คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เดบิวต์
07
และแล้ววันเดบิวต์ก็มาถึง
รถตู้คันใหญ่สีขาวที่ใช้ไปรับส่งสมาชิกA.N.JUMP ไปยังที่ๆใช้จัดแสดงจอดรออยู่หน้าบ้าน เหล่าสมาชิกค่อยๆทยอยเดินเรียงกันออกมาจากบ้านไปขึ้นรถโดยมีชิเงะคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ไม่ห่าง
“ไดจัง!!!!!!!!!”
เรียวสุเกะวิ่งเข้าไปโถมน้ำหนักใส่ทันทีที่ไดกิเปิดยิ้มหวานเดินลงมาจากรถ ร่างเล็กแสดงสีหน้าทั้งตกใจและดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบังขณะที่กอดฟัดกับพี่ชายจนหนำใจแล้วจึงผละออกมาถามไถ่ถึงที่มาที่ไป
“คิดถึงจังเลย....แล้วไดจังมาได้ยังไงน่ะ”
เป็นคำถามที่ทุกคนก็อยากรู้เหมือนกันจึงเงียบรอฟังโดยที่ไม่พูดขัด
“อิโนโอะ...ไปรับมาก่อนน่ะ” ไดกิชี้มือมายังเคย์ที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ยืนเนียนอยู่ด้านหลังเรียวสุเกะ ... เมมเบอร์ทุกคนหันไปมองหน้าเคย์อย่างเหลือเชื่อ
“แกว่างถึงขนาดนั้นเลยเหรอเคย์” ฮิคารุอดไม่ได้ที่จะหันไปถามเพื่อนด้วยความสงสัย
“ก็ไม่มีอะไร แค่ตื่นเช้าไปหน่อยแล้วไม่มีอะไรทำ ฉันเห็นว่าไดจังหายดีแล้ว วันนี้ก็น่าจะอยากไปดูยามะจังด้วย...เลยไปรับเท่านั้นแหละ” เคย์ชี้แจงด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า ....นี่ไม่ใช่เรื่องปกติของอิโนโอะ เคย์ ที่จะทำอะไรเพื่อใครสักคนโดยที่ไม่ได้ถูกร้องขอ...แบบนี้
“นายดูเป็นคนดีขึ้นนะ เมื่อวานกินอะไรแปลกๆเข้าไปหรือเปล่า” ยูโตะแกล้งแซวด้วยหน้าตาเป็นห่วง
“ฉันก็กินเหมือนพวกแกนั่นแหละ!”
“นี่ตื่นเช้าไปรับมาเอง” ฮิคารุถามขึ้นอีกครั้ง
“อืม” เคย์ครางรับในลำคอ
“เค้าไม่ได้บอกให้ไปรับ”
“อือ” เคย์เริ่มชักสีหน้าแบบรำคาญเล็กๆ ....จะถามซักไซ้อะไรนักหนานะ
“กระแดะไปรู้กับเขาอีกนะว่าพี่ชายเจ้านั่นหายป่วยแล้ว” ยูยะพูดลอยๆ แต่แฝงไปด้วยแววการจับผิด
“ทำไม ฉันทำอะไรผิดหรือไง”
“เปล๊า~!! ......แค่หมั่นไส้” ยูยะยักไหล่ไม่สนใจแล้วก็ขึ้นไปจับจองที่นั่งเบาะหน้าสุดติดหน้าต่างทันที
“เอ้า ทุกคนขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวจะสาย” เสียงชิเงะไล่หลังมาแล้ว ....ยูโตะลากแขนฮิคารุเข้าไปนั่งเบาะหลังสุด ยูโตะมีท่าทีเหมือนอยากจะเล่นอะไรสักอย่างกับฮิคารุ เคย์ตามเข้าไปนั่งเบาะกลาง
“ยามะจัง ไดจังขึ้นรถสิ” สองร่างเล็กถูกชิเงะรุนหลังให้ขึ้นไปนั่งเสียที ไดกิก้าวขึ้นมาก่อนจึงจำเป็นที่จะต้องนั่งเบาะคู่กับเคย์ เรียวสุเกะนั่งตรงที่นั่งเดี่ยวในแถวเดียวกัน เคโตะขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายและจัดการดึงประตูปิดเรียบร้อย
ยูโตะกระซิบกระซาบใส่หูฮิคารุที่ยื่นมารอฟังอย่างรู้งาน
“เดี๋ยวนายคอยจับตาดูสองคนนี้ดีๆนะ มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ”
จากนั้นทั้งสองก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ หัวเราะหึๆกันอยู่สองคนข้างหลังโดยที่ไม่มีใครเข้าใจ
.
