ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ].... You are beautiful ....[Hey!Say!JUMP version]

    ลำดับตอนที่ #18 : Before Christmas

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 195
      0
      12 ก.ย. 55




    18

     

     

     

     

                    หลังจากที่ยูริเดินกระฟัดกระเฟียดไม่สบอารมณ์ออกไปจากบ้าน โดยไม่สนใจว่าจะชนเข้ากับยูโตะที่ดันไปยืนทะเล่อทะล่าเกะกะร่างบางเข้า.... ยูยะก็เดินตามออกไปเพราะว่ามีนัดกับพีซังที่บริษัท ในครัวจึงเหลือเพียงเคย์และไดกิสองคนเท่านั้น

     

    นี่.... โกรธหรือเปล่า ไดกิกระตุกชายเสื้อชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า ....คนที่เข้ามาเพื่อปกป้องเขาจากใดๆทั้งปวงโดยไม่สนใจสิ่งใด

     

                    เปล่านี่ ฉันจะโกรธไดจังทำไมล่ะเคย์หันกลับมายิ้มอ่อนโยนให้อย่างที่เคย ...แต่สิ่งที่แปลกไปจากปกติก็คือสายตาที่อ่อนล้าแต่พยายามปกปิดเก็บซ่อนมันเอาไว้

                    ให้จริง.... ถ้าโกรธก็จะได้ง้อ ถ้าไม่โกรธก็แล้วไป

                    จะง้อจริงอะ

                    ฉันให้เวลาสามวินาทีในการตัดสินใจว่าโกรธหรือไม่โกรธ... หนึ่ง..สองงงง

                    อย่างนี้สมควรน้อยใจดีมั้ยเนี่ย ....ถ้าไดจังไม่เต็มใจจะทำก็ไม่ต้องสนใจฉันก็ได้ มันไม่ได้สำคัญอะไร

     

                    ก็เพราะว่าสำคัญไงล่ะถึงได้สนใจ

                   

                เคย์จ้องหน้าไดกิอย่างอึ้งๆ ดวงตากลมมองจ้องที่ใบหน้าหล่ออย่างเอาจริงเอาจัง เหมือนพยายามสื่อว่าเขารู้สึกแบบนั้นและจะทำอย่างที่พูดจริงๆ               

     

                    งั้น..ขอติดไว้ก่อนได้ป่าว

                    นายคิดอกุศลอยู่ใช่มั้ยเนี่ย

                    เฮ้ย เปล่านะ

     

                    งั้นอยากได้อะไรก็บอกมา ภายในวันนี้ด้วย...ถ้าช้ากว่านี้ถือว่าหมดอายุร่างบางยื่นคำขาด

                “ห้ะ..มีหมดอายุด้วย ผมเป็นคนนะไม่ใช่ขนมปัง จะง้อกันต้องมีวันหมดอายุด้วย

     

    การเล่นลิ้นเริ่มไม่เข้าท่าสำหรับชายหนุ่มเสียแล้วเมื่อไดกิเริ่มหน้างอจวนเจียนจะกลายเป็นคนงอนเสียเอง แล้วท้ายสุดเคย์ก็ต้องเป็นฝ่ายง้อ... อย่างงี้ไม่คุ้มครับ ไม่คุ้ม

     

                    งั้น.... ขอเคย์นอนด้วยคืนนึงสิร่างโปร่งโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหู ...เรียกสีแดงๆบนใบหน้าหวานได้เป็นอย่างดี...

     

                    แค่นอนเท่านั้นนะ

    อื้อ สาบานด้วยเกียรติ์ลูกผู้ชายเลย

     

    .

    .

    .

     

     

    จะมีสักกี่เหตุผลกันที่ทำให้ประธานบริษัทหนุ่มผู้เป็นศัตรูกับยามเช้าอย่างยามะพี จะลุกขึ้นมากระตือรือร้นตั้งแต่เช้าอย่างวันนี้ หนำซ้ำยังหาญกล้าที่จะโทรเรียกยูยะให้เข้ามาหาแบบเร่งด่วนด้วยเนี่ยสิ

     

                “คริสมาสต์!!!!”ยูยะแทบจะตะโกนวลีสั้นๆคำนี้ให้ลั่นบริษัทนัก

     

    .... คิดได้ยังไง เรียกเค้าบึ่งรถเข้าบริษัทแต่เช้าด้วยเหตุที่ว่า ต้องการคนช่วยวางแผนปาร์ตี้วันคริสต์มาสที่จัดกันแบบส่วนตัวและไม่เป็นทางการแบบที่ทำเป็นประจำทุกๆปีเนี่ยนะ ....

