ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ] ………………SHY………………. [Hey!Say!JUMP version]

    ลำดับตอนที่ #5 : Finale

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 55


     

                                                           .............. SHY...............

     

    -Fin-

     

     

                    4 วันผ่านไป พร้อมกับจิตวิญญาณของยูมะที่ยังไม่เข้าที่ ......... ยังคงเหม่อลอย มองออกไปนอกหน้าต่างทั้งวี่ทั้งวัน ....... เพื่อเฝ้ารอคอยใครบางคน ..... คนๆนั้นที่เขาเชื่อว่าต้องกลับมา ....... แม้ว่าเขาจะไม่รู้สารทุกข์สุขดิบ หรือข่าวสารความเป็นไปเลยตลอด 4 วันนี้ก็ตาม

     

    ............ วันนี้ถึงกำหนดกลับแล้วนะ ...... กลับมาเสียทีเถอะ ยามะจัง......

                   

     

                    "เฮ้~! ยูมะ  นายจะรีบไปไหนวะ"

     

    ยูยะร้องออกมาทันที เมื่อเห็นเพื่อนที่รีบร้อนเก็บของใส่กระเป๋า แล้วตั้งท่าจะโกยแน่บตั้งแต่ได้ยินเสียงออดเลิกเรียน  แล้วอาจารย์ที่อยู่ในห้องก็ยังไม่เลิกสอนเสียด้วยซ้ำ.....

     

                    "วันนี้วันที่4"  ตอบไปสั้นๆ ไม่อยากท้าวความมากเรื่องให้เสียเวลา ......

     

                    "ห้ะ! บ้าเรอะ นี่มันปาเข้าไปจะครึ่งเดือนเดือนอยู่แล้ว ยังมาละเมอวันที่ 4 อะไรอีก" แต่ดูเหมือนเพื่อนผู้นี้จะไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆนะเนี่ย  -_-"

     

                    ผลั้วะะ~!!!!

     

                    "นายนั่นแหละบ้า"

     

    นั่น ... คู่ปาท๋องโก๋สำเร็จโทษลงบนกบาลเหน่งๆกันเองเสร็จสรรพ .....

     

                    "แล้วมันเรื่องอะไรมาตบหัวฉันเนี่ยไดกิ~!!!" ยูยะหันไปโวยวายใส่ ตั้งท่าจะเอาเรื่องน่าดู ...... จะว่าไปหมอนี่มันออกจะนิสัยเหมือนเด็กนะ ....

     

                    "ยูมะโชคดีนะ.... รีบไปเถอะ.... เจอกันพรุ่งนี้ หวังว่านายจะมีแต่รอยยิ้มนะ..."

    ไดกิโผล่หน้าออกมายิ้มให้ ...... ถึงยังไงเจ้าเพื่อนซี้ตั้งแต่เล็กนี่ก็เข้าใจผมไปซะทุกเรื่องจริงๆเชียว ......

     

                    "อืม ไปนะ....... ทั้ง 2 คน" ยูมะผงกหัวเชิงขอบคุณเล็กๆก่อนจะวิ่งออกไป ......

                    "เฮ้... ยังพูดไม่รู้เรื่องเลย .... อะไรกัน? ไดกิ??" ไดกิมองหน้ายูยะที่มีแต่เครื่องหมายเควชชั่นมาร์คเต็มหน้า ก็อยากจะหัวเราะดังๆให้ลั่นโลก ......

     

                    "อยากรู้ใช่มั้ยล่า~"

                    "เอ๊า... จะบอกมั้ยล่ะ" ชักคิ้วกระตุกนิดๆล่ะ ..... เจ้าเพนกวินนี่ได้ทีเอาใหญ่ ...... แกล้งได้ล่ะแกล้งเอา ..... อย่าได้ถึงช่วงเอาคืนเชียว ....... จะทบต้นทบดอก อบรมสั่งสอนให้เป็นเพนกวินที่มีคุณภาพให้ได้เชียว~! หึ.....

