ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ]………… SHIKI SERIES………… [Hey! Say! JUMP]

    ลำดับตอนที่ #7 : [Fuyu]..... Ai no katachi....... Part End [Yaotome Hikaru x Inoo Kei]

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 54


      [2]

              ตกลงว่า คริสต์มาสคืนพรุ่งนี้ ที่บ้านไดจังนะร่างสูงกอบกุมมือเล็กๆไว้ราวกับจะให้ไออุ่นจากเขาช่วยบรรเทาความหนาวเย็นของอากาศ

                    เออๆ ตามใจ หาอะไรมากินด้วยนะ

                    โหย...ไม่มีแบบว่าจะทำอาหาร ทำเค้ก ทำนั่นทำนี่ไว้รอบ้างเหรอ?

                    ฉันทำไม่เป็น

                    ของอย่างงี้มันฝึกกันได้ ทำหน้าอ้อน เหมือนลูกแมวขอข้าว น่าหวั่นไหวอยู่ไม่น้อยเชียว

                    เออ จะพยายามแล้วกัน ...นายน่ะ กลับไปได้แล้ว

                    โหย อะไรอ่ะ ถึงบ้านแล้วไล่กันงี้เลยเหรอ ไม่ยุติธรรมอะ

                    ดึกแล้ว ร่างบางแสร้งก้มหน้าซ่อนความเขิน

     

     ....เจอลูกอ้อนแบบนี้ ถ้าเผลอไปสบตาล่ะก็ เป็นต้องใจอ่อนให้แน่ๆ

     

                    แป๊บเดียวเอง ขอเข้าไปดื่มชาในบ้านก่อน นะนะ ข้างนอกหนาวออกเจ้าหนุ่มยังคงความพยายามไว้ไม่ลดละ

                    ไม่มีคนอยู่บ้านอุบอิบหาสารพัดเหตุผลมาอ้าง 

                    ก็ดีแล้วนี่

                    เห~นี่นายคิดอะไรไว้ใช่มั้ยเนี่ย?

                    ปล๊าวว 

     

    อิโนะ เคย์ ที่ยืนพิงประตูรั้วหน้าบ้านตัวเองอยู่นานแล้ว  แน่นอนว่าย่อมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็อดจะยิ้มไปด้วยไม่ได้  มองหน้าเจ้าน้องชายข้างบ้านที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กแล้วอมยิ้มภูมิใจ

     

    .... น่ารักขึ้นเยอะเลย  สภาพการณ์ทางด้านความรักก็ดูจะสดใส สดชื่น รื่นรมย์ เสียจนน่าอิจฉา... คิดไม่ผิดจริงๆที่จับเจ้าเด็กหัวเห็ดกระเป๋าติดหลังคนนั้นมารีเจเนอเรชั่นซะไม่เหลือเค้าเดิม!

     

    หลังจากที่เห็นว่าคู่ชู้ชื่นนี้ได้ล่ำลากันเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตะโกนเรียก..

     

              เฮ้!! ไดจัง ร่างบางหันมาทางต้นเสียงแล้วหน้าตาตื่นนิดๆ เหมือนจะแปลกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

                    อ้าว เคย์ เดี๋ยวนี้เหมือนนายไม่ได้กลับบ้านเลยใช่ป่ะ?  ไปหาไม่เคยจะเจอ

                    โทษทีๆ พอดีฉันไปค้างอยู่ที่อื่นน่ะ

                    หืม นายไปอยู่ไหน? มีเรื่องอะไรอีกแล้วรึไง ถึงต้องไปกบดานที่อื่นน่ะ

              ก็ไม่เชิง  ช่างเหอะ เอาเป็นว่าชั้นจะไม่อยู่บ้านอีกซักพักใหญ่ๆ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน โอเค๊

                    ตามใจ ว่าแต่มีอะไรล่ะ ถึงได้กลับมา? พูดเชิงประชดนิดๆ

     

    ... นี่ถ้าไม่มีเรื่องหรือมีอะไรนี่ไม่คิดจะกลับมาเลยหรือยังไงกัน....