     

                “อื้อ ใช่สิ คริสต์มาสต์อีฟ... เสาร์นี้ก็จะถึงแล้วน้า นายคิดว่าปีนี้เราจะจัดงานกันที่ไหนดีล่ะ ที่บริษัท ที่บ้าน หรือว่าร้านอาหารที่ไหนสักที่ดี”

     

     “ตกลงที่โทรเรียกผมมาแต่เช้าเพราะเรื่องนี้เหรอ” ยูยะหน้าตึงไปในทันที ไม่คิดจะปกปิดอารมณ์ขุ่นมัวใดๆบนใบหน้าต่อหน้าท่านประธานบริษัทอย่างที่ควรจะเป็นทั้งสิ้น

     

    “ใช่จ้ะ” ยิ่งเห็นยามะพีที่มีสีหน้ารื่นเริงแรกแย้มชื่นบานแล้วก็พาลอยากจะตะโกนใส่หน้าให้หายหงุดหงิดสักที..... แต่เขาก็เป็นสุภาพชนพอที่จะไม่ทำอย่างที่ใจคิด

     

    “ผมกลับล่ะ...” ยูยะลุกพรวดจากโซฟาแบบที่ว่า ต่อให้มีแรงช้างแรงม้ามาฉุดก็คงเอาไม่อยู่แล้ว

    “เฮ้ยๆ เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งอารมณ์เสียน่า ฉันจะคุยเรื่องคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะถึงด้วยต่างหาก” แต่ยามะพีคนดีศรีประธานร้อยเล่ห์กลก็ฉลาดพอที่จะหาเหตุผลสำรองมาทัดทานเอาไว้ได้ชะงัดนัก เพราะยูยะสงบลงและยอมนั่งลงตามเดิมแล้ว

    “ว่ายังไงครับ” พอนั่งลงได้ก็ถามหาธุระที่ว่าทันที

    “อุวะ...ใจร้อนจริง รีบไปไหนหรือว่าไง”

    “ถ้าไม่พูด ผมจะกลับแล้ว”

     

    ไม่รู้ว่าใครเป็นประธานบริษัท และใครเป็นศิลปินในสังกัดแล้วงานนี้ ....ขู่ได้ขู่เอาจริงๆ

     

    แต่หลังจากที่คุยเรื่องงานเรียบร้อย ท่านประธานก็ลากกลับเข้าเรื่องปาร์ตี้วันคริสต์มาสอีกครั้งจนได้

    ฉันว่าคริสต์มาสปีนี้ฉลองที่บ้านพวกนายนั่นล่ะนะ ง่ายดี

    อืม พีซังว่าไงก็ตามนั้นละกัน ผมกลับแล้วนะ

    คราวนี้ยูยะไม่รอให้ยามะพีพูดอะไรขัดขึ้นมาอีก ร่างสูงลุกพรวดแล้วเผ่นแผล็วออกจากห้องอย่างรวดเร็วราวกับพายุทอร์นาโด ชนเข้ากับชิเงะที่เดินสวนเข้าห้องมาจนชิเงะต้องหมุนรอบตัวเองเข้ามาแทน

     

    โอ้ว หมุนได้สวยนี่ชิเงะจัง

     

    ทาคาคิจะรีบไปไหนของเค้าน่ะ ชิเงะถึงกับหน้าเหวอ รู้สึกว่าตัวเองกลายสภาพเป็นฝุ่นละอองไปแล้ว หลังจากที่ถูกชนหน้าแทบคว่ำแต่ยูยะกลับทำเหมือนมองไม่เห็นซะได้

     

                “รีบร้อนแบบนี้ คงเพราะเป็นเรื่องหัวใจก็ได้มั้ง

                    หา....กับจิเน็นน่ะหรือครับ ผมไม่เห็นว่าสองคนนี้มีโมเม้นที่เหมือนแฟนกันตรงไหน

                    บางทีอาจจะเป็นคนที่เรานึกไม่ถึงก็ได้

                    แล้วพีซังจะไม่เดือดร้อนหน่อยหรือครับ เดี๋ยวก็ได้มีนักข่าวแห่กันเข้ามาเต็มบริษัทอีก

     

                    เรื่องยังไม่เกิด อย่าเพิ่งกระโตกกระตากไปดีกว่า... อีกอย่างใกล้จะคริสมาสต์แล้ว ช่วงนี้ฉันโปรดสัตว์น่ะ  ชิเงะได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดแปลกๆของประธาน ...เอาเถอะ ขนาดท่านประธานยังไม่เครียดเลยนี่นะ

     

                .

                .

                .

     

                   

                    นายเข้ามาทำอะไรในห้องฉัน

     

    ยูยะจิกตามองหน้าเคย์ที่เดินกอดหมอนลอยหน้าลอยตาเข้ามาในห้องของเขาในช่วงหัวค่ำของวันนั้นเอง

     

    ฉันมาหาไดจังต่างหากร่างสูงสอดส่องสายตาไปรอบๆห้อง แต่ก็ไม่พบคนที่คนต้องการ

    เหรอ....แต่เสียใจด้วย ตอนนี้สองพี่น้องนั่นดูดาวกันอยู่ที่ระเบียงนู่น

     

    ไม่เป็นไร ฉันรอที่นี่ก็ได้ร่างโปร่งดูไม่เดือดร้อนเลยสักนิด ผิดกับเจ้าของห้องที่โวยวายเสียงดัง

    แกจะมารอทำไม มีธุระอะไรก็ไปหาซะเซ่!”