     

                    "บอกก็ได้.... แต่ต้องหลังจากที่นายให้ฉันขี่หลัง แบกไปถึงหน้าโรงเรียนซะก่อน .... เข้าใจ๋" คนแกล้งทำหน้าตายียวน ยื่นหน้าลอยไปลอยมาหลั่นล้า ท้าทายให้คนถูกแกล้งได้หมั่นไส้เอา ..... ร่างสูงนิ่งคิดอยู่แป๊บนึงก็ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

     

                    "ได้ ......." พร้อมกับหน้าตายียวนไม่แพ้กัน ....... เรื่องแบบนี้ไม่มียอมซะล่ะ .....

                    "แน่ใจนะ.... เวลานี้นะ คนข้างล่างเยอะน้า~"

     

                    "อืม..แน่" สิ้นเสียงนั้นแล้ว ปีศาจเพนกวินก็กระโดดขึ้นขี่หลังโถมน้ำหนักใส่ไม่ยั้ง เล่นเอาคนที่ไม่ได้ตั้งตัวเซไปแทบจะชนโต๊ะ ...... คนในห้องก็มองกันยิ้มๆ ..... เอาอีกแล้ว ไอ้คู่นี้.... ชอบเล่นอะไรแปลกๆอยู่เรื่อยเชียว ..... ^^

     

                    "ไปได้แล้ว let's go!!!!"  กำปั้นน้อยๆทุบอกแกร่งปึ้กๆ เป็นสัญญาณออกตัว ..... ใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม วางเกยอยู่บนบ่าแข็งแรง  มือน้อยๆชี้โบ้ชี้เบ้ ให้ร่างสูงดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย ....... ท่าทีที่สดใสของทั้ง 2 คน เรียกได้ว่าเป็นจุดสนใจของคนเกือบทั้งโรงเรียน ทั้งเนื่องด้วยความประหลาดใจ  และด้วยหน้าตาของทั้งคู่ที่โดดเด่นเป็นกิจวัตรอยู่เป็นทุนเดิม...

     

                    "เอ้า ถึงแล้วครับคุณชาย... จะบอกได้หรือยัง"

                    "เหนื่อยแล้วเหรอ^^"

                    "อย่ามานอกเรื่อง .... บอกมาเร็ว ไอ้ยูมะมันจะรีบไปไหน? แล้วอะไรวันที่ 4 ?"

                    "ก็วันนี้ครบกำหนดที่ยามะจังจะกลับมาไง๊ ..... ยูมะก็เลยจะรีบไปรับ"

     

                    "อ๋อ... เออ นั่นสินะ....." ร่างสูงยืนเกาหัวแกรกๆ .... นั่นสิ ทำไมกูไม่คิดถึงเรื่องนี้ ..... ปล่อยให้ไอ้เพนกวินตัวแสบนี่มันแกล้งเอาจนได้ 

     

    ไดกิยืนยิ้มขำๆ .... เอ๋อได้ที่เลยนี่หว่า.....  เห็นหล่อๆแบบนี้ก็เหอะ ......

     

                    "ไดกิ..."

     

                    "อะไร.." ไดกิถามกลับไปหวั่นๆ .... เห็นสายตาแปลกๆก็ชักน่าขนลุก ..... หรือว่าเจ้านี่จะแค้นจัด??  สังหรณ์ใจว่าจะโดนแก้แค้นอยู่เนืองๆ .....

     

    "ตาฉันมั่งล่ะ ... นายจะต้องให้ฉันขี่หลังแล้วไปส่งที่บ้านนนน!!!!!!!" ไม่ต้องสังหรณ์ล่ะ มันแค้นจริงเลยนี่หว่า!!!! ..... ร่างอันสูงใหญ่พยายามจะขึ้นขี่หลังไดกิบ้าง .... แต่ร่างบางๆของไดกิก็เล็กเกินจะทานไหว .....เห็นว่ามวยคนละรุ่นก็เลยกระโดดหลบ ก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นเพนกวินโดนทับ แบนติดถนนซะก่อน ..... ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่าวิ่งไล่กันไปตลอดทาง .....

