ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ].... You are beautiful ....[Hey!Say!JUMP version]

    ลำดับตอนที่ #6 : ยูโตะ......

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 54


    06

     

                    ยูยะหายดีและได้ออกจากโรงพยาบาลในวันถัดมา และตอนนี้สมาชิกทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องซ้อมของบริษัท..... พวกเขาก็กำลังซ้อมเพลงที่จะใช้โชว์ในงานเดบิวต์อย่างเป็นทางการของเรียวสุเกะ .... แต่ทว่าเจ้าตัวกลับยังจำทำนองไม่ได้สักทีเลยทำให้เสียงร้องเพี้ยนจนนักดนตรีจะพาลเล่นโน๊ตเพี้ยนตามไปด้วย ยูยะต้องคอย(ตะคอก)บอกคีย์กับเรียวสุเกะอยู่เสมอๆ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้การซ้อมเป็นไปอย่างติดๆขัดๆ และยูยะเองก็มีท่าทีว่าจะอารมณ์เสียแปรฝันตามจำนวนครั้งการผิดพลาดของเรียวสุเกะที่มากขึ้นเรื่อยๆ

     

                    ทุกคน...... เหนื่อยกันรึยัง ออกมาเบรกกันหน่อยมา น้ำเสียงรื่นเริงเกินพิกัดของประธานหนุ่มรูปงามนามยามะพี โผล่หน้าเข้ามาในห้องซ้อมที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด

     

                ยูโตะทำหน้าเหมือนกับรอดตายแล้วยังไงอย่างงั้น รีบวางไม้กลอง กระโดดเหยงๆตามยามะพีไปเป็นคนแรก ฮิคารุกับเคย์ก็รีบผละออกจากเครื่องดนตรีและตามออกไปติดๆ ...ยูยะวางเนื้อเพลงในมือลงบนโต๊ะ กวาดสายตามองร่างเล็กที่มีสีหน้าย่ำแย่ ....ร่างสูงถอนหายใจหนักๆแล้วก็เดินทำหน้าตึงออกไปไม่สนใจจะปลอบโยนใดๆ

     

     

                    ยามะจัง ร่าเริงเข้าไว้นะ....

     

    เคโตะเดินเข้ามาบีบไหล่ร่างเล็กทั้งสองข้างเป็นการให้กำลังใจ พร้อมกับใบหน้าที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ร่างเล็กจึงยิ้มเหนื่อยๆออกมา

     

                ทาคาคิคุงเขาเกลียดผมแล้วรึเปล่า?” เรียวสุเกะถามขึ้นมาอย่างอ่อนแรง ....เขาเริ่มหมดกำลังใจที่จะทำให้ยูยะยอมรับในตัวเขา เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไร สุดท้ายก็กลายเป็นผิดพลาดสร้างความเดือดร้อนให้ยูยะอยู่เสมอๆ      

     

    ถึงยูยะจะชอบพูดจาร้ายๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรหรอกนะ ...มันเป็นพวกเพอร์เฟคแมนน่ะ ทุกๆอย่างต้องสมบูรณ์แบบไปหมด พอใครทำอะไรไม่ได้ตามที่มันคิดไว้ก็เลยเหวี่ยงนิดหน่อย ไม่ต้องคิดมากหรอก ....แต่เรื่องเพลงน่ะ พยายามเข้าล่ะ

     

                    ครับ ผมจะพยายามเต็มที่เรียวสุเกะฉีกยิ้มกว้าง สร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวเองอีกครั้ง

     

                ป่ะ...เราออกไปกินของว่างกันบ้างดีกว่า ขืนช้าเดี๋ยวเจ้าพวกนั้นกินซะหมด เคโตะพูดติดตลก.... แต่ถึงจะรู้ว่าเขาเล่นมุก แต่ผมก็เห็นความเป็นไปได้ที่พวกนั้นจะสวาปามไม่เหลือซากได้เหมือนกัน -_-;  ไม่ได้การ..ผมจะต้องรีบออกไป!

     

    .

    .