    เสียใจ แกไล่ฉันก็ไม่ไปหรอก เพราะคืนนี้ฉันจะนอนที่นี่กับไดจัง คริคริ แล้วคนพูดมันก็ยิ้มเปรมปรีย์มีความสุขเหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง

     

    อ๋อ งี้นี่เอง ห้องตัวเองกว้างขวางไม่นอน ชอบมาเบียดเบียนชาวบ้าน....แล้วทำไมไม่ให้ไดจังของนายไปนอนที่ห้องซะเลยล่ะ

    แหม่ะ..รายนั้นยอมซะที่ไหนฝ่ายนี้ก็ทำเป็นไม่สนใจแม้ว่าอีกฝ่ายจะว่ากระทบให้เจ็บแสบก็ตาม

     

    เออๆๆเรื่องของแก เดี๋ยวฉันไปสูดอากาศข้างนอกดีกว่า ไม่อยากเห็นหน้าแกว่ะเคย์ยูยะค่อนข้างเพลียที่จะต่อปากกับเพื่อนคนนี้จึงเป็นฝ่ายลุกหนีออกมาจากห้องแทน

     

     ....ทั้งๆที่ห้องนั่นก็ห้องของเขาแท้ๆ ทำไมมันหาความสงบเอาไม่ได้ซะเลยนะ ....

     

    ใจร้ายยยยย

    เคย์ลากเสียงยานคางล้อเลียน แต่ร่างสูงหาได้สนใจไม่ ปิดประตูใส่ด้วยความหมั่นไส้เสียด้วยซ้ำ

     

    .

    .

     

     

    ในที่สุดยูยะก็ลากสังขารมาหยุดที่ระเบียงจนได้ แม้จะรู้ว่ามีใครอยู่ก่อนแล้วก็ตาม..... ก็ในเวลาแบบนี้น่ะ การมองท้องฟ้าจากระเบียงนี่มันเป็นอะไรที่เค้าชอบมาตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านนี้ใหม่ๆแล้ว

     

    อ้าว อยู่คนเดียวเหรอแต่แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นว่ามีไดกินั่งแกว่งขาอยู่คนเดียวแล้วไม่เห็นเงาของเจ้าตัวเล็กจอมวุ่นวายเลยอดไม่ได้ที่จะทักออกไป

     

    เรียวจังไปเข้าห้องน้ำน่ะ ..นั่งด้วยกันมั้ยครับไดกิหันมามองแล้วก็ยิ้มตอบพร้อมกับเชิญชวนอย่างมีน้ำใจ ซึ่งยูยะก็ไม่รีรอที่จะนั่งตามคำเชิญ.... จริงๆต่อให้ไม่ต้องเชิญเขาก็มีสิทธิในทุกๆที่ในบ้านหลังนี้อยู่แล้ว

     

    .....แต่เอาเถอะ เห็นแก่ข้าวอร่อยๆสามมื้อที่ไดกิทำให้กินทุกวัน รวมถึงการดูแลเล็กๆน้อยๆอย่างพวกของกินจุกจิกซึ่งช่วยเขาได้มาก.... เอ้ะ ยังไม่ได้บอกสินะ ว่าตอนนี้น้ำหนักเขาลดลงไปสองโลแล้วด้วยความพากเพียร -_-“

     

    เจ้าเคย์มันเข้าไปก่อกวนในห้องน่ะ ฉันเลยหนีออกมา...นายไปจัดการมันทีสิจู่ๆก็โพล่งออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ...ไดกิก็เลยกระอักกระอ่วนที่จะตอบรับจนตอบออกมาแทบไม่เป็นภาษา แก้มขาวๆที่โดนลมหนาวจากอากาศจนมันแดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงเข้าไปกันใหญ่

     

    ยูยะรู้สึกเอ็นดู ไดกิให้ความรู้สึกเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ยิ่งร่างบางห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนนุ่มยิ่งแล้ว ...ร่างสูงจึงยื่นมือออกไปลูบผมนุ่มนั้นเบาๆ

    ฉันไม่ได้จะว่าอะไรหรอก แค่หมันไส้ไอ้เคย์มันเท่านั้นแหละ

     

     

    ...ทาคาคิคุงชอบดูดาวเหมือนกันเหรอครับไดกิพยายามพาร่างสูงออกนอกเรื่องที่มันสามารถพาดพิงถึงเค้าให้ได้อายอีกรอบ

