ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ] ………………SHY………………. [Hey!Say!JUMP version]

    ลำดับตอนที่ #4 : ห่างไกล

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 55


      

     

    .............. SHY...............

     

    -4-

     

     

                    "ไดกิ~ ที่บ้านไฟดับ  วันนี้ขอค้างด้วยนะ"

                    "หืม ไฟดับเนี่ยนะ .....ไม่ได้จ่ายค่าไฟหรือไง หึหึ"

                    "อืม.. ไม่รู้เหมือนกัน  แม่เพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้.. บอกให้ไปหาที่นอนเอาเองถ้าไม่อยากลำบาก"

                    "ห่ามดีนะ บ้านนายนี่"

                    "(ยิ้ม) ตกลงว่าไงล่ะ "

     

    ร่างสูงหันมาทำตาละห้อย จะว่าไปมันก็น่ารักดีอยู่หรอก  ถ้าตอนนี้เป็นเหมือนสมัยก่อนตอนที่ยังเป็นเพื่อนกัน  คงจะตอบรับอย่างง่ายดายไปแล้ว  แต่ว่าตอนนี้ ... สถานะที่เปลี่ยนไป ทำให้ไดกิต้องแอบหรี่ตามอง ...จะไว้ใจหน้าใสๆซื่อๆแบบนี้ได้ไหมหนอ.... จะแอบเปรี้ยวใส่เขาหรือเปล่า.... ถึงต่อหน้าใครต่อใครจะพูดจากับเขาห่ามๆแค่ไหน แต่ไดกิก็รู้อยู่เต็มอกว่า ยามอยู่กัน 2 คนนั้น อ่อนหวานเพียงใด^^

     

                    "..ได้ไหม"

                    "อืม.. ก็ได้"

                    " //^.^//  อยากกินอะไรหรือเปล่า"

                    "ไม่อะ"

                    "แต่ฉันอยากกินเค้ก.. ไปกันเถอะ"

                    "ฉันอยากกลับบ้าน"

                    "โธ่.. ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ อยากกินอะไรเดี๋ยวเลี้ยงเลยก็ได้อะ"

                    "จริงอะ"

                    "นะครับ~!"

                    "เออๆ ผู้ชายบ้าอะไรกินแต่ของหวานๆ"

                    "อย่ามาแย่งกินละกานน โฮ่ๆๆ"

     

                    .

                    .

                    .

     

                    "อ้าว ยูมะ.. ยามะจัง มาเดทกันหรอ^^"

     

    คนในร้านเริ่มมองมาที่กลุ่มผู้มาใหม่อย่างสนใจ  ...ก็นะ คนมันหน้าตาดี ....

    แต่ยูมะ ผู้ไม่เคยคุ้นกับการที่มีคนมองเยอะๆ ก็นึกก่นด่าเพื่อนตัวเองที่เสียงดัง

    ... ดูสิ... เขาหันมามองกันทั้งร้านแล้ว -_-"

     

                    "รุ่นพี่ก็มาเที่ยวกันหรอครับ"

    น้องนางคนดีก็ยิ้มหวานชวนคุย ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ถ้าไม่เกรงใจจะชวนให้นั่งด้วยกันซะด้วยซ้ำ..... แต่ว่าเห็นใจน่ะ ..... กว่าคุณคนข้างหน้าเนี่ย ที่มันนั่งแก้มแดงตลอดเวลาเนี่ย ...กว่าจะเอ่ยปากออกมาได้ เป็นใครก็คงอยากอยู่กัน 2 คนล่ะมั้ง...

     

                    "เปล่าหรอก ก็เจ้านั่นน่ะสิ  ร้องจะกินเค้ก เลยต้องพามันมา"

                    "หืม รุ่นพี่ทาคาคิน่ะหรอฮะ"

                    "ไม่เข้ากับหน้าเลยใช่มั้ยล่ะ ฉันน่ะ ไม่ค่อยชอบหรอกของหวานๆ มันทำให้อ้วน" ทำเอาเรียวสุเกะแอบสะอึก  เหมือนโดนด่ากลายๆยังไงไม่รู้แฮะ

     

                    "เฮ้..ไดกิ  ฉันซื้อพุดดิ้งมาฝากด้วยล่ะ สนมั้ยๆ^^"

    ยูยะเดินกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผิดปกติ .... คงเป็นเพราะขนมที่อยู่ในถุงเต็มไม้เต็มมือนั่นล่ะมั้ง....

                   

    "ขอบใจ.. แล้วนั่นนายจะเอาไปขายหรือไง" ไม่วายแอบกัดเล็กๆ

    .... จริงๆแล้วอิจฉาต่างหาก ที่เจ้านี่กินยังไงถึงได้สูงเอาๆ บ้ากินของหวานแค่ไหน อย่างน้อยก็แค่ลงพุง ไม่เหมือนเค้าที่ต่อให้กินนมหรือเพิ่มแคลเซียมไหร่ก็ไม่สูงไปกว่าเดิมซักที ~!!