     

                    ก็.... เถียงไม่ออกเลยทีเดียว เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป เพราะมันก็เป็นอย่างที่ไดกิว่าจริงๆนั่นแหละ

                   

     

    ไดกิก็ลากร่างสูงมาที่ห้างสรรพสินค้าในเช้าวันรุ่งขึ้น  หลังจากรับรู้แล้วว่าเคย์ต้องการความช่วยเหลืออะไร

    จริงๆแล้ว วันนี้มีนัดไม่ใช่เหรอ ไดจัง ร่างสูงที่ถูกพาไปยังย่านช็อปปิ้งแถบชิบุยะ ถามขึ้นมาแบบเกรงๆ รู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวงที่ไปพรากคู่รักเขา

     

    …. แล้วนี่มันจะกลายเป็นตราบาปที่ทำให้คู่ของเขาต้องมาโดนพรากเอาแบบนี้หรือเปล่านะ?

     

                    หลังจากวันนี้ ก็ไม่มีวันอื่นว่างแล้วนี่ ง่ะ ยิ่งพูดแบบนี้ ยิ่งรู้สึกผิดนะเนี่ย

                    แล้ว ถ้าแฟนนายไปหาที่บ้านแล้วไม่เจอล่ะ

                    ห่างกันซักวัน มันไม่ตายหรอกน่า ไม่ต้องคิดมาก อีกอย่าง...ก็นัดไว้ว่าคืนนี้นี่นา เพราะฉะนั้นกลางวันว่าง

     

    ...โอ เดี๋ยวนี้ฝีมือการลื่นไหลพัฒนาเป็นแบบเต็มขั้นแล้วนะเนี่ย ไดจังเอ๊ย ....

     

                    ว่าไง ตกลงว่าซื้อให้ใครล่ะ ฉันจะช่วยเลือกถูกไหมเนี่ย ...เอางี้ดีกว่า ผู้ชายหรือผู้หญิง หรือว่าเคย์จะมีแฟนแล้วน้า จะสวยขนาดไหนเนี่ย อยากเห็นจัง

                    ผู้ชาย 

                    ผู้ชายเหรอ น่ารักไหม? แฟนใช่ป่ะ? เล่นถามด้วยดวงตาใสแจ๋วขนาดนั้น คงจะคาดหวังให้เป็นหนุ่มน้อยน่ารักๆ ตัวเล็กๆล่ะสิ

     

    ...เฮ้อ~ คนตอบลำบากใจนะเนี่ย ...

     

                    ก็ น่ารักล่ะมั้ง ฮะฮะ ไม่รู้สิภาพใบหน้าของร่างสูงที่ลอยขึ้นมา  หากเขาจะตอบออกไปว่าหล่อ เท่ห์หรืออะไรเทือกๆนี้ ไดจังจะตกใจมั้ยนะ?

                    ซื้อตุ๊กตาไง เอาเป็น..

                    เอ้อ ไดจัง.. เค้าไม่ค่อยชอบของหวานแหววแบบนี้เท่าไหร่หรอกนึกสภาพฮิคารุมานั่งเล่นตุ๊กตาตัวเล็กๆน่ารัก... อย่างเจ้านั่นก็น่าจะบ้าจี้ทำได้อยู่หรอก แต่ว่าคงตลกน่าดูพิลึกล่ะ ...

              หืม คนน่ารักๆที่ไหนไม่ชอบตุ๊กตา

                    เอาน่ะ อย่างอื่นเถอะ ช่วยดูให้หน่อย

     

                    .

                    .

     

    ครับ วันนี้เป็นวันคริสมาสต์อีฟ  แน่นอนล่ะ อากาศหนาวๆชวนให้คนไร้คู่เหงาหัวใจ เพราะใครๆก็อยากอยู่กับคนที่รักกันทั้งนั้น แต่สำหรับคนไม่มีคู่อย่างผมล่ะ

     

    ....... จะมีอะไรดีไปกว่าสังสรรค์กับเพื่อนโสดด้วยกันล่ะคร้าบบ ....

     

                    อิโนะจัง เอาซักแก้วไหม?