     

     

                    "เฮ้อ... เหนื่อย"

     

    ในที่สุดก็วิ่งไล่กันมาจนถึงบ้านไดกิจนได้ .....

                   

    "เข้ามาข้างในหน่อยมั้ย" เจ้าของบ้านใจดีก็เลยเอ่ยชวน ให้เข้ามาพักเหนื่อย .... วิ่งกันมาตั้งนาน ไหนจะตอนที่แบกเค้าลงมาจากตึกเรียนนั่นอีก .... แต่ถึงยูยะจะพูดว่าเหนื่อย แต่สีหน้ายังดูเฉยๆอยู่เลยนี่หว่า .... ถึกชะมัด..... ผิดกับเค้าที่วิ่งแค่นี้ก็เหนื่อยแทบขาดใจ ....

     

                    "เข้าเดะ..." แต่ดูฟังจากวาจามันเข้า ..... ไม่สมควรแก่ความเห็นใจเลยให้ตาย .......

                    "นี่ใจคอนายจะเข้าบ้านฉันทุกวันเลยหรือไง"

                   

    "ก็นายชวน ฉันก็เข้าไง" แถมยังทำท่าคุ้นเคยซะอย่างกับเป็นบ้านตัวเองซะอีก  อาการหมันไส้เล็กๆของเจ้าบ้านก็เลยเกิดขึ้น

                    "ชวนทุกวันก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเข้ามาทุกวันซะหน่อย .... ก็แค่ชวนไปตามมารยาทน่ะ .... นายก็..ปฏิเสธน่ะเป็นมั้ย"

     

                    "เหนื่อยแบบนี้ต้องกินของหวานๆ วันนี้แม่นายทำอะไรไว้กินน้า ^^" แต่คนโดนต่อว่าก็เหมือนจะไม่รู้สึก หรือไม่ก็แกล้งไม่สนใจ

     

                    "เอ้า... ยูยะคุง มาพอดีเลย .... วันนี้แม่ทำพายบลูเบอร์รี่ไว้น่ะ ชอบมั้ยจ้ะ  อยู่กินก่อนแล้วค่อยกลับนะลูก"

    แล้วยิ่งมีแม่เค้าเข้ามาหนุนหลังให้ซะอีก .... ไดกิที่เป็นลูกแท้ๆแต่กลับถูกเมินน่ะ  ก็ยิ่งเดือดพล่าน .....

                   

    "ชอบครับ .... คุณแม่ทำขนมอร้อย อร่อย^U^"

     

    สรุปว่าเจ้านี่ ไม่ได้ฟังที่พูดเลยใช่มั้ยเนี่ยยย ..... โอ้ยยย หงุดหงิด .... สงสัยจะถูกหมอนี่เอาคืนซะแล้วแหงมแซะ ... เชอะ^^ 

     

                    เจ้าเพนกวินดุ๊งดิ๊ง ก็งอนไปโน่นแล้ว  แต่พ่อยอดคนหล่อก็เดินตามกลิ่นขนมเข้าไปในห้องครัวแล้วเหมือนกัน ....... เอาเหอะนะ  เรื่องนี้มันก็เหมือนจะไม่มีอะไรมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนี่นา ...... คิดเรอะ ว่าไดกิจะงอนยูยะได้นาน .... ไม่เคยหรอก .....  เรื่องอะไรจะต้องเอาเวลาแห่งความสุขไปทำอะไรงี่เง่าไร้สาระเสียตั้งนานล่ะ 

     

    ว่าแต่ .... เจ้ายูมะเป็นยังไงบ้างแล้วน้า..... ชักเป็นห่วงนิดๆแฮะ ......

     

                    .

                    .

                    .