     

                    "นิดเดียวเอง ฉันซื้อไปฝากที่บ้านนายด้วยต่างหาก"

                    "งั้นเราไปล่ะนะ ... ขอให้มีความสุขนะจ้ะ  ยามะจัง เจ้านี่มันขี้อาย ทนๆมันหน่อยละกันนะ อิอิ"

                    "จะไปไหนก็ไปเลยไดจัง!!"

     

    พอลับตา 2 คนนั้นแล้ว  ร่างสูงก็แอบถอนหายใจน้อยๆ แต่กระนั้นก็ยังไม่พ้นสายตาเรียวสุเกะอยู่ดี .... ร่างเล็กมองหน้ายูมะแล้วก็ยิ้มขำๆ

     

                    "เอ่อ.. เจ้าพวกนั้นมันชอบแกล้งน่ะ อย่าถือสาเลยนะ"

                    "ผมก็เห็นว่า เค้าแกล้งยูมะอยู่คนเดียว"

                    "นั่นสินะ แฮะๆ" ร่างสูงเกาหัวเขินๆ

    ..... ยิ่งได้ปะทะกับสายตายามะจังที่มองมาล้อๆก็ก้มหน้างุด พยายามแก้เขินโดยการจิ้มก้อนเค้กที่เหลืออยู่ในจานเข้าปากทีเดียว  ผลก็เป็น.....

     

                    "อุ่กก~!" สำลักสิครับท่าน

    ยูมะทุบอกตัวเองอ้อกๆด้วยหน้าตาเซ่อซ่า เหรอหราอย่างที่สุด จนน่าเป็นห่วง Y0Y

     

                    "กินน้ำก่อนๆ" เรียวสุเกะก็พลอยร้อนรนไปด้วย

    .... อยู่ดีๆไม่ว่าดี กินเข้าไปได้ไงขนาดนั้น ... เอามันเข้าปากได้นี่ก็น่านับถือแล้วน้า ...

     

                    "เฮ้อ... เกือบตาย..." คำพูดที่ล้วนออกมาจากใจ กับหน้าตาที่บ่งบอกว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ... ทั้งใสทั้งซื่อ(บื้อ)จนซ้ำเติมไม่ลง .... เรียวสุเกะยิ้มบางๆ ก่อนจะยื่นกระดาษทิชชู่ให้  

                   

    "ขอบคุณครับ ... แต่พี่ไม่ได้อยากสั่งน้ำมูก" ยังคงหน้าตาเซ่อซ่าไว้ได้อย่างน่าอ่อนใจ .....

     

                    "หน้านาย เลอะครีมน่ะ"

     

    ยูมะทำหน้าเหวออย่างตกใจ ... ตายแล้ว ภาพพจน์อันไม่งาม ออกสู่สายตายามะจังแล้วหรือนี่ (มันออกมานานแล้วล่ะ.. อะไรไม่งามๆน่ะ)  แต่เรียวสุเกะไม่ปล่อยโอกาสให้แฟนตัวเองได้พูดอะไรออกมาอีก เอื้อมตัวคว้ากระดาษในมือร่างสูงมาเช็ดให้เสียเอง ..... ชั่วเวลาเพียงไม่กี่วินาทีที่แสนมีค่านั้น เล่นเอาร่างโปร่งนั่งตัวแข็ง หน้าร้อนซู่ขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ .... 

     

                    "ยูมะ... อิ่มมั้ย  เมื่อกี้ก็คงไม่ทันได้รู้รสล่ะมั้ง ...ฮะฮะ ถ้าไม่พอกินด้วยกันก็ได้นะ^^"

                    "อ่า ยามะจังกินไปถะ...."  ยังปฏิเสธได้ไม่ทันจบประโยคดี ... ช้อนคันเล็กก็ถูกยื่นมาตรงหน้าเสียแล้ว

     

                    "เอ้า..อ้าปากเร็วเข้า" น้องนางคนดีกระตือรือร้น บริการป้อนเค้กรสเลิศที่เสิร์ฟพร้อมยิ้มหวานๆ พาเอาคนได้รับตาพร่ามัว อ้าปากตามคำสั่งเบลอๆ... เหมือนถูกยามะจังดูดพลังชีวิตไปยังไงอย่างนั้น.....

     

                    เหมือนฝันเลยล่ะ ..... ฝัน..... ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าจะมีอย่างทุกวันนี้ ..... ชีวิตธรรมดาๆที่มีคนที่รักอยู่ข้างๆกาย ....... จะมีอะไรมีความสุขไปกว่านี้อีกมั้ยนะ ^^

     

    .

    .

    .