                    ขอบคุณฮะ แต่ผมไม่ค่อยถูกโรคกับแอลกอฮอล์เท่าไหร่ งั้นให้ฮิคารุกินแทนผมละกัน

                    เฮ้ย แล้วมาเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ กินเองเดะ

     

    ......แต่ไม่เข้าใจ  ว่าทำไมจะต้องมีเจ้านี่ติดเอี่ยวมาด้วยทุกที  คราวนี้เพื่อนผมมันออกปากบอกให้ชวนมันมาด้วยกันเลยแหละ  ไม่รู้ว่าติดใจอะไรกันนักหนา

    ....แค่หน้าตาดีนิดหน่อย  ยิ่งถ้าบวกอุปนิสัยมันเข้าไปด้วยแล้ว ผมยิ่งอยากอยู่ให้ห่างไกลนัก! ...

     

    ใจร้ายชะมัด ถ้าฉันเมาขึ้นมานะ นายต้องรับผิดชอบด้วยเคย์ทำหน้าบูดหน้าบี้ พลางยกแก้วน้ำสีอำพันนั้นเข้าปาก

     

    ...ผมล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหน้าตาเจนโลกแบบนั้น(ที่คนอื่นมักเห็นว่าแอ๊บแบ้วเสมอๆ)จะคออ่อน

    แต่นั่นก็เรียกคะแนนความสงสารได้อยู่โขเหมือนกัน  แล้วผมก็กลายเป็นตัวร้ายที่ชอบกลั่นแกล้งซะงั้นไป

     

                    ฮิค แกนี่ไม่ได้เรื่องเลย อิโนะจังเค้ากินไม่ค่อยได้ แทนที่จะช่วยเค้า ยังจะบังคับอีก

     

    ....แต่ผมก็อยากจะย้อนถามกลับไปเหมือนกันว่า ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่กินอยู่แล้ว จะรับมาทำซากอะไรแต่แรก แต่เอาเถอะครับ  ผมก็คิดอยู่แล้วล่ะว่า มันคงจะลงท้ายในรูปนี้

     

    ..... เคย์เมาคอพับคออ่อนซบไหล่ผมที่พาเดินออกมาขึ้นแท็กซี่ ท่ามกลางสายตาแห่งความห่วงใย(อิโนะจัง)ของเพื่อนๆที่มายืนส่งกันอย่างหนาตา แถมมีการอาสาจะพาไปส่งแทนเสียด้วย  ทั้งที่ปกติจะแยกย้ายกันกลับ ตัวใครตัวมันแท้ๆ

                    ...อย่าครับ อย่านึกว่ามันจะหมดเวรหมดกรรมกันไปแค่นั้น ยังมีอีก

     

    หลังจากที่โยนไอ้ตัวยุ่งลงบนเตียงได้แล้ว  มันก็เอาเลยครับ  พูดเพ้อเจ้อละเมอหาอะไรมั่วซั่วไปหมด

                    ฮิค..คา...รุ๊ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ  ตาเรียวรีหลับพริ้ม จนสังเกตเห็นได้ถึงขนตางอนยาวเป็นแพ จมูกโด่งที่แสนดื้อดึงเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจ ปากบางเฉียบยามที่ขยับพูดทีละคำมันช่างดึงดูด ไม่ผิดใช่มั้ย ที่ผมจะยอมรับอย่างไร้อคติเลยว่า สวย!!

                    หืมนั่งลงที่ขอบเตียง  มองคนที่ไม่รู้ว่าเมาจริงหรือแกล้งเล่นละครแบบไม่ค่อยไว้วางใจนัก

                    โอ โท โร่           

    ห้ะ อะไรนะ

                    ฮิคารุ  อยากกิน โอโทโร่นึกอะไรมาอยากกินตอนนี้ฟะ  นึกอยากรู้นักว่ากำลังฝันถึงอะไรกันแน่ ...