.
การเตรียมความพร้อมสำหรับโชว์ครั้งนี้ สต๊าฟหลังเวทีต่างทำงานกันอย่างขันแข็ง ทุกคนอยู่ในสภาวะวุ่นวายและเร่งรีบ แม้แต่ชิเงะซังเองก็ยังยืนสั่งการอะไรสักอย่างกับสต๊าฟด้วยหน้าตาเคร่งเครียดอยู่เหมือนกัน ยามะพียิ่งไม่ต้องพูดถึง โผล่หน้ามาให้เห็นแค่เสี้ยววิแล้วก็ไม่เจอตัวอีกเลย ท่าทางจะไปดูความเรียบร้อยหน้าเวที ส่วนสมาชิก A.N.JUMP ทุกคนยกเว้นเด็กใหม่อย่างเรียวสุเกะ ก็ค่อนข้างที่จะ.... ครื้นเครงละมั้ง?
“ยามะจัง.....หน้าเครียดเชียว”
เรียวสุเกะถูกฮิคารุทักขึ้นมา ขณะที่ร่างเล็กกำลังตั้งสติทำสมาธิอยู่เงียบๆตรงมุมห้อง..... เพราะงานนี้เป็นเวทีแรก ซึ่งก็เหมือนเป็นตัวชี้วัดอนาคตของเรียวสุเกะไปในขณะเดียวกัน....มันก็เลยอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นนี่นา
“ยิ้มหน่อยสิ... ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกน่า” ยูโตะตามเข้ามาจิ้มแก้มขาวๆนุ่มๆของเรียวสุเกะเล่นเป็นเชิงบังคับให้หลุดยิ้มออกมา
“ผ่อนคลายเข้าไว้ๆ” แล้วเรียวสุเกะก็ยิ้มออกมาจริงๆ ... เพราะทั้งสองคนหันมาจิ้มแก้มของเขาคนละข้างอย่างสนุกสนานไปแล้ว
“พอแล้ว ผมไม่เครียดแล้ว ผมเจ็บ!” ...นี่เห็นแก้มเขาเขาเป็นอะไรกันเนี่ย แรกๆก็พอทนได้อยู่แต่หลังๆชักจะแรงเกินไปรึเปล่า รู้สึกเหมือนแก้มจะยุบไปให้ได้แน่ะ!