                   

     

                    "ตามสบายนะ .. เดี๋ยวไปเอาเค้กใส่จานมาให้"

     

    ไดกิทำท่าจะผละออกไป เมื่อจับเอาแฟนผสมเพื่อนสนิทมาปล่อยไว้ในห้องให้ถูกที่ถูกทาง จะได้ไม่ไปเผ่นพ่านที่ไหน

     

                    "เอ้ คิดๆดูแล้ว ฉันเพิ่งได้เข้าห้องนายครั้งนี้ครั้งแรกเองนี่นา"

                    "ก็ใครไม่ให้เข้าเล่า"

                    "ไม่เห็นชวน"

                    "ทำไมต้องให้ชวน อยากเข้าก็บอกเซ่"

     

                    ปัง~!!

     

    ไดกิเดินออกไปแล้ว .... ร่างสูงจึงเดินสำรวจไปรอบๆห้อง รื้อนู่น เล่นนี่ไปตามประสา ฆ่าเวลารอไดกิที่จะกลับมาพร้อมอาหารสุดโปรด! จนไปสะดุดกับส่วนปลายของรูปที่สอดอยู่ในหนังสือที่เขาเคยให้ยืมไว้ ... ดวงตาระยิบระยับ ประกายความอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ ... รูปใครหว่า???? แอบปันใจให้ใครรึเปล่าเนี่ย~!!

     

                    "เอ้า...ได้แล้วครับคุณชาย .. จะ.."  ไดกิที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาทำหน้ามึน เมื่อร่างสูงหันมายิ้มแปลกๆใส่ ...รู้สึกตงิดๆแล้วสิ....... อ่ะ...เอ๋ ..!!!

     

                    "ขออนุญาตละครับบบ"

     

    พอเห็นเป้าหมายในมือใหญ่แล้วก็ต้องตาโต แต่ไม่ทันได้ห้ามปราม ภาพลับๆที่แอบซ่อนไว้มานานก็ปรากฏแก่สายตาร่างสูงเป็นที่เรียบร้อย

     

                    "เห นายมาแอบถ่ายฉันตอนไหนเนี่ย"

    ไดกิเขินนิดๆ เดินมาแย่งรูปในมือยูยะไป 

     

    ........... รูปนั้นก็ไม่ใช่ของใครที่ไหน .... เป็นรูปแอบถ่ายยูยะตั้งแต่ตอน2-3 วันแรกที่รู้จักกัน .... เห็นว่ากำลังนอนหลับฟุบอยู่บนโต๊ะตั้งแต่เช้า  หน้าตาตอนนอนไร้เดียงสาเหมือนเด็ก น่ารักซะจนอดใจไม่ไหว .... ขอถ่ายรูปเก็บไว้ซักใบ คงไม่ว่ากันหรอกนะ^^

     

                    "ก็เห็นอยู่ ว่าในรูปนายหลับอยู่ ตาบอดหรือไง"

                    "แอบปาปารูปฉันเรอะ!!"

     

    ไดกิหน้าเสียที่ร่างสูงเหมือนจะไม่เล่นด้วย ... เสียงเข้มขึ้นจนดูน่ากลัว  แต่พอมองลึกเข้าไปในดวงตาแล้ว ก็เห็นมีแต่ความสนุกสนาน หลั่นล้าขัดกับน้ำเสียงที่เปล่งออกมาแบบสุดกู่  ก็รู้ได้ทันทีว่าโดนแกล้ง ....

     

                    "เจ้าบ้า.. ไม่ต้องมาแกล้งทำหน้าโหดเลย"

                    "เอ้า ขอถ่ายกันดีๆก็ได้  ดูสิ หน้าตาฉันดูไม่ได้เลย"เดินตามไปแย่งรูปกลับมา วิจารณ์ตัวเองไปตามความคิด

                    "อืม นั่นสิ ... หลับน้ำลายยืดเชียว"

                    "เกินไปๆ นายแบบออกจะหล่อปานนี้ ... เห้อะ อย่าให้ถึงทีฉันล่ะกัน"

                    "เอ๊.. นั่นมันตั้งนานแล้วนี่นา ลืมๆมันไปเหอะน่า .... นี่ มากินเค้กกันดีกว่า"

     

    ไม่ได้การๆ ขืนปล่อยให้มันเก็บงำความแค้นไว้ จะเป็นอันตรายต่อตนเองอย่างยิ่ง ..... ไดกิเลยเฉไฉ หนีความผิดไปหยิบเค้กมาล่อ ดึงดูดความสนใจเสีย ....