                    เปล่า ฉันไม่ได้อยากซักหน่อย

                    อยากกิน อยากกิน ฮิคารุ ไปกันใหญ่แล้ว เจ้านี่

     

     ... ถึงผมจะเป็นประเภทขี้ใจอ่อน  แต่ก็ไม่บ้าขนาดวิ่งลงไปซื้อโอโทโร่มาประเคนให้หรอก  แต่กำลังคิดว่าน่าจะหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้มันซะหน่อย  ก่อนจะพูดเพ้อเจอไปกันใหญ่ 

     

    .... แต่ไม่ทันจะได้ลุกไปไหน เสียงโทรศัพท์แปลกๆก็แผดเสียงขึ้นมาเสียก่อน  แน่นอนว่าไม่ใช่ของผม  เพราะมันยังนอนนิ่งอยู่ที่โต๊ะแบบไม่มีอาการสั่นไหวใดๆ

     

    ....แล้วมันจะเป็นของใครไปได้เล่า นอกเสียจาก.....

     

                    เคย์ โทรศัพท์เว้ย!”  ตัดสินใจปลุกคนที่มันกึ่มๆจะหลับไป  แต่สิ่งที่ตอบรับกลับมา ก็แค่เสียงอู้อี้บ่งบอกถึงความรำคาญเท่านั้น

     

    ...ครับ แต่ด้วยความเป็นคนดีของสังคม  กลัวว่าคนที่ติดต่อมาจะมีธุระสำคัญมากถึงกับไม่ยอมวางสายไปง่ายๆ จึงคว้ามากดรับให้แทน

     

                    ฮัลโหล แค่กรอกเสียงลงไปประโยคเดียว  ปลายสายก็พ่นกลับมาเสียงดังด้วยประโยคไม่สั้นไม่ยาว

                    ลูกพี่!! อยู่ที่ไหนเนี่ย  เกิดเรื่องแล้ว  ตอนนี้ไอ้พวกXX  มันจะกลับมาล้างอายแล้วนะ

     

    ด้วยเสียงอันดังราวกับตะโกนใส่โทรศัพท์นั้น ทำให้เคย์ที่แกล้งนอนอยู่รับรู้ไปด้วย ... คิ้วเรียวขมวดฉับขึ้นมาทันควัน แล้วก็เด้งตัวลุกขึ้นมาคว้าโทรศัพท์ไปจากมือร่างสูงด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้มีอาการเมาหลับคอพับคออ่อนจนต้องแบกขึ้นมาถึงห้องเหมือนเมื่อครู่นี้ซักกะติ้ดเดียว

     

    ... ผมมองกิริยานั้นอย่างอึ้งๆ  ไอ้ท่าทางสบายดีอย่างงี้มันหมายความว่าไงฟะ!

     

              อืม รู้แล้ว เดี๋ยวตามไป กดวางเสร็จปุ๊ปเคย์ก็คว้าเสื้อคลุมใกล้ๆมือมาสวมไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าของเขาหรือของเจ้าของห้อง  รู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่ถูกขัดจังหวะเอากลางอากาศแบบนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้น่ะนะ เกิดมาเก่งกาจจนได้กลายเป็นลีดเดอร์ของกลุ่ม ก็ต้องทำใจ

     

                    เดี๋ยวก่อน

                    มีอะไร?แกล้งเก็กหน้าเคร่งๆซะ ให้เห็นว่ากำลังเครียดอยู่ จะได้ไม่กล้าบ่นว่าอะไรหนักๆ

                    นายไม่ได้เมาตั้งแต่แรกใช่ไหม?

     

    เอาล่ะสิ แผนที่เนียนมาได้ตั้งนานแตกยับเยินเพราะความงี่เง่าของไอ้พวกนั้นแท้ๆ กะว่าจะทำเป็นลืมๆสิ่งที่ทำไว้แล้วออกไปเฉยๆซะหน่อย

     

              เปล่า~แต่สร่างแล้ว

    จะว่าหน้าด้านก็หน้าด้านเหอะ  แต่มันลื่นไหลไปไหนไม่ได้แล้วจริงๆ  โดนจับโกหกได้เต็มๆขนาดเนี้ย  พูดจบก็กระโดดเผ่นแผล็วออกจากห้อง  หนีคดีไปเรียบร้อยโรงเรียนอิโนะ เคย์!!