    ก็ไม่เชิง... แต่นายสองพี่น้องนี่เป็นโอตาคุเรื่องดาวเหมือนกันเลยนะ เจ้านั่นก็เคยบอกว่าไปหลงรักดาวดวงนึงเข้า ..แปลกดี

     

    เรียวจังบอกเรื่องนั้นกับทาคาคิคุงด้วยเหรอจู่ร่างบางก็หันมาทำสีหน้าจริงจังในแบบพี่ชายขึ้นมา

    อืม ทำไมล่ะ หรือมันเป็นความลับ

    คือว่า จริงๆแล้วดาวที่เรียวจังพูดถึง ผมคิดว่าเค้าหมายถึงคุณน่ะ

    ห้ะ! ฉันน่ะนะ

     

    ดึกแล้วผมไปนอนล่ะ  อ้อ ทาคาคิคุง...ตุ๊กตาหมียังไม่แห้งดี..... คืนนี้ก็อย่ากอดน้องผมแรงนักนะครับ

     

    แล้วพี่ชายที่มีดีดรีความแสบแก่นแก้วไม่แพ้น้องชายก็เผ่นพลิ้วหอบผ้าห่มปลิวเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว

     

     

    เหลือทิ้งไว้ก็แต่...... ผู้ชายคนนึง ที่ยังนั่งอึ้ง ตะลึงค้าง

    และหัวใจไม่รักดีที่อยู่ๆก็เต้นแรงผิดจังหวะ

     

     

    เราเนี่ยนะ ดาวเกินเอื้อมที่พูดถึง

     

    .

    .

    .

     

    ยูยะกอดอกนั่งนิ่งแผ่รังสีทะมึนอยู่บนเตียง หลังจากที่นั่งทอดอารมณ์ครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่กวนหัวใจอยู่ในระยะนี้ที่ระเบียงมาสักพัก และเขาก็มีความคิดที่อยากจะพิสูจน์ความจริงข้อที่ยังคาใจอยู่

     

                    เรียวสุเกะ!!”

     

    ฮะ!!” เรียวสุเกะที่เพิ่งเปิดประตูเข้าห้องมาก็มีอันตกใจหน้าตาเหรอหรา

                   

                “มานี่ซิ ร่างสูงสั่งเสียงเรียบๆ ร่างเล็กก็ยอมเดินมาแต่โดยดี แม้จะมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่บ้างก็ตาม

     

    คุซาป๊งของฉัน ร่างสูงแบมือขอ ถามทั้งๆที่ตัวเองก็รู้คำตอบอยู่ในอก ....ในเมื่อไดกิเพิ่งบอกเขาว่ามันยังไม่แห้ง...

     

    .....ก็แค่อยากแกล้ง อยากรู้ว่าเจ้าตัวเล็กจะแก้ตัวแบบไหนออกมา.....

     

                    คือ...คุซาป๊งยัง....ยัง....ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย แหะๆร่างเล็กหัวเราะแห้งๆ

                    แล้วคืนนี้ฉันจะนอนได้ยังไงร่างสูงแกล้งกดเสียงต่ำให้เรียวสุเกะใจเสียเล่นๆว่าเขากำลังไม่พอใจ

     

                    งั้น..ผมให้ยืมเจ้านี่ก็ได้ร่างเล็กถลาไปคว้าเจ้าแพนด้าเนโกะที่อยู่บนหัวเตียงมายื่นถวายให้ พร้อมกับยิ้มใส่เสียจนตาปิด

                    ..... นี่เขาถึงกับลงทุนให้ยืมของสุดรักสุดหวงเลยนะ!.....

     

                    ไม่...เอา รายนี้ก็เชิดใส่ได้อีก

                    ง่ะ.. เรียวสุเกะทิ้งตัวลงนั่งขอบเตียงใกล้ๆกับยูยะ พยายามใช้หัวนึกมุกใหม่ๆมาใช้ขัดดอก เลยไม่ทันสังเกตว่าตัวเองมีเงามืดทาบทับอยู่ด้านหลังจนกระทั่ง ร่างเล็กถูกรวบตัวไปกอดแทนตุ๊กตาเหมือนเมื่อคืนวานเรียบร้อย

                “อ้ะ ทาคาคิ..คุง เรียวสุเกะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ

     

                    ใช้นายแทนก็ได้ อุ่นๆนิ่มๆดี จบคำพูดปุ๊ปก็ฝังใบหน้าหล่อคมเข้าคลอเคลียที่ซอกคอหอมทันที .....ไม่เห็นใจกันบ้างเลย ว่าคนที่เป็นตัวแทนตุ๊กตาอย่างเรียวสุเกะน่ะ ทั้งสั่น ทั้งเขิน ....ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายน่ะมันเต้นแรงแค่ไหน

                    จะบอกว่าผมอ้วนหรือครับ ไม่รู้ว่าร่างสูงจะมาไม้ไหนอีก แต่เรียวสุเกะอยากจะหยุดเวลานี้เอาไว้เสียเหลือเกิน