     

                    "โอ้ะ น่ากินจางเลยยยย ..... ป้อนหน่อยๆ"

    ร่างสูงใหญ่ ยิ้มหวานเดินตามกลิ่นหอมๆของเค้กมานั่งแหมะบนเตียง ก่อนจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอ้อนๆ ทำตัวเหมือนเจ้าของเตียงเสียเอง จนไดกิที่เป็นเจ้าของห้องต้องไปลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงแทน

     

                    "ไม่มีมือรึไง"

                    "มี แต่ไม่อยากใช้ ... ไดจังป้อน ป้อนอะ ป้อนนนนน" ร่างสูงที่อยู่บนเตียงกำลังทำตัวเป็นเด็กน้อย ดิ้นปัดๆงอแงอยู่บนเตียงเพื่อเรียกร้องความสนใจ .... แล้วถ้าหากไดกิไม่หันไปใส่ใจ ก็คงจะร้องโวยวายจนแม่เขาที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาดูแน่ ว่ามีควายถูกเชือดอยู่แถวนี้หรือเปล่า

     

                     ก็บอกแล้ว ว่ายูยะน่ะ.... เวลาอยู่กัน 2 คนแล้ว ..... มันต่างจากที่ร.ร.ขนาดไหน  -_-"

     

                    "เอ้า.. ป้อนก็ป้อน ลุกขึ้นมากินดีๆสิเด็กน้อย" คนใจดีตักเค้กเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ กำลังจะยื่นให้เด็กโข่งทำตัวง๊องแง๊ง  พร้อมด้วยสายตาเอ็นดู

     

                    "ครับแม่^^" คนขี้อ้อนก็ว่าง่าย ลุกขึ้นมานั่ง พร้อมด้วยรอยยิ้ม แป้นแล้น สดใส

                    "ว่าไงนะ  -_-^ พอดีว่าฉันไม่สามารถมีลูกได้น่ะนะ .... เพราะงั้น (ยิ้มเหี้ยม)" เค้กที่เตรียมจะป้อนให้ ก็พลันสลายหายไปอยู่ในปากของคนป้อนเสียแล้ว ..... มนุษย์ของหวานที่โดนขโมยกินกันซึ่งๆหน้าก็ได้แต่ทำหน้าบูด

     

                    "ของเค้านะ..."

    แต่ไดกิก็หาไม่สะทกสะท้าน .... ยังคงเคี้ยวตุ้ยๆล่อหน้าล่อตาได้อย่างน่าหมันไส้นัก .....

     

                    เกินกว่าใครจะคาดคิด .... ไดกิที่กำลังเอร็ดอร่อยกับเค้กก็โดนช่วงชิงกลับโดยริมฝีปากนุ่มและลิ้นอุ่นของร่างสูง อดีตเด็กน้อยหน้าตาใสซื่อ ... ที่ปัจจุบันสวมวิญญาณทรชนเข้าจู่โจมกลืนกินความหอมหวาน ที่ไม่รู้ว่าความหวานที่ถูกปรุงแต่งของเค้ก หรือความหวานโดยธรรมชาติของไดกิ ..... อะไรมันจะหวานกว่ากัน!!!  

     

                    ยูยะที่เหมือนจะหลงใหลไปกับความนุ่มนิ่ม น่ากินเหนือสิ่งอื่นใดของคนรักไปเสียแล้ว .....  ร่างสูงประคับประคองร่างบางๆไปนอนสบายๆที่เตียง  ริมฝีปากบางวนจูบหยอกล้อไปทั่วใบหน้าใส ..... ไดกิขำคิกคักก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเสียงครางหวานๆ เมื่อยูยะดูดเม้มเนื้ออ่อนบางบริเวณลำคอระหงไม่เบานัก ...... ท่าทีทรชนจอมขโมยจูบตั้งแต่ทีแรก กลายเป็นความอ่อนหวานอ่อนโยนตั้งแต่นาทีไหนกันเขาก็ไม่อาจรู้ได้ .....

     

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไดกิก็ได้เผลอไผลมัวเมาไปกับสัมผัสวาบหวามชวนเสียตัวซะแล้ว!!!!!

     

     

     

     

     

                    ก๊อกๆๆ~!!!!

     

    ไดกิสะดุ้งเฮือก ผลักทรชนหน้าหล่อให้ออกห่างจากตัวด้วยสัญชาตญาณ  รีบลุกขึ้นไปที่ประตูทั้งยังหน้าแดงๆ

     

                    "แม่เอาชามาให้น่ะ ไดจัง .... เอ... หน้าแดงๆ เป็นอะไรรึเปล่าลูก"

                    "มะ..ไม่เป็นไรครับ ผมสบายดี...." ไดกิจ้องมองใบหน้ามารดาด้วยความรักและกตัญญูเป็นล้นพ้น ..... จะเรียกได้ว่า แม่เขาขึ้นมาช่วยรักษาความบริสุทธิ์ให้ลูกชายคนเดียวของบ้านก็น่าจะได้ .....

     

                    "งั้นก็ตามสบายกันนะจ้ะ" พอคล้อยหลังแม่ไปแล้ว .... ไดกิก็ยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมหน้าประตู ไม่กล้าหันกลับไปเผชิญหน้ากับมนุษย์อีกคนในห้องเล็กๆนี้.....

     

                    "เน่.... จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย.... ติดคอๆ เอาชามาให้หน่อย" แม้ว่าหน้าตาจะยังระเรื่อแดงด้วยแรงอารมณ์เมื่อครู่กรุ่นๆอยู่ แต่ยูยะก็พยายามคลายบรรยากาศน่าอึดอัดจนแทบเข้าหน้ากันไม่ติดให้ผ่อนคลายดังเดิม .....

