสองคน
“บางทีสองคนนี้ก็เหมาะกันดี...เนอะ โชริจัง” เรียวสุเกะกล่าวขึ้นมาลอยๆ แต่ก็ทำให้ยูมะกับเคนโตะหยุดเถียงกันในทันที
“นั่นสิฮะ” แล้วถ้ายิ่งมีเสียงใสๆของโชริตอบรับเข้าไปด้วย
“เฮ้ย ได้ไงกัน.....”
ทั้งๆที่ก็เป็นแค่คำพูดลอยลมธรรมดา แต่กลับดูมีความศักดิ์สิทธิ์เสียจนสองหนุ่มเลิกทะเลาะกันโดยปริยาย แล้วแยกย้ายกลับไปอ้อนใส่แฟนตัวเองทันที
ยูมะกลับมานั่งจุ้มปุ้กข้างเรียวสุเกะแล้วเล็มกินซอฟต์ครีมของตัวเองไปเงียบๆทว่าดูเรียกร้องความสนใจ ....เรียวสุเกะกำลังจะหันไปปลอบใจอยู่เชียว ถ้าเกิดว่ายูมะไม่ถูกเด็กผู้ชายตัวน้อยวัยกำลังซนวิ่งชนหลังทำให้หน้าจิ้มไปบนซอฟต์ครีมจนเลอะไปทั้งจมูกเสียก่อน....แถมเจ้าตัวเด็กน้อยคนสร้างเรื่องก็วิ่งหายไปแบบไม่เหลียวหลังกลับมาดูผลงานที่ได้สร้างไว้เสียด้วย
เรียวสุเกะหัวเราะ...หัวเราะเสียงดังอย่างจริงจังมากทีเดียวตอนเห็นช็อตยูมะเงยใบหน้าเลอะไอศกรีมขึ้นมาแบบมึนๆงงๆ
“นายเนี่ยน้า” แต่ถึงจะใจร้ายหัวเราะซ้ำเติมใส่ความโชคร้ายของยูมะแค่ไหน ... เรียวสุเกะก็ยังใจดียื่นผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดให้อย่างเบามือ
“ผมผิดที่ไหนกันล่ะ มันเป็นอุบัติเหตุต่างหาก” ไม่แคล้วที่ร่างสูงจะทำหน้างอ บ่นประปอดกระแปด
“แต่ไอติมนายหายไปหมดแล้วล่ะ” เรียวสุเกะชี้ให้ดูของกลางในมือ
“อ้ะ..จริงด้วย โธ่~ เพิ่งกินไปนิดเดียวเองนะ”
ยูมะก้มลงมองโคนไอศกรีมที่เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าแล้วก็อยากร้องไห้ขึ้นมา...ก็อุตส่าห์ไปต่อแถวซื้อมาตั้งนาน ยังกินได้ไม่ถึงครึ่งเลยแท้ๆ ทำไมชีวิตเขาจะน่าเศร้าถึงเพียงนี้นะ....
“ถ้าไม่รังเกียจ...จะกินด้วยกันมั้ยล่ะ”
ประโยคที่มันฟังดูคล้ายๆตอนที่อีกระเทยเคนตี้มันหว่านล้อมน้องชายเขา... แต่พอมันออกมากจากปากแดงๆของยามะจังแล้วเขากลับรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ
....เหมือนฝันเลยล่ะ...ได้กินไอศกรีมด้วยกันกับยามะจัง แถมกินจากโคนเดียวกันด้วยนะ คุณพระช่วยกล้วยทอด~~!! ชาติที่แล้วเขาทำบุญด้วยอะไรกันนะ
“อื้อ ขอความกรุณาด้วยครับ!!”
ก็เพราะว่ามัวแต่คิดเพ้อเจ้อบ้าบอเลอะเทอะอยู่ในหัวนั่นแหละ ถึงได้ทำแต่เรื่องเปิ่นๆต่อหน้ายามะจังตลอด ......ประโยคตอบรับที่ดูจริงจังเกินไปกับการโค้งให้ในสถานการณ์แบบนี้ทำให้เรียวสุเกะอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ อย่าว่าแต่เรียวสุเกะเลย แม้แต่เจ้าเคนโตะกับโชริก็ยังไปแอบสุมหัวกันหัวเราะคิกคักๆเป็นที่สนุกสนานไปแล้ว ยูมะจึงหันไปทำหน้าดุใส่
....แต่ก็เท่านั้นแหละ ความดุของยูมะน่ะ ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกกลัวเกรงเลยแม้แต่น้อย
“นี่...ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้นะ ทำตัวสบายๆเหมือนตอนเราเดทอยู่ที่บ้านนั่นแหละ ไม่ต้องคิดมาก”
“........”
“มานี่เร็วสิ เดี๋ยวก็ละลายหมดหรอก” เสียงหวานๆของยามะจังที่พยายามปลอบใจ(หลังจากหัวเราะใส่แบบเต็มสูบ)
....จะว่าไงดีนะ.....จะบอกว่าเขาเป็นคนโง่ที่สุดในโลกก็ได้
.......ที่พอถูกความน่ารักของคนที่รักเยียวยาจิตใจ......
.......ต่อให้ถูกฆ่าก็ไม่ยอมตายแล้วครับตอนนี้ ^^......
to be continue
I-PrA Talk: วันนี้ประอารมณ์ดีค่ะ ....ทาคาคิ ยูยะ ลูกชายเบอร์หนึ่ง หล่อกระชากตับไตไส้พุงมาตั้งแต่เช้า ^^
จริงๆนี่เป็นสเปเชี่ยลในตอนรวมเล่ม..แต่อย่างที่บอก วันนี้เราอารมณ์ดี อยากปล่อยของ ฮ่าๆๆ
แต่เราจะปล่อยตอนสเปเชี่ยลแค่ซุปตาร์นะ แล้วจะปิดโปรเจคเรื่องนี้แล้ว (ส่วนสเปวันคิสของุบงิบไว้ในเล่มพอนะ ฮี่ๆ)
ทุกคนมาหฤหรรษ์ไปกับเดทป่วงๆของคู่สร้างคู่สมยูมะยามะ และกระเทยเคนตี้กับโชริสุดหล่อกันเถอะค่าาาาา
ขอให้มีความสุขกับฟิกใน long weekend นี้จ้า
ความคิดเห็น