     

                    เปล่านี่....แบบนี้น่ะดีแล้ว ฉันชอบ ว่าแล้วก็กระชับกอดร่างเล็กให้แน่นขึ้นประกอบคำพูด จนเรียวสุเกะแทบจะละลายตายคาอกยูยะเสียเดี๋ยวนี้

     

    ......เอ่อ ถ้างั้นก็ลาขาดไปเลยนะคุซาป๊ง พรุ่งนี้ฉันจะเอานายไปซ่อน คอยดู >////////<

     

     

                    ฉันรู้เรื่องดาวที่นายเคยบอกฉันแล้วนะ

                    ดาว!?... เอ้ะ ทาคาคิคุงรู้แล้วเหรอ!!” พอพูดถึงเรื่องนี้ปุ๊บ เรียวสุเกะที่เคลิ้มๆไปเมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะมีสติขึ้นมาทันที

                    ว่าไง มีอะไรจะสารภาพมั้ยล่ะ

                    ก็ไหนว่ารู้แล้ว

                    รู้มาจากคนอื่นกับฟังจากปาก นายคิดว่าอันไหนมันน่าเชื่อกว่ากันละ

                   

    เรียวสุเกะถูกคนมากเล่ห์ต้อนให้พูดความในใจที่เขาเก็บไว้มาตลอด

     

     

     

                    จริงๆแล้วผม...ชอบทาคาคิคุงครับ

     

    ร่างสูงกำลังแย้มยิ้มเบ่งบานเหมือนดอกทานตะวันที่แข่งกันชูคออาบไล้แสงอาทิตย์

     

     

     

     

    ให้ผมเป็นแฟนคลับทาคาคิคุงอีกคนนะ รับรองว่าผมจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายเลย

     

    เสมือนได้ยินเสียงรถเหยียบเบรกดังเอี๊ยด แล้วก็มีอะไรกลิ้งไหลลงมาชนกันดังตุ้บๆๆ .....ทานตะวันเบ่งบานเมื่อกี้คอหักเหมือนจู่ๆท้องฟ้าสว่างไสวก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดครื้มในชั่วพริบตาแล้วพายุฝนเทกระหน่ำลงมา

     

    ยูยะหุบยิ้มฉับเหมือนโดนสับสวิตซ์ ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาน้อยๆแลดูน่าขนลุก ....เรียวสุเกะได้แต่กระพริบตาปริบๆ เกรงว่าจะทำเรื่องให้ร่างสูงไม่พอใจอีกแล้ว

     

    แฟนคลับสินะ...

    เอ่อ...ถ้าทาคาคิคุงไม่ชอบ ผม...

    ได้.... ฉันอนุญาตให้นายเป็นแฟนคลับฉันได้ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างนึงที่นายต้องสัญญากับฉันก่อน

    อะไรครับร่างเล็กในอ้อมกอดอุ่นช้อนตาขึ้นมองตาแป๋ว ปล่อยรังสีโมเอ้แบบไม่รู้ตัวใส่ยูยะจนร่างสูงสะดุดลมหายใจตัวเอง

    ...... รึไอ้ตัวเล็กจะรู้ด้วยว่าเขาแพ้ดวงตาใสแป๋วๆแบบนี้นะ.......

     

    นายต้องเป็นแฟนคลับฉันคนเดียว ห้ามเปลี่ยนใจไปหาคนอื่นด้วย

     

    ข้อแม้แปลกๆที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างแฟนคลับกับนักร้องตามปกติ แต่เรียวสุเกะก็พยักหน้าตกลงโดยไม่ติดใจสงสัยใดๆ ....ใบหน้าหวานลอยเคลิ้มเหมือนต้องมนต์ไปตั้งแต่ถูกรวบตัวเข้ามากอดแนบอกกว้างแล้ว

     

    แล้วก็ได้สิทธิพิเศษในการเป็นตัวแทนคุซาป๊งของฉันในคืนนี้ด้วย โอเคมั้ย

     

    ...ฮะ

     

    เรียวสุเกะหลับตาพริ้มด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขอยู่บนอกของยูยะจนกระทั่งหลับไป

     

     

    .........................................................

    ......................................

    ...................