     

                    "ครับคุณชายยย"

     

                    "มานั่งนี่..." ยูยะกวักมือเรียก พร้อมตบที่ว่างข้างตัวปุๆ ..... ไดกิก็กัดฟันข่มความเขินอาย เดินตรงเข้าไปนั่งข้างๆ ทำตัวเหมือนเดิม ... เหมือนเดิม.... เหมือนเดิมเซ่!!!! โว้ยย ..... ไอ้หัวใจนี่ก็จะเต้นแรงไปถึงไหน!!!!

     

                    ".... เอาเค้กมั้ย...."

                    "ไม่เอาแล้วววว จะไม่แย่งของๆนายกินอีกแล้วว" นึกถึงทีไรก็อดจะกระดากอายไม่ได้ .... ไม่ได้ถึงขนาดจะโกรธเคืองยูยะที่ทำแบบนั้น ..... แต่ว่ามันเคืองตัวเองมากกว่า ที่เผลอตัวเผลอใจไปซะขนาดนั้น ...... นี่ถ้าหากว่าแม่เขาไม่ขึ้นมาขัดจังหวะจะเกิดอะไรขึ้น!!!!!!

     

    .

    .

    .

     

                    "จำเป็นต้องไป อย่างงั้นหรอ..."

     

    น้ำเสียงเงื่องหงอยถูกส่งออกมาจากคนที่นั่งซึมๆอยู่ข้างเตียง ..... หลังจากที่ไปเดทกันที่ร้านไอศครีมกันมาแล้ว ยูมะก็เดินมาส่งเรียวสุเกะที่บ้าน และก็ได้รับทราบข่าวพร้อมๆกันจากปากคุณแม่คนสวยว่า เรียวสุเกะกับครอบครัวต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติกะทันหันที่โอซาก้า 4 วัน ... เขาก็เลยอาสาขึ้นมาช่วยจัดกระเป๋า...

                   

    "อืม....ช่วยไม่ได้นี่ คุณยายป่วยหนัก " ยิ่งฟังเหตุผลที่ทำให้เหนี่ยวรั้งไว้ไม่ได้ ตัวยูมะก็ยิ่งห่อเหี่ยวลีบเล็กลงไปอีก ทั้งๆที่น่าจะเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามันกันแท้ๆ...... ทำไมถึงเป็นอย่างงี้ได้นะเนี่ยยย........

     

                    "แต่ว่า....ก็คงคิดถึงนายแย่เลย ไม่เจอกันตั้งหลายวันแน่ะ" เสมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจชายหนุ่มให้กลับมาสดใสเหมือนเดิมได้เลยทีเดียว .... ร่างสูงคลานดุ้กดิ้กๆเข้าไปนั่งใกล้ๆเรียวสุเกะ หัวทุยๆวางแหมะลงบนตักร่างบางแบบอ้อนๆโดยไม่รู้ตัว ......เพราะคิดว่าต้องถูกพรากออกจากกันไปหรือเปล่านะ เลยอยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพียงนิด..... ทำให้ลืมเขินลืมอายไปซะสนิท .....

     

                    "อะไรน่ะ" เรียวสุเกะยิ้มๆ ไม่ได้ว่าอะไร

    .... นานๆทีหมอนี่จะทำตัวแปลกๆ ถึงจะผิดปกตินิสัยไปหน่อย.... แต่ก็น่ารักดี^^

     

                    "ก่อนจะไป อยู่ด้วยกันนะ..." จู่ๆก็อ้อนขึ้นมาเสียงหวาน นัยน์ตาเชื่อมๆเล่นเอาเรียวสุเกะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ ..... แค่นี้ร่างสูงก็ฉีกยิ้มกว้างขวางด้วยความยินดีเป็นล้นพ้น แล้วก็งุ้งงิ้งๆพูดอะไรออกมาไม่ได้ศัพท์ ฟังไม่รู้เรื่อง ซุกซบอยู่บนหน้าตักให้เรียวสุเกะลูบผมนิ่มเพลินๆ...

     

                    "ยูมะ.. ถามไรหน่อยสิ"

                    "หืม.."

                    "ไม่อายผมแล้วหรอ"

     

    จากคำถามนี้ เหมือนว่าจะไปสะกิดต่อมขี้อายออกมาอีกแล้วสิ .... ร่างสูงทำตาโต ผลุนผลันลุกขึ้นมาหน้าตาตื่น ... แทบไม่เชื่อตัวเองว่าจะกล้าทำแบบนั้นลงไปได้ยังไง ......  คล้ายๆว่าจะเป็นการกระทำที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกข้างในที่อยู่เหนือการควบคุมของสมองน่ะ ....

     

                    เห็นแบบนั้น เรียวสุเกะก็ขำออกมา .... อยู่กับคนๆนี้น่ะ ไม่เคยเบื่อเลยซักวัน ... มีอะไรน่าสนใจให้ค้นหาอีกเยอะเชียวล่ะ ....