               

     

     

    วันนี้ยามะพีใจดี ทุ่มทุนซื้อไก่ทอดเคเอฟซีมาเลี้ยงสองถังใหญ่ๆ พร้อมของกินเล่นอีกมากมายให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจ... ชิเงะที่เริ่มจะกลายสภาพเป็นเบ๊ของพีซังอย่างจริงจังก็กำลังจัดเตรียมที่นั่งไว้สำหรับทุกคน 

     

                    เอ้า กินกันเยอะๆนะ กินให้อิ่มๆ จะได้มีแรงทำงานต่อ

     

                    คร้าบบบยูโตะ เคย์ ฮิคารุขานรับกันเสียงใสแจ๋ว ก่อนจะเริ่มลงมือกับอาหารตรงหน้า

     

     ....ยูยะที่เดินตามมาทีหลัง เข้าไปนั่งข้างเคย์เพราะว่าเป็นพื้นที่ๆใกล้กับถังใส่ไก่มากที่สุด แต่ยังไม่ทันได้ลงมือคว้าไก่มาสักชิ้นนึงก็โดนยามะพีที่กำลังละเลียดไอศครีมซันเดย์ถามขึ้นมาเสียก่อน

                    ยูยะ เรื่องซ้อมไปถึงไหนแล้วล่ะ

     

    ร่างสูงชักสีหน้าขึ้นมานิดนึง แล้วบุ้ยปากไปข้างหลังเป็นจังหวะเดียวกับที่เรียวสุเกะและเคโตะเดินออกจากห้องมาพอดี

                    ถามเจ้านั่นดีกว่า ว่าจะจำเนื้อเพลงได้เมื่อไหร่

     

                เอาน่ะ ใจเย็นๆ ยามะจังเพิ่งซ้อมครั้งแรกเอง....ยามะพีพูดอย่างสบายๆ เขาก็คิดอยู่แล้วล่ะ ว่าการซ้อมวันแรก ลีดเดอร์ผู้มากความสามารถจะต้องตอบมาในรูปนี้

     

                    เหอะ!!” ยูยะกระแทกเสียงพร้อมกับจิ้มไก่ทอดชิ้นใหญ่มาวางบนจานได้ชิ้นนึง แล้วใช้มีดเฉือนเป็นชิ้นอย่างรุนแรงเพราะหางตาดันเหลือบไปเห็นสุภาพบุรุษเคโตะกำลังดูแลเอาใจใส่เรียวสุเกะอย่างออกนอกหน้า

     

                    ยามะจังเอาซอสมั้ย

                ครับ

                อ้ะ เคโตะ..ฉันกำลังจะใช้นะ

                ก็รอไปก่อน แปบเดียวน่า

                    อะไรกันอ่ะ ยูโตะทำหน้าบูด ตั้งใจหันมาทางลีดเดอร์ยูยะหวังจะพึ่งพาให้ช่วย แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสีหน้าน่ากลัวของยูยะและมือใหญ่ที่กำลังบีบซอสมะเขือเทศใส่จานตัวเองจนท่วมทะลักอย่างไม่รู้ตัว

     

                    เอ่อ ยูยะ...ยูยะ! มันเยอะไปแล้วมั้ง

                    อะไร

                    นั่นอ่ะ ยูโตะมีสีหน้าหวาดกลัวเล็กๆ ชี้ไปที่ .....ไม่มีชื่อไหนจะเหมาะไปกว่า ซุปไก่ทอดซอสแดง ในจานของยูยะอย่างเกรงๆ 

     

                    เฮ้ย!”

                ยูยะหลุดทำหน้าเหวอออกมาเพียงเสี้ยววิ แล้วก็กลับไปฟอร์มทำหน้านิ่งขรึมอีกครั้ง

                    ฉันชอบกินแบบนี้เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการลงทุนกระเดื๊อกไก่ชุ่มซอสนั้นลงคอไปแบบหน้าเปรี้ยวๆ.... ยูโตะ เคย์ ฮิคารุ หันหน้าหนีไปแอบอมยิ้มและกลั้นหัวเราะกันสุดชีวิต ทว่าเรียวสุเกะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจะหันหนีไปแอบขำตรงไหนก็ไม่ได้ เลยหลุดเสียงหัวเราะเบาๆออกมาให้ร่างสูงระคายหู

     

                    ขำอะไร!”