     

     

     

    24 ธันวาคม

     

    ในที่สุดก็ถึงคืนที่ทุกคนต่างรอคอย พีซังที่ตื่นเต้นกว่าใคร โฟนอินมาออกคำสั่งให้เมมเบอร์ช่วยกันตกแต่งต้นคริสต์มาสตามเทศกาล และเตรียมพร้อมสำหรับปาร์ตี้ตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันพ้นขอบฟ้าดี

     

    ยูโตะดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับการแต่งต้นสนมากพอที่จะใช้สายรุ้งพันรอบตัวเองเป็นที่สนุกสนานไปอยู่คนเดียว .... ฮิคารุที่รักงานปาร์ตี้อยู่เป็นทุนเดิมก็ลงทุนลงแรงครีเอทกันอย่างสุดตัวทีเดียว

     

    ฉันอยากได้ไฟประดับแบบที่มันไหลๆเหมือนฝนตกด้วยอ่ะ

    อืม ก็ดีนะ ...งั้นเดี๋ยวฉันออกไปซื้อให้แล้วกัน จะเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ยเคโตะถามขึ้นมา

     

    ไก่งวงๆ

    พีซังเป็นคนจัดการเรื่องอาหารไม่ใช่หรอ

     

    อ่อ ใช่... งั้นซื้อเกมมาด้วย เกมพวกทวิสเตอร์น่ะ จะได้มีอะไรเล่นตอนกลางคืนฮิคารุวางแพลนกิจกรรมและพูดคุยกับเคโตะถึงรายการของที่จะให้ซื้อเพิ่มอย่างจริงจัง

     

    ....ถ้าจะให้พูดล่ะก็ หากยามะพีเป็นคนที่กระตือรือร้นกับงานปาร์ตี้เป็นเบอร์หนึ่งล่ะก็ ฮิคารุก็เป็นเบอร์สองรองจากพีซังนี่แหละ...... 

     

    ....ทวิสเตอร์เหรอ

    แต่ขณะเดียวกัน ในความคิดของยูโตะก็กำลังจินตนาการไปถึงตอนที่กำลังเล่นเกมใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัวกับยามะจังจนได้กลิ่นสบู่หอมๆที่ติดตัวร่างเล็กอย่างมีความสุข

     

    ยูโตะ...เฮ้ย คิดอะไรลามกอยู่เนี่ย เลือดกำเดาไหลแล้วฮิคารุตบไหล่เรียกสติยูโตะที่ยืนแหงนหน้าทำตาลอยเพ้อๆ ยูโตะได้ยินแบบนั้นก็ตกใจรีบใช้หลังมือปาดเลือดกำเดาออกจนแดงไปทั้งจมูก

     

     

     

    เคย์เดินยิ้มหน้าบานออกมาจากห้องชั้นบน ตรงเข้ามาบอกกับทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่น ในขณะที่มือขวากุมข้อมือบางของไดกิที่เอาแต่ก้มหน้างุดๆเอาไว้ด้วย

     

                    “ฉันจะไปซื้อเค้กให้นะ”

                    วันนี้เคย์หน้าตามีความสุข ผุดผ่องกว่าทุกที มือที่กอบกุมกันไว้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลบซ่อนจากสายตาพวกช่างล้อช่างแซวแต่อย่างใด

                   

    สองคนนี้นี่อะไรกัน แค่ไปซื้อเค้กแค่นี้มันมีความจำเป็นต้องไปกันสองคนด้วยเหรอ

     

                “อื้อ ก็ข้างนอกอากาศหนาว ไดจังเค้าป่วยง่าย ฉันก็ต้องไปช่วยให้ความอบอุ่นสิ ...ไปนะ

                พูดจบเคย์ก็ไม่รอให้ใครมีโอกาสล้อเลียนใดๆทั้งสิ้น รีบลากไดกิออกไปทันที โดยที่มีเสียงโห่แซวของยูโตะและฮิคารุไล่หลัง

     

    ทำเป็นมีข้ออ้าง ที่แท้ก็จะออกไปเดทกันอะเด้~”

                    ออกนอกหน้าไปแล้ว หมันไส้โว้ยยยยยย

     

    ยูโตะมองภาพของเคย์กับไดกิจูงมือกันออกไป แล้วก็หวนย้อนกลับมานึกถึงตัวเอง ... เมื่อไหร่เขาจะมีวันที่สามารถทำแบบนั้นกับยามะจังได้มั่งน้า...... ว่าแต่ยามะจังหายไปไหนเนี่ย

     

                “เรียวสุเกะไปไหนประโยคที่มีใจความถามหายามะจังเหมือนกันเด้ะ เพียงแต่มันไม่ได้ออกมาจากปากของยูโตะ แต่มันเป็นเสียงของจอมวางมาดอย่างยูยะ  .....ยูโตะหันไปมองหน้ายูยะอย่างสงสัย ...ทำไมต้องเรียกหายามะจังด้วย!