     

    ..................................

    ...................

    .........

     

     

                    ครอบครัวของเรียวสุเกะเดินทางไปโอซาก้าในวันรุ่งขึ้นโดยมียูมะตามมาส่ง โบกมือลาหยอยๆ  จนกระทั่งรถได้เคลื่อนออกจนลับสายตาออกไป ....  และเมื่อถึงที่หมายปลายทางดีแล้ว เรียวสุเกะก็ตั้งใจว่าจะโทรศัพท์รายงานความเป็นไปให้แฟนหนุ่มได้รู้ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงซะจนไม่เป็นอันทำอะไร .....  แต่ทว่า .....

                   

    "ว้า.....ทำไงดีเนี่ย~!!!!" เรียวสุเกะออกอาการเก๊กซิมขึ้นมาทันที เอามือกุมขมับเครียดๆ .... ไม่รู้ว่าความเปิ่นส่วนตัวที่สั่งสมไว้ หรือว่าความเซ่อซ่าที่น่าจะติดมาจากยูมะนั้น ทำให้เรียวสุเกะเผลอทำมือถือหลุดมือตกแม่น้ำไป ... ไอ้ครั้นจะลงไปงมมันขึ้นมาเนี่ย .... ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะใช้ได้ดังเดิมหรือเปล่า ....แต่อย่าว่าแต่ใช้ได้ไม่ได้เลย มือถือเครื่องนั้นน่ะเค้าไม่เสียดายมันหรอก ... แต่..แต่ที่ทำให้ทำให้เครียดอยู่เนี่ย .... ก็คือแล้วจะทำยังไงกับยูมะดีล่ะเนี่ยยย~!!!!!

     

                    "แม่ครับ... ขอยืมมือถือหน่อยได้มั้ย"

     

    ที่พึ่งหนึ่งเดียวของเขา ณ ตอนนี้ .... แม่คร้าบบบ ช่วยผมด้วยยยย..........

                   

    "อ้อ เออ... นั่นสิ... แม่คงลืมเอาไว้ที่บ้านน่ะ มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่า" แม้แต่คนที่น่าจะพึ่งได้ ก็พึ่งไม่ได้ซะงั้น

     

                    "งั้นไม่เป็นไรฮะ..."   เรียวสุเกะยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะเดินจากมา.....

     

                    จะว่าไป บ้านยายนี่มันก็ออกจะห่างจากตัวเมืองและก็บ้านหลังอื่นๆอยู่โข ..... แถมยังเป็นบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณขนานแท้ที่เก่าแก่ มีต้นซากุระขนาดใหญ่รายล้อมไปหมด ...... บางทีมันก็ดูสวยแปลกๆ แต่ตอนกลางคืน คงจะน่าขนลุกน่าดูเหมือนกัน  ...... แล้วอย่างงี้ถ้าถามหาอินเตอร์เน็ต เพื่อส่งเมลล์หาใครบางคนเนี่ย~!! จะโดนรองเท้าเกี๊ยะเขวี้ยงใส่หัวมั้ยอ่ะ .....

     

                    เรียวสุเกะเดินพล่านไปมารอบๆบ้าน แล้วก็บริเวณใกล้เคียง.... ก็ยังไม่เห็นวิถีทางเหมาะๆเพื่อติดต่อกับร่างสูงได้ซักทาง ... อ้อ ยังมีทางจดหมายอยู่ ... แต่ว่าเค้าไม่รู้ที่อยู่นี่นา  อีกอย่าง ท่าทางห่างไกลความเจริญแบบนี้ กว่าจดหมายจะเดินทางไปถึงมือผู้รับ......  เค้าก็คงกลับถึงโตเกียวพอดีล่ะ Y_Y  

    สงสัยงานนี้คงทำได้แค่ส่งกระแสจิต ไม่ก็ฝากลม ฝากนกไปบอกเท่านั้นล่ะ

     

    ..... เอ..... ถ้ามีนกฮูกแบบเฮ็ดวิก หรือมุราซาเมะเหมือนในสุนัขทั้งแปดก็ดีน่ะสิ ..หึหึ

     

    ........................................

    ......................

    ..........

     

                    อากาศยามเช้าแสนสดใส .....พระอาทิตย์ดวงโตก็ยังคงทอแสงให้ความอบอุ่นเหมือนอย่างเคย .... 

    แต่ทำไมถึงรู้สึกหนาวเหน็บแบบนี้นะ......  ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่เหมือนเก่า แต่วันนี้ทำไมถึงรู้สึกเงียบเหงาขนาดนี้

     

                    ร่างสูงหนึ่งเดียวที่ทำให้บรรยากาศของห้องมืดมน หม่นเศร้าตามไปด้วย .... นอนราบบนโต๊ะ ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง จิตใจล่องลอย ตามใครไปโอซาก้าแล้ว ถ้าทำได้ .....