                    เปล่าฮะ

                ตัวเองกินเลอะเทอะอย่างกับหมูยังมีหน้ามาหัวเราะคนอื่นอีก

    เรียวสุเกะสะดุ้ง รีบเอามือเช็ดปากอย่างลวกๆทันที

     

                    อย่าเช็ดหน้าแรงแบบนั้น ใช้นี่สิ เคโตะยื่นกระดาษทิชชู่มาให้อย่างใจดี

     

                    ยูยะเห็นแบบนั้นก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ พาลคว้าจานไก่ของเคย์มาแลกกับซุปไก่ทอดซอสแดงของตัวเองหน้าตาเฉย เคย์ก็ได้แต่ร้องโวยวายแล้วหันไประรานของฮิคารุเอาอีกทอดหนึ่ง ทำให้ห้องรับรองของยามะพีเกิดความวุ่นวายเสียงดังขึ้นในชั่วพริบตา

     

                    พวกนี้อายุเท่าไหร่กันแน่ครับพีซัง ชิเงะอดจะสงสัยไม่ได้กับพฤติกรรมทะเลาะกันแย่งของกินของกลุ่มวงดนตรีชื่อดังระดับประเทศอย่าง A.N.JUMP  ....นี่ตกลงว่าเขามาทำงานเป็นผู้จัดการวงดนตรีหรือคุณครูโรงเรียนอนุบาลกันแน่นะ

     

                    หะๆ มันเป็นความสดใสของวัยรุ่นไงล่ะ ยามะพีก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสนุกสนานไปด้วยอีกคน ชิเงะได้แต่กุมขมับเครียด.... นิสัยเด็กพอกันทั้งประธานบริษัททั้งตัวศิลปินสิน่า!

     

     

                    ท่ามกลางความวุ่นวายหนอในห้องนั้นเอง มีร่างๆหนึ่งที่จ้องนิ่งไปยังคนคู่หนึ่งด้วยความขุ่นใจ ....

                    ยูโตะตักมันบดเข้าปาก เคี้ยวยับๆพลางมองไปที่เคโตะและเรียวสุเกะที่ทำเหมือนสร้างโลกกันอยู่สองคนภายใต้ความโกลาหลจากสมรภูมิไก่ทอดในห้องอย่างไม่อนาทรร้อนใจใดๆ

     

                    .......ทำไมเคโตะจะต้องดูแลเทคแคร์เจ้าเด็กใหม่ขนาดนี้ด้วย .........

    ....... ยูยะก็อีกคน ถึงจะทำท่าว่าไม่สนใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ชอบยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออยู่ดี .......

     

    ....... ยามาดะ เรียวสุเกะ นายมีอะไรดีนักหนานะ!! ..........

     

     

    ................................................................

    ......................................

    .................

     

     

    เย็นวันนั้นเอง

     

                “เฮ้อ~!! ได้พักซักที” ยูโตะที่ก้าวเข้ามาในบ้านคนแรกโยนกระเป๋าตัวเองไปบนโซฟาแล้วก็ยืนยืดตัวบิดขี้เกียจกลางห้องนั่งเล่น

                    “แอร๊ย ทำเป็นมาพูด เมื่อกี้บนรถใครกันหลับเป็นตาย... แถมนอนน้ำลายยืดอีกต่างหาก” ฮิคารุที่เดินตามมาล้อเลียนหน้ายูโตะตอนหลับและแกล้งทำท่าซู๊ดน้ำลายด้วยท่าทางน่าเกลียดพอดู

                    “ใคร.. ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย” ยูโตะเชิดหน้าตอบไม่ยอมแพ้เช่นกัน

     

                    เรียวสุเกะได้แต่มองยูโตะกับฮิคารุผู้มีพลังงานอย่างเหลือเฟือตั้งท่าโต้เถียงกัน ....แต่ใครจะเถียงใครจะทำอะไรในยามนี้ เรียวสุเกะไม่ขอสนแล้วล่ะ.... วันนี้ซ้อมทั้งวันจนเสียงแหบเสียงแห้ง กว่าทาคาคิคุงจะทรงพอพระทัยและให้ทุกคนพักผ่อนได้เนี่ย เขาคิดว่ากล่องเสียงเขาจะกระเด็นออกมาได้ด้วยซ้ำ

     

                “ทุกคนฟังทางนี้แปปนึง” ชิเงะเดินกางสมุดจดงานตามมาทีหลัง .....เสียงของชิเงะหยุดการเอะอะส่งเสียงของพวกบ้าพลังสองคนนั้นได้ดีทีเดียว