     

     

    ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่จำได้แม่นว่าไม่ได้กดตั้งเวลาไว้  มองที่ว่างข้างตัวไม่มีใครที่เคยนอนอยู่หรือแม่แต่ร่องรอยการใช้งาน

     

    เมื่อคืนไม่ได้กลับมานอนงั้นเหรอ?

    ไปไหน? หรือว่ามีเรื่องอะไรอีก  จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้

     

    เฮ่ย แล้วนี่กลายเป็นผมต้องไปคอยห่วงมันตั้งแต่เมื่อไหร่  หรือเพราะว่าชินเสียแล้วที่ต้องมีใครอีกคนให้ดูแลอย่างกับพ่อ อย่างกับแม่ อย่างกับ...แฟนมันอย่างงี้ล่ะ

     

    หลักจากที่ผมลุกไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ  กำลังจะออกมาเตรียมอาหารเช้าสำหรับวันนี้ แต่บังเอิญสะดุดกับกล่องใบใหญ่ที่วางขวางไว้หน้าห้อง

     

    อะไร? ของใคร? ใครเอามาวางไว้?  ท่าทางลึกลับไร้ที่มาแบบนี้  ระเบิดรึเปล่าฟะ?(คิดไปได้)

     

    ผมใช้เท้าเขี่ยๆดูเล็กน้อย (ถ่อยมาก..) และเพื่อความแน่ใจ ก้มลงเอาหูแนบฟังเสียงภายในนั้น

     

              ทำบ้าอะไรอยู่น่ะ

                    ห้ะ ผมสะดุ้งสุดตัว รีบเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ต้องชะงักต่อรอบสอง เพราะว่าภาพที่เห็น

     

    ....ไม่น่ะ  ผมไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม?

     

                    อ้าว แล้วทำไมยังไม่เปิดนั่นดูอีกล่ะ หมายถึงกล่องปริศนานั่นอ่ะนะ

     

     ..... แต่เดี๋ยว อยากรู้นักว่าเมื่อคืนเคย์ไปทำอะไรมา  เช้านี้ถึงได้นึกคึกลุกขึ้นมาจับตะหลิว คาดผ้ากันเปื้อน และจากการประเมินด้วยสายตาคร่าวๆคาดว่าน่าจะกำลังทำอาหารเช้าอยู่

     

    ..... ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจในรอบปีนัก!!

     

              ผ้าพันคอ? ให้ฉันเหรอ ดวงตาสุกใสเป็นประกาย ประกอบกับหน้าหล่อๆที่อมยิ้มนิดๆ หันมาสอบถามเพื่อความแน่ใจ

                    อืม ของขวัญวันเกิดรวมกับของขวัญวันคริสต์มาส

    ถึงจะดูห่ามๆห้าวๆ เจ้าเล่ห์เพทุบายไปบ้าง แต่เคย์ก็เขินเป็นนะขอบอก แล้วตอนนี้คนหัดเขินก็กำลังเอาตะหลิวเกาหัวแบบไม่รู้จะทำอะไรไปแล้ว ..... ร่างสูงพอเห็นสีแดงๆบนแก้มของเคย์ที่หาดูได้ยากยิ่งก็ทำให้อยากแกล้งเข้าไปใหญ่

                    รู้ด้วยว่าฉันเกิดเดือนนี้?”

              ก็...กะอีแค่วันเกิด ไม่เห็นจะยากเลย  แล้วชอบป่ะล่ะคนเขินถูจมูกฟุดฟิด ไม่ยอมสบตา แกล้งมองผ่านเลยร่างสูงเข้าไปในห้องที่เปิดประตูค้างไว้อยู่

                    ชอบดิ ขอบใจนะ ท่าทางจะถูกอกถูกใจกับของขวัญเอามากๆ ถึงกับส่งยิ้มโชว์เขี้ยวบาดจิตบาดใจกลับมา เล่นเอาคนเผลอมองตาพร่าไปหลายวิ

     

              ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาที่เคย์แสดงฝีมือให้ประจักษ์แล้วว่ามีความสามารถในการทำอาหารอย่างเยี่ยมยอด  ก็ถูกลากให้มาช่วยทำกับข้าวทุกวัน จนเคย์ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ที่ได้กุ๊กกิ๊กหนุงหนิงช่วยกันทำอาหารราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน  แต่มันเสียก็ตรงที่ทำให้เขาเสียเวลาพักผ่อนน่ะสิ! 