     

                    เฮ้อ... ตอนนี้ยามะจังจะทำอะไร อยู่ที่ไหน เป็นยังไงบ้าง มีใครมาตามกวนใจบ้างหรือเปล่า ...... ทำไมถึงไม่ยอมติดต่อมาเลยล่ะ.....  จะคิดถึงผมบ้างไหม ในขณะที่ผมคิดถึงเขาแทบบ้า   ...... กินอะไรก็ไม่อร่อย ถ้าไม่ได้กินกับยามะจัง ...จะนอนก็นอนไม่หลับ เพราะไม่ได้เห็นหน้ายามะจังก่อนนอน...... ตอนเช้าที่เดินมาโรงเรียนคนเดียว รู้สึกตัวอีกทีก็ไปโผล่อยู่หน้าบ้านยามะจังแล้ว ....  ตอนเย็นกลับบ้านก็ยังต้องคอยแวะไปที่บ้านยามะจังทุกๆวัน ....... ได้ยืนมองหลังคาบ้าน..... มองห้องที่ยามะจังเคยอยู่ .... ระเบียงที่ยามะจังเคยมายืนโบกมือส่งยิ้มให้......แค่นี้ก็พอจะทำให้ผมข่มตาหลับในคืนนี้ได้แล้ว

     

                    "น่าสงสารมันเหมือนกันแฮะ ...น้องนางคนสวยเล่นขาดการติดต่อไปแบบเนี้ย.... ทำไมน้าา??"

    ไดกิที่กำลังนั่งเล่นอยู่บนโต๊ะยูยะ หลังจากที่ไปถามไถ่อาการเพื่อนรักมา..... ถึงสาเหตุที่ทำให้มึนซึมกระทือผิดวิสัยมา 2 วันแล้ว ....

     

                    " อืม... คิดมากน่า น้องเค้าอาจทำมือถือหายไปก็ได้"

                    "แต่อย่างน้อยก็น่าจะติดต่อมานี่นา ถึงจะยังไงก็เหอะ..... เพื่อนเราเลยไม่เป็นอันเรียนพอดี"

    2 หนุ่มหน้าตาดีทอดสายตามองเพื่อนอย่างเห็นใจ .... เป็นเค้าก็คงไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเหมือนกันแหละ

                   

     

    พักกลางวัน

     

     

                    "ราเมง 2 ชามครับ"

     

    เสียงเนือยๆเอ่ยบอกกับป้าขายข้าวในโรงอาหารด้วยความเคยชิน ....

     

                    "ของหมอนี่ ชามเดียวครับชามเดียว" ยูยะที่ต่อแถวอยู่ข้างหลัง แทรกเข้ามาขัดจังหวะได้ทันท่วงที ก่อนที่จะมีความผิดพลาดเป็นครั้งที่ 100 ของวันนี้ ..... ข้าวเอย ขนมเอย ทั้งนมทั้งน้ำ ทุกสิ่งสรรพที่ยูมะจัดหามา ล้วนซื้อมาเผื่อใครบางคนที่มาหายหน้าไปซะเฉยๆ...... เคยชินกับการดูแลใครซักคนจนติดเป็นนิสัย.....

     

                    นั่นน่ะสินะ .... ลืมไปหรือเปล่า ว่าตอนนี้ เค้าเหลือตัวคนเดียวแล้วนี่นา .....

     

     

                    เย็นนั้นเอง ... ทั้งยูยะและไดกิ ขันอาสาจะเดินไปส่งเพื่อนที่นั่งทำหน้าละห้อย หงอยเหงามาทั้งวันที่บ้าน....... เพราะเกรงว่า หากปล่อยให้มันเดินใจลอยคนเดียว อาจไม่ถึงบ้านหรือไม่ก็ อาจเกิดอันตรายเอาได้ง่ายๆ .... เจ้านี่ยิ่งซื่อๆเซ่อๆอยู่ ....

     

                    "ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน ขอไปที่ๆนึงก่อนได้มั้ย .... พวกนายจะกลับไปก่อนก็ได้นะ ...ฉันไปเองได้"

    ยูมะหันมาบอกกับเพื่อนด้วยรอยยิ้มที่แห้งเหี่ยวเสียเหลือเกิน ..... เหมือนกับขาดน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ .....