     

    “งานโชว์เปิดตัวของยามะจัง จะมีวันเสาร์นี้ตอน 6 โมงนะ สำหรับ 2-3 วันที่เหลืออยู่นี่ก็ซ้อมให้มากๆ”

     

                ทุกคนรวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่น รอฟังชิเงะแจกแจงตารางงานในอาทิตย์นี้ของพวกเขาอย่างตั้งใจ

                ท่ามกลางความเงียบสงบของเมมเบอร์ที่นั่งๆนอนๆเรี่ยราดกันอยู่อย่างหมดแรง เรียวสุเกะที่แค่เสียงไอเบาๆทีสองที ทุกคนก็หันมาเป็นตาเดียวเหมือนเขาเป็นโรคระบาดร้ายแรงยังไงอย่างนั้น

     

    “ยามะจังดื่มน้ำเยอะๆด้วย ระวังอย่าให้เจ็บคอล่ะ” ชิเงะเพิ่มคอมเม้นเจาะจงเพ่งเล็งมาที่เขาในทันที

     

    “ครับ” เรียวสุเกะพยักหน้ารับพร้อมยิ้มแหยๆ

    ....แน่ล่ะ เพราะวันนี้เขาใช้เสียงมากเกินไป....ตอนนี้เขารู้สึกอยากบีบน้ำมะนาวกลั้วคอสักกิโลจริงๆ ….

     

    “งานสำหรับอาทิตย์นี้มีเท่านี้แหละ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานวันเสาร์ก็พอ” ชิเงะปิดสมุดจดคิวงาน แล้วหันหลังไปหยิบเอาถุงกระดาษสีหวานที่มีตราของร้านขนมชื่อดังติดอยู่ข้างถุงมาตั้งไว้บนโต๊ะ

     

    “นี่เป็นโบนัสสำหรับวันนี้ ....จากพีซัง”

     

    “ว้าว เค้กครีมสดสตรอเบอร์รี่” ยูโตะร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น .....เรียวสุเกะหูกระดิกทันทีที่ได้ยิน ค่อยๆคืบคลานไปพิสูจน์ใกล้ๆ แล้วก็ต้องตาลุกวาว ลืมเลือนอาการเหน็ดเหนื่อยไปในทันใด...ดวงตาใสๆเป็นประกายวิ๊งวับด้วยความอยากกิน

     

    “อยากกินล่ะสิ ยามะจัง” เคย์มองหน้าร่างเล็ก แล้วก็แซวออกมาให้ทุกคนหันไปมองตาม

     

    “เอ้ะ!” รู้ได้ไง?... เขาคงไม่ได้เผลอทำน้ำลายไหลออกไปหรอกนะ!

     

    “มันเขียนแปะบอกอยู่บนหน้าผากนายน่ะ” เรียวสุเกะแตะหน้าผากตัวเอง ทำท่าคิดตามแล้วก็ตกอยู่ในสภาวะงงงัน ไม่เข้าใจความหมายที่เคย์พูด ได้แต่ทำหน้างงแล้วก็ส่ายหัวด๊อกแด๊กอยู่คนเดียว

     

    “น่ารั๊กอ่ะ!!! เคย์ดัดเสียงสูงพูดแล้วก็เอียงคอไปทางขวาหนึ่งทีแรงๆเพิ่มความโมเอ้ ซึ่งไม่ได้เข้ากับหน้าตาหล่อเหลาของคนพูดเลยสักนิด

     

    “อย่าไปสนใจคำพูดเคย์มันเลย มันชอบพูดอะไรแปลกๆที่ไม่มีใครเข้าใจออกมาน่ะ” เคโตะกระซิบบอก

     

    “ว่าแต่พีซังเลี้ยงดีแบบนี้ แสดงว่าอาทิตย์หน้าไม่ได้หยุดพักหายใจกันเลยสินะ” ยูยะพูดออกมาที ทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและฉุกคิดตาม.....

    ..... จริงของมัน ทุกครั้งที่พีซังพาไปเลี้ยง หรือซื้อของกินมาขุนซะอย่างกับราชา สิ่งที่ตามมาก็คือ ตารางงานนรกที่จะทำให้แทบไม่มีเวลาหลับเวลานอนกันเลยทีเดียว ....