     

                    ยูมะ ที่รีบร้อนออกมาจากโรงเรียนแต่หัววัน  กำลังนั่งซุกตัวอยู่ข้างๆเสาไฟหน้าบ้านยามะจังเพื่อสงบจิตสงบใจ.... ใจมันเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก ........ ถึงจะรู้สึกดีใจมากๆที่วันนี้ยามะจังจะกลับมาสู่อ้อมอกเขาอีกครั้ง (สำนวนลิเกเชียว) ..... แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ..... ตลอด 4 วันที่ไม่ได้เจอกัน ไม่แม้แต่จะได้คุยกันสักครึ่งคำ ...... จะทำให้อะไรๆเปลี่ยนไปบ้างไหม ..... ที่นั่นอาจมีใครที่ดีกว่าเขา .... ทำให้อดหวั่นใจไม่ได้   แค่คิดว่าถ้ายามะจังเมินเฉยต่อเขา ก็ราวกับโลกถล่มลงมาตรงหน้าแล้ว ......... แล้ว ......... แล้ว..........

     

    .... ยามะจัง .....

     

    ผมผุดลุกขึ้นทันทีด้วยความตกใจ ...... ภาพที่เห็น .... หรือจะเป็นภาพหลอน .... เพราะความคิดถึงยามะจังมากเกินไป

     

                    ร่างเล็กในชุดสีสดใสกับกระเป๋าเป้ 1 ใบ  กำลังยืนส่งยิ้มมาให้ ห่างไกลกันเพียงระยะ 1 เมตร.....

     

    .....ยามะจังตัวจริงๆน่ะหรือ ..... ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง  ไปถึงโอซาก้า .... ทำไมถึงได้กลับมาคนเดียวด้วยสัมภาระเพียงเท่านี้เล่า ..... ฝัน ...... ไม่ก็ตาฝาดแน่ๆ ...... เฮ้ออ..... เอาอีกแล้วน้าาาาา ..... เป็นแบบนี้อีกแล้ว ..

     

                    ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆ ถอนหายใจ .... แล้วนั่งลงจุ้มปุ้กตำแหน่งเดิม .....กลับสู่อารมณ์เดิมๆ ..... เฝ้ารอต่อไป ...  จะด้วยความน้อยใจ เสียใจ ทั้งอะไรต่อมิอะไร ที่ทำให้เห็นยามะจังเป็นเพียงภาพลวงตา...... ยามะจังอาจไม่กลับมาหาผมอีกแล้วก็ได้ ...... ใครจะมาสนใจคนอย่างผมจริงๆจังกันล่ะ ..........เฮ้อ..........

     

                    ฝ่ายเรียวสุเกะที่สู้อุตส่าห์ยิ้มหวานให้ซะขนาดนั้นแล้ว   ไอ้เจ้าบ้าซื่อบื้อก็ยังทำเหมือนไม่เห็นซะงั้นล่ะ! ...... น่าโมโหจริงๆ~!!  ก็เลยเดินก้าวเท้ายาวๆมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนที่แสนคิดถึงนักหนา ...... ทรุดตัวลงนั่งยองๆประจันหน้ากันให้เห็นแบบจะจะ ทำเอาคนที่กำลังนั่งพร่ำเพ้ออยู่กับตัวเองถึงกับผงะถอยออกไป นั่งจำเบ้าอยู่กับพื้นด้วยหน้าตาตื่นๆเลยทีเดียว.....

                   

    "ยะ..ยามะจัง.... จริงๆเหรอ" ตะกุกตะกักถาม ด้วยหน้าตาเหวอๆ  เหมือนไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่ .... ดวงตาหวานคมก็จ้องเอาๆแบบเคืองๆ ก่อนจะโพล่งประโยคสั้นๆที่ทำเอาคนฟังแทบสิ้นสติ...

     

                    "ผมกลับมาแล้วครับ ~  ยูมะคุง"

     

                    "ยามะจัง..." เรียกเสียงอ่อนๆ คล้ายจะละเมอ เพ้อๆ .....  ผมในตอนนี้  รู้สึกว่าในหัวสมองขาวโพลน .... ไม่มีการประมวลผลอะไรทั้งนั้น ....  ได้แต่มองหน้ายามะจัง ราวกับได้เจอสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมาเยือนโลกก็ไม่ปาน....... มาแล้วหรือ .....

     

    ...........กลับมาแล้วจริงๆนะ .........