“A.N.JUMP เตรียมแสตนบายข้างเวทีครับ” สิ้นจากเสียงของสต๊าฟที่เข้ามาเรียกพวกเขาที่ห้องแต่งตัว......คนไฮเปอร์อย่างยูโตะและฮิคารุลุกไปสำรวจความเรียบร้อยหน้ากระจกเป็นครั้งสุดท้าย แล้วหันมายิ้มกว้าง ชูสองนิ้วให้ผมแล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไปด้วยความมั่นใจ
วันนี้ทั้งฮิคารุคุงและก็ยูโตะคุง พออยู่ในคราบของการเป็นศิลปิน ทั้งคู่ดูดีแล้วก็หล่อผิดหูผิดตาเอามากๆ ต่างกับเวลาที่เล่นซนหรือว่าแย่งของกินกันอยู่ในบ้านแบบพลิกฝ่าเท้าเป็นหน้ามือเลยทีเดียว....เขาเองก็เพิ่งได้เห็นเต็มๆตาวันนี้แหละ นี่สินะที่เรียกว่าภาพมายาของวงการบันเทิง
“ได้เวลาแล้วล่ะ”
เคโตะลุกขึ้นจากเก้าอี้ หนีจากช่างทำผมที่ตั้งหน้าตั้งตาจัดแต่งทรงผมให้เกินความจำเป็น แล้วเดินตรงมาหาเรียวสุเกะ
“ยามะจัง ตื่นเต้นเหรอ” เคโตะถามไถ่พร้อมกับเอามือลูบหัวเบาๆด้วยความเป็นห่วง แต่ยังไม่ทันที่เรียวสุเกะจะได้เอื้อนเอ่ยอะไรตอบออกไป ยูยะก็กระแอมขัดขึ้นมาก่อน
“ยามาดะ...ถ้าวันนี้งานล่ม ....นายตายแน่” ยูยะยู่หน้าพูดขู่ สายตาคมจับจ้องไปที่เคโตะและเรียวสุเกะด้วยสายตาขุ่นๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์
“เรียวจัง เดี๋ยวฉันจะไปรอดูที่หน้าเวทีนะ....สู้ๆ นายทำได้อยู่แล้ว เรียวจังของพี่เก่งจะตาย” ไดกิยิ้มน่ารัก ให้กำลังใจน้องชาย ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินตามชิเงะซังไป
“เราก็ไปกันเถอะ” เคโตะหันมาส่งยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย
.
.
“ไดจัง เดี๋ยวเดินออกไปหน้าเวทีเองได้มั้ย ฉันโดนตามให้ไปอยู่ข้างเวทีแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ ชิเงะซัง ผมไปคนเดียวได้ไม่ต้องห่วง” ไดกิออกปากพูดพร้อมกับรอยยิ้ม เขาไม่ติดใจโกรธเคืองอะไรชิเงะซังหรอก .... แค่ให้เขามาดูไลฟ์แรกของน้องชายแบบติดขอบเวทีก็เกินพอแล้ว
“โทษที..นะ” ชิเงะทำหน้ารู้สึกผิดอย่างที่สุด แต่ก็จำใจต้องวิ่งหันหลังจากมาในที่สุดเพราะเค้ามีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ .... เป็นไปได้ก็อยากไปส่งร่างบางๆนี้ให้ถึงที่นั่งอยู่หรอกนะ ตั้งแต่ที่รู้ว่าพี่ชายของยามะจังมีปัญหาเรื่องสุขภาพก็อดจะเป็นห่วงไม่ได้ ....ไหนจะหน้าตาที่น่ารักขนาดนั้นอีกล่ะ อดใจที่จะเอ็นดูไม่ไหวจริงๆ
.
.