     

    “ก็ว่าทำไมช่วงนี้ดูใส่ใจใกล้ชิดพวกเราเหลือเกิน”

    “อาหารมื้อสุดท้าย ก่อนเข้าโรงเชือดสินะ”

     

    บรรยากาศกลับไปสู่ความอึมครืมหมองหม่นอีกครั้ง ชิเงะจึงรีบกอบกู้สถานการณ์

    “อ่าๆ ทุกคนอย่าเพิ่งเครียดไป มากินเค้กกันดีกว่า จะได้รีบอาบน้ำนอนพักผ่อน”

     

    .

    .

     

                    “อ้ะ นั่นละครชี่จังนี่นา น่ารักจังเลยน้า” ยูโตะเปิดทีวีไปเจอ ละครที่จิเน็นแสดงนำอยู่พอดี

     

                “........................”

     

     ไม่มีเสียงตอบรับจากใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะทุกคนกำลังจดจ่ออยู่กับการแบ่งเค้ก .... ชิเงะที่รับหน้าที่เป็นคนตัดแบ่งอดที่จะมือสั่นนิดๆไม่ได้ สายตาของทุกคน ยกเว้นเคโตะกับยูโตะจับจ้องไปที่ปลายมีด ราวกับมันเป็นตัวกำหนดอนาคตของวง ถ้าเกิดว่ามันผิดพลาดเหลื่อมล้ำไปที่ชิ้นใดชิ้นหนึ่งสักเซ็นอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองได้ในทันทีเลยทีเดียว

     

    ยูโตะทำหน้าเศร้าไปนิดหนึ่ง แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเซื่องซึม

    “ไม่มีใครฟังฉันเลย”

     

    “....................” 

    เค้กถูกแบ่งออกไปอย่างเท่าเทียมกัน รอยยิ้มกว้างขวางผุดขึ้นบนใบหน้าของคนที่ได้รับส่วนแบ่งเค้กทีละคนๆ ในขณะที่ชิเงะเหงื่อคราไหลท่วมตัวด้วยความเกร็ง ยิ่งกว่าเสียเหงื่อเพราะวิ่งรอบสนาม 3 รอบเสียอีก

     

    “ไม่มีใครฟังเลยอ่ะ!!!” ยูโตะร้องงอแงด้วยประโยคเดิมอีกครั้งพร้อมกับใช้ส้อมเคาะโต๊ะเสียงดัง.... คราวนี้ทุกคนพร้อมใจกันหันมามองที่ยูโตะเป็นตาเดียว (เพราะทุกคนได้เค้กไว้ในมือแล้ว)

     

    “เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ” ฮิคารุที่นั่งข้างๆเป็นคนเอ่ยปากถาม.... แต่ยูโตะก็สะบัดหน้าหนีไปหายูยะที่นั่งฝั่งตรงข้ามหน้าตาเฉย 

     

                    ยูยะ นายเคยบอกว่าชอบคนตัวเล็กๆน่ารักๆใช่มั้ยล่ะ

                    อืม ก็เคยบอก

                แล้วน่ารักๆอย่างชี่จังล่ะ

    ฉันไม่-สน-ใจยูยะหันมาย้ำทีละคำชัดๆ ร่างสูงยังคงจำได้ดีถึงเหตุการณ์ที่เขาได้เจอกับจิเน็นโดยบังเอิญ

     

    อะไรกัน! ชี่จังน่ารักจะตาย ....แล้วเคโตะล่ะ ชอบมั้ย

    ไม่รู้สิ... บางทีน่ะนะแม้ปากตอบจะคำถามของยูโตะก็จริง แต่สายตากลับไปหยุดอยู่ที่ร่างเล็กที่ยิ้มหวานมีความสุขกับการกินเค้กตรงหน้า ...เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่ายามะจังน่ารักจังเลยน้า.....