     ปกติตั้งแต่มาลงหลักปักฐานที่นี่ เคยทำซะที่ไหนล่ะ  ติดสบายจนเคยไปแล้ว พอมาโดนขัดความสุขก็อดจะหงุดหงิดหน่อยๆไม่ได้  รู้งี้ วันนั้นกลับมาน่าจะเข้าไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆซะตั้งแต่แรก ไม่น่านึกสนุกทำข้าวเช้าให้ฮิคารุแปลกใจเล่นเล้ย...

     

    .               เอ้อ เคย์ วันนี้ไปไหนหรือเปล่า?

                    ไม่อ่ะ

                    ดีเลย งั้นมาช่วยฉันทำความสะอาดห้องรับปีใหม่ดีกว่า

                    โน้วววว

                    ไม่ต้องคิดหนีเลย  อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันเดะ จนมุมต่อเหตุผลทั้งปวง  ด้วยเหตุฉะนี้ เคย์จึงต้องมายืนขัดซิงค์ล้างจานอย่างเอาเป็นเอาตาย...... เขาได้รับหน้าที่ให้รับผิดชอบส่วนห้องครัว และมีสิ่งเดิมพันก็คือ

                    ถ้านายทำความสะอาดครัวได้เอี่ยมอ่องล่ะก็  จะยอมให้กลับมาเป็นคุณชายเคย์ กระดิกตีนดิ้กๆรอกินข้าวอย่างเดิม ตกลงไหม?

     

    เมื่อฮิคารุยื่นข้อเสนอปลุกเร้าต่อมขี้เกียจที่ฝังลึกในตัวตนของเขาขึ้นมา  เคย์จึงยอมลงทุนลงแรงทำงานถวายหัวให้ขนาดนี้  โดยถือคติที่ว่า ลำบากในวันนี้ เพื่อความสบายในวันหน้า เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน!

    ขณะที่ฮิคารุยังคงทำงานบ้านทุกชนิดไปได้เรื่อยๆไม่รีบร้อนอะไร  แอบเหล่มองดูคนที่ขยันขันแข็งเช็ดนู่นขัดนี่อยู่ในครัวเป็นครั้งคราว  

     

    ...ทำตัวดีๆก็เป็นนี่หว่า นึกว่าจะดีแต่ปากที่คอยกวนประสาทเขาไม่เว้นวัน  จะว่าไป พักหลังๆมานี่ก็ทำตัวดี ว่าง่ายขึ้นตั้งเยอะ 

     

    ... ก็ไม่แปลกนี่นา ที่จะแอบคิดบ้างว่า หมอนี่น่ะ น่ารัก...

     

    สองร่างที่ใช้แรงงานเก็บกวาดห้องมาทั้งวันทิ้งตัวลงแผ่หลาบนโซฟาในเวลาใกล้เคียงกัน

    เคย์ลอบสังเกตซีกหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม  รูปหน้าหล่อเหลาคมคาย เกาะพราวไปด้วยหยดน้ำ ดูเซ็กซี่อย่างน่าประหลาด ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เคยมีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเลยซักกะติ้ด!

     

                    นายนี่ก็หล่อนะ

                    อ้าว มาอยู่ซะตั้งนาน เพิ่งจะรู้ซึ้งถึงคำนั้นหรอไง?

              ...............  ถึงกับเงียบไปตั้งหลักกันเลยทีเดียว

                    แล้วฉันเป็นไงมั่ง?

                    หืม ชมหวังผลนี่หว่า  เอายังไงล่ะ จะเอาดีหรือเอาเสียๆ

                    เอาความจริงดิ  นายว่าฉันเป็นไง?