     

                    "อืม ไม่เป็นไร... แกจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวพวกฉันเดินตามไปส่งเอง" ได้ยินอย่างนั้น ร่างสูงก็พยักหน้าเซื่องๆเดินเหี่ยวๆลีบๆ ไปตามทางเรื่อยๆโดยไม่หันกลับมาพูดอะไรอีก

     

                    ส่วน 2 หนุ่มที่ตามมาอย่างเงียบๆได้สักพักหนึ่ง... ก็ชักคันปากทนไม่ไหว หันมาแอบกระซิบกระซาบให้พอได้ยินกัน 2 คน

                    "ยูยะ นายว่ายูมะจะไปไหน"

                    "อืม... ที่ๆเป็นความหลังกับคุณน้องเค้าล่ะมั้ง"

                    "เออ อาจเป็นไปได้นี่เนอะ..." ไม่ทันขาดคำ ร่างสูงที่เดินนำอยู่ จู่ๆก็หยุดกึกจนคนข้างหลังแทบเบรกไม่ทัน ..... เบิกตาออกกว้างเมื่อสบสายตาเข้ากับแผ่นป้ายไม้ขนาดย่อมติดอยู่หน้าประตู "บ้านยามาดะ"

     

                    "ไม่อาจแล้ว ชัวร์เลย ... นายเห็นป้ายชื่อหน้าบ้านนั่นมั้ย"

                    "เหลือเชื่อเลย ... หมอนี่มายืนมองหลังคาบ้านแฟนทุกวันแหงๆ" ความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมออกมาในน้ำเสียง อดทำให้คนฟังอดสงสัยไม่ได้ ....

     

                    "แล้วนายรู้ได้ไง..."

                    "ฉันเป็นเพื่อนกับมันมากี่ปีแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้.....  คงเพราะรักมาก ก็เลยคิดถึงมากน่ะ .... พอเจ้านั่นรู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียวก็จะว้าเหว่  แล้วก็ต้องการอะไรซักอย่างที่เป็นตัวแทนคนๆนั้น ช่วยทำให้ใจสงบแล้วก็มีความอดทนที่จะรอเค้ากลับมาอีกครั้งได้น่ะ"

     

                    "น่ารักดีนะ"

    หลังจากที่ฟังเสียงคนรักเจื้อยแจ้วบรรยาย ถึงความเหนียวแน่นของมิตรภาพ ที่ไดกิพยายามโชว์พาวเวอร์ออกมาเต็มที่ .... ทำให้คนฟังอดจะคล้อยตามไปกับความรู้สึกในตอนนี้ของยูมะไม่ได้ ...... คงจะหดหู่น่าดู.....

     

                    "ฉันน่ะหรอ ขอบคุณ แต่ไม่ต้องชมหรอก.... พอจะรู้ตัวอยู่บ้างแหละ" พอเห็นว่าบรรยากาศชักอึมครึม ไดกิก็หยอดมุก เปลี่ยนสถานการณ์ได้อย่างสวยงาม ..... เพราะเขารู้ดีว่า เพื่อนรักคนนี้ไม่ต้องการให้พวกเขาเป็นห่วงมากจนเกินไปจนออร่าอ่อนแสงลงหรอก  -__-"

     

                    "เจ้าบ้าไดกิเอ้ย ... หมดอารมณ์ชื่นชมในตัวเพื่อนกันพอดี..."

                    "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"

     

     

                    ค่ำคืนอันแสนเงียบเหงานั้นไม่ได้มีแค่ยูมะคนเดียวเท่านั้น  ที่ต้องนอนกอดตัวเองคลายเหงา ..... หากแต่ทางฝั่งโอซาก้าก็เช่นกัน ...... เรียวสุเกะนอนพลิกซ้ายพลิกขวา....... พลิกขวาพลิกซ้าย ..... กลิ้งมากลิ้งไป .... คิดถึงแต่ใครคนหนึ่ง ..... คนที่เข้ามาปั่นป่วนชีวิตอันแสนธรรมดาของเขาให้หวั่นไหว ......... พลิกซ้ายพลิกขวา ......กระเดี้ยกระดอน .......  แล้วก็มาดิ้นกระแด่วๆอยู่บนเตียง ........ นอนไม่หลับ

     ...... นึกฉุนตัวเองนิดๆ ที่นอนไม่หลับนี่เพราะไม่มีใครบอกราตรีสวัสดิ์รึเปล่าฟะ  ก่อนจะลุกออกไปนั่งรับลมนอกชานระเบียง ...... ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้วนี่นะ ....

     

                    เฮ้อ... เห็นพระจันทร์แล้วก็พาลให้นึกถึง วันที่เคยนั่งมองมันด้วยกัน ....... เฮ้อ.... ฉันคิดถึงนายอีกแล้วนะ .... ไม่อยากจะนับว่าวันนี้จะทำอะไรแต่ละที หน้านายมักจะลอยขึ้นมาเสมอ ...... ไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นนอน ตอนกินข้าว ตอนดูทีวี  ตอนอ่านหนังสือ  ทุกบทบาทในชีวิตฉันมันมีแต่นายเข้ามาแจมอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน !!! ......นายที่คอยตามเอาใจ คอยทำอะไรๆให้เสมอ ชวนไปกินข้าว ชวนไปทำนู่นทำนี่ ..... พอไม่มี มันก็เหมือนกับมีอะไรขาดหายไป ..... พอหายไปแล้วฉันก็หงุดหงิด  -. ,-  นายนี่ทำฉันเสียนิสัยจริงๆ!!

     

     

    To be Con

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×