     

                    เหมือนจะอยู่หน้าบ้านน่ะ เออ...แต่เมื่อกี้เคโตะก็ออกไปเหมือนกัน เจ้านั่นจะออกไปซื้อของ อาจจะชวนยามะจังไปด้วยกันแล้วล่ะมั้งป่านนี้ อิอิฮิคารุบอกเล่ากึ่งๆแซวไปตามประสา เพราะในหัวของฮิคารุนั้นฟันธงไปแล้วว่าสองคนนั้นต้องมีความสัมพันธ์ฮั่นอย่างกันแน่นอน

     

                    ฝ่ายยูยะได้ยินดังนั้นก็ผลุนผลันวิ่งออกไปที่หน้าประตูแทบจะทันที แต่ก็เขาก็มาช้าเกินไป เพราะสิ่งที่เขาเห็นมีเพียงเสี้ยวหน้าของเรียวสุเกะที่นั่งบนเบาะคู่หน้าบนรถยนต์คันหรูของเคโตะที่เพิ่งจะแล่นออกไปเท่านั้นเอง

     

                    ...... เขาเพิ่งพูดไปเมื่อวานว่าห้ามเปลี่ยนใจไปหาคนอื่น แต่แค่ข้ามวันก็ไปกับเจ้าเคโตะง่ายๆแบบนี้  คำพูดของเขาจะยังมีความหมายอีกมั้ยนะ ........

     

                    จะฝากซื้ออะไรรึเปล่ายูยะ ฉันก็จะออกไปข้างนอกเหมือนกัน

                    เคย์หยุดรถแล้วเปิดกระจกรถถามเพื่อนด้วยความหวังดี.... แต่สิ่งที่ได้เห็นนั้นทำให้เคย์ต้องตาโตด้วยความประหลาดใจหาสุดมิได้ ....ร้อยวันพันปีเค้าไม่เคยเห็นยูยะแสดงสีหน้าออกมาชัดเจนขนาดนี้เลย

     

                    .....สีหน้าเจ็บปวด หงุดหงิด ว้าวุ่นใจ.....

                    ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาอาจจะไม่เข้าใจว่าเพื่อนเขาเป็นอะไร แต่สำหรับตอนนี้ มองดูยูยะแล้วบอกได้คำเดียวว่า......เหมือนคนกำลังประสบปัญหารัก.....

     

                    เราไปกันก่อนเถอะ

    ไดกิที่นั่งข้างๆส่งยิ้มสว่างไสวมาให้พร้อมกับเอื้อมมือมาแตะที่แขนร่างโปร่ง ....

     

    หรือว่าไดจังรู้มานานแล้ว เรื่องยูยะคนฉลาดมากเล่ห์อย่างเคย์ก็พอจะแปลผลจากสีหน้าไดกิออก ว่าเบื้องหลังที่ชักใยคนคู่นั้นคงไม่พ้นฝีมือของกามเทพตัวน้อยที่นั่งข้างๆเขาตอนนี้ซะล่ะมั้ง

     

    ก็...แค่พอระแคะระคายไดกิอมยิ้มพริ้มพรายขัดกับประโยคที่พูดออกมาลิบลับ ยิ่งทำให้เคย์มั่นใจในความคิดของตัวเองมากขึ้น

     

    ไม่จริงอ่ะ หน้าแบบนี้ เป็นตัวการเลยน่ะสิ ร้ายนักนะเราเคย์เอื้อมมือไปบีบจมูกแดงๆของไดกิด้วยความหมันเขี้ยว

     

    โอ้ย ไอ้บ้า....ออกรถได้แล้ว 

     

    ..........................

    .................

    ......

     

     

                    เอ๋ เคโตะคุง....จะไปไหนต่ออีกหรือครับ มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่

     

                เรียวสุเกะท้วงออกมาเมื่อเห็นว่าเคโตะใช้เส้นทางที่เขาไม่คุ้นเคย หลังจากที่ทั้งคู่ได้ไปจับจ่ายซื้อของในลิสต์ที่ฮิคารุสั่งมาในห้างสรรพสินค้าจนเต็มหลังรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    และถึงแม้ว่าร่างเล็กพยายามจะเก็บอาการอยากกลับบ้านแค่ไหน แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาเคโตะอยู่ดี ร่างหนาจึงตัดสินใจพูดออกมา

                   

    ฉันมีที่นึงที่อยากให้นายไปด้วยกันน่ะ

     

                    เรียวสุเกะมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย อ้อมแอ้มพูดออกมาเสียงเบา

                    พวกฮิคารุคุงกำลังรออยู่ไม่ใช่หรือครับ

                    ใช้เวลาไม่นานหรอก.. ใบหน้าหล่อส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ไม่เปลี่ยน แล้วอย่างนี้เรียวสุเกะจะใจร้ายปฏิเสธคำขอของคนที่มีแต่ความหวังดีมาให้เสมอได้อย่างไร

     

    “....หรือนายอยากรีบกลับไปหายูยะล่ะ” ปกติแล้วเคโตะไม่ใช่คนช่างประชดประชันอย่างที่เผลอตัวพูดไปเมื่อครู่.... และเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย หากว่าเรียวสุเกะจะไม่สะดุ้งสุดตัว และแสดงสีหน้าตกใจราวกับถูกล่วงรู้ความคิดแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

     