     

    โห นายสองคนนี่ตาไม่ถึงกันจริงๆเลย ชี่จังตัวเล็กนิดเดียว หน้าตาก็น่ารักเหมือนผู้หญิง ใช่มั้ยเคย์

     

    อื้อ ฉันชอบผู้หญิงทุกคนนั่นแหละ o^____^o ” เคย์ตอบด้วยน้ำเสียงรื่นเริง

     

    แต่ว่า ชี่จังอะไรเนี่ย เด็กผู้ชายไม่ใช่หรือฮิคารุถามขึ้นมาอีกครั้ง

     

    ก็ใช่.... แต่ว่าน่ารักๆอย่างชี่จังเป็นข้อยกเว้น หน้าหวานอย่างกับผู้หญิงขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนเห็นก็หลงรักทั้งนั้นแหละ ถ้าพวกนายว่าชี่จังไม่น่ารัก แล้วใครล่ะจะน่ารักไปกว่านี้

     

    เรียวสุเกะ คำตอบจากปากของยูยะ ทำให้ยูโตะหันขวับไปทำหน้าตาเหลือเชื่อใส่ แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้ยูโตะเข้าใจได้ว่า ยูยะไม่ได้ตั้งใจฟังที่เขาพูดอยู่สักนิด หน่วยตาคมจ้องไปกลางโต๊ะอย่างหัวเสีย

     

    นั่นมันสตรอเบอร์รี่ของฉันนะ! นายคิดว่าฉันตาบอดรึไง! ที่จะไม่เห็นมือสั้นๆป้อมๆของนายกำลังจะขโมยสตรอเบอร์รี่ของฉันน่ะ!!”

     

    “อ้ะ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจขโมยนะ ผมเห็นว่าทาคาคิคุงเขี่ยไปเขี่ยมาก็นึกว่าไม่ชอบ”

     

    “หะๆๆ หมอนี่ไม่มีคำว่าไม่ชอบกับของกินได้หรอก” เคย์เหน็บเพื่อนด้วยหน้าตาสดใส แล้วอาศัยช่วงที่ทุกคนกำลังให้ความกับสนใจยูยะและเรียวสุเกะ จิ้มสตรอเบอร์รี่ในจานของฮิคารุมากินอย่างสบายใจเฉิบ

     

    ยามะจัง ชอบกินสตรอเบอร์รี่เหรอเคโตะหันไปถามเรียวสุเกะ

    อื้อ ชอบที่สุดเลย^^” ร่างเล็กก็ตอบด้วยหน้าตาสุดแสนมีความสุข ความเจิดจ้าของเรียวสุเกะแผ่ซ่านจนรู้สึกเหมือนร่างเล็กมีประกายระยิบระยับอยู่รอบตัว

    งั้นฉันยกให้เคโตะตักสตรอเบอร์รี่ลูกโตจากจานตัวเองให้พร้อมกับยิ้มใจดี ตาตี่ๆหยีโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว

    จริงเหรอฮะ    

     

    ยูโตะเริ่มอารมณ์เสียที่ใครๆก็สนใจยามะจัง จึงพยายามดึงความสนใจกลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง

     

                    แล้วยามะจังล่ะ คิดยังไงกับจิเน็น ยูริ

                ก็น่ารักดีนะครับ ถึงปากจะพูดว่าน่ารัก แต่เหมือนเรียวสุเกะก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากไปกว่าของหวานตรงหน้าเลย

     

                ยูโตะยิ่งทำหน้างอง้ำหนักกว่าเดิม แล้วก็จ้วงเค้กในส่วนของตัวเองกินเอาๆอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่ได้มีใครให้ความสนใจต่อไป

     

     

    ..........................

    ..................

    ........

     

    To be con

     

    Talk : ยูโตะน่าสงสาร ไม่มีใครสนใจ 55+ ..... พาร์ตนี้ก็ไม่พ้นของกินอยู่ดีละนะ แบบว่าเขียนๆไปเรื่อยๆแล้วมันก็ลงเอยในรูปนี้อีกแล้วอะ ต้องโทษตัวเอกทั้งสองของเราที่ชอบกินซะจนขึ้นชื่อ โมเม้นของสองคนนี้ก็เลยมีแต่เรื่องแย่งของกินซะเป็นส่วนใหญ่แบบนี้แหละนะ 555+

     

    ปล. อิเคเมนกำลังสนุกเลย.... ดูละครจบแล้วก็อย่าลืมแวะมาอ่านฟิกกันนะทุกโค๊นนนน

    หวังว่าฟิกเรื่องนี้จะทำให้มีความสุขกันนะคะ^^

    ขอบคุณสำหรับการติดตาม แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากๆเลยน้า อ่านแล้วก็ยิ้มไม่หยุดเลย555+

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×