     

                    "เข้าบ้านกันเถอะ ... ข้างนอกมันเย็น^^"

     

    เรียวสุเกะไม่ปล่อยให้ผมนั่งอึ้งอยู่นาน  ...... มือนุ่มอุ่นดึงมือคนที่สติยังไม่กลับให้ลุกขึ้นยืน ..... เพราะถ้าขืนรอจนกว่าผมจะมีสติสตังพอก็คงจะมีใครได้หลับรอกันไปก่อนแน่ล่ะ..... ยามะจังหันมายิ้มบางๆให้ก่อนจะหันไปเปิดประตูบ้าน ......

     

     

     

                    "........."

     

    ทันทีที่ผมเดินมึนๆมานั่งที่โซฟาได้แล้ว .... ร่างเล็กๆของเรียวสุเกะก็กระโดดเข้ามานั่งข้างๆด้วยความรวดเร็ว .....แล้วก็ไม่พูดอะไร เอาแต่ฉีกยิ้มให้ลูกเดียว ...... ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น .......

     

    ผมหันมามองด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ........ จากกันไป 4 วัน มีแต่ผมที่บ้าไปเองคนเดียวใช่มั้ย  ที่คิดถึงจะเป็นจะตายให้ได้น่ะ มีแต่ผมคนเดียวใช่มั้ย ....

     

                    "ที่โอซาก้าเป็นยังไงบ้างล่ะ ... คงมีความสุขมากเลยล่ะสิ .... คิดว่ายามะจังจะสนุกจนลืมไปว่าทิ้งฉันไว้ที่นี่แล้ว... ปล่อยให้เป็นห่วง กลัวว่าจะเป็นอะไรไป .... เกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่มีทางรู้ ....ฯลฯ"

                   

    หลังจากที่ประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปาก ความคิดในหัวก็ค่อยๆหลั่งไหลออกมาแบบคอมโบ้เซ็ท ชนิดที่ผมก็ควบคุมตัวเองไม่ได้.... บ่นกระปอดกระแปดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อกันสุดฤทธิ์ .... แสดงออกชัดเจนว่าน้อยใจขนาดไหน .... 

     

                    ยามะจังเองก็คงจะมองผมเข้าใจ ..... แต่คงไม่คิดว่าผมจะคิดบ้าคิดบอได้มากขนาดนี้ .....สองมือบางเลื่อนไปโอบกอดคนที่นั่งพร่ำพรรณนา บรรยายความน้อยใจไม่หยุด .... พร้อมกับซุกหน้าลงไปแบบอ้อนๆ .... ปลอบโยนด้วยสัมผัสอ่อนหวาน

                   

    "ฟังผมก่อนได้ไหม.." ผมพยักหน้ารับหงึกๆ มือแข็งแรงจับไหล่บางไว้ พร้อมกับดันคางยามะจังให้เงยขึ้นมาสบตากัน

     

    คนเราดูกันได้จากแววตานี่นะ ...... ยังไงซะ ผมก็ไม่คิดจะบ่นอย่างเดียวโดยไม่ฟังเหตุผลหรอก .....

     

                    "ผมทำมือถือตกน้ำไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง ..... แล้วที่นั่นก็ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองมาก .... ผมขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อมา.... ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง"

     

                    "ถ้าอย่างงั้นก็เป็นเหตุสุดวิสัย ... ไม่ต้องขอโทษหรอก .... นายไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนี่นา" ได้ฟังเหตุผลเท่านั้น  ไอ้อาการกระวนกระวาย  ท่าทางประสาทๆ สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ที่เป็นมาก่อนหน้านั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง ......... ยูมะรวบคนตัวบางมากอดไว้หลวมๆ......

     

    .......จริงๆแค่นายยังกลับมาหาฉันก็ดีใจจะแย่แล้ว ....

     

                    "ยูมะไม่โกรธใช่มั้ย^^" เรียวสุเกะพูดเสียงอู้อี้อยู่กับอกอุ่นที่ซุกซบอยู่อย่างสบายใจ ..... อยู่ที่นู่นไม่ได้อ้อนใคร ไม่มีใครมาเอาใจตั้งหลายวัน .... คิดถึงจนนอนแทบไม่หลับทุกคืน .... ความรู้สึกดีๆที่มีมันยิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีๆ ว่าเขาชอบความอบอุ่นนี้มากแค่ไหน .... ร่างสูงยิ้มน้อยๆ ลูบผมสีเข้มอย่างอ่อนโยน....