เคย์เพิ่งออกจากห้องน้ำด้วยความเร่งรีบ เขาโดนเพื่อนๆสาปส่งไปแล้วก่อนหน้านี้ ที่ข้าศึกบุกไม่ดูเวล่ำเวลา .... อาจจะเป็นเพราะเมื่อวานเขากินเยอะเกินไปมันเลยย้อนกลับมาทำร้ายเขาแบบนี้
สายตาคมเรด้าเห็นร่างบางๆที่ดูคุ้นตาในระหว่างที่วิ่งเหยาะๆกลับไปที่เวทีอีกครั้ง
“ไดจัง?” พอสมองประมวลผลได้ดังนั้น ร่างกายที่ซื่อตรงต่อจิตใจก็ทำให้เขาก้าวขายาวๆไปหาร่างบางทันที
“ไดจัง.... ทำไมยังอยู่ที่นี่อีก ใกล้จะได้...เว..ลา..” เคย์ตาโตขึ้นทันทีเมื่อสืบเท้าเข้ามาใกล้แล้วเห็นว่าไดกิหน้าตาซีดเซียว ทั้งยังมีเหงื่อผุดเต็มหน้า ตาปรอยๆเหมือนจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ ต้องเอาตัวพิงกับกำแพงเพื่อยันตัวไม่ให้ล้มลงไป
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี.....” ไดกิพูดได้แค่นั้นก็ปิดตาลงแล้วทำท่าว่าจะทรุดลงไปกับพื้นถ้าไม่ติดว่าเคย์ช่วยประคองร่างบางๆไว้ได้ทัน
“เฮ้ย ไดจัง ไดจัง!!” เคย์ลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูก ห่วงคนตรงหน้าจับใจ กลัวว่าจะเป็นอะไรไป
“อิโนโอะซัง รีบไปแสตนบายด์ที่เวทีด้วยค่ะ”
“..........” เคย์ยืนลังเลระหว่างร่างอ่อนปวกเปียกที่ไม่ได้สติกับงานที่เขาต้องรับผิดชอบ..... แม้จะห่วงไดกิแค่ไหน แต่เขาก็หนีงานไม่ได้เหมือนกัน เพราะผลที่ตามมามันไม่ใช่แค่เกิดผลเสียกับตัวเขาคนเดียว
“อิโนโอะซัง!! ” สต๊าฟเร่งด้วยเสียงที่เพิ่มระดับความดังมากขึ้นอีกเท่าตัว
“เดี๋ยวผมพาไปส่งโรงพยาบาลเอง อิโนโอะซังไปเตรียมแสตนบายด์เถอะครับ” จนในที่สุดก็มีสต๊าฟวิ่งเข้ามาช่วยขันอาสา ตอบรับเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยพาไปให้ถึงมือหมอโดยสวัสดิภาพ เคย์จึงยอมที่จะปล่อยร่างบางๆของไดกิออกจากอ้อมแขน
แต่ให้ตายสิ.....การเห็นร่างบางๆอยู่ในอ้อมอกคนอื่นนี่มัน..รู้สึกแย่จริงๆ
“นายชื่ออะไร”
“อาซากะ โคได” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่เคย์ได้ยินก่อนจะถูกสต๊าฟคนอื่นลากตัวไป
.
.
“ต่อไปเป็นเดบิวต์เสตจ ของสมาชิกใหม่วง A.N.JUMP ยามาดะ เรียวสุเกะ! .... เชิญชมได้เลยครับ”
I will promise you
Zutto kimi dake mitsumete
ผมขอสัญญาว่าจะมองแต่คุณเพียงคนเดียว
I will promise you
Kimi wo dakishimeru
ผมขอสัญญาว่าจะโอบกอดคุณไว้ตลอดไป
Todokeru you irotori dori no ai wo kimi e
จะส่งผ่านความรักอันหลากหลายไปถึงคุณ
Towa ni yakusoku wo
มาสัญญากันนะ
I love you forever
ผมจะรักคุณตลอดไป
เรียวสุเกะยิ้มแย้มร้องเพลงคู่กับยูยะได้อย่างเต็มความสามารถ แม้จะเกิดความสงสัยในใจเล็กๆที่หาร่างของพี่ชายของเขาไม่เจอ แม้ว่าจะมองกวาดไปจนทั่วฮอลล์เท่าที่ตาคู่นี้จะสามารถเห็นได้ก็ตาม