     

                    ก็เถื่อนๆ ห่ามๆดี ไม่มีมารยาท เอาแต่ใจมากๆพอได้รับคำอนุญาตร่างสูงก็เริ่มต้นพรรณนาสรรพคุณในแบบที่เคยเจอมาแล้วกับตัวเองโดยตรง จะโทษว่าพูดเกินจริงก็ไม่ได้   

    ส่วนคนที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เริ่มทำหน้ามู่ทู่  ก็ตั้งแต่ที่พูดมา ไม่เห็นดีอะไรดีๆกะเค้าซักข้อ!!

     

    แล้วก็เหมือนนายมีอะไรซักอย่างที่ทำให้ฉันขัดนายไม่ได้ซักที ประโยคสุดท้ายฮิคารุหันมาสบสายตาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ดูไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

    นายนี่แปลกดีจริงๆนะ" เคย์ละสายตาที่จ้องประสานกันด้วยความรู้สึกแปลกๆออกมา ก่อนที่เขาจะแสดงปฏิกิริยาประหลาดๆออกไปอีก

     

    ....... แค่นี้ หัวใจก็เต้นรัวจนน่ากลัวแล้ว.........

     

                    แปลกเหรอ? ฮิคารุหันกลับมาทิ้งตัวลงพิงกับพนักโซฟาอีกครั้ง สายตามองตรงไปแบบเรื่อยเฉื่อย คล้ายกับว่าครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจ  ทั้งคู่ตกอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบอยู่ซักพักหนึ่ง จนเมื่อเคย์เริ่มต้นบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง

                    "ทุกคนที่ฉันถาม ตอบเป็นเสียงเดียวกันทั้งนั้น  ยกเว้นนาย"

                    "อ้าว เป็นงั้นไป"

                    "แล้วนั่นก็ทำให้ฉัน ยิ่งชอบนาย นายน่ารักดีนะ ฮิคารุ" เจ้าของชื่อที่ถูกพาดพิงถึงหันควับมาทางคนพูดแทบจะทันที

                    "ห้ะ!พูดเป็นเล่นน่า  มาอารมณ์ไหนเนี่ย?"

                    "ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่บอกไว้อย่าง เวลาฉันถูกใจใครมากๆ อย่าหวังเลยว่าจะหลุดพ้นมือฉันไปได้" เคย์บอกกล่าวถึงเจตจำนงด้วยความมุ่งมั่น จนเป้าหมายเกิดอาการหวั่นใจ

                    "นายจะทำอะไร?"  สายตาร่างสูงกรุ่นไปด้วยความหวาดระแวง

                    "ไม่ได้พิศวาสถึงขนาดอยากปล้ำนายหรอก ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ทำท่าเป็นสาวน้อยแรกรุ่นไปได้ ปัญญาอ่อน!"

                    "ให้ตายเหอะ นี่นายกำลังบอกว่าชอบฉันใช่ไม๊เนี่ย?"

                    "หรือนายคิดว่าไงล่ะ?"

                    "แล้วยังไงอ่ะ?"

                    "ไอ้ทึ่ม เกิดมาไม่เคยสารภาพรักกับสาวรึไง  มีคนมาบอกชอบอ่ะ เค้าจะตอบว่าอะไรกัน? แค่นี้คิดเองไม่ได้"

                    "อ้าว นี่ขอฉันเป็นแฟนหรอกหรอ?"

                    "......."

                    "ไม่ต้องมาทำหน้าเคร่งเลย  นายจะเอายังไงกับฉันบอกมา?"

                    "มันเครียดนะ มันเครียด ก็บอกมาซักทีเซ่ ว่าจะคบไม่คบ? อย่ามาทำครึ่งๆกลางๆ เดี๋ยวพ่อเตะให้หรอก"

                    "เฮ่ย  นายนี่ไม่น่ารักเอาซะเลย"

     

    เคย์เซ็งจัด ที่การสารภาพรักของเขาไม่โรแมนติกอย่างที่เคยคิดไว้  นั่นอาจเป็นเพราะเขาห่ามเกินไปอย่างที่ฮิคารุว่า  แล้วก็ความไม่คืบหน้าจากความทื่อมะลื่อของฮิคารุที่ทำเอาเขาต่ออารมณ์ไม่ติด

    เคย์ลุกเดินออกไป แล้วปีนขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนเตียง ด้วยหน้าบอกบุญไม่รับ  ท่ามกลางความงงงวยของร่างสูงที่ยังนั่งคิ้วขมวดอยู่ที่เดิม

     

    ...ให้มันได้อย่างงี้สิน่า~!!!