    “คือ...” ร่างเล็กอึกอักเหมือนกับกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ... อยากพูดแก้ไขความเข้าใจ แต่ก็พูดไม่ออก หัวสมองเหมือนกับว่าตื้อตันไปกะทันหัน ... เพราะในหัวเขาก็คิดถึงยูยะอยู่จริงๆอย่างที่เคโตะบอกนั่นแหละ แม้จะกำลังคิดว่ากลับไปแล้วเขาจะโดนยูยะอาฆาตพยาบาทอะไรมั้ยนะ ที่เขาออกมากับเคโตะแบบนี้

     

                    “จริงๆฉันก็พอจะเดาอนาคตตัวเองได้อยู่แล้วล่ะ ......แต่ฉันก็ไม่อยากยอมแพ้อะไรง่ายๆเหมือนกัน

     

                    พูดจบเคโตะก็จอดรถเข้าข้างทางและกดปุ่มไฟฉุกเฉิน ...โชคดีที่ถนนเส้นที่เขาใช้อยู่มีรถวิ่งอยู่เพียงเบาบางเท่านั้น  การหักพวงมาลัยเข้าจอดอย่างกะทันหันจึงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใครเท่าไหร่นัก .... จะมีก็แต่ผู้โดยสารคนเดียวบนรถอย่างเรียวสุเกะเท่านั้น ที่หน้าเหวอ เบิกตาโตไปแล้วด้วยความตกใจ

     

                    ยามะจัง ร่างหนาหันมาพูดกับเรียวสุเกะด้วยน้ำเสียงจริงจัง ฉันอยากจะบอกนายว่า ...จริงๆแล้วที่ฉันบอกว่ามีคนที่ชอบน่ะ ฉันโกหก

                    เห....ร่างเล็กยังตกใจจากเรื่องเมื่อกี้ยังไม่ทันหายขวัญหนีดีฝ่อ เรื่องที่ทำให้ตกใจก็ตามมาอีกระลอกในเวลาไม่ถึงห้านาที

                    ขอโทษนะที่ต้องพูดโกหกออกไป แต่นายอยากรู้มั้ย ว่าฉันต้องพูดแบบนั้นไปเพราะอะไร

                    ...................

     

    เพราะว่าฉันชอบนาย ยามะจัง... จำได้มั้ย วันที่ฉันนัดนายไปเจอกับคนที่ชอบนั่นฉันก็ตั้งใจจะบอกรัก.... แต่แล้วนายก็ไม่มา สีหน้าเจ็บปวดที่ร่างหนาแสดงออกมาทั้งๆที่รอยยิ้มจางๆยังไม่หายไปจากใบหน้านั้นบีบหัวใจให้เรียวสุเกะรู้สึกผิดบาปอย่างร้ายแรงที่ตัวเองทำร้ายจิตใจของคนที่มีแต่ความหวังดีมาให้เสมอ แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

     

                “....ผมขอโทษ ร่างเล็กไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้มากกว่านี้จริงๆ

     

    “ฉันไม่หวังให้นายตอบรับหรอก แต่ถ้านายมีใจให้ฉันบ้าง หรือพร้อมที่จะเปิดใจให้ฉันบ้าง ...คืนนี้ก็ไปที่นี่นะ”

     

    เคโตะยื่นกระดาษแผ่นเล็กที่มีลายมือเขียนภาษาอังกฤษหวัดๆบอกชื่อและสถานที่ของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเรียวสุเกะจำได้ดีว่ามันเป็นชื่อเดียวกับร้านที่เขาชี้เลือกตอนที่เคโตะมาขอคำปรึกษาเรื่องร้านอาหารที่เหมาะสำหรับสารภาพรัก

     

                    นี่มัน...ร่างเล็กเงยหน้ามองเคโตะอีกครั้ง

     

                    กลับบ้านกันเถอะไร้คำอธิบายใดๆ ร่างหนาพูดเพียงเท่านั้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มใจดีมาให้ ก่อนจะหันไปตั้งหน้าตั้งตาอยู่กับการขับรถอีกครั้ง

     

                    ....... ก็ได้แต่หวังว่า ทุกๆอย่างที่เขาทำไปตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันจะซึมลึกลงหัวใจของเรียวสุเกะบ้างก็พอ ......... 

                   

     

    .....................................

    ......................

    .........

     

    To be con

     

    ห่างหายไปนานเลย ลืมกันรึยังค่ะทุกคน..... มาต่อแล้วน้า ตอนแรกตั้งใจว่าจะลงให้จบเลยแต่ว่าพอเขียนๆไปแล้วมันยาวเกินเลยต้องตัดออกเป็นสองพาร์ท เพราะฉะนั้นตอนหน้าเป็นตอนจบ ปิดโปรเจคอิเคเมน เย้!!!

     

    ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอ่านฟิกค้างปีเรื่องนี้กันนะคะ รักกันจริงนะเนี่ย^^ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×