แต่สำหรับเคย์ที่รู้ทุกอย่างอยู่เต็มอก แต่เลือกที่จะยังไม่บอกกับเรียวสุเกะก่อนขึ้นเวที เพราะกลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะเป็นห่วงพี่ชายอย่างโอเวอร์(อย่างที่เขาทุกคนก็เคยเห็นมาแล้ว) กลัวว่าความพะวักพะวงจะทำให้ยามะจังพลาดในการแสดงที่อุตส่าห์ทุ่มเทซ้อมมาตั้งนาน..... ร่างสูงจึงยอมที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวจนกว่าจะจบการแสดง แม้ว่าตัวเขาเองจะแสดงสีหน้าเครียดขึงอย่างปิดไม่มิดไปแล้วไม่มากก็น้อย
การแสดงของวันนี้เป็นไปด้วยดี เสียงร้องก็นักร้องนำทั้งสองคนที่สอดประสานกันอย่างลงตัวราวกับเสียงจากสวรรค์ที่ทำให้ให้ผู้ชมเคลิบเคลิ้มหลงใหล จึงได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี มีคนร้องเรียกชื่อของเรียวสุเกะไม่หยุดหลังจากที่เพลงจบ ....เรื่องนี้ทำให้เรียวสุเกะตื้นตัน และดีใจจนยิ้มไม่หุบจนกระทั่งเดินกลับมาที่หลังเวทีแล้วก็ตาม
“ไดจังไปนั่งอยู่ไหนเหรอ ผมไม่เห็นเลย” เรียวสุเกะถามหาตัวพี่ชายก่อนเป็นอันดับแรก
“ไดจังเป็นลมล้มลงก่อนเราขึ้นแสดง ...นายรอตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปถามสต๊าฟก่อน” เคย์เดินหน้าเครียดเข้ามาบอกข่าวสารที่ทำให้เรียวสุเกะถึงกับอึ้งตะลึงค้าง ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแม้ว่าเคย์จะวิ่งออกไปแล้ว
ยูยะที่ยืนกินน้ำอยู่บริเวณนั้นพอดี ก็เลยได้ยินเรื่องทุกอย่าง ร่างสูงยืนมองเรียวสุเกะยืนตัวสั่น หน่วยตาไหวระริกด้วยความหวาดกลัว ก็ทนไม่ไหวเดินเข้ามากอดปลอบ ....เรียวสุเกะที่กำลังอ่อนไหวเผลอซบหน้ากับอกกว้าง ปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างเงียบๆ แต่ร่างสูงก็รู้สึกได้ถึงความเปียกที่ซึมเข้าไปในเนื้อผ้าจึงกอดร่างเล็กแน่นขึ้นพลางลูบหัวลูบหางคลายความหวาดกลัวให้
เคโตะที่เดินตามมาทีหลังเห็นฉากนี้เข้าพอดี ก็ยืนมองนิ่งๆด้วยสีหน้าเจ็บปวด ยูโตะที่ตามมาก็อึ้งค้างไปอีกคน ทั้งอึ้งที่สองคนนั้นกอดกัน และสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของยูยะแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ระหว่างนั้นเคย์ก็วิ่งหน้าเครียดกลับมา โดยไม่นึกสนใจจะร้องแซวคนที่ยืนกอดกันโจ่งแจ้งแม้แต่น้อย
“ยามะจัง ฉันได้เบอร์มาแล้ว”
หลังจากที่เคย์โทรไปถามไถ่อาการของไดกิจากเบอร์โคไดที่เคย์ไปขู่กรรโชกมาจากสต๊าฟสักคนหนึ่ง ได้ความว่าส่งไดกิถึงโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้อยู่ในความดูแลของหมอเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น น้องชายร่วมสายเลือดอย่างเรียวสุเกะก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี
“นายกำลังคิดจะทำอะไร...เรามีสัมภาษณ์ต่อจากนี้นะ” ยูยะพูดดักคอทันที
“แต่ว่า...ไดจัง” เรียวสุเกะพูดได้ไม่เต็มปากนัก แม้เขาจะเป็นห่วงพี่ชายจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว แต่ด้วยสถานะและหน้าที่การงานที่ค้ำคออยู่ทำให้ร่างเล็กไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะเกิดผลดีกับทั้งสองฝ่าย
ยูยะเห็นสีหน้าทุกข์ใจของร่างเล็กแล้วก็ถอนหายใจยาว
“ยังไงก็ต้องเห็นด้วยตาใช่มั้ย” ยูยะถามด้วยหน้าตาจริงจัง ...เรียวสุเกะพยักหน้ารับอย่างเกรงๆ
เมื่อได้คำตอบแล้ว ยูยะจึงจับข้อมือเรียวสุเกะแล้วลากเดินไปในทันที
“เคย์ บอกชิเงะให้ขับรถไปรอตรงทางออกด้านหลัง ส่วนคนอื่นให้ไปรับหน้านักข่าวก่อน เดี๋ยวฉันกลับมา”
ยูยะพาเรียวสุเกะลัดเลาะหลบนักข่าวออกไปจากสถานี พวกเขาเกือบออกไปได้ถึงทางออกแล้ว แต่ทว่ามีกลุ่มสต๊าฟจากรายการในสักรายการหนึ่งเดินสวนเข้ามากลุ่มใหญ่ ยูยะจึงลากเรียวสุเกะเข้ามาหลบในห้องที่อยู่ใกล้มือที่สุด
“แม่งมาเดินสวนสนามอะไรกันตอนนี้วะ” เสี้ยวหน้าด้านข้างของร่างสูงที่พราวด้วยเหงื่อ ตาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่นพยายาม แม้จะไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ตาม เรียวสุเกะเผลอจ้องมองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตื้อตันไปด้วยความชื่นชม
....ถึงแม้จะปากร้าย แต่ความใจดีที่เขาได้รับมาตลอดนั่นก็ไม่ใช่เรื่องโกหกเหมือนกัน
.
ร่างสูงมองดูชุดที่เรียวสุเกะใส่ซึ่งเป็นชุดที่ใช้แสดงเมื่อครู่ มันคงจะเอิกเกริกน่าดูถ้าใส่ชุดนี้ออกไปเดินข้างนอก ยูยะจับถอดเสื้อคลุมแขนยาววิบวับสีดำออกแล้วไปคว้าเอาเสื้อฮู้ดสีขาวแขนยาวที่แขวนอยู่ในห้องมาสวมให้แทน
“จะดีเหรอครับ... ของใครก็ไม่รู้”
“หรือนายอยากให้นักข่าวรู้ว่าตัวเองแอบหนีสัมภาษณ์หลังโชว์เปิดตัวน่ะห้ะ” ยูยะตวาดใส่ ร่างเล็กทำหน้าจ๋อยเพราะเถียงอะไรไม่ได้
“เดี๋ยวฉันจะออกไปดูข้างนอก นายรออยู่ในนี้จนกว่าฉันจะบอกให้ออกมา เข้าใจมั้ย” ร่างเล็กพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
แต่โชคร้ายนักที่ยูยะเดินออกจากห้องมาไม่ทันไร ก็เจอเข้ากับนักข่าวตาปรือเข้าพอดี
“อ๊า... ทาคาคิ ยูยะคุง มาทำอะไรหน้า ....ห้องแต่งตัวจิเน็นยูริกันล่ะเนี่ย” นักข่าวโคะเบี่ยงตัวไปดูป้ายชื่อที่ติดไว้หน้าห้อง แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย จังหวะนั้นเองที่เรียวสุเกะเปิดประตูออกมา ยูยะเห็นท่าไม่ดีจึงฉุดมือร่างเล็กวิ่งกระแทกไหล่โคยาม่าออกไปทันที