     

                    ง่วงแล้วเหรอ? ยังมีหน้ามาเปลี่ยนเรื่องได้เฉยอีกนะคนเรา!!!

              ไม่ได้นะเว้ย ยังไม่ได้อาบน้ำเลย  ฉันไม่ให้นายมานอนใกล้ๆฉันหรอก

     

                    .....นี่ฮิคารุลืมไปแล้วหรือเปล่า? ว่าเขาสารภาพรักไปแล้วน่ะ

     

     

     

    รุ่งเช้าของวันขึ้นปีใหม่ที่แสนสดใส 

     

    ฮิคารุตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าแจ่มใส ยิ้มแย้มอารมณ์ดี  ถึงขั้นฮัมเพลงไประหว่างการทำอาหารเช้า ซึ่งกลายเป็นหน้าที่ประจำตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องตื่นมาทำ ก็เท่านั้น

     

                    เป็นอะไร ทำหน้าบูดแต่เช้า  ปวดท้องหรือไง หรือว่าหิวข้าว?

     

    คนอารมณ์ดีเอ่ยทักคนที่เพิ่งเดินหัวยุ่งออกมาจากห้อง ด้วยหน้าตาบูดบี้ ถมึงทึงตรงกันข้ามกับเขาแบบสุดๆ .... ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาไม่เบานัก  ตาเรียวรีจ้องเอาๆแบบคาดคั้น

     

                    ปวดใจมากกว่า ไอ้ซื้อบื้อฮิคารุ!!” คำตอบลอยมาพร้อมหมอนอีก 1 ใบบนโซฟา หวิดโดนหน้าหล่อๆอยู่เหมือนกัน แต่ยังดีที่หลบได้ทัน

                    อ้าว ตกลงว่าเมื่อคืนพูดจริงๆเหรอ?

                    “!!!!!!”ดูจากสีหน้าแล้ว  เคย์คงอยากทุ่มทีวีใส่เขาด้วยความหงุดหงิดเต็มพิกัด

                    โอ๋ๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้  ก็บอกไปแล้วไง

                    บอกตอนไหนไม่ทราบ!”

                    บอกแล้วนี่ ว่าฉันขัดนายไม่เคยได้ซักทีใบหน้าหล่อยิ้มยียวนอย่างน่าหมันไส้ ขณะยกเซ็ทอาหารเช้ามาเสิร์ฟคุณชายเคย์ถึงโต๊ะ

     

     ... นี่ ดูเสียก่อน  อารมณ์ดีขนาดว่า ทอดไข่ดาวเป็นรูปหัวใจซะด้วยนะ ไม่อยากจะเซด

     

              ไม่พูดให้ชัดๆ ใครมันจะไปตรัสรู้ล่ะ(วะ)

                    งอนเหรอ?

                    ไม่ได้งอน!” แต่เคือง ...คิดได้ไง มาทำเมินเฉยปล่อยให้คนอย่างอิโนะ เคย์ นอนแทบไม่หลับทั้งคืน!

     

                    งั้นกินข้าวกันเถอะ ยังไม่ทันได้ง้องอน อ้อนหวานๆให้ได้ยินซักครึ่งคำให้ได้ชื่นหัวใจ  ฮิคารุก็เปลี่ยนเรื่องไปได้หน้าตาเฉย  เล่นเอาเคย์เหวอไปเลย

                    เออ ยอมรับก็ได้ งอนอยู่เว้ย.. รีบง้อเร็วๆเข้า!”

     

    ....คาดว่า ซักวัน ฮิคารุคงเปลี่ยนความปากหนัก ปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจของเคย์ได้ชะงัดนัก!

     

     

    To be continue

    Next Season “Trial

     

    .....หวังว่าฟิกเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนยิ้มนะคะ......

    .... ติชมกันได้นะคะ คอมเม้นได้แม้ไม่ต้องล็อคอิน^^.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×