     

                    "ไม่โกรธหรอก ไม่เลย คิดถึงจังเลย!!!" แรงสวมกอดจากร่างสูงรัดแน่นขึ้นไปอีกตามปริมาณความคิดถึง....

                    "ผมก็คิดถึงยูมะคุง ...อุตส่าห์รีบกลับมา กลัวว่าจะมีใครรออยู่นานจนหนาวตาย.....  แต่พอมาถึงแล้ว  คนบ้าที่ไหนไม่รู้ ดันทำเป็นมองไม่เห็นกันซะได้.... น่าโมโหจริงๆ"

     

                    "อ้ะ... เรื่องนั้นมัน.." ยูมะยกสองมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอาย

                    "ทำไมล่ะ"

     

                    "คือ.. ฉันคิดว่าเป็นภาพลวงตาน่ะ ... เฮอะๆ อย่าหาว่าบ้าเลย ... จริงๆฉันเป็นมากกว่านั้นอีก ฮ่าฮ่าๆ " แต่แล้วก็ยอมรับออกมาหน้าเซ่อๆแทนที่แก้ตัวให้ตัวเองดูดีขึ้นซะงั้น ...ร่างเล็กกลั้นยิ้มจนแก้มบาน ... มองหน้าร่างสูงที่แดงก่ำด้วยความอาย ...... ดวงตาของทั้งสองประสานกันนิ่งๆด้วยรอยยิ้ม  สื่อผ่านความรู้สึกบางอย่างที่ตรงกัน ....

     

                    ร่างสูงรั้งเอวบางเข้ามาประชิด ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้าจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ก่อนจะแนบริมฝีปากบางเข้าบดเบียดอย่างอ่อนโยน ... ร่างเล็กหลับตาลงอัตโนมัติเมื่อลิ้นอุ่นนุ่มแทรกเข้ามาพัวพัน .... เนิ่นนานจนร่างสูงรับรู้ได้ถึงแรงผลักดันน้อยๆ จึงค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง.... แต่จมูกโด่งก็ยังคลอเคลียสูดดมความหอมจากพวงแก้มนุ่มอย่างย่ามใจ .....

     

                    "ยูมะคุง ... ถามอะไรหน่อยสิ"

    ร่างเล็กเผลอสบกับดวงตาหวานซึ้ง .... ที่แสดงออกอย่างไม่ปกปิดเลยว่ารู้สึกอย่างไร .... รักมากมายขนาดไหน ..... แล้วก็ไม่พ้นเรียวสุเกะเสียเอง ที่เป็นฝ่ายหลบตาด้วยความสะเทิ้นอาย ....

     

                    "ว่ามาสิ"

                    "ไม่เขินผมแล้วหรอ...." ประโยคเดิมที่เคยถามเมื่อตอนก่อนไปโอซาก้า .... ที่พอทักปุ้ป ....ร่างสูงก็ทำท่าตกอกตกใจ รีบลุกผลุนผลันออกไปตั้งสติเสียแล้ว ...... แต่คราวนี้ .... ยูมะกลับยิ้มตอบเสียงดังฟังชัดด้วยความมั่นใจ ....

                   

    "ไม่เขินแล่ว!! ..... ก็คิดถึงยามะจังนี่นา ขืนมามัวเขินอยู่ เกิดยามะจังมาหนีหายไปอีกอะ ..... ไม่เอาอ่ะ....แค่นี้ก็เข็ดจะแย่..."

    ถึงเกราะป้องกันความเขินอายมากมายที่เคยมีจะแตกพ่ายไปแล้ว ..... แต่เหมือนว่า ความใสๆซื่อๆ ตรงไปตรงมา จะไม่ถูกทำลายล้างไปด้วยนะเนี่ย ......

     

    ^________________________The EnD___________________________^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×