นักข่าวโคะเซถลาไปชนกำแพงด้วยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะเร่งฝีเท้าตามทั้งคู่ไปอย่างไม่ลดละ นอกจากนั้นก็รัวชัตเตอร์ถ่ายภาพด้านหลังของคนทั้งคู่ไว้มือเป็นระวิง
ยูยะมองออกลอดผ่านประตูที่เป็นกระจกใสออกไปก็พบว่าชิเงะขับรถมาจอดรอหน้าประตูทางออกเรียบร้อยแล้ว
“นายออกทางประตูนี้ไปขึ้นรถคันนั้นเลย ฉันจะวิ่งล่อเจ้านั่นเอง” ยูยะพูดอย่างรีบร้อน เขาผลักร่างเล็กให้วิ่งแยกไปคนละเส้นทาง ส่วนตัวเองก็วิ่งต่อไปยังสตูดิโอข้างๆกัน
ทว่าโชคร้ายไม่ได้หยุดแค่นั้น เมื่อทางที่ยูยะเลือกวิ่งหนีมาบังเอิญเป็นทางเดียวกับยูริที่เพิ่งอัดรายการเสร็จเดินออกมาพอดี
“เอ้ะ! ทาคาคิ ยูยะ” ยูริร้องทัก เมื่อเห็นร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบผ่านมา
“ทำไมฉันต้องเจอนายตอนนี้ด้วยนะ” ยูยะเบ้หน้าไม่สบอารมณ์
“ฉันก็ไม่ได้อยากเจอนายเหมือนกันนั่นแหละ” ยูริเชิดหน้าใส่อย่างไม่ยอมแพ้
เสียงโคยาม่าไล่หลังมาติดๆแล้ว ยูยะจึงยกยิ้มมุมปาก
“แต่ก็ดี นายอาจจะมีประโยชน์บ้างก็ได้” ร่างสูงผลักยูริไปทางที่นักข่าวโคยาม่าวิ่งตามมา ซึ่งมาหยุดยืนหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้ายูริพอดี
“ยะ..หยุด.... หยุดแล้ว แฮ่กกก ทำไม...ต้องหนีด้วย” โคยาม่าโค้งตัวหอบ กอบโกยอากาศอย่างสุดพลัง
“หนี?...อะไรหรือครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง”
“อย่ามาทำแอ๊บแบ้วน่า บอกผมมาดีๆเถอะ ผมมีรูปหลักฐานด้วยนะ”
“หลักฐานอะไร...ไหนละรูป” ยูริเชิดคอถามด้วยความแคลงใจ โคยาม่าเปิดกล้องให้ดู เห็นว่าเป็นรูปด้านหลังของยูยะจูงมือใครสักคนที่ตัวเล็กๆ แล้วก็ใส่เสื้อฮู้ดสีขาวเหมือนกับเขากำลังพากันหนีจากนักข่าว
“จำผิดแล้วมั้งฮะ นี่ไม่ใช่ผมสักหน่อยนี่นา” ยูริเอียงคอ ทำหน้าไร้เดียงสา ยิ้มน่ารักใส่แล้วก็เดินหนีออกมา
“ไม่ใช่ผมสักหน่อยนี่นา.... เห้อะ” โคยาม่าทวนคำแล้วเอียงคอตาม.... เขายอมรามือไปก่อนก็ได้ แต่ตอนนี้เขาเชื่อปักใจแล้วว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างระหว่างสองคนนี้ ที่จะกลายเป็นสกู๊ปเด็ดในอนาคตของเขาแน่นอน
.............................................
.....................
To be con
ตอนนี้ลุ้นระทึกมั้ย (ตรงไหน55+) แต่ที่แน่ๆเคย์ได๊ เคย์ไดมาเต็มๆช็อต
แล้วก็....รักสามสี่เส้า ของเราสามสี่คน เริ่มต้นขึ้นแล้วเน้ ..... แต่จะเป็นยังไงต่อไป ติดตามตอนหน้าค่ะ
ปล. อยากดูเพลงใหม่ของจัมพ์แล้วน้า ทั้ง Beat line ทั้ง Magic Power เมื่อไหร่จะได้ดูไลฟ์เต็มสักทีล่ะ
ปล2. อิเคเมนตอนหน้ามีเกสเป็นกึนซอก ปุจฉา...อยากให้ฟิกมีเกสบ้างมั้ย แล้วเอาเกสป็นใครดี โหวตมาๆ ถ้าไม่โหวตประจะใส่กึนซอกเข้าไปด้วย555+
ความคิดเห็น